เซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่ยืนตัวตรงอยู่ นางชนะแล้ว แต่รอยยิ้มบนใบหน้ากลับดูเฉยชาไปเล็กน้อยสิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกเสียใจกับนางอย่างอธิบายมิถูก...นางถูกเข้าใจผิดอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า!ถูกใส่ร้ายและทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า!เซียวหลินเทียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตนจะต้องแข็งแกร่งให้ได้!ต้องแข็งแกร่งจนสามารถปกป้องนางมิให้ถูกทำร้ายได้อีก!ทำให้นางหัวเราะออกมาได้มากยิ่งขึ้น!เซี่ยโฮ่วตานรั่วมองหลิงอวี๋อย่างโกรธแค้น เหตุใดสตรีผู้นี้จึงเก่งกาจถึงเพียงนั้น เรื่องที่มิดีกับนางก็ถูกนางแก้ไขไปได้อย่างง่ายดายเช่นนี้เลยหรือ?นางนึกถึงวันที่ถูกองค์ชายหนิงพี่ชายของนางบังคับให้นางขอโทษหลิงอวี๋ และยอมรับว่าตนเองใส่ร้ายหลิงอวี๋ มันเป็นเรื่องน่าละอายมากสำหรับตน!นางยังคงอดกลั้นความแค้นนี้เอาไว้อยู่!เซี่ยโฮ่วตานรั่วเหลือบมองไปแล้วก็เกิดแผนการขึ้นมาในใจ...หลิงอวี๋กำลังมองหมอจางที่ถูกนักการพาตัวไปพร้อมกับหน้าตาที่มอมแมมด้วยสายตาเย็นชา แล้วก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ ของเซี่ยโฮ่วตานรั่ว“องค์หญิงหก ได้ยินมาว่าเดิมทีลูกธนูของมือสังหารนั้นเล็งไปที่ท่านอ๋องอี้! แล้วพระชายาอ๋องอี้ก็เสี่ยงชีวิตมาบังลูกธนูให้กับท
เซียวหลินเทียนเองก็ฟังออกถึงเจตนาสร้างความขัดแย้งของเซี่ยโฮ่วตานรั่ว ใบหน้าก็มืดมนลงทันที แล้วยิ้มเยาะพลางเอ่ย“องค์หญิงตานรั่วจะหมายความว่า... ข้าตาฝ้าฟางจนมิรู้แน่ชัดแม้แต่ว่าผู้มีพระคุณช่วยชีวิตของตนไว้คือใครเยี่ยงนั้นรึ?”หลิงอวี๋อดมิได้ที่จะยิ้มออกมาคำพูดตอกกลับเซียวหลินเทียนนี่มัน... เขายังหนุ่มและยังแข็งแรง แต่กลับบอกว่าตนตาฝ้าฟาง เช่นนั้นคนที่อายุมากกว่าเขาก็คงสะเทือนใจกันไปหมด!เมื่อเซี่ยโฮ่วตานรั่วเห็นว่าเซียวหลินเทียนออกหน้าช่วยหลิงอวี๋ ในใจก็ยิ่งเกลียดหลิงอวี๋มากขึ้นอีกนางมองรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาของเซียวหลินเทียน ยิ่งมองก็ยิ่งอยากจะบ้า บุรุษที่สมบูรณ์แบบถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงต้องมาลุ่มหลงงมงายอยู่กับนางสารเลวเช่นหลิงอวี๋ด้วย!“ท่านอ๋องอี้ สถานการณ์ตอนนั้นอันตรายถึงเพียงนั้น ท่านก็กำลังยุ่งอยู่กับการจัดการมือสังหาร การที่มิได้สังเกตเห็นเจตนาของนางก็เป็นเรื่องปกติ!”“ตานรั่วแค่เป็นห่วงว่าท่านจะถูกหลอกจึงเตือนท่าน!”ท่าทีหวังดีของเซี่ยโฮ่วตานรั่วทำให้เซียวหลินเทียนรังเกียจเป็นอย่างยิ่ง เขาจึงเอ่ยเสียงแข็ง“องค์หญิงตานรั่ว นี่เจ้าคิดจะยกเรื่องหวังดีกับข้าแล้วจงใจใส
