แชร์

บทที่ 374

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ใต้เท้าฟางยิ้มอย่างภาคภูมิใจ อย่างไรแล้วนางก็เป็นเพียงสตรี มิอาจทนความเจ็บปวดได้

ดูเหมือนว่าคืนนี้จะสามารถนำคำให้การของประจักษ์พยานไปรายงานได้แล้ว

“หากเจ้าสารภาพมาก่อนหน้านี้ก็คงดีกว่าแล้ว ไฉนต้องมาทนทุกข์ทรมานโดยเปล่าประโยชน์เช่นนี้ด้วยเล่า?”

ใต้เท้าฟางนั่งบนเก้าอี้แล้วหยิบพู่กันขึ้นมาเขียนคำให้การของนาง “ว่ามาสิ”

ดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นชาประปราย เอ่ยเสียงเยือกเย็น “หุ่นเชิดนั่นมิใช่ของข้า!”

มือของใต้เท้าฟางที่กำลังจะเขียนหยุดชะงักเล็กน้อย ใบหน้าของเขาซีดลง เขาวางพู่กันลงแล้วยืนขึ้นด้วยโทสะ พลันตะโกน “ทำต่อไป!”

หยุดไปครู่หนึ่ง การหนีบไม้ก็กลับมาอีกครั้ง ความเจ็บปวดรุนแรงแผ่กระจายไปทั่วร่างจนถึงกระดูก เส้นเลือดปูด เหงื่อเย็นเปียกชุ่มไปทั่วร่าง

หากนางพูดว่าหุ่นเชิดนั้นเป็นของนาง ไม่เพียงแต่ฟู่เฉินหวนจะต้องทนทุกข์ทรมาน นางเองก็คงไม่มีจุดจบที่ดีด้วยเช่นกัน

ฟู่เฉินหวนต้องฆ่านางเป็นแน่!

หากนางปฏิเสธต่อต้านต่อไป อย่างมากที่สุดพวกเขาก็ทำได้เพียงทรมานนาง แต่มิอาจฆ่านางได้ คงจะเป็นการยากหากต้องให้คำอธิบาย

ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเท่าใด แต่ความเจ็บปวดสาหัสยังคงทรมานยากจะทนไหว

ในที่สุด
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Benja Thongpetch
ควักลูกตาทิ้งด้วย
goodnovel comment avatar
Benja Thongpetch
ตัดมือลั่วชิงนวนทั้ง 2 ข้าง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 375

    ขันทีและนางกำนัลทั้งหลายต่างถอยกลับไปทีละคนจักรพรรดิฟู่จิ่งหานซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะ สะดุ้งเล็กน้อยและลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว “พี่สาม”“ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด?” ฟู่เฉินหวนถามพร้อมขมวดคิ้วฟู่จิ่งหานตกใจมาก “นางยังมิกลับไปรึ?”“ยัง!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฟู่จิ่งหานก็ขมวดคิ้ว “ข้ามิรู้นางอยู่ที่ใด นางมิได้อยู่ในคุกเทียนเหลารึ?”ฟู่เฉินหวนเอ่ยเสียงจริงจัง “ข้าไปหามาแล้ว ตำหนักโช่วสี่ข้าก็ไปมา แต่มิพบนาง!”“ซ่อนตัวลั่วชิงยวนเช่นนี้ พวกเขาต้องใช้วิธีทรมานนางให้สารภาพ เมื่อได้สิ่งที่ต้องการ พวกเขาต้องสร้างเรื่องใหญ่และฆ่าข้าเป็นแน่!”ร่องรอยแห่งโทสะปรากฏระหว่างคิ้วของฟู่เฉินหวนฟู่จิ่งหานขมวดคิ้วพลางเริ่มคิด ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ฉายประกายขึ้น “เช้านี้เสินหลีบังเอิญเจอฟางจื่อจี้จากสำนักหอดูดาวหลวง ถามข้าหลวงแล้ว เขาบอกว่าเขามาจากพระตำหนักเป่ยหนิง”“หรือว่าลั่วชิงยวนอยู่ที่…”ได้ยินเช่นนี้ฟู่เฉินหวนก็หันกลับรีบเดินออกจากพระที่นั่งฉินเจิ้งไป“พี่สาม รอข้าด้วย!” ฟู่จิ่งหานก็รีบตามเขาไปฟู่จิ่งหานมิให้เหล่าบริพาลตามมา และรีบไปที่พระตำหนักเป่ยหนิงพร้อมกับฟู่เฉินหวนระหว่างทางฟู่เฉินหวนถามอย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 376

