Share

บทที่ 730

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนเม้มริมฝีปากและเย้ยหยัน นางกำกริชจันทร์เสี้ยวในมือแน่นแล้วรีบก้าวไปข้างหน้า

ดวงตาของหมอกู้เปลี่ยนเป็นเย็นชา "เจ้ายังมิตายจริง ๆ!"

“เราสองพี่น้องตกอยู่ในเงื้อมมือของเจ้า ชาติหน้าเราจะกลับมาแก้แค้น!” ดวงตาของหมอกู้เปลี่ยนเป็นเย็นชา และเขากัดฟัน หมายจะกินยาพิษ

แต่ทว่าลั่วชิงยวนเตรียมตัวมาอย่างดีและเตะเขาเสียก่อน ทำให้ยาพิษในปากของหมอกู้หลุดออก

“อยากตายรึ? มิง่ายแบบนั้นหรอก!”

หมอกู้ล้มลงกับพื้น จ้องมองนางด้วยความโกรธ และอยากจะกัดลิ้นฆ่าตัวตาย

ลั่วชิงยวนบีบแก้มของเขาแล้วมองดูเขาอย่างเหนือกว่า "หากเจ้ายังคำนึงถึงชีวิตหลังความตายอยู่ ก็ให้ความร่วมมือมาดี ๆ มิเช่นนั้น ข้าจะขุดศพพี่ชายทั้งสองคนของเจ้าขึ้นจากหลุม แล้วบดกระดูกให้เป็นเถ้าธุลีทีเดียว"

“มิยอมให้ไปเจอชีวิตหลังความตายแน่!”

โลงศพของสามพี่น้องกู้ล้วนสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ เห็นได้ว่าพวกเขาหมายจะมีชีวิตที่ดีในชาติหน้าเพียงใด ดังนั้นพวกเขาจึงมิกลัวความตายในชีวิตนี้

อย่างไรก็ตาม คำพูดของลั่วชิงยวนดูคล้ายกับการเอามีดไปจ่อคอหมอกู้อย่างไรอย่างนั้น เขาตกใจและจ้องมองไปที่ลั่วชิงยวน “ลั่วชิงยวน อย่าใจร้ายเกินไปนัก!”

ลั่วชิงยวนเม้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Petch Tongsittigon
อัพวันละ5ตอนไม่ได้เรอะ จนไปอ่านแอพอื่นหมดไป10เรื่องละ แอพนี้ลงช้าจริง
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 731

    ฟู่เฉินหวนรู้สึกตัว เดินตามทัน และกลับไปที่ตำหนักเนื่องจากมีการเคลื่อนไหวมากมายในตำหนักกลางดึก ลั่วเยวี่ยอิงจึงลุกขึ้นและมายังลานตำหนักจากนั้นก็เห็นลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนกลับมาด้วยกันในขณะนั้น ใบหน้าของลั่วเยวี่ยอิงก็ซีดลง “ท่าน!”ลั่วชิงยวนเหลือบมองนางอย่างเย็นชา มิแยแส และเดินตรงไปที่คุกใต้ดินลั่วเยวี่ยอิงตกใจมากจนนางถอยหลังไปก้าวหนึ่ง นั่นคนหรือผี?ลั่วชิงยวนยังมิตายเหรอ?“ท่านอ๋อง นาง…” ลั่วเยวี่ยอิงกำลังเสียศูนย์และดูตื่นตระหนกฟู่เฉินหวนปลอบใจนาง "นางยังไม่ตาย""เจ้าวางใจได้"“นี่ก็ดึกแล้ว กลับไปพักผ่อนเถอะ”หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ให้คนไปส่งลั่วเยวี่ยอิงกลับเรือนลั่วเยวี่ยอิงตกใจมาก นางโกรธจนอาเจียนเป็นเลือด ทันทีที่กลับถึงห้อง…… ที่คุกใต้ดินลั่วชิงยวนขอให้ผู้คุมทั้งหมดล่าถอยไป มิให้มีการทรมานใด ๆ และสอบสวนกู้หงปิ่งเพียงลำพังฟู่เฉินหวนกำลังนั่งอยู่ในห้องข้าง ๆ ดื่มชาและฟังอย่างเงียบ ๆ“ข้าเห็นโลงศพของเจ้าในอำเภอชิงฉวี ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการทำอะไร เจ้าสามคนคงมีชีวิตที่ยากลำบาก หากทั้งสามคนมีอัตลักษณ์เดียวกัน เช่นนั้นเจ้าทั้งสามคงถูกกำหนดให้ต้องเจอจุดจบ”