แต่หลิงอวี๋มิให้โอกาสเซี่ยโฮ่วตานรั่วได้คิด นางตะคอกเสียงแข็ง“เซี่ยโฮ่วตานรั่ว ตอนนั้นท่านอ๋องของหม่อมฉันต้องเผชิญหน้ากับมือสังหารสองกลุ่ม! คนที่ใช้ดาบคือมือสังหารของฉีตะวันออก คนที่เหลือรอดถูกแม่ทัพเผยจับตัวไปแล้ว!”“แต่มือสังหารที่ใช้ธนูกลับหนีไปได้! ตอนนั้นแม่ทัพเผยกับอันเจ๋อตรวจค้นรอบ ๆ ดูแล้วแต่ก็มิพบผู้ใดเลย!”“ผลก็คือแม่ทัพเผยพบท่านในระหว่างการตรวจค้น! เซี่ยโฮ่วตานรั่ว ท่านตรัสว่าท่านอยู่ในที่เกิดเหตุในเวลานั้น หรือว่าคนที่ยิงธนูเย็นใส่พวกเราก็คือเจ้า!”เอ่อ...“นี่คิดที่จะลอบสังหารท่านอ๋องอี้หรือ!”มีคนที่ตั้งสติได้ก็ตกใจจนกรีดร้องออกมาองค์ชายเย่เซียวหลินมู่ที่เฝ้าดูความคึกคักนี้อยู่ข้าง ๆ มาโดยตลอด ได้ยินสิ่งนี้เข้าก็เข้าใจ จึงตะโกนด้วยความโกรธ“เซี่ยโฮ่วตานรั่ว พวกเจ้าชาวฉีตะวันออกเบื้องหน้ามาเพื่ออภิเษกเชื่อมสัมพันธ์ แต่เบื้องหลังแท้จริงแล้วมาเพื่อลอบสังหารเสด็จพี่ของข้าหรือ!”เซียวทงตะลึงกับสถานการณ์ที่พลิกนี้ นางมองเซี่ยโฮ่วตานรั่วจากนั้นก็มองเซียวหลินเทียนครั้งนี้ มิว่าเซี่ยโฮ่วตานรั่วจะพูดอะไรอีก นางก็มิสามารถยืนข้างเซี่ยโฮ่วตานรั่วได้อีกแล้วหากทำผิดพลาดไป
นี่อ้างหลักศีลธรรมเพื่อที่จะให้ทำตามที่ตัวเองบอกหรือ?อย่างแรกก็ยกย่องตนว่าใจดี ใจกว้าง จากนั้นก็ยกเรื่องเชื่อมสัมพันธ์ของทั้งสองแคว้นมาพูดนี่กำลังบอกตนว่า หากมิยกโทษให้นาง เช่นนั้นแล้วหากทั้งสองแคว้นมิสามารถเชื่อมสัมพันธ์ได้ก็เป็นความผิดของตนหรือ?หลิงอวี๋มองแผนเล็ก ๆ ของเซี่ยโฮ่วตานรั่วออกในทันที จึงยิ้มเยาะพลางเอ่ย“องค์หญิงตานรั่ว จะยกเรื่องความใจดีใจกว้างมาใช้กับเรื่องนี้มิได้หรอกกระมังเพคะ! สิ่งที่ท่านตรัสมาเมื่อครู่ก็เหมือนกับเห็นด้วยตาของตัวเอง ท่านทรงทราบแม้กระทั่งว่าหม่อมฉันกำจัดมือสังหารไปหนึ่งคน!”“ท่านแค่ตรัสมาว่าท่านพูดไปเรื่อยแล้วอยากให้พวกเรามิเอาความท่านในเรื่องนี้เยี่ยงนั้นมันได้หรือ?”“ท่านอ๋อง จู่ ๆ หม่อมฉันก็นึกขึ้นได้เรื่องหนึ่ง ตอนที่พวกขององค์หญิงตานรั่วยิงหมูป่า ลูกธนูที่พระนางกับนางรับใช้ของพระนางยิงนั้นมิเหมือนกับลูกธนูของฉินตะวันตกเราเพคะ!”“หม่อมฉันได้รับบาดเจ็บ ท่านก็ยังเก็บลูกธนูที่หักไว้เลยมิใช่หรือ? เอามันมาเทียบก็จะรู้ว่าเป็นลูกธนูที่นางยิงหรือไม่เพคะ!”ที่จริงเซียวหลินเทียนได้เทียบลูกธนูไปแล้ว แม้ว่าลูกธนูจะมิเหมือนลูกธนูของฉินตะวันตก แต่ก็เห
