แชร์

บทที่ 34

ผู้เขียน: ฉินอันอัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-19 16:10:41
สีหน้าของชีเจิ้นมืดมนลงอย่างฉับพลัน

นางหวังตวาดในทันที “เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใดกัน?!”

แม่นมจางร่ำไห้พลางคลานอยู่บนพื้น “ฮูหยิน เป็นเรื่องจริงเจ้าค่ะ คุญชายใหญ่เป็นคนสั่งให้บ่าวทำ! ทั้งหมดนี้คุณชายใหญ่เป็นคนสั่งให้บ่าวทำเจ้าค่ะ!”

ชีหยวนค่อย ๆ ยิ้มให้กับชีเจิ้น “ท่านพ่อ ดูเหมือนว่าท่านคงต้องสืบสวนคนข้างกายของท่านพี่ให้ดีเสียหน่อยแล้วนะเจ้าคะ”

ในขณะนั้นนางหวังจิตใจสับสนเป็นอย่างมาก

หมายความว่ากระไร?

หมายความว่า อาการป่วยของชีอวิ๋นถิงทั้งหมด เป็นการเสแสร้งอย่างนั้นหรือ?

เป็นเพราะจงใจจะใส่ความชีหยวนอย่างนั้นหรือ?!

เขา เขาเสียสติไปแล้วหรือไร!

ชีเจิ้นรีบสั่งการหลิวจงโดยไม่รอช้า “เอาตัวแม่นมจางไปมัดไว้ แล้วพาตัวไปที่อุทยานฉางชิง!”

หลิวจงเหลือบมองไปที่ชีหยวนอย่างไม่รู้ตัว ตัดสินใจแล้วว่า ในภายภาคหน้าจะต้องไม่ทำให้คุณหนูใหญ่ต้องอึดอัดใจเป็นอันขาด!

คนผู้นี้มิอาจล่วงเกินได้

เมื่อกำชับหลิวจงเสร็จ ชีเจิ้นก็กล่าวกับชีหยวนว่า “ข้าจะให้คำอธิบายแก่เจ้า!”

หลังพูดจบ ก็มุ่งตรงไปที่อุทยานฉางชิงในทันที

นางหวังอยากจะตำหนิชีหยวนอีกหลายประโยค แต่เมื่อเห็นท่าทางของสามีเป็นเช่นนี้แล้ว ก็กลัวว่าสามีจะค
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 35

    ชีเจิ้นโกรธเกรี้ยวราวกับถูกไฟเผาก่อนหน้านี้เขามักจะคิดว่าชีอวิ๋นถิงเป็นเพียงคุณชายเจ้าสำราญอยู่บ้างเท่านั้น ทว่าก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไรมากนักมีชายหนุ่มคนใดที่ไม่มีจิตใจเร่าร้อนฮึกเหิมบ้างเล่า? เมื่อความสับสนกับพละกำลังผ่านพ้นไป ย่อมสามารถกลับมายืนบนทางที่ถูกที่ควรได้ทว่าผู้ใดจะคิดว่าชีอวิ๋นถิงจะสารเลวถึงเพียงนี้!กินยาพิษด้วยตนเอง แล้วใช้วิชาคาถามาใส่ความน้องสาวแท้ ๆ ของตน! ช่างคิดขึ้นมาได้เสียเหลือเกิน!หากว่าเรื่องนี้รั่วไหลออกไป ชื่อเสียงของชีอวิ๋นถิงคงจะต้องย่อยยับ! ความไม่กตัญญูและไม่ซื่อสัตย์จะถูกตีตราให้กับเขาเป็นที่เรียบร้อย!โง่เง่า!เขาจับจ้องไปที่บุตรชายผู้นี้ของตนด้วยสายตาที่น่ากลัว “พูด! ผู้ใดให้เจ้าทำเช่นนี้?!”เขารู้ดีว่าชีอวิ๋นถิงเป็นคนที่มีความประพฤติเช่นไร ถึงเจ้าโง่นี่จะหุนหันพลันแล่นไปบ้าง แต่ก็ไม่มีความคิดที่จะทำเรื่องเลว ๆ ความคิดที่คดเคี้ยวเช่นนี้ เขาไม่เชื่อว่าจะไม่มีใครคอยยุยงอยู่เบื้องหลังตอนที่ถามคำถามนี้ เขายังจงใจเหลือบมองไปชีจิ่นด้วยชั่วขณะนั้นทำให้ชีจิ่นรู้สึกหนาวไปทั่วร่าง หัวใจสั่นสะท้านนางกัดริมฝีปาก จนแทบจะได้กลิ่นเลือดที่อยู่ในปา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 36  

