แชร์

บทที่ 673

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ฟู่เฉินหวนถือจอกสุราไว้ในมือ ใบหน้าของเขามืดมน

เมื่อลั่วเยวี่ยอิงที่อยู่ด้านข้างเห็นฉากนี้ นางก็ลุกขึ้นยืนทันทีและพูดว่า “เอาล่ะ หม่อมฉันจะร่ายรำแทนพี่หญิงของหม่อมฉันแล้วกัน!"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้วและคว้าข้อมือของลั่วเยวี่ยอิงไว้

ลั่วชิงยวนให้ความสนใจกับปฏิกิริยาของฟู่เฉินหวน

เมื่อเหยียนหน่ายซินขอให้นางร่ายรำ ฟู่เฉินหวนกลับมิพูดอะไรเลย แต่ขณะที่ลั่วเยวี่ยอิงต้องการร่ายรำแทนนาง ฟู่เฉินหวนกลับคว้าข้อมือของลั่วเยวี่ยอิงโดยไม่รู้ตัว

เขายังรู้อีกด้วยว่าการถูกขอให้ร่ายรำในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องดี

เพียงดูก็รู้ว่า อัปยศอดสูเพียงใด

นางเป็นพระชายาอ๋อง แต่นางกลับถูกขอให้ร่ายรำเพื่อทุกคนดูในฐานะสตรีจากหอนางโลม

เมื่อองค์จักรพรรดิเห็นว่าฟู่เฉินหวนมิได้พูดอะไร เขาก็รู้ถึงทัศนคติของอีกฝ่าย โดยธรรมชาติแล้วเขาจะไม่มีวันปล่อยให้ลั่วชิงยวนแสดงการเต้นรำเด็ดขาด

ขณะที่เขากำลังจะพูดเพื่อหยุดเหยียนหน่ายซิน

ทันใดนั้น ลั่วชิงยวนก็ลุกขึ้นยืน

นางมองไปที่ลั่วเยวี่ยอิงและฟู่เฉินหวนด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะพูดว่า “หม่อมฉันจะร่ายรำเอง”

ฟู่เฉินหวนเองก็มิได้แสดงท่าทีอะไรเช่นกัน หากลั่วชิงยวนแสดงกา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 674

    “หม่อมฉันคิดว่านั่นจะทำให้การร่ายรำดูงดงามจนมิอาจมีใครเทียบได้ทีเดียว”ทันทีที่คำพูดของเหยียนหน่ายซินจบลง เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นมาทันที เสียงหัวเราะปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันในห้องโถงอันเงียบสงบแห่งนี้เหยียนหน่ายซินมองไปที่เว่ยอวิ๋นเซี๋ย “เจ้าหัวเราะอะไร?”เว่ยอวิ๋นเซี๋ยยิ้มและพูดว่า “คุณหนูเหยียน ท่านมิรู้เหรอว่าลั่วชิงยวนเป็นสตรีอัปลักษณ์ที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงแห่งนี้ เมื่อนางอภิเษกกับอ๋องผู้สำเร็จราชการ หลายคนต่างพูดกันว่านางคือคางคกหมายกินเนื้อหงส์”“ท่านคงสามารถจินตนาการได้ว่านางมีใบหน้าที่น่าเกลียดมากเพียงใด”“ได้ยินมาว่านางถูกงูกัด จึงมีฝีเต็มหน้า”“หากท่านอยากให้นางถอดหน้ากากแล้วร่ายรำ ข้าเกรงว่าจะดูน่าเกลียด น่าขยะแขยงจนแทบคลื่นไส้อาเจียน!”การเย้ยหยันอย่างไร้ยางอายของเว่ยอวิ๋นเซี๋ยก็เหมือนกับการเปลื้องผ้าของลั่วชิงยวนต่อหน้าธารกำนัล เปิดเผยสิ่งที่นางกลัวต่อสาธารณะและเหยียบย่ำนางตามอำเภอใจ ย่อมทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอับอายอย่างแน่นอนทว่า เว่ยอวิ๋นเซี๋ยจะรู้ได้อย่างไรว่าในขณะนี้หัวใจของลั่วชิงยวนกลับสงบเป็นพิเศษ แต่ดวงตาของนางเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร หลังจากที่เหยียนหน่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 675

