แชร์

บทที่ 279

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ฟู่เฉินหวนนวดขมับ ผ่อนเสียงลงพร้อมกล่าว “การฟื้นฟูใบหน้าเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? หากค่อนข้างดีแล้ว ก็...”

ได้ยินประโยคนี้ ลั่วชิงยวนคุกเข่าลงมาดังตุ้บ และร้องไห้อย่างเศร้าโศกขึ้นมาทันที “ท่านอ๋องจักทรงไล่หม่อมฉันออกไปหรือเพคะ?”

“หม่อมฉันผิดไปแล้ว เมื่อนั้นหม่อมฉันเพียงอารมณ์ร้อนจึงได้เอ่ยประโยคที่เสียมารยาทเช่นนั้นต่อท่านแม่ทัพฉิน หม่อมฉันมิได้ตั้งใจ! ท่านอ๋องอย่าโกรธเคืองหม่อมฉันเลยเพคะ”

ท่าทีน่าสงสาร และน้ำเสียงสะอื้นของลั่วเยวี่ยอิง ทำฟู่เฉินหวนรู้สึกปวดหัวขึ้นมาในทันที

อีกทั้งใจอ่อนด้วย เขาพยุงลั่วเยวี่ยอิงขึ้นมา “ข้าแค่กลัวการอยู่ในตำหนักต่อโดยไม่มีฐานะจะทำเจ้าอึดอัด”

ได้ยินดังนี้ ลั่วเยวี่ยอิงฉงน แต่ในใจนางกลับรู้สึกดีใจ “ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ วันพรุ่งหม่อมฉันจักไปชดใช้ขออภัยท่านแม่ทัพใหญ่ฉินที่จวน”

ฟู่เฉินหวนคิดสักพัก จากนั้นกล่าวขมวดคิ้ว “มิจำเป็น แม่ทัพใหญ่ฉินเอ่ยวาจาเช่นนี้อยู่แล้ว เจ้าเพียงเจอตอนเขาอารมณ์ไม่ดีเข้าพอดี”

“เพคะ” ลั่วเยวี่ยอิงก้มหน้ายิ้มอ่อน

อย่างที่คิด เมื่อไม่มีลั่วชิงยวน ท่านอ๋องจะตามใจนางยิ่งกว่าเดิม!

คิ้วของฟู่เฉินหวนกลับขมวดแน่น เหตุใดเมื่อลั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 280

    ลั่วชิงยวนถูกนางลากขึ้นรถม้า ทันทีที่ขึ้นรถ แม่นมก็สั่งให้ผู้ควบม้าเพิ่มความเร็วทันที ลั่วชิงยวนเอ่ยถาม “ฮูหยินเกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ?” ตามหลักแล้วหลังนางมอบยาให้พวกเขา ก็น่าจะไม่มีเรื่องอะไรแล้วสิ แม่นมกำแขนเสื้อไว้แน่น พูดอย่างกังวลและร้อนรน “มาอีกแล้ว! เด็กคนนั้นมันมาอีกแล้ว!” ได้ยินดังนี้ ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “มาอีกแล้วหรือ?” ไม่มีเข็มนำทาง มันจะกลับมาอีกได้อย่างไรกัน “สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?” ลั่งชิงยวนถามอย่างห่วงใย แม่นมส่ายหน้า “สถานการณ์ย่ำแย่มาก! มันยังอยู่ในจวน แต่ท่านฮูกลับติดอยู่ในห้อง และไม่รู้ว่ารอบนี้จะรักษาชีวิตไว้ได้ไหม!“ แม่นมพูดไป ก็จับแขนเสื้อไว้แน่น และพึมพำกับตัวเอง “หากท่านเป็นอะไรไป จะถูกตัดเศียร…” คำพูดไม่ใส่ใจของแม่นม ทำหัวคิ้วของลั่วชิงยวนกระตุก ตัดเศียรหรือ? ฮูหยินท่านนั้น คงเป็นพระสนมในวังแล้วล่ะ! รู้ว่าผู้ที่อยู่กับฟู่เฉินหวนย่อมเป็นราชวงศ์ แต่มิคิดว่า จะเป็นผู้หญิงขององค์จักรพรรดิ! “อย่าเพิ่งร้อนใจไป เด็กคนนั้นอยากได้ตำแหน่งในท้องของฮูหยิน หากฮูหยินเป็นอะไรไป มันจะไม่ได้รับอะไรทั้งนั้น ดังนั้นมันไม่ทำร้ายท่านฮูหยินหรอก” เพี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 281

