Share

บทที่ 84

Author: ฉินอันอัน
เขาทำท่าทางหนึ่ง และมองชีเจิ้นอย่างเย็นชา “เข้าใจหรือไม่?”

ชีเจิ้นแข็งทื่อไปทั้งตัว และตอบรับอย่างหนักแน่น

ค่ำคืนที่มืดมนและลมแรง ชีจิ่นชุกตัวอยู่มุมห้อง เหมือนกับสัตว์ร้ายตัวน้อยที่สิ้นหวังตัวหนึ่ง

ด้านข้างนาง เป็นอวิ๋นเยี่ยนกับสาวใช้อีกหลายที่คนนอนอยู่ เวลานี้ล้วนเสียชีวิตหมดแล้ว ร่างกายแข็งทื่อ และใบหน้าเริ่มมีรอยช้ำไต่ขึ้นไปแล้ว

ลมพัดมาทีหนึ่ง เปลวเทียนก็ถูกพัดจนสั่นไหว ต้นไม้ที่อยู่นอกหน้าต่างพัดตีหน้าต่างเสียงดังปัง และเงาต้นไม้ที่แปลกประหลาดเหล่านั้นก็สะท้อนอยู่บนหน้าต่าง เล่นเอานางตกใจจนแทบขวัญหนีดีฝ่อ

นางทนไม่ไหวจจึงกอดห่อผ้าและร้องไห้เสียงดัง

สิ่งเลวร้ายที่สุดที่นางทำในชีวิตนี้ มีเพียงแค่คิดจะทำลายความบริสุทธิ์ของชีหยวน และยุยงให้ชีอวิ๋นถิงจัดการกับชีหยวนเท่านั้น

แต่ไม่เคยฆ่าคนด้วยมือตนเองเลย

ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้มันเกินขอบเขตความสามารถที่นางจะรับมือได้แล้ว

ประตูถูกถีบจนเกิดเสียงดังปัง จากนั้นก็มีคนถือคบเพลิงบุกเข้ามา

ทันใดนั้นภายในห้องก็ส่องสว่างราวกับกลางวันแสก ๆ

ชีจิ่นตกใจมากจนเด้งตัวลุกขึ้นยืน และมองไปทางผู้ที่มาด้วยความหวาดกลัว

ภายใต้แสงไฟสาดส่อง
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 85

    นางรู้สึกว่าตนเองวิงเวียนศีรษะเล็กน้อยอ๋องฉีรู้เรื่องของตระกูลชีอย่างแจ่มชัดได้เช่นไรกัน?หากเป็นเมื่อก่อน นางอาจจะภาคภูมิใจในตนเอง และรู้สึกว่าตนเองมีเสน่ห์อย่างยิ่ง ถึงดึงดูดให้อ๋องฉีก้มหัว และพยายามอย่างมากเพื่อนางเช่นนี้แต่เรื่องที่ประสบในช่วงนี้ ทำให้นางไม่สามารถใสซื่อและมั่นใจในตนเองเช่นนี้ได้อีกต่อไปโดยเฉพาะ อ๋องฉีในตอนนี้ แตกต่างจากอ๋องฉีที่นางเคยรู้จักอย่างสิ้นเชิงอ๋องฉีในเมื่อก่อนเป็นองค์ชายที่ถ่อมตัว แต่อ๋องฉีในตอนนี้มองดูแล้วยิ่งเหมือนกับ...คนหน้าเนื้อใจเสือเสียมากกว่าและดูเหมือนว่าอีกไม่นานก็จะดึงมีดออกมาฆ่าคนได้เลยสมองของนางหมุนอย่างรวดเร็ว และกำชายเสื้อของตนเองไว้แน่นพลางมองอ๋องฉี “ฝ่า ฝ่าบาทเหตุใด เหตุใดถึงรู้เรื่องของชีหยวนได้เจ้าค่ะ?”อ๋องฉีโน้มตัวไปบีบแก้มของนางเบา ๆ จากนั้นก็ยิ้มหัวเราะอย่างเย้ยหยันและทั้งดูถูก จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ รับดาบสั้นที่ผู้ติดตามมอบให้อย่างเชื่องช้า และหยิบผ้ามาเช็ดเบา ๆ “ชีหยวน? เจ้าเรียกนางว่าชีหยวนหรือ? ข้านึกว่า เจ้าจะเรียกนาง ว่าสวี่อินอินเสียอีก”ทันทีที่พูดสวี่อินอินสามคำนี้ออกมา ใบหน้าของชิจิ่นก็ไร้สีอย่างสิ้นเชิง ความ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 86

