Share

บทที่ 366

Author: ฉินอันอัน
ชีเจิ้นตอบรับทันที

ทางด้านตระกูลชีรออยู่นานแล้ว เขารู้ว่าชีหยวนต้องรอข่าวจากเขาอยู่แน่ ดังนั้นเขาจึงรีบเร่งเดินทางกลับตระกูลชีโดยไม่หยุดพัก

เมื่อถึงจวน ท่านโหวผู้เฒ่าชีก็รออยู่แล้ว และพาเขาไปยังหอหมิงเยว่

ระหว่างทาง ท่านโหวผู้เฒ่าก็ไม่ได้อ้อมค้อม บอกเรื่องของชีอวิ๋นถิงให้ชีเจิ้นฟัง

ชีเจิ้นชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าพลันมืดครึ้ม

ท่านโหวผู้เฒ่าชีมองสีหน้าของเขาแล้วถอนหายใจเฮือกยาว “ข้ารู้ว่าเจ้าต้องโกรธแน่……”

ความจริงแล้วสำหรับชีเจิ้น จะว่าโกรธก็คงไม่ใช่ เพียงแต่เมื่อลูกชายเกิดเรื่อง เขาย่อมรู้สึกไม่สบายใจเป็นธรรมดา

แต่หลังจากไปรับพระชายาหลิ่ว เขากลับเห็นเรื่องราวมากกว่านั้น

การที่มีลูกหลานตระกูลขุนนางเสเพลนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก ลูกหลานในตระกูลขุนนางทรราชมีมากมาย

ทว่าทายาทผู้สืบทอดตระกูล จะมีข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด

ไม่เช่นนั้น ตระกูลที่ยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ต้องล่มสลาย

เขาเก็บอารมณ์แล้วพูดเสียงหนักแน่นว่า “อย่างน้อยเขาก็ยังรอดมาได้ ด้วยนิสัยของชีหยวน นับว่าเมตตาแล้ว”

ท่านโหวผู้เฒ่าชีเห็นเขาพูดเช่นนี้ ก็รู้ว่าเขาเข้าใจสถานการณ์ดีแล้ว จึงพยักหน้าและตบไหล่เบาๆ

เมื่อไปถึงหอหมิงเยว่ ชีหยวนรออ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 367

    ชีหยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เรื่องนี้ไม่ต้องรีบ ใครโผล่มาก่อน ก็ฆ่าคนนั้นก่อน”นี่มันไม่ใช่เรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้วหรือ?นางแสยะยิ้มเย็นชา “ท่านพ่อจัดให้ราชบุตรเขยลู่และลูกชายของเขา รวมถึงผู้สูงศักดิ์ท่านนั้นไปอยู่ที่ตำหนักชานเมืองหลวง คงเป็นความต้องการของพระชายาหลิ่วและราชบุตรเขยลู่สินะ?”เรื่องที่ว่าราชบุตรเขยลู่สูญเสียความทรงจำและป่วย หรือว่าผู้สูงศักดิ์ท่านนั้นร่างกายอ่อนแอจนเดินทางไม่ไหว จริงๆ แล้วก็เป็นแค่ข้ออ้างทั้งนั้นตั้งแต่พระชายาหลิ่วเข้าวังมาแล้วเผยให้เห็นว่าความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของพ่อลูกเป็นเพียงภาพลวงตา ก็รู้ได้ทันทีว่านางกลับมาครั้งนี้เพื่อแก้แค้นก็แน่อยู่แล้ว ใครกันจะไม่คลั่ง หากถูกพ่อแท้ๆ ของตัวเองวางแผนปองร้าย ต้องสละตำแหน่งฮองเฮาที่กำลังจะได้มา อีกทั้งยังถูกตามล่าจนต้องหลบๆ ซ่อนๆ มาหลายสิบปี ลูกของตัวเองก็ต้องกลายเป็นคนปัญญาอ่อนเพราะพิษไข้สูงญาติพี่น้องงั้นหรือ?สำหรับพระชายาหลิ่ว นั่นไม่ต่างอะไรจากงูพิษแมงป่องต่อหน้าลูกสาวคนนี้ ไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกต่อไปแล้ว ชีเจิ้นพยักหน้า “เป็นความต้องการของพระชายาหลิ่วจริงๆ นางบอกข้าว่าเซียวโม่ร่างกายอ่อนแอ ไม่สามารถ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 368