    ในตอนแรกเหยียนหน่ายซินอดทนกับสิ่งนี้ แต่ลั่วชิงยวนแกว่งดาบใส่นางหลายต่อหลายครั้ง!ด้วยระยะของดาบที่เข้ามาใกล้ ก็ทำให้ผมของนางถูกตัดไปหลายครั้ง อีกทั้งรังสีสังหารที่เปล่งออกก็ยิ่งทำให้เหยียนหน่ายซินรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกแทงด้วยดาบจนตายเหยียนหน่ายซินจะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร นางตบโต๊ะด้วยความโกรธ “ลั่วชิงยวน ทำเช่นนี้หมายความเยี่ยงไร?!”ทว่า สิ่งที่ลั่วชิงยวนตอบโต้นางกลับเป็นการแกว่งดาบใส่นางอย่างดุเดือดการแสดงออกของเหยียนหน่ายซินเปลี่ยนไปอย่างมาก “เรียกคนเข้ามา! เรียกคนเข้ามา!”เหยียนหน่ายซินตื่นตระหนกราชองครักษ์เห็นว่าสถานการณ์ไม่ถูกต้อง พวกเขาจึงกำลังจะชักดาบออกมา แต่จักรพรรดิกลับลอบมองพร้อมกับส่งสัญญาณให้พวกเขา พวกเขาจึงกลับไปยืนประจำในตำแหน่งเดิมหากปราศจากคำสั่งของจักรพรรดิก็ไม่อาจมีผู้ใดกล้าขยับเขยื้อนในห้องโถงแห่งนี้ จากนั้นพวกเขาก็เฝ้าดูอย่างช่วยมิได้ขณะที่ลั่วชิงยวนแกว่งดาบใส่เหยียนหน่ายซิน หลายคนกลั้นหายใจขณะที่มองดู ลั่วชิงยวนคงมิได้จะฆ่าเหยียนหน่ายซินจริง ๆ ใช่หรือไม่อย่างไรก็ตามความจริงไม่เป็นเช่นนั้นดาบยาวแหลมคมในมือของลั่วชิงยวนวาดผ่านไปที่แก้มของเหยียนหน่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 676

    ลั่วชิงยวนจะปล่อยให้เหยียนหน่ายซินตบนางได้อย่างไร เช่นนั้นนางจึงยกมือขึ้นเพื่อคว้าข้อมือของอีกฝ่าย เหยียนหน่ายซินตกใจ สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความโกรธลั่วชิงยวนปล่อยข้อมือนางอย่างรุนแรงพร้อมกับเย้ยหยัน “ท่านมิได้เป็นคนเชื้อเชิญให้ข้าร่ายรำหรอกหรือ? เหตุใดท่านจึงโกรธอีกแล้ว?”“เจ้ายังต้องการให้ข้าอธิบายในสิ่งที่เจ้าทำอีกงั้นรึ? ลั่วชิงยวน เจ้าตั้งใจทำทุกอย่าง! เจ้าตั้งใจทำให้ข้าอับอาย!” เหยียนหน่ายซินโกรธจัดและตำหนิอีกฝ่ายอย่างรุนแรงลั่วชิงยวนยังคงมีท่าทีสงบ นางเอ่ยอย่างใจเย็น “ท่านมิได้ตั้งใจจะทำให้ข้าขายหน้าโดยขอให้ข้าร่ายรำหรอกหรือ? อย่างนั้นก็ถือว่าเลิกแล้วต่อกัน”“ข้าแตกต่างจากเจ้า!” เหยียนหน่ายซินโกรธมากนางคือว่าที่ฮองเฮา!หากกล้าที่จะทำให้นางขายหน้า แสดงว่าคนผู้นั้นกำลังรนหาที่ตาย!เว่ยอวิ๋นเซี๋ยก็ยังเย้ยหยันอีกด้วยว่า “ใช่แล้ว คุณหนูเหยียนมิใช่คนที่พระชายาเปลือกปลอมอย่างท่านจะเทียบได้ ท่านควรตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา กล้าดีอย่างไรถึงเปรียบเทียบตัวเองกับคุณหนูเหยียน”“อัปลักษณ์ก็ช่างปะไร ทว่ากลับมิเจียมเนียมเจียมตัว กล้ายั่วยุคุณหนูเหยียนในที่ต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้”เ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 677

