Share

บทที่ 38  

Author: ฉินอันอัน
ทว่าชีหยวนที่รู้แต่แรก กลับไม่ยอมเปิดโปง แต่ใช้แผนซ้อนแผน ล่อเสือออกจากถ้ำ หลอกล่อแม่นมจางและชีอวิ๋นถิงให้ตกสู่กับดักทีละก้าว

นางจงใจทำเช่นนั้น

จงใจให้ชีเจิ้นได้เห็นว่า เพื่อชีจิ่นแล้ว ชีอวิ๋นถิงสามารถทำได้ถึงขั้นใด

และก็จงใจให้ชีเจิ้นได้เห็นว่า ชีอวิ๋นถิงซึ่งเป็นบุตรชายคนโตผู้ถือกำเนิดจากภริยาเอก ที่จะกลายเป็นผู้สืบทอดจวนโหวในอนาคตนั้น ขาดคุณสมบัติอันเหมาะสมเพียงใด

นี่มัน…

จิตใจเย็นชาเกินไปแล้วจริงๆ!

ทว่ายามนี้ เมื่อชีเจิ้นพูดถึงชีหยวน ก็เต็มไปด้วยคำชื่นชมและความชอบใจ ทำให้นางหวังไม่อาจพูดสิ่งใดได้มากนัก ได้แต่พยักหน้าด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยวเล็กน้อยว่า “เจ้าค่ะ ท่านโหววางใจเถอะ ข้ารู้แล้ว”

จากนั้น ชีเจิ้นก็แยกจากนางหวังและตรงไปที่หอหมิงเยว่

ที่หอหมิงเยว่ ไป๋เจ๋อวิ่งร่างกายสั่นสะท้านเข้ามา คุกเข่าผลุบลงเบื้องหน้าชีหยวน น้ำเสียงยังคงสั่นเทาด้วยความประหม่า “คุณหนูใหญ่เจ้าคะ เมื่อครู่ข้าเห็นคนลากแม่นมจางไปแล้วเจ้าค่ะ แม่นมจางแม้แต่พูดก็พูดไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ!”

ชีหยวนกำลังอ่านหนังสือ นางราวกับคาดเดาได้ล่วงหน้าแล้ว

ดังนั้น เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋จื่อ ก็ทำเพียงหัวเราะเท่านั้น
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 39  

    ท่ามกลางความมืดมิดของรัตติกาล ในที่สุด จวนหย่งผิงโหวที่วุ่นวายมาค่อนคืน ก็เข้าสู่ความสงบในช่วงสั้นๆ  สรรพสิ่งรอบกายเงียบสงัด แม้แต่หญิงรับใช้ที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูยังหลับสัปหงกอยู่บนโต๊ะ และยังหาวออกมาเป็นระยะ ในขณะที่กำลังสะลึมสะลือนั่นเอง นางพลันได้ยินเสียงทุบประตูดัง ‘ปังปังปัง’ อย่างเร่งร้อน เสียงนี้ทำให้นางสะดุ้งขึ้นมา ตอนแรกยังคิดว่าตนเองกำลังฝันไป รอจนเสียงยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จึงรีบปาดน้ำลายทีหนึ่ง จากนั้นวิ่งมาเปิดประตูเรือน เมื่อประตูเรือนถูกเปิดออก เกาเจียที่กำลังขมวดคิ้วอยู่ก็ตำหนิออกมาว่า “ทำอะไรอยู่ฮึ? เปิดประตูแค่นี้ก็ยังอืดอาดชักช้า!” หญิงรับใช้หวาดหวั่นจนสีหน้าซีดขาว รีบอธิบายว่า “ลมแรงเกินไปน่ะเจ้าค่ะ เลยคิดไม่ถึงว่าท่านจะมาในเวลานี้…” นางหวังที่อยู่ข้างหลังกระแอมขึ้นมาทีหนึ่งอย่างหมดความอดทน “อย่าได้พูดมาก เข้าไปแล้วค่อยว่ากัน!” เกาเจียรีบรับคำ ดันหญิงรับใช้ที่เฝ้าประตูออก จากนั้นประคองนางหวังเดินเข้าไป ภายในห้อง บรรดาสาวใช้ทั้งหลายล้วนยังไม่เข้านอน ต่างก็อยู่เป็นเพื่อนชีจิ่นอย่างระมัดระวัง วันนี้พวกนางก็มองออกแล้วว่า เกรงว่าท่านโหวคงโมโหคุณหนูของพว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 40  