    เรื่องในครั้งนี้ แม้ชีอวิ๋นถิงจะออกตัวรับผิดชอบทั้งหมด หัวเด็ดตีนขาดก็บอกว่าเขาทำเอง แต่ในความคิดของนางหวัง เรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับชีจิ่นเป็นแน่ เพราะสองคนนี้ ตั้งแต่เด็กก็เป็นแบบนี้ ไม่ว่าชีจิ่นต้องการสิ่งใด แต่ไรมาก็ไม่เคยพูดออกมาตรงๆ ล้วนเป็นชีอวิ๋นถิงช่วยออกหน้าแทนนางตลอด ไม่ว่าจะถูกตำหนิหรือลงโทษ ชีอวิ๋นถิงก็พุ่งออกไปรับแทนนางทั้งหมด เมื่อก่อนไม่เคยก่อปัญหาใหญ่ ล้วนเป็นเพียงเรื่องเล็ก นางหวังจึงถือว่าเป็นความสนิทสนมระหว่างเด็กๆ ได้ หลับตาข้างลืมตาข้าง ทำเป็นไม่เห็นอย่างเป็นสุข แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน! ครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวพันถึงอนาคตและชะตาชีวิตของชีอวิ๋นถิง! ชีจิ่นไม่อยากเชื่อ มองตนเองที่ถูกสะบัดออก ร้องเรียกออกมาอย่างตกตะลึง “ท่านแม่…” จากนั้น น้ำตาก็ไหลพรั่งพรูลงมา ชีอวิ๋นถิงเห็นแล้วก็ปวดใจอย่างที่สุด รู้สึกขุ่นเคืองและไม่ยอมรับ “ท่านแม่! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับอาจิ่น ท่านจะตีจะว่าก็มาลงที่ข้าสิขอรับ…” นางหวังโกรธจัด ถลึงตาใส่ชีอวิ๋นถิงเขม็ง “หุบปาก! หากเจ้ายังพูดอีกคำ ก็ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าแม่อีก ข้าจะถือเสียว่าเจ้าตายไปแล้ว!” บางทีอา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 37  

    หลังจากจัดการข้ารับใช้แล้ว ต่อมาก็คือคนในเรื่องแล้ว ชีเจิ้นมองนางหวัง “ต่อจากนี้ไป ต้องอบรมชีอวิ๋นถิงอย่างเข้มงวดแล้ว! หากปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจไร้ความกริ่งเกรงเช่นนี้อีก จะเป็นการทำร้ายเขาแล้ว!” คำพูดเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่นางหวังคิดจะพูดเช่นกัน ตัวนางเองก็พูดสนับสนุนว่า “ใช่เจ้าค่ะ เขาใช้ไม่ได้เกินไปแล้วจริงๆ…” “ส่วนซีจิ่น ก็ส่งไปที่บ้านพักชานเมืองเถอะ” ชีเจิ้นไม่รอให้นางหวังพูดจบ เขาตัดบทคำพูดของนาง ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ในชั่วขณะหนึ่ง นางหวังยังไม่ทันประมวลผลคำพูดเขา รอจนได้สติกลับมา จึงเบิกตากว้าง “ท่านโหว!” นางไม่อยากเชื่อ! พวกนางเลี้ยงดูชีจิ่นมานานหลายปีถึงเพียงนี้!ไม่ว่าจะเป็น พิณ หมากล้อม อักษร หรือภาพวาด ล้วนไม่มีเรื่องใดที่ชีจิ่นไม่ชำนาญ และยามพาออกไปข้างนอก ก็เป็นตัวแทนของหน้าตาและศักดิ์ศรีของจวนโหว จวนหย่งผิงโหวก็บอกกับบุคคลภายนอกว่า ในอดีตนั้น ที่คลอดออกมาเป็นฝาแฝด เพียงแต่ผู้เป็นพี่หายไปและหาพบแล้วเท่านั้น แต่เวลานี้กลับจะส่งตัวชีจิ่นออกไป? นางรู้สึกลังเลและตัดใจไม่ได้อยู่บ้าง “ท่านโหว เรื่องนี้ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นอาจิ่นที่…” ชีเจิ้นมองนางอย่างผิดหวัง “ผู้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 38  