    ทุกอย่างรอบ ๆ กลับมาชัดเจนอีกครั้ง ศพในห้องก็หายไป ส่วนนางยังคงยืนอยู่ใต้ชายคา แสงในคฤหาสน์เปลี่ยนไป ศีรษะข้างเท้านางก็หายไปเช่นกัน “กรี๊ด! ออกไปนะ! ข้ามิใช่แม่เจ้า! ออกไปเดี๋ยวนี้!” ภายในห้องมีเสียงร้องตะโกนสุดกำลัง และเต็มไปด้วยความผวาส่งมา ลั่วชิงยวนวิ่งพุ่งเข้าไปในห้องโดยไม่มีเวลาสนใจอย่างอื่น เมื่อเปิดประตูออก ฮูหยินท่านนั้นกำลังวิ่งหนีไปมา และพุ่งชนข้าวของในห้องอย่างลนลาน นางหวาดกลัวจนยากที่จะควบคุมอารมณ์ ลั่วชิงยวนเดินขึ้นหน้าไปกอดนางไว้ทันที แต่กลับถูกขัดขืนอย่างรุนแรง แรงภายใต้ความอยากเอาชีวิตรอดนั้นเยอะจนน่าตกใจ ลั่วชิงยวนจึงต้องใช้สันมือฟาดลงไป เพื่อให้นางสลบ หลังนางสลบ ลั่วชิงยวนจึงยกนางไปไว้บนเตียง พร้อมจับชีพจรให้นาง ชีพจรอ่อนแอ เนื่องจากตกใจเกินเหตุ จนส่งผลกระทบไปถึงเด็กในท้องแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเด็กในท้องไม่รอดแน่! บัดนี้ด้านนอกดังขึ้นเป็นเสียงลมฟู่ ๆ พร้อมกับเสียงเด็กที่แสนยะเยือก “มันต้องตาย! มันต้องตาย!” ว่าแล้ว เด็กคนนี้แค่อยากให้นางแท้งลูก วินาทีต่อมา แจกันภายในห้องหล่นลงพื้นอย่างแรง จนส่งเป็นเสียงเคร้ง ร่างบนเตียงกระตุกเพราะความตกใ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 282

    เป็นแคว้นหลี! หากเป็นแคว้นหลี เช่นนั้นอีกฝ่ายต้องมาถึงที่แคว้นเทียนเชวียนานแล้ว ในแคว้นหลีมีคนแอบร่วมมือกับอิทธิพลแคว้นเทียนเชวียหรือ? คิดถึงตรงนี้ หัวใจของนางสั่นคลอน หากเป็นเช่นนี้ แคว้นหลีก็น่าจะหยั่งรู้อิทธิพลของแคว้นเทียนเชวียนานแล้ว การตายของนาง จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่? นางกำตุ๊กตาในมือไว้แน่น จากนั้นหันร่างกลับห้อง เพื่อจับชีพจร ฝังเข็มและจ่ายยาให้กับฮูหยิน ต่อด้วยไปปลุกแม่นมที่สลบอยู่บนพื้นด้านนอกให้ตื่น “เกิดอะไรขึ้น?” แม่นมตระหนก สีหน้าลนลานและหวาดกลัว ลั่วชิงยวนส่งตำรับยาให้นาง “ไปซื้อสมุนไพรเถิด ไม่เป็นไรแล้ว” แม่นมตะลึง มองไปรอบ ๆ ด้าน จึงพบว่าทุกอย่างได้สงบลงแล้ว “ไม่เป็นไรแล้วหรือ? ไม่เป็นไรแล้วก็ดี...” “ซื้อสมุนไพร เร็วเข้า!” ลั่วชิงยวนกำชับซ้ำ แม่นมเติ้งได้สติ “เจ้าค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้แล” นางรับตำรับยามาจากนั้นจากไปอย่างร้อนรน ลั่วชิงยวนกลับเข้ามาในห้อง ฮูหยินท่านนั้นได้ตื่นขึ้นมาแล้ว เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ร่างของนางสั่นคลอน และขดตัวอยู่ที่มุมกำแพง ลั่วชิงยวนชะงัก นางพูดเสียงต่ำ “มิต้องกลัว ข้าเอง” ฮูหยินชะงักเล็กน้อย “ท่านเซียน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 283