    อ๋องฉีได้หมุนตัวออกจากประตูไปแล้ว เขาดมมือของตนอย่างรังเกียจไม่ว่าจะใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดอย่างไร กลิ่นคาวเลือดก็ยังค้างติดอยู่ที่ปลายจมูก เขาแค่นเสียงทีหนึ่ง “หานเยว่เอ๋อร์ส่งข่าวกลับมาหรือยัง?”ขันทีสวีส่ายศีรษะ “ยามนี้ยังไม่มีพ่ะย่ะค่ะ แต่อาจเป็นเพราะพวกเราออกมาแล้ว จึงยังไม่ได้รับข่าวที่คุณหนูหานส่งมาพ่ะย่ะค่ะ”อ๋องฉีพยักหน้า เลิกคิ้วพลางคลึงดวงตาที่รู้สึกปวดเล็กน้อยขันทีสวีถามเขาว่า “ท่านอ๋อง ใช่รู้สึกไม่ค่อยสบายหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? ช่วงนี้มักทรงรู้สึกปวดหัว จะเรียกหมอมาดูหน่อยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ช่วงนี้สุขภาพของอ๋องฉีไม่ค่อยดีนักมาตลอด เริ่มแรกมีไข้ขึ้นไม่หยุด ภายหลังยังมีอาการพูดเพ้อด้วย รอจนได้สติขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ อ๋องฉีก็ราวเปลี่ยนเป็นคนละคนขันทีสวีเป็นคนเก่าแก่ที่รับใช้เขามาตั้งแต่เด็กแล้ว ทว่าช่วงนี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอ๋องฉี ก็ยังรู้สึกราวกับตนกำลังปรนนิบัตินายคนใหม่อยู่นอกจากนี้ หลังจากที่อ๋องฉีฟื้นขึ้นมา ก็ให้พวกเขาไปสืบเรื่องของตระกูลชีแม้ก่อนหน้านี้องค์ชายจะให้ความสนใจต่อตระกูลชีมาก แต่ที่เมื่อก่อนองค์ชายทรงสนใจตระกูลชีก็เป็นเพราะเรื่องนั้น มิใช่เพราะเด็กสาวผู

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 87

    นางหวังที่เกิดความขัดแย้งกับชีหยวน จากไปอย่างไม่สบอารมณ์ในยามที่กลับไปถึงห้องนั้น อารมณ์โกรธก็ยังคงคุกรุ่นพอดีกับที่หานเยว่เอ๋อร์มาหานาง และรออยู่ที่เรือนของนางโดยตลอด เมื่อเห็นนาง ก็รีบยอบกายคารวะทันทีเมื่อเห็นหานเยว่เอ๋อร์ ความโมโหของนางหวังจึงสงบลงเล็กน้อย นางฝืนยิ้มออกมาบางๆ “เป็นเยว่เอ๋อร์หรือ เหตุใดจึงมาที่นี่เล่า?”กองทัพให้ความสำคัญต่อมิตรภาพของสหายในกอง เมื่อก่อนบิดาของหานเยว่เอ๋อร์เคยช่วยชีเจิ้นไว้ดังนั้น หลังจากที่ชีเจิ้นรับปากคำสั่งเสีย รับทายาทของผู้ที่จากไปมาดูแล ก็ให้ความสำคัญต่อหานเยว่เอ๋อร์เป็นอย่างมากแต่ไรมานางหวังก็เชื่อฟังสามีตนมาโดยตลอด เมื่อสามีให้ความสำคัญกับหลานสาว นางก็ย่อมใส่ใจอย่างมากเช่นกันรวมกับที่หานเยว่เอ๋อร์ก็เชื่อฟังว่าง่ายจริงๆ ไม่เคยเรื่องมากมาก่อน ความสัมพันธ์กับบรรดาเด็กในบ้านก็ไม่เลว ดังนั้นนางหวังจึงมีความรู้สึกที่แท้จริงต่อนางอยู่บ้างเวลานี้ หานเยว่เอ๋อร์กำลังมองไปที่นางหวัง แล้วกล่าวเสียงเบาว่า “ช่วงนี้ท่านป้าดูซูบผอมลงไม่น้อยเลยเจ้าค่ะ”แม้แต่เด็กที่เพิ่งเข้ามาอยู่ระหว่างทางก็ยังมองออกว่าช่วงนี้อารมณ์ของตนไม่ดีนัก แต่ชีหยวน ยัยเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 88

