แชร์

บทที่ 281

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ทุกอย่างรอบ ๆ กลับมาชัดเจนอีกครั้ง ศพในห้องก็หายไป ส่วนนางยังคงยืนอยู่ใต้ชายคา แสงในคฤหาสน์เปลี่ยนไป

ศีรษะข้างเท้านางก็หายไปเช่นกัน

“กรี๊ด! ออกไปนะ! ข้ามิใช่แม่เจ้า! ออกไปเดี๋ยวนี้!”

ภายในห้องมีเสียงร้องตะโกนสุดกำลัง และเต็มไปด้วยความผวาส่งมา

ลั่วชิงยวนวิ่งพุ่งเข้าไปในห้องโดยไม่มีเวลาสนใจอย่างอื่น

เมื่อเปิดประตูออก

ฮูหยินท่านนั้นกำลังวิ่งหนีไปมา และพุ่งชนข้าวของในห้องอย่างลนลาน นางหวาดกลัวจนยากที่จะควบคุมอารมณ์

ลั่วชิงยวนเดินขึ้นหน้าไปกอดนางไว้ทันที แต่กลับถูกขัดขืนอย่างรุนแรง แรงภายใต้ความอยากเอาชีวิตรอดนั้นเยอะจนน่าตกใจ

ลั่วชิงยวนจึงต้องใช้สันมือฟาดลงไป เพื่อให้นางสลบ

หลังนางสลบ ลั่วชิงยวนจึงยกนางไปไว้บนเตียง

พร้อมจับชีพจรให้นาง ชีพจรอ่อนแอ เนื่องจากตกใจเกินเหตุ จนส่งผลกระทบไปถึงเด็กในท้องแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเด็กในท้องไม่รอดแน่!

บัดนี้ด้านนอกดังขึ้นเป็นเสียงลมฟู่ ๆ พร้อมกับเสียงเด็กที่แสนยะเยือก “มันต้องตาย! มันต้องตาย!”

ว่าแล้ว เด็กคนนี้แค่อยากให้นางแท้งลูก

วินาทีต่อมา แจกันภายในห้องหล่นลงพื้นอย่างแรง จนส่งเป็นเสียงเคร้ง

ร่างบนเตียงกระตุกเพราะความตกใ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 282

    เป็นแคว้นหลี! หากเป็นแคว้นหลี เช่นนั้นอีกฝ่ายต้องมาถึงที่แคว้นเทียนเชวียนานแล้ว ในแคว้นหลีมีคนแอบร่วมมือกับอิทธิพลแคว้นเทียนเชวียหรือ? คิดถึงตรงนี้ หัวใจของนางสั่นคลอน หากเป็นเช่นนี้ แคว้นหลีก็น่าจะหยั่งรู้อิทธิพลของแคว้นเทียนเชวียนานแล้ว การตายของนาง จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่? นางกำตุ๊กตาในมือไว้แน่น จากนั้นหันร่างกลับห้อง เพื่อจับชีพจร ฝังเข็มและจ่ายยาให้กับฮูหยิน ต่อด้วยไปปลุกแม่นมที่สลบอยู่บนพื้นด้านนอกให้ตื่น “เกิดอะไรขึ้น?” แม่นมตระหนก สีหน้าลนลานและหวาดกลัว ลั่วชิงยวนส่งตำรับยาให้นาง “ไปซื้อสมุนไพรเถิด ไม่เป็นไรแล้ว” แม่นมตะลึง มองไปรอบ ๆ ด้าน จึงพบว่าทุกอย่างได้สงบลงแล้ว “ไม่เป็นไรแล้วหรือ? ไม่เป็นไรแล้วก็ดี...” “ซื้อสมุนไพร เร็วเข้า!” ลั่วชิงยวนกำชับซ้ำ แม่นมเติ้งได้สติ “เจ้าค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้แล” นางรับตำรับยามาจากนั้นจากไปอย่างร้อนรน ลั่วชิงยวนกลับเข้ามาในห้อง ฮูหยินท่านนั้นได้ตื่นขึ้นมาแล้ว เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ร่างของนางสั่นคลอน และขดตัวอยู่ที่มุมกำแพง ลั่วชิงยวนชะงัก นางพูดเสียงต่ำ “มิต้องกลัว ข้าเอง” ฮูหยินชะงักเล็กน้อย “ท่านเซียน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 283