    ทว่าชีหยวนที่รู้แต่แรก กลับไม่ยอมเปิดโปง แต่ใช้แผนซ้อนแผน ล่อเสือออกจากถ้ำ หลอกล่อแม่นมจางและชีอวิ๋นถิงให้ตกสู่กับดักทีละก้าว นางจงใจทำเช่นนั้น จงใจให้ชีเจิ้นได้เห็นว่า เพื่อชีจิ่นแล้ว ชีอวิ๋นถิงสามารถทำได้ถึงขั้นใด และก็จงใจให้ชีเจิ้นได้เห็นว่า ชีอวิ๋นถิงซึ่งเป็นบุตรชายคนโตผู้ถือกำเนิดจากภริยาเอก ที่จะกลายเป็นผู้สืบทอดจวนโหวในอนาคตนั้น ขาดคุณสมบัติอันเหมาะสมเพียงใด นี่มัน… จิตใจเย็นชาเกินไปแล้วจริงๆ! ทว่ายามนี้ เมื่อชีเจิ้นพูดถึงชีหยวน ก็เต็มไปด้วยคำชื่นชมและความชอบใจ ทำให้นางหวังไม่อาจพูดสิ่งใดได้มากนัก ได้แต่พยักหน้าด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยวเล็กน้อยว่า “เจ้าค่ะ ท่านโหววางใจเถอะ ข้ารู้แล้ว” จากนั้น ชีเจิ้นก็แยกจากนางหวังและตรงไปที่หอหมิงเยว่ ที่หอหมิงเยว่ ไป๋เจ๋อวิ่งร่างกายสั่นสะท้านเข้ามา คุกเข่าผลุบลงเบื้องหน้าชีหยวน น้ำเสียงยังคงสั่นเทาด้วยความประหม่า “คุณหนูใหญ่เจ้าคะ เมื่อครู่ข้าเห็นคนลากแม่นมจางไปแล้วเจ้าค่ะ แม่นมจางแม้แต่พูดก็พูดไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ!” ชีหยวนกำลังอ่านหนังสือ นางราวกับคาดเดาได้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้น เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋จื่อ ก็ทำเพียงหัวเราะเท่านั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 39  

    ท่ามกลางความมืดมิดของรัตติกาล ในที่สุด จวนหย่งผิงโหวที่วุ่นวายมาค่อนคืน ก็เข้าสู่ความสงบในช่วงสั้นๆ  สรรพสิ่งรอบกายเงียบสงัด แม้แต่หญิงรับใช้ที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูยังหลับสัปหงกอยู่บนโต๊ะ และยังหาวออกมาเป็นระยะ ในขณะที่กำลังสะลึมสะลือนั่นเอง นางพลันได้ยินเสียงทุบประตูดัง ‘ปังปังปัง’ อย่างเร่งร้อน เสียงนี้ทำให้นางสะดุ้งขึ้นมา ตอนแรกยังคิดว่าตนเองกำลังฝันไป รอจนเสียงยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จึงรีบปาดน้ำลายทีหนึ่ง จากนั้นวิ่งมาเปิดประตูเรือน เมื่อประตูเรือนถูกเปิดออก เกาเจียที่กำลังขมวดคิ้วอยู่ก็ตำหนิออกมาว่า “ทำอะไรอยู่ฮึ? เปิดประตูแค่นี้ก็ยังอืดอาดชักช้า!” หญิงรับใช้หวาดหวั่นจนสีหน้าซีดขาว รีบอธิบายว่า “ลมแรงเกินไปน่ะเจ้าค่ะ เลยคิดไม่ถึงว่าท่านจะมาในเวลานี้…” นางหวังที่อยู่ข้างหลังกระแอมขึ้นมาทีหนึ่งอย่างหมดความอดทน “อย่าได้พูดมาก เข้าไปแล้วค่อยว่ากัน!” เกาเจียรีบรับคำ ดันหญิงรับใช้ที่เฝ้าประตูออก จากนั้นประคองนางหวังเดินเข้าไป ภายในห้อง บรรดาสาวใช้ทั้งหลายล้วนยังไม่เข้านอน ต่างก็อยู่เป็นเพื่อนชีจิ่นอย่างระมัดระวัง วันนี้พวกนางก็มองออกแล้วว่า เกรงว่าท่านโหวคงโมโหคุณหนูของพว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 40  

    ราวกับมีสายฟ้าสายหนึ่งฟาดลงมาจากท้องฟ้า เสียงร้องไห้ของชีจิ่นหยุดลงแล้ว รู้สึกเพียงว่าในหัวของตนมีเสียงวิ้งดังขึ้นมา ราวกับมีดอกไม้ไฟนับไม่ถ้วนกำลังระเบิดอยู่ในหัวของนาง ส่งนางไป? ! จวนหย่งผิงโหววางแผนจะทิ้งนางแล้ว?! หลังค้นพบชาติกำเนิดของตน นางก็หวาดหวั่นอยู่ทุกวัน ทุกวันล้วนต้องหวาดกลัวว่าตนเองจะสูญเสียความโปรดปราน จะถูกละทิ้งไป ดังนั้น นางจึงได้ทำทุกวิถีทางในการติดต่อคนขายเนื้อแซ่สวี่และหลี่ซิ่วเหนียง ให้พวกเขาขัดขวางมิให้ชีหยวนกลับมา จึงได้ส่งสัญญาณให้แม่นมฮวาลงมือกับชีเหยียน จึงได้พยายามจับชีอวิ๋นถิงไว้อย่างเร่งร้อนเช่นนี้ เพราะต้องการให้ชีอวิ๋นถิงยืนอยู่ข้างนางไปตลอด แต่ตอนนี้ นางยังไม่ทันได้ลงมือจริงๆ เลยด้วยซ้ำ กลับจะต้องจากไปแล้ว?! ชีจิ่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก เกือบจะกอดขานางหวังไว้ ร้องไห้ออกมาอย่างปวดใจว่า “ท่านแม่! ข้าไม่ได้ทำจริงๆ นะเจ้าคะ ข้าไม่ได้ทำจริงๆ! วันหลังข้าไม่กล้าแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ ขอร้องท่าน อย่าให้ข้าไปเลยนะเจ้าคะ! ตั้งแต่เด็กจนโตข้าก็ไม่เคยจากท่านไปเลย ข้าไม่อาจไม่มีท่านนะเจ้าคะ ท่านแม่!” นางร้องไห้จบเสียงแหบแห้ง ทำให้คนอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 41  