    ดังนั้นตอนนี้ แม้ว่าจะถูกพระชายาหลิ่วเปิดโปงในที่นี้ แต่เขากลับยังคงแสดงท่าทีองอาจมีคุณธรรม เพียงแค่ถอนหายใจหนักๆ เท่านั้นฮ่องเต้หย่งชางทั้งทรงตกพระทัยและทรงกริ้วถึงกับไม่รู้ว่าจะรับเรื่องนี้ได้อย่างไรในทันทีเดิมทีที่พระองค์ยอมรับให้เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเข้าวัง ก็เป็นเพราะต้องการชดเชยให้กับจวนฉู่กั๋วกง ใครจะคิดว่าเรื่องราวกลับกลายเป็นเช่นนี้!หากเป็นเช่นนั้นจริง เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยแม้จะถือว่าเป็นน้องสาวของพระชายาหลิ่ว แต่แท้จริงแล้วนางคือศัตรูของพระชายาหลิ่ว!เป็นศัตรูที่ทำให้มารดาของพระชายาหลิ่วตรอมใจตายพระองค์ที่ทรงตกพระทัยและพิโรธ เค้นถามฉู่กั๋วกงว่า “ฉู่กั๋วกง เรื่องนี้มันเป็นมาอย่างไรกันแน่?!”กั๋วกงหลับตาลง ยกชายเสื้อขึ้นแล้วคุกเข่าลงกับพื้น โขกศีรษะกับพื้นพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฝ่าบาท เรื่องนี้เป็นเช่นที่พระชายากล่าว…...”เขายอมรับแล้ว! เขายอมรับมันจริงๆ แล้ว!สีหน้าของพระชายาหลิ่วบิดเบี้ยวไปชั่วขณะ “ท่านแม่ข้ามีแต่ความจริงใจให้ท่าน! นางถึงกับยอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อตามท่านไปถึงเมืองจางโจว เพื่อท่านแล้วนางต้องแท้งลูกไปหลายครั้งจนสุดท้ายไม่สามารถมีลูกได้อีก! แต

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 369

    เมืองหลวงแทบจะเกิดแผ่นดินไหว พระชายาหลิ่วที่หายตัวไปหลายปี ตอนนี้กลับมาอย่างปลอดภัย แล้วฮองเฮาองค์ปัจจุบันจะทำเช่นไร?ตามกฎบรรพบุรุษ พระชายาหลิ่วเป็นชายาเอกโดยชอบธรรม และนางก็ไม่เคยกระทำผิด ดังนั้นบัดนี้เมื่อนางกลับมาแล้ว นางก็ควรได้รับตำแหน่งฮองเฮาอย่างถูกต้อง!สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ตระกูลเฝิง ต่างกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของรัชทายาทองค์ปัจจุบัน แต่เดิมทีฮงเฮาและรัชทายาทก็ไม่ได้รับความโปรดปรานอยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะมีพระราชนัดดาที่เก่งกาจ เกรงว่าตำแหน่งมกุฎราชกุมารคงรักษาไว้ไม่ได้ตั้งนานแล้วแต่ตอนนี้พระชายาหลิ่วกลับมาแล้ว เช่นนั้นทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไปใครบ้างไม่รู้ว่าอดีตตอนที่ฮ่องเต้หย่งชางยังอยู่ที่ดินแดนศักดินา ทรงผ่านความลำบากมาด้วยกันกับพระชายาหลิ่ว ทั้งสองเป็นสามีภรรยาที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา?ขณะเดียวกัน ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉาความโชคดีของตระกูลหลิ่วก่อนหน้านี้ตระกูลหลิ่วก็มีกุ้ยเฟยที่ได้รับความโปรดปรานอย่างสูง ถือเป็นเกียรติสูงสุดในช่วงหนึ่งและตอนนี้พระชายาหลิ่วก็กลับมาอีก มีแนวโน้มว่าจวนฉู่กั๋วกงอาจจะได้ฮองเฮาอีกองค์ นั่นหมายความว่าตระกูลหลิ่วจะมีทั้งฮ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 370

    เซียวอวิ๋นถิงตอบรับด้วยเสียงหนักแน่นฟ่านเหลียงตี้ยังไม่ทันให้รัชทายาทเอ่ยปาก ก็ยิ้มพลางถามว่า “ในเมื่อพระราชนัดดาองค์โตเสด็จไปยังตำหนักไท่จี๋แล้ว เช่นนั้นเรื่องคราวนี้คงไม่มีปัญหาอะไรแล้วสินะ?”หากเป็นเมื่อก่อน เซียวอวิ๋นถิง ค่อนข้างถนัดในการรับมือกับคำพูดอ้อมค้อมเหล่านี้ แต่ตอนนี้ เขากลับไม่อยากเสแสร้งอีกต่อไปเขาจ้องมองฟ่านเหลียงตี้ด้วยสายตาเรียบนิ่ง แล้วเอ่ยเสียงเบา “พูดถึงเรื่องนี้ เมื่อวานคนที่ต้องไปชมดอกเหมยที่วัดหวงเจวี๋ยพร้อมเสด็จพ่อ ควรเป็นฟ่านเหลียงตี้มิใช่หรือ? แต่เหตุใดจู่ๆ จึงเปลี่ยนเป็นหวังเหม่ยเหรอแทน?”ใบหน้าของฟ่านเหลียงตี้เปลี่ยนสีทันที นางฝืนยิ้มแล้วแก้ตัวอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “นี่ แน่นอนว่าเพราะอาการปวดศีรษะเรื้อรังของหม่อมฉันกำเริบขึ้นมาน่ะเพคะ”“อย่างนั้นหรือ?” เซียวอวิ๋นถิง ไม่ได้แสดงท่าทีเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่กลับหันไปมองรัชทายาทที่มีสีหน้าดุดัน“เสด็จพ่อ ควรไตร่ตรองให้ดีเถิด เรื่องบังเอิญเช่นนี้ ดูเหมือนจะเกิดขึ้นกับฟ่านเหลียงตี้ไม่ใช่เพียงครั้งเดียวใช่หรือไม่?”ฟ่านเหลียงตี้ตาแดงคลอเบ้า รีบลุกขึ้นแล้วคุกเข่าลงกับพื้น “รัชทายาทเพคะ…...”เซียวอวิ๋นถิงแค่

