“ท่านอ๋อง… เขา… เขามิไหวแล้วเพคะ! เขาเป็นโรคหัวใจ หม่อมฉันช่วยอะไรมิได้แล้ว!”เมื่อหลิงอวี๋เห็นคุณชายกลืนยาเข้าไปแล้ว ก็แสร้งทำเป็นร้องขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก“หา... ร้ายแรงถึงเพียงนั้นเลยหรือ? พระชายาอ๋องอี้ท่านเป็นหมอชั้นเซียนมิใช่หรือ? ท่านจะช่วยอะไรมิได้เลยได้เยี่ยงไร?”คนที่อยู่ใกล้ ๆ ต่างร้องขึ้นมาอย่างประหลาดใจหลิงอวี๋เอ่ยอย่างเศร้า ๆ “ข้าเป็นหมอ มิใช่เทพเจ้า! ข้าก็มีคนที่มิสามารถช่วยได้เช่นกัน!”“ข้าพยายามอย่างเต็มที่แล้วจริง ๆ แต่ข้ามิสามารถแก่งแย่งกับพญายมได้!”ขณะที่พูดอยู่นั้น มือกับเท้าของคุณชายก็สั่นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหัวของเขาเอียงไปอีกข้างหนึ่ง“นั่น เขาตายแล้ว! องค์หญิงตานรั่วทุบตีคนจนตาย!”จากนั้นเสียงโกรธเกรี้ยวก็ดังมาจากทุกทิศทุกทาง“องค์หญิงแห่งฉีตะวันออกบ้าคลั่งเกินไปแล้ว ทุบตีจนคนของฉินตะวันตกตาย!”“จับพระนางไปพบทางการที! องค์ชายทำผิดก็ต้องรับโทษเช่นคนทั่วไป เราจะปล่อยพระนางไปเช่นนี้มิได้!”“ไปพบทางการ… ต้องไปพบทางการ!”คุณชายหวางปิดหน้าที่บวมแดงไว้แล้วเซียวหลินมู่ก็พยุงเขาขึ้นมา ครั้นได้ยินหลิงอวี๋บอกว่าสหายของเขาตายแล้ว เขาก็ตกตะลึงไปหลังจากตกตะลึงอ
ซินจิ้งอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา เซี่ยโฮ่วตานรั่วตื่นตระหนกแล้วพูดผิดพลาดไปอีกแล้วเมื่อนางเห็นว่าทุกคนพากันล้อมเข้ามาอย่างขุ่นเคือง นางก็ปกป้องเซี่ยโฮ่วตานรั่วพลางตะโกน“ท่านอ๋องอี้ แม้ว่าองค์หญิงของเราจะตรัสอะไรผิดไป! แต่บ้านเมืองก็มีขื่อมีแป หากองค์หญิงของเราฆ่าคนตาย ก็ควรสอบสวนไปตามขั้นตอน ทุกคนจะประชาทัณฑ์พระนางมิได้กระมังเพคะ!”“แจ้งทางการ... พวกเราร้องขอให้จักรพรรดิอู่อันรับพิจารณาคดีนี้ด้วยพระองค์เอง! เช่นนี้พวกเราถึงจะมั่นใจ!”เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินดังนี้ก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยเสียงดัง “ทุกคนถอยออกไปก่อน! แล้วหาคนไปแจ้งทางการ!”“ที่นางพูดก็ถูก บ้านเมืองมีขื่อมีแป ข้ามิอาจเป็นผู้นำในการประชาทัณฑ์แล้วทำลายรากฐานของแคว้นได้!”“ทุกคนมิต้องกังวล ความยุติธรรมเรื่องที่หลี่ว์กังกับคุณชายหวางถูกเฆี่ยนตีพวกเราจะต้องเรียกร้องกลับมาให้พวกเขาได้แน่นอน!”ตอนนี้ทุกคนถือว่าเซียวหลินเทียนเป็นผู้นำของพวกเขา หลังจากได้ยินคำพูดของเขาทุกคนจึงถอยกลับไปอย่างเงียบ ๆเวลานี้พวกเขาล้วนเป็นคนฉินตะวันตก ก็ควรร่วมแรงร่วมใจกันปกป้องศักดิ์ศรีของฉินตะวันตก!อย่าปล่อยให้ศัตรูดูถูกฉินตะวันตกได้