    หลังจากที่นางสวมหน้ากากแล้ว ฟู่เฉินหวนก็ปล่อยนางและผูกสายรัดหน้ากากให้นางลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ พร้อมกับมองไปยังฟู่เฉินหวน ดวงตาของเขาเย็นชา แม้แต่ใบหน้าของเขาก็ไม่แปลกใจเลย ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เห็นใบหน้าของนางเช่นกันผู้คนในวังต่างตกตะลึง พวกเขาคิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะมีปฏิกิริยารุนแรงถึงเพียงนี้ด้วยวิธีนี้ ใบหน้าของลั่วชิงยวนจึงได้รับการปกป้องจากสายตาของผู้คนภายนอกใบหน้าของลั่วชิงยวนนั้นอัปลักษณ์มากจริง ๆเกรงว่าหากใบหน้าของลั่วชิงยวนเปิดเผยออกมากคงจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะเอาได้ เช่นนั้นนางก็จะต้องขายหน้าอย่างแน่นอนท้ายที่สุดแล้ว ท่านอ๋องจะมีพระชายาที่อัปลักษณ์ถึงเพียงนี้ได้เช่นไร?หลายคนคาดเดาเช่นนี้“กลับไปพักผ่อนเถอะ” ฟู่เฉินหวนกระซิบข้างหูของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนพยักหน้า นางหันหลังกลับและจากไปเหยียนหน่ายซินลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดด้วยความโกรธ “เจ้าจะเดินออกไปง่าย ๆ เช่นนี้งั้นรึ?!”ฟู่เฉินหวนหันหน้าด้วยสายตาอาฆาต น้ำเสียงของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง “เจ้าต้องการอะไร?”คำขู่ที่ถ่ายทอดออกมาด้วยน้ำเสียงทำให้นางหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลังเหยียนหน่ายซินรู้สึ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 678

    มารดาของเขาก็ชอบร่ายรำใต้แสงจันทร์ด้วยเช่นกัน!ลั่วเยวี่ยอิง ​พยักหน้า “เพคะ”ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกภูมิใจ ด้วยคำแนะนำของบิดาที่มอบให้แก่นางนั้นได้ผลจริง ๆ!…… ลั่วชิงยวนจากไปแล้วเดินตรงกลับไปยังที่พักของนางเมื่อเข้าไปในลานตำหนัก นางก็เห็นร่างโปร่งสีขาวภายใต้แสงจันทร์ แสงจันทร์ตกกระทบร่างอันหล่อเหลาและเสื้อผ้าสีขาวของเขา ท่ามกลางแสงสว่างนั้น เขาดูราวกับเทพเซียนที่มาจุติลงในโลกมนุษย์“องค์ชายห้า?” ลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้า“ท่านมิได้ไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำหรือ?”ฟู่อวิ๋นโจวยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ไม่สำคัญว่าข้าจะไปหรือไม่”“เจ้าว่างหรือไม่? ไปเดินเล่นด้วยกันได้หรือไม่?”ลั่วชิงยวนต้องการปฏิเสธ แต่ทิวทัศน์บนภูเขานั้นงดงามมากจริง ๆ อีกทั้งเวลานี้นางก็ยังไม่ง่วงนอน ด้วยความเบื่อหน่ายนางจึงตอบตกลง“เพคะ”ทั้งสองคนเดินออกจากตำหนักไปเดินเล่นลมยามค่ำคืนอันหนาวเย็นทำให้ฟู่อวิ๋นโจวซึ่งสวมอาภรณ์เพียงบาง ๆ เริ่มไอขณะที่เดินออกไปไกลเรื่อย ๆ ลั่วชิงยวนหยุดเดิน ก่อนที่จะเอ่ยว่า “เหตุใดท่านมิกลับไปสวมอาภรณ์ที่หนากว่านี้เพคะ?”ฟู่อวิ๋นโจวส่ายหน้า “ข้าชินแล้ว เดินต่อไปกันเถอะ”ลั่วชิงยวนเข้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 679

    ไม่มีใครสามารถแทนที่ตำแหน่งของลั่วเยวี่ยอิงในใจของฟู่เฉินหวนได้นางเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีทว่าเมื่อนางเห็นสิ่งเหล่านี้ด้วยตาแล้วก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็มิใช่เรื่องใหญ่อะไรนักฟู่อวิ๋นโจวยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าจะพาเจ้าไปที่สักแห่ง”“ไปที่ใด?” ลั่วชิงยวนอยากรู้อยากเห็น“ตามข้ามา!” ฟู่อวิ๋นโจวพูดแล้วพานางออกไปอย่างรวดเร็วทั้งสองเดินไปผ่านทางอันคดเคี้ยวหลายต่อหลายครั้งจนมาถึงสวนขนาดใหญ่ ชิงช้าที่สร้างด้วยเถาวัลย์พลิ้วไหวตามสายลม และรอบสวนก็อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้“วันนี้ข้าค้นพบที่แห่งนี้โดยบังเอิญ ทิวทัศน์งดงามเช่นนี้อาจทำให้เจ้ารู้สึกดีขึ้นได้”ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องในลานกว้าง ทั่วทั้งสวนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของมวลหมู่ดอกไม้และต้นไม้ ชิงช้าขนาดใหญ่ทำให้ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะนั่งบนนั้น ฟู่อวิ๋นโจวก้าวไปข้างหน้าและแกว่งชิงช้านั้นอย่างแรงลั่วชิงยวนเริ่มแกว่งไปมา“โอ้ ช่างสูงนัก” เมื่อไปถึงจุดสูงสุด ลั่วชิงยวนก็ยังคงมองเห็นแสงไฟในส่วนอื่นของวัง ทุกสิ่งสว่างไสวอย่างสวยงามมากจริง ๆ!เมื่อเห็นลั่วชิงยวนมีความสุขมาก ฟู่อวิ๋นโจวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุขเช่นกัน ชิงช้าที

