แชร์

บทที่ 38  

ผู้เขียน: ฉินอันอัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-19 16:10:41
ทว่าชีหยวนที่รู้แต่แรก กลับไม่ยอมเปิดโปง แต่ใช้แผนซ้อนแผน ล่อเสือออกจากถ้ำ หลอกล่อแม่นมจางและชีอวิ๋นถิงให้ตกสู่กับดักทีละก้าว

นางจงใจทำเช่นนั้น

จงใจให้ชีเจิ้นได้เห็นว่า เพื่อชีจิ่นแล้ว ชีอวิ๋นถิงสามารถทำได้ถึงขั้นใด

และก็จงใจให้ชีเจิ้นได้เห็นว่า ชีอวิ๋นถิงซึ่งเป็นบุตรชายคนโตผู้ถือกำเนิดจากภริยาเอก ที่จะกลายเป็นผู้สืบทอดจวนโหวในอนาคตนั้น ขาดคุณสมบัติอันเหมาะสมเพียงใด

นี่มัน…

จิตใจเย็นชาเกินไปแล้วจริงๆ!

ทว่ายามนี้ เมื่อชีเจิ้นพูดถึงชีหยวน ก็เต็มไปด้วยคำชื่นชมและความชอบใจ ทำให้นางหวังไม่อาจพูดสิ่งใดได้มากนัก ได้แต่พยักหน้าด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยวเล็กน้อยว่า “เจ้าค่ะ ท่านโหววางใจเถอะ ข้ารู้แล้ว”

จากนั้น ชีเจิ้นก็แยกจากนางหวังและตรงไปที่หอหมิงเยว่

ที่หอหมิงเยว่ ไป๋เจ๋อวิ่งร่างกายสั่นสะท้านเข้ามา คุกเข่าผลุบลงเบื้องหน้าชีหยวน น้ำเสียงยังคงสั่นเทาด้วยความประหม่า “คุณหนูใหญ่เจ้าคะ เมื่อครู่ข้าเห็นคนลากแม่นมจางไปแล้วเจ้าค่ะ แม่นมจางแม้แต่พูดก็พูดไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ!”

ชีหยวนกำลังอ่านหนังสือ นางราวกับคาดเดาได้ล่วงหน้าแล้ว

ดังนั้น เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋จื่อ ก็ทำเพียงหัวเราะเท่านั้น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 39  

    ท่ามกลางความมืดมิดของรัตติกาล ในที่สุด จวนหย่งผิงโหวที่วุ่นวายมาค่อนคืน ก็เข้าสู่ความสงบในช่วงสั้นๆ  สรรพสิ่งรอบกายเงียบสงัด แม้แต่หญิงรับใช้ที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูยังหลับสัปหงกอยู่บนโต๊ะ และยังหาวออกมาเป็นระยะ ในขณะที่กำลังสะลึมสะลือนั่นเอง นางพลันได้ยินเสียงทุบประตูดัง ‘ปังปังปัง’ อย่างเร่งร้อน เสียงนี้ทำให้นางสะดุ้งขึ้นมา ตอนแรกยังคิดว่าตนเองกำลังฝันไป รอจนเสียงยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จึงรีบปาดน้ำลายทีหนึ่ง จากนั้นวิ่งมาเปิดประตูเรือน เมื่อประตูเรือนถูกเปิดออก เกาเจียที่กำลังขมวดคิ้วอยู่ก็ตำหนิออกมาว่า “ทำอะไรอยู่ฮึ? เปิดประตูแค่นี้ก็ยังอืดอาดชักช้า!” หญิงรับใช้หวาดหวั่นจนสีหน้าซีดขาว รีบอธิบายว่า “ลมแรงเกินไปน่ะเจ้าค่ะ เลยคิดไม่ถึงว่าท่านจะมาในเวลานี้…” นางหวังที่อยู่ข้างหลังกระแอมขึ้นมาทีหนึ่งอย่างหมดความอดทน “อย่าได้พูดมาก เข้าไปแล้วค่อยว่ากัน!” เกาเจียรีบรับคำ ดันหญิงรับใช้ที่เฝ้าประตูออก จากนั้นประคองนางหวังเดินเข้าไป ภายในห้อง บรรดาสาวใช้ทั้งหลายล้วนยังไม่เข้านอน ต่างก็อยู่เป็นเพื่อนชีจิ่นอย่างระมัดระวัง วันนี้พวกนางก็มองออกแล้วว่า เกรงว่าท่านโหวคงโมโหคุณหนูของพว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 40  

