แชร์

บทที่ 508

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ทันใดนั้น หัวใจของลั่วชิงยวนก็กระตุกวูบทันที และเต็มไปด้วยความโกรธทันที

นางหันกลับมาและจ้องมองเขาอย่างเดือดดาล “ออกไป!”

แม่เล้าเฉินเดินผ่านมา นางได้ยินเสียงโกลาหลจากด้านในห้อง จึงเดินไปที่ประตูแล้วถามว่า “แม่นาง เกิดกระไรขึ้น?”

“มีคนบุกเข้ามาในห้องของข้าโดยมิได้รับอนุญาต ส่งเขาออกไป!” เสียงของลั่วชิงยวนสั่น นางพยายามระงับความโกรธ เมื่อแม่เล้าเฉินได้ยินเช่นนั้น นางจึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องทันที ขณะนี้ที่นางกำลังพาบุรุษผู้นั้นออกไป นางก็พบว่าบุรุษผู้นั้นคืออ๋องผู้สำเร็จราชการ

นางสะดุ้งเฮือก

“ท่านอ๋อง นี่คือห้องของแม่นางฝูเสวี่ย แขกมิได้รับอนุญาตให้เข้ามาในนี้ ท่านควรรอข้างนอกเพคะ” นางกล่าวพร้อมเชิญชวนบุคคลนั้นออกไปอย่างสุภาพ

ฟู่เฉินหวนระงับความโกรธของตน และเดินจากไป

ทันทีที่ฟู่เฉินหวนจากไป ลั่วชิงยวนก็ทุบโต๊ะทันที

ทันใดนั้น ในลำคอของนางก็เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด

ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดง นางพยายามระงับอาการเหล่านั้นลง

ลิ่นฝูเสวี่ยพูดอย่างลำบากใจ “เจ้าเด็กน้อย ถูกเขาเข้าใจผิดอีกแล้ว”

“ท่านมิได้อธิบายให้เขาฟังอย่างชัดเจนเช่นนั้นหรือ?”

ลั่วชิงยวนพูดอย่างเย็นชา “มีอะไรต้องอธิบายอี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 509

    “หากเช่นนั้น ข้าจักไปหาลี่เซียงแล้วถามให้ชัดเจน!”ดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นชาเล็กน้อย นางเอ่ยอย่างแผ่วเบา “หาอย่าได้กังวลไป หากนางอับจนหนทางจริง แค่รอให้นางมาหาข้าก็เท่านั้น”วันรุ่งขึ้นก็มีคนส่งจดหมายลับมาไม่รู้ว่าผู้ใดส่งมา แต่มันถูกเขียนไว้ว่า ‘แม่นางฝูเสวี่ย’ลั่วชิงยวนเปิดจดหมายข้อความบอกว่า: เจ้าอยากรู้หรือไม่ว่าในตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นที่หอสมุทรมรกต คืนนี้ เจอกันที่หอร่ำเมลัย เวลาสามทุ่มครึ่ง ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว คืนนี้อย่างนั้นหรือ?นางไม่ได้พาลิ่นฝูเสวี่ยไปด้วย เพราะกลัวว่านางจะควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ได้และแผนการของนางจะทลายลงเช่นนั้นนางจึงไปที่หอร่ำเมลัย เพียงลำพังนางรับใช้พานางเข้าไปในห้อง ท่านอาฉินกำลังนั่งรออยู่ก่อนแล้ว“หลังจากรอคอยมานาน ในที่สุดเจ้าก็มาถึงเสียที” ท่านอาฉินพูดพร้อมกับรินสุราสองจอก นางยกสุราจอกหนึ่งดื่มทันทีลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้า นางนั่งลงแล้วพูดอย่างเย็นชา “อย่ามาเล่นลิ้น บอกความจริงกับข้ามา”ท่านอาฉินเหลือบมองจองสุราตรงหน้านาง “เจ้ามิอยากดื่มรึ?”“ท้ายที่สุดแล้ว วันนี้ข้ามิได้มาที่นี่เพื่อทะเลาะหรือต่อสู้กับเจ้า”ลั่วชิงยวนเหลือบมองจองสุร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 510