    ความอึดอัดมากมายที่มิกล้าเอ่ยพูดกับผู้อื่น บัดนี้นางกลับระบายให้ลั่วชิงยวนฟังจนสิ้น ลั่วชิงยวนเฝ้านางทั้งคืน และฟังเฝิงซีระบายมาทั้งคืน ต้องยอมรับเลย หญิงสาวที่เข้าวังหลวงได้ บางครั้งก็น่าสงสารยิ่งนัก พวกนางถูกคุมขังชั่วชีวิต เดิมทีพวกนางต่างเป็นคุณหนูตระกูลสูงส่งที่มีอนาคตสวยงามมากกว่านั้น แต่เพราะเข้าวังทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป เมื่อฟ้าเริ่มสว่าง ในที่สุดความกลัวจากความมืดก็ถูกปัดเป่า อารมณ์และอาการของเฝิงซีต่างดีขึ้นจากเดิมเยอะ นางกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณท่านที่ฟังข้าระบายมาทั้งคืน” “มิเป็นไร เมื่อเรื่องไม่ดีถูกพูดออกมา อารมณ์จักดีขึ้นยิ่ง และส่งผลดีต่อการฟื้นฟูร่างกาย” เฝิงซีเรียกแม่นมเข้ามา ให้แม่นมจ่ายค่าจ้าง เพียงแต่ครั้งนี้ นางยื่นให้ลั่วชิงยวนหนึ่งหมื่นตำลึงทีเดียว “ท่านฮูหยิน มิจำเป็นต้องมากเช่นนี้” แต่เฝิงซีกลับเผยยิ้ม ”เงินนี้มิใช่ของข้า ข้าใช้ของสามีข้า เขามิขาดเงิน เจ้ารับไว้เถิด” จักรพรรดิย่อมไม่ขาดเงินอยู่แล้ว ลั่วชิงยวนจึงรับตั๋วเงินมาหนึ่งกล่อง เฝิงซีกล่าวต่อ “ข้าจักแนะนำเจ้าให้ฮูหยินที่ข้าสนิทสนม เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าขายของเจ้า” “เช่นนั้นก็ขอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 284

    ใต้แสงจันทร์ นางสามารถมองเห็นร่างที่พุ่งเข้ามาด้านหน้านางอย่างชัดเจน! “ฟู่เฉินหวน!” นิ้วมือเย็น ๆ เปิดผ้าคลุมหน้าของนางออก ลั่วชิงยวนเงยหน้าและตีลังกาหลบ วินาทีนั้น นิ้วของเขาลูบผ่านใบหน้าของนาง สัมผัสละเอียดอ่อนนั้น ทำปลายนิ้วของฟู่เฉินกวนรู้สึกเร่าร้อนขึ้นมา ลั่วชิงยวนยื่นมือกดผ้าคลุมหน้าเอาไว้ นางลุกขึ้น และจดจ้องไปทางฟู่เฉินหวนด้วยสีหน้าที่สงบและแน่นิ่ง “คุณชายหมายความว่าอย่างไรกัน?” ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว นัยน์ตามีแววฉงนกะพริบผ่าน เขาฝีมือดีเช่นนี้เชียว? “ลูกผู้ชายยังสวมใส่ผ้าปิดหน้าอีก? มีเรื่องน่าอับอายกระไรงั้นรึ?” ฟู่เฉินหวนค่อย ๆ เดินเข้าไปหานาง กดดันจนลั่วชิงยวนต้องถอยหลังไปเรื่อย ๆ “คุณชายเป็นใครกัน? จึงได้ยุ่งเรื่องผู้อื่นนัก ยุ่งกระทั่งการแต่งตัวของข้า” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเยือกเย็น “ไยเจ้าต้องถอยเล่า? กลัวอะไรงั้นหรือ?” สายตาหนาวเหน็บของฟู่เฉินหวนจดจ้องลั่วชิงยวน ในใจลั่วชิงยวนแอบกลัวจริง ๆ นางมิได้ถอยต่อ “ข้าถอยเพราะต้องการหลบทางให้ท่าน” นางเอนกาย ให้ฟู่เฉินหวนผ่าน แต่ฟู่เฉินหวนมิคิดจะจากไป เขาไขว้มือไว้ด้านหลัง มองมาทางนางด้วยสายตาเยือกเย็น “