    ในวินาทีที่อีกฝ่ายออกแรง ลั่วชิงยวนกัดฟันแน่น พริบตาก่อนที่ความเจ็บปวดจะมาถึง จู่ ๆ ด้านนอกก็มีเสียงฝีเท้าร้อนรนส่งมา ตามด้วยเสียงตะลึง ใต้เท้าฟางคุกเข่าลงบนพื้นอย่างแรง และตะโกนเรียกจักรพรรดิอย่างกังวล ร่างที่เต็มไปด้วยไอสังหารตกสู่สายตา เขาเตะไปบนร่างขันทีที่กำลังจะดึงเล็บอย่างแรงจนกระเด็น วินาทีที่ถูกปล่อยออก ลั่วชิงยวนถอนหายใจโล่งอก จากนั้นหน้ามืดและสลบไปในทันที เมื่อฟู่เฉินหวนเห็นมือทั้งสองของลั่วชิงยวน ดวงตาของเขาแดงก่ำขึ้นมา และเอ่ยเกรี้ยวกราด “ฟางจื่อจี้! ผู้ใดเป็นคนสั่งเจ้ากัน!” ใต้เท้าฟางคุกเข่าอยู่บนพื้น พูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน “ไท่ซ่างหวงทรงพระบัญชา ให้พระชายาร่วมมือกับการสืบสวน แต่พระชายามิร่วมมือ กระหม่อมจึง…” ฟู่เฉินหวนที่เห็นฉากนี้ก็เดือดดาล ใช้ทัณฑ์โดยพลการ หนำซ้ำยังยกเสด็จพ่อออกมาอ้างอีก นี่มิใช่คำสั่งของเสด็จพ่อแม้แต่นิด! “มิให้ความร่วมมือแล้วสามารถใช้ทัณฑ์โดยพลการในวังงั้นหรือ? เหลวไหล!” ฟู่เฉินหวนตะคอกเกรี้ยวโกรธ ฟางจื่อจี้พูดแก้ตัวต่อ “กระหม่อมเองก็มิมีทางเลือก! เรื่องนี้ต้องมีผลสรุป เพราะเกี่ยวโยงไปถึงท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ จำต้องตรวจสอบอย่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 377

    กลับถึงตำหนัก จือเฉาและแม่นมเติ้งออกมาต้อนรับอย่างร้อนใจ เมื่อเห็นบาดแผลของลั่วชิงยวน พวกนางต่างตะลึงกันทั้งสิ้น และจะพยุงลั่วชิงยวนกลับเรือนทันที เบื้องหลังกลับมีเสียงของฟู่เฉินหวนส่งมา “หนังสือหย่าข้าไม่มี แต่ข้าให้ความอิสระกับเจ้าเต็มที่” ฝีเท้าของลั่วชิงยวนชะงัก นางมิได้เอ่ยตอบ และเดินกลับไปในเรือนภายใต้การพยุงของจือเฉาและแม่นมเติ้ง จือเฉาตักน้ำมาชะล้างให้นาง เช็ดเลือดไปพร้อมน้ำตาไหลริน ราวกับตัวนางเองที่เจ็บปวดจากบาดแผล “พระชายา เหตุใดท่านจึงบาดเจ็บหนักเพียงนี้” แม่นมเติ่งมองแล้วก็รู้สึกบีบหัวใจเช่นกัน “พระชายา บ่าวไปเชิญหมอเจ้าค่ะ” แต่ขณะที่แม่นมเติ้งจะไปเชิญหมอ ในวังก็ได้ส่งหมอหลวงมาเสียแล้ว หมอหลวงรักษา จ่ายโอสถ และกำชับลั่วชิงยวนอย่างตั้งใจ ภายในห้องตำรา ฟู่เฉินหวนกำลังก้าวเดินไปมาอย่างร้อนรน เมื่อหมอหลวงมา เขาถามขึ้นอย่างรีบร้อน “อาการเป็นเช่นไร?” หมอหลวงเอ่ยตอบ “บาดแผลพระชายามิเบาเสียเลย หากอยากหายสิ้น ยังต้องการเครื่องยาสมุนไพรหายากอีกหลายชนิด แต่ภายในเมืองหลวง อาจหามิเจอพ่ะย่ะค่ะ” ฟู่เฉินหวนได้ยิน ก็กล่าวตอบทันที “เจ้าเขียนเครื่องยาสมุนไพรที่เจ้าต้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 378