    ท่านอาฉินยิ้มอย่างมีแต้มต่อ ทันใดนั้นก็คว้าคอของนางแล้วกดนางลงบนโต๊ะอย่างแน่นหนา“เจ้าคิดว่าตัวเองมีอำนาจมากแค่ไหนกันเชียว? เพียงเพราะองค์ชายเจ็ดและอ๋องผู้สำเร็จราชการช่วยเจ้าเอาไว้ ไม่เช่นนั้น เจ้าจักยังนั่งอยู่ตรงหน้าข้าอย่างมีชีวิตเช่นตอนนี้ได้อย่างไร?!”ลั่วชิงยวนขัดชืนอย่างอ่อนแอ กำลังเพียงหยิบมือนั้นก็มิได้เป็นภัยคุกคามต่อท่านอาฉินเลย“เมื่อรู้ว่ามีทั้งองค์ชายเจ็ดและอ๋องผู้สำเร็จราชการ เจ้ายังกล้าวางยาข้าอีกรึ?” ลั่วชิงยวนกัดฟันดิ้นรนท่านอาฉินยิ้มอย่างเย็นชา “ยามฟ้าสางพรุ่งนี้ จะไม่มี ‘ฝูเสวี่ย’ ในใต้หล้านี้อีกต่อไป”“ข้ามิสนใจว่าเจ้าเป็นใผู้ใด กับลิ่นฝูเสวี่ย ข้ายังสามารถทำให้นางตายไปอย่างเงียบ ๆ ได้ กับเจ้า ข้าก็จะทำให้หายไปอย่างเงียบ ๆ เช่นกัน!”“พอเจ้าตาย สายลับที่ข้าส่งไปยังหอฝูเสวี่ยจะพบสมุดบัญชีและโฉนดที่ดินของเจ้าด้วย จากนั้นเราจะเก็บกระเป๋าไปยังหอฝูเสวี่ยทันที”“ขอบคุณที่ดำเนินกิจการและมอบมันใหัข้า!”ท่านอาฉินกล่าวและดึงกริชออกมาทันทีดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางกัดฟันและกระทืบเท้าเหยียบลงบนหลังเท้าของท่านอาฉินอย่างแรง ทำให้นางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 511

    ลั่วชิงยวนคิดจะจุดตะเกียง แต่กลับมือสั่นและไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ฝูจ้าวจึงเดินเข้ามาจัดการให้ “ข้าจะจุดให้เอง” “ขอบคุณเจ้าค่ะ คุณชายฝู” ลั่วชิงยวนแสดงความขอบคุณ จากนั้นนางก็รีบเดินไปที่มุมห้องแล้วเปิดตู้ลิ้นชักพลางรีบหยิบกล่องใบหนึ่งออกมาแล้วใช้กุญแจไขเพื่อเปิดดู ฝูจ้าวเหลือบมองแล้วหรี่ตาเล็กน้อย เมื่อลั่วชิงยวนเปิดกล่องดูแล้วเห็นว่าของยังอยู่ นางก็ถอนหายใจแรง ๆ ด้วยความโล่งอก ยามที่หันกลับไป นางก็เห็นฝูจ้าวกำลังมองนางอยู่ ฝูจ้าวสะดุ้งตกใจไปชั่วขณะแล้วรีบหันหลังกลับไป “ขอโทษที หากเจ้ามิอยากให้ข้าเห็น ข้าจักออกไปก่อน” หลังจากเขาพูดจบก็เตรียมจะเดินออกไป ลั่วชิงยวนจึงห้ามเขาไว้ “คุณชายฝูเจ้าคะ” นางร้องเรียก คุณชายฝูชะงักฝีเท้า “ท่านมิเห็นสิ่งใดทั้งนั้น วันนี้ขอบคุณที่คุณชายฝูช่วยชีวิตข้าไว้นะเจ้าคะ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าอยากขอร้องคุณชายฝูอีกสักเรื่องหนึ่ง” “เรื่องใดหรือ?” ฝูจ้าวเอ่ยถาม ลั่วชิงยวนตอบว่า "ข้าหวังว่าคุณชายฝูจักสามารถคุ้มกันข้าอยู่ในห้องตลอดทั้งคืนเจ้าค่ะ" เมื่อฝูจ้าวได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกประหลาดใจ เดิมทีเขาวางแผนจะช่วยชีวิตฝูเสวี่ยแล้วตามนางไป เพื่อจะได้ร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 512

    เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็ตื่นเต็มตาทันที “หายไปรึ?” “หายไปแล้วเจ้าค่ะ!” แม่เล้าเฉินร้อนใจสุดขีด “ทำไมถึงหายไปได้เล่า? เมื่อคืนมีหัวขโมยรึ?” ลั่วชิงยวนเอ่ยถาม แม่เล้าเฉินผงกศีรษะ “ใช่เจ้าค่ะ แล้วเขาหนีก็ไปได้ พวกเรายังจับตัวเขาไม่ได้เลย โชคดีที่ในที่สุดท่านก็ฟื้นสักที! ขอเพียงท่านมิเป็นอันใดก็พอ!” เมื่อนางพูดจบ อวิ๋นถังรีบวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทีร้อนใจ “เกิดเรื่องแล้ว! ท่านอาฉินจากหอเจาเซียงมาเจ้าค่ะ” “นางมาก็แล้วไปสิ ไยเจ้าต้องตื่นตระหนกด้วยเล่า?” ลั่วชิงยวนสวมรองเท้าด้วยท่าทีไม่รีบร้อน “แม่นาง ได้โปรดออกไปดูเองเถิดเจ้าค่ะ!” อวิ๋นถังหน้าตาเคร่งเครียด …… แขกเหรื่อในหอต่างถูกต้อนออกไปจนหมด ข้างหลังท่านอาฉินคือหลีเถาและบรรดาแม่นางจากหอเจาเซียง ตลอดจนผู้ที่บุกเข้ามาในหอฝูเสวี่ยเมื่อสองสามวันก่อน "หอนางโลมใหญ่โตอย่างหอเจาเซียงทำตัวเป็นอันธพาลเช่นนั้นได้เยี่ยงกัน? หากพวกเจ้ามิยอมไป เช่นนั้นก็อย่าโทษที่ข้าใช้กำลังก็แล้วกัน!" ซิ่งอวี่ด่าทออีกฝ่ายอย่างรุนแรง หลีเถาเดินเข้ามาสองก้าวแล้วยกมือขึ้นตบหน้านางอย่างแรง เพียะ— พลังตบรุนแรงจนทำเอาซิ่งอวี่เกือบล้มลงก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 513

    “นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทุกคนในหอจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า รวมทั้งตัวเจ้าด้วย!” ท่านอาฉินรู้สึกพอใจยิ่งนัก นางกำลังรอคอยที่จะได้เห็นสีหน้าประหลาดใจและหวาดกลัวของฝูเสวี่ย บัดนี้ทุกอย่างตกอยู่ในมือของนางแล้ว ฝูเสวี่ยน่าจะรู้ว่าตนคงไม่มีจุดจบที่ดีเป็นแน่ ทันทีที่ตื่นจากหลับลึก ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป อีกฝ่ายคงจะรู้สึกประหลาดใจมากทีเดียว แต่ท่านอาฉินกลับรอไม่ถึงฉากที่นางอยากจะเห็น ลั่วชิงยวนเหลือบมองกระดาษสองแผ่นแล้วเดาะลิ้น “เมื่อคืนบังเอิญมีหัวขโมยเข้ามาในหอ ข้าจึงสั่งให้คนไปแจ้งทางการเอาไว้แล้ว” “ข้ามิคาดคิดเลยว่าเจ้าจักมาสารภาพความผิดถึงที่เร็วเสียขนาดนั้น” เมื่อท่านอาฉินได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็ยิ้มเยาะขึ้นมา “ตอนนี้ถกเถียงกันไปจะมีประโยชน์อันใดเล่า? เจ้าลงนามสัญญาหยินหยางฉบับนี้และขายหอฝูเสวี่ยแห่งนี้ไปแล้ว” “บรรดาแม่นางในหอฝูเสวี่ยที่อยู่ข้างหลังข้าล้วนเป็นพยานได้” ดูเหมือนว่าท่านอาฉินจะเตรียมการมาเป็นอย่างดี ลั่วชิงยวนเหลือบมองผู้คนที่อยู่ข้างหลังท่านอาฉินด้วยที่เสียดายพลางกล่าวว่า “ช่างน่าเสียใจจริง ๆ ข้าคิดจักมอบชีวิตที่ดีให้แก่พวกเจ้า แต่พวกเจ้ากลับมิต้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 514

    “ดูสิ เจ้ายังปลอมได้มิแนบเนียนเลยนะ ยังต้องรอบคอบอีกสักหน่อย” “ข้าเกรงว่าเจ้าคงใช้หัวไชเท้ามาแกะสลักตราประทับกระมัง เจ้าคิดเอาของพรรค์นี้มาหลอกเอาหอฝูเสวี่ยของข้าไปกระนั้นรึ?” “เจ้าคิดว่าข้าหลอกง่ายถึงเพียงนั้นเชียวรึ?” ในยามนั้นเอง ท่านอาฉินพลันมีสีหน้าตกตะลึง มีแววตื่นตระหนกวูบผ่านเข้ามาในใจของนางวูบหนึ่ง แต่แล้วนางก็ตระหนักได้ว่าฝูเสวี่ยน่าจะตั้งใจทำทีสงบนิ่ง ด้วยหวังที่จะบีบให้นางล่าถอย คุณชายเป็นคนเอาของกลับมาด้วยตัวเอง จะเป็นของปลอมไปได้อย่างไรกันเล่า? “นี่คือสัญญาที่พวกเราลงนามกันเมื่อคืนนี้ ตราประทับย่อมต้องเปียกชื้นเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าก็ตั้งใจที่จะเช็ดมันออกด้วย” “อาศัยแค่เรื่องนี้ เจ้าก็ปฏิเสธมิออกแล้ว” ท่านอาฉินยังคงเชิดคาง ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ลั่วชิงยวนหัวเราะแล้วมองมาที่ใต้เท้าเหอ “ท่านได้ยินท่านอาฉินชัดเจนแล้วหรือไม่?” ใต้เท้าเหอมีสีหน้าสับสน แต่ก็พยักหน้า “ข้าได้ยินชัดเจนแล้ว เช่นนั้นอย่างไรเล่า?” ลั่วชิงยวนค่อย ๆ เชิดคาง น้ำเสียงใสกระจ่างของนางเปี่ยมไปด้วยอำนาจ… “เช่นนั้นขอใต้เท้าเหอได้โปรดเป็นพยาน มาดูกันว่าหอเจาเซียงลักขโมยแล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 515

