Share

บทที่ 73

Author: หว่านชิงอิ๋น
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
มาถึงริมทะเลสาบแล้ว ลมเย็นยามค่ำคืนพัดมา ช่วยคลายอาการปวดบริเวณแก้ม

มีเสียงฝีเท้าเร็วดังมาจากด้านหลัง นางมองย้อนกลับไป จากนั้นก็เห็นฟู่อวิ๋นโจววิ่งมาอย่างหอบ เมื่อวิ่งมาถึงข้างหน้านาง ก็หายใจลำบากอยู่ช่วงหนึ่ง สีหน้าซีดลงและเกือบจะเป็นลม

ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย รีบประคองเขา ตบที่หลังเขา “ท่านดีขึ้นไหมเพคะ?"

ฟู่อวิ๋นโจวสงบลมหายใจ มองนางด้วยสีหน้ากังวลและพูดว่า “คำพูดนี้ข้าควรถามเจ้า แต่ทำให้เจ้าต้องมาดูแลข้าแทน”

ลั่วชิงยวนหันศีรษะและมองไปที่ทะเลสาบ “หม่อมฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องตามหม่อมฉันมาเพคะ”

เขาไล่ออกไปต่อหน้าทุกคน เพียงจะทำให้คนนอกคาดเดาและนินทามากขึ้น

ฟู่อวิ๋นโจวเข้าใจสิ่งที่นางหมายถึง หน้าบึ้ง โทษตนเองว่า “ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องลำบาก”

“ไม่ต้องขอโทษเพคะ หม่อมฉันควรจะขอบคุณพระองค์เสียมากกว่า ถ้าไม่ใช่พระองค์ช่วยหม่อมฉันชี้แจง หม่อมฉันคงติดคุกไปแล้ว” ลั่วชิงยวนหัวเราะเยาะตัวเอง

ฟู่อวิ๋นโจวเงียบไปครู่หนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ปกติเสด็จพี่ไม่เป็นเช่นนี้ คิดว่าคงมีความเข้าใจผิดอยู่บ้าง”

“ท่านอ๋องไม่ต้องทรงอธิบายแทนเขาหรอกว่าเขาเป็นคนเยี่ยงไร นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 74

    หรือว่าแม่ของลั่วชิงยวนเป็นอาจารย์ของนางจริง ๆ?ใจนางสั่นไปหมด ความรู้สึกที่ซับซ้อนพุ่งเข้ามา ผสมกับความกังวลและความโกรธที่พุ่งไปบนหัว“เอาของแม่ข้าคืนมา!” นางก้าวเข้าไปทันทีลั่วเยวี่ยอิงจงใจโบกมือหลบ เห็นท่าทีกังวลใจของนาง ยิ้มอย่างผู้ชนะ แกว่งถุงหอมขึ้นมาแล้วพูดว่า “ดูเหมือนจะสำคัญสำหรับเจ้านัก ข้ามอบมันให้เจ้าก็ได้! แต่ข้ามีหนึ่งเงื่อนไข!”“ตอนนี้ข้าไม่ชอบการร้องและเต้นรำในงานฉลอง หากพี่ขึ้นไปบนเวทีแสดงกลิ้งมูลด้วง ข้าจะให้ถุงหอมนี้แก่ท่าน”“ว่าอย่างไรเล่า?” ลั่วเยวี่ยอิงพูดอย่างลำพองใจขณะนั้น ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วทันทีและกำหมัดแน่นลั่วเยวี่ยอิงเลิกคิ้วและพูดว่า “ท่านลืมไปแล้วรึ? เหมือนกับที่ท่านเคยแสดงให้ข้าดูเมื่อวันเกิดปีที่สิบห้าของข้าอย่างไรเล่า หลังจากผ่านไปหลายปี มูลก้อนนี้ก็ใหญ่และกลมมากขึ้นอีก”น้ำเสียงเยาะเย้ยนั่น คำพูดที่เต็มไปด้วยความอับอาย ทำให้นิ้วที่กำแน่นของลั่วชิงยวนจิกเข้าไปในฝ่ามืออย่างแรงนี่ไม่ใช่หนแรกที่ลั่วเยวี่ยอิงทำให้ลั่วชิงยวนอับอาย!เหตุใด? เหตุใดลั่วชิงยวนต้องทำกับการกระทำเช่นนี้!ลั่วเยวี่ยอิงพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ไม่ยอมทำใช่หรือไม่? ”ดัง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 75

