แชร์

บทที่ 281

ผู้แต่ง: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ทุกอย่างรอบ ๆ กลับมาชัดเจนอีกครั้ง ศพในห้องก็หายไป ส่วนนางยังคงยืนอยู่ใต้ชายคา แสงในคฤหาสน์เปลี่ยนไป

ศีรษะข้างเท้านางก็หายไปเช่นกัน

“กรี๊ด! ออกไปนะ! ข้ามิใช่แม่เจ้า! ออกไปเดี๋ยวนี้!”

ภายในห้องมีเสียงร้องตะโกนสุดกำลัง และเต็มไปด้วยความผวาส่งมา

ลั่วชิงยวนวิ่งพุ่งเข้าไปในห้องโดยไม่มีเวลาสนใจอย่างอื่น

เมื่อเปิดประตูออก

ฮูหยินท่านนั้นกำลังวิ่งหนีไปมา และพุ่งชนข้าวของในห้องอย่างลนลาน นางหวาดกลัวจนยากที่จะควบคุมอารมณ์

ลั่วชิงยวนเดินขึ้นหน้าไปกอดนางไว้ทันที แต่กลับถูกขัดขืนอย่างรุนแรง แรงภายใต้ความอยากเอาชีวิตรอดนั้นเยอะจนน่าตกใจ

ลั่วชิงยวนจึงต้องใช้สันมือฟาดลงไป เพื่อให้นางสลบ

หลังนางสลบ ลั่วชิงยวนจึงยกนางไปไว้บนเตียง

พร้อมจับชีพจรให้นาง ชีพจรอ่อนแอ เนื่องจากตกใจเกินเหตุ จนส่งผลกระทบไปถึงเด็กในท้องแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเด็กในท้องไม่รอดแน่!

บัดนี้ด้านนอกดังขึ้นเป็นเสียงลมฟู่ ๆ พร้อมกับเสียงเด็กที่แสนยะเยือก “มันต้องตาย! มันต้องตาย!”

ว่าแล้ว เด็กคนนี้แค่อยากให้นางแท้งลูก

วินาทีต่อมา แจกันภายในห้องหล่นลงพื้นอย่างแรง จนส่งเป็นเสียงเคร้ง

ร่างบนเตียงกระตุกเพราะความตกใ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 282

    เป็นแคว้นหลี! หากเป็นแคว้นหลี เช่นนั้นอีกฝ่ายต้องมาถึงที่แคว้นเทียนเชวียนานแล้ว ในแคว้นหลีมีคนแอบร่วมมือกับอิทธิพลแคว้นเทียนเชวียหรือ? คิดถึงตรงนี้ หัวใจของนางสั่นคลอน หากเป็นเช่นนี้ แคว้นหลีก็น่าจะหยั่งรู้อิทธิพลของแคว้นเทียนเชวียนานแล้ว การตายของนาง จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่? นางกำตุ๊กตาในมือไว้แน่น จากนั้นหันร่างกลับห้อง เพื่อจับชีพจร ฝังเข็มและจ่ายยาให้กับฮูหยิน ต่อด้วยไปปลุกแม่นมที่สลบอยู่บนพื้นด้านนอกให้ตื่น “เกิดอะไรขึ้น?” แม่นมตระหนก สีหน้าลนลานและหวาดกลัว ลั่วชิงยวนส่งตำรับยาให้นาง “ไปซื้อสมุนไพรเถิด ไม่เป็นไรแล้ว” แม่นมตะลึง มองไปรอบ ๆ ด้าน จึงพบว่าทุกอย่างได้สงบลงแล้ว “ไม่เป็นไรแล้วหรือ? ไม่เป็นไรแล้วก็ดี...” “ซื้อสมุนไพร เร็วเข้า!” ลั่วชิงยวนกำชับซ้ำ แม่นมเติ้งได้สติ “เจ้าค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้แล” นางรับตำรับยามาจากนั้นจากไปอย่างร้อนรน ลั่วชิงยวนกลับเข้ามาในห้อง ฮูหยินท่านนั้นได้ตื่นขึ้นมาแล้ว เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ร่างของนางสั่นคลอน และขดตัวอยู่ที่มุมกำแพง ลั่วชิงยวนชะงัก นางพูดเสียงต่ำ “มิต้องกลัว ข้าเอง” ฮูหยินชะงักเล็กน้อย “ท่านเซียน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 283