    ถึงอย่างไรชีจิ่นก็เติบโตมาข้างกายนางหวัง จึงเข้าใจถึงจุดอ่อนของนางหวังเป็นอย่างดี ทันทีที่สงบลง นางก็จะทำการตัดสินใจที่เป็นประโยชน์ต่อตนที่สุดอย่างรวดเร็ว นางหวังถูกทำให้สะเทือนใจอย่างที่คิดจริงๆ ภายใต้ความรู้สึกผิด นางขึ้นเสียงสั่งการเหล่าข้ารับใช้ว่า “จงดูแลคุณหนูรองให้ดี หากให้ข้ารู้ว่าใครกล้าละเลย! ก็ระวังหัวของพวกเจ้าไว้ให้ดี!” จากนั้นก็ให้เกาเจียนำของที่ชีจิ่นใช้เป็นประจำไปให้หมดอีก หลังจัดการเรื่องต่างๆ ไปมาอย่างวุ่นวาย ค่ำคืนนี้ก็ได้ผ่านไปแล้ว ในยามที่ฟ้าเพิ่งสาง รถม้าคันหนึ่งก็ออกจากประตูมุมตะวันตกของจวนหย่งผิงโหวอย่างเงียบๆ จากนั้นตรงไปทางประตูเต๋อเซิ่งซึ่งเป็นประตูเมือง หลังนางหวังจัดการเรื่องการออกจากจวนของชีจิ่นเสร็จ ก็เหน็ดเหนื่อยจนไร้เรี่ยวแรงแล้ว ในตอนที่ฝืนกลับไปถึงห้อง นางก็เห็นชีเจิ้นนั่งอยู่บนเตียงแล้ว จึงถอนใจออกมาทีหนึ่ง กล่าวว่า “ส่งไปแล้วล่ะเจ้าค่ะ นางร้องไห้จนใจข้าพลอยไม่สบายไปด้วย” ชีเจิ้นเหลือบมองนางอย่างเรียบเฉยทีหนึ่ง “หากยามปกติเจ้าไม่ตามใจพวกเขาเช่นนั้น เวลานี้ ก็คงไม่ก่อปัญหาใหญ่โตถึงเพียงนี้!” เหตุใดกลับมาโทษนางอีกแล้วเล่า? นางหวัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 42  

    ยามนี้ชีจิ่นถูกส่งจากไปแล้ว สำหรับชีหยวนแล้วถือเป็นเรื่องดีอย่างมาก จะได้ถือโอกาสนี้ใช้เวลากับฮูหยินและท่านโหวให้เต็มที่ เพื่อเพราะสร้างความสัมพันธ์อันดีขึ้นมา ชีหยวนเผยรอยยิ้มที่ไม่แสดงอารมณ์ออกมา “สาวน้อยที่โง่งม เจ้าไร้เดียงสาเกินไปแล้ว” ยังกล่าวไม่ทันจบ นอกห้องก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจของเสาเย่าดังเข้ามา ไป๋อินรีบออกไปตรวจสอบดู จากนั้น ชีหยวนก็ได้ยินไป๋อินร้องเสียงดังอยู่หน้าประตูว่า “คุณชายใหญ่ ท่านเข้าไปไม่ได้เจ้าค่ะ! คุณหนูของพวกเรายังไม่ลุกจากเตียงเลยเจ้าค่ะ ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!” สีหน้าของชีหยวนแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาแล้ว ส่วนชีอวิ๋นถิงนั้น ได้เลิกม่านบุกเข้ามาในห้องอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้ว เขาไม่กล่าวสิ่งใดก็พุ่งเข้าหาชีหยวนทันที มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อขอชีหยวนขึ้นมา อีกข้างก็บีบคอของชีหยวนไว้ เค้นถามอย่างดุร้ายว่า “เจ้าบังคับให้อาจิ่นจากไป เจ้าบีบบังคับจนอาจิ่นจากไปแล้ว เจ้ามันนังสารเลว!” เจ้าคนเสียสตินี่! เหลียนเฉียวตกใจอย่างมาก นางรีบไปดึงแขนของชีอวิ๋นถิงออกอย่างสุดกำลัง “คุณชายใหญ่! ท่านปล่อยคุณหนูของพวกเราเถิดเจ้าค่ะ!” ชีหยวนก้มศีรษะลง ยกศอกขึ้น แล้วก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 100

