แชร์

บทที่ 1025

ผู้เขียน: กานเฟย
เมื่อเซียวทงได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้ว่าต้องมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นแล้ว!

นางกลัวว่าโลกจะมิวุ่นวาย จึงถามด้วยเสียงดัง “จริงด้วย องค์หญิงตานรั่ว พวกท่านกำลังล่าสัตว์อยู่ดี ๆ เหตุใดถึงดึงดูดหมูป่ามาได้มากมายเช่นนี้?”

“โชคดีที่พวกเรามาถึงทันเวลา มิเช่นนั้น ท่านคงถูกหมูป่าชนตายแล้ว!”

แม้ว่าเซี่ยโฮ่วตานรั่วจะมิชอบเซียวทง แต่เมื่อนางมาที่ฉินตะวันตก นางก็ได้ตรวจสอบแล้วว่าเซียวทงและหลิงอวี๋มิถูกกัน

เมื่อได้ยินเซียวทงให้ความร่วมมือเช่นนี้ เซี่ยโฮ่วตานรั่วก็มองไปที่หลิงอวี๋ราวกับจำใจกล่าว

“องค์หญิงหก พวกเราอยู่ในระหว่างการล่าสัตว์จริง ๆ! แต่ว่าพระชายาอ๋องอี้และพวกของนางกลับดึงดูดหมูป่ามา!”

“ข้าเห็นหมูป่าวิ่งชนนาง จึงกลัวว่านางจะได้รับบาดเจ็บ รีบไปดึงนางออกมา แต่ว่า... นางกลับผลักข้าไปทางหมูป่าเพื่อเอาชีวิตรอด!”

“เจ้ามิรู้หรอกว่าหมูป่ามากมายเพียงนั้น... แรงกระแทกรุนแรงเพียงใด…”

“โชคดีที่ข้ามีวิทยายุทธ์จึงปีนขึ้นต้นไม้ได้ทัน อดทนจนกว่าพวกท่านจะมาถึง! มิเช่นนั้น เห็นทีข้าคงมิรอดแล้ว!”

เซี่ยโฮ่วตานรั่วพูดไป น้ำตาก็ไหลพราก มองไปทางหลิงอวี๋ด้วยสีหน้าเจ็บปวด

“พระชายาอ๋องอี้ ข้ามิโทษเจ้าที่ผลักข้าไปทา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1026

    เซียวหลินเทียนแค่นเสียงอย่างเย็นชา และมองไปที่องค์ชายหนิง “องค์ชายหนิง ท่านเข้าใจคำว่ากล่าวตามความจริงเพื่อความยุติธรรมหรือไม่?”“กล่าวตามความจริงหมายถึง การกล่าวความจริงตามหลักฐาน!”“เราได้ฟังแต่คำพูดขององค์หญิงตานรั่วเพียงฝ่ายเดียว แล้วเซียวทงของท่านก็รีบออกหน้าตำหนิพระชายาอ๋องอี้ของข้า สิ่งที่ข้าทำคือการตักเตือนนาง ผิดหรือ?”“หรือว่าชาวฉีตะวันออกเช่นพวกท่านสักแต่กล่าวโดยมิแยกแยะว่าใครถูกใครผิด ใครฟ้องผิดก่อนถูกเสมองั้นรึ?”เมื่อเซี่ยโฮ่วตานรั่วได้ยินคำพูดนี้ก็โกรธขึ้นมาทันที “อ๋องอี้ ท่านหมายความว่าข้าเป็นคนชั่วที่ฟ้องผิดก่อนงั้นหรือ?”อันเจ๋อที่อยู่ข้าง ๆ นิ่งฟังอยู่ ก็อดมิได้ที่จะเยาะเย้ย “การกระทำของท่านต่างจากการเป็นคนชั่วฟ้องผิดก่อนอย่างไร! เมื่อครู่ท่านเพิ่งกล่าวว่ามิโทษพระชายาอ๋องอี้ที่ผลักท่าน ทว่าหากท่านมิถือโทษโกรธนางจริง แล้วเหตุใดต้องพูดเรื่องนี้ต่อหน้าคนมากมายด้วยเล่า?”“แม้ว่าท่านจะต้องการแสร้งทำตัวเป็นคนใจกว้าง แต่ก็ควรแสร้งทำให้แนบเนียนสักหน่อยสิ!”จ้าวซวนและคนอื่น ๆ ต่างก็หัวเราะ พวกเขาอาจมิได้อยู่ที่นั่นตอนเกิดเหตุ แต่ก็คลุกคลีอยู่กับหลิงอวี๋มานานแล้ว จะเชื่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1027

