Share

บทที่ 669

Author: หว่านชิงอิ๋น
ดวงตาของฟู่เฉินหวนเย็นชา ขณะที่เขาสั่งซูโหยว “ไปเตรียมรถม้าอีกคัน”

“องค์ชายห้าอ่อนแอจำเป็นต้องให้หมอกู้ร่วมติดตามไปด้วย รถม้าก็คงมิอาจวิ่งได้เร็วนัก เช่นนั้นพวกเราออกเดินทางล่วงหน้าไปก่อนเถอะ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฟู่อวิ๋นโจวก็หยุดชะงักในขณะที่เขากำลังจะก้าวขึ้นรถม้า สีหน้าของเขาแข็งทื่อ และรอยยิ้มบนใบหน้าเขาก็ดูอึดอัดเล็กน้อย

“หากอย่างนั้นท่านก็ออกเดินทางไปก่อนเถอะ” ฟู่อวิ๋นโจวพูดกับลั่วชิงยวนด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นเขาก็ถอยกลับไปทันที

ลั่วชิงยวนรู้สึกอนาถใจเล็กน้อย ขณะมองดูสีหน้าเศร้าหมองของฟู่อวิ๋นโจว

“ไปกันเถอะ!” ฟู่เฉินหวนออกคำสั่งและขี่ม้าออกไปทันที

รถม้ามุ่งหน้าตามมาเขามาติด ๆ

ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั่วทั้งร่างลั่วชิงยวนก็สั่นสะเทือนอย่างแรง

ฟู่อวิ๋นโจวยืนอยู่ในขณะที่รถม้ากำลังแล่นผ่านไปอย่างกะทันหัน ทันใดนั้น เขาก็ตกใจจนเซถอยหลังออกไป ก่อนจะล้มลงกับพื้นโดยไม่ได้ตั้งใจ

เมื่อสูดผงฝุ่นที่ลอยขึ้นมา เขาจึงไออย่างรุนแรงและไม่สามารถลุกขึ้นจากพื้นได้เป็นเวลานาน

ลั่วชิงยวนมองดูฉากนั้นด้วยความโกรธ

“ฟู่เฉินหวน ท่านมิจำเป็นต้องมุ่งเป้าไปที่เขาเช่นนี้ได้หรือไม่?” ลั่วชิงยวนยก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 670

    “ขึ้นรถม้าไป”ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำพูดนี้ทว่า ลั่วชิงยวนกลับตกตะลึงเมื่อได้คำพูดดังกล่าว ทันใดนั้น ความโกรธก็ปะทุขึ้นในใจของนางนางปฏิเสธอย่างชัดเจน แต่ฟู่เฉินหวนกลับต้องการให้นางขึ้นรถม้า!“แต่นี่จะไม่ทำให้พี่หญิงของหม่อมฉันมิพอใจหรือเพคะ?” ลั่วเยวี่ยอิงถามอย่างขี้ขลาด“มิเป็นไร” ฟู่เฉินหวนส่งลั่วเยวี่ยอิงขึ้นรถม้าโดยตรงพร้อมกับช่วยพยุงนางทันทีที่ลั่วเยวี่ยอิงขึ้นรถม้า นางก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจให้กับลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนเต็มไปด้วยความโกรธฟู่เฉินหวนมองไปที่นางแล้วพูดว่า “เจ้าลงมา”ลั่วชิงยวนตกใจมาก เขายังเรียกนางลงไปอีกงั้นหรือ?ลั่วชิงยวนกำฝ่ามือของนางไว้แน่นนางลงจากรถม้าด้วยความโกรธ ฟู่เฉินหวนกำลังจะให้ลั่วชิงยวนขี่ม้าตัวเดียวกับเขาทว่า ในขณะนี้ กลับมีรถม้าอีกคันเข้ามาใกล้จากนั้นรถม้าก็หยุดลง “พระชายา?” คนในรถม้าโผล่ศีรษะออกมาลั่วชิงยวนประหลาดใจเล็กน้อย นางมิเคยเห็นบุรุษตรงหน้ามาก่อน แต่เขากลับดูคุ้นเคย!จนกระทั่งนางเห็นฉินไป๋หลี่ก็ยื่นศีรษะออกจากรถม้าเช่นกันนางจึงเพิ่งรู้ว่านี่คือรถม้าของตระกูลฉินบุรุษผู้นี้น่าจะเป็นฉินเชียนหลี่พี่ชายคนโตขอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 671