    เมื่อท่านอาฉินได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของนางก็ฉายแววตื่นตระหนกและมีเม็ดเหงื่อผุดซึมเต็มหน้าผาก ใต้เท้าเหอเหลือบมองท่านอาฉินด้วยท่าทีจนใจ เมื่อมีองค์ชายเจ็ดอยู่ที่นี่ เขาก็ทำอันใดมิได้นัก “มา! จับตัวท่านอาฉินเข้าคุก! รอจนกว่าคดีจะกระจ่างแล้วค่อยจัดการตามกฎหมาย” คนของทางการเข้ามาจับกุมตัวท่านอาฉินเอาไว้ทันที จากนั้นก็พาตัวนางไป บรรดาแม่นางที่ติดตามท่านอาฉินต่างรู้สึกตื่นตระหนก พวกนางพูดไม่ออกไปสักพัก หลีเถายิ่งรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นเรื่อย ๆ “ท่านอาฉิน! ท่านอาฉิน!” ทว่านางร้องตะโกนไปก็เปล่าประโยชน์ ใต้เท้าเหอเหลือบมองหลีเถาที่ถูกลั่วชิงยวนตตรึงเอาไว้ “แม่นางฝูเสวี่ย” ลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก “ข้าขอจัดการเรื่องนี้เองเจ้าค่ะ” ใต้เท้าเหอเข้าใจสิ่งที่นางต้องการจะสื่อแล้วเอ่ยเตือนขึ้นมาว่า “อย่าถึงขนาดให้เลือดตกยางออกเล่า” หลังจากเขาพูดจบก็เดินจากไป คนของทางการทุกคนเองก็จากไปด้วย เมื่อเห็นว่าผู้คนที่อยู่นอกประตูยังคงชมดูเรื่องสนุก ลั่วชิงยวนก็ขยิบตาแล้วสั่งให้พวกเขาปิดประตู “แม่นางฝูเสวี่ย เจ้าคิดทำอันใดรึ?” ฟู่จิ่งหลีเหลือบมองหลีเถาด้วยท่าทีฉงนสงสัย “ฉากนองเลือดเพคะ เชิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 516

    “เงินรึ? ข้ามีเยอะแล้ว” “หากพวกเจ้าอยากให้ข้าไว้ชีวิต หาใช่เพียงแค่เงินไม่ มอบสัญญาขายตัวของพวกเจ้าเพื่อแสดงความจริงใจเป็นอย่างไรเล่า?” เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงแล้วมองหน้ากัน ฝูเสวี่ยรู้ว่าพวกนางมีสัญญาขายตัวของตนได้อย่างไรกัน? หลังจากลังเลอยู่สักพัก พวกนางต่างก็หยิบสัญญาขายตัวของตนออกมาจากแขนเสื้อแล้วยื่นให้ ซิ่งอวี่ก้าวเข้ามารับสัญญาขายตัวเอาไว้ ฟู่จิ่งหลีที่อยู่บนชั้นสองพิงราวบันไดพร้อมด้วยท่าทีสงสัยเป็นอันมากแล้วถามว่า “สัญญาขายตัวพวกนี้มิน่าเป็นของหอเจาเซียงกระมัง?” แม่เล้าเฉินครุ่นคิดอยู่สักครู่พลางกล่าวว่า “หม่อมฉันทุ่มเงินมหาศาลเพื่อล่อแม่นางพวกนี้ออกมา ยามนั้นพวกนางคงได้สัญญาขายตัวมาและเป็นอิสระแล้วเพคะ” “แต่หม่อมฉันคิดว่าแม่นางคงมิเก็บพวกนางไว้ แต่มิคาดคิดว่าแม่นางจักยอมปล่อยพวกนางไป” ยามนี้หอเจาเซียงล่มสลายไปแล้ว หอฝูเสวี่ยจึงมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในเมืองหลวง ณ เวลานี้ หากแม่นางเหล่านี้มิได้อยู่ที่หอฝูเสวี่ย พวกนางย่อมต้องไปที่อื่น ในยามนี้เอง ลั่วชิงยวนมองดูสัญญาขายตัวแล้วเอ่ยด้วยท่าทีมิรีบร้อนว่า “ข้าให้พวกเจ้าอยู่ที่หอฝูเสวี่ยก็ได้ แต่พวกเจ้า