    ความอึดอัดมากมายที่มิกล้าเอ่ยพูดกับผู้อื่น บัดนี้นางกลับระบายให้ลั่วชิงยวนฟังจนสิ้น ลั่วชิงยวนเฝ้านางทั้งคืน และฟังเฝิงซีระบายมาทั้งคืน ต้องยอมรับเลย หญิงสาวที่เข้าวังหลวงได้ บางครั้งก็น่าสงสารยิ่งนัก พวกนางถูกคุมขังชั่วชีวิต เดิมทีพวกนางต่างเป็นคุณหนูตระกูลสูงส่งที่มีอนาคตสวยงามมากกว่านั้น แต่เพราะเข้าวังทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป เมื่อฟ้าเริ่มสว่าง ในที่สุดความกลัวจากความมืดก็ถูกปัดเป่า อารมณ์และอาการของเฝิงซีต่างดีขึ้นจากเดิมเยอะ นางกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณท่านที่ฟังข้าระบายมาทั้งคืน” “มิเป็นไร เมื่อเรื่องไม่ดีถูกพูดออกมา อารมณ์จักดีขึ้นยิ่ง และส่งผลดีต่อการฟื้นฟูร่างกาย” เฝิงซีเรียกแม่นมเข้ามา ให้แม่นมจ่ายค่าจ้าง เพียงแต่ครั้งนี้ นางยื่นให้ลั่วชิงยวนหนึ่งหมื่นตำลึงทีเดียว “ท่านฮูหยิน มิจำเป็นต้องมากเช่นนี้” แต่เฝิงซีกลับเผยยิ้ม ”เงินนี้มิใช่ของข้า ข้าใช้ของสามีข้า เขามิขาดเงิน เจ้ารับไว้เถิด” จักรพรรดิย่อมไม่ขาดเงินอยู่แล้ว ลั่วชิงยวนจึงรับตั๋วเงินมาหนึ่งกล่อง เฝิงซีกล่าวต่อ “ข้าจักแนะนำเจ้าให้ฮูหยินที่ข้าสนิทสนม เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าขายของเจ้า” “เช่นนั้นก็ขอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 284

    ใต้แสงจันทร์ นางสามารถมองเห็นร่างที่พุ่งเข้ามาด้านหน้านางอย่างชัดเจน! “ฟู่เฉินหวน!” นิ้วมือเย็น ๆ เปิดผ้าคลุมหน้าของนางออก ลั่วชิงยวนเงยหน้าและตีลังกาหลบ วินาทีนั้น นิ้วของเขาลูบผ่านใบหน้าของนาง สัมผัสละเอียดอ่อนนั้น ทำปลายนิ้วของฟู่เฉินกวนรู้สึกเร่าร้อนขึ้นมา ลั่วชิงยวนยื่นมือกดผ้าคลุมหน้าเอาไว้ นางลุกขึ้น และจดจ้องไปทางฟู่เฉินหวนด้วยสีหน้าที่สงบและแน่นิ่ง “คุณชายหมายความว่าอย่างไรกัน?” ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว นัยน์ตามีแววฉงนกะพริบผ่าน เขาฝีมือดีเช่นนี้เชียว? “ลูกผู้ชายยังสวมใส่ผ้าปิดหน้าอีก? มีเรื่องน่าอับอายกระไรงั้นรึ?” ฟู่เฉินหวนค่อย ๆ เดินเข้าไปหานาง กดดันจนลั่วชิงยวนต้องถอยหลังไปเรื่อย ๆ “คุณชายเป็นใครกัน? จึงได้ยุ่งเรื่องผู้อื่นนัก ยุ่งกระทั่งการแต่งตัวของข้า” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเยือกเย็น “ไยเจ้าต้องถอยเล่า? กลัวอะไรงั้นหรือ?” สายตาหนาวเหน็บของฟู่เฉินหวนจดจ้องลั่วชิงยวน ในใจลั่วชิงยวนแอบกลัวจริง ๆ นางมิได้ถอยต่อ “ข้าถอยเพราะต้องการหลบทางให้ท่าน” นางเอนกาย ให้ฟู่เฉินหวนผ่าน แต่ฟู่เฉินหวนมิคิดจะจากไป เขาไขว้มือไว้ด้านหลัง มองมาทางนางด้วยสายตาเยือกเย็น “

