แชร์

บทที่ 73

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
มาถึงริมทะเลสาบแล้ว ลมเย็นยามค่ำคืนพัดมา ช่วยคลายอาการปวดบริเวณแก้ม

มีเสียงฝีเท้าเร็วดังมาจากด้านหลัง นางมองย้อนกลับไป จากนั้นก็เห็นฟู่อวิ๋นโจววิ่งมาอย่างหอบ เมื่อวิ่งมาถึงข้างหน้านาง ก็หายใจลำบากอยู่ช่วงหนึ่ง สีหน้าซีดลงและเกือบจะเป็นลม

ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย รีบประคองเขา ตบที่หลังเขา “ท่านดีขึ้นไหมเพคะ?"

ฟู่อวิ๋นโจวสงบลมหายใจ มองนางด้วยสีหน้ากังวลและพูดว่า “คำพูดนี้ข้าควรถามเจ้า แต่ทำให้เจ้าต้องมาดูแลข้าแทน”

ลั่วชิงยวนหันศีรษะและมองไปที่ทะเลสาบ “หม่อมฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องตามหม่อมฉันมาเพคะ”

เขาไล่ออกไปต่อหน้าทุกคน เพียงจะทำให้คนนอกคาดเดาและนินทามากขึ้น

ฟู่อวิ๋นโจวเข้าใจสิ่งที่นางหมายถึง หน้าบึ้ง โทษตนเองว่า “ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องลำบาก”

“ไม่ต้องขอโทษเพคะ หม่อมฉันควรจะขอบคุณพระองค์เสียมากกว่า ถ้าไม่ใช่พระองค์ช่วยหม่อมฉันชี้แจง หม่อมฉันคงติดคุกไปแล้ว” ลั่วชิงยวนหัวเราะเยาะตัวเอง

ฟู่อวิ๋นโจวเงียบไปครู่หนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ปกติเสด็จพี่ไม่เป็นเช่นนี้ คิดว่าคงมีความเข้าใจผิดอยู่บ้าง”

“ท่านอ๋องไม่ต้องทรงอธิบายแทนเขาหรอกว่าเขาเป็นคนเยี่ยงไร นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 74

    หรือว่าแม่ของลั่วชิงยวนเป็นอาจารย์ของนางจริง ๆ?ใจนางสั่นไปหมด ความรู้สึกที่ซับซ้อนพุ่งเข้ามา ผสมกับความกังวลและความโกรธที่พุ่งไปบนหัว“เอาของแม่ข้าคืนมา!” นางก้าวเข้าไปทันทีลั่วเยวี่ยอิงจงใจโบกมือหลบ เห็นท่าทีกังวลใจของนาง ยิ้มอย่างผู้ชนะ แกว่งถุงหอมขึ้นมาแล้วพูดว่า “ดูเหมือนจะสำคัญสำหรับเจ้านัก ข้ามอบมันให้เจ้าก็ได้! แต่ข้ามีหนึ่งเงื่อนไข!”“ตอนนี้ข้าไม่ชอบการร้องและเต้นรำในงานฉลอง หากพี่ขึ้นไปบนเวทีแสดงกลิ้งมูลด้วง ข้าจะให้ถุงหอมนี้แก่ท่าน”“ว่าอย่างไรเล่า?” ลั่วเยวี่ยอิงพูดอย่างลำพองใจขณะนั้น ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วทันทีและกำหมัดแน่นลั่วเยวี่ยอิงเลิกคิ้วและพูดว่า “ท่านลืมไปแล้วรึ? เหมือนกับที่ท่านเคยแสดงให้ข้าดูเมื่อวันเกิดปีที่สิบห้าของข้าอย่างไรเล่า หลังจากผ่านไปหลายปี มูลก้อนนี้ก็ใหญ่และกลมมากขึ้นอีก”น้ำเสียงเยาะเย้ยนั่น คำพูดที่เต็มไปด้วยความอับอาย ทำให้นิ้วที่กำแน่นของลั่วชิงยวนจิกเข้าไปในฝ่ามืออย่างแรงนี่ไม่ใช่หนแรกที่ลั่วเยวี่ยอิงทำให้ลั่วชิงยวนอับอาย!เหตุใด? เหตุใดลั่วชิงยวนต้องทำกับการกระทำเช่นนี้!ลั่วเยวี่ยอิงพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ไม่ยอมทำใช่หรือไม่? ”ดัง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 75