    “เรื่องใดกัน?” จู่ ๆ ลั่วชิงยวนก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี “วันนี้ท่านอ๋องเข้าวัง และสังหารใต้เท้าฟางที่ลงทัณฑ์พระชายาเจ้าค่ะ!” ได้ยินถึงตรงนี้ ในใจของลั่วชิงยวนตะลึง ใต้เท้าฟางตายแล้วหรือ? ฟู่เฉินหวนเป็นคนสังหารเขา ซ่งเชียนฉู่เอ่ยเสียงเย็น “ฆ่าก็ฆ่าเถอะ เจ้านี่สมควรตาย! ใช้บทลงโทษโดยพลการ หนำซ้ำท่านยังเป็นถึงพระชายาอ๋อง มันไม่ตายแล้วผู้ใดสมควรตายเล่า!” จือเฉาพูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจดุจไฟเผา “แต่เมื่อใต้เท้าฟางสิ้นใจ ลูกแก้วดวงตาบนเสาหงส์เพลิงที่หอบรรพบุรุษร่วงหล่นลงมา!” “บัดนี้ภายในวังวุ่นวาย! ได้ยินว่า… ท่านอ๋องถูกคุมขังเจ้าค่ะ!” ได้ยินดังนี้ สีหน้าของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไปฉับพลัน “ว่ากระไรนะ?” “ดวงตาของเสาหงส์เพลิงรึ?” ลั่วชิงยวนคิดย้อนถึงเมื่อวานอย่างกะทันหัน เมื่อวานตอนเกิดเรื่อง ก็มีควันทมิฬแผ่ออกมาจากดวงตาของหงส์เช่นกัน ดูท่าดวงตานั้นคงถูกบางคนลงมือไว้! การตกหล่นของดวงตาดวงนี้ ย่อมเป็นเหตุผลที่คนประสงค์ร้ายเหล่านั้นเอาไว้จับตัวฟู่เฉินหวนอย่างมิต้องสงสัย “พระชายา ครั้งนี้ดูจะเรื่องใหญ่มาก ทำอย่างไรดีเจ้าคะ?” จือเฉาเป็นกังวลอย่างมาก คิ้วของลั่วชิงยวนขมวดแน่น นางเองก็

