Share

บทที่ 735

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนบังคับรถไปข้างหน้า หยุดที่ประตูโรงเตี๊ยมแล้วเดินเข้าไปข้างใน

ภายในโรงเตี๊ยม พวกเขากำลังทำความสะอาดโต๊ะและเก้าอี้ ส่วนเจ้าของโรงเตี๊ยมก็กำลังคำนวณรายได้อยู่หลังโต๊ะจ่ายเงิน ท่ามกลางเสียงดังกังวานของลูกคิด

“นายท่านต้องการมาแวะพักกินอาหารหรือจะนอนพักในโรงเตี๊ยม?” เจ้าของร้านไม่เงยหน้าขึ้นมามองด้วยซ้ำ

ลั่วชิงยวนมองไปรอบ ๆ โรงเตี๊ยมและอดมิได้ที่จะถาม “ไม่นึกว่าจะมีโรงเตี๊ยมในสถานที่ห่างไกลเช่นนี้ด้วย”

สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยพลังหยิน(1)

ไม่มีอะไรดูถูกที่ถูกทางเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเจ้าของร้านได้ยินเช่นนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองนางด้วยแววตาประหลาดใจ

ก่อนกล่าวว่า “แม่นางกำลังไปผิดทาง”

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “ผิดทางหรือ เช่นนั้นท่านรู้หรือว่าข้ากำลังจะไปที่ใด?”

เจ้าของร้านยิ้มและพูดว่า "ไม่ว่าแม่นางจะไปที่ใด ก็ผิดทั้งนั้น ผู้คนในใต้หล้านี้ล้วนมิอาจใช้ถนนสู่อเวจีได้"

“ย้อนกลับไปสองลี้ เลี้ยวขวา แล้วเจ้าจะออกไปจากที่นี่ได้”

ลั่วชิงยวนสะดุ้งเล็กน้อยและเลิกคิ้ว “ถนนสู่อเวจี?"

ลมยามค่ำคืนพัดผ่านโรงเตี๊ยม ทำให้เกิดความหนาวเย็นเล็กน้อย รอยยิ้มมีนัยของเจ้าของร้านทำให้สั่นสะท้านไปถึงสัน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 736

    ฟู่เฉินหวน!ข้าง ๆ เขา บุรุษคนนั้นกำลังคว้าเชือก ดึงอย่างแรง แขวนฟู่เฉินหวนไว้สูง พยายามรัดคอเขา!เมื่อเขาเห็นนาง สีหน้าของชายผู้นั้นก็เปลี่ยนไปเช่นกันลั่วชิงยวนมิลังเลเลยแม้แต่น้อย ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นเย็นชา ก่อนหยิบกริชจันทร์เสี้ยวออกมาจากเอว แล้วกวาดออกไปสังหารอีกฝ่ายลงในกระบวนท่าเดียว ชายคนนั้นล้มลงกับพื้น มีเลือดไหลออกมาจากบาดแผลที่คอของเขาถนนสู่อเวจีและโรงเตี๊ยมอเวจีอะไรกัน? ดูอย่างไรก็คนชัด ๆ เชือกหลุดออก และฟู่เฉินหวนร่วงหล่นลงกับพื้น แต่ลำคอของเขายังถูกรัดและกำลังตะเกียกตะกายดิ้นรนลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้าทันที นางหยิบยาแก้พิษเข้มข้นออกมาแล้วยัดเข้าไปในปากของฟู่เฉินหวน“มีสติหน่อย!”นางดึงมือของฟู่เฉินหวนออกจากลำคอของตัวเองอย่างแรง และตบแก้มเท่าที่แก้มเขาซ้ำในไม่ช้า ฟู่เฉินหวนก็รู้สึกตัว เมื่อเขาเห็นนาง เขาก็สะดุ้ง “นี่…”“ท่านมาคนเดียวหรือ?” ลั่วชิงยวนถามคิ้วของฟู่เฉินหวนกระตุก เขาลุกขึ้นยืน "ยังมีเซียวชูด้วย"ลั่วชิงยวนรีบออกจากห้องไปทันทีนางเตะประตูห้องข้างๆ ให้เปิดออก ก่อนจะได้พบเซียวชูตามที่คาดไว้เขาเองก็ถูกรัดคอด้วยเชือกเหมือนกันสิ่งที่แปลกคื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 737