    ราวกับมีสายฟ้าสายหนึ่งฟาดลงมาจากท้องฟ้า เสียงร้องไห้ของชีจิ่นหยุดลงแล้ว รู้สึกเพียงว่าในหัวของตนมีเสียงวิ้งดังขึ้นมา ราวกับมีดอกไม้ไฟนับไม่ถ้วนกำลังระเบิดอยู่ในหัวของนาง ส่งนางไป? ! จวนหย่งผิงโหววางแผนจะทิ้งนางแล้ว?! หลังค้นพบชาติกำเนิดของตน นางก็หวาดหวั่นอยู่ทุกวัน ทุกวันล้วนต้องหวาดกลัวว่าตนเองจะสูญเสียความโปรดปราน จะถูกละทิ้งไป ดังนั้น นางจึงได้ทำทุกวิถีทางในการติดต่อคนขายเนื้อแซ่สวี่และหลี่ซิ่วเหนียง ให้พวกเขาขัดขวางมิให้ชีหยวนกลับมา จึงได้ส่งสัญญาณให้แม่นมฮวาลงมือกับชีเหยียน จึงได้พยายามจับชีอวิ๋นถิงไว้อย่างเร่งร้อนเช่นนี้ เพราะต้องการให้ชีอวิ๋นถิงยืนอยู่ข้างนางไปตลอด แต่ตอนนี้ นางยังไม่ทันได้ลงมือจริงๆ เลยด้วยซ้ำ กลับจะต้องจากไปแล้ว?! ชีจิ่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก เกือบจะกอดขานางหวังไว้ ร้องไห้ออกมาอย่างปวดใจว่า “ท่านแม่! ข้าไม่ได้ทำจริงๆ นะเจ้าคะ ข้าไม่ได้ทำจริงๆ! วันหลังข้าไม่กล้าแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ ขอร้องท่าน อย่าให้ข้าไปเลยนะเจ้าคะ! ตั้งแต่เด็กจนโตข้าก็ไม่เคยจากท่านไปเลย ข้าไม่อาจไม่มีท่านนะเจ้าคะ ท่านแม่!” นางร้องไห้จบเสียงแหบแห้ง ทำให้คนอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 41  

    ถึงอย่างไรชีจิ่นก็เติบโตมาข้างกายนางหวัง จึงเข้าใจถึงจุดอ่อนของนางหวังเป็นอย่างดี ทันทีที่สงบลง นางก็จะทำการตัดสินใจที่เป็นประโยชน์ต่อตนที่สุดอย่างรวดเร็ว นางหวังถูกทำให้สะเทือนใจอย่างที่คิดจริงๆ ภายใต้ความรู้สึกผิด นางขึ้นเสียงสั่งการเหล่าข้ารับใช้ว่า “จงดูแลคุณหนูรองให้ดี หากให้ข้ารู้ว่าใครกล้าละเลย! ก็ระวังหัวของพวกเจ้าไว้ให้ดี!” จากนั้นก็ให้เกาเจียนำของที่ชีจิ่นใช้เป็นประจำไปให้หมดอีก หลังจัดการเรื่องต่างๆ ไปมาอย่างวุ่นวาย ค่ำคืนนี้ก็ได้ผ่านไปแล้ว ในยามที่ฟ้าเพิ่งสาง รถม้าคันหนึ่งก็ออกจากประตูมุมตะวันตกของจวนหย่งผิงโหวอย่างเงียบๆ จากนั้นตรงไปทางประตูเต๋อเซิ่งซึ่งเป็นประตูเมือง หลังนางหวังจัดการเรื่องการออกจากจวนของชีจิ่นเสร็จ ก็เหน็ดเหนื่อยจนไร้เรี่ยวแรงแล้ว ในตอนที่ฝืนกลับไปถึงห้อง นางก็เห็นชีเจิ้นนั่งอยู่บนเตียงแล้ว จึงถอนใจออกมาทีหนึ่ง กล่าวว่า “ส่งไปแล้วล่ะเจ้าค่ะ นางร้องไห้จนใจข้าพลอยไม่สบายไปด้วย” ชีเจิ้นเหลือบมองนางอย่างเรียบเฉยทีหนึ่ง “หากยามปกติเจ้าไม่ตามใจพวกเขาเช่นนั้น เวลานี้ ก็คงไม่ก่อปัญหาใหญ่โตถึงเพียงนี้!” เหตุใดกลับมาโทษนางอีกแล้วเล่า? นางหวัง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 42  