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 379

    แม้บางครั้งนางจะเกลียดฟู่เฉินหวนยิ่งนัก แต่อย่างไรเขาก็เคยช่วยนางไว้หลายครั้ง นางมิอยากให้เขาตาย ยิ่งมิอยากให้เขาตายเพราะการโดนใส่ร้าย …… มาถึงในวัง แม่ทัพฉินนำทาง ลั่วชิงยวนจึงได้พบกับจักรพรรดิฟู่จิ่งหาน ฟู่จิ่งหานกำลังยุ่งหัวหมุนกับเรื่องของฟู่เฉินหวน เมื่อเงยหน้าเห็นลั่วชิงยวน เขารู้สึกประหลาดใจมาก “เจ้ามาได้อย่างไร เมื่อเช้าพี่สามเพิ่งอุ้มเจ้าออกจากวังไป ไฉนเจ้าลงจากเตียงได้เร็วเช่นนี้?” ลั่วชิงยวนยื่นมือออกมา “ฝ่าบาท หม่อมฉันเพียงบาดเจ็บที่มือ ส่วนอื่นมิได้ถูกลงโทษเพคะ” ฟู่เฉินหวนชะงัก “จริงด้วย ข้าว้าวุ่นเสียจนสับสนไปหมด” “แม่ทัพใหญ่ฉิน ท่านนำทางพระชายาอ๋องมา มีเรื่องใดรึ” แม่ทัพใหญ่ฉินเอ่ยตอบ “ฝ่าบาท พระชายามาเพื่อเรื่องของอ๋องผู้สำเร็จราชการพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเพียงแค่นำทางมา” “กระหม่อมขอตัวพ่ะย่ะค่ะ!”หลังแม่ทัพใหญ่ฉินจากไป ฟู่จิ่งหานมองไปทางลั่วชิงยวนทีหนึ่งด้วยสีหน้าหนักอึ้ง “สถานการณ์ของพี่สามครั้งนี้ค่อนข้างพิเศษ เจ้ามาขอข้า ข้าเองก็มิสามารถปล่อยตัวเขาไปได้” จักรพรรดิคิดว่าลั่วชิงยวนมาเพื่ออ้อนวอนให้กับฟู่เฉินหวน ที่นางไม่รู้คือ ทั้งเมืองหลวงนี้ จักร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 380

    สิ่งนี้ช่างคุ้นตาเหลือเกิน! วัสดุของลูกแก้วนี้ นางเคยเห็นมาก่อน! จี้กิเลน! หินว่านเซี่ยง! วันนั้นนางเห็นมหาราชครูลั่วส่งจี้กิเลนให้กับลั่วไห่ผิงกับตา ของนี้ยื่นผ่านหน้านางไป นางเห็นอย่างชัดเจน หินเป็นสีเขียวใส ใสเสียจนไม่มีสิ่งแปลกปลอมแม้แต่นิด บริสุทธิ์ยิ่งกว่าหยกเสียอีก! หากมิเห็นจี้กิเลนวันนั้น นางคงไม่มีทางรู้ แต่ฟู่เฉินหวนบอกนาง จี้กิเลนนี้ทำมาจากหินว่านเซี่ยงที่สามารถหลอมแปรเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์ใดก็ได้ และตัวหินจะไม่เสียหาย สิ่งนี้กระทั่งหนึ่งในหมื่นยังหายาก ดังนั้นจึงมีค่ามากเป็นพิเศษ ทั้งเมืองหลวง เกรงว่าคงมีแค่ในมือของมหาราชครูลั่ว! ยามนั้นนางคิดไม่ออกว่าลั่วไห่ผิงต้องกระทำความผิดที่หนักหนาเช่นไร จึงเดือดร้อนไปถึงจวนมหาราชครู บัดนี้ นางรู้แล้ว! ฟู่จิ่งหานเห็นสีหน้าของนางผิดปกติไป จึงเอ่ยถามอย่างอดมิได้ ”มีอะไรหรือ? สิ่งนี้มีอะไรประหลาดจริง ๆ หรือ?” อารมณ์ของลั่วชิงยวนหนักอึ้ง นางเอ่ยกับจักรพรรดิ “ลูกแก้วหงส์นี้ มิใช่ลูกแก้วหงส์เดิมเพคะ!” ได้ยินเช่นนี้ ฟู่จิ่งหานตะลึง “ว่าไงนะ? ของปลอมรึ?!” คิ้วของลั่วชิงยวนขมวดแน่น เขาคุกเข่าลงมาทันที “ฝ่าบาทโปรดให