    ราวกับมีสายฟ้าสายหนึ่งฟาดลงมาจากท้องฟ้า เสียงร้องไห้ของชีจิ่นหยุดลงแล้ว รู้สึกเพียงว่าในหัวของตนมีเสียงวิ้งดังขึ้นมา ราวกับมีดอกไม้ไฟนับไม่ถ้วนกำลังระเบิดอยู่ในหัวของนาง ส่งนางไป? ! จวนหย่งผิงโหววางแผนจะทิ้งนางแล้ว?! หลังค้นพบชาติกำเนิดของตน นางก็หวาดหวั่นอยู่ทุกวัน ทุกวันล้วนต้องหวาดกลัวว่าตนเองจะสูญเสียความโปรดปราน จะถูกละทิ้งไป ดังนั้น นางจึงได้ทำทุกวิถีทางในการติดต่อคนขายเนื้อแซ่สวี่และหลี่ซิ่วเหนียง ให้พวกเขาขัดขวางมิให้ชีหยวนกลับมา จึงได้ส่งสัญญาณให้แม่นมฮวาลงมือกับชีเหยียน จึงได้พยายามจับชีอวิ๋นถิงไว้อย่างเร่งร้อนเช่นนี้ เพราะต้องการให้ชีอวิ๋นถิงยืนอยู่ข้างนางไปตลอด แต่ตอนนี้ นางยังไม่ทันได้ลงมือจริงๆ เลยด้วยซ้ำ กลับจะต้องจากไปแล้ว?! ชีจิ่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก เกือบจะกอดขานางหวังไว้ ร้องไห้ออกมาอย่างปวดใจว่า “ท่านแม่! ข้าไม่ได้ทำจริงๆ นะเจ้าคะ ข้าไม่ได้ทำจริงๆ! วันหลังข้าไม่กล้าแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ ขอร้องท่าน อย่าให้ข้าไปเลยนะเจ้าคะ! ตั้งแต่เด็กจนโตข้าก็ไม่เคยจากท่านไปเลย ข้าไม่อาจไม่มีท่านนะเจ้าคะ ท่านแม่!” นางร้องไห้จบเสียงแหบแห้ง ทำให้คนอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 41  

    ถึงอย่างไรชีจิ่นก็เติบโตมาข้างกายนางหวัง จึงเข้าใจถึงจุดอ่อนของนางหวังเป็นอย่างดี ทันทีที่สงบลง นางก็จะทำการตัดสินใจที่เป็นประโยชน์ต่อตนที่สุดอย่างรวดเร็ว นางหวังถูกทำให้สะเทือนใจอย่างที่คิดจริงๆ ภายใต้ความรู้สึกผิด นางขึ้นเสียงสั่งการเหล่าข้ารับใช้ว่า “จงดูแลคุณหนูรองให้ดี หากให้ข้ารู้ว่าใครกล้าละเลย! ก็ระวังหัวของพวกเจ้าไว้ให้ดี!” จากนั้นก็ให้เกาเจียนำของที่ชีจิ่นใช้เป็นประจำไปให้หมดอีก หลังจัดการเรื่องต่างๆ ไปมาอย่างวุ่นวาย ค่ำคืนนี้ก็ได้ผ่านไปแล้ว ในยามที่ฟ้าเพิ่งสาง รถม้าคันหนึ่งก็ออกจากประตูมุมตะวันตกของจวนหย่งผิงโหวอย่างเงียบๆ จากนั้นตรงไปทางประตูเต๋อเซิ่งซึ่งเป็นประตูเมือง หลังนางหวังจัดการเรื่องการออกจากจวนของชีจิ่นเสร็จ ก็เหน็ดเหนื่อยจนไร้เรี่ยวแรงแล้ว ในตอนที่ฝืนกลับไปถึงห้อง นางก็เห็นชีเจิ้นนั่งอยู่บนเตียงแล้ว จึงถอนใจออกมาทีหนึ่ง กล่าวว่า “ส่งไปแล้วล่ะเจ้าค่ะ นางร้องไห้จนใจข้าพลอยไม่สบายไปด้วย” ชีเจิ้นเหลือบมองนางอย่างเรียบเฉยทีหนึ่ง “หากยามปกติเจ้าไม่ตามใจพวกเขาเช่นนั้น เวลานี้ ก็คงไม่ก่อปัญหาใหญ่โตถึงเพียงนี้!” เหตุใดกลับมาโทษนางอีกแล้วเล่า? นางหวัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 42  