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 285

    ซ่งเชียนฉู่จึงเสงี่ยมขึ้น แต่ยังอดหัวเราะมิได้ เสียงหัวเราะของนางใสราวกับกระดิ่ง และดังไปทั่วจวนแสนสงบนี้ “ข้าออกจากจวนและได้รับข่าวสารมาไม่น้อย! ร้านของเรายายังมิทันมีชื่อเสียงเลย ความงดงามของท่านกลับโด่งดังขึ้นมาเสียก่อนแล้ว!” ลั่วชิงยวนไม่ค่อยรู้ข่าวสารจริง ๆ จำนวนคนที่มาทำนายกับนางในทุก ๆ วันมีไม่น้อย แม้เป็นเพียงงานเล็ก ๆ แต่เมื่อรวมกัน ทุกวันนางก็หาเงินได้จำนวนไม่น้อยเลย “วันนี้ไปที่จวนเฝิง ฟู่เฉินหวนเหมือนจะสงสัยข้า หากหน้าข้าสะอาดสะอ้าน ไฉนข้าจะปิดหน้ากัน? อย่างน้อยต้องมีเหตุผลให้ข้าปิดหน้าหน่อยสิ!” ลั่วชิงยวนพูดเรื่องสำคัญต่อ “เจ้ามีวิธี ใส่รอยแผลบนใบหน้า โดยที่คนอื่นดูไม่ออกว่าเป็นของปลอมหรือไม่?” นางเองก็มีวิธีของตนเอง แต่คิดถึงตัวตนของซ่งเชียนฉู่ ยาที่ซ่งเชียนฉู่รู้จักย่อมมากกว่านาง บางทีอาจมีวิธีที่ดีกว่านั้น ซ่งเชียนฉู่ เผยยิ้มมั่นใจ พร้อมกล่าว “ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เลย!” “เมื่อก่อนข้าแอบไปเล่นนอกเขา แล้วกลัวว่าจะถูกท่านพ่อลงโทษ ข้าจึงทำบาดแผลปลอม ท่านพ่อจะได้ไม่ติข้าเพราะความสงสาร” “ข้าใช้วิธีนี้มาเป็นสิบปี และได้ผลทุกครั้ง!” “สมุนไพรที่ใช้ทำบาด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 286

