แชร์

บทที่ 152

ผู้เขียน: ฉินอันอัน
เมื่อทำท่าปาดคอ

ขันทีสวีก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย

เสนาธิการจานท่านนี้เป็นถึงคนสนิทข้างกายท่านอ๋องเชียวนะ เขายังคิดว่าท่านอ๋องจะไว้ชีวิตเขาเสียอีก

แต่ในเมื่อท่านอ๋องตัดสินใจแล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรต้องเสียดาย เขาจึงอืมเสียงหนึ่ง “เช่นนั้นยังไม่รีบไปอีก? ทำงานต้องคล่องแคล่วหน่อย!”

เวลานี้ ชีหยวนก็กำลังรอใครบางคนอยู่ที่โรงน้ำชา

ไป๋จื่อเทน้ำชาให้นาง และถามเสียงเบา “คุณหนู ท่านอ๋องจะมาได้หรือไม่เจ้าคะ?”

ก่อนหน้านี้ชีหยวนให้ซุ่นจื่อไปส่งข่าวให้ลิ่วจินแล้ว----- นี่ก็คือวิธีติดต่อที่พวกเขาตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้

แต่เมื่อวันก่อน ชีหยวนกับเซียวอวิ๋นถิงยังแยกย้ายจากกันไปแบบไม่สบอารมณ์อยู่เลย

อีกอย่างท่านอ๋องยังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ นางรู้สึกว่าคุณหนูเหมือนจะล่วงเกินท่านอ๋องอย่างรุนแรง จึงไม่รู้ว่าท่านอ๋องจะยอมมาจริงหรือไม่

แต่ความจริงพิสูจน์แล้วว่านางคิดมากไป เพราะชีหยวนนั่งลงได้ไม่นาน เซียวอวิ๋นถิงก็เข้ามาแล้ว

ตอนที่เห็นเซียวอวิ๋นถิง ไป๋จื่ออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก

โชคดีที่ดูแล้วท่านอ๋องเป็นคนใจกว้างมาก ไม่ใจแคบเลยแม้แต่น้อย

เซียวอวิ๋นถิงมองชีหยวนด้วยรอยยิ้ม ในใจมีความสุขเล็กน้อยจริง ๆ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Wathini Wathini
อย่าเทกันน้าาาารออ่านตอนต่อไป
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
ตกลงเรียกว่า วัดต้าหลี่ หรือ ศาลต้าหลี่ อ่านแรกๆ ก็งง เลยต้องย้อนกลับไปอ่านใหม่
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 153

    เซียวอวิ๋นถิงมองชีหยวนอย่างเงียบ ๆ ชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นจู่ ๆ ก็ถามขึ้นว่า “ตอนนี้คุณหนูใหญ่ชีมีธุระอะไรหรือไม่?”เขาเห็นชีหยวนส่ายหน้า ก็ถอนหายใจพลางพยักหน้าเล็กน้อย “ในเมื่อคุณหนูใหญ่ชีไม่มีธุระ เช่นนั้นหออี้หงนี่ ไม่สู้พวกเราไปด้วยกันเสียรอบหนึ่ง เป็นอย่างไร?”ไป๋จื่อที่เดิมทีคอยปรนนิบัติอยู่ด้านข้าง เมื่อได้ยินเขาบอกว่าอยากให้ชีหยวนไปหออี้หงด้วยกัน ก็ไม่อาจทำเป็นไม่ได้ยินได้ จึงเอ่ยเสียเบา “นี่ นี่เกรงว่าจะไม่เหมาะสมกระมัง? นั่น นั่นก็คือหอนางโลมนะเจ้าคะ!”พูดคำนี้จบ ใบหน้าของนางก็ร้อนผ่าวราวกับไฟเผาไปชั่วขณะ ถึงอย่างไรสถานที่แบบนี้ สำหรับหญิงสาวที่มาจากครอบครัวสูงศักดิ์ มันคือการทำลายศีลธรรมอันดีจริง ๆ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการเข้าไปเลยถึงอย่างไรคุณหนูใหญ่ก็เป็นสมาชิกของจวนโหว แม้ว่ายามปกติพฤติกรรมดูแล้วจะแตกต่างจากบุตรสาวตระกูลสูงศักดิ์ทั่วไปอยู่มาก แต่หากเรื่องที่ไปหอนางโลมนี้ถูกแพร่งพรายออกไป สุดท้ายก็จะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของคุณหนูใหญ่เป็นอย่างยิ่งเซียวอวิ๋นถิงไม่ได้สนใจไป๋จื่อ เขาเพียงแค่รอคำตอบจากชีหยวนเท่านั้นชีหยวนเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง หลังจากนั้นก็ยิ้มขึ้นมา “ได้เจ้าค่