    ขณะที่นางกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เกาเจียก็รีบเร่งฝีเท้าเข้ามาปลอบประโลมนางหวัง “ฮูหยิน ไฟด้านหน้าถูกดับลงหมดแล้วเจ้าค่ะ ยามนี้ไม่มีปัญหาใดแล้วเจ้าค่ะ!”ขอบคุณฟ้าดิน!นางหวังพนมมือขึ้นท่องชื่อองค์พระอย่างอดไม่ได้ จากนั้นก็เชิญองค์หญิงใหญ่ให้ไปชมการแสดงงิ้วที่เรือนด้านหน้าองค์หญิงใหญ่มองชีหยวนอย่างอบอุ่น พลางตบหัวของชีหยวนเบาๆ “ช่างเถอะ ข้ามิได้ฟังงิ้วมานานหลายสิบปีแล้ว ยามนี้ ไม่มีความสนใจต่อสิ่งเหล่านั้นอีกแล้ว เมื่อมาเยือนและได้พบกับสาวน้อยผู้นี้แล้ว ก็ให้จบเพียงเท่านี้เถิดนี่หมายความว่าจะจากไปแล้วลู่ฮูหยินเม้มปาก รู้สึกว่าองค์หญิงใหญ่ช่างให้เกียรติยัยเด็กนี่เหลือเกิน ก็ไม่รู้ว่าที่แท้เด็กผู้นี้มีสิ่งใดพิเศษกันแน่หานเยว่เอ๋อร์กลับขมวดคิ้วเบาๆเพลิงไหม้ในครั้งนี้รุนแรงถึงเพียงนี้ องค์หญิงใหญ่กลับไม่ทรงรู้สึกว่า นี่เป็นความอัปมงคลที่ชีหยวนนำพามาเลยหรือ?ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ภรรยาของหลิวจงก็กลับมาจากด้านนอกอีกครั้ง นางกล่าวกับนางหวังเบาๆ ว่า “ฮูหยิน ท่านโหวให้เชิญคุณหนูใหญ่และคุณหนูหานไปทางนั้นสักรอบเจ้าค่ะ”อะไรนะ?นางหวังตกตะลึง มองไปที่หานเยว่เอ๋อร์อย่างไม่คาดคิดอยู่บ้าง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 99

    ไฟที่ไหม้อยู่ในศาลบรรพบุรุษ ทำให้แขกในเรือนส่วนหน้ากว่าครึ่งแสดงความเจตจำนงที่จะไปช่วยไปดับไฟเพราะไม่ว่าอย่างไร เมื่อมาเป็นแขกที่จวนของผู้อื่นแล้วพบเรื่องแบบนี้เข้า จะเอาแต่นั่งเป็นห่วงโดยไม่ทำสิ่งใด ก็ออกจะไม่เหมาะนักทว่า ท่านโหวผู้เฒ่ากับชีเจิ้น จะให้แขกเหรื่อทั้งหลายไปได้อย่างไร?ต่างพากันรีบหยุดพวกเขาไว้ บอกว่าคนจากกองบัญชาการปัญจทิศรักษานครและหน่วยลาดตระเวนล้วนมากันแล้ว อีกไม่นานก็จะสามารถดับไฟได้แล้วและในความเป็นจริง สิ่งที่ท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้นพูดก็ถูกต้องอย่างมาก เพราะหลังจากนั้นไม่นาน กองบัญชาการปัญจทิศรักษานครและหน่วยลาดตระเวน ก็ร่วมมือกันดับไฟลงได้จริงๆทั้งท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้น ล้วนพากันถอนใจอย่างโล่งอกโดยเฉพาะท่านผู้เฒ่าที่ถามออกมาทันทีว่า สถานการณ์เป็นเช่นใดแล้ว? ป้ายวิญญาณของบรรพบุรุษไม่เป็นไรกระมัง?”หากเกิดสิ่งใดขึ้นมา นั่นก็จะเป็นเรื่องชวนให้หดหู่อย่างแท้จริงชีเจิ้นรีบเชิญผู้บัญชาการของกองบัญชาการปัญจทิศรักษานครเข้ามา ผลคือ ทันทีที่ใต้เท้าหยวนเข้ามาก็กล่าวว่า “ท่านโหวเพลิงไหม้ของพวกในครั้งนี้ มิได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ”......หมายความว่าอย่างใดก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 98