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 381

    “ท่านอัครมหาเสนาบดี ดึกเพียงนี้แล ท่านจักทูลเรื่องใดหรือ?“ ฟู่จิ่งหานก้าวเท้าเข้าตำหนัก ลั่วไห่ผิงตามเข้าไป พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฝ่าบาท เรื่องของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการมีความคืบหน้าหรือไม่ขอรับ?” “การร่วงหล่นของลูกแก้วหงส์เพลิงอาจเป็นเพียงความบังเอิญ ผิดที่กระหม่อมมิทันเห็นว่ามันหละหลวมเมื่อตอนตรวจสอบเอง กระหม่อมมารับโทษพ่ะย่ะค่ะ!” ได้ยินดังนี้ ฟู่จิ่งหานถอนหายใจทีหนึ่ง “เรื่องนี้ข้าได้สั่งคนไปตรวจสอบแล้ว ท่านอัครมหาเสนาบดีกลับเถิด” หัวใจลั่วไห่ผิงสั่นคลอน สั่งคนไปตรวจสอบแล้วหรือ? จะตรวจพบว่าลูกแก้วหงส์เพลิงถูกขโมยหรือไม่? แม้ผู้ขโมยลูกแก้วหงส์เพลิงจะมิใช่เขา แต่เขามิได้รายงานแก่เบื้องบนในคราแรก กลับหาจี้กิเลนมาปลอมแปลงแทน ก็ถือเป็นโทษหนักเช่นกัน “พ่ะย่ะค่ะ” หลังจากไป ในใจลั่วไห่ผิงกระตุกขึ้นลง ไม่ได้! เขาต้องหาลูกแก้วหงส์เพลิงให้เจอก่อนที่เรื่องจะแดง! หลังออกจากวัง ลั่วไห่ผิงจึงรีบสั่งคนไปเยี่ยมเยียนเจ้ากรมธรรมการทันที การสูญหายของลูกแก้วหงส์เพลิง เขาเองก็มีส่วนผิด! จะให้ตนแบกรับคนเดียวมิได้เด็ดขาด! …… การคำนวณทั้งคืน ทำลั่วชิงยวนสูญเสียพลังไปมาก สิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 382

    สิ้นประโยคนี้ ร่างของลั่วชิงยวนสั่นคลอน นี่มิใช่น้ำเสียงปรึกษาหรือหยั่งเชิง เป็นน้ำเสียงที่ลั่วชิงยวนรับรู้ถึงการข่มขู่ นางมิได้เอ่ยตอบ ไทเฮายิ้มพร้อมมองไปทางนาง “มิต้องการหรือ?” ลั่วชิงยวนถอยหลังพร้อมคุกเข่าลง “ไทเฮาโปรดประทานอภัยเพคะ! หม่อมฉันแต่งงานกับท่านอ๋อง หม่อมฉันที่เป็นพระชายาของท่านอ๋อง จักแต่งงานกับผู้อื่นได้อย่างไร” “หรือต่อให้หม่อมฉันยอม ก็ทำเช่นนี้มิได้! มิเช่นนั้นความสัมพันธ์ของท่านอ๋องและองค์ชายห้าจักอึดอัด หรือกระทั่งห่างเหินกันเพราะหม่อมฉัน ซึ่งเป็นการเพิ่มคำนินทา และทำราชวงศ์เสียหน้าเพคะ!” นางมิชอบฟู่อวิ๋นโจว จักแต่งกับเขาได้เช่นไรเล่า หรือต่อให้นางมีความคับแค้นใดกับฟู่เฉินหวน ก็ควรคลี่คลายกันเองระหว่างนางและเขา ประโยคนี้ ทำไทเฮามิพอใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าของไทเฮาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่กลับเป็นยิ้มเยือก “ดูท่าเจ้ายังคงรักท่านอ๋องอยู่มาก” “ครั้งนี้เจ้ามิได้เข้าวังมาเพื่อเจอเขาหรือ? ข้าพาเจ้าไปเจอเขาเอง” ในเสียงน่าเกรงขาม เต็มไปด้วยความข่มขู่ หัวใจของลั่วชิงยวนบีบรัด นางจะออกจากวังเพื่อไปตามหาลูกแก้วหงส์เพลิง! ในใจของนางร้อนรนดุจมดกล