    สายตานั้นเต็มไปด้วยความอาฆาต บ่งบอกถึงเจตนาฆ่าอย่างแท้จริง!ลั่วชิงยวนกำหมัดแน่นและพูดว่า “ท่านอ๋องลืมอะไรบางอย่างไปหรือไม่เพคะ? ”แต่ฟู่เฉินหวนเพียงแค่มองนางอย่างข่มขู่ มองลั่วเยวี่ยอิงที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาอ่อนโยน ลูบไล้แก้มบวมแดงของนางถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและกังวลว่า “เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”ลั่วเยวี่ยอิงส่ายหัว น้ำตาเป็นประกายในดวงตา เอ่ยอย่างน่าสงสารว่า “ท่านอ๋อง หม่อมฉันมิรู้ว่าเหตุใดช่วงนี้ท่านพี่ถึงโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุบตีหม่อมฉันเสมอ หากหม่อมฉันทำอะไรผิด ท่านพี่ก็ควรบอกหม่อมฉัน”ขณะที่พูด สายตาของนางก็มองไปที่ถุงหอมในมือของฟู่เฉินหวน สะอึกสะอื้นพูดว่า “นี่คือสิ่งที่แม่ของนางให้หม่อมฉัน หม่อมฉันพกติดตัวมาตั้งแต่เด็ก… ท่านพี่จะแย่งมันไป หม่อมฉันบอกว่านางจำผิดแล้ว นางก็ยังไม่ฟังหม่อมฉันอธิบาย... ”ลั่วเยวี่ยอิงยิ่งพูดก็ยิ่งเสียใจมากขึ้น น้ำตาไหลลงมาบนหน้าฟู่เฉินหวนมองถุงหอมในมือ ก็ขมวดขึ้นทันทีลั่วชิงยวนใจร้อนดั่งไฟ รีบพูดว่า “ท่านอ๋อง! โปรดอย่าลืมว่าท่านเคยสัญญาอะไรหม่อมฉันไว้! นั่นเป็นของที่ระลึกของแม่หม่อมฉัน!”“หม่อมฉันเพียงต้องการถุงหอมนี้ สิ่งอื่นไม่ต้องการ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 76

    งานฉลองในวังหลวงรายล้อมไปด้วยโคมแสงสีสันงดงามแวววาวตระการตา ความคึกคักสนุกสนานของการร้องรำทำเพลงและการเต้นรำ แต่ลั่วชิงยวนกลับนั่งอยู่ด้านข้างงานฉลองตัวคนเดียว รอเวลาที่งานฉลองจะสิ้นสุดลงเดิมทีก่อนหน้านี้ไม่มีใครเลยที่จะทันสังเกตเห็นนาง แต่ทันใดนั้นก็มีนางกำนัลนางหนึ่งใส่เสื้อคลุมผ้าไหมสีทองลวดลายสวยงามเดินตรงเข้ามาหานางพร้อมกับขวดเหล้าที่ยื่นส่งให้“พระชายา นี่คือเหล้าชิงกุ้ยเป็นของรางวัลจากฮองไทเฮาเจ้าค่ะ”นางกำนัลในอาภรณ์ผ้าไหมสีทองจิ่นชูเอ่ยด้วยรอยยิ้มและท่าทางที่สุภาพลั่วชิงยวนสะดุ้งตัวเล็กน้อย นี่คือนางกำนัลส่วนพระองค์ฮองไทเฮามีนามว่า จิ่นชู “ฝากขอบพระทัยฮองไทเฮาสำหรับรางวัลด้วยนะ”จิ่นชูพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่ได้พูดอะไรอีก แต่คนรอบตัวจำนวนไม่น้อยที่สังเกตเห็นทางด้านข้างของนางมีผู้คนกระซิบกระซาบกันว่า “แม่นางลั่วชิงยวนผู้นี้ดูจะเป็นที่โปรดปรานของฮองไทเฮายิ่งนัก มิน่า นางถึงมิได้รับโทษอันใดเลยถึงแม้จะเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างการสวมรอยแต่งงาน ที่แท้ก็มีฮองไทเฮาหนุนหลังให้”แววตาของลั่วชิงยวนฉายแววเย็นชาและมีสีหน้าที่นิ่งสงบในทันทีพวกเขาจินตนาการไม่ออกหรอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 77