    “ข้ารู้ว่าพระชายาห่วงใยด้วยความปรารถนาดี แต่หากข้าถูกกำหนดให้ตาย เพื่อปกป้องครอบครัวและแคว้น ข้าจะสละชีวิตเพื่อสร้างความสงบสุขให้กับผู้คน ข้าก็พร้อมยอมตาย! ข้าจะไม่เสียใจ!”“ข้าหวังว่าหากมีครั้งต่อไป พระชายาจะไม่ยื่นมือมาช่วยข้าอีก ข้ามิอยากให้ใครต้องชดใช้”“การนองเลือดของทหารในสนามรบก็เพื่อปกป้องครอบครัวและผู้คนนับล้านที่อยู่เบื้องหลัง มิใช่การสละครอบครัวเพื่อความอยู่รอด”ฉินเชียนหลี่กล่าวพร้อมกับจ้องมองไปในดวงตาของฉินไป๋หลี่อย่างเศร้าโศกหลังจากที่ลั่วชิงยวนได้ยินคำพูดนี้แล้ว หัวใจของนางก็สั่นไหว เลือดของนางก็เดือดพล่านทันที“ข้าเข้าใจแล้ว” ลั่วชิงยวนยิ้มฉินไป๋หลี่ขมวดคิ้วและจับมือของฉินเชียนหลี่ “พี่ใหญ่ ข้าบอกท่านแล้วว่าดวงตาของข้ามิเกี่ยวข้องกับท่าน ท่านมิต้องรู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้”“เป็นข้าเองที่ไม่รู้จักผู้อื่นให้ดี ข้าเก็บฮุ่ยเซียงหลิวไว้ข้างกายก็สมควรแล้วที่ข้าเป็นเช่นนี้!” เมื่อมองดูพวกเขาทั้งสองทะเลาะกันไปมา ก็พูดได้ว่าทั้งสองรักใคร่กันอย่างแท้จริงลั่วชิงยวนขัดจังหวะอย่างรวดเร็ว “เช่นนั้น เรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว อย่าไปสนใจเลย”“ข้าขอดูหน่อยว่าดวงตาของคุณชา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 672

    ลั่วชิงยวนตัวสั่นไปทั้งร่างผู้คนรอบข้างต่างตกตะลึงเช่นกัน หลายคนก็จ้องมองไปที่ลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ไม่โดดเด่น จู่ ๆ ก็กลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจไม่มีใครพูดสิ่งใดจนต้องโถงเงียบมากจากนั้นเหยียนหน่ายซินก็ถามขึ้นอีกครั้ง “คนผู้นี้มิใช่หรือ?” หลายคนมองหน้ากัน แต่กลับไม่มีใครกล้าพูด เพราะท้ายที่สุดแล้ว ฟู่เฉินหวนก็นั่งอยู่ที่นั่นแต่ก็มีบางคนรอดูความสนุกอย่างไม่สนใจ เว่ยอวิ๋นเซี๋ยมองไปที่ลั่วชิงยวน ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเกลียดชังพร้อมกับเย้ยหยันว่า “ฝูเสวี่ยนางมิใช่พระชายาอ๋อง บุตรสาวของอัครเสนาบดี ลั่วชิงยวนหรอกหรือ?!”“นางเพียงมีรูปร่างที่ดีจึงสามารถล่อลวงบุรุษบางคนในหอได้ แต่ใบหน้านางน่าเกลียดเหมือนคางคก แล้วนางจะเต้นบนเวทีได้อย่างไรเล่า ไม่สู้อย่าทำให้ตัวเองขายหน้าจะดีกว่า”“หากนางจะแสดงเพลงยั่วยวนในวันนี้ นั่นจะมิทำให้ท่านอ๋องเสื่อมเสียหรอกหรือ?”การเย้ยหยันอย่างไร้ยางอายของเว่ยอวิ๋นเซี๋ย ทำให้ใบหน้าของฟู่เฉินหวนเย็นชาอย่างยิ่งลั่วชิงยวนมองไปที่เว่ยอวิ๋นเซี๋ยด้วยสายตาเย็นชา สตรีผู้นี้ความจำสั้นเสียจริง นางถูกส่งไปยังหอฝูเสวี่ย ครั้งที่แ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 673