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 154

    ฉากนี้ยิ่งทำให้รู้สึกกระสับกระส่ายมากขึ้น เซียวอวิ๋นถิงรู้สึกนั่งไม่ติดเล็กน้อย “คุณหนูใหญ่ชี นี่ไม่มีอะไรน่าดูหรอก...”ชีหยวนจ้องมองเซียวอวิ๋นถิงอย่างไม่ละสายตาชั่วขณะหนึ่ง มองจนเซียวอวิ๋นถิงขนลุกไปทั้งตัว “เจ้ามองข้าทำไม?”ชีหยวนไม่ได้ตอบคำถาม นางแค่เหม่อลอยเล็กน้อยในชาติที่แล้วนางถูกทิ้งอยู่ที่นี่ และโดนแม่เล้าจับล้างมือ ล้างหน้า และรักษาเท้าจนหายดี จากนั้นก็บังคับนางให้ต้อนรับลูกค้านางยังคิดว่าตนเอง ต้องเป็นเหมือนกับหญิงสาวที่อยู่ในหอนี้ ไปตลอดชีวิตเสียแล้วต้อนรับลูกค้า ป่วย ใช้ชีวิตตามยถากรรม หลังจากตายแล้วก็จะถูกโยนลงในสุสานรวมสิ่งเหล่านั้นที่ไป๋จื่อพูด นางรู้ดีทั้งหมด แถมยังเคยเห็นชีวิตอันน่าเศร้าของเด็กผู้หญิงนับไม่ถ้วนกับตาตนเองอีกเป็นเซียวอวิ๋นถิงที่เห็นนางกำปิ่นปักผมฆ่าลูกค้า จึงช่วยเหลือนางออกมาได้อย่างราบรื่น......ทว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอดีตไปแล้ว นางตั้งสติกลับมา ไม่คิดจะอุบไว้อีก จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพลางเอ่ยกับเซียวอวิ๋นถิงว่า“เช่นนั้นข้าจะพาท่านอ๋องไปดูสิ่งที่ต่างออกไปเจ้าค่ะ”ปาเป่าและลิ่วจินทนไม่ไหวนานแล้วตอนที่ท่านอ๋องบอกว่าจะมาหออี้หง พวกเขาต่างก็

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 155

    กระบวนการต่อรองราคานานมาก สุดท้ายหลังจากส่งพวกอันธพาลกลับไปแล้ว หงเสี่ยวก็เดินขึ้นมาข้างหน้ามองเด็กสาวพวกนี้แวบหนึ่ง ก่อนจะสะบัดพัดกลมอย่างไม่ใส่ใจ ใช้มือปิดจมูกและปากด้วยท่าทางรังเกียจพลางถอยไปด้านหลังหนึ่งก้าว “อาบน้ำพวกนางให้สะอาด ช่วงนี้ก็ดูแลให้เคร่งครัดหน่อย และอย่าปล่อยให้ใครฆ่าตัวตายด้วย”บรรดาสมุนล้วนคุ้นชินจนเห็นเป็นเรื่องปกติ จึงตอบรับอย่างรีบร้อนหงเสี่ยวก้าวเท้าขึ้นเตรียมจะจากไป เด็กสาวที่อยู่บนรถเข็นไม้ขนาดใหญ่จู่ ๆ กลับฟื้นขึ้นมา และกระโดดลงมาเกาะขาของหงเสี่ยวไว้แน่น “พี่สาว ข้าถูกจับตัวมา ขอร้องท่าน ขอร้องท่านโปรดเมตตาปล่อยข้าไปเถอะ! ที่บ้านข้ามีพ่อแม่ และยังมีน้องสาวน้องชายด้วย...”หงเสี่ยวย่อตัวลงมาและยิ้ม ราวกับจะเมตตาเล็กน้อย “ช่างเป็นเด็กที่น่าสงสารเสียจริง”เด็กสาวคนนั้นได้ยินหงเสี่ยวพูดเช่นนี้ ก็ร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหล ความหวังก็ก่อตัวขึ้นอยู่ในใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด “พี่สาว ขอร้องท่านปล่อยข้าไปเถิด แล้วข้าจะจดจำบุญคุณอันยิ่งใหญ่ของท่านอย่างแน่นอน...”รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของหงเสี่ยวกลับมลายหายไป เล็บมือที่แหลมคมจับคางของเด็กสาวไว้ บนใบหน้ายังแฝงไปด้วยความดูถ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 156