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 680

    เหยียนหน่ายซินยิ้มอย่างภาคภูมิใจและพูดว่า “ว่าอย่างไร ท่านอยากจะวาดภาพหรือไม่?”ฉินไป๋หลี่อดทนแล้วอดทนอีก หากเขาไม่ได้รับเงินสนับสนุน สถานการณ์ของพี่ใหญ่ของเขาคงเป็นอันตรายมาก!เขากลัวเมื่อคิดถึงคำแนะนำของลั่วชิงยวนบนรถม้า“ข้าจะวาด!” ฉินไป๋หลี่ยังคงประนีประนอม“เช่นนั้นท่านต้องวาดภาพให้ดี ข้าจะแขวนภาพวาดนี้ไว้ในตำหนักของจักรพรรดิในภายหน้า”เหยียนหน่ายซินนั่งลงบนเก้าอี้นางรับใช้ยื่นถ้วยน้ำชาวางไว้ด้านข้างเหยียนหน่ายซินนั่งดื่มชาอย่างสบาย ๆ พลางดูฉินไป๋หลี่วาดภาพความงามให้นางนางต้องการเห็นว่าภาพวาดของฉินไป๋หลี่นั้นดีเพียงใด ผู้คนมากมายต่างก็พูดเสียงเดียวกันในทางที่ดี แม้แต่องค์จักรพรรดิก็ยังเต็มไปด้วยการสรรเสริญชื่มชมภาพเหล่านั้นและถึงกับออกปากว่าภาพวาดของนางนั้นด้อยกว่าของฉินไป๋หลี่นางไม่เชื่อ!ฉินไป๋หลี่วาดรูปสตรีที่งดงามแล้วมอบให้เหยียนหน่ายซินเหยียนหน่ายซินเหลือบมองมัน จากนั้นนางก็เย้ยหยันเบา ๆ ก่อนที่จะหยิบภาพนั้นขึ้นแล้วฉีกออกเป็นสองชิ้นด้วยเสียงดังแควกนางโยนภาพนั้นลงพื้นด้วยความรังเกียจ “ท่านจะใช้ภาพเยี่ยงนี้หลอกข้างั้นรึ?”“นางรับใช้ของข้าทุกคนวาดภาพได้ดีกว่าน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 681

    “อ๊าก!!” เขากรีดร้องอย่างเจ็บปวดดวงตาเปียกโชกไปด้วยเลือดหลี่เซียวม่านรีบวิ่งเข้าไปไปผลักเหยียนหน่ายซินออก จากนั้นผู้คุ้มกันทุกคนก็ก้าวไปข้างหน้าทันที เวินซีหลานทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว นางรีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อบีบคอของเหยียนหน่ายซินความรู้สึกที่หายใจไม่ออกอย่างไม่รู้สาเหตุทำให้ท่าทีของเหยียนหน่ายซินเปลี่ยนไปอย่างมากบรรยากาศที่เหน็บหนาวและมืดมนแผลสั้นไปทั่วทั้งบริเวณ ลมกระโชกแรงพัดผ่านทั้งห้อง บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ลั่วชิงยวนกำลังฝึกดาบของนาง แต่จู่ ๆ นางก็รู้สึกหนาวสั่น นางหยุดลงกะทันหันพลางหันกลับไปมองในวังนั่นคือเวินซีหลาน!“มีบางอย่างผิดปกติ!”นางหยิบดาบขึ้นมาแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ฉินเชียนหลี่ก็ตกใจเช่นกัน เขารีบเร่งตามฝีเท้าของลั่วชิงยวนทันทีเมื่อลั่วชิงยวนรีบเข้าไปในประตูตามลมหายใจของอีกฝ่าย นางก็เห็นเหตุการณ์ที่วุ่นวายเหล่านี้ ฉินเฉียนหลี่เห็นฉินไป๋หลี่ทันทีพร้อมกับทั้งตะโกนร้องด้วยความตกใจ “ไป่หลี่!”ลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อหยุดเวินซีหลาน ก่อนที่จะขอให้นางปล่อยเหยียนหน่ายซินหลี่เซียวม่านก็หยุดการกระทำเช่นกัน ภายในห้องกับสู่ความสงบอีกครั