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 371  

    ในชาติก่อนท้ายที่สุดแล้วเพราะองค์รัชทายาทเสียมารยาทในพิธีรับเสด็จ จึงเป็นเหตุให้ถูกฮ่องเต้หย่งชางทอดทิ้ง กอปรกับอ๋องฉีในตอนนั้นยิ่งได้รับความโปรดปรานเพิ่มขึ้นทุกขณะ ฮ่องเต้หย่งชางทรงมีดำริจะปลดรัชทายาทหลายครั้ง ครั้งหนึ่งฮ่องเต้หย่งชางเคยถึงขั้นตั้งคำถามกับฉู่ป๋อราชเลขาธิการสำนักขุนนางหลวงในตอนนั้น โดยถามว่าหากเขาปลดรัชทายาท ควรจะแต่งตั้งผู้ใดเป็นรัชทายาทแทน? ตัวฉู่ป๋อเองแม้ยึดมั่นในระบบสืบทอดราชวงศ์ แต่กระนั้นก็ทราบดีว่าฮ่องเต้หย่งชางในขณะนั้นกำลังพิโรธถึงที่สุด ก็ใช้ไหวพริบ ตอบกลับไปว่า: “นับแต่โบราณกาลแต่งตั้งมกุฎราชกุมารนั้นหากมิใช่แต่งตั้งโอรสพระองค์โตแล้ว ก็ต้องแต่งตั้งโอรสสายตรงพ่ะย่ะค่ะ หากว่าฝ่าบาทมีพระประสงค์จะปลดรัชทายาทและแต่งตั้งวังบูรพาอีกพระองค์ขึ้นดำรงตำแหน่งแทนแล้ว กระหม่อมเห็นควรว่าต้องหาตัวพระชายาหลิ่วให้พบ และแต่งตั้งโอรสพระองค์โตที่เกิดจากพระชายาเอกขึ้นเป็นรัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ!” เมื่อถ้อยคำนี้ถูกเอ่ยออกมา แม้แต่คนที่สนับสนุนฝ่ายรัชทายาทเองก็ยังส่งเสริมแนวคิดนี้ กราบทูลให้ฮ่องเต้หย่งชางทรงมีราชโองการตามหาตัวพระชายาหลิ่วและโอรสพระองค์โตให้พบ ฮ่องเต้หย่งชางเดิม

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 372  

    ช่างโหดเหี้ยมเสียจริง เสือถึงร้ายยังไม่กินลูกตัวเอง ฉู่กั๋วกงเพื่อเกียรติยศและความมั่งคั่งร่ำรวยของตนเองแล้ว กล้าใจแข็งสังหารพระชายาหลิ่วไปแล้วหนึ่งครั้ง บัดนี้ยังมีใจโหดเหี้ยมพอจะปลิดชีวิตนางทิ้งอีกเป็นครั้งที่สอง และยังมีฮ่องเต้หย่งชางด้วยอีกคน เขาอาจจะสนใจพระชายาหลิ่วจริง และอาจจะคิดถึงพระชายาหลิ่วจริง หรืออาจจะถึงขั้นไม่สนใจพื้นเพชีวิตของพระชายาหลิ่วจริง ทว่า พระชายาหลิ่วจะยังเทียบกับเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยที่เขารักและทะนุถนอมมานานหลายปีคนนั้นได้จริงหรือ? และเซียวโม่ที่สติปัญญาโง่เขลาจะเทียบกับธิดาที่ฉลาดเฉียบแหลมได้หรือ? ชีหยวนหยุดที่หน้าประตูเรือนสกุลเจียงอย่างเย็นชา ครั้นมองเห็นกับตาว่าขันทีในวังมาถึงเรือนสกุลเจียงพร้อมกับพานายท่านใหญ่ของสกุลเจียงมาด้วยกัน ซึ่งนั่นก็คือลุงแท้ ๆ ของพระชายาหลิ่ว ก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างอดไม่ได้ จริงดังที่คาด นางเดาไว้ไม่ผิดเลย นางสีหน้าไม่สื่ออารมณ์ ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นนานครู่ใหญ่ ก่อนจะหมุนตัวและเดินออกไปโดยไม่พูดอะไร เมื่อนางกลับมาถึงเรือนสกุลชี โหวผู้เฒ่าชีก็ถามนางด้วยความสงสัยเล็กน้อย: “ท่านอ๋องยังไม่มาพบเจ้าอีกหรือ?” ท่านอ๋อง? ชีห