    ยามนี้ชีจิ่นถูกส่งจากไปแล้ว สำหรับชีหยวนแล้วถือเป็นเรื่องดีอย่างมาก จะได้ถือโอกาสนี้ใช้เวลากับฮูหยินและท่านโหวให้เต็มที่ เพื่อเพราะสร้างความสัมพันธ์อันดีขึ้นมา ชีหยวนเผยรอยยิ้มที่ไม่แสดงอารมณ์ออกมา “สาวน้อยที่โง่งม เจ้าไร้เดียงสาเกินไปแล้ว” ยังกล่าวไม่ทันจบ นอกห้องก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจของเสาเย่าดังเข้ามา ไป๋อินรีบออกไปตรวจสอบดู จากนั้น ชีหยวนก็ได้ยินไป๋อินร้องเสียงดังอยู่หน้าประตูว่า “คุณชายใหญ่ ท่านเข้าไปไม่ได้เจ้าค่ะ! คุณหนูของพวกเรายังไม่ลุกจากเตียงเลยเจ้าค่ะ ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!” สีหน้าของชีหยวนแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาแล้ว ส่วนชีอวิ๋นถิงนั้น ได้เลิกม่านบุกเข้ามาในห้องอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้ว เขาไม่กล่าวสิ่งใดก็พุ่งเข้าหาชีหยวนทันที มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อขอชีหยวนขึ้นมา อีกข้างก็บีบคอของชีหยวนไว้ เค้นถามอย่างดุร้ายว่า “เจ้าบังคับให้อาจิ่นจากไป เจ้าบีบบังคับจนอาจิ่นจากไปแล้ว เจ้ามันนังสารเลว!” เจ้าคนเสียสตินี่! เหลียนเฉียวตกใจอย่างมาก นางรีบไปดึงแขนของชีอวิ๋นถิงออกอย่างสุดกำลัง “คุณชายใหญ่! ท่านปล่อยคุณหนูของพวกเราเถิดเจ้าค่ะ!” ชีหยวนก้มศีรษะลง ยกศอกขึ้น แล้วก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 43  

    ทันทีที่ชีอวิ๋นถิงจากไป เหลียนเฉียวก็รีบร้องไห้เข้าไปตรวจดูลำคอของชีหยวน ชีอวิ๋นถิงมิได้ออมมือแม้แต่น้อยจริงๆ บนคอของชีหยวนปรากฏรอยจ้ำสีแดงเป็นวงรอบ ที่แค่เห็นก็ทำให้คนตกใจ ไป๋จื่อได้สติกลับมา รีบพูดอย่างลนลานว่า “ข้าจะไปหายาทา!” ทว่าอารมณ์ของทุกคนล้วนหนักอึ้ง เหลียนเฉียวยิ่งอดรู้สึกท้อแท้ไม่ได้ นั่นเป็นพี่ชายแท้ๆ ของคุณหนูใหญ่เลยนะ! เดิมทียังคิดว่า หลังชีจิ่นจากไปแล้ว ทุกอย่างก็จะดีขึ้นมาแล้ว ถึงอย่างไรคุณหนูใหญ่ก็เป็นลูกแท้ๆ มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับคนในบ้าน ความผูกพันก็สามารถสร้างขึ้นอย่างช้าๆ ได้ ทว่าดูจากตอนนี้ ต่อให้ชีจิ่นจากไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์ ชีหยวนส่องกระจกพลางลูบลำคอของตน ในกระจก รอยบีบที่คอของเธอดูแล้วน่าตกใจเป็นอย่างมาก นางเคยสังหารคนมาก่อน ดังนั้นนางมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า เมื่อครู่หากไม่มีคนขัดขวางแล้วล่ะก็ ชีอวิ๋นถิงคิดจะบีบคอนางให้ตายจริงๆ ตัวเขาวางแผนให้ร้ายคน ทำร้ายไม่สำเร็จ ดังนั้นจึงกลับเป็นฝ่ายที่ถูกลงโทษแทน แต่เขากลับไม่คิดว่าตัวเองกระทำผิด สิ่งแรกที่นึกได้ คือการมาฆ่านางระบายโทสะ ครั้งนี้ฆ่าไม่สำเร็จ แล้วครั้งหน้าเล่า? เพราะตายมาแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 44  

    แม้ชีอวิ๋นถิงโง่เขลา แต่ชีหยวนก็น่ารังเกียจ! นางมองชีหยวนอย่างเย็นชา “นั่นเป็นพี่ชายของเจ้า! เจ้าเพิ่งกลับมา ยังไม่เคยใช้เวลาร่วมกับเขามาก่อน เขาไม่ชอบเจ้าก็เป็นเรื่องธรรมดา เจ้าอ่อนลงหน่อย ที่ควรก้มหัวก็ต้องก้มหัว หากเจ้าลดท่าทีลงแล้ว เขาย่อมไม่มีทางไม่พอใจเจ้า ” หยุดไปครู่หนึ่ง นางเห็นชีหยวนเงยหน้าขึ้นมองตนนิ่งๆ จึงเลี่ยงสายตาไปอย่างรู้สึกผิดอยู่บ้าง แล้วกล่าวเสียงหนักต่อว่า “เรื่องคอของเจ้า อย่าได้พูดเหลวไหลออกไป ยิ่งอย่าได้เอ่ยกับท่านพ่อของเจ้า! เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ของพวกเจ้ายิ่งแย่ไปกว่านี้ รู้หรือไม่?” ตั้งแต่ต้นจนจบ นางหวังมิได้ตำหนิชีอวิ๋นถิงแม้แต่ครั้งเดียว ทว่า ชีหยวนก็มิได้รู้สึกแปลกใจแล้ว เพราะในชาติที่แล้ว หลังชีอวิ๋นถิงแต่งภรรยา ก็ยังสามารถรักษาตัวประดุจหยกไม่แตะต้องอิสตรี และยังปฏิบัติกับลูกของชีจิ่นราวบุตรในไส้ของตนอีก กระทั่งสนับสนุนองค์ชายสี่ ‘ฉีอ๋อง’ เพื่อชีจิ่นด้วย ยามนี้มาลองคิดดูแล้ว หากมิใช่เพราะมีมารดาที่ไม่แยกแยะผิดถูกชั่วดีแบบนางหวังคอยให้ท้าย แล้วชีอวิ๋นถิงจะทำตัวบัดซบถึงเพียงนั้นได้อย่างไร? นางมิได้ปฏิเสธ เพียงพยักหน้าเบาๆ เท่านั้น “ลูกทรา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 45  

