แน่นอนว่าองค์ชายเว่ยมิใช่คนที่พ่ายแพ้แล้วจะผลุนผลันหนีไป!เขาถอยออกจากห้องทรงพระอักษรแล้วก็ตะโกนขึ้นมา “พลธนูเตรียมตัว...”ทันใดนั้น พลธนูกลุ่มหนึ่งก็ยกธนูเล็งที่ประตูและหน้าต่างของห้องทรงพระอักษรเซียวหลินเทียนเตะร่างขององครักษ์ที่ตายแล้วออกไป และทันใดนั้นเองก็มีลูกธนูนับมิถ้วนปักมาที่ร่างนั้นนับว่าปฏิกิริยาของพลธนูเหล่านั้นมีความรวดเร็วมาก!แต่นี่ก็หมายความว่ามิสามารถบุกออกไปทางประตูได้เลย!องค์ชายเว่ยตะโกนใส่องค์ชายหนิงอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าบอกว่าควบคุมเซียวหลินเทียนไว้แล้วมิใช่รึ? แล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้เยี่ยงไร?”เดิมทีองค์ชายเว่ยมิได้อยากกระทำการใหญ่โตถึงเพียงนี้ แต่ตอนนี้ถูกบีบจนต้องมีการสังหารในวังแล้ว!“จะต้องเกิดเหตุมิคาดคิดแน่นอน!”องค์ชายหนิงเอ่ยอย่างสงบ “แต่เรื่องนี้ก็มิถือว่าเสียเรื่อง เซียวหลินเทียนยังจะสามารถหนีพ้นไปจากเงื้อมมือของพวกเราได้อีกรึ?”“ฆ่าพวกเขาเสีย แล้วโยนความผิดฐานปิตุฆาตให้เซียวหลินเทียน ก็ได้แล้วกระมัง!”แม้ว่าองค์ชายหนิงจะบอกเช่นนี้ แต่ในใจก็ค่อนข้างมิสบายใจเซียวหลินเทียนมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ก็พิสูจน์แล้วว่า เขาแก้พิษกู่ได้แล้ว อีกทั้งยัง
แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะพูดมิมาก แต่ข้อความที่สื่อออกมาทำให้จักรพรรดิอู่อันรู้สึกอบอุ่นใจนี่เซียวหลินเทียนเป็นห่วงว่า หากตนเดินนำหน้าแล้วองค์หญิงใหญ่รู้ว่ามีทางลับนี้ ตนจะประสบอันตรายเป็นคนแรกหรือ!“ไป!”จักรพรรดิอู่อันกึ่งอุ้มกึ่งพยุงพระชายาเส้าเดินตามลงไป องครักษ์เองก็ตามเข้าไปด้วยเช่นกันจักรพรรดิอู่อันหันหลังไปแล้วเอ่ย “ขันทีเซี่ย ปากทางทางลับมีปุ่มกดอยู่ เจ้าปิดประตูเสีย! หากเราปิดประตูจากทางด้านใน พวกเขาจะเปิดจากด้านนอกมิได้!”“พ่ะย่ะค่ะ!”ขันทีเซี่ยรีบตามลงไปแล้วปิดประตูไปเลยเซียวหลินเทียนเดินนำหน้าไป เขาก้าวเร็วราวกับจะบิน คิดแค่จะรีบไปรวมตัวกับหลิงอวี๋ภายในเส้นทางใต้ดินมีการเปิดใช้งานกลไกขึ้น ตะเกียงที่สว่างทั้งกลางวันกลางคืนส่องสว่างขึ้นมาอีกอย่าง อากาศในทางใต้ดินนี้นอกจากกลิ่นแปลก ๆ เล็กน้อยแล้วก็มิอับชื้น!ผู้ที่สร้างเส้นทางลับนี้ให้จักรพรรดิสูงสุดในตอนนั้นจะต้องเป็นปรมาจารย์แน่นอนหลังจากเดินไปได้ประมาณสองร้อยกว่าเมตรก็ยังมิเจอปลายทาง เซียวหลินเทียนจึงค่อนข้างประหลาดใจ ทางใต้ดินนี้สร้างไปจนถึงสถานที่ใดกันแน่?“เสด็จพ่อ เราจะเดินไปถึงสถานที่ใดพ่ะย่ะค่ะ?”เซีย