“ได้ เช่นนั้นก็ตรวจสอบเถิด!”หลิงอวี๋ยืนอยู่ด้านข้างอย่างสงบเซี่ยโฮ่วตานรั่วผลักซินจิ้งให้เข้าไปตรวจสอบด้วยกันซินจิ้งนั่งยอง ๆ ตรวจสอบการหายใจของหลี่ว์กังแล้วก็จับชีพจรแต่หลี่ว์กังมิหายใจและไม่มีชีพจรแล้วซินจิ้งตื่นตระหนก แต่ยังคงสงบสติอารมณ์ไว้ “พวกเราต้องเชิญหมอที่ติดตามพวกเรามาตรวจสอบ!”“มิว่าใครจะมาตรวจสอบก็ได้ทั้งนั้น!”หลิงอวี๋หัวเราะเยาะ “ข้าหวังว่าหมอของพวกเจ้าจะเก่งกาจมากพอช่วยเขาให้มีชีวิตกลับมาได้นะ!”“เพราะว่าเขายังหนุ่ม! เขาน่าจะยังมีหลายเรื่องที่อยากทำ และมีความปรารถนาที่มิสมหวังอีกมากมาย!”คุณชายหวางอยู่ด้านข้างได้ยินคำพูดของหลิงอวี๋ เขาก็สะอื้นพลางเอ่ย “พระชายาอ๋องอี้พูดถูก ข้ากับหลี่ว์กังจะเข้าร่วมการสอบคัดเลือกช่วงฤดูใบไม้ผลิหลังจากนี้ เขาถึงขั้นปฏิเสธครอบครัวที่มาคุยเรื่องแต่งงานกับเขาเพื่อที่จะสอบให้ได้ดี!“เขายังมิได้แต่งงานเลย! ไหนเลยจะ…ไหนเลยจะคิดว่าจะประสบเคราะห์เช่นนี้!”ทุกคนรู้สึกหดหู่กับสิ่งที่คุณชายหวางพูดออกมา พวกเขามองหลี่ว์กังวัยหนุ่มที่อยู่บนพื้น พลางคิดว่าเขามีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้เลย!ตอนนี้ ทุกอย่างกลายเป็นความว่างเปล่าไปหม
หลิงอวี๋กับทุกคนเห็นว่าสีหน้าของฮูหยินสามค่อย ๆ ดีขึ้นแล้วหลิงอวี๋รู้สึกผิดเล็กน้อย นางให้หลี่ว์กังแกล้งตาย ครึ่งหนึ่งเป็นเพราะมิยอมให้เซี่ยโฮ่วตานรั่วหลบหนีการลงโทษไปได้อีก!อีกครึ่งหนึ่งคือหลิงอวี๋รู้ว่าเรื่องที่เซี่ยโฮ่วตานรั่วยิงธนูเย็นใส่เซียวหลินเทียนนั้นหากไม่มีหลักฐานก็มิสามารถตัดสินลงโทษนางได้!ตนกับเซียวหลินเทียนเกือบตายเพราะสิ่งนี้ แต่เซี่ยโฮ่วตานรั่วยังคงมิรู้จักเจียมตัว ยังเฆี่ยนตีหลี่ว์กังกับคุณชายหวาง มิเห็นชีวิตของคนอยู่ในสายตาเลย!มันแตะขีดจำกัดของนางสุด ๆ แล้ว!ดังนั้น หลิงอวี๋จึงคิดแผนนี้ขึ้นมา นางอยากให้เซี่ยโฮ่วตานรั่วชดใช้ในสิ่งที่นางทำ!เวลานี้ เมื่อเห็นฮูหยินสามที่มิรู้ความจริงเศร้าใจจนกลายเป็นเช่นนี้ หลิงอวี๋ก็ทั้งทุกข์ใจทั้งรู้สึกผิด คิดว่าหลังจากเรื่องนี้จะต้องชดเชยให้กับฮูหยินสามอย่างเต็มที่หลี่ว์กังร่วมมือกับตนแกล้งตายเช่นนี้ เมื่อจัดการเซี่ยโฮ่วตานรั่วได้แล้วจะต้องให้เขาออกไปซ่อนตัวสักพักเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนรูปลักษณ์แล้วก็ต้องให้ตระกูลหลี่ว์เปลี่ยนชื่อให้เขา แล้วเขาก็จะได้กลับเมืองหลวงอย่างเปิดเผยในภายภาคหน้าค่อยให้เซียวหลินเทียนเลื่อนตำแหน่งที
