Share

บทที่ 315

Author: หว่านชิงอิ๋น
เมื่อไฟลุกแรงขึ้น พวกเขาจึงเริ่มย่างเนื้อ

ไม่นานนัก กลิ่นหอมก็ลอยออกมา หนังที่ถูกย่างจนน้ำมันเดือดเป็นเสียงฟู่ ๆ น่ากินจนน้ำลายสอ

“หอมนัก ที่นี่มิมีเหล้าได้อย่างไรกัน ข้าไปซื้อเหล้าก่อน!” เฉินเซี่ยวหานลุกจากไปในทันที

เฉินเซี่ยวหานจากไป แต่แก้มของซ่งเชียนฉู่ยังคงร้อนผ่าว ๆ นางจึงใช้ข้ออ้างดูกับแกล้มในครัวว่าเย็นหรือยังเพื่อลุกจากไป

ในลานเหลือเพียงฟู่เฉินหวนและลั่วชิงยวนที่นั่งกันอยู่สองคน รอบด้านเงียบเสียจนสามารถได้ยินเสียงของฟืนที่กำลังถูกไฟแผดเผา

จู่ ๆ ในหัวของลั่วชิงยวนก็คิดถึงภาพคืนนั้นหลังจากที่นางถูกดิ่งลงแม่น้ำ ก็เงียบสงัดเช่นนี้เช่นกัน

ช่วงที่นางอยู่กับฟู่เฉินหวนได้แบบสงบนั้น สามารถนับครั้งได้เลย

จู่ ๆ ด้านข้างนางก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น “รัฐทายาทเฉินปรากฏตัวบังเอิญเกินไป ระวังเขาจะมีจุดประสงค์อื่นต่อแม่นางซ่ง”

ลั่วชิงยวนชะงักเล็กน้อย นางหันหน้าไปมองท่าทีจริงจังของฟู่เฉินหวน แสงไฟกระพรืออยู่นัยน์ตาของเขา ใบหน้าของเขางดงามเสียจนผู้คนต้องมองซ้ำอย่างอดมิได้

“ขอบพระทัยที่เตือนพ่ะย่ะค่ะ”

ลั่วชิงยวนเองก็รู้สึกว่าการปรากฏตัวของรัฐทายาทนั้นแปลก

ท่าทีในวันนี้ของสวีซง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
kanha funngern
ลืมไป นางปลอมเป็นผู้ชาย
goodnovel comment avatar
kanha funngern
การใช้คำราชาศัพท์ยังสับสน ผู้หญิงต้องใช้ เพคะ หม่อมฉัน แต่ดันไปใช้ พะย่ะค่ะ กระหม่อม
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 316

    ร่างสูงโปร่ง! เห็นได้ชัดว่าเป็นบุรุษ! ลั่วชิงยวนรีบวิ่งเข้าห้องทันที เมื่อเห็นนางจู่ ๆ ก็รีบรีบร้อนขึ้นมา ฟู่เฉินหวนก็รู้สึกตื่นตกใจ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? แต่เมื่อเขารีบตามมา ลั่วชิงยวนก็ปิดประตูแล้วลั่นดาล ฟู่เฉินหวนรู้สึกตกใจแล้วตบประตู "เกิดอะไรขึ้น?" ลั่วชิงยวนมองคนที่อยู่ในห้อง จากนั้นซ่งเชียนฉู่ก็ค่อย ๆ หันหลังมา ทั้ง ๆ ที่นางมีสายตาว่างเปล่า ทว่าดวงตากลับฉายแววสังหาร ทันใดนั้นนางก็คว้าปิ่นปักผมตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วพุ่งใส่ลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนรีบหลบหลีกแล้วตะโกนขึ้นมาว่า "ท่านอ๋อง คอยเฝ้าฟืนไฟเอาไว้ให้ดี!" เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวในห้อง สายลมที่พัดผ่านรอยแยกของหน้าต่างทำให้แสงสว่างในห้องวูบไหว ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็เห็นทั้งสองคนกำลังต่อสู้กัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ยิ่งบอกให้เขาคอยเฝ้าฟืนไฟเอาไว้ให้ดี เขาย่อมไม่วางใจที่จะจากไป ดังนั้นเขาจึงยืนเฝ้าอยู่นอกประตูแล้วคอยเฝ้าสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นข้างใน ตอนที่ซ่งเชียนฉู่ถือปิ่นปักผมแล้วพุ่งเข้ามาหาอีกครั้ง ลั่วชิงยวนก็รีบใช้ปลายนิ้วคีบแผ่นยันต์ขึ้นมาพลางหลบหลีกแล้วกระโดดไปอยู่ข้างหลังซ่งเชีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 317