    ลั่วชิงยวนก็มีท่าทีตกใจเช่นกัน ฮองไทเฮาท่านนี้พูดจาเถรตรงไม่ไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อยนี่มิใช่ครั้งแรกที่ลั่วชิงยวนเข้าพบฮองไทเฮา แต่เป็นครั้งแรกที่ถูกฮองไทเฮาเรียกตัวมาโดยลำพัง ลั่วชิงยวนไม่รู้ว่าว่า ฮองไทเฮากำลังคิดจะทำอะไร นางเพียงแค่อยากจะนั่งเงียบ ๆ เท่านั้นจนกระทั่งไทเฮาเหยียนหันมามองลั่วชิงยวนอีกครั้ง“เจ้ากำลังงุนงงอะไรเล่า ของว่างและเครื่องเคียงเหล่านี้ ไทเฮาผู้นี้จัดเตรียมไว้ให้เจ้าเป็นพิเศษ ลองชิมดูว่าถูกปากหรือไม่ หากว่าเจ้าชอบ ข้าจะจัดเตรียมให้เจ้าในงานเลี้ยงพระราชวังในครั้งหน้า”ลั่วชิงยวนมีท่าทีตกใจเล็กน้อย นางมิได้รู้สึกภูมิใจนักที่ฮองไทเฮาตั้งใจจัดเตรียมอาหารสำหรับจัดเลี้ยงในวังที่ถูกปากกับนางเป็นพิเศษขนาดนี้“ขอบพระทัยน้ำพระทัยอันดีงามของฝ่าบาทเพคะ เพียงแต่วันนี้หม่อมฉันไม่รู้สึกอยากอาหารมากสักเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะว่าอาหารที่งานเลี้ยงในวังไม่ถูกปาก ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับตัวของหม่อมฉันเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของฮองไทเฮาพลันปรากฎรอยยิ้มปลื้มปีติออกมาในทันที“ข้ามองคนมิผิดเลย ช่างเป็นหญิงสาวที่รู้จักคิดจริง ๆ ตอนแรกก่อนที่อ๋องผู้สำเร็จราชก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 78

    เมื่อเห็นลั่วชิงยวนที่นิ่งอึ้งไป ฮองไทเฮาจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า“เกิดอะไรขึ้นรึ?”ลั่วชิงยวนยกมือขึ้นปิดริมฝีปากและรีบวางขนมชิ้นนั้นลงบนโต๊ะ “ช่วงนี้หม่อมฉันมิค่อยอยากอาหารเพคะ ขนมรสชาติหวานจะทำให้หม่อมฉันคลื่นไส้เพคะ ไม่อยากจะเสียมารยาทต่อหน้าฮองไทเฮา”ฮองไทเฮาสะดุ้งเล็กน้อย แต่หากยังยิ้มได้อีกครั้งแล้วเอ่ย “ไม่เป็นไร งั้นเจ้าลองอันอื่นดูสิ”ฮองไทเฮาเปลี่ยนสายตาไปทางอื่น มิได้มองไปที่ลั่วชิงยวนอีกลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว นางมีท่าทีสะอิดสะเอียนและมิได้แตะต้องของกินขนมอื่นใดต่อในขนมที่หมักด้วยไวน์ข้าวก้อนนี้มีกลิ่นของหญ้าทองทมิฬเจือปนอยู่ ถึงแม้ว่ากลิ่นหญ้าทองทมิฬจะมิได้ชัดมากมายเท่าใดนัก แต่กลับเป็นตัวที่สามารถส่งผลกระตุ้นแมลงพิษได้ดีทีเดียว ล่อให้พวกมันเคลื่อนไหวจนกระทั่งถึงการออกไข่ นำความเจ็บปวดทรมานมาสู่เจ้าของที่อยู่อาศัยได้และแมลงพิษก็ทำให้ลั่วชิงยวนนึกถึงเรื่องของแมลงพิษที่ถูกดึงออกมาจากร่างกายของฟู่เฉินหวนในคืนที่ฝนตกหนักหรือว่าฮองไทเฮาจะเป็นผู้ที่ส่งแมลงพิษตัวนั้นกันนะ?หากเป็นเช่นนั้น การที่ให้นางมาร่วมดื่มชารับประทานอาหารและมองดูลั่วเยวี่ยอิงถูกตบสั่งสอน เป็นเพรา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 79

    ราวกับว่าเป็นความตั้งใจของไทเฮา หลังจากที่รถม้าหยุดอยู่ที่ตำหนักอ๋องแล้ว องครักษ์สารถีก็เอ่ยขึ้นมาว่า “พระชายา บัดนี้ถึงพระตำหนักแล้ว กระหม่อมจะกลับวังไปรายงานฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากที่ลั่วชิงยวนและลั่วเยวี่ยอิงลงจากรถม้าแล้ว สารถีก็ขับรถกลับไปที่วังหลวงตามเดิมเหล่าองครักษ์นำตัวลั่วชิงยวนกลับไปที่ตำหนักอ๋อง มิได้พาลั่วเยวี่ยอิงกลับไปที่ตำหนักอัครเสนาบดี แต่กลับพาไปที่ตำหนักอ๋องด้วย เพื่อให้ฟู่เฉินหวนได้เห็นสภาพน่าเวทนาของลั่วเยวี่ยอิงครั้นเมื่อคนรับใช้ออกมาเห็นลั่วเยวี่ยอิง แวบแรกมองไม่ออกเลยว่าเป็นผู้ใด หลังจากที่เห็นชัดแล้วต่างก็ตกใจจนหน้าถอดสีไปตาม ๆ กัน“คุณหนูรอง! โอ้ตายแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูรองเล่า!”ลั่วเยวี่ยอิงตั้งใจล้มลงกับพื้นไปอย่างแรง สาวใช้กลุ่มหนึ่งรีบกรูกันเข้าไปช่วยพยุงนางด้วยความตื่นตระหนก จากนั้นจึงรีบประคองนางเข้าไปตำหนักอ๋อง“รีบไปตามหมอเทวดากู้มาให้ว่องที่สุดบัดเดี๋ยวนี้!”ทุกคนต่างตกอยู่ในความตื่นตระหนกเป็นอย่างมากลั่วเยวี่ยอิงถลึงตาจ้องมองลั่วชิงยวนด้วยความเคียดแค้น แววตาที่สื่อออกมาราวกับกำลังเอ่ยว่า ‘รอข้าก่อนเถอะ!’ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่น ก่อน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 80