    เพียงชีอวิ๋นถิงคิดว่าชีจิ่นถูกส่งไปที่บ้านพักในชนบทอย่างเร่งร้อน ก็ปวดใจอย่างที่สุด เขาเตะเสวี่ยซงไปทีหนึ่ง “เจ้าสวะ! ตอนนั้นก็ไม่รู้จักมารายงานข้า! ” เสวี่ยซงน้อยใจอย่างยิ่ง คลานขึ้นมาจากพื้นแล้วงึมงำว่า “โถ คุณชายของข้า บ่าวจะกล้าได้อย่างไรขอรับ? ท่านโหวเป็นผู้สั่งการด้วยตัวเอง หากบ่าวมารายงานท่าน นั่นไม่เป็นการหาเรื่องถูกตีหรือขอรับ?” เขาถอนใจทีหนึ่ง ชะโงกเข้าไปชี้แนะว่า “คุณชาย ตัวท่านเองก็เปิดใจหน่อยเถิดขอรับ ภายภาคหน้าคุณหนูใหญ่คงไม่มีทางจากไปแน่แล้ว ส่วนคุณหนูรองก็ไม่แน่ว่าจะกลับมาได้ด้วย…” เมื่อชีอวิ๋นถิงได้ยินคำพูดนี้ ก็ราวกับจะกินคนทันที เขาโมโหขึ้นมาทันที จากนั้นก็จ้องเสวี่ยซงเขม็ง “เจ้าว่าอย่างไรนะ?! ผู้ใดบอกว่านางอาจไม่กลับมากัน?!” เมื่อถูกเขาจ้องเช่นนี้ เสวี่ยซงก็รู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ขึ้นมาเช่นกัน เขาอธิบายอย่างอ้ำๆ อึ้งๆ ว่า “คุณชายใหญ่ เรื่องบ่าวก็ฟังพวกแม่นมพูดมาเหมือนกันขอรับ บอกว่าของที่คุณหนูรองใช้เป็นประจำล้วนถูกส่งออกไปหมดแล้ว ไม่แน่ว่า ไม่แน่ว่าอาจไม่กลับมาแล้วขอรับ… ” ไม่กลับมา?! ไม่! ชีอวิ๋นถิงถีบเสวี่ยซงจนพลิกคว่ำไปในเท้าเดียว เมื่อนึกถึงนิสัยการล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 46  

    นางหวังมองชีหยวนด้วยสายตาซับซ้อน นางต้องการจ้องจับผิดชีหยวนมาตั้งแต่ต้น ด้วยธรรมเนียมที่ว่าเมื่อลงจากรถม้าแล้วต้องหันกลับมาประคองผู้อาวุโสด้วย นางคิดว่าชีหยวนจะไม่ทราบธรรมเนียมดังกล่าวนี้ คิดไม่ถึงว่า ชีหยวนจะรู้จักธรรมเนียมนี้อย่างถ่องแท้! เปลือกตาของนางกระตุกเล็กน้อย เห็นฮูหยินใหญ่และฮูหยินรองของตระกูลเซี่ยงเดินออกมาต้องรับจากประตูบุปผาย้อยแล้ว จึงรีบผุดยิ้มออกมา ฮูหยินใหญ่เซี่ยงและฮูหยินรองเซี่ยงยิ้มกว้าง ทักทายนางหวังก่อน แล้วค่อยมองไปยังชีหยวน ก่อนจะถามไถ่อย่างสนิทสนม “นี่คือลูกที่เพิ่งรับกลับมาคนนั้นเองหรือ?” เรื่องที่ตระกูลชีเคยทำเด็กคนหนึ่งพลัดหายไป และตามตัวกลับมาได้แล้วนั้น ถูกนำไปแจ้งให้ญาติพี่น้องสหายใกล้ชิดรับทราบทั่วกันแล้ว นางหวังยิ้มพลางผงกศีรษะ “ใช่แล้ว เพิ่งรับกลับมาได้ไม่นาน ถึงคราวต้องให้เด็กคนนี้ทำความรู้จักกับญาติพี่น้องแล้ว พวกท่านต้องมาร่วมงานเลี้ยงให้ได้นะ” ก่อนจะผินใบหน้ามองชีหยวนอีกครั้ง “แม่หนูหยวน คารวะป้าสะใภ้ของเจ้าสิ” ชีหยวนเดินขึ้นไปด้านหน้าและยอบกายทำความเคารพฮูหยินใหญ่เซี่ยงและฮูหยินรองเซี่ยง “คารวะป้าสะใภ้ใหญ่เซี่ยง คารวะป้าสะใภ้รองเซี่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 100