    “อันตรายมิน้อยเลย!”เซียวชูขมวดคิ้วและตอบว่า “ครั้นท่านอ๋องรู้ว่าพระชายาออกเดินทางมาแล้ว พระองค์ก็กลัวว่าพระชายาจะตกอยู่ในอันตรายเพียงลำพัง ดังนั้นจึงพาข้ามาด้วย หวังจะไล่ตามพระชายาให้ทันขอรับ”“คนอื่น ๆ ยังอยู่ข้างหลัง”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หัวใจของลั่วชิงยวนก็สั่นไหว เรื่องเป็นเช่นนี้นี่เองนางคิดว่าฟู่เฉินหวนและคนอื่น ๆ ออกเดินทางกันไปแล้ว คิดว่าพวกเขานำหน้านางอยู่กระทั่ง เมื่อไปถึงถนนอีกฟากหนึ่งแล้ว ลั่วชิงยวนก็ฉีกผ้าชิ้นหนึ่งออกแล้วมัดไว้กับโคนต้นไม้ “เอาไว้เตือนให้คนที่อยู่ข้างหลังเจ้าตามมาถูก”เซียวชูถามด้วยความสับสน “เราไปผิดทางอย่างนั้นหรือ? โรงเตี๊ยมนั่นมิชั่วร้ายเกินไปหรือ?"ลั่วชิงยวนตอบว่า “ในป่าแห่งนี้มียันต์ติดอยู่ ยันต์นั้นช่วยผนึกหมอกพิษเอาไว้ในป่ามิให้กระจายไปไหน ทางแยกนั้นและโรงเตี๊ยมที่อยู่สุดทาง ต่างก็อยู่ในหมอกพิษ”“พวกเจ้าถูกพิษจากหมอกพิษพวกนั้น ทำให้มีอาการประสาทหลอน จริง ๆ แล้วมันเป็นโรงเตี๊ยมธรรมดา ๆ แล้วศัตรูก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกัน เพียงแต่พวกเขาแสร้งทำเป็นผีและวิญญาณ และภาพหลอนจากพิษทำให้เจ้ารู้สึกว่ามันชั่วร้าย”โชคดีที่นางเอะใจได้ทันและวิ่งกลับไปหา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 738

    ฟู่เฉินหวนตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ เนื่องจากความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เขาลืมตาขึ้นโดยมิรู้ตัว มองไปที่ลั่วชิงยวนและเอ่ยอย่างยากลำบาก “เจ้ากำลังทำอะไร?”ลั่วชิงยวนไม่ตอบเขา เพียงแค่ดูดเลือดพิษออกจากบาดแผลของเขาอย่างรุนแรงเท่านั้นนางดูดพิษและบ้วนทิ้งสีริมฝีปากของนางค่อย ๆ เข้มขึ้นความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกมิสบาย และต้องการผลักนางออกไป “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”ในไม่ช้าลั่วชิงยวนก็รู้สึกเวียนศีรษะ นางยกมือขึ้นพยุงร่างกายและเหลือบมองฟู่เฉินหวน “หม่อมฉันมิต้องการเป็นหนี้ท่าน”ฟู่เฉินหวนรู้สึกผิดหวังอยู่พักหนึ่ง นางต้องการตัดสัมพันธ์กับเขาจริง ๆ หรือ?เมื่อลั่วชิงยวนยืนยันได้แล้วว่า บาดแผลไม่มีพิษหลงเหลืออยู่อีกต่อไป และไม่มีพิษให้ต้องดูดออกอีกแล้ว นางจึงวางแขนของฟู่เฉินหวนลงนางเช็ดเลือดพิษที่มุมปาก ลุกขึ้นและเดินออกไป แต่นางเวียนศีรษะ อีกทั้งการมองเห็นก็มืดดับลง กระทั่งนางล้มลง ฟู่เฉินหวนสะดุ้งและผลักตัวเองลุกขึ้นจากเตียง อดทนต่อความเจ็บปวดสาหัสที่เกิดจากพิษ เขาลากมือขวาที่ได้เรี่ยวแรง พยายามอุ้มลั่วชิงยวนแล้ววางนางลงบนเตียง“เซียวชู! เซียวชู!”“พ่ะย่ะค่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 739