    เซียวหลินเทียนสีหน้าเคร่งขรึม ตวาดเสียงดัง“หยุดพูดจาเหลวไหล! เจ้าเป็นใครกันถึงกล้ามาสั่งสอนพระชายาของข้า? ข้ายินดีแสดงความโปรดปรานต่อพระชายาของข้า เจ้าถือสิทธิ์ใดมาสั่งให้พระชายาของข้าปฏิบัติตาม?!”เจ้าฉาเค่อฉีนี่ถือตนเป็นกระบอกเสียงขององค์ชายหนิงหรืออย่างไร?องค์ชายหนิงต้องการรักษาภาพลักษณ์ใจกว้างของตน แต่เซียวหลินเทียนกลับมิให้เขาได้สมหวัง!“ท่านอ๋อง หม่อมฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง!”หลิงอวี๋ดึงเซียวหลินเทียนไว้แล้วหันมายิ้มให้เขาอย่างมั่นใจทุกครั้งที่เซียวหลินเทียนเห็นหลิงอวี๋ยิ้มเช่นนี้ เขารับรู้ว่าหลิงอวี๋มั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมเขาจำได้ว่า ครั้งหนึ่งในงานเลี้ยงวังหลวง หลิงอวี๋เกือบถูกตัดศีรษะ แต่นางกลับกล้าด่าจักรพรรดิอู่อันว่าเป็นกษัตริย์ผู้โง่เขลา เช่นนั้นองค์หญิงน้อยแห่งฉีตะวันออกหรือจะควรค่าให้หลิงอวี๋หวาดกลัว?เซียวหลินเทียนจึงทำเพียงจับมือนางอย่างสบายใจเพื่อแสดงการสนับสนุนหลิงอวี๋ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ดวงตาใสแจ๋วและงดงามของนางจ้องมองไปที่เซี่ยโฮ่วตานรั่วอย่างเย็นชา“องค์หญิงตานรั่ว ข้าควรกล่าวขอโทษต่อท่านหรือ?”น้ำเสียงของนางปราศจากความอบอุ่นหรืออารมณ์ใด ๆ เป็นเพีย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1028

    หลิงอวี๋เล่าสถานการณ์ในตอนนั้นอย่างชัดถ้อยชัดคำแม้ว่าทุกคนจะมิได้เห็นด้วยตาตนเอง แต่เมื่อลองนึกภาพหมูป่าจำนวนมากวิ่งเข้ามาหมายพุ่งชนในตอนนั้น สถานการณ์คงอันตรายมากจริง ๆสายตาอันเย็นชาและเฉียบคมของเซียวหลินเทียนจ้องไปที่เซี่ยโฮ่วตานรั่ว หลิงอวี๋ช่วยนางไว้ แต่นางกลับกล้าผลักหลิงอวี๋ไปหาคมเขี้ยวหมูป่า...ผู้ใดให้ความกล้าแก่นาง?สมควรตายนัก!เซียวหลินเทียนจดจำเรื่องนี้ไว้ในใจ...“องค์หญิงตานรั่ว ท่านล้มลงไปกับพื้น หม่อมฉันจึงลากท่านให้ลุกขึ้นมา ช่วยมิให้ท่านตายภายใต้กีบเท้าหมูป่า มิใช่หรือ?”“ท่านถูกหมูป่าล้อมขณะเกาะอยู่บนต้นไม้ หม่อมฉันและนางกำนัลของท่านนี่แหละที่ใช้ธนูระดมยิงหมูป่าเพื่อช่วยท่าน มิใช่หรือ?”หลิงอวี๋ถามคำถามต่อเนื่อง ทำให้ร่างกายของเซี่ยโฮ่วตานรั่วสั่นเทาไปทั้งตัว สายตาของนางกระสับกระส่ายและพยายามหลบเลี่ยง...นางเกร็งนิ้วจนมือแดงก่ำ รีบพูดแทรกอย่างใจร้อน “พระชายาอ๋องอี้ เจ้าช่างบิดเบือนความจริงได้เก่งกาจนัก ทั้ง ๆ ที่เป็นเจ้าต่างหากที่กล่าววาจาอวดดีจนดึงดูดหมูป่ามา แต่กลับกล่าวหาว่าข้าเป็นผู้กระทำ!”“ทั้ง ๆ ที่ข้าเป็นผู้ช่วยเจ้า แต่เจ้ากลับกล่าวว่าเป็นเจ้าที่ช่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1029