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1292

    ลั่วชิงยวนมองอวี๋โหรวด้วยความประหลาดใจ อวี๋โหรวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คราวก่อนเจ้ามิได้ถามข้าหรอกหรือว่ามีสิ่งนี้หรือไม่ นี่เป็นดอกสุดท้ายที่ข้าเหลืออยู่”“คราวนี้เจ้าถูกฮองเฮาทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ข้าคิดว่าเจ้าย่อมต้องการสิ่งนี้เป็นแน่ จึงได้นำมาให้”ลั่วชิงยวนได้ฟังก็รู้สึกตื้นตันใจยิ่งนัก นางมิคาดคิดว่าอวี๋โหรวจะมอบสิ่งนี้แก่นางด้วยว่ายามนี้ ต่อให้หาทั่วทั้งเมืองหลวงก็หาสิ่งนี้มิได้แล้ว“ขอบคุณ” ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างซาบซึ้งใจยามนี้นางต้องการสิ่งนี้ยิ่งนัก“มิต้องเกรงใจ” อวี๋โหรวแย้มยิ้มจากนั้นทั้งสองก็เข้าวังไปด้วยกัน กลับไปยังที่พำนักของสำนักนักบวชของพวกนางการใช้บัวถวายนั้นจำต้องใช้สมุนไพรอื่นร่วมด้วย อวี๋โหรวจึงไปยังคลังโอสถเพื่อนำสมุนไพรมามากมายลั่วชิงยวนจึงก่อไฟต้มยาในลานหลังจากกินยาเข้าไป ลั่วชิงยวนก็รู้สึกถึงกระแสความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างสิ่งนี้มีสรรพคุณหลักในการรักษาบาดแผลภายในและฟื้นฟูลมปราณ แต่เมื่อบาดแผลภายในหายดีแล้วย่อมส่งผลดีต่อบาดแผลภายนอกด้วยเช่นกันอวี๋โหรวเห็นว่าหลังจากนางกินยาแล้วสีหน้าของนางก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ดูเหมือนว่ายานี้จะได้ผลดีกับเจ้าย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1291

    นางจ้องมองไปยังเฉินชีพลางเอ่ยว่า “โอสถนี้ก็แค่บำรุงรักษาร่างกายทั่วไป มิได้มีผลอะไรต่อข้าในยามนี้”เฉินชีกลับกล่าวตอบ “ร่างกายของเจ้าในยามนี้มิอาจกินยาแรงได้ ตำรับยานี้สามารถรักษาบาดแผลภายนอกของเจ้าได้”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่นมองเขา “แต่ยามนี้ข้าต้องการโอสถรักษาบาดแผลภายใน”“โอสถของเจ้าเพียงรักษาที่ปลายเหตุ มิได้รักษาที่ต้นเหตุ!” เฉินชียังคงยืนกรานในความคิดของตน “วางใจเถิดอาเหลา โอสถที่ข้าให้เจ้ากินนั้นย่อมเหมาะสมแก่เจ้าที่สุด”“เจ้าพักผ่อนให้ดี ข้ายังต้องเข้าวังไปอีกครั้ง”“เรื่องของเกาเหมียวเหมี่ยวยังมิได้สะสาง”“เจ้าพักอยู่ที่นี่ให้สบายใจ ไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายเจ้าหรอก”กล่าวจบ เฉินชีก็จากไปอีกทั้งยังจัดแจงให้คนมาส่งโอสถแก่ลั่วชิงยวนด้วยลั่วชิงยวนพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนของเฉินชีสองวันแล้ว ทุกวันจะมีนางรับใช้มาเปลี่ยนผ้าพันแผลและเสื้อผ้าให้ตรงเวลาโอสถที่นำมาให้ก็ล้วนเป็นไปตามตำรับของเฉินชีทว่าลั่วชิงยวนรู้ซึ้งถึงอาการของตนดีว่า ร่างกายของตนนั้นจำต้องได้รับการรักษาด้วยโอสถใดตำรับยาของเฉินชีนั้นเป็นเพียงยาบำรุงร่างกายและให้สารอาหารแก่ร่างกายนี้ แต่การบำรุงเพียงอย่างเดีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1290