    ยามนี้ชีจิ่นถูกส่งจากไปแล้ว สำหรับชีหยวนแล้วถือเป็นเรื่องดีอย่างมาก จะได้ถือโอกาสนี้ใช้เวลากับฮูหยินและท่านโหวให้เต็มที่ เพื่อเพราะสร้างความสัมพันธ์อันดีขึ้นมา ชีหยวนเผยรอยยิ้มที่ไม่แสดงอารมณ์ออกมา “สาวน้อยที่โง่งม เจ้าไร้เดียงสาเกินไปแล้ว” ยังกล่าวไม่ทันจบ นอกห้องก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจของเสาเย่าดังเข้ามา ไป๋อินรีบออกไปตรวจสอบดู จากนั้น ชีหยวนก็ได้ยินไป๋อินร้องเสียงดังอยู่หน้าประตูว่า “คุณชายใหญ่ ท่านเข้าไปไม่ได้เจ้าค่ะ! คุณหนูของพวกเรายังไม่ลุกจากเตียงเลยเจ้าค่ะ ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!” สีหน้าของชีหยวนแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาแล้ว ส่วนชีอวิ๋นถิงนั้น ได้เลิกม่านบุกเข้ามาในห้องอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้ว เขาไม่กล่าวสิ่งใดก็พุ่งเข้าหาชีหยวนทันที มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อขอชีหยวนขึ้นมา อีกข้างก็บีบคอของชีหยวนไว้ เค้นถามอย่างดุร้ายว่า “เจ้าบังคับให้อาจิ่นจากไป เจ้าบีบบังคับจนอาจิ่นจากไปแล้ว เจ้ามันนังสารเลว!” เจ้าคนเสียสตินี่! เหลียนเฉียวตกใจอย่างมาก นางรีบไปดึงแขนของชีอวิ๋นถิงออกอย่างสุดกำลัง “คุณชายใหญ่! ท่านปล่อยคุณหนูของพวกเราเถิดเจ้าค่ะ!” ชีหยวนก้มศีรษะลง ยกศอกขึ้น แล้วก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 43  

    ทันทีที่ชีอวิ๋นถิงจากไป เหลียนเฉียวก็รีบร้องไห้เข้าไปตรวจดูลำคอของชีหยวน ชีอวิ๋นถิงมิได้ออมมือแม้แต่น้อยจริงๆ บนคอของชีหยวนปรากฏรอยจ้ำสีแดงเป็นวงรอบ ที่แค่เห็นก็ทำให้คนตกใจ ไป๋จื่อได้สติกลับมา รีบพูดอย่างลนลานว่า “ข้าจะไปหายาทา!” ทว่าอารมณ์ของทุกคนล้วนหนักอึ้ง เหลียนเฉียวยิ่งอดรู้สึกท้อแท้ไม่ได้ นั่นเป็นพี่ชายแท้ๆ ของคุณหนูใหญ่เลยนะ! เดิมทียังคิดว่า หลังชีจิ่นจากไปแล้ว ทุกอย่างก็จะดีขึ้นมาแล้ว ถึงอย่างไรคุณหนูใหญ่ก็เป็นลูกแท้ๆ มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับคนในบ้าน ความผูกพันก็สามารถสร้างขึ้นอย่างช้าๆ ได้ ทว่าดูจากตอนนี้ ต่อให้ชีจิ่นจากไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์ ชีหยวนส่องกระจกพลางลูบลำคอของตน ในกระจก รอยบีบที่คอของเธอดูแล้วน่าตกใจเป็นอย่างมาก นางเคยสังหารคนมาก่อน ดังนั้นนางมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า เมื่อครู่หากไม่มีคนขัดขวางแล้วล่ะก็ ชีอวิ๋นถิงคิดจะบีบคอนางให้ตายจริงๆ ตัวเขาวางแผนให้ร้ายคน ทำร้ายไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงกลับเป็นฝ่ายที่ถูกลงโทษแทน แต่เขากลับไม่คิดว่าตัวเองกระทำผิด สิ่งแรกที่นึกได้ คือการมาฆ่านางระบายโทสะ ครั้งนี้ฆ่าไม่สำเร็จ แล้วครั้งหน้าเล่า? เพราะตายมาแล้ว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 44  

    แม้ชีอวิ๋นถิงโง่เขลา แต่ชีหยวนก็น่ารังเกียจ! นางมองชีหยวนอย่างเย็นชา “นั่นเป็นพี่ชายของเจ้า! เจ้าเพิ่งกลับมา ยังไม่เคยใช้เวลาร่วมกับเขามาก่อน เขาไม่ชอบเจ้าก็เป็นเรื่องธรรมดา เจ้าอ่อนลงหน่อย ที่ควรก้มหัวก็ต้องก้มหัว หากเจ้าลดท่าทีลงแล้ว เขาย่อมไม่มีทางไม่พอใจเจ้า ” หยุดไปครู่หนึ่ง นางเห็นชีหยวนเงยหน้าขึ้นมองตนนิ่งๆ จึงเลี่ยงสายตาไปอย่างรู้สึกผิดอยู่บ้าง แล้วกล่าวเสียงหนักต่อว่า “เรื่องคอของเจ้า อย่าได้พูดเหลวไหลออกไป ยิ่งอย่าได้เอ่ยกับท่านพ่อของเจ้า! เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ของพวกเจ้ายิ่งแย่ไปกว่านี้ รู้หรือไม่?” ตั้งแต่ต้นจนจบ นางหวังมิได้ตำหนิชีอวิ๋นถิงแม้แต่ครั้งเดียว ทว่า ชีหยวนก็มิได้รู้สึกแปลกใจแล้ว เพราะในชาติที่แล้ว หลังชีอวิ๋นถิงแต่งภรรยา ก็ยังสามารถรักษาตัวประดุจหยกไม่แตะต้องอิสตรี และยังปฏิบัติกับลูกของชีจิ่นราวบุตรในไส้ของตนอีก กระทั่งสนับสนุนองค์ชายสี่ ‘ฉีอ๋อง’ เพื่อชีจิ่นด้วย ยามนี้มาลองคิดดูแล้ว หากมิใช่เพราะมีมารดาที่ไม่แยกแยะผิดถูกชั่วดีแบบนางหวังคอยให้ท้าย แล้วชีอวิ๋นถิงจะทำตัวบัดซบถึงเพียงนั้นได้อย่างไร? นางมิได้ปฏิเสธ เพียงพยักหน้าเบาๆ เท่านั้น “ลูกทรา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 45  