    เมื่อนางพูดมาถึงตรงนี้ ก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจเหตุใดถึงจะต้องฆ่าอ๋องฉี?แน่นอนเป็นเพราะว่าเขาสมควรตาย!บุตรหลานของกษัตริย์ผู้สูงส่ง ที่คอยยืนอยู่บนก้อนเมฆมองดูสรรพสัตว์ ฆ่าคนคนหนึ่งราวกับฆ่ามดมาโดยตลอดผู้นั้นต่างหาก ถึงจะเป็นคนที่สมควรตายมากที่สุด!เซียวอวิ๋นถิงถึงกับถูกสายตาของชีหยวนจับจ้องจนรู้สึกชาเล็กน้อย เขากลืนน้ำลาย และกำลังจะเอ่ยปากพูด จู่ ๆ กลับได้ยินเสียงกรีดร้องเสียงหนึ่งดังขึ้น จากนั้น หงเสี่ยวก็พาคนกลุ่มหนึ่ง เร่งฝีเท้าเข้าไปในเรือนหลังหนึ่งอย่างรีบร้อนชีหยวนอดไม่ได้จึงเดินไปด้านหน้าสองก้าวแต่ทางด้านหงเสี่ยวเห็นได้ชัดว่ามีองครักษ์เรือนที่เก่งกาจฝีมือดี หันหน้ามาถามด้วยเสียงเย็นชาในทันที “ใคร?!”เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป เซียวอวิ๋นถิงจึงตัดสินใจดึงนางกลับมา จากนั้นจับศีรษะนางกดอยู่ในอ้อมแขนไว้แน่น และพานางเดินไปทางองครักษ์เรือนคนนั้นอย่างมั่นใจ “ให้ตายเถอะ สภาพแวดล้อมที่มืดมิดเช่นนี้ พวกเจ้าหออี้หงทำการค้ากันอย่างไร?”คนที่อยู่เบื้องหน้าสวมเสื้อผ้าราคาแพง เวลานี้ในอ้อมแขนยังกอดหญิงสาวคนหนึ่งไว้ สถานการณ์เช่นนี้แค่เห็นก็รู้แล้วว่ากำลังสนุกสนานกันอยู่ในเรือน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 157

    ไป๋จื่อยืนอยู่ริมหน้าต่างด้วยความกังวลอยู่ตลอด ด้านนอกเต็มไปด้วยแสงสีและสุรานารี ทั้งโอ่อ่าตระการตา แต่ในความคิดของนาง สถานที่แเห่งนี้ไม่ต่างอะไรกับนรกเลยโดยเฉพาะเมื่อเห็นเด็กสาวคนหนึ่งถูกถอดเสื้อผ้าในที่สาธารณะ นางยิ่งอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาชีหยวนและเซียวอวิ๋นถิงหันหน้ามองไปด้านนอก ก็ย่อมมองเห็นฉากนี้เช่นกันในหอนางโลมความจริงแล้วทำการค้าเกี่ยวกับเรือนร่าง แม้ว่าสถานที่จะหรูหราเพียงใด แต่ก็เป็นแค่ภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น และจุดนี้เซียวอวิ๋นถิงย่อมทราบดีเช่นกันแต่หอนางโลมที่เหยียบย่ำคนถึงเพียงนี้เช่นหออี้หง เขากลับได้เห็นเป็นครั้งแรกจริง ๆ สายตามองตาแก่คนหนึ่งที่อายุราวเจ็ดแปดสิบปีถอดเสื้อผ้าของเด็กสาวอายุสิบกว่าปีในที่สาธารณะ ใบหน้าของเขาก็มีความรังเกียจ ในมือถือถ้วยชาไว้ และโยนมันออกไปอย่างรวดเร็วอาศัยกำลังภายในของเขา ถ้วยชากระแทกเสียงดังปังเข้าที่ขมับของตาแก่ที่กำลังเล่นอย่างสนุกสนานอยู่เดิมทีตาแก่ยังพยายามคลอเคลียไปมาบนร่างกายของเด็กสาว แต่โดนถ้วยชานี้กระแทกใส่ ก็สลบไปในทันทีเด็กสาวถูกปล่อยตัวกะทันหัน นางร้องไห้พลางแย่งเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างลนลาน และซุกตัวอยู่ใต้โต๊ะด้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 158

    เปิดประตูทำการค้า สิ่งต้องห้ามที่สุดก็คือคนที่ทุบหม้อข้าวตัวเอง แม่เล้าไม่เคยปฏิบัติต่อเหล่าหญิงสาวที่อยู่ใต้อาณัติเหล่านี้เหมือนเป็นมนุษย์เลยเรื่องในวันนี้ไม่ว่าจะใช่ฝีมือของเด็กสาวคนนี้หรือไม่ ก็จะต้องหาข้ออ้างที่เรียกว่าเป็นการระบายอารมณ์ให้กับพวกลูกค้า มิเช่นนั้น ต่อไปหออี้หงนี้ใครยังจะกล้ามาอีก?สาวน้อยตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ถูกกระชากจนเสียหลัก คุกเข่าตัวสั่นอยู่บนพื้นพลางส่ายหน้า ตกใจจนพูดไม่ออกแม่เล้าเห็นท่าทีที่ไร้ประโยชน์ของนาง ก็ใช้มือซ้ายและมือขวาตบหน้านางไปสองครั้งอย่างไม่สบอารมณ์ ขณะที่กำลังคิดจะสั่งสอนต่อ จู่ ๆ ด้านข้างก็ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมาดังลั่น “แย่แล้ว ไฟไหม้แล้ว! ไฟไหม้แล้ว!” ไฟไหม้หรือ?!ทันทีที่แม่เล้าเงยหน้าขึ้นมอง ห้องหนึ่งในชั้นสองก็มีควันหนาพวยพุ่งออกมาจริง ๆ แสงไฟราวกับจะพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ทำเอาตกใจไปชั่วขณะหนึ่ง นางไม่มีเวลามาสนใจที่จะสั่งสอนหญิงสาวอีกต่อไป เดินจ้ำอ้าวไปเรียกอันธพานทันที “ยังยืนโง่อยู่ทำไม? ช่วยดับไฟสิ!”เพียงแต่ไฟนี้ดับง่ายเสียที่ไหน?ไม่นาน ไฟก็ลุกโชนขึ้นเรื่อย ๆ ควันหนาราวกับเสือที่ดุร้ายก็มิปาน และไม่นานก็ปกคลุมไปทั่วหออี้หงเวลาน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 159

    ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ก็เพียงพอให้หงเสี่ยวตั้งสติได้ นางแทบจะยกมือขึ้นและดึงตัวสาวใช้ที่อยู่ด้านข้างของตนเอง เพื่อมาขวางอยู่ด้านหน้าตนเองในทันทีและลูกธนูดอกที่สอง ก็ถูกไหล่ของสาวใช้คนนี้เข้าอย่างจังมีคนลอบฆ่า!หงเสี่ยวรีบสั่งพวกอันธพาลในทันที “โง่หรืออย่างไร? ยังไม่รีบไปดับตะเกียงกันอีก!”จุดตะเกียงในยามค่ำคืน ยังกลัวว่าจะตายไม่เร็วพออีกหรือ?!ชั่วพริบตาโคมไฟก็ถูกโยนออกไปทั้งหมดแล้ว หงเสี่ยวกลิ้งไปบนพื้น และซ่อนตัวอยู่หลังต้นไทรที่สูงใหญ่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม อันธพาลหลายคนที่ตามนางมาโดยตลอดล้อมนางไว้ ต่างก็ตั้งตัวไม่ทัน “นายหญิง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”หงเสี่ยวสีหน้าดูย่ำแย่อย่างมาก “ไฟไหม้ตรงหน้าเห็นทีจะไม่ใช่อุบัติเหตุเสียแล้ว คงมีคนตั้งใจเข้ามาหาเรื่อง”สีหน้าของนางอึมครึมจนเหมือนจะหยดน้ำออกมาได้พวกอันธพาลที่เป็นสมุนต่างก็งุนงงอย่างยิ่ง “นายหญิง ใครช่างกล้าเช่นนี้?!”“หออี้หงของพวกเราเปิดมานานหลายปีแล้ว แต่ยังไม่เคยมีใครกล้าล้วงคองูเห่าเลย!”ใช่แล้ว คนที่หยิ่งผยองยิ่มมีต้นทุนของการหยิ่งผยองอยู่เสมอที่หออี้หงสามารถซื้อขายครอบครัวสุจริตอย่างกำเริบเสิบสานเช่นนี้ได้ ไม่

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 160

    ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ ในใจนางก็เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ดึงปิ่นปักผมที่อยู่บนศีรษะออก และกรีดลงไปบริเวณข้อเท้าอย่างแรงแต่การเคลื่อนไหวของคนคนนั้นรวดเร็วเช่นกัน และแทบจะปล่อยมือในชั่วพริบตา จนนางควบคุมตนเองไม่ได้และตกลงมาจากกำแพงอย่างแรงแต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ นางก็ได้โอกาส พลิกตัวพุ่งขึ้นมาในทันที จากนั้นก็กลับตัวเป็นฝ่ายรุกและล้มคนคนนั้นลงนางล้มคนลงอยู่ใต้ร่าง จับปิ่นปักผมไว้แน่นไม่คิดอะไรก็แทงลงไปอย่างแรงแต่นางไม่อาจแทงลงไปได้อย่างราบรื่น เพราะการเคลื่อนไหวของคนคนนั้นเร็วกว่า และใช้แรงบิดข้อศอกของนาง ทำให้ข้อศอกขวาของนางทั้งชาและทั้งเจ็บปวดในทันที จนทั้งแขนไม่มีแรงโอกาสหายวับในพริบตาชีหยวนยิ้มอยู่ในที่มืดเล็กน้อย พลิกตัวและกดหงเสี่ยวลงใต้ร่างอีกครั้ง พลางยิ้มอย่างสบายใจ “ตัวจานเหวินฮุยเองราวกับเป็นลูกไก่ที่อ่อนแอ คิดไม่ถึงว่าจะมีคนรักที่โหดเหี้ยมถึงเพียงนี้”หงเสี่ยวดิ้นรนด้วยความโกรธแค้น “เจ้าเป็นใคร?!”“คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร?” ชีหยวนค่อย ๆ จับลำคอของนางอย่างช้า ๆ และจ้องไปที่ดวงตาของนางราวกับงูพิษที่เย็นชาตัวหนึ่ง “ตอนนั้นจานเหวินฮุยยังคาดเดาสถานะของข้าได้ใน