เซียวหลินเทียนมิสามารถระงับความโกรธของตนได้แล้ว เขายกแส้ของเซี่ยโฮ่วตานรั่วแล้วฟาดไปบนตัวของเซี่ยโฮ่วตานรั่วอย่างรุนแรงเซี่ยโฮ่วตานรั่วกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อซินจิ้งเห็นว่าสถานการณ์มิดี จึงรีบมาขวางหน้าเซี่ยโฮ่วตานรั่วไว้เดิมทีนางคิดจะชักดาบออกมา แต่เมื่อเห็นสีหน้าโกรธเกรี้ยวของเซียวหลินเทียน นางก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็มิกล้าชักดาบตอนนั้นที่เซียวหลินเทียนทำลายพวกมือสังหารที่ปิดล้อมเขาไว้ ภาพนั้นยังคงฝังอยู่ในใจของซินจิ้งอยู่เลยนางรู้ดีว่าขอเพียงตนชักดาบออกมา ก็จะถูกเซียวหลินเทียนใช้ข้ออ้างว่าลอบสังหารเขามาสังหารตนอย่างไร้ความปรานีเป็นแน่!มือสังหารที่มีวรยุทธแข็งแกร่งมากมายถึงเพียงนั้นยังสู้เซียวหลินเทียนมิได้ ตนที่เป็นนางรับใช้มิกี่คนจะเอาชนะเซียวหลินเทียนได้เยี่ยงไร!“ท่านอ๋อง หยุดตีเถิดเพคะ มีอะไรก็คุยกันดี ๆ เถิด…”ซินจิ้งขวางเซียวหลินเทียนไว้พลางตะโกนออกไปเซียวหลินเทียนยกแส้แล้วจ้องมองพวกของซินจิ้งด้วยความโกรธ เส้นเลือดตรงมือที่ถือแส้ของเขาขึ้นมาจนเห็นชัด...ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวหลินเทียนเต็มไปด้วยความเยือกเย็น ราวกับสิงโตที่เดิมทีก้าวเดินอย่างเกียจคร
“ท่านอ๋อง… เขา… เขามิไหวแล้วเพคะ! เขาเป็นโรคหัวใจ หม่อมฉันช่วยอะไรมิได้แล้ว!”เมื่อหลิงอวี๋เห็นคุณชายกลืนยาเข้าไปแล้ว ก็แสร้งทำเป็นร้องขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก“หา... ร้ายแรงถึงเพียงนั้นเลยหรือ? พระชายาอ๋องอี้ท่านเป็นหมอชั้นเซียนมิใช่หรือ? ท่านจะช่วยอะไรมิได้เลยได้เยี่ยงไร?”คนที่อยู่ใกล้ ๆ ต่างร้องขึ้นมาอย่างประหลาดใจหลิงอวี๋เอ่ยอย่างเศร้า ๆ “ข้าเป็นหมอ มิใช่เทพเจ้า! ข้าก็มีคนที่มิสามารถช่วยได้เช่นกัน!”“ข้าพยายามอย่างเต็มที่แล้วจริง ๆ แต่ข้ามิสามารถแก่งแย่งกับพญายมได้!”ขณะที่พูดอยู่นั้น มือกับเท้าของคุณชายก็สั่นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหัวของเขาเอียงไปอีกข้างหนึ่ง“นั่น เขาตายแล้ว! องค์หญิงตานรั่วทุบตีคนจนตาย!”จากนั้นเสียงโกรธเกรี้ยวก็ดังมาจากทุกทิศทุกทาง“องค์หญิงแห่งฉีตะวันออกบ้าคลั่งเกินไปแล้ว ทุบตีจนคนของฉินตะวันตกตาย!”“จับพระนางไปพบทางการที! องค์ชายทำผิดก็ต้องรับโทษเช่นคนทั่วไป เราจะปล่อยพระนางไปเช่นนี้มิได้!”“ไปพบทางการ… ต้องไปพบทางการ!”คุณชายหวางปิดหน้าที่บวมแดงไว้แล้วเซียวหลินมู่ก็พยุงเขาขึ้นมา ครั้นได้ยินหลิงอวี๋บอกว่าสหายของเขาตายแล้ว เขาก็ตกตะลึงไปหลังจากตกตะลึงอ