    แขกคนอื่นๆ ก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันไปมา คนละคำสองคำเช่นกัน“นั่นสิ กลับมาหาครอบครัว พิธีรับญาติยังไม่ทันเสร็จ ศาลบรรพบุรุษก็ไหม้ขึ้นมาแล้ว คุณหนูใหญ่ผู้นี้ คงมิใช่สิ่งอัปมงคลอะไรหรอกนะ?”“หรืออาจไปโดนของสกปรกอะไรเข้าก็เป็นได้ ไม่เช่นนั้น จะบังเอิญถึงขนาดนี้ได้อย่างไร”เสียงวิพากษ์วิจารณ์พวกนี้ล้วนเข้าไปถึงหูของนางหวังนางหวังโมโหจนปวดท้อง จึงหันไปถลึงตาใส่ชีหยวนอย่างไม่ปรานีผู้คนต่างกังวลใจ และมีความคิดเห็นมากมาย เวลานี้ สายตาที่สตรีบางคนในกลุ่มนี้มองชีหยวน เริ่มไม่ปกติขึ้นมาแล้วสายตาขององค์หญิงใหญ่ทอดลงบนตัวชีหยวน เมื่อเห็นนางสงบมั่นคง มิได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ก็อดชื่นชมอยู่ในใจก่อนมิได้เรื่องอื่นยังไม่พูดถึง การที่อายุเท่านี้ก็มีความสุขุมใจเย็นเช่นนี้ได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่งนางมองไปยังสาวน้อยที่อยู่เบื้องหน้า ถามนางเบาๆ ว่า “เจ้าไม่กลัวหรือ?”ชีหยวนเงยหน้าขึ้นมามองนางแล้วยิ้มออกมา ในตอนที่นางยิ้มออกมานั้น ดวงตาของนางสุกสกาวราวกับดวงดาว จากนั้น นางก็กะพริบตาอย่างเจ้าเล่ห์ “เมื่อไม่ได้ทำผิดอันใด ย่อมมิกลัวผีร้ายมาเคาะประตู หม่อมฉันไม่กลัวดอกเพคะ”แม่นมเจียงและอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 97

    เหลียนเอ๋อร์ที่เห็นว่าเปลือกหอยมุกที่ประดับอยู่บนหน้าผากของนางเบี้ยว ก็รีบยื่นมือไปจัดให้นาง และเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ก็หัวเราะตามไปด้วยว่า “คุณหนูท่านก็ช่างจริงๆ เลย คนเขาน่าเวทนาถึงเพียงนั้นแล้ว ท่านยังชมเรื่องสนุกอยู่อีก”หานเยว่เอ๋อร์เลิกคิ้ว “ข้าย่อมได้แต่ชมดูเรื่องสนุกอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นยังจะทำสิ่งใดได้? ในศาลบรรพบุรุษของตระกูลชี ยังมีเหล่าวีรชนที่ร่วมปราบพวกชาวหว่าล่า [1] กับองค์ฮ่องเต้เกาจู่อยู่ด้วย เหอะๆ ไฟกองนี้เมื่อไหม้ขึ้นมา…”ตัวชีอวิ๋นถิงในยามนี้กำลังเหงื่อออกเต็มศีรษะ เขาเพียงขยับบั้นท้ายของตนเล็กน้อย ก็อดไม่ได้ที่จะแยกเขี้ยวยิงฟันด้วยความเจ็บปวดสาวใช้ที่คอยปรนนิบัติยกน้ำมาเพื่อใส่ยาให้เขาอย่างระมัดระวัง แต่กลับถูกเขายื่นมือไปปัดอ่างจนพลิกคว่ำ แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไสหัวออกไป!”ตอนนี้อารมณ์ของเขาแปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ดังนั้น ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่กล้ายั่วยุเขา สาวใช้จึงรีบเก็บอ่างน้ำแล้วถอยออกไปทันทีชีอวิ๋นถิงสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง ยืนกรานที่จะลงจากเตียงและเขยื้อนกายไปริมหน้าต่าง เมื่อเห็นทางทิศของศาลบรรพบุรุษมีกลุ่มควันหนาทึบลอยขึ้นมา เวียนวนดำมืดอยู่กลางอากาศ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 96