    ทีนี้ก็เข้าใจแล้วว่า เหตุใดรถม้าของเขาจึงตามหลังนางมานางจมอยู่กับความคิด ขณะมองดูสิ่งของในมือ และอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ในเมืองหลวงศาลารุ้งเมฆานับว่ามิธรรมดา ท่านซื้อมันมาได้อย่างไร?”ไม่ต้องพูดถึงผู้มีอำนาจในเมืองเมืองหลวง แม้แต่สนมในวังหลังก็ยังต้องใช้เงินกองเท่าภูเขาและเส้นสายเพื่อให้ได้โอกาสซื้ออาภรณ์สักชุดเนื่องจากศาลารุ้งเมฆาผลิตเฉพาะผลิตภัณฑ์อาภรณ์คุณภาพสูงเท่านั้น แต่ละชิ้นจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพียงหนึ่งเดียว ทั้งสง่างามและหรูหรา สวยสง่าราวกับเทพเซียน เพียงคำสี่คำ “ศาลารุ้งเมฆา” บนป้ายก็มีมูลค่าหลายพันตำลึงทองร้านนี้มิใช่แค่ทำเงินเท่านั้นเพราะเขามีทั้งศักดิ์ศรีและมีเกียรติในแบบฉบับของตัวเอง มิใช่จะยอมให้ใครมาซื้อได้ง่าย ๆเหตุใดฟู่เฉินหวนจึงซื้อมันมาได้เช่นนี้ฟู่เฉินหวนพูดอย่างใจเย็น “ถ้าข้าอยากได้ ก็ไม่มีสิ่งใดที่ข้าจะไม่ได้”“เจ้าก็เหมือนกัน”เพียงประโยคสั้น ๆ กลับทำให้หัวใจของลั่วชิงหยวนสั่นสะท้านอย่างรุนแรงนางมองดูฟู่เฉินหวนด้วยความตกใจที่นางหูฝาดไปหรือไม่?“ท่านว่ากระไรนะ?” ลั่วชิงยวนมองเขาอย่างสงสัยทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น“ท่านอ๋อง พวกเขามา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 740

    ฟ่านซานเหอยังคงมิตอบหลังจากที่เขาตั้งสติได้ เขาก็ทักทายฟู่เฉินหวนด้วยรอยยิ้ม “คราวนี้ท่านอ๋องเสด็จมากะทันหันและมิได้แจ้งล่วงหน้า ท่านคงเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาหลายวัน เรียนเชิญท่านอ๋องประทับและจิบชาสักถ้วยก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ฟู่เฉินหวนมิรีบร้อนและเดินตามฟ่านซานเหอเข้าไปข้างในฟ่านซานเหอมิสนใจลั่วชิงยวนเลยแม้แต่น้อย ลั่วชิงยวนเดินตามเขาไปที่ลานบ้าน แต่เดินตรงไปที่ลานด้านในเพื่อตามหาลั่วหลางหลางแต่ในทาง นางถูกสตรีนางหนึ่งในอาภรณ์สีแดงขวางไว้และมองนางอย่างตั้งแง่ “เจ้าเป็นใคร ผู้ใดอนุญาตให้เจ้าบุกเข้ามาในตระกูลฟ่านของข้า?”ลั่วชิงยวนมองคนที่อยู่ตรงหน้านาง อีกฝ่ายสวมผ้าไหมและผ้าต่วนเนื้อดี ที่มือสวมกำไลหยก และปิ่นปักผมที่ทำจากทองคำ ซึ่งทั้งหมดนี้เผยให้เห็นรัศมีแห่งความมั่งคั่งของนาง“เจ้าคืออนุของฟ่านซานเหอใช่หรือไม่?” ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย และน้ำเสียงของนางเย็นชาพอกันเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเฉินซวนอี๋ก็ซีดลง และนางก็พูดด้วยความโกรธ "เจ้าเป็นใคร กล้าพูดหยาบคายในตระกูลฟ่านของข้ารึ ใครก็ได้! พานางไปเดี๋ยวนี้!"เหล่านางรับใช้รวมตัวกันและต้องการพาลั่วชิงยวนออกไปแต่พว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 741

    “ข้ามิเป็นไร” เฉินซวนอี๋ส่ายหน้าเขาจ้องมองที่ลั่วชิงยวนด้วยสีหน้าโกรธเคือง “นางสตรีสารเลวนี่เป็นใครมาจากที่ใด? จัดการนางเสีย!”ฟ่านซานเหอจ้องมองลั่วชิงยวนด้วยสีหน้าน่าเกลียด "บ่าวรับใช้ของตำหนักอ๋องผู้สำเร็จราชการรังแกคนได้เช่นนี้เชียวหรือ?"“ฮูหยินของข้ากำลังตั้งท้อง หากเจ้าทำให้นางแท้งขึ้นมา ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป!”เมื่อเห็นฟ่านซานเหอปกป้องเฉินซวนอี๋เช่นนี้ ลั่วชิงยวนก็พลันนึกถึงความรักที่เขาเคยมีต่อลั่วหลางหลางและคำสัญญาอันศักดิ์สิทธิ์จากปากเขา“เหอะ สามี”“สิ่งสุดท้ายที่ข้าควรจะเชื่อคือคำสัญญาของเจ้า”เมื่อเฉินซวนอี๋ได้ยินสิ่งนี้ นางก็โกรธมากยิ่งขึ้นและตบฟ่านซานเหออย่างแรง "มัวอ้ำอึ้งอะไรอยู่! กำจัดนางออกไปสิ! ข้าถูกตบ ท่านยังมัวทำตัวมิสมกับเป็นสามีอยู่อีก!"ฟ่านซานเหอตื่นตระหนกขึ้นทันทีและต้องออกคำสั่ง “ใครก็ได้ จับนางไว้!"จากนั้นเขาก็มองไปที่ลั่วชิงยวนอย่างเย็นชา "วันนี้ข้าจะจัดการกับเจ้าก่อน แล้วค่อยไปขอประทานอภัยจากท่านอ๋อง!"คนรับใช้ในจวนเดินเข้ามาจับตัวลั่วชิงยวนทันทีลั่วชิงยวนมิได้ลงมือแม้แต่น้อยเสียงเย็นชาดังมาจากด้านหลัง“เจ้าคิดจะทำอะไรกับพระชายาของข้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 742