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 285

    ซ่งเชียนฉู่จึงเสงี่ยมขึ้น แต่ยังอดหัวเราะมิได้ เสียงหัวเราะของนางใสราวกับกระดิ่ง และดังไปทั่วจวนแสนสงบนี้ “ข้าออกจากจวนและได้รับข่าวสารมาไม่น้อย! ร้านของเรายายังมิทันมีชื่อเสียงเลย ความงดงามของท่านกลับโด่งดังขึ้นมาเสียก่อนแล้ว!” ลั่วชิงยวนไม่ค่อยรู้ข่าวสารจริง ๆ จำนวนคนที่มาทำนายกับนางในทุก ๆ วันมีไม่น้อย แม้เป็นเพียงงานเล็ก ๆ แต่เมื่อรวมกัน ทุกวันนางก็หาเงินได้จำนวนไม่น้อยเลย “วันนี้ไปที่จวนเฝิง ฟู่เฉินหวนเหมือนจะสงสัยข้า หากหน้าข้าสะอาดสะอ้าน ไฉนข้าจะปิดหน้ากัน? อย่างน้อยต้องมีเหตุผลให้ข้าปิดหน้าหน่อยสิ!” ลั่วชิงยวนพูดเรื่องสำคัญต่อ “เจ้ามีวิธี ใส่รอยแผลบนใบหน้า โดยที่คนอื่นดูไม่ออกว่าเป็นของปลอมหรือไม่?” นางเองก็มีวิธีของตนเอง แต่คิดถึงตัวตนของซ่งเชียนฉู่ ยาที่ซ่งเชียนฉู่รู้จักย่อมมากกว่านาง บางทีอาจมีวิธีที่ดีกว่านั้น ซ่งเชียนฉู่ เผยยิ้มมั่นใจ พร้อมกล่าว “ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เลย!” “เมื่อก่อนข้าแอบไปเล่นนอกเขา แล้วกลัวว่าจะถูกท่านพ่อลงโทษ ข้าจึงทำบาดแผลปลอม ท่านพ่อจะได้ไม่ติข้าเพราะความสงสาร” “ข้าใช้วิธีนี้มาเป็นสิบปี และได้ผลทุกครั้ง!” “สมุนไพรที่ใช้ทำบาด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 286

    ลั่วชิงยวนสีหน้าหม่นคล้ำ แน่นอนว่าย่อมไม่อาจหลบเลี่ยงได้แล้ว สวีซงหย่วนรีบคว้าตัวลั่วอวิ๋นสี่เอาไว้พลางกล่าวว่า "อวิ๋นสี่ อย่าทำให้ผู้อื่นต้องลำบากใจเลย บางทีอาจเป็นเพราะพวกเราแตกต่างกันมาก ถึงได้ไร้วาสนาต่อกัน" ลั่วชิงยวนหรี่ตามองสวีซงหย่วน คนผู้นี้แสดงละครเก่งจริง ๆ หลังจากลั่วอวิ๋นสี่ได้ยินเช่นนี้เข้าก็รู้สึกหัวใจสลาย จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้นมาว่า "ข้าไม่อนุญาตให้ท่านพูดแบบนั้น ต่อให้ไร้วาสนาก็ช่าง ข้าจักฝืนชะตาครั้งนี้เอง!" หลังจากนางพูดจบก็เท้ามือลงบนโต๊ะก็จ้องมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย่อหยิ่งจองหองแล้วข่มขู่ว่า "ข้าต้องการให้เจ้าทำนายชะตาสมรสให้ข้า เขียนลงไปซะ! มิฉะนั้นข้าจักพังร้านและแผงทำนายดวงชะตาของเจ้า!" "ตอนนี้เจ้ามีชื่อเสียงนักไม่ใช่หรือ? ถึงตอนนั้นหากข้าบอกว่าเจ้าดูดวงไม่แม่น เจ้าก็จะดำเนินกิจการทำนายดวงชะตาของตนมิได้อีกต่อไป!" มารดาของนางคัดค้านเรื่องที่นางจะอยู่กับสวีซงหย่วนมาโดยตลอด ดังนั้นท่านจึงลงโทษและออกคำสั่งให้กักบริเวณนางอยู่หลายครั้งหลายครา! ไม่นานมานี้ มีเทพพยากรณ์เลื่องชื่อปรากฏตัวขึ้นในเมืองหลวง นางอยากได้คำทำนายเพื่อจะได้พิสูจน์ให้มารดาของตนเห็น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 287

    เมื่อซ่งเชียนฉู่ได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะพลางยิ้มจาง ๆ "สวีซงหย่วนผู้นั้นมิเคยเห็นข้ามาก่อน เช่นนั้นเจ้าอยากให้ข้าไปทดสอบเขาดูหรือไม่?" ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว "เจ้าคิดจักทำอันใดกัน? กลยุทธ์สาวงาม(1)เช่นนั้นหรือ?" ดวงตาของซ่งเชียนฉู่ฉายแววเจ้าเล่ห์ จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้นมาว่า "หากสวีซงหย่วนอยู่ในกลุ่มเดียวกับสวี่ชิงหลิน เช่นนั้นเขาก็น่าจะรู้ชื่อข้า" "หากให้สวีซงหย่วนรู้ว่าดีงูที่พวกเขาต้องการอยู่ในมือข้า เขาจักเข้าหาข้าหรือไม่เล่า?" "ถึงตอนนั้น ท่านก็แค่หาวิธีทำให้ลั่วอวิ๋นสี่บังเอิญมาพบเข้าสิ!" "อย่างไรเสียจุดประสงค์ของพวกเราก็คือการค้า! ต่อให้พวกเราโดนทำลายแผงทำนายดวงชะตาเป็นบางครั้งบางคราว ก็เกินคุ้มแล้ว!" หลังจากลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็ดวงตาเป็นประกาย "ช่างเป็นแผนการอันแยบยล!" ตอนนี้นางผอมลงจนรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไปบ้างแล้ว ถึงแม้ว่านางจะไม่กลัวว่าท่านป้าลั่วหรงจะรู้เรื่องนี้ แต่นางก็ยังไม่สะดวกที่จะไปจวนมหาราชครูในยามนี้ เว้นเสียแต่ว่าท่านป้าลั่วหรงจะเป็นฝ่ายมาหานางด้วยตนเอง หากนางสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้เอง เช่นนั้นนางจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 288