    ลั่วชิงยวนสีหน้าหม่นคล้ำ แน่นอนว่าย่อมไม่อาจหลบเลี่ยงได้แล้ว สวีซงหย่วนรีบคว้าตัวลั่วอวิ๋นสี่เอาไว้พลางกล่าวว่า "อวิ๋นสี่ อย่าทำให้ผู้อื่นต้องลำบากใจเลย บางทีอาจเป็นเพราะพวกเราแตกต่างกันมาก ถึงได้ไร้วาสนาต่อกัน" ลั่วชิงยวนหรี่ตามองสวีซงหย่วน คนผู้นี้แสดงละครเก่งจริง ๆ หลังจากลั่วอวิ๋นสี่ได้ยินเช่นนี้เข้าก็รู้สึกหัวใจสลาย จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้นมาว่า "ข้าไม่อนุญาตให้ท่านพูดแบบนั้น ต่อให้ไร้วาสนาก็ช่าง ข้าจักฝืนชะตาครั้งนี้เอง!" หลังจากนางพูดจบก็เท้ามือลงบนโต๊ะก็จ้องมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย่อหยิ่งจองหองแล้วข่มขู่ว่า "ข้าต้องการให้เจ้าทำนายชะตาสมรสให้ข้า เขียนลงไปซะ! มิฉะนั้นข้าจักพังร้านและแผงทำนายดวงชะตาของเจ้า!" "ตอนนี้เจ้ามีชื่อเสียงนักไม่ใช่หรือ? ถึงตอนนั้นหากข้าบอกว่าเจ้าดูดวงไม่แม่น เจ้าก็จะดำเนินกิจการทำนายดวงชะตาของตนมิได้อีกต่อไป!" มารดาของนางคัดค้านเรื่องที่นางจะอยู่กับสวีซงหย่วนมาโดยตลอด ดังนั้นท่านจึงลงโทษและออกคำสั่งให้กักบริเวณนางอยู่หลายครั้งหลายครา! ไม่นานมานี้ มีเทพพยากรณ์เลื่องชื่อปรากฏตัวขึ้นในเมืองหลวง นางอยากได้คำทำนายเพื่อจะได้พิสูจน์ให้มารดาของตนเห็น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 287

    เมื่อซ่งเชียนฉู่ได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะพลางยิ้มจาง ๆ "สวีซงหย่วนผู้นั้นมิเคยเห็นข้ามาก่อน เช่นนั้นเจ้าอยากให้ข้าไปทดสอบเขาดูหรือไม่?" ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว "เจ้าคิดจักทำอันใดกัน? กลยุทธ์สาวงาม(1)เช่นนั้นหรือ?" ดวงตาของซ่งเชียนฉู่ฉายแววเจ้าเล่ห์ จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้นมาว่า "หากสวีซงหย่วนอยู่ในกลุ่มเดียวกับสวี่ชิงหลิน เช่นนั้นเขาก็น่าจะรู้ชื่อข้า" "หากให้สวีซงหย่วนรู้ว่าดีงูที่พวกเขาต้องการอยู่ในมือข้า เขาจักเข้าหาข้าหรือไม่เล่า?" "ถึงตอนนั้น ท่านก็แค่หาวิธีทำให้ลั่วอวิ๋นสี่บังเอิญมาพบเข้าสิ!" "อย่างไรเสียจุดประสงค์ของพวกเราก็คือการค้า! ต่อให้พวกเราโดนทำลายแผงทำนายดวงชะตาเป็นบางครั้งบางคราว ก็เกินคุ้มแล้ว!" หลังจากลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็ดวงตาเป็นประกาย "ช่างเป็นแผนการอันแยบยล!" ตอนนี้นางผอมลงจนรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไปบ้างแล้ว ถึงแม้ว่านางจะไม่กลัวว่าท่านป้าลั่วหรงจะรู้เรื่องนี้ แต่นางก็ยังไม่สะดวกที่จะไปจวนมหาราชครูในยามนี้ เว้นเสียแต่ว่าท่านป้าลั่วหรงจะเป็นฝ่ายมาหานางด้วยตนเอง หากนางสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้เอง เช่นนั้นนางจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 288