    ความอึดอัดมากมายที่มิกล้าเอ่ยพูดกับผู้อื่น บัดนี้นางกลับระบายให้ลั่วชิงยวนฟังจนสิ้น ลั่วชิงยวนเฝ้านางทั้งคืน และฟังเฝิงซีระบายมาทั้งคืน ต้องยอมรับเลย หญิงสาวที่เข้าวังหลวงได้ บางครั้งก็น่าสงสารยิ่งนัก พวกนางถูกคุมขังชั่วชีวิต เดิมทีพวกนางต่างเป็นคุณหนูตระกูลสูงส่งที่มีอนาคตสวยงามมากกว่านั้น แต่เพราะเข้าวังทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป เมื่อฟ้าเริ่มสว่าง ในที่สุดความกลัวจากความมืดก็ถูกปัดเป่า อารมณ์และอาการของเฝิงซีต่างดีขึ้นจากเดิมเยอะ นางกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณท่านที่ฟังข้าระบายมาทั้งคืน” “มิเป็นไร เมื่อเรื่องไม่ดีถูกพูดออกมา อารมณ์จักดีขึ้นยิ่ง และส่งผลดีต่อการฟื้นฟูร่างกาย” เฝิงซีเรียกแม่นมเข้ามา ให้แม่นมจ่ายค่าจ้าง เพียงแต่ครั้งนี้ นางยื่นให้ลั่วชิงยวนหนึ่งหมื่นตำลึงทีเดียว “ท่านฮูหยิน มิจำเป็นต้องมากเช่นนี้” แต่เฝิงซีกลับเผยยิ้ม ”เงินนี้มิใช่ของข้า ข้าใช้ของสามีข้า เขามิขาดเงิน เจ้ารับไว้เถิด” จักรพรรดิย่อมไม่ขาดเงินอยู่แล้ว ลั่วชิงยวนจึงรับตั๋วเงินมาหนึ่งกล่อง เฝิงซีกล่าวต่อ “ข้าจักแนะนำเจ้าให้ฮูหยินที่ข้าสนิทสนม เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าขายของเจ้า” “เช่นนั้นก็ขอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 284

    ใต้แสงจันทร์ นางสามารถมองเห็นร่างที่พุ่งเข้ามาด้านหน้านางอย่างชัดเจน! “ฟู่เฉินหวน!” นิ้วมือเย็น ๆ เปิดผ้าคลุมหน้าของนางออก ลั่วชิงยวนเงยหน้าและตีลังกาหลบ วินาทีนั้น นิ้วของเขาลูบผ่านใบหน้าของนาง สัมผัสละเอียดอ่อนนั้น ทำปลายนิ้วของฟู่เฉินกวนรู้สึกเร่าร้อนขึ้นมา ลั่วชิงยวนยื่นมือกดผ้าคลุมหน้าเอาไว้ นางลุกขึ้น และจดจ้องไปทางฟู่เฉินหวนด้วยสีหน้าที่สงบและแน่นิ่ง “คุณชายหมายความว่าอย่างไรกัน?” ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว นัยน์ตามีแววฉงนกะพริบผ่าน เขาฝีมือดีเช่นนี้เชียว? “ลูกผู้ชายยังสวมใส่ผ้าปิดหน้าอีก? มีเรื่องน่าอับอายกระไรงั้นรึ?” ฟู่เฉินหวนค่อย ๆ เดินเข้าไปหานาง กดดันจนลั่วชิงยวนต้องถอยหลังไปเรื่อย ๆ “คุณชายเป็นใครกัน? จึงได้ยุ่งเรื่องผู้อื่นนัก ยุ่งกระทั่งการแต่งตัวของข้า” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเยือกเย็น “ไยเจ้าต้องถอยเล่า? กลัวอะไรงั้นหรือ?” สายตาหนาวเหน็บของฟู่เฉินหวนจดจ้องลั่วชิงยวน ในใจลั่วชิงยวนแอบกลัวจริง ๆ นางมิได้ถอยต่อ “ข้าถอยเพราะต้องการหลบทางให้ท่าน” นางเอนกาย ให้ฟู่เฉินหวนผ่าน แต่ฟู่เฉินหวนมิคิดจะจากไป เขาไขว้มือไว้ด้านหลัง มองมาทางนางด้วยสายตาเยือกเย็น “