    หมัดเดียวก็ทำเอาเงานั้นแทบแตกฉานซ่านเซ็น เมื่อฟู่เฉินหวนที่เดินกลับไปกลับมาอยู่นอกเรือนได้ยินเสียงดังมาจากข้างใน ก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจขึ้นเรื่อย ๆ แต่ชั่วครู่ต่อมา ประตูก็พลันเปิดออกอย่างแรงแล้วสายลมหม่นมัวก็พุ่งใส่หน้า ฟู่เฉินหวนยกมือขึ้นสกัดกั้น ทันใดนั้นเมื่อเขารู้สึกว่ามีบางอย่างปัดผ่านข้างตัวไป ก็ให้รู้สึกตื่นตกใจ เขาหันหลังกลับไป แต่กลับไม่เห็นสิ่งใด ทว่าจู่ ๆ ก็พลันเกิดลมกระโชกแรงขึ้นในลานเรือน แทบจะดับเปลวเพลิงในกองไฟและเชื้อฟืนไปจนสิ้น เมื่อเห็นเงาดำพยายามที่จะหลบหนีไป ลั่วชิงยวนรีบไล่ตามทันที นางใช้โลหิตวาดอักขระเวทแล้วขว้างออกไปทั่วทั้งหกทิศ พวกมันพลันลอยไปทั่วทุกสารทิศในลานเรือน ก่อให้เกิดปราการสีทองที่ปิดล้อมทุกอย่างในลานเรือนเอาไว้จนหมดสิ้น ฟู่เฉินหวนมองไม่เห็นสิ่งใด แต่เขากลับสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง นี่เป็นสถานการณ์ที่เขาไม่คุ้นเคย เขาจึงเอ่ยถามด้วยความกังวลใจขึ้นมาว่า "ข้าควรจักทำกระไร?" ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยความยากลำบากขึ้นมาว่า "ท่านอ๋อง คอยเฝ้าเนื้อเอาไว้ให้ดี! อย่าให้ตกพื้นเพคะ!" หลังจากย่างเนื้อมาตลอดทั้งคืน ตอนนี้อาหารอันโอชะกำลังยั่วน้ำล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 318

    หุ่นเชิด! เหมือนกับวิญญาณร้ายที่เฝิงซีพบเจอไม่มีผิดเพี้ยน! แต่หุ่นเชิดตัวนี้กลับอยู่ในรูปของบุรุษผู้หนึ่ง พวกมันอยู่ด้วยกัน! พวกมันล้วนเป็นพวกเดียวกัน! ความหนาวเหน็บคืบคลานเข้าสู่จิตใจของนางราวกับอสรพิษตนหนึ่ง นางสงบจิตใจแล้วเริ่มครุ่นคิด ประการแรกคือ ของสิ่งนั้นอยู่ในจวนมหาราชครู แล้วก็มาอยู่ที่ถ้ำอสรพิษ แล้วมาอยู่กับเฝิงซี กระทั่งปรากฏอยู่ในเหตุการณ์วันนี้ เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องกัน ทว่าผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้กลับดูเหมือนจะเชื่อมโยงกันอย่างไม่อาจแยกออกจากกันได้ เฝิงซีเป็นพระสนมซึ่งเป็นสตรีของจักรพรรดิ ผู้ที่คิดจะทำร้ายเฝิงซีจะต้องเป็นคนจากวังหลวง ตอนนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างพัวพันกันอยู่ ผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เป็นผู้ใดกัน! พวกมันคิดจะทำอะไรกันแน่? ซ่งเชียนฉู่อธิบายให้ฟังว่า "ของชิ้นนี้หล่นจากตัวพวกอันธพาลที่มาหาเรื่องข้าวันนี้ ข้าก็เลยเก็บมาด้วย" "ข้าคิดว่าถ้ามีคนคิดจะทำร้ายข้า เจ้าสิ่งนี้ก็น่าจะเป็นเงื่อนงำในการค้นหาตัวตนของผู้อื่นได้ ฉะนั้นข้าจึงนำกลับมาด้วย" ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว "ใช่ เอามาซ่อนไว้ในนี้ก็เลยทำให้ข้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 319