    เกาเจียมองสีหน้าของนาง “ฮูหยิน ท่านยังคงต้องหาวิธีปลอบคุณชายใหญ่ ยามนี้ เขายังเอาแต่คิดถึงคุณหนูรองไม่วางเลยเจ้าค่ะ…”ทุกครั้งที่มีคนไปใส่ยาให้ชีอวิ๋นถิง ชีอวิ๋นถิงล้วนถามถึงที่อยู่ของชีจิ่น ถามไปก็ด่าไปแถมยังกล่าวคำพูดประเภทที่ว่าไม่มีทางให้ชีหยวนได้เป็นสุขออกมาด้วยทว่ายามนี้ เกาเจียถือว่าเห็นได้อย่างชัดเจนแล้ว เกรงว่าฐานะของชีหยวนในบ้านตอนนี้คงจะมั่นคงยิ่งและตัวของชีหยวนเองก็มีความสามารถ นางสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงก่อนหน้านี้ แม้แต่ชีอวิ๋นถิงรวมกับชีจิ่นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง แล้วนับประสาอะไรกับตอนนี้ที่ไม่มีชีจิ่นแล้วหากเขาทำตัวเป็นปรปักษ์กับชีหยวนจริง เกรงว่าสุดท้ายผู้ที่จะโชคร้ายเขาเอง!นางหวังโมโหจนเขวี้ยงถ้วยชาที่อยู่ด้านข้างจนแตกแล้วเวรกรรมจริงๆ!เจ้าลูกเวรคนนี้ยิ่งทำให้คนปวดหัว!เหตุใดเขาถึงไม่รู้จักคิดถึงลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ มั่งนะ?หากยังก่อเรื่องเช่นนี้ ท่านโหวผู้เฒ่าและฮูหยินผู้เฒ่าไม่มีทางปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจแน่!นางหวังโมโหจนลุกยืนขึ้นมา แม้แต่ฝีเท้าก็ซวนเซอยู่บ้างแล้ว “ข้าจะไปดูเขา!”หานเยว่เอ๋อร์ยืนอยู่บนพื้นหินปูนด้านหลังภูเขาจำลอง เมื

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 89

    เมื่ออ๋องฉีนึกถึงเรื่องที่ ชีจิ่นยั่วยวนชีอวิ๋นถิงแล้วถูกเซี่ยงหรงพบเข้าจนกลายเป็นเรื่องขายหน้า จึงถูกตระกูลชีสละทิ้ง ก็อดเลิกคิ้วไม่ได้ช่างบังเอิญเสียเหลือเกินไม่ ว่าไปแล้วเรื่องนี้ยังเป็นชีหยวนที่ช่วยส่งเสริมด้วยเขานั่งกลับไปบนเก้าอี้เชียนหยี่ [1] ถามเสียงหนักว่า “จากนั้นล่ะ?”สวีถงโจวกลืนน้ำลายอย่างประหม่าเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงที่ลดเบาลงว่า “กระหม่อม กระหม่อมได้ยินว่า ในวันที่ตระกูลเซี่ยงเชิญคณะงิ้วไปร้องที่จวน จิ้งอ๋องจับนักฆ่าได้ผู้หนึ่งพ่ะย่ะค่ะ”นักฆ่าที่พูดถึงคนนี้ ก็น่าจะเป็นคนที่เคลื่อนย้ายสมุดบัญชีไปแล้วสีหน้าของอ๋องฉีแปรเปลี่ยนหลายครั้ง น้ำเสียงก็ไม่มั่นคงเช่นกัน “ความหมายของพวกเจ้าคือ จัดการไปตั้งนาน หลักฐานคดีทุจริตการขนส่งทางน้ำ สุดท้ายยังคงตกไปอยู่ในมือของเซียวอวิ๋นถิง?!”ครั้งนี้มิใช่เพียงสวีถงโจวที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ทว่า แม้แต่ขันทีสวีและคนอื่นๆ ก็คุกเข่าลงกับพื้นเช่นกันสวีถงโจวแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว เขาที่คุกเข่าอยู่บนพื้นโขกศีรษะอย่างแรงอีกหลายครั้ง เสียงดังจนขันทีสวีที่คุกเข่าอยู่ด้านข้างอดสูดหายใจลึกในใจไม่ได้แต่เขาก็มิได้รู้สึกว่ามีสิ่งใดผิดแม้แต่น

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 90

    เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อย รอคอยคำสั่งจากอ๋องฉีผ่านไปครู่หนึ่ง อ๋องฉีจึงกล่าวออกมาช้าๆ ว่า “ต้าปั้น เจ้าให้คนไปสักรอบ ช่วยข้าส่งคำพูดไปตอบหานเยว่เอ๋อร์ประโยคหนึ่ง”ขันทีสวีรับคำอย่างไม่ลังเลขอบฟ้าทอแสงสีขาวออกมา เห็นได้ว่าฟ้ากำลังจะสว่างแล้วหานเยว่เอ๋อร์สวมเสื้อคลุมกันลมเข้าไปในเรือนของชีอวิ๋นถิงชีอวิ๋นถิงยังนอนอยู่บนเตียง เพราะเขาบาดเจ็บค่อนข้างหนัก บาดแผลจึงเจ็บปวดอย่างมาก ทำให้ได้แต่พักรักษาตัวอยู่บนเตียงชั่วคราวเนื่องจากบาดเจ็บสาหัส อารมณ์ของเขาจึงเป็นหงุดหงิดเป็นพิเศษ หลายวันมานี้ เมื่อลืมตาได้ก็ด่าทอคนในตอนที่หานเยว่เอ๋อร์เข้าไป ก็ได้ยินชีอวิ๋นถิงกำลังพูดไปด่าไปข้ารับใช้ในเรือนต่างเงียบกริบราวจักจั่นในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เกรงว่าจะถูกเขาจับผิดนางเดินเข้าไปพลางส่งเสียงหัวเราะออกมาทีหนึ่ง “บาดแผลของพี่ชายใหญ่คงเจ็บปวดมากกระมัง? ยังไม่ทันเข้าประตูมาก็ได้ยินเสียงท่านว่าคนแล้ว”เมื่อเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นว่าเป็นหานเยว่เอ๋อร์ สีหน้าของชีอวิ๋นถิงก็อ่อนลงไม่น้อยเขาดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมไว้อย่างไม่สะดวกใจอยู่บ้าง “เจ้ามาทำไมกัน?”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หานเยว่เอ๋อร์ก็หยิบผ้าเช็ดหน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 91