    สายตานั้นเต็มไปด้วยความอาฆาต บ่งบอกถึงเจตนาฆ่าอย่างแท้จริง!ลั่วชิงยวนกำหมัดแน่นและพูดว่า “ท่านอ๋องลืมอะไรบางอย่างไปหรือไม่เพคะ? ”แต่ฟู่เฉินหวนเพียงแค่มองนางอย่างข่มขู่ มองลั่วเยวี่ยอิงที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาอ่อนโยน ลูบไล้แก้มบวมแดงของนางถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและกังวลว่า “เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”ลั่วเยวี่ยอิงส่ายหัว น้ำตาเป็นประกายในดวงตา เอ่ยอย่างน่าสงสารว่า “ท่านอ๋อง หม่อมฉันมิรู้ว่าเหตุใดช่วงนี้ท่านพี่ถึงโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุบตีหม่อมฉันเสมอ หากหม่อมฉันทำอะไรผิด ท่านพี่ก็ควรบอกหม่อมฉัน”ขณะที่พูด สายตาของนางก็มองไปที่ถุงหอมในมือของฟู่เฉินหวน สะอึกสะอื้นพูดว่า “นี่คือสิ่งที่แม่ของนางให้หม่อมฉัน หม่อมฉันพกติดตัวมาตั้งแต่เด็ก… ท่านพี่จะแย่งมันไป หม่อมฉันบอกว่านางจำผิดแล้ว นางก็ยังไม่ฟังหม่อมฉันอธิบาย... ”ลั่วเยวี่ยอิงยิ่งพูดก็ยิ่งเสียใจมากขึ้น น้ำตาไหลลงมาบนหน้าฟู่เฉินหวนมองถุงหอมในมือ ก็ขมวดขึ้นทันทีลั่วชิงยวนใจร้อนดั่งไฟ รีบพูดว่า “ท่านอ๋อง! โปรดอย่าลืมว่าท่านเคยสัญญาอะไรหม่อมฉันไว้! นั่นเป็นของที่ระลึกของแม่หม่อมฉัน!”“หม่อมฉันเพียงต้องการถุงหอมนี้ สิ่งอื่นไม่ต้องการ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 76

    งานฉลองในวังหลวงรายล้อมไปด้วยโคมแสงสีสันงดงามแวววาวตระการตา ความคึกคักสนุกสนานของการร้องรำทำเพลงและการเต้นรำ แต่ลั่วชิงยวนกลับนั่งอยู่ด้านข้างงานฉลองตัวคนเดียว รอเวลาที่งานฉลองจะสิ้นสุดลงเดิมทีก่อนหน้านี้ไม่มีใครเลยที่จะทันสังเกตเห็นนาง แต่ทันใดนั้นก็มีนางกำนัลนางหนึ่งใส่เสื้อคลุมผ้าไหมสีทองลวดลายสวยงามเดินตรงเข้ามาหานางพร้อมกับขวดเหล้าที่ยื่นส่งให้“พระชายา นี่คือเหล้าชิงกุ้ยเป็นของรางวัลจากฮองไทเฮาเจ้าค่ะ”นางกำนัลในอาภรณ์ผ้าไหมสีทองจิ่นชูเอ่ยด้วยรอยยิ้มและท่าทางที่สุภาพลั่วชิงยวนสะดุ้งตัวเล็กน้อย นี่คือนางกำนัลส่วนพระองค์ฮองไทเฮามีนามว่า จิ่นชู “ฝากขอบพระทัยฮองไทเฮาสำหรับรางวัลด้วยนะ”จิ่นชูพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่ได้พูดอะไรอีก แต่คนรอบตัวจำนวนไม่น้อยที่สังเกตเห็นทางด้านข้างของนางมีผู้คนกระซิบกระซาบกันว่า “แม่นางลั่วชิงยวนผู้นี้ดูจะเป็นที่โปรดปรานของฮองไทเฮายิ่งนัก มิน่า นางถึงมิได้รับโทษอันใดเลยถึงแม้จะเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างการสวมรอยแต่งงาน ที่แท้ก็มีฮองไทเฮาหนุนหลังให้”แววตาของลั่วชิงยวนฉายแววเย็นชาและมีสีหน้าที่นิ่งสงบในทันทีพวกเขาจินตนาการไม่ออกหรอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 77