ที่ตำหนักเหยียนฝูของไทเฮาในเวลานี้องค์หญิงใหญ่ได้พาทหารบุกเข้ามา ในระหว่างทางเหล่านางกำนัลและขันทีที่หลบมิทันต่างก็ถูกคนขององค์หญิงใหญ่สังหารไปอย่างโหดเหี้ยมแล้วองค์หญิงใหญ่มองเลือดที่สาดกระเซ็นเหล่านั้นโดยที่มิแม้แต่จะกะพริบตาด้วยซ้ำแม้ว่านางจะมิได้ใส่ชุดเกราะ แต่ก็ใส่ชุดขี่ม้าสีแดงที่ดูกล้าหาญ และที่เอวก็มีดาบยาวเหน็บอยู่ สวมเสื้อคลุมสีดำขลิบทองแล้วเดินนำหน้ากลุ่มไปอย่างยืดอกเชิดหน้าเมื่อไทเฮารู้ข่าว ก็กำลังจะพาพวกของหลิงอวี๋กับแม่นมเว่ยออกไปจากตำหนักเหยียนฝู แต่กลับเห็นองค์หญิงใหญ่เดินเข้ามาด้วยท่าทีวางอำนาจเช่นนี้แล้ว“หึ ท่าทางกล้าหาญเช่นนี้ของเฉาฮุ่ยคงจะคล้ายกับข้าในตอนนั้นเลยกระมัง!”ไทเฮามิได้ตกใจเลยแม้แต่น้อย นางยิ้มพลางหันไปเอ่ยถามแม่นมเว่ยแม่นมเว่ยดวงตาเปียกชื้น นางเสียใจแทนไทเฮานางเลี้ยงดูลูกสาวมา แต่กลับเอาใจออกห่างแล้วพาคนมาสังหารไทเฮาเช่นนี้นางอยู่ข้างกายไทเฮามายาวนานที่สุด เข้าใจบุญคุณและความแค้นระหว่างพวกนางมากที่สุด นางรู้ว่าภายนอกไทเฮายิ้มแย้ม แต่ในใจกำลังหลั่งเลือดอยู่!“องค์หญิงใหญ่ เหตุใดท่านจึงทำเช่นนี้เพคะ?”แม่นมเว่ยเอ่ยอย่างเศร้าเสียใจ “ไทเฮา
มีคนจำนวนมากถึงเพียงนี้แอบซุ่มอยู่ในตำหนักของไทเฮา แต่ทางด้านเว่ยเฉิงกลับมิรู้ข่าวใด ๆ เลย นี่มันเป็นไปได้หรือ?หรือว่าองค์ชายเว่ยกับเว่ยเฉิงแอบจัดการตน ให้ตนเป็นแพะรับบาปแทน?องค์หญิงใหญ่แอบครุ่นคิด ทว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว ในเมื่อตัดสินใจไปแล้วจะถอยกลับคงมิได้ นางทำได้เพียงแค่ต้องเดินหน้าต่อ“สังหาร สังหารให้หมด!”องค์หญิงใหญ่ตะคอกด้วยความโกรธ จากนั้นก็ยกดาบขึ้นมาฟันไปที่นางกำนัลต่ำต้อยที่ตื่นตูมจนวิ่งพล่านไปทั่วเลือดสด ๆ กระเซ็นไปทั่วทุกทาง ทั้งยังกระเซ็นไปที่ใบหน้าขององค์หญิงใหญ่ด้วย ความดุร้ายและกระหายเลือดที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าที่คล้ายไทเฮาของนางทำให้หลิงอวี๋กับไทเฮาต่างก็ส่ายหน้าอย่างทอดถอนใจหลิงอวี๋คุ้มกันไทเฮาให้ถอยหลังไป แล้วก็เห็นกองทัพหลวงที่ราชองครักษ์ผางมาพาไปต่อสู้กับคนขององค์หญิงใหญ่อย่างกล้าหาญทหารกองทัพหลวงผู้หนึ่งถูกมือสังหารใช้ดาบตัดหัวออกไป ไทเฮาเห็นภาพนั้นก็ทั้งโกรธทั้งปวดใจ“เอาดาบของข้ามา ข้าจะสังหารนางด้วยมือของข้าเอง!”ไทเฮาขมวดคิ้วด้วยความโกรธ พลางตะคอกเสียงแข็ง“ไทเฮา ไทเฮามิใช่วัยเยาว์แล้วนะเพคะ… อย่าได้ทุ่มเทกายใจเช่นนี้เลยเพคะ!”แม่นมเว่ยมีหรือจะย