    คำพูดของหลิงอวี๋แต่ละคำราวกับมีดที่แทงทะลุหัวใจของเซียวทง ทำให้นางมิกล้าพูดอะไรอีกเซี่ยโฮ่วตานรั่วก็มิคิดว่าหลิงอวี๋จะดื้อรั้นเช่นนี้ ความคิดของนางเมื่ออยู่ต่อหน้าหลิงอวี๋แล้วราวกับไม่มีที่หลบซ่อน!ทว่าในขณะนี้ นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องฝืนแสดงต่อไป!“พระชายาอ๋องอี้ เหตุใดเจ้าถึงมิยอมเลิกราเช่นนี้? ข้ามิเอาความที่เจ้าผลักข้าก็ดีแล้ว ยังมิพอใจอีกรึ?”เซี่ยโฮ่วตานรั่วกล่าวอย่างโมโห “ใต้หล้านี้มีคนเนรคุณและบิดเบือนความจริงอย่างเจ้าด้วยรึ!”“ข้าเป็นองค์หญิงแห่งฉีตะวันออก มีฐานะสูงส่ง แม้ว่าเจ้าจะเป็นพระชายา แต่เทียบเคียงกับข้าได้รึ?”“เหตุใดข้าจึงต้องใส่ร้ายเจ้า? เจ้ามีหลักฐานอะไรที่บอกว่าองค์หญิงเช่นข้าใส่ร้ายเจ้ากัน!?”“เหตุใดงั้นรึ?” หลิงอวี๋หัวเราะเยาะ สายตาของนางเต็มไปด้วยความดูถูก “องค์หญิงตานรั่ว หม่อมฉันยังต้องอธิบายให้ชัดเจนอีกหรือว่าท่านมีเจตนาอย่างไร?”“ได้ ในเมื่อท่านต้องการใส่ร้ายให้หม่อมฉันแบกรับข้อหาเนรคุณ เพื่อฉินตะวันตกของหม่อมฉัน เพื่อชื่อเสียงและเกียรติของหม่อมฉันเอง เช่นนั้นข้าก็มิอาจให้เกียรติท่านโดยการช่วยท่านปกปิดข้อเท็จจริงได้!”“พวกเรามาพูดกันให้ชัดเจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1030