    แม้อากาศจะยังคงหนาวอยู่ ทว่าวันนี้ ท้องฟ้ากระจ่างสดใส มีแสงอาทิตย์เฉิดฉายออกมา ส่องผ่านร่มไม้ลงมาต้องเรือนจนเกิดประกายทองระยิบระยับไป๋จื่อและไป๋อินรีดเสื้อผ้าของชีหยวนไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ยามนี้กำลังสวมลงบนตัวนาง เมื่อเห็นนางงดงามเจิดจรัส ก็ต่างยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้เหลียนเฉียวมองนางด้วยดวงตาเปล่งประกาย “คุณหนูช่างงดงามเหลือเกินเจ้าค่ะ!”ชีหยวนก็เหลือบมองกระจกคราหนึ่งเช่นกัน เวลานี้ คนในกระจกก็กำลังมองมาที่นาง ดวงตาสบประสาน จากนั้นนางก็ได้ยินเสียงของหานเยว่เอ๋อร์ดังมา “พี่หญิงใหญ่ ท่านเตรียมการเสร็จแล้วหรือไม่?”คนของบ้านรองและบ้านสามต่างเป็นพวกระมัดระวัง การที่ชีจิ่นป่วยเป็น ‘โรคร้าย’ แล้วถูกย้ายออกจากจวนอย่างแปลกประหลาด แล้วตระกูลเซี่ยงยังส่งคนมาถอนหมั้นอีกทำให้แม้วันนี้จะเป็นวันเลี้ยงรับญาติ เหล่าคุณชายและคุณหนูทางนั้น จึงมิได้มาสอบถามสิ่งใดกับชีหยวนก่อนเวลาเมื่อเปรียบกันแล้ว หานเยว่เอ๋อร์ก็ออกจะมาเยือนอย่างกระตือรือร้นไปหน่อยแล้วทว่า ชีหยวนมิได้แสดงสิ่งใดออกมาเลย เมื่อเห็นนางมาโดยมิได้รับเชิญ ก็ทำเพียงยิ้มออกมา “วันนี้น้องเยว่เอ๋อร์มาเร็วทีเดียว”หานเยว่เอ๋อร์ตบหลั

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 92

    เหลียนเฉียวรีบรับคำทันทีชีหยวนปฏิบัติต่อข้ารับใช้แตกต่างจากผู้อื่น ดังนั้นตั้งแต่บนลงล่างล้วนเชื่อฟังนางโดยเฉพาะเหลียนเฉียวที่ถือกำเนิดจากบ่าวรับใช้ในตระกูล ยามสืบข่าวในจวน ก็ไม่มีผู้ใดหัวไวกว่านางแล้วแม่นมเสิ่นปรนนิบัติรับใช้ชีหยวนด้วยรอยยิ้ม ขณะเดินทางไปที่เรือนของนางหวังขณะนี้ นางหวังเริ่มรู้สึกประหม่ากังวลขึ้นมาบ้างแล้ว ดังนั้นหนนี้ นางจึงมีความอดทนเพิ่มเป็นพิเศษหลายส่วน นางมองชีหยวนพลางกำชับว่า “อีกครู่เมื่อแขกเหรื่อมาถึงแล้ว ข้าจะต้อนรับแขกสตรีพวกนั้น ส่วนบรรดาพี่น้องสตรีที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้า ก็ต้องให้เจ้าเป็นผู้พาไปเที่ยวเล่นในสวนดอกไม้แล้ว เข้าใจหรือไม่?”ผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงรับญาติ ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายที่มีไมตรีต่อกันดังนั้น ย่อมไม่อาจนั่งเฉย ชมพิธีรับญาติอย่างไร้รสชาติแน่นอนว่าต้องมีการดูงิ้ว รับประทานอาหาร จึงจะถือเป็นท่าทางของการเชิญแขกมางานรับญาติแม้นางหวังจะมิพึงใจในตัวชีหยวน แต่ก็เกรงว่าเรื่องนี้จะเกิดเหตุไม่คาดฝันใดขึ้นมาอีก ถึงเวลานั้น ก็ยากจะอธิบายต่อทางชีเจิ้น ท่านโหวผู้เฒ่า และฮูหยินผู้เฒ่าแล้วชีหยวนก็มิได้ขัดนางหวัง ครั้งนี้ นางรับปาก