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 285

    ซ่งเชียนฉู่จึงเสงี่ยมขึ้น แต่ยังอดหัวเราะมิได้ เสียงหัวเราะของนางใสราวกับกระดิ่ง และดังไปทั่วจวนแสนสงบนี้ “ข้าออกจากจวนและได้รับข่าวสารมาไม่น้อย! ร้านของเรายายังมิทันมีชื่อเสียงเลย ความงดงามของท่านกลับโด่งดังขึ้นมาเสียก่อนแล้ว!” ลั่วชิงยวนไม่ค่อยรู้ข่าวสารจริง ๆ จำนวนคนที่มาทำนายกับนางในทุก ๆ วันมีไม่น้อย แม้เป็นเพียงงานเล็ก ๆ แต่เมื่อรวมกัน ทุกวันนางก็หาเงินได้จำนวนไม่น้อยเลย “วันนี้ไปที่จวนเฝิง ฟู่เฉินหวนเหมือนจะสงสัยข้า หากหน้าข้าสะอาดสะอ้าน ไฉนข้าจะปิดหน้ากัน? อย่างน้อยต้องมีเหตุผลให้ข้าปิดหน้าหน่อยสิ!” ลั่วชิงยวนพูดเรื่องสำคัญต่อ “เจ้ามีวิธี ใส่รอยแผลบนใบหน้า โดยที่คนอื่นดูไม่ออกว่าเป็นของปลอมหรือไม่?” นางเองก็มีวิธีของตนเอง แต่คิดถึงตัวตนของซ่งเชียนฉู่ ยาที่ซ่งเชียนฉู่รู้จักย่อมมากกว่านาง บางทีอาจมีวิธีที่ดีกว่านั้น ซ่งเชียนฉู่ เผยยิ้มมั่นใจ พร้อมกล่าว “ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เลย!” “เมื่อก่อนข้าแอบไปเล่นนอกเขา แล้วกลัวว่าจะถูกท่านพ่อลงโทษ ข้าจึงทำบาดแผลปลอม ท่านพ่อจะได้ไม่ติข้าเพราะความสงสาร” “ข้าใช้วิธีนี้มาเป็นสิบปี และได้ผลทุกครั้ง!” “สมุนไพรที่ใช้ทำบาด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 286

    ลั่วชิงยวนสีหน้าหม่นคล้ำ แน่นอนว่าย่อมไม่อาจหลบเลี่ยงได้แล้ว สวีซงหย่วนรีบคว้าตัวลั่วอวิ๋นสี่เอาไว้พลางกล่าวว่า "อวิ๋นสี่ อย่าทำให้ผู้อื่นต้องลำบากใจเลย บางทีอาจเป็นเพราะพวกเราแตกต่างกันมาก ถึงได้ไร้วาสนาต่อกัน" ลั่วชิงยวนหรี่ตามองสวีซงหย่วน คนผู้นี้แสดงละครเก่งจริง ๆ หลังจากลั่วอวิ๋นสี่ได้ยินเช่นนี้เข้าก็รู้สึกหัวใจสลาย จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้นมาว่า "ข้าไม่อนุญาตให้ท่านพูดแบบนั้น ต่อให้ไร้วาสนาก็ช่าง ข้าจักฝืนชะตาครั้งนี้เอง!" หลังจากนางพูดจบก็เท้ามือลงบนโต๊ะก็จ้องมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย่อหยิ่งจองหองแล้วข่มขู่ว่า "ข้าต้องการให้เจ้าทำนายชะตาสมรสให้ข้า เขียนลงไปซะ! มิฉะนั้นข้าจักพังร้านและแผงทำนายดวงชะตาของเจ้า!" "ตอนนี้เจ้ามีชื่อเสียงนักไม่ใช่หรือ? ถึงตอนนั้นหากข้าบอกว่าเจ้าดูดวงไม่แม่น เจ้าก็จะดำเนินกิจการทำนายดวงชะตาของตนมิได้อีกต่อไป!" มารดาของนางคัดค้านเรื่องที่นางจะอยู่กับสวีซงหย่วนมาโดยตลอด ดังนั้นท่านจึงลงโทษและออกคำสั่งให้กักบริเวณนางอยู่หลายครั้งหลายครา! ไม่นานมานี้ มีเทพพยากรณ์เลื่องชื่อปรากฏตัวขึ้นในเมืองหลวง นางอยากได้คำทำนายเพื่อจะได้พิสูจน์ให้มารดาของตนเห็น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 287