    ใบหน้าของฟู่เฉินหวนตอนนี้ดูโกรธแค้นราวกับต้องการฆ่าใครสักคน และลั่วชิงยวนก็มิได้เอ่ยวาจาใดอีกองครักษ์สองสามนายต่างวิ่งกรูกันเข้าในเรือน พวกเขากดไหล่ของลั่วชิงยวนลงและคุมตัวเธอไว้กับพื้น จากนั้นก็มีองครักษ์นายหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับไม้พายในมือในแววตาของลั่วเยวี่ยอิงในตอนนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความสะใจที่จะได้แก้แค้น ความปรารถนาแรงกล้าที่ต้องการให้ลั่วชิงยวนเจ็บปวดทุกข์ทรมานมากกว่านางร้อยเท่าพันเท่าลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นมองฟู่เฉินหวนด้วยสายตาที่เย็นชาและความไม่เต็มใจ ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วมุ่น เส้นเลือดบนหน้าผากปูดขึ้นมาด้วยความโกรธ ก่อนจะหันหน้าเบี่ยงสายตาไปทางอื่น ก่อนจะตะโกนขึ้นมาว่า “โบย!”“ฟู่เฉินหวน! หม่อมฉันไม่น่าเชื่อท่านเลย” ลั่วชิงยวนเอ่ยออกมาด้วยความดุดันฟู่เฉินหวนบัดนี้ขมวดคิ้วแน่นจนแทบจะเป็นปม เขากำมือที่ไขว้ด้านหลังจนแน่นเพื่อควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ทั่วทั้งสมองของเขารู้สึกบวมไปหมด ความเจ็บปวดนี้ทำให้อึดอัดใจเป็นอย่างมาก เขามิรู้ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไม้พายขนาดประมาณเท่าฝ่ามือฟาดลงเข้าที่ใบหน้าของลั่วชิงยวนอย่างแรง ทันใดนั้นลั่วชิงยวนก็มองขึ้นไปด้านบนท้องฟ้าที่เต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 81

    ครู่ต่อมา องครักษ์ก็พุ่งเข้าหาฟู่เฉินหวนฟู่เฉินหวนประมือกับองครักษ์อยู่หลายกระบวนท่า องครักษ์ผู้นั้นมิอาจต่อกรกับเขาได้ ชายผู้นั้นล้มลงไปกับพื้น และกระอักเลือดออกมา ทว่าเขาก็ยังหยัดกายขึ้นได้ในทันที และวิ่งเข้าใส่ฟู่เฉินหวนอีกครั้งราวกับว่าเขามิรู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใดจากนั้นฟู่เฉินหวนก็ดึงดาบซึ่งคราแน่นไปด้วยไอสังหารออกมาลั่วชิงยวนคุกเข่าลงบนพื้น หันหน้าเข้าหาดวงจันทร์ที่ทอประกาย และวาดยันต์ด้วยปลายนิ้วที่มีโลหิตสีเข้มเปียกชุ่มอยู่ เมื่อนางหันกลับมาเห็นว่าฟู่เฉินหวนกำลังชักดาบ นางก็ตะโกนออกไปอย่างรวดเร็ว "อย่าฆ่าเขา!"นางคว้ายันต์มาไว้ในมือ แล้ววิ่งไปอย่างรวดเร็วเมื่อองครักษ์ที่กำลังคลุ้มคลั่งรีบวิ่งเข้ามาหาฟู่เฉินหวนทั้งที่ใบหน้าถูกย้อมไปด้วยโลหิต ทันใดนั้นลั่วชิงยวนก็เข้าไปยืนขวางที่ด้านหน้าของฟู่เฉินหวน และใช้ยันต์ในมือกดลงไปบนหน้าผากขององครักษ์ผู้นั้น นางใช้ปลายนิ้วเปื้อนเลือดของตัวเองสกัดจุดองครักษ์ให้ร่างกายของเขาแข็งค้างชั่วคราว ก่อนที่ลั่วชิงยวนก็ใช้โอกาสนี้เตะกวาดขาอีกฝ่ายจนทำให้เขาต้งคุกเข่าลงกับพื้นในเสี้ยววินาทีต่อมา นางจึงวาดอักขระเวทย์ลงบนหน้าผากและฝ่ามือขององค