    เพียงชีอวิ๋นถิงคิดว่าชีจิ่นถูกส่งไปที่บ้านพักในชนบทอย่างเร่งร้อน ก็ปวดใจอย่างที่สุด เขาเตะเสวี่ยซงไปทีหนึ่ง “เจ้าสวะ! ตอนนั้นก็ไม่รู้จักมารายงานข้า! ” เสวี่ยซงน้อยใจอย่างยิ่ง คลานขึ้นมาจากพื้นแล้วงึมงำว่า “โถ คุณชายของข้า บ่าวจะกล้าได้อย่างไรขอรับ? ท่านโหวเป็นผู้สั่งการด้วยตัวเอง หากบ่าวมารายงานท่าน นั่นไม่เป็นการหาเรื่องถูกตีหรือขอรับ?” เขาถอนใจทีหนึ่ง ชะโงกเข้าไปชี้แนะว่า “คุณชาย ตัวท่านเองก็เปิดใจหน่อยเถิดขอรับ ภายภาคหน้าคุณหนูใหญ่คงไม่มีทางจากไปแน่แล้ว ส่วนคุณหนูรองก็ไม่แน่ว่าจะกลับมาได้ด้วย…” เมื่อชีอวิ๋นถิงได้ยินคำพูดนี้ ก็ราวกับจะกินคนทันที เขาโมโหขึ้นมาทันที จากนั้นก็จ้องเสวี่ยซงเขม็ง “เจ้าว่าอย่างไรนะ?! ผู้ใดบอกว่านางอาจไม่กลับมากัน?!” เมื่อถูกเขาจ้องเช่นนี้ เสวี่ยซงก็รู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ขึ้นมาเช่นกัน เขาอธิบายอย่างอ้ำๆ อึ้งๆ ว่า “คุณชายใหญ่ เรื่องบ่าวก็ฟังพวกแม่นมพูดมาเหมือนกันขอรับ บอกว่าของที่คุณหนูรองใช้เป็นประจำล้วนถูกส่งออกไปหมดแล้ว ไม่แน่ว่า ไม่แน่ว่าอาจไม่กลับมาแล้วขอรับ… ” ไม่กลับมา?! ไม่! ชีอวิ๋นถิงถีบเสวี่ยซงจนพลิกคว่ำไปในเท้าเดียว เมื่อนึกถึงนิสัยการล

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 46  

    นางหวังมองชีหยวนด้วยสายตาซับซ้อน นางต้องการจ้องจับผิดชีหยวนมาตั้งแต่ต้น ด้วยธรรมเนียมที่ว่าเมื่อลงจากรถม้าแล้วต้องหันกลับมาประคองผู้อาวุโสด้วย นางคิดว่าชีหยวนจะไม่ทราบธรรมเนียมดังกล่าวนี้ คิดไม่ถึงว่า ชีหยวนจะรู้จักธรรมเนียมนี้อย่างถ่องแท้! เปลือกตาของนางกระตุกเล็กน้อย เห็นฮูหยินใหญ่และฮูหยินรองของตระกูลเซี่ยงเดินออกมาต้องรับจากประตูบุปผาย้อยแล้ว จึงรีบผุดยิ้มออกมา ฮูหยินใหญ่เซี่ยงและฮูหยินรองเซี่ยงยิ้มกว้าง ทักทายนางหวังก่อน แล้วค่อยมองไปยังชีหยวน ก่อนจะถามไถ่อย่างสนิทสนม “นี่คือลูกที่เพิ่งรับกลับมาคนนั้นเองหรือ?” เรื่องที่ตระกูลชีเคยทำเด็กคนหนึ่งพลัดหายไป และตามตัวกลับมาได้แล้วนั้น ถูกนำไปแจ้งให้ญาติพี่น้องสหายใกล้ชิดรับทราบทั่วกันแล้ว นางหวังยิ้มพลางผงกศีรษะ “ใช่แล้ว เพิ่งรับกลับมาได้ไม่นาน ถึงคราวต้องให้เด็กคนนี้ทำความรู้จักกับญาติพี่น้องแล้ว พวกท่านต้องมาร่วมงานเลี้ยงให้ได้นะ” ก่อนจะผินใบหน้ามองชีหยวนอีกครั้ง “แม่หนูหยวน คารวะป้าสะใภ้ของเจ้าสิ” ชีหยวนเดินขึ้นไปด้านหน้าและยอบกายทำความเคารพฮูหยินใหญ่เซี่ยงและฮูหยินรองเซี่ยง “คารวะป้าสะใภ้ใหญ่เซี่ยง คารวะป้าสะใภ้รองเซี่