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 192  

    นางไม่พูดมากไปกว่านี้แล้ว เพียงแต่บอกให้พวกชีเจิ้นและท่านโหวผู้เฒ่าวางใจ มีลูกหลานที่มีความสามารถเก่งกาจเกินไปก็มิใช่เรื่องน่ายินดีอะไรนัก เพราะเมื่อใดที่เราอยากเป็นผู้ตัดสินใจบ้างก็เป็นเรื่องที่ยากมากเกินไปจริง ๆ ทั้งท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้นต่างไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี หนนี้กลับเป็นฮูหยินผู้เฒ่าที่รู้สึกยินดีอย่างถึงที่สุด: “ให้น้าสะใภ้รองของเจ้าพาเจ้าไปสิ! ข้าจะให้คนไปตัดอาภรณ์ชุดใหม่มาให้เจ้า เมื่อถึงยามนั้นเจ้าจงเที่ยวเล่นให้เบิกบานใจ” เที่ยวเล่นให้เบิกบานใจ… ชีเจิ้นคล้ายจะเอ่ยบางอย่างแต่ชะงักไป ชีหยวนกลับผุดยิ้มพลางกล่าวขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่าชี จากนั้นก็หยัดกายขึ้นและกลับไปที่หอหมิงเยว่ ครั้นกลับมาถึงหอหมิงเยว่ เหลียนเฉียวมารออยู่หน้าประตูเรือนได้พักหนึ่งแล้ว เมื่อเห็นนางก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ก่อนจะสืบเท้าเดินเข้าไปหาอย่างรีบร้อน: “คุณหนู ท่านกลับมาแล้ว!” จากนั้นก็กดเสียงลงเอ่ยว่า: “ท่านอ๋องอยู่ด้านในเจ้าค่ะ” นางแทบจะตกใจตายให้ได้เลยจริง ๆ ก่อนหน้าตอนที่นางเข้าไปในห้อง ครั้นเห็นเซียวอวิ๋นถิงนั่งอยู่ข้างหน้าต่างในตอนนั้น ก็เกือบจะตกใจตายแล้ว ช่วงนี้มันอย่าง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 191  

    ครั้นได้รับเทียบเชิญ คนทั้งตระกูลชีต่างรู้สึกประหลาดใจและไม่มั่นใจเล็กน้อย สาเหตุเพราะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นในสกุลโจว ดังนั้นระยะนี้ชีฟางอวิ๋นจึงต้องพำนักอยู่ที่เรือนมารดามาตลอด พอได้ยินข่าวนี้ก็เผลอมองชีหยวนหลายครั้งอย่างอดไม่ได้ จากนั้นก็แอบกระซิบถามฮูหยินผู้เฒ่าชีว่า: “ท่านแม่ พี่หยวนนางเป็น…” เป็นใครมาจากไหนกันแน่? เรื่องที่ทำไมตอนนี้ทุกคนในตระกูลชีถึงยอมรับกลาย ๆ ว่านางเป็นผู้นำบังไม่เท่าไร ทว่าเหตุใดแม้กระทั่งบรรดาบุคคลผู้มีชื่อเสียงนอกเรือนยังพากันให้ความสำคัญกับนางมากถึงเพียงนี้อีก? งานแข่งตีคลีของจวนอ๋องโจว ใช่ว่าจวนหย่งผิงโหวจะไม่เคยได้รับเทียบเชิญมาก่อนเสียเมื่อไร ทว่าแต่ไหนแต่ไรมา ก็ไม่เคยระบุเจาะจงชัดเจนว่าเชิญผู้ใดอย่างเช่นตอนนี้ แบบนี้จะไม่แปลกเกินไปหน่อยหรือ? ชีหยวนเพิ่งจะกลับมาได้เพียงไม่นาน ตระกูลบุญหนักศักดิ์ใหญ่ในเมืองหลวงมีใครบ้างเกรงว่ายังรู้จักไม่ครบเสียด้วยซ้ำไป นับดูให้ดีแล้วที่ออกไปเยี่ยมเยียนเป็นแขกก็มีเพียงตระกูลเซี่ยงตระกูลเดียวเท่านั้น มิหนำซ้ำยังเป็นการไปที่มิใช่เรื่องน่ายินดี แวะไปเพียงครู่เดียวก็กลับแล้ว จวนอ๋องโจวมีเหตุผลใดถึงต้องเจาะจ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 190