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1217

    “พ่ะย่ะค่ะ!”ศพถูกนำออกจากตำหนักอ๋องเฉินชีที่กำลังรีบมาที่ตำหนักอ๋องบังเอิญเห็นเข้า จึงรีบเข้าไปในตำหนักอ๋อง แล้วตรงไปยังเรือนที่ลั่วชิงยวนพักอาศัยก็เห็นเรือนที่ถูกไฟไหม้จนหมดสิ้นเฉินชีตกใจมาก รีบคว้าคอเสื้อคนรับใช้คนหนึ่งมาถามเสียงดัง “ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด!”ท่าทางดุร้ายนั้นทำให้ทุกคนหวาดกลัว“พระชายา... ถูกไฟคลอกสิ้นไปแล้ว!”ได้ยินดังนั้น สีหน้าของเฉินชีก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือดทันทีก่อนจะรีบไปที่เรือนด้านหน้า ปรากฏตัวต่อหน้าฟู่เฉินหวน จิตสังหารแผ่ซ่านจนทำให้องครักษ์ในเรือนชักดาบขึ้นมาด้วยความระมัดระวังแล้วเข้าล้อมเฉินชีไว้“ฟู่เฉินหวน ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด!”ฟู่เฉินหวนที่มีสีหน้าเย็นชากล่าวอย่างใจเย็น “ตายแล้ว”เฉินชีโกรธจัด กระโจนเข้าใส่ฟู่เฉินหวน “ไฟไหม้เป็นฝีมือของเจ้าใช่หรือไม่?!”ถึงแม้จะมิใช่เขาที่จุดไฟ ก็ต้องเป็นเขาที่สั่งให้คนจุด!มิเช่นนั้นทั้งตำหนักอ๋อง เหตุใดจึงมีเพียงเรือนของลั่วชิงยวนที่ถูกไฟไหม้!คนในตำหนักมากมาย เหตุใดจึงมีเพียงลั่วชิงยวนคนเดียวที่ตาย!แต่ฟู่เฉินหวนหาได้ปฏิเสธไม่ เขามองเฉินชีด้วยแววตาดุดัน เต็มไปด้วยความเป็นศัตรู“นางทรยศข้า ต่อให้ข้าต้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1216

    สุดท้ายเหลือเพียงช่องเล็ก ๆ ที่มีแผ่นไม้ตอกปิดไว้ กลายเป็นหน้าต่างที่เปิดปิดได้ในตอนนั้นลั่วชิงยวนยังรู้สึกโชคดีที่เขามิได้ปิดตายนางไว้หลังกำแพงแต่หลังจากที่ปิดหน้าต่างนั้นแล้วก็ถูกลงกลอนจากด้านนอก บริเวณโดยรอบตกอยู่ในความมืดมิดได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินจากไปห่างไกลออกไปเรื่อย ๆลั่วชิงยวนพิงกำแพงพลางทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรงเมื่อมองค่ายกลขนาดใหญ่แล้วก็รู้สึกหดหู่ใจครั้งนั้นนางช่างรู้เท่ามิถึงการณ์ กลับเป็นผู้สร้างกรงขังตนเองเสียได้เมื่อนานมาแล้ว เพื่อแลกชีวิตของลั่วหลางหลางคืนมานางจึงได้ตั้งค่ายกลผนึกห้องนี้เอาไว้เดิมทีที่นี่ควรจะเป็นเรือนเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยดอกไม้และต้นไม้ตอนนั้นนางมิเคยคิดเลยว่าสุดท้ายตนเองจะถูกขังไว้ที่นี่ทันใดนั้นนางก็รู้สึกมึนหัวและล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง......จือเฉาซื้อของมากมายและกลับมายังตำหนักอ๋องนางถือสมุนไพรเดินไปที่เรือนครั้งนี้ซื้อสมุนไพรมามากมาย ต้องทำให้แผลของพระชายาหายดีได้อย่างแน่นอนแต่เมื่อเข้าไปในเรือนด้านในก็ได้ยินเสียงดังโวยวายมีแต่ความวุ่นวายสับสนจือเฉาตกใจเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองจึงเห็นแสงไฟลุกไหม้มาจากทางเรือนพระช