    ลั่วชิงยวนก็มีท่าทีตกใจเช่นกัน ฮองไทเฮาท่านนี้พูดจาเถรตรงไม่ไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อยนี่มิใช่ครั้งแรกที่ลั่วชิงยวนเข้าพบฮองไทเฮา แต่เป็นครั้งแรกที่ถูกฮองไทเฮาเรียกตัวมาโดยลำพัง ลั่วชิงยวนไม่รู้ว่าว่า ฮองไทเฮากำลังคิดจะทำอะไร นางเพียงแค่อยากจะนั่งเงียบ ๆ เท่านั้นจนกระทั่งไทเฮาเหยียนหันมามองลั่วชิงยวนอีกครั้ง“เจ้ากำลังงุนงงอะไรเล่า ของว่างและเครื่องเคียงเหล่านี้ ไทเฮาผู้นี้จัดเตรียมไว้ให้เจ้าเป็นพิเศษ ลองชิมดูว่าถูกปากหรือไม่ หากว่าเจ้าชอบ ข้าจะจัดเตรียมให้เจ้าในงานเลี้ยงพระราชวังในครั้งหน้า”ลั่วชิงยวนมีท่าทีตกใจเล็กน้อย นางมิได้รู้สึกภูมิใจนักที่ฮองไทเฮาตั้งใจจัดเตรียมอาหารสำหรับจัดเลี้ยงในวังที่ถูกปากกับนางเป็นพิเศษขนาดนี้“ขอบพระทัยน้ำพระทัยอันดีงามของฝ่าบาทเพคะ เพียงแต่วันนี้หม่อมฉันไม่รู้สึกอยากอาหารมากสักเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะว่าอาหารที่งานเลี้ยงในวังไม่ถูกปาก ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับตัวของหม่อมฉันเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของฮองไทเฮาพลันปรากฎรอยยิ้มปลื้มปีติออกมาในทันที“ข้ามองคนมิผิดเลย ช่างเป็นหญิงสาวที่รู้จักคิดจริง ๆ ตอนแรกก่อนที่อ๋องผู้สำเร็จราชก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 78