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 732

    กู้หงปิ่งตอบอย่างมิแยแส “ตระกูลเหยียนไงเล่า”“เราเพียงติดต่อกับเหยียนผิงเซียวและรับคำสั่งจากเขาเท่านั้น”“ข้ารับคำสั่งจากตระกูลเหยียนเท่านั้น ความลับอื่นใดข้ามิรู้เลย”คำตอบนี้อยู่ในความคาดหมายของลั่วชิงยวนเช่นกันนางรู้ว่าหมอกู้เป็นคนของตระกูลเหยียน และเป็นมือเป็นเท้าให้ไทเฮา“เจ้ารู้เรื่องกลียุคในวังมากแค่ไหน?”กู้หงปิ่งส่ายหน้า “ข้ามิรู้อะไรเลย”“พี่ใหญ่และพี่รองของข้าอาจรู้อะไรบางอย่าง เพราะพวกเขาเกี่ยวข้องกับภารกิจนี้โดยตรง มีแต่ข้าที่มิรู้เรื่องนี้”ลั่วชิงยวนสอบปากคำเขาอยู่เป็นเวลานาน แต่มิพบเบาะแสที่เป็นประโยชน์อีกแล้วรวมถึงเรื่องที่มียอดฝีมือซ่อนอยู่ในตระกูลเหยียนด้วย กู้หงปิ่งรู้แค่ว่ามีคนเหล่านั้นอยู่ แต่มิเคยเห็นพวกเขาและไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับพวกเขาเลยลั่วชิงยวนเชื่อว่าเขาจะไม่โกหก เขาได้ทรยศต่อเจ้านายของเขาแล้ว และมิจำเป็นต้องปิดบังอะไรอีกหลังจากหมดคำถาม ลั่วชิงยวนก็มาที่ห้องขังข้าง ๆ “ท่านมีอะไรจะถามเขาหรือไม่?”ดวงตาของฟู่เฉินหวนมืดมน เขามิเคยคาดคิดว่าคนที่เขาไว้วางใจมากที่สุดจะเป็นสายลับที่ศัตรูของเขาวางไว้ตั้งแต่แรก“ไม่มีแล้ว” ฟู่เฉินหวนลุกขึ้นและออกจา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 733

    ฟู่เฉินหวนเริ่มพูดอย่างช้า ๆ “เหล่าพ่อค้าซีหยางที่ถูกจับได้ล้วนเป็นสมาชิกของสมาคมการค้าซีหยางเฟิงตู”“ในเดือนที่ผ่านมา สมาคมการค้าซีหยางเฟิงตูมีเงินหมุนเวียนอย่างน้อยหลายสิบล้านตำลึง”“ตอนคนของข้าติดตามคดีนี้ไปถึงซีหยาง ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ล้วนหายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่มีใครรู้ว่าเป็นหรือตาย”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางเลิกคิ้วและมองไปที่ฟู่เฉินหวน “ท่านต้องการให้หม่อมฉันช่วยสืบสวนคดีนี้หรือไม่?”ใบหน้าของฟู่เฉินหวนเย็นชา “เจ้าอยากรู้อะไรงั้นหรือ?”ลั่วชิงยวนยิ้มและวางจดหมายลับลง “หม่อมฉันมิได้ขอให้ท่านบอกอะไรมากนัก หากท่านทำตัวผิดปกติ หม่อมฉันจะรู้ว่าว่าท่านมีเจตนาอะไร”“การหายตัวไปอย่างแปลกประหลาดนับว่ามิใช่เรื่องปกติ ทั้งยังมิรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร นับว่าแปลกประหลาดมาก”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ หันหลังกลับและจากไปเขาอยากหลอกล่อให้นางงับเหยื่อ อยากหลอกใช้นางอีกแล้วนางจะกระโดดลงกองไฟเหมือนทุกครั้งงั้นหรือ?อย่างไรก็ตาม ขณะที่นางกำลังจะก้าวออกจากห้องตำรา เสียงเย็นชาของฟู่เฉินหวนก็ดังขึ้น… “ตอนนี้ตระกูลฟ่านก็เป็นหนึ่งในสมาคมการค้าซีห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 734