    เดิมคิดว่านางได้ตัดขาดจากเจ็ดอารมณ์หกปรารถนา [1] ไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกียวิสัยแล้วแต่นี่มิใช่ ยังเลี้ยงบุตรสาวไว้อีกคนหนึ่งหรือ?!ชีหยวนไม่รู้ถึงอารมณ์ในตอนนี้ของลู่ฮูหยิน แต่ต่อให้รู้ นางก็ไม่มีทางสนใจนักเมื่อเห็นแม่นมเจียงที่อยู่ข้างกายองค์หญิงใหญ่ ก็บังเกิดความรู้สึกแสบจมูกอยากร้องไห้ขึ้นมา ทำให้นางเกือบอดกลั้นไว้ไม่อยู่แล้วนางคุกเข่าลงเบื้องหน้าองค์หญิงใหญ่ ทำการคารวะอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมสีหน้าขององค์หญิงใหญ่อ่อนโยนลง พยักหน้าพลางประคองนางขึ้นมา “เดิมยังคิดว่าเจ้าเป็นเพียงเด็กสาวชาวชนบทในหมู่บ้านคนหนึ่งจริงๆ คิดไม่ถึงว่า เจ้าจะยังมีโชคชะตาเช่นนี้”แม่นมเจียงที่ยืนอยู่ด้านข้าง กล่าวด้วยรอยยิ้มเอ็นดูและเมตตาว่า “แค่ดูก็รู้ว่าเป็นเด็กสาวที่มีวาสนาเพคะ”นางหวังเกร็งเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรพูดสิ่งใดอยู่บ้างยังคงเป็นฮูหยินรองแห่งตระกูลผู้ที่อยู่ด้านข้าง ที่รีบรับคำว่า “แม้นางจะเพิ่งกลับมาได้ไม่นาน ทว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุคลิกหรือระเบียบมารยาทก็ล้วนไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย พวกเราก็มารู้ในภายหลังเช่นกันว่า นางถึงกับได้รับการแนะนำสั่งสอนจากท่านแม่นมเจียง”แม่นมเจียงอมยิ้ม “ไม่นั

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 95

    ตอนนี้ สายตาที่เกาเจียมองชีหยวนล้วนแฝงไปด้วยความนับถือหลายส่วนนี่เป็นเรื่องที่ใครก็คาดไม่ถึงจริงๆ!เป็นความจริงที่ชีหยวนพูดมาตลอดว่า ตนได้รับการอบรมสั่งสอนเรื่องมารยาทจากแม่นมเจียง และยังรู้จักกับองค์หญิงใหญ่ด้วยทว่าในความเป็นจริงนั้น ก็ไม่มีผู้ใดถือเป็นจริงนักก่อนหน้านี้ ที่ลู่ฮูหยินประชดประชันถากถางอยู่ที่เรือนหน้า ก็เพราะคิดว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้และต่อให้สอนสิ่งใดให้ชีหยวนจริง นั่นก็คงเป็นเพราะอยู่ว่างจนเบื่อ ดังนั้นจึงให้คำแนะนำอย่างผิวเผินสองสามประโยค จะไปสั่งสอนชีหยวนจริงๆ ได้อย่างไรแล้วจะใส่ใจต่อชีหยวนจริงๆ ได้อย่างไร?ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการลงจากเขา เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงรับญาติที่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรด้วยซ้ำด้วย!ในตอนที่เทียบเชิญฉบับนั้นถูกส่งออกไป แม้แต่ชีเจิ้นก็มิได้จริงจังกับมัน!ผู้ใดจะรู้ว่า คนเขาจะมาแล้วจริงๆ!ไม่เพียงสายตาที่เกาเจียมองชีหยวนเปลี่ยนไปในความเป็นจริง ในตอนที่ได้ยินว่าองค์หญิงใหญ่เสด็จมาถึง แม้แต่ท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้นที่กำลังต้อนรับแขกอยู่เรือนฝ่ายหน้าก็สบตากัน ต่างไม่อาจปิดบังความตื่นเต้นที่อยู่ภายในใจสีหน้าของบรรดาแขกเหรื่อ ก็เต็มไปด้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 94

    แต่เมื่อได้ยินว่า แม้แต่การนอนก็ไม่อาจนอนดีๆ ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกตี นางก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “ใต้หล้าถึงกับมีพ่อแม่ที่ไม่เห็นลูกเป็นมนุษย์เช่นนี้! พวกเขาไม่คู่ควรจะเป็นคนจริงๆ!”ชีหยวนทำเพียงยิ้มเท่านั้น เพราะนางเห็นเหลียนเฉียวที่มีสีหน้าร้อนใจ กำลังชะโงกหัวผลุบโผล่เข้ามาจากนอกศาลาพอดีหัวใจของนางกระตุก เพราะเหลียนเฉียวไปสืบข่าวมา จึงหาข้ออ้างว่าจะไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า รีบออกจากศาลา แล้วถามเหลียนเฉียวว่า “เกิดสิ่งใดขึ้นกัน?”กล่าวจบก็เดินไปที่ทางเดินเส้นเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้าง เช่นนี้คนในศาลาก็จะไม่ได้ยินสิ่งที่พวกนางพูด และสามารถมองเห็นได้เมื่อมีคนมาด้วยเหลียนเฉียวตื่นตระหนกจนน้ำเสียงสั่นสะท้านเล็กน้อย “คุณหนู คุณชายใหญ่ คุณชายใหญ่เขาส่งชิงซงไป…”เมื่อเห็นเหลียนเฉียวตกใจจนใบหน้าซีดขาว สีหน้าของชีหยวนก็เคร่งขรึมลงเช่นกันนางยื่นมือไปกดหัวไหล่ของเหลียนเฉียวเบาๆ “เจ้าค่อยๆ พูด ไม่ต้องรีบร้อน”ไม่ง่ายเลย กว่าเหลียนเฉียวจะควบคุมอาการสั่นสะท้านของตนได้ นางเม้มริมฝีปากกระซิบว่า “คุณหนู คุณชายใหญ่เขาให้ชิงซงไปวางเพลิงศาลบรรพบุรุษเจ้าค่ะ!”เผาศาลบรรพบุรุษ?ในใจของชีหยวนเกิดความตกใจขึ้นมา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 93