    เมื่อเห็นลั่วชิงยวนที่นิ่งอึ้งไป ฮองไทเฮาจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า“เกิดอะไรขึ้นรึ?”ลั่วชิงยวนยกมือขึ้นปิดริมฝีปากและรีบวางขนมชิ้นนั้นลงบนโต๊ะ “ช่วงนี้หม่อมฉันมิค่อยอยากอาหารเพคะ ขนมรสชาติหวานจะทำให้หม่อมฉันคลื่นไส้เพคะ ไม่อยากจะเสียมารยาทต่อหน้าฮองไทเฮา”ฮองไทเฮาสะดุ้งเล็กน้อย แต่หากยังยิ้มได้อีกครั้งแล้วเอ่ย “ไม่เป็นไร งั้นเจ้าลองอันอื่นดูสิ”ฮองไทเฮาเปลี่ยนสายตาไปทางอื่น มิได้มองไปที่ลั่วชิงยวนอีกลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว นางมีท่าทีสะอิดสะเอียนและมิได้แตะต้องของกินขนมอื่นใดต่อในขนมที่หมักด้วยไวน์ข้าวก้อนนี้มีกลิ่นของหญ้าทองทมิฬเจือปนอยู่ ถึงแม้ว่ากลิ่นหญ้าทองทมิฬจะมิได้ชัดมากมายเท่าใดนัก แต่กลับเป็นตัวที่สามารถส่งผลกระตุ้นแมลงพิษได้ดีทีเดียว ล่อให้พวกมันเคลื่อนไหวจนกระทั่งถึงการออกไข่ นำความเจ็บปวดทรมานมาสู่เจ้าของที่อยู่อาศัยได้และแมลงพิษก็ทำให้ลั่วชิงยวนนึกถึงเรื่องของแมลงพิษที่ถูกดึงออกมาจากร่างกายของฟู่เฉินหวนในคืนที่ฝนตกหนักหรือว่าฮองไทเฮาจะเป็นผู้ที่ส่งแมลงพิษตัวนั้นกันนะ?หากเป็นเช่นนั้น การที่ให้นางมาร่วมดื่มชารับประทานอาหารและมองดูลั่วเยวี่ยอิงถูกตบสั่งสอน เป็นเพรา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 79

    ราวกับว่าเป็นความตั้งใจของไทเฮา หลังจากที่รถม้าหยุดอยู่ที่ตำหนักอ๋องแล้ว องครักษ์สารถีก็เอ่ยขึ้นมาว่า “พระชายา บัดนี้ถึงพระตำหนักแล้ว กระหม่อมจะกลับวังไปรายงานฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากที่ลั่วชิงยวนและลั่วเยวี่ยอิงลงจากรถม้าแล้ว สารถีก็ขับรถกลับไปที่วังหลวงตามเดิมเหล่าองครักษ์นำตัวลั่วชิงยวนกลับไปที่ตำหนักอ๋อง มิได้พาลั่วเยวี่ยอิงกลับไปที่ตำหนักอัครเสนาบดี แต่กลับพาไปที่ตำหนักอ๋องด้วย เพื่อให้ฟู่เฉินหวนได้เห็นสภาพน่าเวทนาของลั่วเยวี่ยอิงครั้นเมื่อคนรับใช้ออกมาเห็นลั่วเยวี่ยอิง แวบแรกมองไม่ออกเลยว่าเป็นผู้ใด หลังจากที่เห็นชัดแล้วต่างก็ตกใจจนหน้าถอดสีไปตาม ๆ กัน“คุณหนูรอง! โอ้ตายแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูรองเล่า!”ลั่วเยวี่ยอิงตั้งใจล้มลงกับพื้นไปอย่างแรง สาวใช้กลุ่มหนึ่งรีบกรูกันเข้าไปช่วยพยุงนางด้วยความตื่นตระหนก จากนั้นจึงรีบประคองนางเข้าไปตำหนักอ๋อง“รีบไปตามหมอเทวดากู้มาให้ว่องที่สุดบัดเดี๋ยวนี้!”ทุกคนต่างตกอยู่ในความตื่นตระหนกเป็นอย่างมากลั่วเยวี่ยอิงถลึงตาจ้องมองลั่วชิงยวนด้วยความเคียดแค้น แววตาที่สื่อออกมาราวกับกำลังเอ่ยว่า ‘รอข้าก่อนเถอะ!’ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่น ก่อน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 80