    เซี่ยโฮ่วตานรั่วโกรธจนตัวสั่น ฝีปากของหลิงอวี๋ช่างฉลาดปราดเปรื่องนักนางกำหมัดแน่น หากตอนนี้ไม่มีคนมากมายอยู่รอบด้าน นางคงจะพุ่งเข้าไปฉีกหลิงอวี๋เป็นชิ้น ๆการจัดการกับคนอย่างหลิงอวี๋ ใช้กำลังไปเลยยังง่ายดายเสียกว่า!“พระชายาอ๋องอี้ เจ้าพูดเก่งเหลือเกิน! แต่หากเราสองไม่มีเรื่องบาดหมางระหว่างกันแล้ว ข้าจะไปผลักเจ้าด้วยเหตุใดเล่า!”เซี่ยโฮ่วตานรั่วรู้สึกว่านางจับได้อีกหนึ่งจุดอ่อนของหลิงอวี๋หลิงอวี๋มองไปที่เซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนรู้สึกงุนงงเล็กน้อย กำลังโต้ตอบกันดี ๆ แท้ ๆ เหตุใดจู่ ๆ ถึงมองมาที่เขาเล่า?ยิ่งไปกว่านั้น แววตาของหลิงอวี๋ดูเหมือน... โกรธเคืองเขา!“องค์หญิงตานรั่ว ท่านเคยได้ยินคำพูดนี้หรือไม่? การต่อสู้ของเหล่าสตรี มีเพียงเหตุผลเดียว นั่นคือบุรุษ!”หลิงอวี๋หรี่ตาลง มองเซี่ยโฮ่วตานรั่วด้วยท่าทีเยาะเย้ย“ครั้งแรกที่องค์หญิงตานรั่วเห็นท่านอ๋องของหม่อมฉัน ท่านถึงกับกล่าวกับท่านอ๋องของหม่อมฉันต่อหน้าธารกำนัล ว่า ‘ข้าคือสตรีเดียวในใต้หล้าที่คู่ควรกับท่าน! ข้าจะเลือกท่านเป็นคู่ครองของข้า!’”“แม้ว่าท่านอ๋องจะอภิเษกแล้วก็สามารถหย่าได้ และอภิเษกใหม่ได้ สตรีสามัญเหล่าน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1031

    “ยิ่งไปกว่านั้น ท่านอ๋องก็ได้กล่าวกับท่านอย่างชัดเจนแล้วว่าชาตินี้จะมิหย่า ดังนั้นหม่อมฉันยิ่งมิจำเป็นต้องเกลียดท่านเลย!”“องค์หญิงตานรั่ว มีเพียงผู้ที่ไร้ความมั่นใจในตนเองเท่านั้นที่คิดพึ่งพาผู้อื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ!”“หม่อมฉันเก่งกว่าท่านมิว่าจะเป็นด้านดนตรี หมากล้อม อักษรศิลป์ และการวาดภาพ นอกจากสถานะองค์หญิงแล้ว ท่านมีสิ่งใดที่ควรค่าให้หม่อมฉันรู้สึกอิจฉาหรือ?”คำพูดของหลิงอวี๋ทำให้นางยิ่งฮึกเหิมและอยู่เหนือกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับความอับอายของเซี่ยโฮ่วตานรั่วในตอนนี้...กลบเกลื่อนความหยิ่งผยองของเซี่ยโฮ่วตานรั่วไปจนหมดสิ้น!อาศัยเพียงโชคชะตาลิขิตถึงได้ถือกำเนิดในราชวงศ์อย่างนั้นหรือ?ทว่านอกเหนือจากฐานะองค์หญิงแล้ว มิว่าจะเป็นอุปนิสัย ความงดงาม หรือแม้แต่การร่ำเรียนวิชา มีอะไรบ้างที่เหนือกว่าหลิงอวี๋?หากเกิดในครอบครัวธรรมดาสามัญ คนเช่นเซี่ยโฮ่วตานรั่วมีสิ่งใดที่น่าภาคภูมิใจกัน?เซี่ยโฮ่วตานรั่วโกรธจนตัวสั่น เมื่อถูกลากมาเหยียดหยามประจานต่อหน้าเซียวหลินเทียน นางเพียงต้องการฉีกใบหน้าที่เปล่งประกายของหลิงอวี๋...นางจ้องไปที่หลิงอวี๋ด้วยสายตาอันมากล้นไปด้วยพิษสงหลิงอว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1032