ทางด้านอันเจ๋อกับเผยอวี้ก็ประสบกับความกดดันเช่นกัน จักรพรรดิอู่อันส่งให้พวกเขาไปเฝ้าที่หอมองจันทร์ เพื่อมิให้องค์หญิงใหญ่มาช่วยหงเลี่ยงออกไปได้อย่างราบรื่นที่ตัวของหงเลี่ยงยังมีความลับอีกมากมายที่ยังมิได้ถูกขุดออกมา จักรพรรดิอู่อันมิสามารถปล่อยเสือเข้าป่าไปได้เมื่อเฮ่อหรงกับองค์หญิงใหญ่เข้าวังมาก็แบ่งทหารออกไปเป็นสองทาง เขาพาสายลับของค่ายกองทหารเสือบุกไปช่วยหงเลี่ยงอันเจ๋อกับเผยอวี้ทำตามแผนการก็คือ หากสู้มิไหวก็จงใจให้คนของเฮ่อหรงบุกเข้าไปหงเลี่ยงถูกย้ายตัวไปอย่างลับ ๆ นานแล้ว คนของเฮ่อหรงเพิ่งจะบุกเข้าไปก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติทันที กระทั่งจะถอยออกมาก็มีประตูเหล็กร่วงลงมาจากหลังคาแล้วขังพวกเขาไว้ในหอมองจันทร์“หนีไปไหนมิรอดแล้ว!”อันเจ๋อยิ้มอย่างภาคภูมิใจ แต่ยังมิทันได้ยิ้มอย่างเต็มที่ เฮ่อหรงที่อยู่ข้างนอกก็หันมาแล้วมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมกับใบหน้าที่สวมหน้ากากเขี้ยวทองสำริด“พวกเจ้าตามหาเจ้าของหอเหยี่ยวราตรีมิใช่หรือ? ข้านี่แหละ!”เฮ่อหรงยิ้มชั่วร้ายแล้วยกดาบขึ้นมาแทงอันเจ๋ออันเจ๋อเห็นท่าทางที่โหดร้ายของเฮ่อหรงจึงรีบหลบหนีอย่างรวดเร็วแต่วรยุทธของเฮ่อหรงนั้นเหน
เฮ่อหรงมองสตรีผู้โง่เขลาที่พุ่งเข้ามาหาตนพร้อมกับฟันและกรงเล็บ แล้วในหัวเขาก็มีความคิดในแบบเดียวกับอันเจ๋อเลยสตรีผู้นี้สมองมีปัญหาใช่หรือไม่?เขายกดาบขึ้นมาอย่างมิรีบร้อนรอให้เจียงอวี้พุ่งเข้ามา แล้วจะหั่นนางให้เป็นสองท่อนในดาบเดียว...“ยายโง่...”อันเจ๋อมีหรือจะทนมองเจียงอวี้ตายไปเช่นนี้ได้ เขายันพื้นอย่างแรงแล้วใช้แรงนั้นเหวี่ยงร่างตัวเองกลับไปแต่ก็มิทันเสียแล้ว เขาเห็นเจียงอวี้เข้าปะทะดาบของเฮ่อหรงโดยตรงเลย...ในขณะที่กำลังจะเห็นเลือดโชกเต็มพื้น กลับได้ยินเสียงเฮ่อหรงตะคอกออกมาอย่างโมโห“สารเลว เจ้ากล้าลอบกัดข้า...”เฮ่อหรงยกดาบฟันไปที่เจียงอวี้อย่างดุร้าย แต่เจียงอวี้ก็อาศัยความว่องไวหลบหนีได้แต่เมื่อเฮ่อหรงโบกมืออีกข้างหนึ่ง เจียงอวี้ก็มิสามารถหลบได้แล้วจึงถูกเฮ่อหรงฟาดเข้าที่หลังเต็มฝ่ามือจนกระเด็นออกไปและบังเอิญพุ่งไปชนเข้าที่ตัวของอันเจ๋อพอดีอันเจ๋อถูกน้ำหนักของนางกระแทกกลับลงไปที่พื้น เขาจึงกอดเจียงอวี้ไว้โดยสัญชาตญาณแล้วใบหน้าของทั้งสองก็กระแทกกันเจียงอวี้กระแทกจมูกของอันเจ๋อเจ็บราวกับว่ามันหักไปแล้วยังมิทันที่เขาจะส่งเสียงร้องออกมาก็รู้สึกได้ว่า เลือดในปา