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 442

    ท่านโหวผู้เฒ่าชีตบมือหัวเราะลั่นดี!ดี! ดี!เขาชมอยู่สามคำติดต่อกันส่วนพระชายาหลิ่ว ราชบุตรเขยลู่ และองค์หญิงใหญ่ ทั้งสามคนมองไปที่ชีหยวน ต่างพากันตะลึงโดยเฉพาะราชบุตรเขยลู่ เขาเคยเห็นฝีมือการฆ่าคนของชีหยวนมาก่อน หากสามารถสังหารได้ในดาบเดียว นางจะไม่มีวันฟันซ้ำเป็นครั้งที่สองความแข็งแกร่งและความศรัทธาของเด็กสาวผู้นี้ เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิตเขาตามความคิดและการกระทำของคนหนุ่มสาวรุ่นนี้ไม่ทันเสียแล้วเซียวอวิ๋นถิงยืนกอดอกยิ้มมองชีหยวนแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ทันสังเกต ว่ารอยยิ้มนั้นเจิดจ้าราวดวงดารา สาดส่องไปทั่วทุกหนแห่งเขาไม่เคยพบสตรีเช่นนี้มาก่อนทะนงในศักดิ์ศรี เคารพตนเอง แข็งแกร่งและพึ่งพาตัวเองนางไม่ต้องรอให้ใครมาช่วยเหลือ เพราะตัวนางคือผู้ช่วยเหลือตนเองกลีบเหมยที่ร่วงโรยปลิวขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะโปรยปรายลงบนศีรษะและอาภรณ์ของทุกคน ชั่วขณะนั้น เซียวอวิ๋นถิงรู้สึกปวดศีรษะขึ้นมาเล็กน้อย คล้ายกับว่าเคยเห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนในความฝันยามสนธยาแต่ความคิดนี้ก็เพียงแค่แวบเข้ามาแล้วก็จางหายไปชีเจิ้นถอนหายใจอย่างจนปัญญาแล้วเอ่ยว่า “แล้วเรื่องตรงหน้านี้จะ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 441

    ชีเจิ้นรู้สึกว่าช่วงนี้ดวงของตนคงตกต่ำอย่างถึงที่สุดไม่สิ แต่เดิมดวงของเขาก็คงไม่ดีอยู่แล้วมิฉะนั้น เหตุใดในช่วงเวลาอันสั้นนี้ เขาถึงได้พบกับสตรีที่น่าสะพรึงกลัวถึงสองคน และแต่ละคนก็น่ากลัวไม่แพ้กัน!ชีหยวนก็ไม่ต้องพูดถึง เขาเห็นกับตาตัวเองว่านางบิดคอคนเหมือนบิดผ้า วิธีฆ่าของนางก็แปลกประหลาด วิธีที่ใช้บ่อยที่สุดคือปาดคอหรือแทงเข้าหัวใจ คนที่ถูกฆ่าล้วนไม่มีโอกาสได้เอ่ยคำพูดสุดท้ายส่วนองค์หญิงเป่าหรง ฟังดูก็ไม่ใช่คนที่จะยุ่งด้วยได้ง่าย ๆตั้งแต่ยังเด็ก นางก็อ้างว่าตัวเองถูกสาป ทำให้พระภิกษุ นักพรต และชาวบ้านล้มตายไปไม่รู้เท่าไรสองคนนี้คิดจะแข่งกันว่าใครฆ่าคนได้มากกว่ากันหรือ?ถ้าหากต้องแข่งกันจริง ๆ แม้ว่าชีหยวนจะเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของเขา และตัวเขาเองก็อยู่ข้างชีหยวน แต่เขาต้องบอกไว้ก่อน หากต้องเดิมพันแพ้ชนะ เขาก็ยังต้องลงเดิมพันให้กับองค์หญิงเป่าหรงอยู่ดีชีวิตคนเราไม่เคยยุติธรรม สิ่งที่เจ้าต้องใช้ความพยายามมหาศาลเพื่อให้ได้มา บางคนกลับสามารถยกนิ้วกวักมือเรียกแล้วแย่งไปได้ง่าย ๆ เพียงเพราะเกิดมาต่างชนชั้น นี่แหละคือชะตากรรมที่ถูกกำหนดมาแล้วสีหน้าของเขาดูแปลกประหลาดไปชั่วขณะ ไ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 440  