    เมื่อเห็นเช่นนี้ ฮูหยินใหญ่หลิ่วก็โกรธจัด: “งานแข่งตีคลีของจวนอ๋องโจว เจ้าไม่ต้องไป!”หลิ่วหมิงจูกังวลใจทันที: “ทำไมล่ะ?! ข้าเตรียมตัวมาครึ่งปีแล้ว ข้าต้องไปให้ได้!”ทุกปีในฤดูหนาว นอกจากงานชุมนุมดอกไม้ของบรรดาจวนขุนนางแล้ว งานแข่งตีคลีของจวนอ๋องโจว เป็นงานที่ผู้คนในเมืองหลวงเฝ้ารอมากที่สุดราชวงศ์นี้ยกย่องทักษะด้านการต่อสู้ ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ฮ่องเต้หย่งชางยังเป็นอ๋องอยู่ พระองค์ก็โปรดปรานการเล่นตีคลีอย่างมาก นายว่าขี้ข้าพลอย หลังจากขึ้นครองราชย์แล้ว บรรดาอ๋องทั้งหลายก็เล่นตีคลีคล้อยตามพระองค์ การแข่งตีคลีจึงกลายเป็นกระแสนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นสูงหญิงชาย การได้แสดงฝีมือและโดดเด่นในสนามแข่งของจวนอ๋องโจวถือเป็นความภาคภูมิใจที่สุดหลิ่วหมิงจูเริ่มฝึกขี่ม้าตั้งแต่อายุสิบสองปี และฝึกฝนการเล่นตีคลีมาโดยตลอด ทว่าสองปีที่ผ่านมา นางยังอายุน้อย จึงได้เล่นอย่างไม่เต็มที่ เป็นแค่ตัวสำรอง ปีนี้นางรอคอยมานานจนกระทั่งอายุครบวัยปักปิ่น และนางยังได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมในกลุ่มบุตรสาวขุนนาง นางจะพลาดงานนี้ไปได้อย่างไร?ฮูหยินใหญ่หลิ่วกำลังจะพูดต่อ แต่หลิ่วจิง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 189

    หลิ่วจิงหงพยักหน้า ยิ้มพร้อมกล่าวให้บิดาของตนวางใจ: “ลูกมีแผนการในใจแล้วขอรับ”ต่างจากลูกหลานขุนนางทั่วไป ส่วนใหญ่พอรุ่นที่สองก็มักอาศัยเกียรติยศของบรรพบุรุษกินสมบัติเก่า แต่สำหรับหลิ่วจิงหง เขายืนหยัดอยู่ในแวดวงขุนนางด้วยความสามารถของตนเองตระกูลหลิ่วของพวกเขาเป็นขุนนาง และยังเป็นพระญาติชั้นนอก เพราะเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยได้รับความโปรดปรานอย่างมาก สถานะของตระกูลหลิ่วจึงสูงส่งยิ่งขึ้นกล่าวโดยทั่วไปแล้ว ตำแหน่งขุนนางที่ได้มาจากพระมาหกรุณาธิคุณ ล้วนใช้คำว่าเฉิงเอิน (รับพระมหากรุณาธิคุณ) เป็นคำนำหน้าตำแหน่ง เช่น ตระกูลของฮองเฮาเฝิงก็มีตำแหน่ง “เฉิงเอินโหว”แต่ตระกูลหลิ่วกลับได้เป็นจวนฉู่กั๋วกง สาเหตุหนึ่งมาจากพระสนมหลิ่วได้รับความโปรดปรานอย่างมาก และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือเพราะความสามารถของหลิ่วจิงหงเอง หลิ่วจิงหงเป็นคนมีพรสวรรค์ เขาสามารถทำดินปืนได้ ในอดีตเมื่อครั้งอยู่ฝูเจี้ยน เขาเติบโตเข้าออกจวนอ๋อง เรียกอ๋องหมิ่น ซึ่งก็คือฮ่องเต้หย่งชางในปัจจุบันว่า “พี่เขย” ตั้งแต่เด็กเรียกได้ว่าหลิ่วจิงหงมีทั้งความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น กับฮ่องเต้หย่งชาง และความสามารถอันโดดเด่นดังนั้น ตอนนี้เขาจ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 188

    เมื่อเขาเดินออกไป คนเฝ้าประตูก็เข้าไปรายงานท่านผู้เฒ่าหลิ่วทำเสียงฮึดฮัด: “ไร้ประโยชน์สิ้นดี มีแต่ทำเรื่องเสียหาย! เจ้าเองก็เถอะ ไฉนถึงเลียนแบบสตรีไปได้?”คนที่เขาหมายถึงย่อมไม่พ้นบุตรชายของตน ผู้สืบทอดของจวนฉู่กั๋วก๋ง หลิ่วจิงหงหลิ่วจิงหงหัวเราะเบาๆ นั่งอยู่ตรงข้ามเขาอย่างสง่างาม: “ก็คิดว่าอย่างไรเสียก็เป็นคนเคยใช้งานมาก่อน อีกอย่างเขาก็เป็นญาติเกี่ยวดองกับจวนหย่งผิงโหว เลยช่วยพูดแทนสักสองสามคำ ใครจะไปรู้ว่าเขาจะไร้ความสามารถเพียงนี้?”ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถสร้างปัญหาให้จวนหย่งผิงโหวได้ ยังทำอะไรตระกูลชีไม่ได้เลยสักนิด ซ้ำร้ายยังทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนเสียอีกท่านผู้เฒ่าหลิ่วสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี: “เจ้าต้องระวังให้มาก คนประเภทนี้ พบเจอเรื่องราวมามากจึงไม่กลัวอะไรทั้งนั้น หากตระกูลโจวเกิดเรื่องขึ้นจริง ก็จะพูดอะไรไม่ควรพูดออกมา”นี่คือกำลังเตือนเขาถึงเรื่องราวในตอนนั้นหลิ่วจิงหงเข้าใจดี ยื่นมือรินน้ำชาให้ท่านผู้เฒ่า: “ท่านก็วางใจเถิด ลูกไม่ใช่คนโง่เยี่ยงนั้น เขาไม่มีโอกาสอีกแล้ว”กล่าวจบก็หัวเราะเยาะ: “พูดไปท่านอาจไม่เชื่อ ไอ้คนโง่นี่ ตอนเราปูทางให้เข้าไปทำงานในกรมทหารม้าในตอน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 187