    พระชายาอ๋องอี้มีหลักฐานอะไรอีกที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเซี่ยโฮ่วตานรั่วโกหกมู่หรงเหยียนซงรู้ว่า องค์ชายหนิงเป็นคนฉลาด เขาชิงกล่าวขอโทษก่อนก็เพราะกลัวว่าคำพูดที่พระชายาอ๋องอี้จะกล่าวต่อไปจะเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของชาวฉีตะวันออกเสียจนมิเหลือชิ้นดีมู่หรงเหยียนซงอยากรู้อยากเห็นยิ่งขึ้นว่า มันคืออะไรกัน?สิ่งที่องค์ชายหนิงและคนอื่น ๆ เห็น เขาเองก็เห็น แต่ไฉนจึงมิพบ?เซียวหลินเทียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่องค์ชายหนิงยอมเป็นฝ่ายขอโทษ กระนั้นเขาก็ยังต้องการดูหลิงอวี๋ตบหน้าเซี่ยโฮ่วตานรั่วต่อไป!สตรีนางนี้กล้าผลักหลิงอวี๋ไปสู่อันตราย นางควรต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดนี้ด้วยซ้ำไปในขณะเดียวกัน เซียวหลินเทียนก็รู้สึกภูมิใจในตัวหลิงอวี๋นางมิจำเป็นต้องพึ่งพาเขา นางสามารถพลิกผันสถานการณ์ได้ด้วยความสามารถของตนเอง“พอได้แล้ว!”องค์ชายหนิงหน้าบูดบึ้ง เอ่ยเสียงดังว่า “ขออภัยพระชายาอ๋องอี้เสีย ข้าและอ๋องอี้กำลังแข่งขันกันอยู่! เจ้าทำให้เราเสียเวลาไปมากแล้ว อย่ามัวทำอะไรที่ไร้เหตุผลอีกเลย!”องค์ชายหนิงพิจารณาจากสิ่งที่หลิงอวี๋พูด กอปรกับความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับเซี่ยโฮ่วตานรั่วในยามปกติ มินานก็พอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1033

    เมื่อได้ยินคำพูดของเซี่ยโฮ่วตานรั่ว เซียวหลินเทียนก็จ้องมองไปทางองค์ชายหนิงด้วยแววตาคมดุจลูกศรเขาหมายปองหลิงอวี๋หรือ?คนผู้นี้บังอาจหมายปองชายาของเขา!องค์ชายหนิงรับรู้ได้ถึงเจตนาสังหารที่เซียวหลินเทียนมีต่อตนในทันที สีหน้ายิ่งหม่นหมองลงเขาเกลียดเซี่ยโฮ่วตานรั่วเข้ากระดูกดำ มิเพียงช่วยเหลือตนมิได้ ยังสร้างเรื่องยุ่งยากโดยมิรู้จักกาลเทศะอีก!“ตานรั่ว เจ้าช่วยตนเองยังทำมิได้! หากเจ้ากล้าเกเรอีก จากนี้ก็อย่าหวังว่าจะให้ข้าช่วยเลย!”องค์ชายหนิงจ้องมองเซี่ยโฮ่วตานรั่วด้วยสายตาเชือดเฉือนชาวฉีตะวันออกที่อยู่รอบข้างต่างก็รู้ดีว่าองค์ชายหนิงมีโทสะจริงแล้วซินจิ้ง หัวหน้านางกำนัลรู้สึกใจหายแทนเซี่ยโฮ่วตานรั่ว นางดึงแขนเซี่ยโฮ่วตานรั่วเบา ๆ เพื่อเตือนให้รู้ตัวทว่าในเวลานี้ เซี่ยโฮ่วตานรั่วมิรับรู้คำเตือนใด ๆนางรู้สึกถึงขนาดว่า แม้แต่ซินจิ้งที่นางไว้ใจและเชื่อใจที่สุดยังทรยศนาง เห็นด้วยกับองค์ชายหนิงและบังคับให้นางต้องยินยอมนางยกมือตบหน้าซินจิ้งอย่างแรง ดวงตาแดงก่ำราวกับสัตว์ในกรงขัง“เพื่อหม่อมฉันหรือ? เสด็จพี่ หากท่านต้องการทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อหม่อมฉัน ท่านย่อมมิบังคับให้หม่อ