    "บางทีเขาอาจกลับจวนไปแล้ว หรือไม่ก็เจออะไรสักอย่างกระมัง?" ลั่วชิงยวนคาดเดา อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่รู้เรื่องรัฐทายาทเฉินผู้นี้มากนัก ซ่งเชียนฉู่วางจานลงแล้วลุกขึ้นด้วยความไม่สบายใจ "จะเกิดเรื่องขึ้นหรือไม่?" "วันนี้เขาช่วยชีวิตข้าไว้ หากคนพวกนั้นตามแก้แค้นเขาเล่า?" ซ่งเชียนฉู่รู้สึกกังวลใจขึ้นมาทันที เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้าก็ขมวดคิ้ว "ก็มีความเป็นไปได้!" เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนี้ เขาก็หรี่ตาแล้วเริ่มครุ่นคิด เขามีความคาดเดาในใจอยู่บ้าง เรื่องประหลาดในคืนนี้จะเกี่ยวข้องกับการที่เฉินเซี่ยวหานช่วยชีวิตของซ่งเชียนฉู่หรือไม่? เรื่องนั้นเกี่ยวพันกับการลอบสังหารฉู่ลั่วหรือไม่? "ข้าจักออกไปตามหาเขา!" ซ่งเชียนฉู่ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที "ข้าไปกับเจ้าด้วย!" ลั่วชิงยวนรีบตามไป เมื่อเห็นว่าค่ำมืดดึกดื่นมากแล้ว ฟู่เฉินหวนก็ไม่อาจนิ่งดูดาย ดังนั้นเขาจึงไปกับพวกนางด้วย ในยามนี้เอง เฉินเซี่ยวหานกำลังเดินกลับไปกลับมาอยู่ในตรอกที่แลดูคุ้นเคยแต่ก็ไม่คุ้นเคยอยู่ในที โดยมีหลุมดำอยู่ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ราวกับว่าเขาจะไม่มีทางหลุดพ้นความมืดมิดเช่นนี้ไปได้เลย เขาหาทางไปท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 320