    ขณะพูด เฉินชีก็รีบหยิบขวดโอสถขวดหนึ่งออกมา พลางเทโอสถลูกกลอนหนึ่งเม็ดส่งให้ลั่วชิงยวนกินมันสามารถปกป้องหัวใจของนางได้รถม้าโคลงเคลงไปตลอดทาง เร่งมุ่งหน้าไปยังจวนของเฉินซีอย่างรวดเร็วหลานจีได้ยินเสียงจึงเดินมาที่ลาน นางสงสัยมากว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้ท่านแม่ทัพต้องรีบร้อนออกไปอย่างกะทันหันทว่านางกลับเห็นเฉินชีลงจากรถม้าพร้อมกับอุ้มลั่วชิงยวนที่ได้รับบาดเจ็บ“ท่านแม่ทัพ… นางคือ...” หลานจีรีบสาวเท้าเข้ามาแต่นางกลับถูกเฉินชีผลักออกไปอย่างไร้ความเมตตา “อย่ามาขวางข้า!”หลานจีต้องถอยหลังไปสองก้าวถึงจะทรงตัวไว้ได้เมื่อได้สติ เฉินชีก็เดินไปไกลพร้อมกับสตรีในอ้อมแขนแล้วหลานจีตกตะลึงเหตุใดท่านแม่ทัพถึงต้องเป็นห่วงสตรีนางนั้นถึงเพียงนี้?นางเป็นใครกัน?หลานจีเกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างกะทันหันนางตามไปดูด้วยความมิพอใจเฉินชีอุ้มลั่วชิงยวนเข้ามาที่ห้องของตน เขาวางนางลงบนเตียงแล้วเรียกนางรับใช้มาเปลี่ยนอาภรณ์ให้ลั่วชิงยวนนางรับใช้พากันสาละวนเข้า ๆ ออก ๆ เรือนกันยกใหญ่ยามนี้หลั่วชิงยวนหลับไปแล้วจากนั้นเฉินชีก็ออกจากห้องไป และมิรู้ว่าเขาไปที่ใดหลังจากที่นางรับใช้เปลี่ยนอา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1289

    "ตอนนี้มิว่าท่านจะตรัสอะไรไปก็ไร้ประโยชน์”“ไม่มีใครสนใจหรอกเพคะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สีหน้าของฉินอี้และฮองเฮาเกาก็เปลี่ยนไปฮองเฮาเกาจ้องนางด้วยสายตาดุร้ายนางยิ้มเยาะ “ในที่สุดก็ยอมเอ่ยปากแล้วรึ? อย่าลืมที่ข้าพูดไว้สิว่า หากเจ้าพูดข้าจะตัดลิ้นเจ้าทิ้งเสีย!”จากนั้นนางก็ส่งสายตาเป็นนัยให้องครักษ์องครักษ์สองคนก้าวไปข้างหน้า คนหนึ่งจับไหล่ของลั่วชิงยวน อีกคนหยิบมีดขึ้นมาเตรียมตัวพร้อมลงมือฉินอี้ตกใจและครุ่นคิดอย่างรวดเร็วว่าจะทำอย่างไรดีลั่วชิงยวนยังมิยอมแพ้ รอยยิ้มเย็นชาผุดขึ้นบนใบหน้าของนาง “องค์ชายใหญ่ทรงเคยคิดหรือไม่เพคะว่าเหตุใดวรยุทธ์ของท่านถึงหยุดนิ่งมิพัฒนาไปไหน?”“เหตุใดถึงเรียนรู้ได้ช้า แม้จะทุ่มเทความพยายามมากกว่าคนทั่วไปหลายสิบเท่า แต่ก็ยังมิสามารถเรียนรู้ได้เท่ากับที่คนอื่นทำได้”“นั่นมีเหตุผลอยู่เพคะ”“ที่จริงแล้ว ทั้งหมดมิใช่เป็นเพราะพรสวรรค์ที่ธรรมดาเพคะ”“แต่มีพิษชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า…”เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น ฉินอี้ก็ตกใจเป็นอย่างมากฮองเฮาเการีบกระชับเสื้อของนางด้วยความกังวล สีหน้าของนางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงและขณะที่ลั่วชิงยวนกำลังจะพูดออกมาน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1288