    แต่ในยามนี้เอง จู่ ๆ ก็มีฝ่ามือแกร่งคว้าข้อมือของลั่วอวิ๋นสี่เอาไว้ พวกนางทั้งสองคนต่างรู้สึกตื่นตะลึง ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นฟู่เฉินหวน ลั่วอวิ๋นสี่ผงะอึ้งแล้วรีบชักมือกลับแล้วมองฟู่เฉินหวนด้วยสายตาไม่พอใจ "ท่านอ๋องทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรเพคะ? ท่านคิดจะเข้ามาขวาง แม้แต่เรื่องที่ข้าจะสั่งสอนเจ้านักต้มตุ๋นเชียวหรือเพคะ?" ฟู่เฉินหวนสีหน้าเย็นชา มิหนำซ้ำน้ำเสียงกลับเย็นชายิ่งกว่า จากนั้นเขาก็เอ่ยขึ้นมาว่า "บังเอิญว่าข้ากำลังตามหาตัวท่านเซียนฉู่อยู่พอดี" "คุณหนูลั่ว หากอยากก่อเรื่องเอาไว้ค่อยมาวันหลังเถอะ" ลั่วอวิ๋นสี่รู้สึกโกรธจัด แต่นางไม่กล้าล่วงเกินอ๋องผู้สำเร็จราชการซึ่ง ๆ หน้า นางจึงสะบัดแขนเสื้อแล้วมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย็นชา "เจ้ารอก่อนเถอะ เรื่องไม่จบเพียงเท่านี้แน่!" หลังจากนั้นนางก็จากไปด้วยความเดือดดาล ฟู่เฉินหวนหันกลับมาหรี่ตามองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเปี่ยมความหมาย "ดูเหมือนว่าตอนนี้ท่านเซียนฉู่จะมีชื่อเสียงไม่หยอกเลย ท่านดึงดูดปัญหาเข้ามาเสียแล้ว ต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่?" ลั่วชิงยวนหัวเราะพลางกล่าวว่า "ที่แท้นายท่านก็คือท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการนี่เอง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 289

    แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาจริง ๆ หรือ? เดิมทีลั่วชิงยวนเคยบอกว่าเขาจะเคราะห์ร้ายเพราะลุ่มหลงอิสรตี ไฉนท่านเซียนฉู่ถึงได้กลับคำเช่นนี้เล่า? ถึงแม้เขาจะสงสัยว่าลั่วชิงยวนหลอกเขามากกว่าหนึ่งครั้ง แต่เขาก็รู้สึกว่าช่วงนี้ตนเองปฏิบัติกับลั่วเยวี่ยอิงต่างออกไป เขาไม่อาจทนเห็นนางได้รับความอยุติธรรมและไม่อาจทนเห็นนางร้องไห้ได้ ต่างไปจากความรู้สึกรำคาญในตอนแรก ยามนี้เขากลับรู้สึกปวดใจ เขาชอบคนแบบนั้นลงไปได้อย่างไรกัน ทั้งยังเป็นสตรีมากเล่ห์อย่างลั่วเยวี่ยอิงด้วย! คราวนี้เขาจะต้องได้ผลลัพธ์จากฉู่ลั่วให้จงได้! ขณะที่ลั่วชิงยวนนั่งทำนายดวงชะตาให้ผู้คนอยู่นอกร้าน นางก็มักจะรู้สึกกระดูกสันหลังเย็นวาบอยู่ตลอดเวลา การที่นางรู้ว่าฟู่เฉินหวนกำลังนั่งมองนางอยู่ข้างใน ชวนให้นางรู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก! แต่ก็ไม่มีทางไล่เขาไปได้เลย ส่วนจือเฉาหลบอยู่ในเรือนเพราะเกรงว่าจะถูกฟู่เฉินหวนพบเข้า …… ณ ถนนสายหลักแห่งหนึ่ง "แม่นางซ่ง!" สวีซงหย่วนรีบเดินฝ่าฝูงชนจนไล่ตามซ่งเชียนฉู่ได้ทันในที่สุด ซ่งเชียนฉู่หันกลับมามองเขาด้วยความสงสัย "ท่านคือ..." สวีซงหย่วนยิ้มพลางยื่นถุงหอมออกมาแล้วกล่าวว่า