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 164  

    โหวผู้เฒ่าเงียบไป เสี้ยวพริบตาหนึ่งก็โพล่งถามออกมา “เจ้าคิดว่า เมื่อคืนนางไปที่ใดมาหรือ?” บอกว่าชีหยวนไปอยู่เคียงกายองค์หญิงใหญ่ พวกเขาย่อมไม่มีทางเชื่อ พูดให้ถูกที่กล่าวว่าไปอยู่เคียงกายองค์หญิงใหญ่ก็แค่ข้ออ้างที่ชีหยวนบอกให้เซียวอวิ๋นถิงตอบพวกเขาเท่านั้น และบอกพวกเขาว่า นางมีขุนเขาที่พึ่งพิงแล้ว ชีเจิ้นเงียบไปครู่หนึ่ง กระนั้นก็คิดไม่ออกว่าชีหยวนไปทำอะไรที่ไหนมากันแน่ เคราะห์ดีที่พวกเขาไม่ต้องครุ่นคิดอยู่นานนัก เพราะเมื่อพวกเขาไปถึงศาลาว่าการกรมยุทธนาการ ก็ได้รู้ว่าเมื่อคืนนี้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นที่หออี้หงซึ่งตั้งอยู่ในเขตชานเมือง เพลิงไหม้ใหญ่ เผาเจ้ากรมการลำเลียงขนส่งขั้นห้าประจำกรมการลำเลียงขนส่งเสียชีวิตไปแล้วหนึ่งราย และเผาที่ปรึกษาประจำหน่วยคลังศัสตราวุธในสังกัดศาลาว่าการกรมยุทธนาการบาดเจ็บสาหัสไปแล้วหนึ่งราย เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ ยิ่งไปกว่านั้นภายหลังจากที่หออี้หงถูกเพลิงไหม้ ดรุณีจำนวนไม่น้อยเข้ามาร้องทุกข์กับทางการ โดยแจ้งว่าพวกนางล้วนถูกบีบบังคับให้มาเป็นหญิงคณิกา ทุกคนล้วนถูกบังคับขืนใจให้ขายร่างกายแลกกับเงินทอง เรื่อ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 163  

    ชีเจิ้นถอนหายใจออกมา และทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ไปอย่างห่อเหี่ยว นวดขมับตนเองด้วยความเหนื่อยล้าพลางเอ่ยว่า “ท่านพ่อ นางพิเศษลูกเองก็ทราบดี เพียงแต่…” ประโยคอีกครึ่งที่เหลือเขามิได้เอ่ยจนจบ ทว่าพ่อลูกสองคนรู้ดีว่าหมายความว่าอะไร ว่าพิเศษก็พิเศษ แต่นั่นก็ออกจะพิเศษเกินไปหน่อย ไม่รู้เลยว่าควรจะรับมือด้วยอย่างไรดี ดรุณีในตระกูลบุญหนักศักดิ์ใหญ่คนหนึ่งซึ่งมีความคิดเป็นของตนเอง มีความสามารถ แต่กลับไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสังคม ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ถูกควบคุม ค่อนข้างทำให้คนไม่รู้จะจัดการด้วยอย่างไร โหวผู้เฒ่าคิดจะเอ่ยบางอย่าง ทว่าหลิวจงวิ่งเข้ามาจากด้านนอกเพื่อรายงานว่า ชีหยวนบัดนี้กลับมาถึงแล้ว ชีเจิ้นลุกพรวดขึ้นมาทันที ไฟโทสะที่ข่มลงไปได้ก่อนหน้านี้เสี้ยวพริบตาเดียวก็กลับมาลุกโชนขึ้นอีกครั้งแล้ว เขาดึงสีหน้าเคร่งขรึมคอยให้ชีหยวนเข้ามา ก็แค่เสียงหัวเราะเย็นเยียบออกมาพร้อมเอ่ยว่า “เจ้ารู้จักจะกลับมาด้วยหรือ? เจ้ามองเรือนหลังนี้เป็นสถานที่อะไรกัน?” หลายวันที่ผ่านมานี้ ใช่ว่าชีเจิ้นจะไม่รู้สึกโกรธเคืองชีหยวน ดรุณีผู้นี้เป็นคนฉลาด เป็นคนมีสติปัญญา และเป็นคนมีความสามารถโดยแท้จริง ทว่า