    ทันทีที่คำกล่าวเหล่านี้หลุดออกมาร่างกายของฟู่เฉินหวนก็แข็งทื่อดวงตาของฉินอี้เต็มไปด้วยความคาดหวังอันร้อนแรงตั้งแต่เล็กจนโต แม้เขาจะเป็นองค์ชาย แต่ก็มีเพียงมิกี่คนที่ให้ความเคารพเขาแม้กระทั่งน้องสาวของเขาเองก็มักจะลงมือทำร้ายเขาบ่อย ๆ โดยมิไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อยส่วนคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคืออ๋องผู้เป็นเทพสงครามเทพแห่งแคว้นเทียนเชวียและผู้สำเร็จราชการผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้าเขาจึงตั้งตารอที่จะได้เห็นฟู่เฉินหวนคุกเข่าด้วยความเคารพฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จริงเขาสามารถเจรจากับฉินอี้ได้ และมีเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายที่เขาสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายได้ทว่าการเจรจาต้องอาศัยยุทธวิธีและที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องมีจิตใจที่สงบมั่นคงแต่ในเวลานี้ ฟู่เฉินหวนมิสามารถทำเช่นนั้นได้เขาแทบจะรอมิไหวแล้วดวงตาของเขาขรึมลง พลางยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงเสียงดังตึงเมื่อเข่ากระทบพื้นนั้นเจือไปด้วยความอึดอัดกลัดกลุ้ม แต่เป็นเสียงที่ฉินอี้ฟังแล้วรู้สึกสบายหูเป็นอย่างยิ่งมิอาจปฏิเสธได้ว่าตอนนี้เขาพอใจอย่างถึงที่สุดนี่เป็นความรู้สึกที่เขาพยายามเสาะหามาตลอดหลายปีแต่ก็มิเคยได้มันมาโดยเฉพา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1287

    ในห้องขังอันเงียบงัน เสียงเฆี่ยนตีดังชัดเจนจนเหมือนได้ยินเสียงผิวหนังฉีกออกเป็นชิ้น ๆทำเอาคนที่ได้ยินรู้สึกใจสั่นที่มุมตรงทางเดิน บุรุษสวมหน้ากากที่อยู่ข้างหลังฉินอี้กำหมัดแน่นในทันทีฝ่ามือถูกจิกจนเกือบจะเลือดออกฟู่เฉินหวนที่ได้ยินเสียงนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงและอดมิได้ที่จะพุ่งไปหาแต่ฉินอี้คว้าข้อมือของเขาเอาไว้“เฉินชีจะมาช่วยนางเอง”“หากตอนนี้เจ้าถูกจับได้ก็ช่วยนางออกไปมิได้ แล้วพวกเจ้าก็จะต้องตายอยู่ที่นี่”“ด้วยตัวตนของเจ้า มีแต่จะต้องเผชิญกับจุดจบที่น่าอนาถยิ่งกว่าเดิม”ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่น เขาก้าวถอยหลังมาหนึ่งก้าวและอดทนต่อไปฝ่ามือของเขาเหงื่อออกเมื่อได้ยินเสียงเฆี่ยนตีอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มีเสียงร้องของความเจ็บปวด ก็สามารถบอกได้ว่า ลั่วชิงยวนกำลังทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมากเพียงใดนั่นทำให้ฟู่เฉินหวนรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมากทว่าเขาทำได้เพียงเฝ้ามองจากที่ไกล ๆ มิสามารถเข้าไปใกล้หรือช่วยนางได้เสียงแส้ดังขึ้นอย่างมิหยุดหย่อน และเสียงแส้ในแต่ละครั้งนั้นดูเหมือนจะฟาดลงไปที่หัวใจของฟู่เฉินหวนจนเลือดสด ๆ ไหลออกมาเป็นทางเวลาเหมือนจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า และเสียงแส้น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status