    เมื่อเห็นว่านางรับปาก ฟู่เฉินหวนจึงพูดทันที “เช่นนั้นก็ไปเตรียมตัว เราจะออกเดินทางกันในเช้าวันพรุ่ง เพื่อไปที่ซีหยางด้วยเหตุผลของการไปเยี่ยมเยียนลั่วหลางหลาง"ลั่วชิงยวนตกตะลึงฟู่เฉินหวนตัดสินใจทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อยแล้ว! ทุกสิ่งถูกวางไว้แล้ว!ลั่วชิงยวนโกรธมาก นางมองเขาด้วยสายตาเย็นชา แล้วรีบวิ่งออกไปที่ประตูฟู่เฉินหวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ ๆ นางจึงโกรธขึ้นมากะทันหัน…… ลั่วชิงยวนโกรธมากจนนางนอนไม่หลับไปทั้งคืน แม้ว่านางจะรู้ว่ามันเป็นกองไฟ แต่นางก็ยังกระโดดเข้าไปเห็นได้ชัดว่านางรู้สึกเสียใจแทนลั่วหลางหลาง แต่ฟู่เฉินหวนก็คำนวณทุกอย่างไว้แล้ว และมั่นใจว่านางจะไปซีหยางกับเขา เขายังวางแผนที่จะไปที่ซีหยางด้วยข้ออ้างว่าจะไปเยี่ยมลั่วหลางหลางอีกด้วยคนนอกคงคิดแค่ว่า ฟู่เฉินหวนมากับนางมาเพื่อเยี่ยมลั่วหลางหลางและชำระบัญชีกับฟ่านซานเหอเท่านั้นแต่ในความเป็นจริง เขาใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างและแอบตรวจสอบเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านตำลึงของสมาคมซีหยางเฟิงตูต่างหากต้องยอมรับเลยว่า ด้วยความรอบคอบรู้คิดเช่นนี้เขาถึงได้เหมาะสมอย่างยิ่งกับตำแหน่งอ๋องผู้สำเร็จราชการไม่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 735

    ลั่วชิงยวนบังคับรถไปข้างหน้า หยุดที่ประตูโรงเตี๊ยมแล้วเดินเข้าไปข้างในภายในโรงเตี๊ยม พวกเขากำลังทำความสะอาดโต๊ะและเก้าอี้ ส่วนเจ้าของโรงเตี๊ยมก็กำลังคำนวณรายได้อยู่หลังโต๊ะจ่ายเงิน ท่ามกลางเสียงดังกังวานของลูกคิด“นายท่านต้องการมาแวะพักกินอาหารหรือจะนอนพักในโรงเตี๊ยม?” เจ้าของร้านไม่เงยหน้าขึ้นมามองด้วยซ้ำลั่วชิงยวนมองไปรอบ ๆ โรงเตี๊ยมและอดมิได้ที่จะถาม “ไม่นึกว่าจะมีโรงเตี๊ยมในสถานที่ห่างไกลเช่นนี้ด้วย”สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยพลังหยิน(1)ไม่มีอะไรดูถูกที่ถูกทางเลยแม้แต่น้อยเมื่อเจ้าของร้านได้ยินเช่นนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองนางด้วยแววตาประหลาดใจก่อนกล่าวว่า “แม่นางกำลังไปผิดทาง”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “ผิดทางหรือ เช่นนั้นท่านรู้หรือว่าข้ากำลังจะไปที่ใด?”เจ้าของร้านยิ้มและพูดว่า "ไม่ว่าแม่นางจะไปที่ใด ก็ผิดทั้งนั้น ผู้คนในใต้หล้านี้ล้วนมิอาจใช้ถนนสู่อเวจีได้"“ย้อนกลับไปสองลี้ เลี้ยวขวา แล้วเจ้าจะออกไปจากที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนสะดุ้งเล็กน้อยและเลิกคิ้ว “ถนนสู่อเวจี?"ลมยามค่ำคืนพัดผ่านโรงเตี๊ยม ทำให้เกิดความหนาวเย็นเล็กน้อย รอยยิ้มมีนัยของเจ้าของร้านทำให้สั่นสะท้านไปถึงสัน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 736

    ฟู่เฉินหวน!ข้าง ๆ เขา บุรุษคนนั้นกำลังคว้าเชือก ดึงอย่างแรง แขวนฟู่เฉินหวนไว้สูง พยายามรัดคอเขา!เมื่อเขาเห็นนาง สีหน้าของชายผู้นั้นก็เปลี่ยนไปเช่นกันลั่วชิงยวนมิลังเลเลยแม้แต่น้อย ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นเย็นชา ก่อนหยิบกริชจันทร์เสี้ยวออกมาจากเอว แล้วกวาดออกไปสังหารอีกฝ่ายลงในกระบวนท่าเดียว ชายคนนั้นล้มลงกับพื้น มีเลือดไหลออกมาจากบาดแผลที่คอของเขาถนนสู่อเวจีและโรงเตี๊ยมอเวจีอะไรกัน? ดูอย่างไรก็คนชัด ๆ เชือกหลุดออก และฟู่เฉินหวนร่วงหล่นลงกับพื้น แต่ลำคอของเขายังถูกรัดและกำลังตะเกียกตะกายดิ้นรนลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้าทันที นางหยิบยาแก้พิษเข้มข้นออกมาแล้วยัดเข้าไปในปากของฟู่เฉินหวน“มีสติหน่อย!”นางดึงมือของฟู่เฉินหวนออกจากลำคอของตัวเองอย่างแรง และตบแก้มเท่าที่แก้มเขาซ้ำในไม่ช้า ฟู่เฉินหวนก็รู้สึกตัว เมื่อเขาเห็นนาง เขาก็สะดุ้ง “นี่…”“ท่านมาคนเดียวหรือ?” ลั่วชิงยวนถามคิ้วของฟู่เฉินหวนกระตุก เขาลุกขึ้นยืน "ยังมีเซียวชูด้วย"ลั่วชิงยวนรีบออกจากห้องไปทันทีนางเตะประตูห้องข้างๆ ให้เปิดออก ก่อนจะได้พบเซียวชูตามที่คาดไว้เขาเองก็ถูกรัดคอด้วยเชือกเหมือนกันสิ่งที่แปลกคื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 737