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 162  

    มิใช่ว่านางเป็นคนดีอะไรนัก แต่ในเมื่อได้พบกันแล้ว จะให้มองคนตายไปเฉย ๆ โดยไม่ช่วยเหลืออะไรเลยก็คงไม่ได้ คนที่นางต้องฆ่าให้ตายล้วนมีแต่คนที่ต้องการทำร้ายนาง ทว่านั่นก็มิได้หมายความว่านางจะเป็นนางปีศาจเลือดเย็นไร้ความเมตตาที่คิดแต่จะสังหารผู้คน สวรรค์เบื้องบนมีเมตตา ในเมื่อให้นางได้เกิดใหม่อีกครา ย่อมรู้จักทำความดีสะสมบุญกุศล แน่นอนว่า อริศัตรูล้วนเป็นข้อยกเว้น ชิงเถาตอบรับพร้อมคำขอบคุณนับหมื่นนับพันครั้ง ชีหยวนก็สั่งให้คนที่ไว้ใจได้พาตัวชิงเถาไปส่งที่เรือนพำนักนอกเมืองของสกุลชีที่เขตชานเมืองหลวง เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่างนี้ ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว ไป๋จื่อก่อนหน้านี้ถูกลิ่วจินพาตัวออกไป ไม่ยอมหลับตาตลอดทาง เพราะกลัวว่าเพียงพริบตาเดียวอาจเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับชีหยวน คอยจนกระทั่งชีหยวนกลับมาแล้ว ก็กลั้นไม่ไหวร้องไห้โฮออกมาทันใด ชีหยวนตบไหล่นางอย่างเอ็นดูปนขำ ยิ้มพลางเอ่ยว่า “วางใจเถิด มีท่านอ๋องอยู่ด้วยแล้ว ไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้หรอก” เซียวอวิ๋นถิงอดไม่ได้แอบส่งเสียงเฮอะอยู่ในใจ เขาเองก็ยังมองไม่เห็นว่าตนเองมีความสำคัญอะไรในสายตานาง ทว่าในยามนี้เขาก็มิได้มีเวลามา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 161  

    ชีหยวนยื่นมือไปรับผ้าเช็ดหน้าไว้ ก่อนจะค่อย ๆ เช็ดผงยาที่เปื้อนในดวงตาออกทีละน้อย ตอนแรกเซียวอวิ๋นถิงยังดูสงบและผ่อนคลาย กระทั่งชีหยวนเงียบไปไม่ส่งเสียง เขาก็เริ่มกระวนกระวายเหมือนนั่งอยู่บนพรมหนาม เคราะห์ดีที่ในเรือนมีบ่อน้ำ เขาจึงรีบสืบเท้าเดินไปหน้าบ่อน้ำและตักน้ำขึ้นมาชุบผ้าเช็ดหน้า ก่อนจะรั้งชีหยวนที่กำลังจะเดินออกไปแล้วไว้ ชีหยวนเหลียวกลับมามองเขาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจเล็กน้อย เพราะผงยาบนใบหน้ายังมิได้เช็ดออกให้สะอาดหมดจดดี สายตาของนางจึงค่อนข้างพร่าเลือน ปวดแสบตรงหางตายิ่งนัก บัดนี้เกือบทั้งใบหน้ากลายเป็นสีแดงไปหมดแล้ว เซียวอวิ๋นถิงยังคิดจะเอ่ยวาจายียวนหยอกล้ออยู่ในตอนแรก ครั้นถูกนางจ้องมอง ฉับพลันทันใดนั้นคำพูดก็หายไปหมด ดรุณีผู้นี้ ต้องผ่านความลำบากมาเท่าใดกัน ถึงได้ถูกหล่อหลอมให้กลายเป็นคนแข็งแกร่งไร้เทียมทานได้ถึงเพียงนี้? ผงยาอันนั้น แค่เขาได้กลิ่นจากที่ไกล ๆ ยังรู้สึกฉุน แต่ชีหยวนถูกป้ายดวงตาแบบนั้น นางกลับไม่ส่งเสียงโวยวายออกมา ไม่เคยแม้แต่จะร้องตะโกนออกมาว่าเจ็บเสียด้วยซ้ำไป เขาเงียบขรึมไปครู่หนึ่ง “เจ้ายังเช็ดผงยานี้ออกไม่สะอาด จะไปสังหารผู้ใดได้หรือ?” เขาเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 160

    ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ ในใจนางก็เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ดึงปิ่นปักผมที่อยู่บนศีรษะออก และกรีดลงไปบริเวณข้อเท้าอย่างแรงแต่การเคลื่อนไหวของคนคนนั้นรวดเร็วเช่นกัน และแทบจะปล่อยมือในชั่วพริบตา จนนางควบคุมตนเองไม่ได้และตกลงมาจากกำแพงอย่างแรงแต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ นางก็ได้โอกาส พลิกตัวพุ่งขึ้นมาในทันที จากนั้นก็กลับตัวเป็นฝ่ายรุกและล้มคนคนนั้นลงนางล้มคนลงอยู่ใต้ร่าง จับปิ่นปักผมไว้แน่นไม่คิดอะไรก็แทงลงไปอย่างแรงแต่นางไม่อาจแทงลงไปได้อย่างราบรื่น เพราะการเคลื่อนไหวของคนคนนั้นเร็วกว่า และใช้แรงบิดข้อศอกของนาง ทำให้ข้อศอกขวาของนางทั้งชาและทั้งเจ็บปวดในทันที จนทั้งแขนไม่มีแรงโอกาสหายวับในพริบตาชีหยวนยิ้มอยู่ในที่มืดเล็กน้อย พลิกตัวและกดหงเสี่ยวลงใต้ร่างอีกครั้ง พลางยิ้มอย่างสบายใจ “ตัวจานเหวินฮุยเองราวกับเป็นลูกไก่ที่อ่อนแอ คิดไม่ถึงว่าจะมีคนรักที่โหดเหี้ยมถึงเพียงนี้”หงเสี่ยวดิ้นรนด้วยความโกรธแค้น “เจ้าเป็นใคร?!”“คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร?” ชีหยวนค่อย ๆ จับลำคอของนางอย่างช้า ๆ และจ้องไปที่ดวงตาของนางราวกับงูพิษที่เย็นชาตัวหนึ่ง “ตอนนั้นจานเหวินฮุยยังคาดเดาสถานะของข้าได้ใน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 159

    ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ก็เพียงพอให้หงเสี่ยวตั้งสติได้ นางแทบจะยกมือขึ้นและดึงตัวสาวใช้ที่อยู่ด้านข้างของตนเอง เพื่อมาขวางอยู่ด้านหน้าตนเองในทันทีและลูกธนูดอกที่สอง ก็ถูกไหล่ของสาวใช้คนนี้เข้าอย่างจังมีคนลอบฆ่า!หงเสี่ยวรีบสั่งพวกอันธพาลในทันที “โง่หรืออย่างไร? ยังไม่รีบไปดับตะเกียงกันอีก!”จุดตะเกียงในยามค่ำคืน ยังกลัวว่าจะตายไม่เร็วพออีกหรือ?!ชั่วพริบตาโคมไฟก็ถูกโยนออกไปทั้งหมดแล้ว หงเสี่ยวกลิ้งไปบนพื้น และซ่อนตัวอยู่หลังต้นไทรที่สูงใหญ่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม อันธพาลหลายคนที่ตามนางมาโดยตลอดล้อมนางไว้ ต่างก็ตั้งตัวไม่ทัน “นายหญิง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”หงเสี่ยวสีหน้าดูย่ำแย่อย่างมาก “ไฟไหม้ตรงหน้าเห็นทีจะไม่ใช่อุบัติเหตุเสียแล้ว คงมีคนตั้งใจเข้ามาหาเรื่อง”สีหน้าของนางอึมครึมจนเหมือนจะหยดน้ำออกมาได้พวกอันธพาลที่เป็นสมุนต่างก็งุนงงอย่างยิ่ง “นายหญิง ใครช่างกล้าเช่นนี้?!”“หออี้หงของพวกเราเปิดมานานหลายปีแล้ว แต่ยังไม่เคยมีใครกล้าล้วงคองูเห่าเลย!”ใช่แล้ว คนที่หยิ่งผยองยิ่มมีต้นทุนของการหยิ่งผยองอยู่เสมอที่หออี้หงสามารถซื้อขายครอบครัวสุจริตอย่างกำเริบเสิบสานเช่นนี้ได้ ไม่

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 158

    เปิดประตูทำการค้า สิ่งต้องห้ามที่สุดก็คือคนที่ทุบหม้อข้าวตัวเอง แม่เล้าไม่เคยปฏิบัติต่อเหล่าหญิงสาวที่อยู่ใต้อาณัติเหล่านี้เหมือนเป็นมนุษย์เลยเรื่องในวันนี้ไม่ว่าจะใช่ฝีมือของเด็กสาวคนนี้หรือไม่ ก็จะต้องหาข้ออ้างที่เรียกว่าเป็นการระบายอารมณ์ให้กับพวกลูกค้า มิเช่นนั้น ต่อไปหออี้หงนี้ใครยังจะกล้ามาอีก?สาวน้อยตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ถูกกระชากจนเสียหลัก คุกเข่าตัวสั่นอยู่บนพื้นพลางส่ายหน้า ตกใจจนพูดไม่ออกแม่เล้าเห็นท่าทีที่ไร้ประโยชน์ของนาง ก็ใช้มือซ้ายและมือขวาตบหน้านางไปสองครั้งอย่างไม่สบอารมณ์ ขณะที่กำลังคิดจะสั่งสอนต่อ จู่ ๆ ด้านข้างก็ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมาดังลั่น “แย่แล้ว ไฟไหม้แล้ว! ไฟไหม้แล้ว!” ไฟไหม้หรือ?!ทันทีที่แม่เล้าเงยหน้าขึ้นมอง ห้องหนึ่งในชั้นสองก็มีควันหนาพวยพุ่งออกมาจริง ๆ แสงไฟราวกับจะพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ทำเอาตกใจไปชั่วขณะหนึ่ง นางไม่มีเวลามาสนใจที่จะสั่งสอนหญิงสาวอีกต่อไป เดินจ้ำอ้าวไปเรียกอันธพานทันที “ยังยืนโง่อยู่ทำไม? ช่วยดับไฟสิ!”เพียงแต่ไฟนี้ดับง่ายเสียที่ไหน?ไม่นาน ไฟก็ลุกโชนขึ้นเรื่อย ๆ ควันหนาราวกับเสือที่ดุร้ายก็มิปาน และไม่นานก็ปกคลุมไปทั่วหออี้หงเวลาน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 157