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1215

    และสองคือช่วยจือเฉาขนของสิ่งที่ทำให้จือเฉาตกใจคือ เดิมทีนางคิดว่าจะไปที่หอฝูเสวี่ยเพื่อเบิกเงิน แต่กลับพบว่าองครักษ์ช่วยจ่ายเงินให้นางจือเฉางุนงงตลอดทาง มิเข้าใจว่าท่านอ๋องต้องการทำอะไรกันแน่ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน ร้านค้าที่เปิดมีมิมาก ดังนั้นจือเฉาจึงต้องวิ่งไปหลายที่โดยเฉพาะการหาสมุนไพร นางแทบจะต้องเคาะประตูโรงหมอและร้านขายยาทั่วเมืองหลวง......ในคืนนั้นลั่วชิงยวนนอนซมอยู่บนเตียง ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกผลักเปิดออกลมหนาวพัดโชยเข้ามา ทำให้ลั่วชิงยวนไอออกมา“แค่กแค่กแค่ก... จือเฉา ดูสิว่าหน้าต่างถูกลมพัดเปิดออกหรือไม่... แค่กแค่กแค่กแค่กแค่ก...”ลั่วชิงยวนไอมิหยุด ได้แต่มุดเข้าไปในผ้าห่มแต่ทันใดนั้น ผ้าห่มก็ถูกกระชากออกลั่วชิงยวนสะดุ้งตื่น เงยหน้าขึ้นจึงเห็นฟู่เฉินหวนนางพยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง “ท่านจะทำอะไร?”นางอ่อนแอจนแม้แต่การถามในตอนนี้ก็ยังไร้เรี่ยวแรงแต่ฟู่เฉินหวนกลับมิพูดอะไรสักคำจากนั้นองครักษ์ก็กรูกันเข้ามาในห้อง จับแขนของลั่วชิงยวนและลากนางออกจากห้องความหนาวเหน็บถาโถมเข้ามา ลั่วชิงยวนอ้าปากจะพูด แต่กลับถูกองครักษ์ปิดปากไว้แน่นลั่วชิงยวนที่บาด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1214

    “หากต้องการแก้ไข มีเพียงการที่หม่อมฉันต้องไปซีหลิงด้วยตัวเอง”ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างหนักแน่นนี่เป็นหนทางรอดเดียวของนางเมื่อฟู่เฉินหวนได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนไปเขามองนางด้วยความสงสัย “นี่เป็นผลลัพธ์เดียวหรือ?”“เพคะ”แต่ฟู่เฉินหวนกลับมิค่อยเชื่อ มองนางด้วยแววตาดุดัน “ไม่มีเข็มทิศอาณัติสวรรค์ จะทำนายได้แม่นยำหรือ?”“แม่นยำเพคะ”“เข็มทิศอาณัติสวรรค์เป็นเพียงตัวช่วย มิใช่สิ่งจำเป็น”“ทิศทางหลักจะมิผิดพลาด”แท้จริงแล้วนางทำนายหนทางรอดของตัวเองการทำนายโชคชะตาบ้านเมือง มีเพียงเข็มทิศอาณัติสวรรค์เท่านั้นที่ทำนายได้กองทัพแคว้นหลีบุกประชิด เป็นนางเองที่บอกให้เฉินชีทำ สิ่งที่นางต้องการทำนายคือเส้นทางของตัวเองหลังจากที่ฟู่เฉินหวนฟังแล้วก็มิได้ตอบ เพียงแค่หันหลังเดินจากไป......ลั่วฉิงกำลังรอข่าวจากฟู่เฉินหวนอย่างกระวนกระวาย เดินวนไปมาด้วยความร้อนใจเมื่อเห็นฟู่เฉินหวนมาแล้ว จึงรีบเข้าไปถาม “เป็นอย่างไรบ้าง? ผลลัพธ์คืออะไร?”ฟู่เฉินหวนตอบ “เป็นภัยพิบัติของซีหลิง”ได้ยินดังนั้น ลั่วฉิงก็ตกใจเล็กน้อย “ภัยพิบัติของซีหลิงหรือ? หมายความว่าอย่างไร? แคว้นหลีต้องการยึดครองซีหลิงงั้นหรื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1213