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1893

    เมื่อครอบครัวของเจี่ยงหัวกลับมาที่เรือ พวกเขาก็พบศพไร้หัวในห้องของเขา มีคราบเลือดยาวบนผนังไม้ของห้องโดยสาร ซึ่งเป็นประโยคที่ถูกสลักด้วยกระบี่อาบเลือด“จุดจบของคนทรยศ!”ครอบครัวของเจี่ยงหัวตกใจกลัวมากจนสละเรือและหนีไปในคืนนั้นพวกเขามิรู้ว่าที่จริงแล้วเซียวหลินเทียนมิคิดจะเอาผิดพวกเขา ทุกคนควรรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และการสังหารเจี่ยงหัวนั้นก็เพียงพอแล้วเซียวหลินเทียนส่งศีรษะของเจี่ยงหัวให้สือหรง ทันใดนั้นสือหรงก็ร้องไห้เศร้าโศกและนำศีรษะของเจี่ยงหัวไปเซ่นให้กับครอบครัวของตนหลังจากนั้น สือหรงก็กระทำการบางอย่าง เขาเขียนจดหมายเลือดเรื่องที่เจี่ยงหัวสมคบคิดกับมหาปราชญ์สังหารเหล่าศิษย์ของตำหนักปีกเงิน และคัดลอกสำเนาไปหลายสิบฉบับภายในคืนเดียววันรุ่งขึ้น ที่ประตูเมืองในพื้นที่นั้นมีพ่อค้าจำนวนมากกำลังต่อแถวรอเข้าเมือง แล้วก็มีคนพบศีรษะของเจี่ยงหัวที่แขวนอยู่บนกำแพงเมือง และยังมีจดหมายเลือดที่สือหรงเป็นคนเขียน ซึ่งเขียนประณามความผิดของเจี่ยงหัวขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันเรื่องนี้ ก็มีจดหมายเลือดมากมายปลิวลงมาจากกำแพงเมืองทันใดนั้นความผิดฐานทรยศอาจารย์และสมคบคิดกับมหาปราชญ์ของเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1892

    หลังจากได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น หลิงอวี๋ก็คิดว่าเซียวหลินเทียนเป็นปีศาจร้ายที่ก่อกรรมทำชั่วสารพัดและสังหารผู้คนเป็นผักปลาแต่หลิงอวี๋กลับมิรู้เลยว่ามหาปราชญ์เป็นผู้สั่งให้คนบิดเบือนและแพร่กระจายข่าวนี้ออกไปหลังจากที่เขากลับไปถึงเมืองหลวงแดนเทพเซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินนั้นคนหนึ่งทำให้มหาปราชญ์ตาบอด และอีกคนก็ตัดแขนข้างหนึ่งของมหาปราชญ์ มหาปราชญ์จะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้อย่างไรหากเขามิแก้แค้น!เขาทำให้เซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินเสียชื่อเสียงและทำให้ผู้คนทั่วหล้าลุกขึ้นมาโจมตีพวกเขา ส่วนมหาปราชญ์ใช้โอกาสนี้พักฟื้นและหาโอกาสเหมาะเพื่อช่วงชิงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคือ กระบี่คุณอู่ของเซียวหลินเทียนอีกครั้งมหาปราชญ์มิได้บอกใครเกี่ยวกับการค้นพบกระบี่อายุนับพันปีเล่มนี้ ด้วยคิดว่ากระบี่เล่มนี้เป็นของตน จึงมิอยากให้ใครมาแย่งชิงมันไปการแพร่กระจายข่าวลือเป็นหนึ่งในอุบายของมหาปราชญ์ที่ต้องการทำลายชื่อเสียงของเซียวหลินเทียนและป้องกันมิให้เขาพบกับเหล่าศิษย์จากตำหนักปีกเงินซึ่งเป็นไปตามคาดว่าข่าวลือนั้นแพร่กระจายไปยังวงกว้างด้วยความรวดเร็วบรรดาศิษย์ตำหนักปีกเงินบางส่วนที่กระจายอยู่ตามสถาน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1891