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 373  

    หลายปีที่ผ่านมา องค์หญิงใหญ่ไม่เคยเชื่อว่าราชบุตรเขยลู่จะเสียชีวิตไปแล้ว สกุลลู่ในตอนนั้นปรารถนาจะตั้งป้ายวิญญาณให้กับลู่หมิงอัน และต้องการสร้างแผ่นศิลาจารึกให้กับลู่จิ่นถางบุตรของพวกนาง ทว่าทั้งหมดล้วนถูกองค์หญิงใหญ่คัดค้านอย่างเด็ดขาด นางไม่ยอมรับว่าลู่หมิงอันและลู่จิ่นถางตายไปแล้ว และยืนกรานปฏิเสธเรื่องนี้ด้วยท่าทีแข็งกร้าวมาตลอด ด้วยท่าทีแข็งกร้าวไม่ยอมท้อถอย กอปรกับความรู้สึกผิดอย่างจริงใจของฮ่องเต้หย่งชางที่มีต่อพระกนิษฐา ทำให้เรื่องนี้ถูกปล่อยให้ค้างคาและไม่มีข้อสรุปมาโดยตลอด ทว่าแม้นางจะมีท่าทีแข็งกร้าวไม่ยอมพ่ายแพ้ ทว่าเมื่อกาลเวลาผ่านพ้นไปทีละเล็กทีละน้อย แม้นางจะยังคงแสดงท่าทีแข็งกร้าวออกมาเหมือนเก่า ทว่าภายในใจกลับสูญสิ้นความหวังไปนานแล้ว เนิ่นนานเพียงนี้ หากว่าลู่หมิงอันยังไม่ตายจริง ๆ ต่อให้คลานก็ควรจะคลานกลับมาถึงเมืองหลวงได้แล้ว กลับคิดไม่ถึงเลยว่า บัดนี้ในตอนที่นางสูญสิ้นความหวังไปนานแล้ว กลับกลายเป็นว่าลู่หมิงอันได้กลับมาอย่างปลอดภัยจริง ๆ! ลูกประคำในมือของนางพลันขาดสะบั้น เม็ดลูกประคำร่วงกระจัดกระจายบนพื้น ทันใดนั้น นางลุกพรวดขึ้นมาในทันที ความคิดในศี

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 374  

    เซียวอวิ๋นถิงขมวดคิ้วแน่น: “หากว่าจวนฉู่กั๋วกงมีแผนการเช่นนี้จริง เรื่องก็ยิ่งยุ่งยากแล้ว บัดนี้ฮูหยินฉู่กั๋วกงคนเดิมสิ้นชีวิตไปแล้ว มิหนำซ้ำยังตายโดยไร้หลักฐาน สกุลเจียงเองก็เลือกยืนข้างจวนฉู่กั๋วกงเพื่อผลประโยชน์ ย่อมทำตามทุกสิ่งที่ฉู่กั๋วกงว่า” องค์หญิงใหญ่แค้นสกุลหลิ่วเข้ากระดูกดำ นางกัดฟันกรอดพลางแค่นหัวเราะเสียงเย็นเยียบ: “ช่างลุ่มหลงในความรักเสียจริง เพื่ออนุภรรยานอกเรือนคนนั้น เขาถึงกับสังหารภรรยาและบุตรีสายตรง บัดนี้ยังคิดจะป้ายสีบุตรีสายตรงอีก แม้แต่บุตรีแท้ ๆ ของตนเองยังไม่รู้จัก เดรัจฉานสิ้นดี!” หากเก่งนักก็ไม่ต้องแต่งงานกับนางเจียงตั้งแต่แรกสิ เหตุที่สมรสกับนางเจียง ในตอนนั้นก็เป็นเพราะเห็นแก่อำนาจและบารมีของสกุลเจียง ต่อมาเมื่อสกุลเจียงตกอับ ก็ปฏิบัติกับภรรยาเอกเช่นนี้ ช่างเลวทรามสิ้นดี! แต่นอกจากด่ากราดแล้ว นางก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรดี ทว่าชีหยวนกลับเคาะโต๊ะพลางเอ่ยด้วยเสียงขรึมว่า: “พวกเขาพูดว่าอะไรก็ต้องเป็นเช่นนั้นหรือ? หากข้าบอกว่าข้าเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ พวกเขาก็ต้องก้มกราบสักการะข้าแล้วสิ?” ..... พูดกันอยู่ดี ๆ ชีหยวนพลันโพล่งประโยคแบบนี้ออกมา ทำใ

