공유

บทที่ 678

작가: หว่านชิงอิ๋น
มารดาของเขาก็ชอบร่ายรำใต้แสงจันทร์ด้วยเช่นกัน!

ลั่วเยวี่ยอิง ​พยักหน้า “เพคะ”

ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกภูมิใจ ด้วยคำแนะนำของบิดาที่มอบให้แก่นางนั้นได้ผลจริง ๆ!

……

ลั่วชิงยวนจากไปแล้วเดินตรงกลับไปยังที่พักของนาง

เมื่อเข้าไปในลานตำหนัก นางก็เห็นร่างโปร่งสีขาวภายใต้แสงจันทร์ แสงจันทร์ตกกระทบร่างอันหล่อเหลาและเสื้อผ้าสีขาวของเขา ท่ามกลางแสงสว่างนั้น เขาดูราวกับเทพเซียนที่มาจุติลงในโลกมนุษย์

“องค์ชายห้า?” ลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้า

“ท่านมิได้ไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำหรือ?”

ฟู่อวิ๋นโจวยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ไม่สำคัญว่าข้าจะไปหรือไม่”

“เจ้าว่างหรือไม่? ไปเดินเล่นด้วยกันได้หรือไม่?”

ลั่วชิงยวนต้องการปฏิเสธ แต่ทิวทัศน์บนภูเขานั้นงดงามมากจริง ๆ อีกทั้งเวลานี้นางก็ยังไม่ง่วงนอน ด้วยความเบื่อหน่ายนางจึงตอบตกลง

“เพคะ”

ทั้งสองคนเดินออกจากตำหนักไปเดินเล่น

ลมยามค่ำคืนอันหนาวเย็นทำให้ฟู่อวิ๋นโจวซึ่งสวมอาภรณ์เพียงบาง ๆ เริ่มไอขณะที่เดินออกไปไกลเรื่อย ๆ

ลั่วชิงยวนหยุดเดิน ก่อนที่จะเอ่ยว่า “เหตุใดท่านมิกลับไปสวมอาภรณ์ที่หนากว่านี้เพคะ?”

ฟู่อวิ๋นโจวส่ายหน้า “ข้าชินแล้ว เดินต่อไปกันเถอะ”

ลั่วชิงยวนเข้า
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 679

    ไม่มีใครสามารถแทนที่ตำแหน่งของลั่วเยวี่ยอิงในใจของฟู่เฉินหวนได้นางเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีทว่าเมื่อนางเห็นสิ่งเหล่านี้ด้วยตาแล้วก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็มิใช่เรื่องใหญ่อะไรนักฟู่อวิ๋นโจวยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าจะพาเจ้าไปที่สักแห่ง”“ไปที่ใด?” ลั่วชิงยวนอยากรู้อยากเห็น“ตามข้ามา!” ฟู่อวิ๋นโจวพูดแล้วพานางออกไปอย่างรวดเร็วทั้งสองเดินไปผ่านทางอันคดเคี้ยวหลายต่อหลายครั้งจนมาถึงสวนขนาดใหญ่ ชิงช้าที่สร้างด้วยเถาวัลย์พลิ้วไหวตามสายลม และรอบสวนก็อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้“วันนี้ข้าค้นพบที่แห่งนี้โดยบังเอิญ ทิวทัศน์งดงามเช่นนี้อาจทำให้เจ้ารู้สึกดีขึ้นได้”ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องในลานกว้าง ทั่วทั้งสวนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของมวลหมู่ดอกไม้และต้นไม้ ชิงช้าขนาดใหญ่ทำให้ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะนั่งบนนั้น ฟู่อวิ๋นโจวก้าวไปข้างหน้าและแกว่งชิงช้านั้นอย่างแรงลั่วชิงยวนเริ่มแกว่งไปมา“โอ้ ช่างสูงนัก” เมื่อไปถึงจุดสูงสุด ลั่วชิงยวนก็ยังคงมองเห็นแสงไฟในส่วนอื่นของวัง ทุกสิ่งสว่างไสวอย่างสวยงามมากจริง ๆ!เมื่อเห็นลั่วชิงยวนมีความสุขมาก ฟู่อวิ๋นโจวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุขเช่นกัน ชิงช้าที