    ใบหน้าของฟู่เฉินหวนตอนนี้ดูโกรธแค้นราวกับต้องการฆ่าใครสักคน และลั่วชิงยวนก็มิได้เอ่ยวาจาใดอีกองครักษ์สองสามนายต่างวิ่งกรูกันเข้าในเรือน พวกเขากดไหล่ของลั่วชิงยวนลงและคุมตัวเธอไว้กับพื้น จากนั้นก็มีองครักษ์นายหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับไม้พายในมือในแววตาของลั่วเยวี่ยอิงในตอนนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความสะใจที่จะได้แก้แค้น ความปรารถนาแรงกล้าที่ต้องการให้ลั่วชิงยวนเจ็บปวดทุกข์ทรมานมากกว่านางร้อยเท่าพันเท่าลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นมองฟู่เฉินหวนด้วยสายตาที่เย็นชาและความไม่เต็มใจ ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วมุ่น เส้นเลือดบนหน้าผากปูดขึ้นมาด้วยความโกรธ ก่อนจะหันหน้าเบี่ยงสายตาไปทางอื่น ก่อนจะตะโกนขึ้นมาว่า “โบย!”“ฟู่เฉินหวน! หม่อมฉันไม่น่าเชื่อท่านเลย” ลั่วชิงยวนเอ่ยออกมาด้วยความดุดันฟู่เฉินหวนบัดนี้ขมวดคิ้วแน่นจนแทบจะเป็นปม เขากำมือที่ไขว้ด้านหลังจนแน่นเพื่อควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ทั่วทั้งสมองของเขารู้สึกบวมไปหมด ความเจ็บปวดนี้ทำให้อึดอัดใจเป็นอย่างมาก เขามิรู้ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไม้พายขนาดประมาณเท่าฝ่ามือฟาดลงเข้าที่ใบหน้าของลั่วชิงยวนอย่างแรง ทันใดนั้นลั่วชิงยวนก็มองขึ้นไปด้านบนท้องฟ้าที่เต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 81

    ครู่ต่อมา องครักษ์ก็พุ่งเข้าหาฟู่เฉินหวนฟู่เฉินหวนประมือกับองครักษ์อยู่หลายกระบวนท่า องครักษ์ผู้นั้นมิอาจต่อกรกับเขาได้ ชายผู้นั้นล้มลงไปกับพื้น และกระอักเลือดออกมา ทว่าเขาก็ยังหยัดกายขึ้นได้ในทันที และวิ่งเข้าใส่ฟู่เฉินหวนอีกครั้งราวกับว่าเขามิรู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใดจากนั้นฟู่เฉินหวนก็ดึงดาบซึ่งคราแน่นไปด้วยไอสังหารออกมาลั่วชิงยวนคุกเข่าลงบนพื้น หันหน้าเข้าหาดวงจันทร์ที่ทอประกาย และวาดยันต์ด้วยปลายนิ้วที่มีโลหิตสีเข้มเปียกชุ่มอยู่ เมื่อนางหันกลับมาเห็นว่าฟู่เฉินหวนกำลังชักดาบ นางก็ตะโกนออกไปอย่างรวดเร็ว "อย่าฆ่าเขา!"นางคว้ายันต์มาไว้ในมือ แล้ววิ่งไปอย่างรวดเร็วเมื่อองครักษ์ที่กำลังคลุ้มคลั่งรีบวิ่งเข้ามาหาฟู่เฉินหวนทั้งที่ใบหน้าถูกย้อมไปด้วยโลหิต ทันใดนั้นลั่วชิงยวนก็เข้าไปยืนขวางที่ด้านหน้าของฟู่เฉินหวน และใช้ยันต์ในมือกดลงไปบนหน้าผากขององครักษ์ผู้นั้น นางใช้ปลายนิ้วเปื้อนเลือดของตัวเองสกัดจุดองครักษ์ให้ร่างกายของเขาแข็งค้างชั่วคราว ก่อนที่ลั่วชิงยวนก็ใช้โอกาสนี้เตะกวาดขาอีกฝ่ายจนทำให้เขาต้งคุกเข่าลงกับพื้นในเสี้ยววินาทีต่อมา นางจึงวาดอักขระเวทย์ลงบนหน้าผากและฝ่ามือขององค

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status