“มิใช่ข้าสังหาร… เจียงอวี้ต่างหาก!”อันเจ๋อไม่มีทางแย่งเอาความดีความชอบที่มิใช่ของตนมาหรอก เขาเอ่ยอย่างร้อนใจ “เจียงอวี้ถูกเฮ่อหรงทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส พวกเรารีบจัดการมือสังหารเหล่านี้แล้วพาเจียงอวี้ไปให้หลิงอวี๋ช่วยรักษากันเถอะ!”ดูจากอาการของเจียงอวี้แล้วมิรู้เลยว่าจะยังทนได้นานเท่าใด!อันเจ๋อรู้เพียงว่า ยิ่งเขาจัดการมือสังหารเหล่านี้ได้เร็ว ก็จะสามารถเพิ่มความหวังที่เจียงอวี้จะมีชีวิตอยู่ต่อได้มากขึ้น!เขาทุ่มสุดตัว การดำเนินการทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการกระทำที่เสี่ยงตายมากการทุ่มสุดตัวอย่างโหดร้ายโดยที่มิสนใจสิ่งใดทำให้เผยอวี้เหลือบมองอย่างค่อนข้างประหลาดใจ ยิ่งมิต้องพูดถึงมือสังหารเหล่านั้นเลย!เมื่อเห็นว่า อันเจ๋อมีตาสีแดงและต่อให้มีร่องรอยดาบอยู่บนตัวก็พุ่งเข้าไปอย่างมิคิดชีวิตเช่นนั้น มือสังหารเหล่านั้นก็ล้วนหวาดกลัวและค่อย ๆ หลบการโจมตีของเขาไปและเมื่อมีการช่วยสกัดกั้นของขันทีโม่ มือสังหารเหล่านี้ก็พ่ายแพ้ไปเรื่อย ๆ จนเตลิดกันไปหมด.........ณ ตำหนักอ๋องอี้ขุนนางเหล่านั้นต่างมิรู้ว่าในวังเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาต่างกำลังชมการไหว้ฟ้าดินของท่านอ๋องอี้กับฉินรั่วซือกันอยู่
แต่บุรุษผู้นั้นคว้าเข้าที่คอของนางอย่างรวดเร็ว“อื้อ… อื้อ… ช่วยด้วย...”เซียวทงดิ้นรนและส่งเสียงร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง แต่เสียงความวุ่นวายข้างนอกนั้นดังมากจึงไม่มีผู้ใดได้ยินเลยในแววตาของบุรุษผู้นั้นฉายแววดูถูกและรังเกียจออกมา เขาหยิบยาออกมาจากในอ้อมแขนแล้วยัดเข้าปากเซียวทงหลังจากเห็นกับตาแล้วว่าเซียวทงกลืนมันลงไป บุรุษผู้นั้นก็ปล่อยเซียวทงแล้วหันหลังเดินออกไปเซียวทงทรุดลงกับพื้น นางมิสนใจสิ่งใดแล้วยื่นมือไปล้วงคอตนเอง นางมิอยากตายไปเช่นนี้!แต่ล้วงคออยู่สักพัก ก็ไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากที่อาเจียนออกมาบุรุษผู้นั้นคือใครกัน?เขาป้อนสิ่งใดให้ตนเองกันแน่?เซียวทงกอดเข่าซุกตัวอยู่ที่มุมกำแพงอย่างสิ้นหวัง“องค์หญิงหก… องค์หญิงหก!”เสียงเถาลี่ตะโกนมาจากด้านนอกเซียวทงได้ยินแล้วแต่มิอยากตอบกลับเถาลี่เป็นคู่หูของตนตั้งแต่เข้าวัง และพยายามอย่างหนักที่จะเอาใจตนมาโดยตลอด!เซียวทงรู้สึกรังเกียจเถาลี่กับตนอายุเท่า ๆ กัน แต่กลับคิดที่จะเป็นนางสนมของเสด็จพ่อ คนที่คอยเอาใจผู้มีอำนาจเช่นนางก็สมควรตายแล้ว!ทางที่ดีที่สุดคือเถาลี่ควรจะถูกมือสังหารสังหารไปเสีย เช่นนี้จะได้มิต้องให้นางลง