    "รัฐทายาทเฉิน..." ซ่งเชียนฉู่รู้สึกตื่นตกใจ คนทั้งกลุ่มรีบเดินเข้าไปหาและพบว่าม่านตาของเฉินเซี่ยวหานเปลี่ยนเป็นทึมเทา คนก็แน่นิ่งไม่ไหวติงราวกับว่าได้สูญเสียวิญญาณของตัวเองไปแล้ว "พาเขากลับไปก่อน!" ลั่วชิงยวนรีบคว้าแขนของเฉินเซี่ยวหานเอาไว้ทันที "เซียนฉู่ เมื่อนึกถึงสภาพร่างกายของเขาแล้ว ให้ข้าแบกเขาไปดีกว่า" ฟู่เฉินหวนก้าวออกมาแบกเฉินเซี่ยวหานแล้วก้าวยาว ๆ เพื่อมุ่งหน้ากลับไป ลั่วชิงยวนกับซ่งเชียนฉู่ก็รีบตามไปด้วย หลังจากกลับมาถึงเรือน ซ่งเชียนฉู่ก็รู้สึกเป็นกังวลใจยิ่ง "รัฐทายาทเฉินจะเป็นอันใดหรือไม่?" "บอกได้ยาก!" ลั่วชิงยวนรีบเตรียมการบางอย่างแล้ววิ่งออกไปอีกครั้ง ฟู่เฉินหวนมองนางวิ่งออกมาแล้วรีบตามไป เมื่อกลับมา ณ ตำแหน่งที่พบเฉินเซี่ยวหาน ลั่วชิงยวนก็หยิบพู่กันมาจุ่มน้ำแล้ววาดเขียนลงกับพื้นดิน ฟู่เฉินหวนที่ตามมาด้วยจึงถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า "เจ้ากำลังทำอันใดหรือ?" "นำทางให้รัฐทายาทเฉิน" ลั่วชิงยวนยังคงขยับพู่กันต่อไปโดยไม่เงยหน้าสักนิด นางวาดอักขระไปตลอดทางกลับสู่ร้าน "เจ้าเอาแต่วาดไปทั่วทั้งถนน พรุ่งนี้ถ้ามีคนถามจะทำอย่างไรเล่า" ฟู่เฉินหวนอดมิได้ที่จะถามขึ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 321

    เมื่อลั่วชิงยวนกลับมาที่ร้านก็เห็นซ่งเชียนฉู่กำลังดูแลเฉินเซี่ยวหานที่อยู่บนเตียงนอน "ชิงยวน รัฐทายาทเฉินผู้นี้..." ซ่งเชียนฉู่รู้สึกกังวลใจยิ่งนัก ลั่วชิงยวนจึงปลอบโยนนางว่า "น่าจะไม่เป็นอันใดหรอก ข้าไม่คิดว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะวางแผนเล่นงานเขา เพราะเขาหาได้มีส่วนพัวพันกับเรื่องของเจ้าอย่างลึกซึ้ง เขาแค่บังเอิญยื่นมือเข้าช่วยเหลือ มิน่าจะเกิดเรื่องขึ้นหรอก" นางไม่เข้าใจเลย จากนั้นนางก็ดึงตัวซ่งเชียนฉู่ออกมานอกห้องแล้วถามว่า "ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้า วันนี้เกิดเรื่องอันใดขึ้นระหว่างเจ้ากับเขากันแน่? เจ้าชอบเขาจริง ๆ รึ?" เรื่องนี้ออกจะรวดเร็วเกินไปแล้ว! ซ่งเชียนฉู่ก้มหน้าพลางเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีขัดเขินว่า "ข้ามิรู้ว่าเป็นความชอบหรือไม่ แต่... ข้าก็รู้สึกชอบเขามากอยู่ดี" ลั่วชิงยวนเหลือบมองนางด้วยท่าทีจนใจ "ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าก็แค่ชอบคนที่สามารถปกป้องเจ้าได้! สาเหตุที่ทำให้เจ้าถูกสวี่ชิงหลินหลอกเอาก็เพราะเขามักปกป้องเจ้าอยู่เสมอ จากนั้นเจ้าก็เกิดความรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจ!" "ไฉนท่านต้องเอ่ยถึงมันด้วย! ข้าถูกมันหลอกลวงก็จริง แต่เมื่อข้ารู้ว่ามันเป็นคนเช่นไร ข้าก็ตัดข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 322