    องค์หญิงใหญ่มีสถานะสูงส่ง เป็นพระเชษฐภคินีแท้ๆ ของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันทุกคนต่างรู้ดีว่า ทุกปีฮ่องเต้จะต้องเสด็จไปที่วัด มีอยู่ปีหนึ่งก่อนวันส่งท้ายปีเก่า ยิ่งเสด็จขึ้นเขาไปเชิญองค์หญิงใหญ่กลับวังเพื่อไปอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าด้วยพระองค์เองแต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น องค์หญิงใหญ่ก็มิได้ทรงรับปากบุคคลที่ขนาดฮ่องเต้ก็เชิญไม่ได้ แต่บุตรสาวที่ถูกเลี้ยงดูอยู่ภายนอกของตระกูลชีนับสิบปีกลับเชิญมาได้ แล้วผู้ใดจะเชื่อกัน?ดังนั้น นางย่อมต้องมาชมดูความครึกครื้นอย่างแน่นอนบัดนี้เมื่อได้พบชีหยวน นางยิ่งเลิกคิ้วถามชีหยวนอย่างไม่เกรงใจว่า “ก็อยากถามคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลชีว่า เจ้าขึ้นเขาไปอย่างไร และได้พบองค์หญิงได้อย่างไรกัน? เหตุใดพวกเราจึงไม่มีชะตาวาสนาเช่นนี้บ้าง”สตรีในครอบครัวของขุนนางราชสำนักที่คิดจะไปเสี่ยงโชคดูมีน้อยหรือ?แม้นยอดเขาป๋ายอวิ๋นซานจะไม่อนุญาตให้ขึ้น และอารามที่องค์หญิงใหญ่ทรงประทับอยู่ก็เข้าไปไม่ได้ ทว่าวัดวาอารามที่อยู่รายรอบนั้น ก็แทบจะฮูหยินผู้สูงศักดิ์เหล่านี้เหยียบย่ำจนทุกหนแห่งแล้วนั่นก็เพราะพวกนางอยากลองดูว่า จะหาทางเข้าหาองค์หญิงใหญ่ได้หรือไม่ความเป็นศัตรูของลู่ฮูหยินเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 92

    เหลียนเฉียวรีบรับคำทันทีชีหยวนปฏิบัติต่อข้ารับใช้แตกต่างจากผู้อื่น ดังนั้นตั้งแต่บนลงล่างล้วนเชื่อฟังนางโดยเฉพาะเหลียนเฉียวที่ถือกำเนิดจากบ่าวรับใช้ในตระกูล ยามสืบข่าวในจวน ก็ไม่มีผู้ใดหัวไวกว่านางแล้วแม่นมเสิ่นปรนนิบัติรับใช้ชีหยวนด้วยรอยยิ้ม ขณะเดินทางไปที่เรือนของนางหวังขณะนี้ นางหวังเริ่มรู้สึกประหม่ากังวลขึ้นมาบ้างแล้ว ดังนั้นหนนี้ นางจึงมีความอดทนเพิ่มเป็นพิเศษหลายส่วน นางมองชีหยวนพลางกำชับว่า “อีกครู่เมื่อแขกเหรื่อมาถึงแล้ว ข้าจะต้อนรับแขกสตรีพวกนั้น ส่วนบรรดาพี่น้องสตรีที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้า ก็ต้องให้เจ้าเป็นผู้พาไปเที่ยวเล่นในสวนดอกไม้แล้ว เข้าใจหรือไม่?”ผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงรับญาติ ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายที่มีไมตรีต่อกันดังนั้น ย่อมไม่อาจนั่งเฉย ชมพิธีรับญาติอย่างไร้รสชาติแน่นอนว่าต้องมีการดูงิ้ว รับประทานอาหาร จึงจะถือเป็นท่าทางของการเชิญแขกมางานรับญาติแม้นางหวังจะมิพึงใจในตัวชีหยวน แต่ก็เกรงว่าเรื่องนี้จะเกิดเหตุไม่คาดฝันใดขึ้นมาอีก ถึงเวลานั้น ก็ยากจะอธิบายต่อทางชีเจิ้น ท่านโหวผู้เฒ่า และฮูหยินผู้เฒ่าแล้วชีหยวนก็มิได้ขัดนางหวัง ครั้งนี้ นางรับปาก

DMCA.com Protection Status