    “อันตรายมิน้อยเลย!”เซียวชูขมวดคิ้วและตอบว่า “ครั้นท่านอ๋องรู้ว่าพระชายาออกเดินทางมาแล้ว พระองค์ก็กลัวว่าพระชายาจะตกอยู่ในอันตรายเพียงลำพัง ดังนั้นจึงพาข้ามาด้วย หวังจะไล่ตามพระชายาให้ทันขอรับ”“คนอื่น ๆ ยังอยู่ข้างหลัง”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หัวใจของลั่วชิงยวนก็สั่นไหว เรื่องเป็นเช่นนี้นี่เองนางคิดว่าฟู่เฉินหวนและคนอื่น ๆ ออกเดินทางกันไปแล้ว คิดว่าพวกเขานำหน้านางอยู่กระทั่ง เมื่อไปถึงถนนอีกฟากหนึ่งแล้ว ลั่วชิงยวนก็ฉีกผ้าชิ้นหนึ่งออกแล้วมัดไว้กับโคนต้นไม้ “เอาไว้เตือนให้คนที่อยู่ข้างหลังเจ้าตามมาถูก”เซียวชูถามด้วยความสับสน “เราไปผิดทางอย่างนั้นหรือ? โรงเตี๊ยมนั่นมิชั่วร้ายเกินไปหรือ?"ลั่วชิงยวนตอบว่า “ในป่าแห่งนี้มียันต์ติดอยู่ ยันต์นั้นช่วยผนึกหมอกพิษเอาไว้ในป่ามิให้กระจายไปไหน ทางแยกนั้นและโรงเตี๊ยมที่อยู่สุดทาง ต่างก็อยู่ในหมอกพิษ”“พวกเจ้าถูกพิษจากหมอกพิษพวกนั้น ทำให้มีอาการประสาทหลอน จริง ๆ แล้วมันเป็นโรงเตี๊ยมธรรมดา ๆ แล้วศัตรูก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกัน เพียงแต่พวกเขาแสร้งทำเป็นผีและวิญญาณ และภาพหลอนจากพิษทำให้เจ้ารู้สึกว่ามันชั่วร้าย”โชคดีที่นางเอะใจได้ทันและวิ่งกลับไปหา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 738

    ฟู่เฉินหวนตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ เนื่องจากความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เขาลืมตาขึ้นโดยมิรู้ตัว มองไปที่ลั่วชิงยวนและเอ่ยอย่างยากลำบาก “เจ้ากำลังทำอะไร?”ลั่วชิงยวนไม่ตอบเขา เพียงแค่ดูดเลือดพิษออกจากบาดแผลของเขาอย่างรุนแรงเท่านั้นนางดูดพิษและบ้วนทิ้งสีริมฝีปากของนางค่อย ๆ เข้มขึ้นความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกมิสบาย และต้องการผลักนางออกไป “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”ในไม่ช้าลั่วชิงยวนก็รู้สึกเวียนศีรษะ นางยกมือขึ้นพยุงร่างกายและเหลือบมองฟู่เฉินหวน “หม่อมฉันมิต้องการเป็นหนี้ท่าน”ฟู่เฉินหวนรู้สึกผิดหวังอยู่พักหนึ่ง นางต้องการตัดสัมพันธ์กับเขาจริง ๆ หรือ?เมื่อลั่วชิงยวนยืนยันได้แล้วว่า บาดแผลไม่มีพิษหลงเหลืออยู่อีกต่อไป และไม่มีพิษให้ต้องดูดออกอีกแล้ว นางจึงวางแขนของฟู่เฉินหวนลงนางเช็ดเลือดพิษที่มุมปาก ลุกขึ้นและเดินออกไป แต่นางเวียนศีรษะ อีกทั้งการมองเห็นก็มืดดับลง กระทั่งนางล้มลง ฟู่เฉินหวนสะดุ้งและผลักตัวเองลุกขึ้นจากเตียง อดทนต่อความเจ็บปวดสาหัสที่เกิดจากพิษ เขาลากมือขวาที่ได้เรี่ยวแรง พยายามอุ้มลั่วชิงยวนแล้ววางนางลงบนเตียง“เซียวชู! เซียวชู!”“พ่ะย่ะค่

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status