    ลั่วชิงยวนรู้สึกตื่นตะลึง เกิดอะไรขึ้นกับเฉินเซี่ยวหานกันแน่? ทางการทราบเรื่องเร็วขนาดนั้นได้อย่างไรกัน? ต้องเป็นอุบายที่ผู้บงการเบื้องหลังสวีซงหย่วนวางเอาไว้เป็นแน่! พวกเขารีบมากันอย่างรวดเร็วเช่นนั้น ทว่ารัฐทายาทเฉินยังไม่ฟื้นเลย! "ใต้เท้า ข้อกล่าวหานี้มาจากที่ใดหรือ? พวกเราเป็นแค่ร้านขายโอสถเล็ก ๆ จะกล้าวางแผนสังหารรัฐทายาทเสนาบดีฝ่ายเหนือได้อย่างไรกัน? ข้าไม่รู้ว่ารัฐทายาทเป็นผู้ใดเสียด้วยซ้ำไป" ลั่วชิงยวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งและใจเย็นยิ่งนัก หลังจากชายชราที่มีท่าทางเหมือนพ่อบ้านได้ยินเช่นนี้ เขาก็รีบเดินเข้ามาหา "เมื่อวานนี้มีคนเห็นว่ารัฐทายาทเข้ามาในร้านของเจ้าอยู่ชัด ๆ! จนป่านนี้รัฐทายาทก็ยังไม่กลับมาเลย ถ้าหากไม่ถูกเจ้ากักขังเอาไว้ จะหายไปได้อย่างไรกันเล่า?!" ในยามนี้เอง น้ำเสียงอันแสนคุ้นเคยก็ดังขึ้น "เซียนฉู่ ข้าขอแนะนำให้เจ้ามอบตัวรัฐทายาทออกมาเสีย มิฉะนั้นเจ้าจะไม่เหลืออะไรให้กินแล้วนะ!" ลั่วชิงยวนเสาะหามาตามเสียง ก็เห็นลั่วอวิ๋นสี่อยู่ด้านหลังฝูงชนที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก! ลั่วชิงยวนพลันขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ไฉนจึงเป็นนางอีกแล้ว! หรือว่าเรื่องนี้ลั่วอวิ๋นส

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 323

    เมื่อใต้เท้าผู้นั้นได้ยินเช่นนี้เข้าก็ออกคำสั่งทันทีว่า "ไปจับตัวเขามาให้ข้า!" ทุกคนล้อมรอบตัวนางเอาไว้ด้วยหมายจะจับกุมตัวนางเอาไว้ทันที ลั่วชิงยวนพลันป้องกันตัวเองแล้วเริ่มต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ของทางการ ความชุลมุนวุ่นวายก่อให้เกิดเสียงดังมากเสียจนดึงดูดความสนใจของผู้สัญจรไปมาให้เข้ามาชมดู วรยุทธของลั่วชิงยวนในตอนนี้ไม่นับว่าเป็นยอดฝีมือ ต่อให้รับมือกับกลุ่มนักฆ่าของสวีซงหย่วนได้ยากลำบากอยู่บ้าง แต่เมื่อต้องรับมือกับเจ้าหน้าที่ทางการฝีมือธรรมดาสามัญพวกนี้กลับหาได้เป็นปัญหาสักนิด เพียงแต่ว่าอีกฝ่ายมีคนมาก มิหนำซ้ำพวกเขายังโอบล้อมและจู่โจมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ลั่วชิงยวนมิกล้าทำร้ายพวกเขาจริง ๆ ดังนั้นนางจึงได้แต่รับมือเพื่อถ่วงเวลาเอาไว้ให้ได้นานมากที่สุดเท่าที่พอจะเป็นไปได้ "กล้าดีอย่างไรมาขัดขวางการดำเนินคดีของทางการ! วันนี้หากข้าจับตัวเจ้าได้ล่ะก็ เจ้าจะต้องได้รับโทษหนัก!" ใต้เท้าผู้นั้นกระโดดเตะลั่วชิงยวนอย่างแรง ลั่วชิงยวนยกแขนขึ้นมาสกัดกั้น แต่พลังเตะก็แรงมากพอที่จะทำให้เซถอยหลังไปสองสามก้าวก่อนที่นางจะทรงตัวได้มั่น เมื่อฟู่เฉินหวนที่นั่งอยู่ในร้านเห็นเข้าก็ขมวดคิ้ว

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status