    ทว่าในขณะเดียวกันก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ สวรรค์ยุติธรรมเสมอ ในโลกปัจจุบันนางคือคุณหนูใหญ่ที่ใครต่างก็จับตามอง ทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้ ก็ยังเป็นองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดในต้าโจว เห็นไหมล่ะคนชั้นสูงอยู่ที่ไหนก็เป็นคนชั้นสูงอยู่วันยังค่ำ บิดาของนางเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ส่วนมารดาของนางก็เป็นอาจารย์ชั้นพิเศษ นางเคยชินกับการมีแค่พี่เลี้ยงและเงินทองอยู่เป็นเพื่อนมาตั้งแต่ยังเล็กแล้ว จึงเรียนรู้ที่จะพูดแบบคนเมื่ออยู่ต่อหน้าคน และพูดแบบผีเมื่ออยู่ต่อหน้าผีมาตั้งแต่ยังเด็ก ไม่มีใครจะปิดบังความรู้สึกของตนเองได้เก่งไปมากกว่านางแล้ว ในโลกยุคปัจจุบันนางยังสามารถกลั่นแกล้งพวกปรสิตชั้นต่ำที่ไร้ประโยชน์พวกนั้นให้ตายไปทีละคนได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับโลกยุคโบราณ? นางเป็นถึงองค์หญิงเชียวนะ นางฆ่าคนก็ไม่อะไรต่างจากฆ่ามดปลวกให้ตาย และตอนนี้ก็ถึงคราวของชีหยวนเจ้ามดปลวกตัวนี้แล้ว นางเดาะลิ้น ในดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ ดูสิ ทั้งที่ได้กลับชาติมาเกิดใหม่เหมือนกัน อ๋องฉีกลับไม่เอาไหนถึงเพียงนี้ ทว่ากลับกันคนอย่างชีหยวนยังสามารถก่อเมฆลมปลุกปั่นสถานการณ์ได้เลย แต่ว่า ถึงจะเป็นเช

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 439  

    ฮ่องเต้หย่งชางแทบจะหมดหนทางกับธิดาพระองค์นี้ของตนจริง ๆ หลังจากส่ายศีรษะอย่างจนปัญญาก็ตระหนักถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ว่า: “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับที่เจ้ากล่าวถึงชีหยวนคนนั้นขึ้นมาหรือ?” สองคนที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน คนหนึ่งคือจันทรากระจ่างบนฟากฟ้ามิอาจแตะต้อง ส่วนอีกคนเป็นแค่ดอกหญ้าทั่วไปบนพื้นดินที่จะเอื้อมมือไปเด็ดเมื่อใดก็ได้ ชีหยวนมีความพิเศษอะไรกันแน่ ถึงได้ทำให้คนอย่างเป่าหรงจดจำได้ องค์หญิงเป่าหรงเม้มปาก ดูคล้ายว่ากำลังงุนงงสับสน และก็คล้ายว่ามีความสงสัยใคร่รู้อยู่ในที นางลืมตากว้างด้วยดวงตาที่ไร้เดียงสา เม้มริมฝีปากพลางมองฮ่องเต้หย่งชางและกล่าวว่า: “เสด็จพ่อ ลูกจำนางได้ มิใช่เพราะตัวนาง แต่เป็นเพราะเสด็จป้าองค์หญิงใหญ่และอวิ๋นถิง” เอ่ยถึงเรื่องนี้ สีพระพักตร์ของฮ่องเต้หย่งชางมืดครึ้มลง ก่อนจะเปล่งเสียงโอ้ออกมาเพียงหนึ่งคำ และถามอย่างคลุมเครือ: “พวกเขามีความเกี่ยวข้องอันใดกันหรือ?” “เสด็จพ่อไม่ทราบหรือเพคะ? ตอนที่คุณหนูใหญ่สกุลชีท่านนี้เพิ่งกลับมาจากบ้านในชนบท คนในตระกูลของพวกเขาต่างไม่โปรดปรานนางเลยสักคน จนสุดท้ายในตอนที่จัดงานเลี้ยงรับญาติ ก็มีพระปิตุจฉาองค์หญิง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 438  