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1304

    ลั่วชิงยวนมิแปลกใจ นี่คือวิถีของเฉินชีต่อให้เวินซินถงมิให้นางไป เฉินชีก็จะบังคับพานางไปให้ได้ในเมื่อประสบปัญหาที่ต้องเชิญนักบวชระดับสูงมาแก้ไข หากทำเรื่องนี้สำเร็จก็จะเป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่ลั่วชิงยวน ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการทวงคืนตำแหน่งนักบวชระดับสูงในภายภาคหน้านี่เป็นสิ่งที่เฉินชีกำลังคิดอยู่......เช้าวันรุ่งขึ้นเวินซินถงมาถึงหน้าเรือนของลั่วชิงยวนนางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตามข้าไปตระกูลมู่”“นำสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ไปด้วย”กล่าวจบ เวินซินถงก็หันหลังเดินจากไปลั่วชิงยวนยังมิทันได้ถามว่านางควรนำสิ่งใดไป?เพราะสถานการณ์ของตระกูลมู่เป็นเช่นไรนางก็ยังมิรู้อีกทั้งเมื่อก่อนตอนที่นางเป็นนักบวชระดับสูงก็ไม่มีธรรมเนียมเช่นนี้ด้วย จึงมิรู้ว่าควรนำสิ่งใดไปเซี่ยหลิงที่ติดตามอยู่ข้าง ๆ เตือนลั่วชิงยวน “เจ้ามิเคยออกไปกับนักบวชระดับสูง ต้องเตรียมสิ่งใดก็ไปถามจั๋วฉ่างตงเถิด”ลั่วชิงยวนตกตะลึงไปครู่หนึ่งนางหรี่ตาลง นี่จงใจให้นางไปหาจั๋วฉ่างตงให้จั๋วฉ่างตงกลั่นแกล้งนางเพื่อระบายความแค้นให้จั๋วฉ่างตงหรือำร?ลั่วชิงยวนครุ่นคิด แล้วก็ไปหาจั๋วฉ่างตงที่เรือนเมื่อไปถึง จั๋ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1303

    ฝ่ามือที่ตบลงบนใบหน้าทำให้หลานจีล้มลงกับพื้น โลหิตไหลออกจากมุมปาก“ท่านแม่ทัพ!” หลานจีเงยหน้ามองเขาด้วยความตกใจมิรู้เลยว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้เฉินชีจิกผมของนางอย่างรุนแรง กระชากนางให้ลุกขึ้นจากพื้น แล้วบีบใบหน้าของนางด้วยพละกำลังมหาศาลพลางเค้นถามด้วยเสียงดุดัน “เจ้าทำกระไรลงไป?!”“ผู้ใดใช้ให้เจ้าให้ยาแก่นางแล้วปล่อยนางไป?!”หลานจีสับสน หยาดน้ำตาไหลรินด้วยความรู้สึกเสียใจมาก “ท่านแม่ทัพ ข้ามิรู้ว่าท่านกำลังพูดถึงเรื่องใด”“มิใช่ข้าจงใจปล่อยนางไป นางไปเองต่างหากเจ้าค่ะ”“ข้ามิได้ทำอะไรเลย”เฉินชียังคงเต็มไปด้วยโทสะ “เจ้าคิดว่าข้ามิรู้ความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเจ้ารึ!”“ข้าขอเตือนเจ้า หากเจ้ากล้าทำอะไรลับหลังอีกก็ไสหัวไป!”กล่าวจบ เฉินชีก็ปล่อยนางเขาไว้ชีวิตนางอีกครั้งเดิมทีเขาตั้งใจจะมาสังหารหลานจี แต่เมื่อเห็นน้ำตาของนางแล้วกลับรู้สึกราวกับได้เห็นลั่วเหลา จึงยอมไว้ชีวิตนางหลานจีทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง มองแผ่นหลังของเฉินชีที่จากไปด้วยความโกรธพลางร่ำไห้สะอึกสะอื้นนางมิรู้ว่าตนทำสิ่งใดผิดและมิรู้ว่าเหตุใดท่านแม่ทัพจึงมีท่าทีต่อนางเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้ทั้งท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1302