    ฟู่เฉินหวนถือจอกสุราไว้ในมือ ใบหน้าของเขามืดมนเมื่อลั่วเยวี่ยอิงที่อยู่ด้านข้างเห็นฉากนี้ นางก็ลุกขึ้นยืนทันทีและพูดว่า “เอาล่ะ หม่อมฉันจะร่ายรำแทนพี่หญิงของหม่อมฉันแล้วกัน!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้วและคว้าข้อมือของลั่วเยวี่ยอิงไว้ลั่วชิงยวนให้ความสนใจกับปฏิกิริยาของฟู่เฉินหวนเมื่อเหยียนหน่ายซินขอให้นางร่ายรำ ฟู่เฉินหวนกลับมิพูดอะไรเลย แต่ขณะที่ลั่วเยวี่ยอิงต้องการร่ายรำแทนนาง ฟู่เฉินหวนกลับคว้าข้อมือของลั่วเยวี่ยอิงโดยไม่รู้ตัวเขายังรู้อีกด้วยว่าการถูกขอให้ร่ายรำในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องดีเพียงดูก็รู้ว่า อัปยศอดสูเพียงใดนางเป็นพระชายาอ๋อง แต่นางกลับถูกขอให้ร่ายรำเพื่อทุกคนดูในฐานะสตรีจากหอนางโลมเมื่อองค์จักรพรรดิเห็นว่าฟู่เฉินหวนมิได้พูดอะไร เขาก็รู้ถึงทัศนคติของอีกฝ่าย โดยธรรมชาติแล้วเขาจะไม่มีวันปล่อยให้ลั่วชิงยวนแสดงการเต้นรำเด็ดขาดขณะที่เขากำลังจะพูดเพื่อหยุดเหยียนหน่ายซินทันใดนั้น ลั่วชิงยวนก็ลุกขึ้นยืนนางมองไปที่ลั่วเยวี่ยอิงและฟู่เฉินหวนด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะพูดว่า “หม่อมฉันจะร่ายรำเอง”ฟู่เฉินหวนเองก็มิได้แสดงท่าทีอะไรเช่นกัน หากลั่วชิงยวนแสดงกา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 674

    “หม่อมฉันคิดว่านั่นจะทำให้การร่ายรำดูงดงามจนมิอาจมีใครเทียบได้ทีเดียว”ทันทีที่คำพูดของเหยียนหน่ายซินจบลง เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นมาทันที เสียงหัวเราะปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันในห้องโถงอันเงียบสงบแห่งนี้เหยียนหน่ายซินมองไปที่เว่ยอวิ๋นเซี๋ย “เจ้าหัวเราะอะไร?”เว่ยอวิ๋นเซี๋ยยิ้มและพูดว่า “คุณหนูเหยียน ท่านมิรู้เหรอว่าลั่วชิงยวนเป็นสตรีอัปลักษณ์ที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงแห่งนี้ เมื่อนางอภิเษกกับอ๋องผู้สำเร็จราชการ หลายคนต่างพูดกันว่านางคือคางคกหมายกินเนื้อหงส์”“ท่านคงสามารถจินตนาการได้ว่านางมีใบหน้าที่น่าเกลียดมากเพียงใด”“ได้ยินมาว่านางถูกงูกัด จึงมีฝีเต็มหน้า”“หากท่านอยากให้นางถอดหน้ากากแล้วร่ายรำ ข้าเกรงว่าจะดูน่าเกลียด น่าขยะแขยงจนแทบคลื่นไส้อาเจียน!”การเย้ยหยันอย่างไร้ยางอายของเว่ยอวิ๋นเซี๋ยก็เหมือนกับการเปลื้องผ้าของลั่วชิงยวนต่อหน้าธารกำนัล เปิดเผยสิ่งที่นางกลัวต่อสาธารณะและเหยียบย่ำนางตามอำเภอใจ ย่อมทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอับอายอย่างแน่นอนทว่า เว่ยอวิ๋นเซี๋ยจะรู้ได้อย่างไรว่าในขณะนี้หัวใจของลั่วชิงยวนกลับสงบเป็นพิเศษ แต่ดวงตาของนางเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร หลังจากที่เหยียนหน่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 675

    ในตอนแรกเหยียนหน่ายซินอดทนกับสิ่งนี้ แต่ลั่วชิงยวนแกว่งดาบใส่นางหลายต่อหลายครั้ง!ด้วยระยะของดาบที่เข้ามาใกล้ ก็ทำให้ผมของนางถูกตัดไปหลายครั้ง อีกทั้งรังสีสังหารที่เปล่งออกก็ยิ่งทำให้เหยียนหน่ายซินรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกแทงด้วยดาบจนตายเหยียนหน่ายซินจะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร นางตบโต๊ะด้วยความโกรธ “ลั่วชิงยวน ทำเช่นนี้หมายความเยี่ยงไร?!”ทว่า สิ่งที่ลั่วชิงยวนตอบโต้นางกลับเป็นการแกว่งดาบใส่นางอย่างดุเดือดการแสดงออกของเหยียนหน่ายซินเปลี่ยนไปอย่างมาก “เรียกคนเข้ามา! เรียกคนเข้ามา!”เหยียนหน่ายซินตื่นตระหนกราชองครักษ์เห็นว่าสถานการณ์ไม่ถูกต้อง พวกเขาจึงกำลังจะชักดาบออกมา แต่จักรพรรดิกลับลอบมองพร้อมกับส่งสัญญาณให้พวกเขา พวกเขาจึงกลับไปยืนประจำในตำแหน่งเดิมหากปราศจากคำสั่งของจักรพรรดิก็ไม่อาจมีผู้ใดกล้าขยับเขยื้อนในห้องโถงแห่งนี้ จากนั้นพวกเขาก็เฝ้าดูอย่างช่วยมิได้ขณะที่ลั่วชิงยวนแกว่งดาบใส่เหยียนหน่ายซิน หลายคนกลั้นหายใจขณะที่มองดู ลั่วชิงยวนคงมิได้จะฆ่าเหยียนหน่ายซินจริง ๆ ใช่หรือไม่อย่างไรก็ตามความจริงไม่เป็นเช่นนั้นดาบยาวแหลมคมในมือของลั่วชิงยวนวาดผ่านไปที่แก้มของเหยียนหน่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 676