ซินจิ้งอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา เซี่ยโฮ่วตานรั่วตื่นตระหนกแล้วพูดผิดพลาดไปอีกแล้วเมื่อนางเห็นว่าทุกคนพากันล้อมเข้ามาอย่างขุ่นเคือง นางก็ปกป้องเซี่ยโฮ่วตานรั่วพลางตะโกน“ท่านอ๋องอี้ แม้ว่าองค์หญิงของเราจะตรัสอะไรผิดไป! แต่บ้านเมืองก็มีขื่อมีแป หากองค์หญิงของเราฆ่าคนตาย ก็ควรสอบสวนไปตามขั้นตอน ทุกคนจะประชาทัณฑ์พระนางมิได้กระมังเพคะ!”“แจ้งทางการ... พวกเราร้องขอให้จักรพรรดิอู่อันรับพิจารณาคดีนี้ด้วยพระองค์เอง! เช่นนี้พวกเราถึงจะมั่นใจ!”เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินดังนี้ก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยเสียงดัง “ทุกคนถอยออกไปก่อน! แล้วหาคนไปแจ้งทางการ!”“ที่นางพูดก็ถูก บ้านเมืองมีขื่อมีแป ข้ามิอาจเป็นผู้นำในการประชาทัณฑ์แล้วทำลายรากฐานของแคว้นได้!”“ทุกคนมิต้องกังวล ความยุติธรรมเรื่องที่หลี่ว์กังกับคุณชายหวางถูกเฆี่ยนตีพวกเราจะต้องเรียกร้องกลับมาให้พวกเขาได้แน่นอน!”ตอนนี้ทุกคนถือว่าเซียวหลินเทียนเป็นผู้นำของพวกเขา หลังจากได้ยินคำพูดของเขาทุกคนจึงถอยกลับไปอย่างเงียบ ๆเวลานี้พวกเขาล้วนเป็นคนฉินตะวันตก ก็ควรร่วมแรงร่วมใจกันปกป้องศักดิ์ศรีของฉินตะวันตก!อย่าปล่อยให้ศัตรูดูถูกฉินตะวันตกได้
“ได้ เช่นนั้นก็ตรวจสอบเถิด!”หลิงอวี๋ยืนอยู่ด้านข้างอย่างสงบเซี่ยโฮ่วตานรั่วผลักซินจิ้งให้เข้าไปตรวจสอบด้วยกันซินจิ้งนั่งยอง ๆ ตรวจสอบการหายใจของหลี่ว์กังแล้วก็จับชีพจรแต่หลี่ว์กังมิหายใจและไม่มีชีพจรแล้วซินจิ้งตื่นตระหนก แต่ยังคงสงบสติอารมณ์ไว้ “พวกเราต้องเชิญหมอที่ติดตามพวกเรามาตรวจสอบ!”“มิว่าใครจะมาตรวจสอบก็ได้ทั้งนั้น!”หลิงอวี๋หัวเราะเยาะ “ข้าหวังว่าหมอของพวกเจ้าจะเก่งกาจมากพอช่วยเขาให้มีชีวิตกลับมาได้นะ!”“เพราะว่าเขายังหนุ่ม! เขาน่าจะยังมีหลายเรื่องที่อยากทำ และมีความปรารถนาที่มิสมหวังอีกมากมาย!”คุณชายหวางอยู่ด้านข้างได้ยินคำพูดของหลิงอวี๋ เขาก็สะอื้นพลางเอ่ย “พระชายาอ๋องอี้พูดถูก ข้ากับหลี่ว์กังจะเข้าร่วมการสอบคัดเลือกช่วงฤดูใบไม้ผลิหลังจากนี้ เขาถึงขั้นปฏิเสธครอบครัวที่มาคุยเรื่องแต่งงานกับเขาเพื่อที่จะสอบให้ได้ดี!“เขายังมิได้แต่งงานเลย! ไหนเลยจะ…ไหนเลยจะคิดว่าจะประสบเคราะห์เช่นนี้!”ทุกคนรู้สึกหดหู่กับสิ่งที่คุณชายหวางพูดออกมา พวกเขามองหลี่ว์กังวัยหนุ่มที่อยู่บนพื้น พลางคิดว่าเขามีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้เลย!ตอนนี้ ทุกอย่างกลายเป็นความว่างเปล่าไปหม