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 680

    เหยียนหน่ายซินยิ้มอย่างภาคภูมิใจและพูดว่า “ว่าอย่างไร ท่านอยากจะวาดภาพหรือไม่?”ฉินไป๋หลี่อดทนแล้วอดทนอีก หากเขาไม่ได้รับเงินสนับสนุน สถานการณ์ของพี่ใหญ่ของเขาคงเป็นอันตรายมาก!เขากลัวเมื่อคิดถึงคำแนะนำของลั่วชิงยวนบนรถม้า“ข้าจะวาด!” ฉินไป๋หลี่ยังคงประนีประนอม“เช่นนั้นท่านต้องวาดภาพให้ดี ข้าจะแขวนภาพวาดนี้ไว้ในตำหนักของจักรพรรดิในภายหน้า”เหยียนหน่ายซินนั่งลงบนเก้าอี้นางรับใช้ยื่นถ้วยน้ำชาวางไว้ด้านข้างเหยียนหน่ายซินนั่งดื่มชาอย่างสบาย ๆ พลางดูฉินไป๋หลี่วาดภาพความงามให้นางนางต้องการเห็นว่าภาพวาดของฉินไป๋หลี่นั้นดีเพียงใด ผู้คนมากมายต่างก็พูดเสียงเดียวกันในทางที่ดี แม้แต่องค์จักรพรรดิก็ยังเต็มไปด้วยการสรรเสริญชื่มชมภาพเหล่านั้นและถึงกับออกปากว่าภาพวาดของนางนั้นด้อยกว่าของฉินไป๋หลี่นางไม่เชื่อ!ฉินไป๋หลี่วาดรูปสตรีที่งดงามแล้วมอบให้เหยียนหน่ายซินเหยียนหน่ายซินเหลือบมองมัน จากนั้นนางก็เย้ยหยันเบา ๆ ก่อนที่จะหยิบภาพนั้นขึ้นแล้วฉีกออกเป็นสองชิ้นด้วยเสียงดังแควกนางโยนภาพนั้นลงพื้นด้วยความรังเกียจ “ท่านจะใช้ภาพเยี่ยงนี้หลอกข้างั้นรึ?”“นางรับใช้ของข้าทุกคนวาดภาพได้ดีกว่าน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 681

    “อ๊าก!!” เขากรีดร้องอย่างเจ็บปวดดวงตาเปียกโชกไปด้วยเลือดหลี่เซียวม่านรีบวิ่งเข้าไปไปผลักเหยียนหน่ายซินออก จากนั้นผู้คุ้มกันทุกคนก็ก้าวไปข้างหน้าทันที เวินซีหลานทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว นางรีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อบีบคอของเหยียนหน่ายซินความรู้สึกที่หายใจไม่ออกอย่างไม่รู้สาเหตุทำให้ท่าทีของเหยียนหน่ายซินเปลี่ยนไปอย่างมากบรรยากาศที่เหน็บหนาวและมืดมนแผลสั้นไปทั่วทั้งบริเวณ ลมกระโชกแรงพัดผ่านทั้งห้อง บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ลั่วชิงยวนกำลังฝึกดาบของนาง แต่จู่ ๆ นางก็รู้สึกหนาวสั่น นางหยุดลงกะทันหันพลางหันกลับไปมองในวังนั่นคือเวินซีหลาน!“มีบางอย่างผิดปกติ!”นางหยิบดาบขึ้นมาแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ฉินเชียนหลี่ก็ตกใจเช่นกัน เขารีบเร่งตามฝีเท้าของลั่วชิงยวนทันทีเมื่อลั่วชิงยวนรีบเข้าไปในประตูตามลมหายใจของอีกฝ่าย นางก็เห็นเหตุการณ์ที่วุ่นวายเหล่านี้ ฉินเฉียนหลี่เห็นฉินไป๋หลี่ทันทีพร้อมกับทั้งตะโกนร้องด้วยความตกใจ “ไป่หลี่!”ลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อหยุดเวินซีหลาน ก่อนที่จะขอให้นางปล่อยเหยียนหน่ายซินหลี่เซียวม่านก็หยุดการกระทำเช่นกัน ภายในห้องกับสู่ความสงบอีกครั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 682

    ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วพร้อมกับคว้าข้อมือของเหยียนหน่ายซินไว้ เมื่อเห็นอาวุธที่แหลมคมบนนิ้วของเหยียนหน่ายซิน ดวงตาของนางก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา “เจ้าใช้สิ่งนี้แทงดวงตาของฉินไป๋หลี่หรือไม่?”“เจ้าต้องการใช้สิ่งนี้ฆ่าข้าด้วยอีกงั้นรึ?”ลั่วชิงยวนคว้าแขนของเหยียนหน่ายซินพร้อมดวงตาดุร้าย นางผลักมือนั้นอย่างแรงกลับไปที่คอของเหยียนหน่ายซิน“อ๊าก!” เหยียนหน่ายซินกรีดร้องพร้อมก่นด่าด้วยความโกรธ “ลั่วชิงยวน เจ้าจบสิ้นแล้ว! ทั้งตระกูลของเจ้าจบสิ้นแล้ว!”ลั่วชิงยวนเย้ยหยัน “คงจะดีที่สุดหากเจ้าทำลายครอบครัวของข้าให้สิ้นทั้งหมด! ข้าจะขอบคุณบรรพบุรุษทั้งแปดรุ่นของเจ้าเลยเชียว!”คนรอบข้างล้วนตกตะลึง ลั่วชิงยวนช่างโหดเหี้ยมไร้ความปรานีอย่างแท้จริง นางคงไม่ฆ่าเหยียนหน่ายซินจริง ๆ ใช่หรือไม่?กลไกแหลมคมเล็ก ๆ บนแหวนของเหยียนหน่ายซินนั้นเล็กมาก เมื่อแทงเข้าไปที่คอของนาง ก็สามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่ผิวหนังเล็กน้อยหลังจากระบายความโกรธจนพอใจแล้ว ลั่วชิงยวนก็คิดว่าจะปล่อยนางไปนางเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในวันนี้ข้าคือคนที่ทุบตีเจ้า เช่นนั้นก็จดจำไว้ให้ดี หากเจ้ามีเรื่องอะไรก็มาที่จวนอัครเสนาบดีของข้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 683