    เมื่อคำพูดนั้นหลุดออกมา สีหน้าของฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนไปในทันที“กระหม่อมเป็นองครักษ์ข้างกายองค์ชายใหญ่ โปรดอภัยให้กระหม่อมที่มิสามารถทำตามพระบัญชาได้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”องค์หญิงผู้นี้ชอบเฉินชี หากเขาติดตามองค์หญิงไปก็คงจะได้พบกับเฉินชีเป็นแน่ มิหนำซ้ำ เกาเหมียวเหมี่ยวก็ช่วยเขาฆ่าเฉินชีมิได้เมื่อถูกเขาปฏิเสธอีกครั้ง สีหน้าของเกาเหมียวเหมี่ยวจึงดูมิดีนักฉินอี้จึงต้องก้าวออกมา “เหมียวเหมี่ยว คนที่คอยคุ้มครองเจ้ายังมิพออีกหรือ?”“ข้างกายพี่ใหญ่มีองครักษ์คนนี้อยู่เพียงคนเดียว เจ้าอย่าแย่งเขาไปเลย”สีหน้าของฉินอี้ดูเหมือนคนจนใจน้ำเสียงของเขาฟังดูน่าสงสารเมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ เกาเหมียวเหมี่ยวก็มิกล้าที่จะบังคับอีก นางตอบอย่างมิพอใจว่า “ก็ได้”“รอจนกว่าท่านจะมิต้องการเขาแล้ว ค่อยให้หม่อมฉันก็แล้วกัน”“หม่อมฉันค่อนข้างชอบเขา”เกาเหมียวเหมี่ยวพูดพลางมองฟู่เฉินหวน บนใบหน้าของนางมีรอยยิ้มยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาคล้ายกับเฉินชีมิใช่หน้าตาที่เหมือน แต่เป็นอารมณ์เย็นชาหยิ่งผยองและความกล้าหาญที่จะปฏิเสธนางโดยมิแม้แต่จะเสียงสั่นในเมื่อยังมิสามารถทำให้เฉินชีสยบต่อนางได้ในเร็ววัน การ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1301

    “ไปเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปทำความเข้าใจสถานการณ์”กล่าวจบ เขาก็พาฟู่เฉินหวนเดินไปทว่าระหว่างทางกลับพบเกาเหมียวเหมี่ยวเดินสวนมาพอดีฉินอี้เข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง แล้วเอ่ยถาม “เหมียวเหมี่ยว อาการบาดเจ็บของเจ้าหายดีแล้วหรือ?”เกาเหมียวเหมี่ยวตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “บาดแผลเพียงเท่านี้คร่าชีวิตหม่อมฉันมิได้หรอก อีกอย่าง เสด็จพ่อกับเสด็จแม่ประทานยาให้หม่อมฉันมากมาย มิเจ็บปวดแผลแล้ว”ฉินอี้พยักหน้า “บาดแผลของเจ้าหายเร็วได้เช่นนี้ก็เพราะกินน้ำแกงโสมมังกรมาตลอด เจ้าต้องกินทุกวันตามเวลา ร่างกายจะได้แข็งแรงขึ้น!”“เข้าใจแล้ว”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็ดวงตาเป็นประกายน้ำแกงโสมมังกรหรือ?เป็นโสมมังกรชนิดเดียวกับที่หมอหลวงมู่ให้เขากินหรือไม่?สิ่งนี้แม้แต่หมอหลวงมู่ก็มีเพียงชิ้นเดียว มิเคยพบเห็นชิ้นที่สองแต่องค์หญิงแห่งแคว้นหลีกลับได้กินทุกวันเลยหรือ?เขาอดสงสัยมิได้ว่าสองสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวกันจริงหรือไม่หากเป็นเช่นนั้น เขาก็มีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่ออีกหลายเดือน หรือกระทั่งหลายปีเลยมิใช่หรือ?เปลวไฟแห่งความหวังลุกโชนขึ้นในใจของฟู่เฉินหวนฉินอี้เดินจากไปแล้ว แต่ฟู่เฉินหวนยังคงยื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1300

    ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างใจเย็น “องค์ชายใหญ่ใส่ใจเรื่องนี้ถึงเพียงนี้เชียวหรือเพคะ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วมุ่น มองนางด้วยสีหน้าจริงจัง “แน่นอน! แท้จริงแล้วเจ้ารู้อะไรกันแน่!”วันนั้นในคุกใต้ดิน เกือบจะได้ฟังคำพูดต่อจากนั้นของลั่วชิงยวนแล้วแต่กลับถูกเฉินชีขัดจังหวะเสียก่อนหลังจากกลับไป เขาก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอดเขาอาจมิใส่ใจเรื่องราวในอดีตได้ แต่นี่เกี่ยวข้องกับอนาคตของเขา! เขาจะมิใส่ใจคงมิได้!ลั่วชิงยวนกลับยกยิ้ม “องค์ชายใหญ่เชื่อจริงจังเลยหรือ?”“วันนั้นหม่อมฉันเพียงต้องการเอาชีวิตรอด จึงพูดจาเหลวไหลไปเท่านั้น”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ฉินอี้ก็ตกตะลึงไปทั้งร่างมองนางด้วยความตกใจและโกรธเกรี้ยว “เจ้าว่ากระไรนะ?!”ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วขึ้น “หม่อมฉันมิอยากพูดซ้ำสอง”ฉินอี้โกรธจนอยากจะลงมือ แต่ก็อดกลั้นไว้ เขาไม่มีทางต่อกรกับลั่วชิงยวนได้สุดท้ายก็ได้แต่จากไปด้วยความขุ่นเคืองเมื่อเห็นฉินอี้จากไป เงาร่างที่แอบฟังอยู่ก็รีบจากไปเช่นกันอาการของฉินอี้นั้นมีสาเหตุจริง แต่เรื่องนี้ยังมิอาจบอกให้ฉินอี้รู้ได้เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่หากพูดออกไป ปัญหาที่นางจะต้องเผชิญจะมิใช่เพียงเรื่องรา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1299