    ขณะที่นางกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เกาเจียก็รีบเร่งฝีเท้าเข้ามาปลอบประโลมนางหวัง “ฮูหยิน ไฟด้านหน้าถูกดับลงหมดแล้วเจ้าค่ะ ยามนี้ไม่มีปัญหาใดแล้วเจ้าค่ะ!”ขอบคุณฟ้าดิน!นางหวังพนมมือขึ้นท่องชื่อองค์พระอย่างอดไม่ได้ จากนั้นก็เชิญองค์หญิงใหญ่ให้ไปชมการแสดงงิ้วที่เรือนด้านหน้าองค์หญิงใหญ่มองชีหยวนอย่างอบอุ่น พลางตบหัวของชีหยวนเบาๆ “ช่างเถอะ ข้ามิได้ฟังงิ้วมานานหลายสิบปีแล้ว ยามนี้ ไม่มีความสนใจต่อสิ่งเหล่านั้นอีกแล้ว เมื่อมาเยือนและได้พบกับสาวน้อยผู้นี้แล้ว ก็ให้จบเพียงเท่านี้เถิดนี่หมายความว่าจะจากไปแล้วลู่ฮูหยินเม้มปาก รู้สึกว่าองค์หญิงใหญ่ช่างให้เกียรติยัยเด็กนี่เหลือเกิน ก็ไม่รู้ว่าที่แท้เด็กผู้นี้มีสิ่งใดพิเศษกันแน่หานเยว่เอ๋อร์กลับขมวดคิ้วเบาๆเพลิงไหม้ในครั้งนี้รุนแรงถึงเพียงนี้ องค์หญิงใหญ่กลับไม่ทรงรู้สึกว่า นี่เป็นความอัปมงคลที่ชีหยวนนำพามาเลยหรือ?ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ภรรยาของหลิวจงก็กลับมาจากด้านนอกอีกครั้ง นางกล่าวกับนางหวังเบาๆ ว่า “ฮูหยิน ท่านโหวให้เชิญคุณหนูใหญ่และคุณหนูหานไปทางนั้นสักรอบเจ้าค่ะ”อะไรนะ?นางหวังตกตะลึง มองไปที่หานเยว่เอ๋อร์อย่างไม่คาดคิดอยู่บ้าง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 99

    ไฟที่ไหม้อยู่ในศาลบรรพบุรุษ ทำให้แขกในเรือนส่วนหน้ากว่าครึ่งแสดงความเจตจำนงที่จะไปช่วยไปดับไฟเพราะไม่ว่าอย่างไร เมื่อมาเป็นแขกที่จวนของผู้อื่นแล้วพบเรื่องแบบนี้เข้า จะเอาแต่นั่งเป็นห่วงโดยไม่ทำสิ่งใด ก็ออกจะไม่เหมาะนักทว่า ท่านโหวผู้เฒ่ากับชีเจิ้น จะให้แขกเหรื่อทั้งหลายไปได้อย่างไร?ต่างพากันรีบหยุดพวกเขาไว้ บอกว่าคนจากกองบัญชาการปัญจทิศรักษานครและหน่วยลาดตระเวนล้วนมากันแล้ว อีกไม่นานก็จะสามารถดับไฟได้แล้วและในความเป็นจริง สิ่งที่ท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้นพูดก็ถูกต้องอย่างมาก เพราะหลังจากนั้นไม่นาน กองบัญชาการปัญจทิศรักษานครและหน่วยลาดตระเวน ก็ร่วมมือกันดับไฟลงได้จริงๆทั้งท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้น ล้วนพากันถอนใจอย่างโล่งอกโดยเฉพาะท่านผู้เฒ่าที่ถามออกมาทันทีว่า สถานการณ์เป็นเช่นใดแล้ว? ป้ายวิญญาณของบรรพบุรุษไม่เป็นไรกระมัง?”หากเกิดสิ่งใดขึ้นมา นั่นก็จะเป็นเรื่องชวนให้หดหู่อย่างแท้จริงชีเจิ้นรีบเชิญผู้บัญชาการของกองบัญชาการปัญจทิศรักษานครเข้ามา ผลคือ ทันทีที่ใต้เท้าหยวนเข้ามาก็กล่าวว่า “ท่านโหวเพลิงไหม้ของพวกในครั้งนี้ มิได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ”......หมายความว่าอย่างใดก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 98