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 498  

    สวีฮว่านเหงื่อเย็นไหลพลั่ก ตอนที่ได้ยินชีหยวนนับหนึ่ง สอง สาม ท้ายที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว ร้องเสียงดังออกไป “ข้าให้เจ้าก็ได้! ข้าให้เจ้าก็ได้! สาส์นลับอยู่ใน…อยู่ในชั้นวางลับหลังโต๊ะหนังสือในห้องหนังสือของข้า!” ชีหยวนเปล่งเสียงอุทานออกมาหนึ่งคำ ก่อนจะเก็บกริชและปิ่นทองคำกลับมา แล้วใช้มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อด้านหลังของเขาฉุดเขาขึ้นมา และผลักให้เขาเดินไปที่ชั้นหนังสือ พร้อมเอ่ยเสียงเข้มว่า “เปิดมัน” สวีฮว่านลังเลเล็กน้อย ทันใดนั้นชีหยวนก็เตะข้อพับขาของเขาอย่างแรงไปหนึ่งที “เปิดออก!” สวีฮว่านดึงจี้หยกที่ห้อยอยู่ข้างเอวของตนเองออกมาด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนจะฝังมันเข้าไปในตำแหน่งที่เป็นช่องเว้าบนชั้นวางหนังสือ และหมุนมันหนึ่งรอบ ทันใดนั้นชั้นหนังสือก็เปิดออกอย่างช้า ๆ ทว่าเสี้ยวพริบตาเดียวนี้ สวีฮว่านรีบสะบัดตัวออกจากชีหยวนหวังว่าจะหลบหนี เขารู้ดี โดยปกติคนเราเมื่อตกอยู่ในเสี้ยวขณะที่ได้รับสิ่งของที่ตนเองต้องการมากเป็นอย่างยิ่ง ก็จะเผลอไผลไปได้ง่ายดายที่สุด เขาเฝ้ารอจังหวะนี้มาโดยตลอด ทว่าน่าเสียดาย เขาเพิ่งจะกลิ้งตัวไปกับพื้น กลับเห็นชีหยวนใช้มือปัดลูกธนูที่พุ่งออกมาจากชั้นวางลับ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 497  

    สวีฮว่านรู้สึกอึดอัดกับแรงกดของกริชเล่มนั้น และไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลกระทบทางจิตใจหรือไม่ เขารู้สึกอยู่ตลอดว่ารอยแผลที่ชีหยวนกรีดไปนั้นยังคงมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด สิ่งนี้ทำให้เขาหวาดกลัวถึงขีดสุดจริง ๆ คนย่อมมีจุดอ่อน ชื่อเสียงและความรู้สึกหวงแหนชีวิตก็คือจุดอ่อนของสวีฮว่าน เขาเอ่ยด้วยความร้อนรน “ข้าช่วยเจ้าได้! ข้าช่วยล้างมลทินให้ตระกูลของเจ้าได้ ตราบใดที่พวกเจ้ายอมให้ความร่วมมือ ความผิดนี้ ข้าสามารถโยนให้คนอื่นรับไว้ได้!” ใบหน้าของชีหยวนไร้ซึ่งความรู้สึก ทว่าความเยือกเย็นในดวงตากลับยิ่งลุ่มลึกขึ้นมา ปลายกริชที่นางกดเอาไว้บนลำคอของเขาขยับเล็กน้อย เพียงเสี้ยวพริบตาก็สร้างรอยแผลเลือดซิบเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งรอยให้เขาได้เรียบร้อย ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เข้มข้นขึ้น “จะผลักความผิดให้แม่ทัพขุนศึกท่านอื่นที่บัดนี้ยังคงสู้รบในสมรภูมิอย่างซื่อสัตย์ภักดี พร้อมยอมพลีชีพเพื่อชาติได้อย่างนั้นหรือ? หรือคิดจะโยนความผิดให้บรรดาบุตรชายของครอบครัวทหารที่ต้องเข้าสู่สมรภูมิรบตั้งแต่วัยเพียงสิบสองสิบสามเหล่านั้นกัน พวกเขายังไม่ทันได้เติบโตด้วยซ้ำ ก็ต้องมาตายภายใต้อุบายชั่วช้าสามานย์ของพวกเจ้า”