    ไป๋จื่อยืนอยู่ริมหน้าต่างด้วยความกังวลอยู่ตลอด ด้านนอกเต็มไปด้วยแสงสีและสุรานารี ทั้งโอ่อ่าตระการตา แต่ในความคิดของนาง สถานที่แเห่งนี้ไม่ต่างอะไรกับนรกเลยโดยเฉพาะเมื่อเห็นเด็กสาวคนหนึ่งถูกถอดเสื้อผ้าในที่สาธารณะ นางยิ่งอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาชีหยวนและเซียวอวิ๋นถิงหันหน้ามองไปด้านนอก ก็ย่อมมองเห็นฉากนี้เช่นกันในหอนางโลมความจริงแล้วทำการค้าเกี่ยวกับเรือนร่าง แม้ว่าสถานที่จะหรูหราเพียงใด แต่ก็เป็นแค่ภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น และจุดนี้เซียวอวิ๋นถิงย่อมทราบดีเช่นกันแต่หอนางโลมที่เหยียบย่ำคนถึงเพียงนี้เช่นหออี้หง เขากลับได้เห็นเป็นครั้งแรกจริง ๆ สายตามองตาแก่คนหนึ่งที่อายุราวเจ็ดแปดสิบปีถอดเสื้อผ้าของเด็กสาวอายุสิบกว่าปีในที่สาธารณะ ใบหน้าของเขาก็มีความรังเกียจ ในมือถือถ้วยชาไว้ และโยนมันออกไปอย่างรวดเร็วอาศัยกำลังภายในของเขา ถ้วยชากระแทกเสียงดังปังเข้าที่ขมับของตาแก่ที่กำลังเล่นอย่างสนุกสนานอยู่เดิมทีตาแก่ยังพยายามคลอเคลียไปมาบนร่างกายของเด็กสาว แต่โดนถ้วยชานี้กระแทกใส่ ก็สลบไปในทันทีเด็กสาวถูกปล่อยตัวกะทันหัน นางร้องไห้พลางแย่งเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างลนลาน และซุกตัวอยู่ใต้โต๊ะด้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 156

    เมื่อนางพูดมาถึงตรงนี้ ก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจเหตุใดถึงจะต้องฆ่าอ๋องฉี?แน่นอนเป็นเพราะว่าเขาสมควรตาย!บุตรหลานของกษัตริย์ผู้สูงส่ง ที่คอยยืนอยู่บนก้อนเมฆมองดูสรรพสัตว์ ฆ่าคนคนหนึ่งราวกับฆ่ามดมาโดยตลอดผู้นั้นต่างหาก ถึงจะเป็นคนที่สมควรตายมากที่สุด!เซียวอวิ๋นถิงถึงกับถูกสายตาของชีหยวนจับจ้องจนรู้สึกชาเล็กน้อย เขากลืนน้ำลาย และกำลังจะเอ่ยปากพูด จู่ ๆ กลับได้ยินเสียงกรีดร้องเสียงหนึ่งดังขึ้น จากนั้น หงเสี่ยวก็พาคนกลุ่มหนึ่ง เร่งฝีเท้าเข้าไปในเรือนหลังหนึ่งอย่างรีบร้อนชีหยวนอดไม่ได้จึงเดินไปด้านหน้าสองก้าวแต่ทางด้านหงเสี่ยวเห็นได้ชัดว่ามีองครักษ์เรือนที่เก่งกาจฝีมือดี หันหน้ามาถามด้วยเสียงเย็นชาในทันที “ใคร?!”เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป เซียวอวิ๋นถิงจึงตัดสินใจดึงนางกลับมา จากนั้นจับศีรษะนางกดอยู่ในอ้อมแขนไว้แน่น และพานางเดินไปทางองครักษ์เรือนคนนั้นอย่างมั่นใจ “ให้ตายเถอะ สภาพแวดล้อมที่มืดมิดเช่นนี้ พวกเจ้าหออี้หงทำการค้ากันอย่างไร?”คนที่อยู่เบื้องหน้าสวมเสื้อผ้าราคาแพง เวลานี้ในอ้อมแขนยังกอดหญิงสาวคนหนึ่งไว้ สถานการณ์เช่นนี้แค่เห็นก็รู้แล้วว่ากำลังสนุกสนานกันอยู่ในเรือน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status