ยังมิทันที่ดาบของเซี่ยโฮ่วตานรั่วจะฟันลงไป เซียวหลินเทียนก็เหวี่ยงแส้ออกมาก่อนแส้นั้นเป็นราวกับมังกรสีเงิน พัดพาเอาสายลมรุนแรงกวาดไปทางเซี่ยโฮ่วตานรั่วแส้พันรอบดาบยาวนั้นไว้ เซี่ยโฮ่วตานรั่วรู้สึกราวกับว่ามือที่ถือดาบถูกไฟเผา เจ็บปวดจนต้องปล่อยมือออกแต่นางมิคาดคิดว่าหางแส้ของเซียวหลินเทียนจะลอยขึ้นมาฟาดที่แก้มของนางกรี๊ด...เซี่ยโฮ่วตานรั่วกรีดร้องออกมา นางถูกหางแส้ฟาดล้มลงกับพื้น“ฟรึบ...”ทุกคนเห็นเพียงเซียวหลินเทียนถอนแส้กลับมาแล้วสะบัดดาบลอยขึ้นผ่านหัวของซินจิ้งไปปักเข้าที่เสาด้านหลังนางซินจิ้งตกใจจนเสียขวัญ จนสมองว่างเปล่าไปหมดนางเห็นดาบลอยมาหาตนก็คิดว่าเซียวหลินเทียนโกรธมากจนจะฆ่าตนเสียแล้วไหนเลยจะคิดว่าดาบแค่ผ่านผมของนางไปเท่านั้น...แม้ว่ามิได้ทำให้ตนบาดเจ็บ แต่คมดาบที่เย็นเยียบแหลมคมเมื่อครู่นี้ก็ทำให้นางมองเห็นหุบเหวแห่งความตายอย่างใกล้มาก ๆ!การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตานี้!หลายคนยังตั้งสติมิได้เลย!แต่คนเยี่ยงพวกคุณชายหวางและเซียวหลินมู่กลับเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเซียวหลินมู่ตกใจกับการเคลื่อนไหวของเซียวหลินเทียนอยู่เงียบ ๆ มิคาดคิดเ
ชั่วครู่หนึ่งเซียวหลินเทียนอยากจะปล่อยให้คนเหล่านี้ทุบตีเซี่ยโฮ่วตานรั่วจนตายไปเสีย นางกล้ายิงธนูเย็นใส่หลิงอวี๋กับตน การลงเอยเช่นนี้ก็คือสิ่งที่นางสมควรได้รับแล้ว!ขณะที่เซียวหลินเทียนกำลังลังเลว่าควรจะทำเช่นนั้นหรือไม่เสียงตะโกนแหลมคมก็ดังขึ้นมา“พระราชโองการมาแล้ว...”หลังจากเสียงนั้น ทหารกองทัพหลวงหลายนายก็ตามขันทีฉางเข้ามาหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนสบตากัน ทั้งคู่รู้สึกว่าเรื่องนี้มีลับลมคมใน เหตุใดขันทีฉางจึงมาพร้อมกับพระราชโองการได้ทันเวลาเช่นนี้!“ด้วยพระราชโองการแห่งสวรรค์ องค์จักรพรรดิจึงมีพระบัญชา คดีที่เซี่ยโฮ่วตานรั่วแห่งฉีตะวันออกเฆี่ยนตีคนจนตาย แม่ทัพเฉินจะรับช่วงต่อ!”“จนกว่าคดีจะสอบสวนชัดเจน เซี่ยโฮ่วตานรั่วจะถูกกักบริเวณอยู่ในที่พัก หลังจากที่คดีได้รับการตรวจสอบชัดเจนแล้วค่อยดำเนินการตัดสินชี้ขาดกัน!”“ท่านอ๋องอี้เซียวหลินเทียน พระชายาอ๋องอี้หลิงอวี๋ให้เข้าวังไปเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ!”เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋แววตาเคร่งขรึมทั้งคู่ พวกเขาสังเกตเห็นว่าตั้งแต่ต้นจนจบองค์ชายหนิงมิได้ปรากฏตัวเลยเซี่ยโฮ่วตานรั่วประสบหายนะครั้งใหญ่เช่นนี้ แต่องค์ชายหนิงกลับมิปรากฏ