    เมื่อซ่งเชียนฉู่ได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะพลางยิ้มจาง ๆ "สวีซงหย่วนผู้นั้นมิเคยเห็นข้ามาก่อน เช่นนั้นเจ้าอยากให้ข้าไปทดสอบเขาดูหรือไม่?" ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว "เจ้าคิดจักทำอันใดกัน? กลยุทธ์สาวงาม(1)เช่นนั้นหรือ?" ดวงตาของซ่งเชียนฉู่ฉายแววเจ้าเล่ห์ จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้นมาว่า "หากสวีซงหย่วนอยู่ในกลุ่มเดียวกับสวี่ชิงหลิน เช่นนั้นเขาก็น่าจะรู้ชื่อข้า" "หากให้สวีซงหย่วนรู้ว่าดีงูที่พวกเขาต้องการอยู่ในมือข้า เขาจักเข้าหาข้าหรือไม่เล่า?" "ถึงตอนนั้น ท่านก็แค่หาวิธีทำให้ลั่วอวิ๋นสี่บังเอิญมาพบเข้าสิ!" "อย่างไรเสียจุดประสงค์ของพวกเราก็คือการค้า! ต่อให้พวกเราโดนทำลายแผงทำนายดวงชะตาเป็นบางครั้งบางคราว ก็เกินคุ้มแล้ว!" หลังจากลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็ดวงตาเป็นประกาย "ช่างเป็นแผนการอันแยบยล!" ตอนนี้นางผอมลงจนรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไปบ้างแล้ว ถึงแม้ว่านางจะไม่กลัวว่าท่านป้าลั่วหรงจะรู้เรื่องนี้ แต่นางก็ยังไม่สะดวกที่จะไปจวนมหาราชครูในยามนี้ เว้นเสียแต่ว่าท่านป้าลั่วหรงจะเป็นฝ่ายมาหานางด้วยตนเอง หากนางสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้เอง เช่นนั้นนางจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่อง

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1290

    ขณะพูด เฉินชีก็รีบหยิบขวดโอสถขวดหนึ่งออกมา พลางเทโอสถลูกกลอนหนึ่งเม็ดส่งให้ลั่วชิงยวนกินมันสามารถปกป้องหัวใจของนางได้รถม้าโคลงเคลงไปตลอดทาง เร่งมุ่งหน้าไปยังจวนของเฉินซีอย่างรวดเร็วหลานจีได้ยินเสียงจึงเดินมาที่ลาน นางสงสัยมากว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้ท่านแม่ทัพต้องรีบร้อนออกไปอย่างกะทันหันทว่านางกลับเห็นเฉินชีลงจากรถม้าพร้อมกับอุ้มลั่วชิงยวนที่ได้รับบาดเจ็บ“ท่านแม่ทัพ… นางคือ...” หลานจีรีบสาวเท้าเข้ามาแต่นางกลับถูกเฉินชีผลักออกไปอย่างไร้ความเมตตา “อย่ามาขวางข้า!”หลานจีต้องถอยหลังไปสองก้าวถึงจะทรงตัวไว้ได้เมื่อได้สติ เฉินชีก็เดินไปไกลพร้อมกับสตรีในอ้อมแขนแล้วหลานจีตกตะลึงเหตุใดท่านแม่ทัพถึงต้องเป็นห่วงสตรีนางนั้นถึงเพียงนี้?นางเป็นใครกัน?หลานจีเกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างกะทันหันนางตามไปดูด้วยความมิพอใจเฉินชีอุ้มลั่วชิงยวนเข้ามาที่ห้องของตน เขาวางนางลงบนเตียงแล้วเรียกนางรับใช้มาเปลี่ยนอาภรณ์ให้ลั่วชิงยวนนางรับใช้พากันสาละวนเข้า ๆ ออก ๆ เรือนกันยกใหญ่ยามนี้หลั่วชิงยวนหลับไปแล้วจากนั้นเฉินชีก็ออกจากห้องไป และมิรู้ว่าเขาไปที่ใดหลังจากที่นางรับใช้เปลี่ยนอา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1289