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1108

    “ทว่าหากฝ่าบาทมีสิ่งใดที่กระหม่อมสามารถช่วยได้ ฉู่ลั่วจะมิปฏิเสธพ่ะย่ะค่ะ!”“ส่วนรายละเอียดเราค่อยพูดคุยกันภายหลัง”ฟู่จิ่งหานพยักหน้า แต่ก็พูดว่า “ท่านมิต้องการเป็นมหาปราชญ์ แต่ตำแหน่งนี้ ข้ายังคงสงวนไว้ให้เป็นของท่านเสมอ! นอกจากท่านก็ไม่มีใครเหมาะสมอีกแล้ว!”ลั่วชิงยวนมิได้เอ่ยคำใดอีกผู้คนต่างก็แยกย้ายกันไปลั่วชิงยวนถูกจักรพรรดิเรียกไปยังห้องตำราจักรพรรดิถามด้วยความร้อนรน “ท่านเซียนฉู่ ภัยพิบัติที่ท่านกล่าวว่าจะเริ่มเกิดขึ้นทางทิศใต้คือ... เมืองฉินใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “น่าจะเป็นเมืองฉินพ่ะย่ะค่ะ”เรื่องนี้นางได้บอกฟู่เฉินหวนแล้วเมื่อฟู่เฉินหวนที่เพิ่งเข้ามาในห้องตำราได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงเล็กน้อยลั่วชิงยวนก็บอกเขาเรื่องเมืองฉินเช่นกันทั้งสองทำนายว่าทางทิศใต้จะเกิดภัยพิบัติเหมือนกัน...นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่?“ดูเหมือนว่าตระกูลเหยียนจะยังมิยอมแพ้! ท่านเซียนฉู่ ภัยพิบัติครั้งนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้หรือไม่?”ลั่วชิงยวนส่ายหน้า “ดูเหมือนว่าจะหลีกเลี่ยงมิได้พ่ะย่ะค่ะ”นี่เป็นครั้งที่สองที่นางทำนายเห็นได้ชัดว่ามีการส่งมือสังหารไปสังหารมหาราชาจารย์เหยีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1107

    “คิดว่าคงเป็นเพราะท่านอาจารย์นักพรตเพิ่งมาถึงเมืองหลวง ยังมิได้มีโอกาสสืบเสาะหาชื่อเสียงของข้าในเมืองหลวง หากข้าเป็นเพียงผู้หลอกลวงต้มตุ๋น คงมีผู้คนตำหนิติเตียนข้าไปนานแล้ว”เมื่ออาจารย์นักพรตเสวียนซานได้ฟังดังนั้นก็ขมวดคิ้วดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจผิดเสียแล้วเมื่อมองดูฉู่ลั่วที่วางตัวอย่างสง่าผ่าเผยและแสดงท่าทีมั่นใจเช่นนี้ ก็รู้ว่าย่อมมีฝีมือที่แท้จริง มิใช่เพียงคนหลอกลวงพูดจาโอ้อวดครู่หนึ่งก็รู้สึกเสียใจที่มิได้สืบเสาะหาชื่อเสียงของฉู่ลั่วเสียก่อน“ที่แท้ข้าเข้าใจผิดไป ขออภัยต่อท่านเซียนฉู่ด้วย”“แต่ข้าเห็นว่าท่านเซียนฉู่มีฝีมือที่แท้จริง มิทราบว่าเรียนวิชาจากสำนักใด? เหตุใดจึงต้องใช้ชื่อของศิษย์เสวียนซานด้วยหรือ?”ลั่วชิงยวนยกยิ้มจาง แล้วกล่าวว่า “ไร้สำนักไร้พรรค”อาจารย์นักพรตเสวียนซานขมวดคิ้วแน่นด้วยความตกตะลึง แล้วกล่าวอย่างเสียดายว่า “ไร้สำนักไร้พรรค นั่นหมายความว่าเรียนวิชาลับใช่หรือไม่? ท่านเซียนฉู่ควรเข้ามาเป็นศิษย์ในสำนักเสวียนซาน วันนี้ได้พบกันโดยบังเอิญ ข้าปรารถนาจะรับท่านเป็นศิษย์เอก!”ผู้คนโดยรอบต่างตกตะลึง เมื่อครู่ยังหาเรื่อง บัดนี้กลับจะรับฉู่ลั่วเป็นศิษย์แล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1106