ก่อนที่หลิงอวี๋จะไปก็ดึงหลี่ว์จงเจ๋อออกไปอีกด้านอย่างเงียบ ๆ พลางกระซิบเรื่องที่หลี่ว์กังแกล้งตาย หลี่ว์จงเจ๋อเองก็รู้จักหลิงอวี๋ หลังจากได้รับแจ้งเช่นนี้ก็เข้าใจในทันทีเขามิรู้สึกว่าหลิงอวี๋เป็นคนเลวร้าย ครั้นได้ยินพระราชโองการขององค์จักรพรรดิ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าการจะจัดการกับคนเช่นเซี่ยโฮ่วตานรั่วนั้นมีเพียงต้องตาต่อตาฟันต่อฟันเท่านั้น!เขาพยักหน้า เป็นการบอกว่าตนรู้แล้วว่าต้องทำเยี่ยงไร จากนั้นก็ประคองฮูหยินสามที่โศกเศร้า แล้วนำ “ศพ” ของหลี่ว์กังกลับบ้านก่อนหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเข้าไปในวัง แม้ว่าหลี่ว์เซียงจะมิได้มีพระราชโองการให้เข้าวัง แต่ผู้ที่ตายคือหลานของตน เขาก็อยากรู้สิ่งที่องค์จักรพรรดิจะบอกเช่นกันพวกเขาทั้งสามมาห้องทรงพระอักษรด้วยกัน จ้าวฮุยกับขุนนางว่าการหลายคนรวมทั้งองค์ชายเว่ยกับองค์ชายคังก็มาแล้วหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนต่างก็รู้สึกแปลก ๆ เซี่ยโฮ่วตานรั่วฆ่าคนไปหนึ่งคน มันคุ้มหรือที่ต้องระดมผู้คนมาเช่นนี้?หลิงอวี๋คำนับองค์จักรพรรดิ แต่องค์จักรพรรดิมิยอมให้พวกเขาลุกขึ้นหลิงอวี๋คุกเข่าและแอบมองท่าทีของจักรพรรดิอู่อัน ท่าทางของจักรพรรดิอู่อันดูแปลก ๆ ในความ
หลี่ว์เซียงอยู่ข้างหลังได้ยินคำพูดนี้ก็ทนมิไหวอีกต่อไปแล้ว เขาก้าวไปคุกเข่าลงแล้วเอ่ย “ฝ่าบาท เรื่องในวันนี้มิเกี่ยวข้องกับท่านอ๋องอี้และพระชายาอ๋องอี้เลยพ่ะย่ะค่ะ แต่เป็นเซี่ยโฮ่วตานรั่วที่เย่อหยิ่งเกินไปจริง ๆ...”ยังมิทันที่หลี่ว์เซียงจะพูดจบ จักรพรรดิอู่อันก็ขัดจังหวะเขา พลางตะคอกด้วยความโกรธ “เย่อหยิ่งอะไรกัน? พวกเจ้าให้สมองคิดดู ในแผ่นดินฉินตะวันตก พวกเขาจะกล้าหยิ่งผยองด้วยเหตุใดกัน?”“องค์ชายหนิงเด็กผู้นั้นกล้าเข้าวังมาเดิมพันกับข้า บอกว่าพวกเขาจะชนะการแข่งขันล้อมเมืองอย่างแน่นอน! นี่มิเพียงแต่หยิ่งผยองเท่านั้น แต่มิเห็นพวกเจ้าอยู่ในสายตาเลย!”“หากพวกเจ้าอยากให้ข้ารักษาความยุติธรรมให้พวกเจ้า เช่นนั้นก็ต้องชนะการแข่งขันนี้ มิเช่นนั้น ข้าจะมีอะไรมั่นใจพูดให้พวกเจ้าเล่า?”จักรพรรดิอู่อันนึกถึงสิ่งที่องค์ชายหนิงเอ่ยกับตนแล้วก็มิพอใจแม้ว่าองค์ชายหนิงจะมีน้ำเสียงถ่อมตัว แต่เมื่อเอ่ยถึงเดิมพันกลับดูถูกเหยียดหยามว่าฉินตะวันตกสู้ฉีตะวันออกมิได้จักรพรรดิอู่อันพูดความคิดของตนไป แคว้นจะต้องแข็งแกร่ง มีเพียงต้องแข็งแกร่งกว่าแคว้นอื่นในทุก ๆ ด้าน จึงจะสามารถพูดอย่างมั่นใจได้ มิเช่นนั้