    สถานการณ์ในตอนนี้ พระชายาหลิ่วโกรธเกลียดเคียดแค้นทุกคนในสกุลหลิ่ว หากว่าองค์หญิงเป่าหรงและเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเข้าไปยุ่งด้วย จะไม่เป็นการหาเรื่องใส่ตัวหรอกหรือ? องค์หญิงเป่าหรงผุดยิ้มอย่างลำพองตนในใจ จะว่าไป ความรักของบุรุษอยู่ที่ใด ความลำเอียงย่อมอยู่ที่นั่นด้วย บางทีเขาเองก็อาจจะไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ ว่าเขามีใจเอนเอียงไปทางเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยรวมถึงบรรดาพระโอรสพระธิดาที่นางให้กำเนิดโดยสมบูรณ์แล้ว ยิ่งเป็นเช่นนี้ องค์หญิงเป่าหรงก็ยิ่งอาศัยจังหวะที่ได้เปรียบโจมตีต่อเนื่อง: “เสด็จพ่อ! ในเมื่อพระองค์ตรัสเองว่า นางเป็นฮองเฮาองค์แรกของท่าน ช้าเร็วอย่างไรนางก็ต้องเสด็จกลับเข้าวัง พวกหม่อมฉันจะหลบหนีไปได้ชั่วชีวิตหรือเพคะ?” ฮ่องเต้หย่งชางเงียบไป องค์หญิงเป่าหรงน้ำตาร่วงเผาะพลางเอ่ยด้วยเสียงเบา: “เสด็จพ่อ ให้พวกหม่อมฉันไปเถิดเพคะ ให้พวกหม่อมฉันไปทูลขอพระราชทานอภัยจากนางเถิดเพคะ หากทุกฝ่ายเปลี่ยนอาวุธเป็นผ้าไหมและเครื่องหยก ไม่ดีหรือเพคะ?” ฮ่องเต้หย่งชางครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำแล้ว ท้ายที่สุดก็ยอมโอนอ่อนผ่อนตาม แต่กระนั้นก็ยังไม่ลืมที่จะถามถึงอาการบาดเจ็บของนาง: “อดทนไหวหรือ?” องค์หญิงเป

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 437  

    นางเล่นมีดในมือไปมา ครั้นได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่แว่วมาจากด้านนอก ก็เก็บมีดกลับเข้าไปในแขนเสื้ออีกครั้งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพลิกกายลุกขึ้นนั่ง นัยน์ตาคู่นั้นพลันส่องประกายสว่างเจิดจ้าขึ้นมาทันที ยามที่เห็นฮ่องเต้หย่งชางเดินเข้ามา นางสะอื้นออกมาเบา ๆ : “เสด็จพ่อ!” ช่างเป็นเด็กดีเสียจริง ฮ่องเต้หย่งชางใจอ่อนยวบลงโดยพลัน เขาทั้งรักและเอ็นดูธิดาพระองค์นี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้ธิดาพระองค์นี้ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย เขาถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ก่อนจะถามว่า: “เจ็บหรือไม่?” เงียบไปเนิ่นนาน องค์หญิงเป่าหรงน้ำตารื้นพลางเม้มปากแน่นและส่ายศีรษะน้อย ๆ : “ไม่เจ็บเพคะ เสด็จพ่อ ลูกไม่เจ็บแม้แต่นิดเดียว” แม้ปากบอกว่าไม่เจ็บ ทว่ามือของนางกลับเอื้อมไปกดแผ่นหลังตนเอง เพียงเสี้ยวพริบตาโลหิตสีสดก็ไหลออกมากอีกครั้ง โลหิตหยดลงบนหลังมือของฮ่องเต้หย่งชาง สีหน้าของฮ่องเต้หย่งชางเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะเอ่ยปากดุอย่างอดไม่ได้: “ไม่เจ็บอะไร เจ้าดูสิบาดแผลของเจ้ากลายเป็นอะไรไปแล้ว! เซียวโม่เขาสติไม่สมประกอบตั้งแต่ยังเล็ก เจ้าไม่สามารถปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นคนปกติได้ เหตุใดตอนนั้นเจ้าไม

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 436  

    ชีหยวนแอบเดาะลิ้นในใจ นางย่อมรู้ดีอยู่แล้ว คนที่สามารถเอาตัวรอดจากการถูกตามล่าอย่างหนักหน่วงได้และยังสามารถปกป้องบุตรจนรอดชีวิตมาได้ ต้องไม่ใช่คนที่อ่อนแออย่างเด็ดขาด จริงดังคาด อีกฝ่ายเข้าใจกระจ่างชัดอย่างดี องค์หญิงใหญ่กัดริมฝีปากอย่างอดไม่ไหว: “เช่นนั้น พระเชษฐภคินีทรงพระกันแสงกับเสด็จพี่…” ใครเล่าจะไม่รู้จักร้องไห้! มีแต่พวกเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเท่านั้นหรือที่รู้จักร่ำไห้! ทว่าทันใดนั้นพระชายาหลิ่วกลับส่งเสียงหัวเราะออกมา นางปรายสายตามององค์หญิงใหญ่อย่างราบเรียบ ใบหน้าแม้ประดับด้วยรอยยิ้ม ทว่ารอยยิ้มนั้นส่งไปไม่ถึงแววตาแม้แต่น้อย: “คนอื่นยามร่ำไห้คงเหมือนหญิงงามประคองใจ ยามนี้ข้าไปร่ำไห้บ้างคงเป็นได้แค่คนโง่เขลาที่หลับหูหลับตาเลียนแบบอย่างน่ารังเกียจ ไม่สู้ต่างฝ่ายต่างเก็บศักดิ์ศรีไว้ดีกว่า” องค์หญิงใหญ่คิดจะโต้แย้ง แต่ก็หมดหนทางโต้แย้ง ถ้อยคำที่พระชายาหลิ่วเอ่ยออกมาโหดร้ายมากก็จริง ทว่าความโหดร้ายก็คือความจริงของโลกใบนี้ ใช่แล้ว อีกฝ่ายร่ำไห้ดังบุปผาหลี่ต้องสายพิรุณ แต่กับพระชายาหลิ่วที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนจะไปเปรียบเทียบกับนางได้อย่างไร? นางวางตะเกียบลงเสียงดัง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 435  