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 496  

    หากว่ามี เช่นนั้นก็ต้องเลี้ยงดูให้ดี หากว่าไม่มี เช่นนั้นก็ต้องคิดหาหนทางเลือกเด็กสักคนในตระกูลมาเป็นบุตรบุญธรรมของเขา เพื่อจะได้เป็นทายาทสืบทอดวงศ์ตระกูล ขณะที่กำลังคิดสะระตะ เขาพลันได้ยินเสียงลมหายใจระลอกหนึ่งพัดผ่านข้างใบหู เสียงลมหายใจ! ทว่าในห้องมีเขาอยู่เพียงคนเดียว! เสี้ยวพริบตาเดียวสวีฮว่านพลันรู้สึกเส้นขนลุกชันไปทั่วทั้งตัว สติหลุดออกจากร่าง และทันใดนั้นก็คิดจะหมุนศีรษะกลับไปโดยสัญชาตญาณ ทว่าจังหวะที่เขากำลังคิดจะผินศีรษะกลับไป กริชเล่มหนึ่งก็ปักลงบนลำคอของเขาอย่างเงียบเชียบไร้เสียง หลังจากนั้นเขาได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ เสียงนี้ชัดเจนว่าเป็นเสียงของดรุณีน้อยงามเพริศพริ้งสดใส เหมือนกับเสียงของบุตรสาวของเขาที่เข้ามาออดอ้อนเขาในยามปกติ ทว่าในเสี้ยวขณะนี้เวลานี้ เขากลับไม่รู้สึกว่าเสียงนั่นกำลังออดอ้อนสักนิด! เพื่อแสดงออกถึงความซื่อสัตย์สุจริตของตนเองแล้ว เรือนของเขายังต้องเช่าอาศัย และในเมื่อเรือนยังต้องเช่าอาศัย ดังนั้นในเรือนย่อมไม่สามารถมีบ่าวรับใช้ที่มากเกินไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สามารถมียามเฝ้าเรือนได้ด้วย ดังนั้นองครักษ์เหล่านั้นของเขา ล้วนแต่ถูกเลี

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 495  

    อาภรณ์ชุดใหม่ในเรือนตัดเย็บเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ปีนี้นับเป็นปีที่หาได้ยากที่เหล่าดรุณีสกุลสวีจะได้สวมเสื้อคลุมขนสัตว์ออกไปเที่ยวชมพระโพธิสัตว์ สกุลสวีทั้งเบื้องบนเบื้องล่างต่างปีติยินดี แม้แต่ฮูหยินสวีก็ยังแต่งกายด้วยอาภรณ์ชุดใหม่ทั้งตัว ในปีนี้นางสวมเสื้อนวมสองชั้นที่ทำจากผ้าไหมฝูกวงซึ่งเป็นแบบที่ทันสมัยที่สุด ข้างนอกคลุมด้วยเสื้อคลุมขนนกยูง มองแล้วดูหรูหราเจิดจ้าจับตา เดิมทีนางรู้สึกประหม่าอยู่เล็กน้อย ก่อนออกจากเรือนยังถึงขั้นถามสวีฮว่านขึ้นมาเป็นพิเศษว่า “วันนี้เป็นวันที่สาม ต้องขึ้นเขาไปกราบไหว้พระโพธิสัตว์ จุดธูปทอนน้ำมัน ทว่าก็มีบรรดาสตรีผู้มีหน้ามีตาในเมืองหลวงไปที่นั่นด้วยเช่นกัน พวกเราแต่งกายเช่นนี้ เหมาะสมแล้วหรือ?” หลายปีที่ผ่านมานี้ บรรดาสตรีในสกุลสวีได้ชื่อว่ามัธยัสถ์เรียบง่ายมาตลอด แต่กระนั้นก็ไม่มีใครดูถูกดูแคลนพวกนาง ใครต่างก็รู้ว่าในเมืองหลวงสวีฮว่านขึ้นชื่อว่าสุจริตมือสะอาด งานเลี้ยงของคนอื่น งานสังสรรค์สุราของคนอื่น เขาไม่เคยไปร่วมเลยสักครา เพราะไปกินของคนอื่น ย่อมเลี่ยงไม่ได้ต้องเชิญคนอื่นมากินเลี้ยงตอบแทนกลับในภายหลัง ใต้เท้าสวีเคร่งครัดในความสุจร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 494  