    สายลมหนาวพัดผ่านมา ปอยผมของลั่วชิงยวนปลิวไสวตัดกับผ้าคลุมสีขาว ทำให้ร่างบางของนางดูราวกับจะปลิวหายไปกับสายลมในตอนนั้นก็มีขบวนคนเดินมาเมื่อเห็นบุคคลที่อยู่ข้างหน้าในชั่วขณะที่สบตากันก็เกิดอารมณ์ที่ซับซ้อนเมื่อเฉินชีเห็นฟู่เฉินหวน เขายกยิ้มอย่างเย็นชา โอบนางไว้แน่นขึ้นลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน“เฉินชี! เจ้ายังกล้ามาอีกรึ!” ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าบึ้งตึง โทสะปะทุในใจองครักษ์รีบเข้ามาล้อมเฉินชีและลั่วชิงยวนไว้เฉินชีจำใจปล่อยลั่วชิงยวนแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาเหลา ข้าจะรอเจ้า”กล่าวจบ เขาก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดหนีไปองครักษ์รีบไล่ตามส่วนลั่วชิงยวนยืนนิ่งอยู่กับที่ มองฟู่เฉินหวนที่ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาฟู่เฉินหวนมีสีหน้าบึ้งตึง แววตาซับซ้อนนั้นแฝงไปด้วยความโกรธ“บทเรียนเมื่อวานคงยังมิเพียงพอ เจ้ายังกล้าแอบออกจากตำหนักมาพบเฉินชีอีกรึ?!”ลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะอธิบาย ได้แต่ยิ้มอย่างเศร้าสร้อย “หากท่านคิดเช่นนั้น หม่อมฉันก็มิมีทางเลือก”“เหตุใดหม่อมฉันจึงมาอยู่ที่นี่ ในใจของท่านน่าจะรู้ดีกว่าหม่อมฉัน”เมื่อคืนฟู่เฉินหวนมิสามารถเค้นวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์จากนางได้ จึงส่งนา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1212

    ทั้งสองหันไปมองจึงเห็นเฉินชีที่แผ่รังสีอำมหิตเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้าเฉินชีมองลั่วฉิงด้วยสายตาเย็นชา “เจ้ากำลังทำอะไร?”ลั่วฉิงถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก “ข้าสิต้องถามเจ้า เหตุใดจึงส่งกองทัพมากะทันหัน? นี่มิได้อยู่ในแผนของเรา และเจ้าก็มิได้บอกข้าล่วงหน้า”เฉินชีหรี่ตาลง “ข้าจะทำอะไรต้องรายงานเจ้าด้วยรึ? เจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรมาขัดขวางข้า?”ลั่วฉิงรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย นางรีบคว้าเข็มทิศอาณัติสวรรค์มาถือไว้ เพราะกลัวว่าของล้ำค่าที่ได้มาจะหายไป“เฉินชี! ข้าแค่ต้องการสิ่งที่เราตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก!”เฉินชีมองลั่วชิงยวน ใบหน้าเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ก่อนจะพุ่งเข้าไปบีบคอของลั่วฉิงแล้วต่อยเข้าที่หน้าอกของลั่วฉิงลั่วฉิงกระอักเลือด ร่างกระเด็นออกไปนอกหน้าต่างลั่วชิงยวนได้ยินเสียงร่างตกกระทบพื้นจากที่สูง จึงรู้ว่าที่นี่คือชั้นสองน่าจะเป็นโรงเตี๊ยมเฉินชีเดินไปที่หน้าต่าง มองลงไป เห็นเพียงร่างของลั่วฉิงวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนหายไปในฝูงชนเดิมทีเฉินชีอยากจะตามไป แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็มิได้ตามไปหากลั่วฉิงตาย ลั่วชิงยวนก็จะไม่มีภัยคุกคาม นางอาจจะมิยอมไปแคว้นหลีกับเขาเช่นนั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1211

    นางเอ่ยปากอย่างอ่อนแรง “ได้”ลั่วฉิงพยุงนางขึ้น แล้วโยนนางลงบนเก้าอี้ลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะพูด “ข้าต้องการสมุนไพร”มือทั้งสองข้างของนางวางอยู่บนที่วางแขน แท่งเหล็กยังคงปักอยู่ เลือดไหลอาบมิหยุด ขยับร่างกายมิได้เลยลั่วฉิงมองนางอย่างเย็นชา ก่อนจะกดมือของนางไว้แล้วดึงแท่งเหล็กออกอย่างรวดเร็ว“กรี๊ด”ลั่วชิงยวนร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดลั่วฉิงโน้มตัวลงมองนางด้วยสายตาเย็นชา “ก่อนหน้านี้เจ้ามิเคยกลัวความเจ็บปวดเช่นนี้ ลั่วเหลา”ลั่วชิงยวนตัวสั่น มองนางด้วยความตกใจ“นี่ก็เป็นสิ่งที่ฟู่เฉินหวนบอกเจ้าเช่นนั้นหรือ?” ลั่วชิงยวนรู้สึกทั้งโกรธและสิ้นหวังในใจลั่วฉิงนำยามาทำแผลให้พลางหัวเราะอย่างดูถูก “มินึกเลยว่านักบวชระดับสูงลั่วเหลาผู้มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็ก ถูกอาจารย์เอ็นดูทะนุถนอมมาโดยตลอด สุดท้ายกลับพ่ายแพ้ให้กับบุรุษ”ในน้ำเสียงของลั่วฉิงแฝงไปด้วยความอิจฉาริษยาลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “ข้ากับเจ้ามิเคยมีเรื่องบาดหมางกันมิใช่หรือ”แววตาของลั่วฉิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มองนางอย่างเย็นชา “ในสายตาของเจ้า อาจจะไม่มีเรื่องบาดหมาง”“แต่สำหรับข้า เรื่องบาดหมางนั้นใหญ่หลวงนัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1210