    อวี๋โหรวพยักหน้า รีบเช็ดน้ำตา “ขอบคุณ”ลั่วชิงยวนตบไหล่นางเบา ๆ เพื่อปลอบโยนเมื่อสนทนามาถึงตรงนี้ ลั่วชิงยวนจึงถือโอกาสถามอวี๋โหรว “อันที่จริงข้าสงสัยเรื่องนักบวชระดับสูงคนก่อน เจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่านางตายอย่างไร?”อวี๋โหรวตกใจเล็กน้อยคาดเดาในใจว่าลั่วชิงยวนคงสอบถามเรื่องนี้เพราะเฉินชีเพราะว่าเฉินชีก็มีใจให้ลั่วเหลาเช่นเดียวกันนางอธิบาย “ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางตายอย่างไร”“วันนั้นนางบำเพ็ญเพียรอยู่ที่หอเทียนฉี วันรุ่งขึ้นเมื่อมีคนมาพบก็เหลือเพียงโลหิตกองเต็มพื้น”“บนพื้นยังมีร่องรอยการลากศพด้วย”“แต่ส่งคนออกไปตามหาศพตั้งมากมายก็หามิพบ”“เฉินชีแทบจะพลิกทั่วทั้งวัง แทบจะคลุ้มคลั่งสังหารคนในสำนักนักบวชไปเสียสิ้น”“ยังดีที่จักรพรรดิทรงนำราชองครักษ์เกราะเหล็กมาด้วยพระองค์เอง จึงสามารถควบคุมตัวเฉินชีไว้ได้”“เรื่องการตายของนักบวชระดับสูงนั้นมีการสืบสวนอยู่นาน แต่ก็ไม่มีเบาะแสใด ๆ เบาะแสทั้งหมดหยุดอยู่ที่หอเทียนฉี”“นอกหอเทียนฉีไม่มีร่องรอยใดหลงเหลือ”“นานวันเข้า เรื่องนี้ก็เงียบหายไป”ตามคำบอกเล่าของอวี๋โหรว ลั่วชิงยวนก็หวนนึกถึงคืนนั้นหอเทียนฉีเป็นสถานที่ที่นักบวชระดับสูงจะท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1298

    อวี๋โหรวก็ประหลาดใจ นางมิคาดคิดว่าลั่วชิงยวนจะล่วงรู้ความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนาง อีกทั้งยังไปเอาเรื่องจั๋วฉ่างตงเพื่อนางและทำร้ายจั๋วฉ่างตงจนอยู่ในสภาพเช่นนั้นการกระทำของนางคล้ายคลึงกับลั่วเหลาในสมัยก่อนยิ่งนักนางชอบใจมาก“กินยาเสีย” ลั่วชิงยวนรินยาให้อวี๋โหรวเดินเข้าไปดมแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ “ในนี้มีบัวถวายผสมด้วยหรือ?”“เจ้ากินไปเถิด”“อาการบาดเจ็บของเจ้าน่าจะทุเลาลงเพราะยานี้”ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “อาการบาดเจ็บภายในของเจ้าก็มิได้ดีไปกว่าข้าหรอก รีบกินเสีย”อวี๋โหรวจำต้องยอมดื่มยานั้นลั่วชิงยวนนั่งลงข้าง ๆ รินน้ำชาหนึ่งถ้วย แล้วกล่าวว่า “ต่อไปจั๋วฉ่างตงจะต้องหาเรื่องเจ้าอีกเป็นแน่ เจ้าจะปิดบังตนเองอีกมิได้”“ในเมื่อฝีมือของเจ้าทำให้จั๋วฉ่างตงริษยาได้ เช่นนั้นก็อย่าได้เกรงใจนาง!”“ส่วนทางด้านนักบวชระดับสูง ข้าคิดว่านางคงจะให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความสามารถ มิใช่ผู้ที่ประจบสอพลอ”นี่คือความเข้าใจที่ลั่วชิงยวนมีต่อเวินซินถงจั๋วฉ่างตงสามารถเป็นคนสนิทข้างกายของนางได้ ย่อมเป็นเพราะจั๋วฉ่างตงมีฝีมือที่แข็งแกร่งในสำนักนักบวช มิใช่เพราะจั๋วฉ่างตงประจบสอพลอเก่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1297