    “ไม่!” ชีหยวนส่ายหน้า มองเซียวอวิ๋นถิงตรง ๆ พลางถามว่า “ท่านอ๋อง หากต้องให้คนอื่นมาพูดแทนท่านปู่และท่านพ่อของข้าน้อย ตรงกันข้าม ขอให้คนของท่านยื่นฎีกาไม่ไว้วางใจท่านพ่อและท่านปู่ของข้าน้อยด้วยดีกว่า!” เหล่าจ้าวคิดในใจ นี่เขาไม่ได้ฟังผิดไปกระมัง? คุณหนูใหญ่สกุลชีเสียสติไปแล้วหรือ?! ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับเข้าใจความหมายของชีหยวนได้ในทันที การลักลอบค้าขายสิ่งของผิดกฎหมายและการสมรู้ร่วมคิดกับข้าศึกขายชาติให้อริศัตรูถือเป็นแผนการอันชั่วช้าเลวร้ายมากเกินไปจริง ๆ เหตุผลที่ผู่อู๋ย่งทำเช่นนี้ ก็เพราะรู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็สามารถทำให้สกุลชีสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายพระเนตรของฮ่องเต้หย่งชางนับจากนี้ไปตลอดกาล แม้ภายหลังจะหาตัวคนร้ายที่แท้จริงเจอแล้วก็ตาม ทว่าหากว่า หากว่าชีหยวนถูกลอบสังหารครั้งแล้วครั้งเล่า และคนในราชสำนักล้วนพากันรุมโจมตีสกุลชี หวังทำลายสกุลชีให้สิ้นซากไป ทว่าต่อมากลับได้ค้นพบความลับในภายหลังว่าเงินตำลึงจำนวนมหาศาลถูกซุกซ่อนไว้ในเรือนเช่าของสกุลสวี ไหนจะคนเหล่านั้นที่เซียวอวิ๋นถิงได้ส่งไปที่จี้โจวแล้วด้วย… เช่นนั้นในตอนนี้ยิ่งทำให้เรื่องราวใหญ่โตอื

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 493  

    ตอนที่นางกลับมาถึงหอหมิงเยว่ เซียวอวิ๋นถิงคอยอยู่บนชั้นสองแล้ว เขาคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ราวกับเดินกลับเรือนของตนเอง ชีหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เมื่อคิดได้ว่ามีเรื่องสำคัญ ก็มิได้พูดอะไรมาก เพียงแต่นั่งลง และเอ่ยขึ้นอย่างตรงประเด็น “ข้าน้อยจัดการสังหารสวีซินเฉียวแล้ว เขามิได้เปิดเผยข้อมูลใดที่เป็นประโยชน์” หนนี้เหล่าจ้าวแอบติดตามมาด้วย วิชายุทธ์ของเหล่าจ้าวนับว่าเลิศล้ำ ดังนั้นต่อให้จะอยู่ห่างไกล เขาก็สามารถได้ยินบทสนทนาของคุณหนูใหญ่สกุลชี มิหนำซ้ำ… ยังพูดอย่างฉะฉานมั่นใจในเหตุผลมากเสียด้วย ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับไม่รู้สึกถึงความผิดปกติแม้แต่น้อย เขามุ่นหัวคิ้วขึ้น พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มีคนแอบติดตามเจ้า” อำนาจของขันทีผู้ใหญ่ประจำกรมขันทีราชพิธีมิใช่เล่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้นองครักษ์เสื้อแพรยังแทรกซึมเข้าไปได้ทุกที่ กล่าวได้ว่า นับแต่เสี้ยวขณะที่ชีหยวนถูกลอบสังหาร ทุกการเคลื่อนไหวของนางอยู่ในกำมือของพวกเขาหมดแล้ว ชีหยวนเปล่งเสียงรับคำเบา ๆ สีหน้าท่าทางสงบสุขุมยิ่งนัก “ข้าน้อยทราบแล้ว ดังนั้นหลังจากข้าน้อยสังหารสวีซินเฉียว พวกเขาจะคิดว่าอย่างไร?” จะคิดว่าอย่างไรหร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 492  

    คนเรายามที่ตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกอย่างรุนแรง ก็มักจะเผลอใช้ความคิดฟุ้งซ่านมากลบเกลื่อนความหวาดกลัวและความตกใจของตนเองเสมอ ชีหยวนเผากริชด้วยไฟจนร้อนจัด ก่อนจะดึงหน้านิ่งและเสียบมันเข้าไปที่กระดูกสะบักซ้ายของสวีซินเฉียว จนแทงทะลุไปอีกด้านหนึ่งของเขา ทว่าหนนี้สวีซินเฉียวแม้แต่เสียงร้องก็ยังเปล่งออกมาไม่ได้ ทรุดลงกับพื้นทั้งร่างสั่นเทาและชักกระตุก ดวงตาฉายประกายหวาดกลัว ชีหยวนหยัดกายขึ้นยืน ก่อนจะหมุนตัวกลับไปอย่างเรียบเฉยและส่งยิ้มให้สวีซินเฉียวพลางเอ่ยว่า “ใต้เท้าสวี ท่านจะไม่พูดก็ย่อมได้ ข้าเข้าใจ ว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับชีวิตของคนในสกุล ท่านจะไม่พูดก็เป็นเรื่องธรรมดา เช่นนั้นพวกเราค่อยพบกันอีกครั้งในยุทธจักรเถิด” นางเอ่ยพลาง ก็ส่ายเทียนไขในมือของตนเองไปมา “ข้าจะส่งท่านเดินทางครั้งสุดท้าย เผาท่านไม่ให้เหลือซาก จะได้ประหยัดแม้กระทั่งโลงศพด้วย ถือเป็นการทำประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อชาวบ้านจี้โจวไปด้วย” ชาวหว่าล่ารุกรานเข้ามาทุกปี ชาวบ้านในที่แห่งนั้นเผชิญหายนะทุกข์ทรมานกันไปแล้วตั้งเท่าใด?! พวกเขาโหดร้ายป่าเถื่อน บุรุษถูกสังหารทันที ส่วนสตรีและเด็กก็กวาดต้อนกลับไปยังทุ่งหญ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 491  