    โจวผิงหนวดเครารุงรัง เห็นได้ชัดว่าช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้เขายุ่งจนแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเองเมื่อได้ยินคำพูดของนายท่านรองโจว เขาจึงได้สติและหันมาถามด้วยความหวัง: “อารอง ท่านกลับมาแล้ว ทางนั้นว่าอย่างไรบ้าง?”ว่าอย่างไรงั้นหรือ?นายท่านรองโจวมองเขาแล้วก็ยิ่งขุ่นเคือง: “จะว่าอย่างไรได้อีก? เรื่องนี้พวกเจ้าทำเกินไปแล้ว!”บาดแผลบนหน้าผากของชีฟางอวิ๋นเขาเห็นมากับตา ตอนนี้ถึงแม้จะถูกพันแผลไว้อย่างเรียบร้อย แต่ก็ยังดูน่าสยดสยอง แสดงว่าตอนนั้นคงบาดเจ็บหนักไม่น้อยท่านหญิงโจวตอนสาวๆ ก็ชอบตีลูกหลานอยู่แล้ว ไม่คิดว่าพอแก่ตัวลงนิสัยก็ยังไม่เปลี่ยน ตีแรงเกินเหตุเช่นนี้อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็เป็นถึงคุณหนูจากจวนโหว นี่ไม่เท่ากับหาเรื่องเป็นศัตรูกับตระกูลโหวอย่างชัดเจนหรือ?สีหน้าของโจวผิงเคร่งขรึมลงทันทีเขาอดไม่ได้ที่โกรธเดือดดาล: “ทั้งหมดเป็นเพราะหญิงชั่วคนนั้น! ถ้าไม่ใช่เพราะนาง เรื่องคงไม่วุ่นวายถึงขนาดนี้!”……นายท่านรองโจวไม่อาจพูดอะไรได้มากกว่านี้ ได้แต่ถามกลับไปว่า: “ตอนนี้พูดเรื่องพวกนี้ไปก็ไร้ประโยชน์ แล้วเจ้าคิดจะทำอย่างไรต่อ? เรื่องนี้มันใหญ่โตเกินไปแล้ว…...”หากเป็นคนอื่นทำลายซุ้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 186

    ไฉนถึงกลายเป็นเยี่ยงนี้ไปได้?หญิงชั้นต่ำที่กลับมาจากบ้านนอกนั่น เดิมทีนางเป็นเพียงคนไร้ความสำคัญ เดิมทีนางควรจะอยู่อย่างเงียบๆ ในมุมหนึ่งของจวนโหว หรือไม่ก็ไปใช้ชีวิตอยู่ที่เรือนนอกเมืองจนหมดอายุขัยแต่ทำไมตอนนี้กลับกลายเป็นว่านางได้รับความโปรดปรานในจวนโหว?ชีอวิ๋นถิงจ้องมองไปทางหอหมิงเยว่ด้วยสายตาลึกล้ำ ก่อนจะหมุนตัวรีบเดินไปที่โรงม้าจูงม้าออกจากจวนอย่างรวดเร็วรุ่ยซงไม่กล้าที่จะหละหลวมติดตามเขาอยู่ด้านหลัง: “คุณชาย! คุณชายรอข้าด้วย! คุณชาย ท่านจะไปไหนกันแน่?”ไปไหนงั้นรึ?ชีอวิ๋นถิงลดเสียงลงต่ำ: “ข้าจะออกนอกเมือง!”ออกนอกเมือง?รุ่ยซงสับสนงงงวย: “คุณชาย! ท่าน ท่านเพิ่งจะหายจากอาการบาดเจ็บเองนะขอรับ! ฮูหยินก็ยังป่วยอยู่ ท่านอย่าไปทำให้ท่านโหวพวกท่านโกรธเลยนะขอรับ!”“ไร้สาระ!” ชีอวิ๋นถิงเตะเขา: “ที่นี่ไม่มีสิทธิ์ให้เจ้ามายุ่ง! ถ้าเจ้าไม่อยากตามไป ก็ไสหัวไป!”รุ่ยซงที่โดนเตะจนเหมือนกุ้งตัวงอ นอนกองอยู่กับพื้นเกือบสลบ แต่ชีอวิ๋นถิงกลับไม่สนใจ หมุนตัวก็กระโดดขึ้นหลังม้าทันทีเห็นเช่นนี้ รุ่ยซงฝืนความเจ็บรีบลุกขึ้นติดตามเขา และควบม้าตามหลังไปอย่างเร็วพลันในฐานะบ่าวรับใช้อย่าง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 185