    ผู้รอบรู้ซาบซึ้งจนน้ำตาแทบไหล เมื่อไรกันที่เขาได้รับความเชื่อใจจากใครบางคนมากมายถึงเพียงนี้!หลิงอวี๋พูดไปตามตรง “พี่ใหญ่ มีเรื่องบางอย่างที่ตอนนี้ข้ายังบอกท่านมิได้ มิใช่ว่าข้ามิไว้ใจท่าน แต่หากพูดไปแล้วมันอาจสร้างปัญหามากมายให้ท่านได้!”“เชื่อใจข้าเถิด สักวันข้าจะเล่าให้ท่านฟังทุกอย่าง!”ผู้รอบรู้มองตั๋วเงินในมือของตนพลางพูดอย่างใจกว้างว่า “ทุกคนต่างก็มีความลับของตัวเอง หากเจ้ามิอยากพูดก็มิต้องพูดหรอก พี่ใหญ่เชื่อใจเจ้า!”หลิงอวี๋ถึงกับยอมมอบของมีค่าทั้งหมดให้กับตนเช่นนี้ แม้จะมีความลับปิดบังต่อตนผู้รอบรู้ก็ย่อมยอมรับได้ขอแค่เขาเชื่อใจว่าหลิงอวี๋ไม่มีเจตนาร้ายก็พอแล้วสองพี่น้องพักที่โรงเตี๊ยมหนึ่งคืน ต่อมาในวันรุ่งขึ้นที่ฟ้ายังมิสว่าง ผู้รอบรู้ก็รีบรุดไปเช่ารถม้ามาหนึ่งคันโชคดีที่รถม้าเพิ่งส่งผู้โดยสารเพื่อขึ้นเรือไป ผู้รอบรู้จึงได้เช่ารถม้ามาในราคาสิบตำลึงส่วนหลิงอวี๋นั้นเพิ่งตื่น และผู้รอบรู้ก็วิ่งเข้ามาเคาะประตูด้วยความลิงโลด “น้องชาย รีบลุกเถิด พวกเราต้องออกเดินทางแล้ว! รถม้ากำลังรออยู่ข้างนอก”หลิงอวี๋รีบอาบน้ำแต่งตัวและแบกห่อผ้าของตนออกมา ผู้รอบรู้ยัดถุงกระดาษไขใบห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1890

    ผู้รอบรู้พูดมิออกแล้ว หลิงอวี๋มิรู้อะไรเลย แล้วจะจ่ายยาที่ถูกต้องได้อย่างไร!“พี่สิง ข้าอยากรู้มากว่าท่านรู้เรื่องมากมายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าผู้รอบรู้ลำบากใจ นางจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ก่อนหน้านี้ท่านเคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวงแดนเทพหรือ?”ใบหน้าของผู้รอบรู้กระตุก เขาหันมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจพวกเขา จึงเอ่ยขึ้นมา “ข้าจะพูดกับเจ้าตามตรง เมื่อก่อนข้าเป็นคนของตำหนักปีกเงิน ข้าเป็นคนของเจี่ยงฮั๋วผู้พิทักษ์ฝ่ายขวา เมื่อสองปีก่อนข้าทำงานพลาดไป ทำให้เจี่ยงฮั๋วโกรธ เขาจึงไล่ข้าออกจากตำหนักปีกเงิน!”“ก่อนหน้านี้ข้าก็ยังคิดจะหาโอกาสขอพบท่านเจ้าตำหนักเก่า แล้วกลับไปที่ตำหนักปีกเงินอีกครั้ง แต่ตอนนี้ตำหนักปีกเงินเสื่อมโทรมลงไปแล้ว ได้ยินว่าเจ้าตำหนักเก่าป่วยหนักและมิรับงานแล้ว ข้าจึงได้เร่ร่อนอยู่ข้างนอกตลอดเช่นนี้!”“คนที่ออกมาจากตำหนักปีกเงินล้วนเก่งในการสืบหาข้อมูล แม้ว่าข้าจะออกจากตำหนักปีกเงินไปแล้ว แต่ข้าก็เคยชินกับสัญชาตญาณนี้ ดังนั้นข้าจึงใส่ใจกับข้อมูลแต่ละประเภทมาก อยากจะรู้มากแค่ไหนก็มิยาก!”หลิงอวี๋จึงได้รู้ว่าผู้รอบรู้ก็เป็นคนที่มีภูมิหลังเช่นก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status