    ลั่วหลางหลางตะโกนอย่างกังวลเมื่อได้เห็นลั่วหลางหลาง รูปร่างหน้าตาซีดเซียวของนางดูไม่เหลือเค้าสตรีจากครอบครัวชั้นสูงเลย รูปร่างหน้าตาของนางดูทรุดโทรมและเหนื่อยล้าเท่านั้นหากท่านมหาราชครูและท่านอาลั่วหรงเห็นลั่วหลางหลางในสภาพเช่นนี้ พวกเขาคงตรอมใจเป็นแน่“หลางหลาง!” ลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยประคองลั่วหลางหลางเมื่อลั่วหลางหลางเห็นนาง ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นางจำเสียงของอีกฝ่ายได้ และดวงตาของนางก็แดงก่ำด้วยความตื่นเต้นแต่ประโยคแรกของนางนั้นกล่าวว่า “เจ้าบอกให้พวกเขาหยุดตีเถอะ มิเช่นนั้นเขาต้องถูกตีจนตายแน่!”ลั่วชิงยวนสะดุ้งเล็กน้อย ชี้ไปที่ฟ่านซานเหอที่ถูกทุบตีแล้วพูดว่า “เขาทรยศเจ้า! ดูสิว่าตอนนี้เจ้าเป็นเช่นไร ทั้งหมดเป็นความผิดของเขา แต่เจ้ายังออกหน้าพูดแทนเขาอีกหรือ?”ใบหน้าของลั่วหลางหลางซีดเซียว และนางคว้าแขนของลั่วชิงยวนอย่างขอร้อง “ได้โปรดเถอะ ชิงยวน”ลั่วชิงยวนกัดฟันและขอให้เซียวชูและคนอื่น ๆ หยุดเฉินซวนอี๋กลับมาอีกครั้งโดยมีนางรับใช้คอยประคอง และพาฟ่านซานเหอออกไปอย่างรวดเร็ว“พระชายา ลั่วหลางหลางสบายดี ไม่มีใครรังแกนางทั้งนั้น” เฉินซวนอี๋ยิ้มอย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 743

    “หลางหลาง ก่อนหน้านี้เจ้ากับฟ่านซานเหอก็เข้ากันได้ดีมิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ เขาจึงปฏิบัติต่อเจ้าเช่นนี้”ฟ่านซานเหอตบแต่งกับภรรยาหลวงอีกคนจริง ๆ ซึ่งลั่วชิงยวนจินตนาการมิออกเลยลั่วหลางหลางถอนหายใจอย่างเสียใจ "อันที่จริง มันเป็นความผิดของข้าเอง"“ข้ามิอยากมีลูกกับเขา”“แต่เขาอยากมี”“พอเวลาผ่านไป เขาก็ทนคำวิจารณ์ของคนนอกและเครือญาติของตระกูลเสวี่ยมิได้ ดังนั้นเขาจึงตบแต่งภรรยาหลวงอีกคนเข้ามาในที่สุด และตอนนี้เฉินซวนอี๋มีลูกอยู่ในท้องของนาง”ลั่วชิงยวนสะดุ้งเล็กน้อย “มิอยากมีลูกหรือ? เป็นเพราะ… ท่านตาของเจ้าหรือ?"ลั่วหลางหลางพยักหน้าและพูดด้วยสีหน้าเศร้า "ท่านตาของข้าตายเพราะเขา นี่เป็นปมในใจที่ข้ามิอาจปล่อยวางได้"“ยิ่งข้าใกล้ชิดเขามากเท่าใด ข้าก็ยิ่งรู้สึกผิดและโทษตัวเองมากขึ้นเท่านั้น”หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็เข้าใจเหตุผลแต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังมิสามารถให้อภัยฟ่านซานเหอได้“แต่เขาก็ผิดคำสัญญากับเจ้า”“ครั้งนั้นเขาสัญญาเอาไว้อย่างไร? เพื่อที่จะช่วยชีวิตเขา ท่านมหาราชครูรับผิดแทนเขา ปลิดชีพตนไป ด้วยเหตุผลนี้เขาควรปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดีสิ! เขาควรจะรักเจ้าอย่างสุดหัวใ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status