    เหยียนหน่ายซินก็ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บเช่นกัน ทั้งยังไปฟ้องใครก็ไม่ได้ลั่วชิงยวนเดินออกจากตำหนักและมองไปรอบ ๆ เห็นประกายไฟในป่าอันมืดมิด ดูคล้ายว่าจะมีคนกลับมาในไม่ช้าในเวลานี้ นางบังเอิญเห็นทหารยามบนหลังม้าเดินเข้ามาใกล้ ลั่วชิงยวนรู้สึกคุ้นตาและจำได้ว่าเขาคือองครักษ์จากตำหนักอ๋อง“ท่านอ่องเสด็จกลับมาแล้วหรือยัง?” ลั่วชิงยวนถามองครักษ์ตอบว่า “ท่านอ่องอยู่ข้างหลัง อีกครู่ก็คงมาถึงแล้วขอรับ!”ลั่วชิงยวนพยักหน้า นางคิดว่าหากฉินเชียนหลี่ต้องการขอเงินทุนสำหรับการป้องกัน ฟู่เฉินหวนน่าจะสามารถช่วยได้ วันนี้เหยียนหน่ายซินจงใจสร้างปัญหาให้กับฉินไป๋หลี่และข่มขู่ เช่นนั้นบางทีนางอาจจะทำอย่างนั้นจริง ๆหากตระกูลเหยียนเข้ามายุ่ง เรื่องอาจสายเกินแก้แต่ฟู่เฉินหวนสามารถช่วยฉินเชียนหลี่ได้นางรอให้เขากลับมาพูดคุยเรื่องนี้ด้วยกันนางหันกลับไปยังตำหนักและเดินตรงไปที่เรือนนอนของตนเพื่อรอฟู่เฉินหวน เรือนนอนของพวกเขาก็อยู่ติดกันอยู่แล้วแต่ระหว่างทาง นางกำนัลคนหนึ่งได้ส่งจดหมายมาให้นางเสียก่อนก่อนที่ลั่วชิงยวนจะทันได้ไถ่ถาม นางกำนัลคนนั้นก็รีบออกไปเสียก่อนนางเปิดซองจดหมายออกอ่าน“เรามีเร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 684

    ลั่วชิงยวนมาถึงตำหนักของฟู่อวิ๋นโจวแล้ว สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจคือฟู่อวิ๋นโจวกำลังรอนางอยู่ในห้องในขณะนั้นนางตกใจเล็กน้อย ได้แต่คิดว่านางอาจจะเดาผิดไปหรือไม่?หากฟู่เฉินหวนตามมาสมทบ อีกทั้งหมอกู้ก็ไม่ปรากฏตัว เรื่องนี้จะน่าขายหน้าแค่ไหน?“เจ้ามาแล้ว” ฟู่อวิ๋นโจวยิ้มและแสดงท่าทีเชิญชวนทั้งโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารและสุราราคาแพงวางเรียงรายอยู่ลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้าและนั่งลง ก่อนถามด้วยความไม่มั่นใจ “เหตุใดจู่ ๆ ท่านจึงขอให้หม่อมฉันมาที่ตำหนักของท่าน? มีอะไรสำคัญหรือเพคะ?”นางอยากรู้ว่าฟู่อวิ๋นโจวรู้เนื้อหาของจดหมายหรือไม่ฟู่อวิ๋นโจวรินสุราให้นางแล้วพูดว่า “นี่เป็นเรื่องระหว่างไทเฮากับเสด็จพี่”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตกใจ เป็นไปได้หรือไม่ที่ฟู่อวิ๋นโจวขอให้นางมาจริง ๆ? เขามิสนใจหมอกู้แล้วหรือ?“ไทเฮากับฟู่เฉินหวนหรือ? ท่านช่วยบอกรายละเอียดให้หม่อมฉันฟังหน่อยได้หรือไม่?” ลั่วชิงยวนถามอย่างสงสัยการแสดงออกของฟู่อวิ๋นโจวเริ่มเคร่งขรึม ดวงตาของเขามีความกังวลเล็กน้อยขณะมองดูนาง“เจ้ารู้หรือไม่ว่าไทเฮาและเสด็จพี่ เขาทั้งคู่นับว่าไม่ลงรอยกัน? ข้าบังเอิญได้รู้ว่าไทเฮาดูเหมือนจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 685