    ทุกคนต่างพากันเหลียวมองไปตามเสียงแล้วเห็นนักพรตผู้สง่างามก้าวเดินเข้ามาอย่างช้าๆรัศมีอันบริสุทธิ์ปราศจากมลทินของโลกมนุษย์แผ่พลังอำนาจอันน่าเกรงขามลั่วชิงยวนตกตะลึงเล็กน้อย เมื่อเห็นเครื่องหมายบนคอเสื้อของนักพรตแล้วพูดขึ้นว่า “อาจารย์นักพรตเสวียนซาน”เครื่องหมายบนเสื้อผ้าของศิษย์แต่ละระดับของสำนักเสวียนซานจะมีสีแตกต่างกันเครื่องหมายบนคอเสื้อของคนผู้นี้เป็นสีทอง มีเพียงอาจารย์นักพรตเสวียนซานเท่านั้นที่มีสิทธิ์สวมใส่สำนักเสวียนซานที่มีระดับสูงกว่าสีม่วง ล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มิค่อยลงจากเขาใครกันที่สามารถเชิญอาจารย์นักพรตเสวียนซานมาที่นี่ได้อาจารย์นักพรตเสวียนซานฮึดฮัด “เจ้ารู้จักข้าบ้างก็ถือว่ายังดี!”“เจ้าดูมิเหมือนคนร้ายกาจ เหตุใดจึงแอบอ้างเป็นศิษย์ของสำนักข้า มาหลอกลวงในวังหลวงแคว้นเทียนเชวีย!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็เข้าใจทันทีนี่เป็นฝีมือของลั่วฉิงเหล่าขุนนางและข้าราชบริพารต่างตกตะลึง“หลอกลวงหรือ? คงมิใช่กระมัง?”“ความสามารถในการทำนายของท่านเซียนฉู่คงมิใช่ของปลอมกระมัง?”ผู้คนต่างเกิดความสงสัยจักรพรรดิกล่าวว่า “ท่านนักพรต ท่านพูดเช่นนั้นได้อย่างไร!”

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1105

    ดีงูที่ทำให้ฝีมือของนางเพิ่มพูนขึ้นอย่างมากนั้น นางยังคงจำได้มิลืมเลือนน่าเสียดายที่ข้างกายซ่งเชียนฉู่มีคนผู้ทรงอานุภาพคอยคุ้มครอง นางจึงพยายามด้วยวิธีการต่างๆ แต่ก็ยังล้มเหลวการใช้ความสัมพันธ์ระหว่างฉู่ลั่วกับซ่งเชียนฉู่อาจจะประสบความสำเร็จ แต่ฉู่ลั่วกลับดื้อดึงมิยอมร่วมมือกับนาง!เมื่อมิสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็จำต้องทำลายเขาเสีย!ลั่วชิงยวนกลับไปยังลานหลังร้านซ่งเชียนฉู่ถามด้วยความสงสัยว่า “ท่านมิได้ไปแล้วหรอกหรือ? เหตุใดจึงกลับมาอีก?”ลั่วชิงยวนทำท่าให้เงียบแล้วพาส่งเฉียนฉู่กลับไปยังห้อง จากนั้นบอกเล่าเรื่องราวให้ฟังเมื่อซ่งเชียนฉู่ฟังจบก็รีบกล่าวว่า “ดูเหมือนว่านางผู้นี้จะมิปล่อยท่านไป หรือว่าท่านจะเข้าวังไปดำรงตำแหน่งมหาปราชญ์ เมื่อมีตำแหน่งนี้แล้ว นางก็จะต้องเกรงใจบ้าง”ลั่วชิงยวนไตร่ตรอง แล้วพูดว่า “มหาปราชญ์ อืม... ค่อยว่ากันอีกที”จนกระทั่งล่วงเข้ายามดึก เมื่อแน่ใจแล้วว่าลั่วฉิงจากไปแล้ว ลั่วชิงยวนจึงกลับตำหนักอ๋องอย่างเงียบเชียบเมื่อกลับแล้วก็ถูกหล่างมู่ขวางทาง “พี่หญิง ท่านไปที่ใดมาขอรับ? ฟู่เฉินหวนมาหาท่านตอนค่ำ”“แล้วเจ้าบอกเขาว่าอย่างไร?”“ข้าบอกว่าพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1104

    ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมองหล่างมู่อย่างช่วยมิได้“หล่างมู่ เจ้ากลับไปก่อนเถิด ข้าจะไปทำธุระก่อน” ลั่วชิงยวนหันหลังวิ่งไปหล่างมู่ถือลูกถังหูลู่สองไม้วิ่งตามไปสองสามก้าว “พี่หญิง ท่านจะไปที่ใด? ไฉนมิพาข้าไปด้วยเล่า?”ลั่วชิงยวนมิได้ใส่ใจ รีบวิ่งออกจากถนนไปแล้วเมื่อไปเปลี่ยนอาภรณ์ที่หอฝูเสวี่ยแล้ว นางจึงไปที่ร้านอย่างเงียบเชียบเมื่อไปถึงลานด้านหลังก็พบกับซ่งเชียนฉู่ที่กำลังแบกตะกร้ากลับมาจากประตูหน้า ท่าทางดูรีบร้อนนัก“ท่านมาพอดี ท่านเห็นประกาศบนถนนหรือไม่? องค์จักรพรรดิจะเชิญท่านเข้าวังเพื่อแต่งตั้งท่านเป็นมหาปราชญ์!” ซ่งเชียนฉู่ส่งประกาศให้“นี่เป็นประกาศที่ติดอยู่ที่ประตูร้านเรา”“มิกี่วันที่ผ่านมา ข้าออกไปเก็บสมุนไพร พวกเขาคงจะมาหาท่าน แต่ไม่มีใครอยู่จึงติดประกาศไว้”“จะทำอย่างไรดี?”ซ่งเชียนฉู่ก็ตกตะลึงเช่นกันลั่วชิงยวนรับประกาศมาดูอีกครั้ง ในนั้นยังเขียนด้วยว่าให้นางเข้าวังหลวงเพื่อทำนายชะตาของแคว้นเทียนเชวียแล้วแต่งตั้งเป็นมหาปราชญ์ซ่งเชียนฉู่ถอนหายใจ “ข้าคิดว่าครั้งนี้ ตัวตนของท่านคงจะปกปิดมิได้แล้ว”“คอยดูกันต่อไปเถิด” ลั่วชิงยวนยังมิรู้ว่าจะบอกฟู่เฉินหวนอย่างไร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1103

    น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนนั้นบ่งบอกชัดเจนว่ากำลังหึงหวงอยู่ลั่วชิงยวนปอกส้มแล้วป้อนให้ฟู่เฉินหวนพลางพูดอย่างอารมณ์ดีว่า “หล่างมู่มองหม่อมฉันเป็นเพียงพี่หญิงจริง ๆ เพคะ”“เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่หญิงมาตั้งแต่เด็ก แต่พี่หญิงของเขาเสียชีวิตเพราะเขา จึงเป็นบ่วงกรรมและความเสียใจตลอดชีวิตของเขา”“ต่อมาหล่างชิ่นกลายเป็นพี่หญิงของเขา เขาเชื่อฟังหล่างชิ่นทุกอย่าง แต่สุดท้ายหล่างชิ่นกลับต้องการให้เขาตาย”“หลังจากนั้นเมื่อหม่อมฉันไปยังเผ่านอกด่าน ราชาเผ่านอกด่านบอกว่าหม่อมฉันเป็นพี่หญิงของเขา ดังนั้นเขาจึงมองหม่อมฉันเป็นพี่หญิงแท้ ๆ มาโดยตลอด”เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนั้นก็สงสัยยิ่งนัก “พูดตามตรงคือข้ายังคงมิเข้าใจเลยว่าเหตุใดราชาเผ่านอกด่านจึงมั่นใจว่าเจ้าเป็นลูกสาวของเขา”ลั่วชิงยวนพูดเสียงเบาว่า “ราชาเผ่านอกด่านกับลั่วไห่ผิงมีใบหน้าเหมือนกันราวกับแกะ! พวกเขาเป็นพี่น้องกันเพคะ!”“ก่อนที่ท่านแม่ของหม่อมฉันจะมาเมืองหลวงแล้วแต่งงานกับลั่วไห่ผิง นางเคยมีความสัมพันธ์กับราชาเผ่านอกด่าน แต่สุดท้ายก็มิได้ลงเอยกันจึงมาเมืองหลวงและแต่งงานกับลั่วไห่ผิงเพคะ”ฟู่เฉินหวนตกตะลึงยิ่งนักเมื่อได้ฟัง“

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1102

    หล่างมู่ชกเข้าที่ใบหน้าของฟู่เฉินหวนจนฟู่เฉินหวนถอยหลังไปหลายก้าวหล่างมู่แสดงสีหน้าโกรธแค้น “ข้าขอเตือนท่านเลยว่าถ้าท่านทำเช่นนี้กับพี่หญิงของข้าอีก ข้าจะฆ่าท่านเสีย!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพลางเช็ดเลือดที่มุมปาก “ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด ข้าจะพบกับนาง”“นางอยู่ที่ใด แล้วท่านเกี่ยวอะไรด้วย!” หล่างมู่แสดงสีหน้ามิพอใจ เขายังคงจำได้ว่าในวันคล้ายวันพระราชสมภพของจักรพรรดิ อ๋องผู้สำเร็จราชการยินดีที่จะมอบลั่วชิงยวนให้เขาชายคนนี้ช่างน่ารังเกียจ!เขามิเข้าใจว่าเหตุใดพี่หญิงจึงยังคงอยู่กับชายผู้นี้วันนี้กลับนิ่งเฉยมองดูคนอื่นทำร้ายพี่หญิงอย่างมิแยแสอีก!หล่างมู่มิพอใจอย่างยิ่งเมื่อทั้งสองสบตากัน ความเป็นปรปักษ์ก็ปะทุขึ้นบรรยากาศตึงเครียด ในวินาทีต่อมาดูเหมือนว่าจะต้องต่อสู้กันแน่แล้วลั่วชิงยวนเพิ่งเข้ามาในลานก็เห็นเหตุการณ์นี้ จึงรีบเข้าไปขวางไว้“พวกท่านกำลังทำอะไรกัน!”“แค่ก แค่ก แค่ก...” เมื่อนางร้อนใจก็กุมอกด้วยความเจ็บปวดสีหน้าของทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างมากแล้วเข้าไปพยุงนางพร้อมกัน ลั่วชิงยวนปัดมือของทั้งสองออก แล้วหันไปมองหล่างมู่ “พี่บอกเจ้าว่าอย่างไร!”ความโกรธของหล่างมู่หา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1101