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1099

    ฟู่เฉินหวนใจตึงเครียดจนฝ่ามือชุ่มไปด้วยเหงื่อลั่วชิงยวนพยายามยันตัวลุกขึ้น แต่กลับไร้เรี่ยวแรงที่จะตอบโต้เหยียนผิงเซียวชกเข้าที่ท้องของลั่วชิงยวนอีกครั้ง เลือดสีแดงฉานพุ่งออกมาจากปากนางเหยียนผิงเซียวจิกผมของนางแล้วกระซิบข้างหูอย่างร้ายกาจว่า “เจ้าเก่งนักมิใช่หรือ! ทำให้ท่านพ่อของข้าต้องลาออกจากตำแหน่งกลับไปยังเมืองฉิน เจ้าเป็นผู้มีพระคุณใหญ่หลวงของตำหนักอ๋องนี่!”“เจ้าลองเดาดูสิว่าฟู่เฉินหวนจะช่วยเจ้าหรือไม่?”“แต่มิสำคัญแล้ว เพราะข้าต้องการเพียงให้เจ้าตายเท่านั้น!”เหยียนผิงเซียวใช้ร่างของลั่วชิงยวนบังสายตาของผู้คนส่วนมืออีกข้างที่กำหมัดแน่นมีแผ่นเหล็กแหลมคมติดอยู่ แล้วกระแทกลงไปที่ท้องของลั่วชิงยวนอย่างแรงลั่วชิงยวนเห็นอาวุธลับนั้นแล้วก็ตึงเครียดมากฟู่เฉินหวนแทบขาดใจ ความรู้สึกมิสบายใจอย่างรุนแรงถาโถมเข้ามาฟู่อวิ๋นโจวผู้นั่งอยู่มุมห้องใต้หลังคาก็กำมือแน่นด้วยความตึงเครียดเช่นกันแม้ว่าฝีมือของลั่วชิงยวนจะสู้เหยียนผิงเซียวมิได้ แต่ก็มิควรจะไร้เรี่ยวแรงที่จะตอบโต้เช่นนี้จะลงมือช่วยนางตอนนี้เลยดีหรือไม่!ฟู่อวิ๋นโจวลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่แล้วในวินาทีนั้นเองเงาร่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1098

    ในมิช้าการประลองก็เริ่มขึ้นโชคดีที่ลั่วเยวี่ยอิงมิได้ก่อเรื่องวุ่นวายอีก นางเฝ้าดูการประลองอย่างสงบลั่วชิงยวนใช้โอกาสนี้ทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ ดาบและกระบี่นั้นไร้ตา ดังนั้นการประลองครั้งนี้จึงห้ามใช้ดาบและอาวุธลับแต่เมื่อปรมาจารย์ต่อสู้กันก็อาจจะควบคุมมือมิทัน เพื่อให้ทุกคนได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ การประลองครั้งนี้ ความเป็นความตายจึงเป็นเรื่องของชะตาฟ้าลิขิตชัยชนะครั้งสุดท้ายมิใช่ผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุดสิ่งสำคัญคือการแสดงผลงานในระหว่างการประลอง ฟู่เฉินหวนจะคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นบางคนสำหรับฟู่จิ่งหาน การประลองครั้งนี้มิใช่เพียงการคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการชมการประลองที่น่าตื่นเต้นด้วย ดังนั้นจึงมีความอิสระสูงทุกคนสามารถขึ้นไปท้าทายได้ หนึ่งรอบมีผู้แข่งขันสิบคน ผู้ชนะจะได้พักแล้วเข้าสู่รอบที่สองดังนั้นผู้ชนะในแต่ละรอบจะสามารถท้าทายคู่ต่อสู้ที่ตนคิดว่าแข็งแกร่งกว่าได้อย่างอิสระการประลองรอบแรกจบลงอย่างรวดเร็ว ฟู่เฉินหวนกับฟู่จิ่งหานวิเคราะห์ผู้ที่เหมาะสมในรอบนี้อย่างจริงจังฟู่จิ่งหานพยักหน้าให้ขันทีที่ยืนอยู่ด้านข้างจดบันทึกชื่อทุกอย่าง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1097