    “กรี๊ด” ลั่วชิงยวนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ได้แต่ขดตัวอยู่บนพื้น ตัวสั่นเทาด้วยความเจ็บปวดรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า แท่งเหล็กถูกแทงลึกลงไปอีก ความรู้สึกที่กระดูกถูกแยกออกจากกันนั้นทำให้เจ็บปวดจนอยากตาย“ดี ยังมิยอมบอกอีกใช่หรือไม่”ลั่วฉิงหยิบแท่งเหล็กอีกอันแทงเข้าไปในมืออีกข้างของลั่วชิงยวนอย่างแรงตลอดทั้งคืน ลั่วชิงยวนถูกทรมานจนเหมือนตายแล้วเกิดขึ้นใหม่ หลายครั้งที่สลบไปเพราะความเจ็บปวด แล้วก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดจนในที่สุด คอของนางก็แหบแห้งจนส่งเสียงร้องมิได้ด้วยซ้ำฟ้าสางแล้ว แสงแดดสาดส่องเข้ามา ลั่วชิงยวนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นราวกับแอ่งโคลนเปียก มิขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อยเลือดเปรอะเปื้อนอาภรณ์ของนางจนเป็นสีแดงฉาน แสงแดดส่องกระทบกองเลือดจนเป็นประกาย......ตำหนักอ๋องมีเสียงคำรามด้วยความโกรธดังมาจากห้องตำรา“ยังไม่มีใครมารายงานข้าสักคน! รีบไปหา! ออกไปหาให้หมด!”ฟู่เฉินหวนโกรธจัด มึนหัวจนต้องเอามือยันโต๊ะไว้ถึงแม้จะนั่งลงเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ แต่ก็ยังมิสามารถสงบสติอารมณ์ได้ ร้อนรุ่มใจยิ่งนักได้แต่หวังว่านางจะออกจากตำหนักไปเองจือเฉายังคงอยู่ที่หน้าประ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1209

    ในชั่วขณะนั้น นางเกือบจะคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป เหตุใดนางจึงเห็นลั่วฉิงแต่คำพูดของลั่วฉิงในวินาทีต่อมา ทำให้นางรู้สึกราวกับตกอยู่ในหุบเหวลึก“แม้แต่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการก็ยังจัดการคนดื้อรั้นเช่นเจ้ามิได้ ต้องให้ข้ามาเองเลยหรือ”ร่างของลั่วชิงยวนสั่นเทามิหยุด หนาวเหน็บจนแทบจะไร้ความรู้สึกน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้าซีดเซียวหยดลงบนพื้นทีละหยดลั่วชิงยวนมองไปรอบ ๆ แล้วพบว่าที่นี่คือห้องห้องหนึ่งแต่มิใช่ในตำหนักอ๋อง“เหตุใดข้าจึงมาอยู่ที่นี่” นางจำได้ว่าหลังจากที่จือเฉาทายาให้แล้วนางก็หลับไปลั่วฉิงหัวเราะเบา ๆ “แน่นอนว่าฟู่เฉินหวนส่งเจ้ามาให้ข้า”“เขาเค้นคำตอบจากเจ้ามิได้ จึงต้องให้ข้ามาจัดการเอง”ได้ยินดังนั้น หัวใจของลั่วชิงยวนก็แตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ อีกครั้งเขายังคิดว่าตัวเองยังโหดร้ายมิพออีกหรือ จึงส่งนางให้ลั่วฉิงเช่นนี้นี่ต้องการทรมานนางจนตายจึงจะหายแค้นหรืออย่างไรลั่วฉิงหยิบกล่องใบหนึ่งมาเปิดออก ข้างในเต็มไปด้วยแท่งเหล็กขนาดเท่าหัวแม่มือแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบา “เจ้าน่าจะรู้ว่าข้าต้องการอะไร”“หากตอนนี้เจ้าบอกวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”“หากพลาดโอกาสนี้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status