    ฟู่จิ่งหานมิได้ใส่ใจเรื่องนี้ แต่กลับรู้สึกผิดเล็กน้อยที่พระราชโองการนั้นทำให้ลั่วชิงยวนได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ จึงพูดว่า “มิเป็นอะไร การประลองครั้งนี้ก็มิได้ห้ามมิให้แคว้นเพื่อนเรือนเคียงเข้าร่วม”“พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการสามารถเอาชนะองค์ชายเผ่านอกด่าน แล้วยกให้เป็นน้องชายได้ นับว่าความสามารถเป็นที่ประจักษ์แก่ข้าแล้ว!”“พระชายามีบาดแผล อนุญาตให้พระชายาและองค์ชายหล่างมู่ออกไปก่อนได้”ลั่วชิงยวนก้มหน้าลงเล็กน้อย “ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ”แล้วหล่างมู่ก็พยุงลั่วชิงยวนออกไปเนื่องจากหอฝูเสวี่ยอยู่มิไกลและสามารถมองเห็นการประลองจากชั้นสามได้ ลั่วชิงยวนจึงพาหล่างมู่ไปพักผ่อนที่หอฝูเสวี่ยก่อนซิ่งอวี่ต้มยามาให้นางกินลั่วชิงยวนนั่งข้างหน้าต่าง มองดูการประลองที่ยังคงดำเนินต่อไป เมื่อเห็นฟู่อวิ๋นโจวเอาชนะทุกคนได้ นางก็รู้ว่าเขากำลังจะเข้าสู่ราชสำนักแล้ว“พี่หญิง ยังเจ็บบาดแผลอยู่หรือไม่ขอรับ?” หล่างมู่ยกชามาให้หนึ่งถ้วยลั่วชิงยวนส่ายหน้า “มิเป็นอะไรแล้ว บาดแผลมิสาหัส พักสักสองสามวันก็หาย”“หล่างมู่ เจ้ามาเมืองหลวงได้อย่างไร? ในเผ่านอกด่านเกิดเรื่องใหญ่อันใดหรือไม่? รีบร้อนมาเช่นนี้เลยหรือ?

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1100

    ฟู่อวิ๋นโจว!หล่างมู่กำหมัดแน่น แล้วกระโจนเข้าไปอีกครั้งผู้คนมากมายต่างเป็นห่วงฟู่อวิ๋นโจว หล่างมู่เป็นคนเผ่านอกด่าน ฝีมือของเขาเป็นที่ประจักษ์ของทุกคนแล้วร่างกายที่อ่อนแอของฟู่อวิ๋นโจวจะรับมือได้อย่างไรแต่ลั่วชิงยวนรู้ดีว่าเวลาที่ฟู่อวิ๋นโจวปรากฏตัวนั้นเหมาะสม นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเขาที่จะแสดงความสามารถฟู่อวิ๋นโจวรับหมัดของหล่างมู่ได้อย่างแน่นอนจากนั้นทั้งสองก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดหลายสิบกระบวนท่าทำให้ผู้คนในที่นั้นต่างตกตะลึง“นี่คือองค์ชายห้าหรือ?”“ฝีมือของเขาแข็งแกร่งเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”“ใช่แล้ว มิใช่ว่าเขาป่วยอยู่หรอกหรือ?”ขณะที่ผู้คนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ฟู่อวิ๋นโจวก็พบจุดอ่อนของหล่างมู่แล้ว จึงเหวี่ยงหล่างมู่ลงไปกับพื้น แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของหล่างมู่ลั่วชิงยวนรีบวิ่งเข้าไปห้าม “หยุดนะ!”ฟู่อวิ๋นโจวสะดุ้งแล้วลดมือลงหล่างมู่ลุกขึ้นยืนและกำลังจะตอบโต้ แต่ถูกลั่วชิงยวนดึงไว้“หล่างมู่แพ้แล้ว” ลั่วชิงยวนประกาศผลทันทีสายตาของนางมองฟู่อวิ๋นโจวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “ขอแสดงความยินดีกับองค์ชายห้าเพคะ”เขายังคงมิได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระและเรียบง่าย แต่กลั

DMCA.com Protection Status