    แขกคนอื่นๆ ก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันไปมา คนละคำสองคำเช่นกัน“นั่นสิ กลับมาหาครอบครัว พิธีรับญาติยังไม่ทันเสร็จ ศาลบรรพบุรุษก็ไหม้ขึ้นมาแล้ว คุณหนูใหญ่ผู้นี้ คงมิใช่สิ่งอัปมงคลอะไรหรอกนะ?”“หรืออาจไปโดนของสกปรกอะไรเข้าก็เป็นได้ ไม่เช่นนั้น จะบังเอิญถึงขนาดนี้ได้อย่างไร”เสียงวิพากษ์วิจารณ์พวกนี้ล้วนเข้าไปถึงหูของนางหวังนางหวังโมโหจนปวดท้อง จึงหันไปถลึงตาใส่ชีหยวนอย่างไม่ปรานีผู้คนต่างกังวลใจ และมีความคิดเห็นมากมาย เวลานี้ สายตาที่สตรีบางคนในกลุ่มนี้มองชีหยวน เริ่มไม่ปกติขึ้นมาแล้วสายตาขององค์หญิงใหญ่ทอดลงบนตัวชีหยวน เมื่อเห็นนางสงบมั่นคง มิได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ก็อดชื่นชมอยู่ในใจก่อนมิได้เรื่องอื่นยังไม่พูดถึง การที่อายุเท่านี้ก็มีความสุขุมใจเย็นเช่นนี้ได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่งนางมองไปยังสาวน้อยที่อยู่เบื้องหน้า ถามนางเบาๆ ว่า “เจ้าไม่กลัวหรือ?”ชีหยวนเงยหน้าขึ้นมามองนางแล้วยิ้มออกมา ในตอนที่นางยิ้มออกมานั้น ดวงตาของนางสุกสกาวราวกับดวงดาว จากนั้น นางก็กะพริบตาอย่างเจ้าเล่ห์ “เมื่อไม่ได้ทำผิดอันใด ย่อมมิกลัวผีร้ายมาเคาะประตู หม่อมฉันไม่กลัวดอกเพคะ”แม่นมเจียงและอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 97

    เหลียนเอ๋อร์ที่เห็นว่าเปลือกหอยมุกที่ประดับอยู่บนหน้าผากของนางเบี้ยว ก็รีบยื่นมือไปจัดให้นาง และเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ก็หัวเราะตามไปด้วยว่า “คุณหนูท่านก็ช่างจริงๆ เลย คนเขาน่าเวทนาถึงเพียงนั้นแล้ว ท่านยังชมเรื่องสนุกอยู่อีก”หานเยว่เอ๋อร์เลิกคิ้ว “ข้าย่อมได้แต่ชมดูเรื่องสนุกอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นยังจะทำสิ่งใดได้? ในศาลบรรพบุรุษของตระกูลชี ยังมีเหล่าวีรชนที่ร่วมปราบพวกชาวหว่าล่า [1] กับองค์ฮ่องเต้เกาจู่อยู่ด้วย เหอะๆ ไฟกองนี้เมื่อไหม้ขึ้นมา…”ตัวชีอวิ๋นถิงในยามนี้กำลังเหงื่อออกเต็มศีรษะ เขาเพียงขยับบั้นท้ายของตนเล็กน้อย ก็อดไม่ได้ที่จะแยกเขี้ยวยิงฟันด้วยความเจ็บปวดสาวใช้ที่คอยปรนนิบัติยกน้ำมาเพื่อใส่ยาให้เขาอย่างระมัดระวัง แต่กลับถูกเขายื่นมือไปปัดอ่างจนพลิกคว่ำ แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไสหัวออกไป!”ตอนนี้อารมณ์ของเขาแปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ดังนั้น ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่กล้ายั่วยุเขา สาวใช้จึงรีบเก็บอ่างน้ำแล้วถอยออกไปทันทีชีอวิ๋นถิงสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง ยืนกรานที่จะลงจากเตียงและเขยื้อนกายไปริมหน้าต่าง เมื่อเห็นทางทิศของศาลบรรพบุรุษมีกลุ่มควันหนาทึบลอยขึ้นมา เวียนวนดำมืดอยู่กลางอากาศ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 96