    “พระชายา เหตุใดมิลงไปหามาให้ข้าเล่า? หากขุดพบรากบัวได้สองหัว ข้าจะเมตตาตกรางวัลให้อย่างงาม!”น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเยาะเย้ยและหยิ่งผยองนั้น มิใช่ปฏิบัติต่อลั่วชิงยวนดุจพระชายา หากแต่ปฏิบัติเสมือนทาสบริวารเหล่าผู้คนโดยรอบต่างตกตะลึงพรึงเพริดตำแหน่งของลั่วชิงยวนในตำหนักอ๋องนั้นต่ำต้อยถึงเพียงนี้เชียวหรือ?ฟู่เฉินหวนอดรนทนมิไหวอีกต่อไป จึงพูดเสียงเย็นเยียบว่า “ฤดูกาลนี้จะมีรากบัวอยู่ได้อย่างไร มิต้องลำบากเช่นนั้นเลย”ลั่วเยวี่ยอิงกลับคว้าแขนฟู่เฉินหวนพลางทำท่าทางออดอ้อน“ไม่เพคะ ท่านอ๋อง เผื่อว่าจะมีก็ได้! โปรดให้พระชายาลงไปค้นหาดูเถิดเพคะ!”นางกล่าวจบก็ถอดกำไลหยกที่ข้อมือ แล้วขว้างลงไปในบึงจากนั้นเชิดหน้าพูดกับลั่วชิงยวนว่า “ไปสิ กำไลหยกวงนี้เป็นรางวัลของเจ้า!”ท่าทางเช่นนี้ประหนึ่งว่ากำลังสั่งการสุนัขตัวหนึ่งฟู่เฉินหวนกำมือแน่น รู้สึกปวดร้าวที่ศีรษะอย่างยิ่งลั่วชิงยวนเห็นดังนั้นก็กังวลเพราะอาการของฟู่เฉินหวน นัยน์ตานางฉายแววเย็นชาขณะมองหน้าลั่วเยวี่ยอิง แล้วหันหลังกระโดดลงไปในสระน้ำเมื่อเสียงน้ำกระเพื่อมดังขึ้น เสียงฮือฮาต่างก็ดังมาจากทั่วบริเวณ“นางกระโดดลงไปจริง ๆ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1096

    “องค์จักรพรรดิทรงมีรับสั่งว่าการประลองยุทธ์ครั้งนี้ ต้องการให้ท่านอ๋องคัดเลือกผู้มีความสามารถ จึงอนุญาตให้ท่านอ๋องพาพระชายาทั้งสองไปชมการประลองได้พ่ะย่ะค่ะ!”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วฟู่เฉินหวนรับพระราชโองการมาดู แล้วพบว่าเป็นพระราชโองการจริงจิ่นชูมองแล้วถามด้วยรอยยิ้ม “ครั้งนี้องค์จักรพรรดิทรงรับสั่งให้ท่านอ๋องพาพระชายาทั้งสองไปด้วย เหตุใดจึงมิเห็นพระชายารองหรือเพคะ?”ยามนี้ลั่วเยวี่ยอิงรู้ข่าวการประลองยุทธ์แล้ว นางส่งเสียงโวยวายอยากไปด้วยอยู่หน้าประตู “ท่านอ๋อง! ท่านอ๋องเพคะ! พาหม่อมฉันไปด้วยเถิดเพคะ!”จิ่นชูได้ยินเสียงนี้แล้วก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย “ท่านอ๋องอย่าลืมพระชายารองนะเพคะ”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว “การประลองยุทธ์มิเกี่ยวกับนาง นางมิจำเป็นต้องไปก็ได้”จิ่นชูถามด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นท่านอ๋องจะขัดต่อพระราชโองการหรือเพคะ?”คำพูดนี้ทำให้ฟู่เฉินหวนจำต้องพาลั่วเยวี่ยอิงไปด้วยเพราะสุดท้ายแล้วนั่นก็คือพระราชโองการมหาราชาจารย์เหยียนเพิ่งลาออก ตระกูลเหยียนกำลังตกต่ำ หากเขาขัดพระราชโองการในเวลานี้ก็จะดูเหมือนอวดดี มิเคารพองค์จักรพรรดิฟู่เฉินหวนสบตากับลั่วชิงยวน ทั้งสองต่างก็รู้สึกว่าครั้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1095

    ฟู่เฉินหวนตกใจเมื่อได้ฟังถ้อยคำของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนอธิบาย “หม่อมฉันได้คำนวณดูแล้ว เหตุการณ์วุ่นวายในแคว้นเทียนเชวียกำลังจะอุบัติขึ้น เริ่มต้นจากทางทิศใต้เพคะ”“และเมืองฉินก็ตั้งอยู่ทางทิศใต้พอดี!”“ตระกูลเหยียนรุ่งเรืองมาจากเมืองฉิน มีอิทธิพลสูงส่งยิ่งนัก การที่มหาราชาจารย์เหยียนลาออกจากตำแหน่งแล้วกลับไปยังเมืองฉินอย่างเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ เกรงว่าจะมีอำนาจมืดใหญ่หลวงซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังเพคะ”เมื่อฟู่เฉินหวนก็ได้ฟังดังนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นกว่าเดิม“เช่นนั้นก็แสดงว่าตาแก่ผู้นี้จะเริ่มแผนการแล้วสินะ”กล่าวจบ ฟู่เฉินหวนก็คว้ามือของลั่วชิงยวนไว้ “ชิงยวน ขอบใจเจ้ามาก”ลั่วชิงยวนถึงกับตะลึงงันไป “ขอบใจหม่อมฉันเรื่องอะไรเพคะ?”“ขอบใจเจ้าที่บอกเรื่องสำคัญเช่นนี้แก่ข้า”ลั่วชิงยวนถามด้วยความสงสัย “แล้วท่านจะทำอย่างไรเพคะ?”ฟู่เฉินหวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาฉายแววเย็นชา “เมื่อเขาลาออกจากตำแหน่งแล้วออกจากเมืองหลวง เช่นนั้นก็อย่าให้เขากลับมาได้อีกเลย!”ลั่วชิงยวนก็เห็นด้วยกับวิธีการนี้มีเพียงมหาราชาจารย์เหยียนสิ้นชีพลงเท่านั้น ทุกอย่างจึงจะสงบลงได้“หม่อมฉันจะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1094