    เกี๊ยวของทางเหนือและทางใต้ความจริงแล้วแตกต่างกันมาก อย่างน้อยทางใต้ความจริงแล้วก็มิได้นิยมกินเกี๊ยวที่ทำจากที่ทำจากแป้งสาลี ดังนั้นในตอนแรกพระชายาหลิ่วจึงไม่ได้สนใจเกี๊ยวนี้เท่าใดนัก นางเพียงแค่กล่าวขอบคุณต่อชีหยวนอย่างจริงใจ แม้ว่านางจะเข้าใจมานานแล้ว ว่าเหตุผลที่ชีหยวนพยายามอย่างหนักเพื่อตามนางกลับมา และช่วยนางจัดการกับพวกฉู่กั๋วกง จะเป็นเพราะว่าตัวชีหยวนเองก็อยู่ในสถานการณ์เป็นอริศัตรูกับอ๋องฉีอย่างอยู่ร่วมโลกใบเดียวกันไม่ได้ ทว่าเมื่อมาถึงวัยอย่างนางตอนนี้ ก็มิใช่เวลาจะมัวลังเลกับจุดหมายอีกต่อไปแล้ว นางมองเพียงแค่ผลลัพธ์เท่านั้น และผลลัพธ์ก็คือชีหยวนได้ช่วยเหลือนางไว้อย่างมาก นางสามารถคืนสู่เมืองหลวง และกลับเข้าวังได้อย่างสง่าผ่าเผย จากนั้นยังสามารถกำจัดจวนฉู่กั๋วกงที่เคยกดขี่สูบเลือดสูบเนื้อนางและมารดาให้กลับคืนสู่ขุมนรกที่ควรอยู่อีกครั้ง จุดนี้สำคัญกว่าสิ่งใดทั้งปวงแล้ว กระทั่งเกี๊ยวร้อน ๆ ถูกยกมา มันมิได้มีสีขาวเหมือนอย่างเกี๊ยวทั่วไป แต่กลับเป็นสีเหลืองใสเกือบคล้ายอำพันที่มาพร้อมน้ำแกงร้อน ๆ ในชามใหญ่ พระชายาหลิ่วพลันเหลือบมองชีหยวนปราดหนึ่งด้วยความประหลาดใจ ค

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 434  

    จนกระทั่งกลับมาถึงอารามไป๋อวิ๋น หลังจากสั่งให้บ่าวรับใช้ล่าถอยออกไปจนหมด และบอกให้อ๋องโจวไปพักผ่อนแล้ว องค์หญิงใหญ่ถึงจะกำมือพระชายาหลิ่วไว้แน่นพร้อมเอ่ยว่า: “พระเชษฐภคินี จะปล่อยเรื่องไปแบบนี้ไม่ได้เพคะ!” ตำแหน่งฮองเฮาเดิมก็ควรเป็นของพระชายาหลิ่วอยู่ก่อนแล้ว! ตั๊กแตนของเซียวโม่พลันกระโดดออกมาจากกล่อง ทันใดนั้นเขาก็ร้องไห้โวยวายขึ้นมา องค์หญิงใหญ่ผงะไป นางมองพระชายาหลิ่วที่กำลังค้อมตัวลงช่วยเซียวโม่หาตั๊กแตนของเขาอย่างเต็มที่ เสี้ยวขณะนั้นก็รู้สึกจุกแน่นพูดไม่ออก นางคล้ายว่าเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว หลังจากทำให้เซียวโม่สงบลงได้แล้ว พระชายาหลิ่วก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมหัวเราะอย่างขมขื่นให้นาง: “เจ้าดูสิ ข้าจะยังไปแย่งชิงตำแหน่งอะไรได้อีกหรือ?” ตำแหน่งฮองเฮาแต่เดิมควรเป็นของนางก็ไม่ผิด ทว่าบางสิ่งหากพลาดไปแล้วก็คือพลาดไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งฮองเฮา หรือหัวใจของฮ่องเต้หย่งชาง ล้วนไม่มีทางจะรอคอยนางอยู่ที่เดิม พูดไปแล้วก็อาจจะฟังดูไม่ยุติธรรมนัก ทว่าบนโลกนี้เรื่องที่ไม่ยุติธรรมนับกันหมดหรือ? องค์หญิงใหญ่เงียบไปเนิ่นนาน ในหัวของนางเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย บางครั้งสิ่งที

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status