    และทันทีที่ผ้าขี้ริ้วถูกดึงออกมาจากในปาก สวีซินเฉียวไม่แม้แต่จะหยุดชะงักก็อ้าปากหมายจะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือทันที แต่ชัดเจนว่าความรวดเร็วของชีหยวนยังเร็วกว่าเขามาก เขายังไม่ทันได้อ้าปากส่งเสียง ชีหยวนก็จัดการยัดผ้าขี้ริ้วกลับเข้าไปในปากของเขาอีกครั้งด้วยความรวดเร็วแล้ว และที่ยัดเข้าไปคราวนี้ก็ลึกยิ่งกว่าคราวก่อน แทบจะจุกเข้าไปถึงด้านในลำคอของสวีซินเฉียว ทำให้สวีซินเฉียวถึงขั้นพะอืดพะอมพยายามสำรอกออกมาหลายครั้ง ระดับความตื่นรู้ของคนหนึ่งคน เทียบเท่ากับระดับความเจ็บปวดทั้งหมดที่เขาได้รับ สำหรับสวีซินเฉียวในยามนี้ก็นับเป็นเช่นนี้ ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่า เมื่อใดที่สตรีตรงหน้าเอื้อนเอ่ยวาจาน้ำลายหนึ่งหยดของนางคือตะปูหนึ่งดอก หากไม่เชื่อฟังคำพูดของนางแล้ว นางจะแสดงความน่ากลัวอย่างถึงที่สุดออกมา ชีหยวนผุดยิ้มเล็กน้อยพลางหยิบปิ่นปักผมขึ้นมาและปักกลับไปที่มวยผมดังเดิม จากนั้นค่อยแค่นเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ พลางขยับข้อมือไปมา “ใต้เท้าสวี ดูท่านสิ เหตุใดท่านจึงไม่เชื่อฟังกันบ้างเจ้าคะ? คนที่ไม่เชื่อฟัง จะต้องถูกลงโทษนะเจ้าคะ” เอ่ยพลาง นางก็เลื่อนมือข้างหนึ่งไปปิดปากสวีซินเฉียวไว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 490

    แต่ยิ่งเป็นเช่นนั้น สวีฮว่านก็ยิ่งระมัดระวังในการกระทำมากขึ้นไปอีกที่จวนไม่เคยจัดงานเลี้ยงหรืองานมหรสพใด ๆ เลยแม้แต่ในงานเลี้ยงวันเกิดของหญิงชรา ก็แค่ให้คนในครอบครัวทานข้าวด้วยกันมื้อเดียวแล้วก็จบกันไปเงินทองในบ้านกองเป็นภูเขา ผ้าไหมผ้าแพรก็มีมากมาย แต่ก็ไม่เคยเอาออกมาใช้แค่เห็นแต่ใช้ไม่ได้ นี่แหละถึงเป็นเรื่องที่อึดอัดใจและกลัดกลุ้มใจที่สุด!นางยังคิดว่าสวีฮว่านคงจะเป็นแบบนี้ไปทั้งชีวิตแล้ว ใครจะรู้ว่าเขาเหมือนจะคิดตกได้ในทันทีสวีฮว่านยิ้มบาง ๆ พูดอย่างมีนัยยะว่า “เมื่อก่อนใช้ไม่ได้ แต่หลังจากนี้จะใช้ได้แล้ว”ฮูหยินสวีฟังไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอะไร แต่ก็ดีใจยิ่งนัก รีบเปิดคลังเอาหนังสัตว์ออกมา ตัดเสื้อผ้าใหม่ให้เด็ก ๆ ในบ้านกันคนละชุดที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความชื่นมื่นสวีซินเฉียวออกจากบ้านสวีก็ยิ้มแย้มมีความสุขเช่นกันแน่นอนว่ามีความสุขอยู่แล้ว!สิ่งที่เขาทำ เขาก็รู้ตัวดีว่าเป็นความผิดมหันต์ถึงขั้นถูกตัดหัวและฆ่าล้างเก้าชั่วโคตร แต่ตอนนี้ไม่ต้องกลัวแล้ว เพราะมีตระกูลชีเป็นแพะรับบาปไปแล้ววันขึ้นปีใหม่ บังเอิญมีเรื่องมงคล เขาดีใจจนเดินตรงไปที่หอหงเฟิ่นจินที่ค้าขายดีท

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status