    ลั่วชิงยวนรู้ดีว่าฟู่อวิ๋นโจวอาจชอบนาง อย่างไรนางกับฟู่อวิ๋นโจวก็เป็นสหายสนิทกันก่อนที่นางจะอภิเษกกับฟู่เฉินหวนแต่นางมิใช่ลั่วชิงยวน นางมิต้องการการดูแลของฟู่อวิ๋นโจว นางอยากให้ฟู่อวิ๋นโจวอยู่เพื่อตัวเองและใช้ชีวิตของตัวเองให้เต็มที่ฟู่อวิ๋นโจวรู้สึกซาบซึ้งใจเล็กน้อยเขาอดมิได้ที่จะหัวเราะ “ข้าเข้าใจแล้ว”ลั่วชิงยวนหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบผัก ขณะกำลังจะกินก็ได้กลิ่นแปลก ๆ อีกครั้งแม้ว่าจะไม่ชัดเจน แต่กลิ่นอันคลุมเครือขณะเขาเข้ามาใกล้ทำให้ลั่วชิงยวนหยุดการเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังนางจงใจขมวดคิ้วและถามว่า “สุราในจอกของหม่อมฉันหกลงไปหรือ? ไฉนมันถึงมีกลิ่นเหมือนสุราด้วย?”“ฮัดชิ่ว!”ขณะที่พูดนางก็จามขึ้มาอีกครั้งการแสดงออกของฟู่อวิ๋นโจวเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาหยิบตะเกียบจากมือของนางทันทีแล้วพูดว่า “เช่นนั้นก็มิต้องกินแล้ว"“คืนนี้แสงจันทร์งดงามนัก ออกไปชมพระจันทร์กันเถอะ”เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็พยุงลั่วชิงยวนขึ้นมาแล้วรีบออกไปเมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกของฟู่อวิ๋นโจว ลั่วชิงยวนก็เข้าใจอะไรบางอย่างทันทีนางลุกขึ้นและจากไปพร้อมกับฟู่อวิ๋นโจวแต่ทันใดนั้น ก็มีร่างทมิฬเข้ามาทางหน้าต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 686

    ลั่วชิงยวน กัดฟันและรีบวิ่งไปหาหมอกู้ด้วยความโกรธ และต่อยหมอกู้เข้าที่หน้าหมอกู้เตะฟู่อวิ๋นโจวออกไปด้วยเข่าเขาจับกริชไว้แน่นและตวัดไปทางลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนหลบไปด้านข้าง และมีเส้นผมสองสามเส้นร่วงหล่นลงพื้นหลังจากนั้นทันที หมอกู้ก็โจมตีด้วยเจตนาสังหารอีกครั้ง เขาโจมตีอย่างรุนแรง ลั่วชิงยวนยังคงตื่นตัว ไม่กล้าลดการป้องกัน และหลีกเลี่ยงกริชสังหารอันดุเดือดมาได้อย่างหวุดหวิดทักษะวรยุทธของหมอกู้หาได้อ่อนแอไม่ ทว่าลั่วชิงยวนรู้สึกว่านางยังสามารถรับมือกับเขาได้ และทักษะวรยุทธของนางก็พัฒนาขึ้นมากเช่นกันแต่กริชจันทร์เสี้ยวในมือของหมอกู้นั้นคมกริบ อีกทั้งหมอกู้ยังสามารถใช้มันได้อย่างชำนาญอีกด้วย การเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยความชำนาญ หมุนกริชอย่างรวดเร็วจนทำให้ตาพร่า ทำให้มองไม่เห็นว่ากริชเคลื่อนจากมือข้างหนึ่งไปอีกมือหนึ่งอย่างไรเพียงเห็นแสงดาบอันแหลมคมก็ทำให้เกิดประกายวาบ ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงภัยคุกคามรุนแรง ราวกับพวกเขาอยู่ท่ามกลางแสงและเงาของดาบนับพันลั่วชิงยวนระมัดระวังอย่างยิ่งและต่อสู้กับหมอกู้หลายรอบ แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันกริชจันทร์เสี้ยวได้ มันทิ้งรอยแผลและเลือดไว้มากมาย

최신 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status