    ลั่วชิงยวนจะปล่อยให้เหยียนหน่ายซินตบนางได้อย่างไร เช่นนั้นนางจึงยกมือขึ้นเพื่อคว้าข้อมือของอีกฝ่าย เหยียนหน่ายซินตกใจ สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความโกรธลั่วชิงยวนปล่อยข้อมือนางอย่างรุนแรงพร้อมกับเย้ยหยัน “ท่านมิได้เป็นคนเชื้อเชิญให้ข้าร่ายรำหรอกหรือ? เหตุใดท่านจึงโกรธอีกแล้ว?”“เจ้ายังต้องการให้ข้าอธิบายในสิ่งที่เจ้าทำอีกงั้นรึ? ลั่วชิงยวน เจ้าตั้งใจทำทุกอย่าง! เจ้าตั้งใจทำให้ข้าอับอาย!” เหยียนหน่ายซินโกรธจัดและตำหนิอีกฝ่ายอย่างรุนแรงลั่วชิงยวนยังคงมีท่าทีสงบ นางเอ่ยอย่างใจเย็น “ท่านมิได้ตั้งใจจะทำให้ข้าขายหน้าโดยขอให้ข้าร่ายรำหรอกหรือ? อย่างนั้นก็ถือว่าเลิกแล้วต่อกัน”“ข้าแตกต่างจากเจ้า!” เหยียนหน่ายซินโกรธมากนางคือว่าที่ฮองเฮา!หากกล้าที่จะทำให้นางขายหน้า แสดงว่าคนผู้นั้นกำลังรนหาที่ตาย!เว่ยอวิ๋นเซี๋ยก็ยังเย้ยหยันอีกด้วยว่า “ใช่แล้ว คุณหนูเหยียนมิใช่คนที่พระชายาเปลือกปลอมอย่างท่านจะเทียบได้ ท่านควรตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา กล้าดีอย่างไรถึงเปรียบเทียบตัวเองกับคุณหนูเหยียน”“อัปลักษณ์ก็ช่างปะไร ทว่ากลับมิเจียมเนียมเจียมตัว กล้ายั่วยุคุณหนูเหยียนในที่ต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้”เ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 677

    หลังจากที่นางสวมหน้ากากแล้ว ฟู่เฉินหวนก็ปล่อยนางและผูกสายรัดหน้ากากให้นางลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ พร้อมกับมองไปยังฟู่เฉินหวน ดวงตาของเขาเย็นชา แม้แต่ใบหน้าของเขาก็ไม่แปลกใจเลย ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เห็นใบหน้าของนางเช่นกันผู้คนในวังต่างตกตะลึง พวกเขาคิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะมีปฏิกิริยารุนแรงถึงเพียงนี้ด้วยวิธีนี้ ใบหน้าของลั่วชิงยวนจึงได้รับการปกป้องจากสายตาของผู้คนภายนอกใบหน้าของลั่วชิงยวนนั้นอัปลักษณ์มากจริง ๆเกรงว่าหากใบหน้าของลั่วชิงยวนเปิดเผยออกมากคงจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะเอาได้ เช่นนั้นนางก็จะต้องขายหน้าอย่างแน่นอนท้ายที่สุดแล้ว ท่านอ๋องจะมีพระชายาที่อัปลักษณ์ถึงเพียงนี้ได้เช่นไร?หลายคนคาดเดาเช่นนี้“กลับไปพักผ่อนเถอะ” ฟู่เฉินหวนกระซิบข้างหูของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนพยักหน้า นางหันหลังกลับและจากไปเหยียนหน่ายซินลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดด้วยความโกรธ “เจ้าจะเดินออกไปง่าย ๆ เช่นนี้งั้นรึ?!”ฟู่เฉินหวนหันหน้าด้วยสายตาอาฆาต น้ำเสียงของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง “เจ้าต้องการอะไร?”คำขู่ที่ถ่ายทอดออกมาด้วยน้ำเสียงทำให้นางหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลังเหยียนหน่ายซินรู้สึ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status