    เดิมคิดว่านางได้ตัดขาดจากเจ็ดอารมณ์หกปรารถนา [1] ไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกียวิสัยแล้วแต่นี่มิใช่ ยังเลี้ยงบุตรสาวไว้อีกคนหนึ่งหรือ?!ชีหยวนไม่รู้ถึงอารมณ์ในตอนนี้ของลู่ฮูหยิน แต่ต่อให้รู้ นางก็ไม่มีทางสนใจนักเมื่อเห็นแม่นมเจียงที่อยู่ข้างกายองค์หญิงใหญ่ ก็บังเกิดความรู้สึกแสบจมูกอยากร้องไห้ขึ้นมา ทำให้นางเกือบอดกลั้นไว้ไม่อยู่แล้วนางคุกเข่าลงเบื้องหน้าองค์หญิงใหญ่ ทำการคารวะอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมสีหน้าขององค์หญิงใหญ่อ่อนโยนลง พยักหน้าพลางประคองนางขึ้นมา “เดิมยังคิดว่าเจ้าเป็นเพียงเด็กสาวชาวชนบทในหมู่บ้านคนหนึ่งจริงๆ คิดไม่ถึงว่า เจ้าจะยังมีโชคชะตาเช่นนี้”แม่นมเจียงที่ยืนอยู่ด้านข้าง กล่าวด้วยรอยยิ้มเอ็นดูและเมตตาว่า “แค่ดูก็รู้ว่าเป็นเด็กสาวที่มีวาสนาเพคะ”นางหวังเกร็งเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรพูดสิ่งใดอยู่บ้างยังคงเป็นฮูหยินรองแห่งตระกูลผู้ที่อยู่ด้านข้าง ที่รีบรับคำว่า “แม้นางจะเพิ่งกลับมาได้ไม่นาน ทว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุคลิกหรือระเบียบมารยาทก็ล้วนไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย พวกเราก็มารู้ในภายหลังเช่นกันว่า นางถึงกับได้รับการแนะนำสั่งสอนจากท่านแม่นมเจียง”แม่นมเจียงอมยิ้ม “ไม่นั

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 95

    ตอนนี้ สายตาที่เกาเจียมองชีหยวนล้วนแฝงไปด้วยความนับถือหลายส่วนนี่เป็นเรื่องที่ใครก็คาดไม่ถึงจริงๆ!เป็นความจริงที่ชีหยวนพูดมาตลอดว่า ตนได้รับการอบรมสั่งสอนเรื่องมารยาทจากแม่นมเจียง และยังรู้จักกับองค์หญิงใหญ่ด้วยทว่าในความเป็นจริงนั้น ก็ไม่มีผู้ใดถือเป็นจริงนักก่อนหน้านี้ ที่ลู่ฮูหยินประชดประชันถากถางอยู่ที่เรือนหน้า ก็เพราะคิดว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้และต่อให้สอนสิ่งใดให้ชีหยวนจริง นั่นก็คงเป็นเพราะอยู่ว่างจนเบื่อ ดังนั้นจึงให้คำแนะนำอย่างผิวเผินสองสามประโยค จะไปสั่งสอนชีหยวนจริงๆ ได้อย่างไรแล้วจะใส่ใจต่อชีหยวนจริงๆ ได้อย่างไร?ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการลงจากเขา เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงรับญาติที่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรด้วยซ้ำด้วย!ในตอนที่เทียบเชิญฉบับนั้นถูกส่งออกไป แม้แต่ชีเจิ้นก็มิได้จริงจังกับมัน!ผู้ใดจะรู้ว่า คนเขาจะมาแล้วจริงๆ!ไม่เพียงสายตาที่เกาเจียมองชีหยวนเปลี่ยนไปในความเป็นจริง ในตอนที่ได้ยินว่าองค์หญิงใหญ่เสด็จมาถึง แม้แต่ท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้นที่กำลังต้อนรับแขกอยู่เรือนฝ่ายหน้าก็สบตากัน ต่างไม่อาจปิดบังความตื่นเต้นที่อยู่ภายในใจสีหน้าของบรรดาแขกเหรื่อ ก็เต็มไปด้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 94

    แต่เมื่อได้ยินว่า แม้แต่การนอนก็ไม่อาจนอนดีๆ ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกตี นางก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “ใต้หล้าถึงกับมีพ่อแม่ที่ไม่เห็นลูกเป็นมนุษย์เช่นนี้! พวกเขาไม่คู่ควรจะเป็นคนจริงๆ!”ชีหยวนทำเพียงยิ้มเท่านั้น เพราะนางเห็นเหลียนเฉียวที่มีสีหน้าร้อนใจ กำลังชะโงกหัวผลุบโผล่เข้ามาจากนอกศาลาพอดีหัวใจของนางกระตุก เพราะเหลียนเฉียวไปสืบข่าวมา จึงหาข้ออ้างว่าจะไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า รีบออกจากศาลา แล้วถามเหลียนเฉียวว่า “เกิดสิ่งใดขึ้นกัน?”กล่าวจบก็เดินไปที่ทางเดินเส้นเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้าง เช่นนี้คนในศาลาก็จะไม่ได้ยินสิ่งที่พวกนางพูด และสามารถมองเห็นได้เมื่อมีคนมาด้วยเหลียนเฉียวตื่นตระหนกจนน้ำเสียงสั่นสะท้านเล็กน้อย “คุณหนู คุณชายใหญ่ คุณชายใหญ่เขาส่งชิงซงไป…”เมื่อเห็นเหลียนเฉียวตกใจจนใบหน้าซีดขาว สีหน้าของชีหยวนก็เคร่งขรึมลงเช่นกันนางยื่นมือไปกดหัวไหล่ของเหลียนเฉียวเบาๆ “เจ้าค่อยๆ พูด ไม่ต้องรีบร้อน”ไม่ง่ายเลย กว่าเหลียนเฉียวจะควบคุมอาการสั่นสะท้านของตนได้ นางเม้มริมฝีปากกระซิบว่า “คุณหนู คุณชายใหญ่เขาให้ชิงซงไปวางเพลิงศาลบรรพบุรุษเจ้าค่ะ!”เผาศาลบรรพบุรุษ?ในใจของชีหยวนเกิดความตกใจขึ้นมา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 93