    ท่านโหวผู้เฒ่ากุมมือของชีเจิ้นไว้ ไม่รอให้ชีเจิ้นตอบ ก็เอ่ยถามขึ้นเองก่อนว่า: “อาหยวน เจ้ามั่นใจมากน้อยเท่าไร?”เขาจ้องมองชีหยวนอย่างลึกซึ้ง คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเสริมขึ้นว่า: “ข้าหมายถึง หากต้องกำจัดอ๋องฉี เจ้ามั่นใจมากเท่าไร?”ชีเจิ้นมองชีหยวนด้วยความกังวลเขารู้สึกว่านี่เป็นคำถามที่ตอบยากยิ่ง ท้ายที่สุดแล้วการจะกำจัดอ๋องฉีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้แต่สำหรับชีหยวนเอง ก็เกรงว่าจะต้องใช้วิธีวางหมากซ้อนหมาก สุดท้ายจะสามารถทำได้ถึงขั้นไหน ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ความสามารถของคน แต่ยังต้องอาศัยโอกาสและจังหวะเวลาที่เหมาะสมอีกด้วยทว่า ชีหยวนกลับตอบทันที สีหน้าที่เรียบนิ่ง: “มั่นใจที่สุด”มั่นใจที่สุด!ท่านโหวผู้เฒ่าไม่อาจควบคุมอารมณ์ตนเองได้อีกต่อไป เอ่ยถามต่อทันที:“เหตุใดเจ้าจึงมั่นใจถึงเพียงนี้?”“เพราะเขาต้องตาย” น้ำเสียงของชีหยวนสงบนิ่งอย่างมาก ปราศจากความรู้สึกใดๆ ด้วยซ้ำ นางเงยหน้าขึ้นมองชีเจิ้นและท่านโหวผู้เฒ่าอย่างตรงไปตรงมา: “ข้าจะเป็นคนลงมือสังหารเขาด้วยตัวเอง”ฆ่าเขา เพื่อล้างแค้นให้ตระกูลเซี่ยเพื่อล้างแค้นให้พระชายาหลิ่วสองแม่ลูก ล้างแค้นให้พ่อลูกตระกูลลู่ และชีวิตของผ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 184

    สีหน้าของชีเจิ้นเคร่งขรึม: “ตอนแรกข้าคิดว่าเป็นเพียงข่าวลืออีกเท่านั้น จนกระทั่งคนสนิทของข้าเดินทางไปตรวจสอบดู และนำสิ่งหนึ่งกลับมา”เขาพูดแล้วก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปเลื่อนตู้หนังสือออก เผยให้เห็นช่องลับด้านหลัง จากนั้นก็ยกกล่องใบหนึ่งมาวางบนโต๊ะ และค่อยๆ เปิดกล่องอย่างระมัดระวังภายในกล่องนั้นมีคันธนูเล็กๆ หนึ่งคันวางอยู่อย่างเงียบสงบ คันธนูเล็กนั้นขนาดประมาณว่าวหนึ่งตัว บนตัวธนูนั้นถูกประดับด้วยทับทิมสีแดงเม็ดโต เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ธนูสำหรับใช้งานจริง แต่เป็นของเล่นสำหรับความบันเทิงเท่านั้นสายตาของชีหยวนกวาดมองคันธนูนั้น ก่อนจะเอ่ยถามเสียงขรึมว่า: “นี่คือของของพระชายาหลิ่วหรือ?”ดังนั้นจึงทำให้ชีเจิ้นมั่นใจได้ว่า มีพระชายาหลิ่วอยู่ที่เมืองเล็กๆ ของเมืองซ่งในเจียงซีกระมัง?หัวใจของนางรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาเล็กน้อยชาติที่แล้ว ข่าวนี้ตกไปอยู่ในมือของอ๋องฉีอ๋องฉีสั่งให้คนไปสังหารพระชายาหลิ่วสองแม่ลูกหลังจากสังหารแล้ว ก็ใส่ร้ายป้ายสีว่าตระกูลเฝิงเป็นผู้ลงมือเซียวอวิ๋นถิงและตระกูลเฝิงจึงให้ตระกูลเซี่ยตรวจสอบเรื่องนี้ สุดท้ายทำให้อ๋องฉีเกิดความสนใจ อ๋องฉีจึงหาข้ออ้างและสัง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status