    ฟู่เฉินหวนเก็บขนมกุ้ยฮวาไปด้วยความผิดหวัง แล้วพูดปลอบโยน “มิเป็นอะไร รอชิมฝีมือหัวหน้าพ่อครัวเถิด”ดูเหมือนจะมิถูกใจ ถึงแม้เขาจะเรียนรู้จากหัวหน้าพ่อครัว แต่รสชาติก็ยังแตกต่างออกไป ดูเหมือนต้องฝึกฝนให้มากขึ้นลั่วชิงยวนเห็นความผิดหวังในสายตาของเขา จึงยกยิ้มหวานแล้วพูดว่า “หวานมาก! อร่อยมากเพคะ!”ฟู่เฉินหวนตกตะลึงเมื่อเห็นรอยยิ้มที่เย้ายวนใจ ใจชายหนุ่มก็รู้สึกหวั่นไหว จึงอดมิได้ที่จะประคองหน้าลั่วชิงยวนแล้วจุมพิตถึงแม้จะรู้ว่านางอาจจะปลอบใจเขา แต่เพียงเห็นรอยยิ้มของนางเขาก็สุขใจมากแล้วหัวหน้าพ่อครัวมองไปทางอื่น ทำเป็นมิเห็นในมิช้า อาหารและขนมก็ถูกยกมาอย่างต่อเนื่องทั้งสองกินข้าวด้วยกันอย่างมีความสุขจนดึกดื่นเมื่อออกจากหอหมื่นสุข ลั่วชิงยวนอิ่มจนแทบจะเดินมิไหวฟู่เฉินหวนจับมือลั่วชิงยวนเดินไปข้างหน้า “เดินเล่นสักหน่อย แล้วเดี๋ยวข้าค่อยส่งเจ้ากลับ”ลั่วชิงยวนเรอเบา ๆ “ท่านตั้งใจจะทำให้หม่อมฉันอ้วนขึ้นหรือเไร หากหม่อมฉันอ้วนเหมือนเดิม ท่านก็จะดีใจใช่หรือไม่เพคะ?”ฟู่เฉินหวนอุ้มนางขึ้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าฉลาดมาก”“ท่าน!” ลั่วชิงยวนยกมือขึ้นฟู่เฉินหวนจับมือน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1093

    ซ่งเชียนฉู่เช็ดมือ ก่อนจะเปิดลิ้นชักหยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมา ลั่วชิงยวนฉีกซองอ่านดู เมื่ออ่านจบ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีซ่งเชียนฉู่สงสัยจึงเอ่ยถาม “มีอะไรหรือ? เป็นจดหมายขอความช่วยเหลือหรือไร?”ลั่วชิงยวนเบิกตาเล็กน้อย “เป็นจดหมายขู่”ในจดหมายเขียนว่า ผู้เขียนรู้ว่านางแอบอ้างเป็นศิษย์สำนักเสวียนซานอวี้ซวี และต้องการให้นางร่วมมือ หากมิยอมร่วมมือ ก็จะให้ศิษย์สำนักเสวียนซานอวี้ซวีตัวจริงมาเปิดโปงความจริง เพื่อทำลายชื่อเสียงของนาง บอกให้ใต้หล้ารู้ว่านางเป็นเพียงสตรีที่ต้มตุ๋นหลอกลวงซ่งเชียนฉู่รับจดหมายมาอ่าน แล้วร้องอุทานด้วยความตกใจ “ใครกัน? ดูเหมือนจะจับตามองท่านมานานแล้ว!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล “ให้มันมาหาข้าเองเถอะ ส่วนเจ้าก็จงระมัดระวังตัวให้มาก”ซ่งเชียนฉู่พยักหน้ารับ “ข้ามิเป็นอะไรหรอก แต่ท่านต้องระวังตัวให้มาก คนผู้นี้คงจับตามองท่านมานานแล้ว ถึงได้รู้ว่าท่านมิใช่ศิษย์สำนักเสวียนซานอวี้ซวี”นั่นเพราะเมื่อเริ่มทำนายทายทัก ลั่วชิงยวนยังไม่มีชื่อเสียง จึงใช้ชื่อศิษย์สำนักเสวียนซานอวี้ซวี ผู้เขียนจดหมายจึงต้องรู้ว่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1092