    ลั่วชิงยวนคว้าตัวจั๋วฉ่างตง “คุกเข่าลง! ขอโทษ! รับปากด้วยว่าจะมิรังแกนางอีก!”เมื่อเสียงอันดุดันดังขึ้น ทุกคนต่างตกตะลึงจั๋วฉ่างตงมีหรือจะยินยอม ดวงตาแดงก่ำของนางจ้องมองลั่วชิงยวนอย่างเดือดดาล “สารเลว!”เพียะ!ลั่วชิงยวนตบหน้านางอย่างมิปรานี“ข้ามิรังเกียจที่จะตบเจ้าจนกว่าจะยอม”“ยามนี้ตบหน้ายังทนได้ หากบีบให้ข้าใช้ท่วงท่าอื่น ระวังวรยุทธ์ของเจ้าจะไร้ค่า!”ลั่วชิงยวนข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชาจั๋วฉ่างตงกัดริมฝีปากล่างด้วยความโกรธแค้นและอัปยศอดสูเดิมทีนางเป็นหญิงสาวที่หน้าตางดงาม ทว่ายามนี้กลับถูกลั่วชิงยวนทำร้ายจนยับเยิน แทบจะจำเค้าเดิมมิได้“ข้ามิได้มีความอดทนมากนัก เร็วเข้า!”ยามนี้มีผู้คนมากมายได้ยินเสียงอึกทึกจึงมามุงดูเหตุการณ์น่าตื่นเต้นรวมตัวกันอยู่หน้าประตูเรือนพลางกระซิบกระซาบกัน“ลั่วชิงยวนผู้นี้ช่างกล้าหาญนัก”“จั๋วฉ่างตงไปยั่วโมโหนางอีกแล้วหรือ?”เมื่อได้ยินเสียงจากภายนอก จั๋วฉ่างตงก็แทบจะหลั่งน้ำตา มีผู้คนมากมายมองดูอยู่ นางกลับต้องคุกเข่าขอโทษอวี๋โหรว!ขณะที่ลั่วชิงยวนหมดความอดทนและกำลังจะลงมือจั๋วฉ่างตงก็กลั้นน้ำตาไว้พลางคุกเข่าลง ตรงหน้าอวี๋โหรวอว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1296

    จั๋วฉ่างตงเดินออกมาจากห้องนัยน์ตาของลั่วชิงยวนฉายแววมุ่งสังหาร “ที่แท้เจ้าก็มิใช่เต่าหดหัวในกระดองนี่”จั๋วฉ่างตงจ้องมองนางด้วยสีหน้าดุดัน แล้วเดินลงมาอย่างช้า ๆ “ลั่วชิงยวน ข้าขอเตือนให้เจ้าสำรวมตนเสียบ้าง!”กล่าวพลางกวาดสายตามองไปยังคนที่นอนกองอยู่บนพื้น แล้วตวาดเสียงดัง “ปล่อยพวกเขา!”ลั่วชิงยวนบุกเข้ามาทำร้ายคนถึงเรือนของนาง นี่มิใช่การตบหน้านางต่อหน้าธารกำนัลหรอกหรือ!แม้จะพ่ายแพ้ให้แก่ลั่วชิงยวนที่หอรักษ์ดารา แต่ก็มิได้หมายความว่านางจะต้องหวาดกลัวลั่วชิงยวน!ลั่วชิงยวนเตะไปที่คนเหล่านั้น แล้วยอมปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระคนเหล่านั้นกลิ้งตัวลงบนพื้นทีละคนก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนอย่างลนลาน หมายจะหลบไปอยู่ด้านหลังจั๋วฉ่างตงทว่าในเวลานี้เอง ริมฝีปากของลั่วชิงยวนก็ยกยิ้มเย็นเยียบ กระโจนเข้าหาจั๋วฉ่างตงอย่างรวดเร็วแล้วใช้มือคว้าจับที่คอเสื้อของนางจั๋วฉ่างตงขัดขืนโดยสัญชาตญาณ แต่นางได้รับบาดเจ็บ จะเป็นสู้ลั่วชิงยวนได้อย่างไรทันใดนั้นก็ถูกลั่วชิงยวนเหวี่ยงลงกับพื้น แล้วตบหน้าอย่างแรงจนผมเผ้าของจั๋วฉ่างตงยุ่งเหยิงขณะที่ตั้งตัวมิทันเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้านั้นหนักแน่น เสียงดังสนั

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status