    แต่ในยามนี้เอง จู่ ๆ ก็มีฝ่ามือแกร่งคว้าข้อมือของลั่วอวิ๋นสี่เอาไว้ พวกนางทั้งสองคนต่างรู้สึกตื่นตะลึง ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นฟู่เฉินหวน ลั่วอวิ๋นสี่ผงะอึ้งแล้วรีบชักมือกลับแล้วมองฟู่เฉินหวนด้วยสายตาไม่พอใจ "ท่านอ๋องทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรเพคะ? ท่านคิดจะเข้ามาขวาง แม้แต่เรื่องที่ข้าจะสั่งสอนเจ้านักต้มตุ๋นเชียวหรือเพคะ?" ฟู่เฉินหวนสีหน้าเย็นชา มิหนำซ้ำน้ำเสียงกลับเย็นชายิ่งกว่า จากนั้นเขาก็เอ่ยขึ้นมาว่า "บังเอิญว่าข้ากำลังตามหาตัวท่านเซียนฉู่อยู่พอดี" "คุณหนูลั่ว หากอยากก่อเรื่องเอาไว้ค่อยมาวันหลังเถอะ" ลั่วอวิ๋นสี่รู้สึกโกรธจัด แต่นางไม่กล้าล่วงเกินอ๋องผู้สำเร็จราชการซึ่ง ๆ หน้า นางจึงสะบัดแขนเสื้อแล้วมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย็นชา "เจ้ารอก่อนเถอะ เรื่องไม่จบเพียงเท่านี้แน่!" หลังจากนั้นนางก็จากไปด้วยความเดือดดาล ฟู่เฉินหวนหันกลับมาหรี่ตามองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเปี่ยมความหมาย "ดูเหมือนว่าตอนนี้ท่านเซียนฉู่จะมีชื่อเสียงไม่หยอกเลย ท่านดึงดูดปัญหาเข้ามาเสียแล้ว ต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่?" ลั่วชิงยวนหัวเราะพลางกล่าวว่า "ที่แท้นายท่านก็คือท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการนี่เอง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 289

    แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาจริง ๆ หรือ? เดิมทีลั่วชิงยวนเคยบอกว่าเขาจะเคราะห์ร้ายเพราะลุ่มหลงอิสรตี ไฉนท่านเซียนฉู่ถึงได้กลับคำเช่นนี้เล่า? ถึงแม้เขาจะสงสัยว่าลั่วชิงยวนหลอกเขามากกว่าหนึ่งครั้ง แต่เขาก็รู้สึกว่าช่วงนี้ตนเองปฏิบัติกับลั่วเยวี่ยอิงต่างออกไป เขาไม่อาจทนเห็นนางได้รับความอยุติธรรมและไม่อาจทนเห็นนางร้องไห้ได้ ต่างไปจากความรู้สึกรำคาญในตอนแรก ยามนี้เขากลับรู้สึกปวดใจ เขาชอบคนแบบนั้นลงไปได้อย่างไรกัน ทั้งยังเป็นสตรีมากเล่ห์อย่างลั่วเยวี่ยอิงด้วย! คราวนี้เขาจะต้องได้ผลลัพธ์จากฉู่ลั่วให้จงได้! ขณะที่ลั่วชิงยวนนั่งทำนายดวงชะตาให้ผู้คนอยู่นอกร้าน นางก็มักจะรู้สึกกระดูกสันหลังเย็นวาบอยู่ตลอดเวลา การที่นางรู้ว่าฟู่เฉินหวนกำลังนั่งมองนางอยู่ข้างใน ชวนให้นางรู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก! แต่ก็ไม่มีทางไล่เขาไปได้เลย ส่วนจือเฉาหลบอยู่ในเรือนเพราะเกรงว่าจะถูกฟู่เฉินหวนพบเข้า …… ณ ถนนสายหลักแห่งหนึ่ง "แม่นางซ่ง!" สวีซงหย่วนรีบเดินฝ่าฝูงชนจนไล่ตามซ่งเชียนฉู่ได้ทันในที่สุด ซ่งเชียนฉู่หันกลับมามองเขาด้วยความสงสัย "ท่านคือ..." สวีซงหย่วนยิ้มพลางยื่นถุงหอมออกมาแล้วกล่าวว่า

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status