    แต่กลับถูกจับแขน แล้วดึงเข้าไปในอ้อมกอดลั่วชิงยวนจึงรู้สึกตัว เมื่อได้กลิ่นที่คุ้นเคยก็ตกใจมาก “ท่านมาได้อย่างไรเพคะ?”ฟู่เฉินหวนโอบกอดนางแน่นแล้วพูดว่า “ตำหนักนอกเมืองหนาวมาก”ลั่วชิงยวนผลักเขาออกอย่างแรง “ใช่เพคะ มิเพียงแต่หนาว ยังมีงูด้วย”มิใช่ว่านางมิเคยอยู่ที่ตำหนักนอกเมืองสภาพแวดล้อมในครั้งนั้นยากลำบากกว่าฟู่เฉินหวนในตอนนี้มากฟู่เฉินหวนนึกถึงประสบการณ์ในอดีตของนาง จึงจับมือของนางด้วยความห่วงใย “ชิงหยวน ครั้งนั้นเจ้าลำบากมาก”“เป็นข้าที่ต้องขอโทษเจ้า”ใต้แสงจันทร์ ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย “เรื่องในอดีต ผ่านไปแล้ว มิต้องพูดถึงอีกแล้วเพคะ”“ท่านทนความหนาวเย็นของตำหนักนอกเมืองมิได้หรือเพคะ?”ฟู่เฉินหวนพูดเสียงต่ำ “ทนการจากลาเจ้ามิได้ต่างหาก”ใจของลั่วชิงยวนสั่นไหวเล็กน้อยแล้วก็ใจอ่อนอีกครั้ง“แต่ถ้าท่านมิไปอยู่ที่ตำหนักนอกเมือง ในตำหนักอ๋องแห่งนี้คนที่ทุกข์ใจก็จะเป็นเราสองคน”“ข้าจะไป รุ่งเช้าจะกลับ คืนนี้ขอพักอยู่ที่นี่สักคืนได้หรือไม่?”ฟู่เฉินหวนกลับมาที่เมืองหลวงในเวลากลางคืนมิใช่เพราะอารมณ์ชั่ววูบเมื่อไปถึงตำหนักนอกเมือง แล้วเห็นสถานที่ที่นางเค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1091

    นางโน้มกายลง ริมฝีปากแสยะยิ้มจางขณะพูดด้วยเสียงเยือกเย็น “เจ้าเป็นเพียงบ่าวที่ใช้ทดลองยาในตำหนักอ๋องเท่านั้น”จบประโยค นางก็คว้าข้อมือของลั่วเยวี่ยอิง แล้วกรีดลงไปแม้ว่าลั่วเยวี่ยอิงจะดิ้นรนอย่างไร ลั่วชิงยวนก็มิปล่อยมือ ปล่อยให้โลหิตไหลออกเต็มชาม ลั่วชิงยวนจึงคลายมือออกพร้อมกับพานางรับใช้ไปด้วยลั่วชิงยวนจำต้องเร่งรัดการปรุงยาแก้พิษ ลั่วเยวี่ยอิงยังคงมีชีวิตอยู่ก็จะยิ่งก่อความวุ่นวายให้ตำหนักอ๋องมิสงบสุขระหว่างทางกลับ นางก็สั่งนางรับใช้ว่า “เจ้าไปเอาชุดจากศาลารุ้งเมฆาให้สตรีผู้นั้น บอกว่าเป็นคำสั่งของข้า ศาลารุ้งเมฆาจะให้”“เจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนสั่งอีกว่า “จงทำตามใจนางทุกอย่าง จะได้มิเดือดร้อน”“เจ้าค่ะ”ยามเย็นลั่วชิงยวนดักรออยู่มิไกลจากตำหนักอ๋องเมื่อเห็นรถม้าใกล้เข้ามานางก็รีบเข้าไปหาเมื่อฟู่เฉินหวนบนรถม้าเห็นนางมาถึงก็รีบลงจากรถม้า ยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วโอบกอดลั่วชิงยวนไว้ในอ้อมแขน “คิดถึงข้าหรือไม่?”ลั่วชิงยวนผลักเขาออก “หม่อมฉันมาบอกท่านว่าอย่ากลับไป ท่านไปอยู่ที่ตำหนักนอกเมืองเถิดเพคะ”เมื่อได้ยินดังนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของฟู่เฉินหวนก็แข็งค้าง “เหตุใด? ข้าทำผิ

DMCA.com Protection Status