    องค์หญิงใหญ่มีสถานะสูงส่ง เป็นพระเชษฐภคินีแท้ๆ ของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันทุกคนต่างรู้ดีว่า ทุกปีฮ่องเต้จะต้องเสด็จไปที่วัด มีอยู่ปีหนึ่งก่อนวันส่งท้ายปีเก่า ยิ่งเสด็จขึ้นเขาไปเชิญองค์หญิงใหญ่กลับวังเพื่อไปอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าด้วยพระองค์เองแต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น องค์หญิงใหญ่ก็มิได้ทรงรับปากบุคคลที่ขนาดฮ่องเต้ก็เชิญไม่ได้ แต่บุตรสาวที่ถูกเลี้ยงดูอยู่ภายนอกของตระกูลชีนับสิบปีกลับเชิญมาได้ แล้วผู้ใดจะเชื่อกัน?ดังนั้น นางย่อมต้องมาชมดูความครึกครื้นอย่างแน่นอนบัดนี้เมื่อได้พบชีหยวน นางยิ่งเลิกคิ้วถามชีหยวนอย่างไม่เกรงใจว่า “ก็อยากถามคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลชีว่า เจ้าขึ้นเขาไปอย่างไร และได้พบองค์หญิงได้อย่างไรกัน? เหตุใดพวกเราจึงไม่มีชะตาวาสนาเช่นนี้บ้าง”สตรีในครอบครัวของขุนนางราชสำนักที่คิดจะไปเสี่ยงโชคดูมีน้อยหรือ?แม้นยอดเขาป๋ายอวิ๋นซานจะไม่อนุญาตให้ขึ้น และอารามที่องค์หญิงใหญ่ทรงประทับอยู่ก็เข้าไปไม่ได้ ทว่าวัดวาอารามที่อยู่รายรอบนั้น ก็แทบจะฮูหยินผู้สูงศักดิ์เหล่านี้เหยียบย่ำจนทุกหนแห่งแล้วนั่นก็เพราะพวกนางอยากลองดูว่า จะหาทางเข้าหาองค์หญิงใหญ่ได้หรือไม่ความเป็นศัตรูของลู่ฮูหยินเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 92

    เหลียนเฉียวรีบรับคำทันทีชีหยวนปฏิบัติต่อข้ารับใช้แตกต่างจากผู้อื่น ดังนั้นตั้งแต่บนลงล่างล้วนเชื่อฟังนางโดยเฉพาะเหลียนเฉียวที่ถือกำเนิดจากบ่าวรับใช้ในตระกูล ยามสืบข่าวในจวน ก็ไม่มีผู้ใดหัวไวกว่านางแล้วแม่นมเสิ่นปรนนิบัติรับใช้ชีหยวนด้วยรอยยิ้ม ขณะเดินทางไปที่เรือนของนางหวังขณะนี้ นางหวังเริ่มรู้สึกประหม่ากังวลขึ้นมาบ้างแล้ว ดังนั้นหนนี้ นางจึงมีความอดทนเพิ่มเป็นพิเศษหลายส่วน นางมองชีหยวนพลางกำชับว่า “อีกครู่เมื่อแขกเหรื่อมาถึงแล้ว ข้าจะต้อนรับแขกสตรีพวกนั้น ส่วนบรรดาพี่น้องสตรีที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้า ก็ต้องให้เจ้าเป็นผู้พาไปเที่ยวเล่นในสวนดอกไม้แล้ว เข้าใจหรือไม่?”ผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงรับญาติ ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายที่มีไมตรีต่อกันดังนั้น ย่อมไม่อาจนั่งเฉย ชมพิธีรับญาติอย่างไร้รสชาติแน่นอนว่าต้องมีการดูงิ้ว รับประทานอาหาร จึงจะถือเป็นท่าทางของการเชิญแขกมางานรับญาติแม้นางหวังจะมิพึงใจในตัวชีหยวน แต่ก็เกรงว่าเรื่องนี้จะเกิดเหตุไม่คาดฝันใดขึ้นมาอีก ถึงเวลานั้น ก็ยากจะอธิบายต่อทางชีเจิ้น ท่านโหวผู้เฒ่า และฮูหยินผู้เฒ่าแล้วชีหยวนก็มิได้ขัดนางหวัง ครั้งนี้ นางรับปาก

DMCA.com Protection Status