    "ตอนนี้มิว่าท่านจะตรัสอะไรไปก็ไร้ประโยชน์”“ไม่มีใครสนใจหรอกเพคะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สีหน้าของฉินอี้และฮองเฮาเกาก็เปลี่ยนไปฮองเฮาเกาจ้องนางด้วยสายตาดุร้ายนางยิ้มเยาะ “ในที่สุดก็ยอมเอ่ยปากแล้วรึ? อย่าลืมที่ข้าพูดไว้สิว่า หากเจ้าพูดข้าจะตัดลิ้นเจ้าทิ้งเสีย!”จากนั้นนางก็ส่งสายตาเป็นนัยให้องครักษ์องครักษ์สองคนก้าวไปข้างหน้า คนหนึ่งจับไหล่ของลั่วชิงยวน อีกคนหยิบมีดขึ้นมาเตรียมตัวพร้อมลงมือฉินอี้ตกใจและครุ่นคิดอย่างรวดเร็วว่าจะทำอย่างไรดีลั่วชิงยวนยังมิยอมแพ้ รอยยิ้มเย็นชาผุดขึ้นบนใบหน้าของนาง “องค์ชายใหญ่ทรงเคยคิดหรือไม่เพคะว่าเหตุใดวรยุทธ์ของท่านถึงหยุดนิ่งมิพัฒนาไปไหน?”“เหตุใดถึงเรียนรู้ได้ช้า แม้จะทุ่มเทความพยายามมากกว่าคนทั่วไปหลายสิบเท่า แต่ก็ยังมิสามารถเรียนรู้ได้เท่ากับที่คนอื่นทำได้”“นั่นมีเหตุผลอยู่เพคะ”“ที่จริงแล้ว ทั้งหมดมิใช่เป็นเพราะพรสวรรค์ที่ธรรมดาเพคะ”“แต่มีพิษชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า…”เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น ฉินอี้ก็ตกใจเป็นอย่างมากฮองเฮาเการีบกระชับเสื้อของนางด้วยความกังวล สีหน้าของนางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงและขณะที่ลั่วชิงยวนกำลังจะพูดออกมาน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1288

    ทันทีที่คำกล่าวเหล่านี้หลุดออกมาร่างกายของฟู่เฉินหวนก็แข็งทื่อดวงตาของฉินอี้เต็มไปด้วยความคาดหวังอันร้อนแรงตั้งแต่เล็กจนโต แม้เขาจะเป็นองค์ชาย แต่ก็มีเพียงมิกี่คนที่ให้ความเคารพเขาแม้กระทั่งน้องสาวของเขาเองก็มักจะลงมือทำร้ายเขาบ่อย ๆ โดยมิไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อยส่วนคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคืออ๋องผู้เป็นเทพสงครามเทพแห่งแคว้นเทียนเชวียและผู้สำเร็จราชการผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้าเขาจึงตั้งตารอที่จะได้เห็นฟู่เฉินหวนคุกเข่าด้วยความเคารพฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จริงเขาสามารถเจรจากับฉินอี้ได้ และมีเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายที่เขาสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายได้ทว่าการเจรจาต้องอาศัยยุทธวิธีและที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องมีจิตใจที่สงบมั่นคงแต่ในเวลานี้ ฟู่เฉินหวนมิสามารถทำเช่นนั้นได้เขาแทบจะรอมิไหวแล้วดวงตาของเขาขรึมลง พลางยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงเสียงดังตึงเมื่อเข่ากระทบพื้นนั้นเจือไปด้วยความอึดอัดกลัดกลุ้ม แต่เป็นเสียงที่ฉินอี้ฟังแล้วรู้สึกสบายหูเป็นอย่างยิ่งมิอาจปฏิเสธได้ว่าตอนนี้เขาพอใจอย่างถึงที่สุดนี่เป็นความรู้สึกที่เขาพยายามเสาะหามาตลอดหลายปีแต่ก็มิเคยได้มันมาโดยเฉพา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1287

    ในห้องขังอันเงียบงัน เสียงเฆี่ยนตีดังชัดเจนจนเหมือนได้ยินเสียงผิวหนังฉีกออกเป็นชิ้น ๆทำเอาคนที่ได้ยินรู้สึกใจสั่นที่มุมตรงทางเดิน บุรุษสวมหน้ากากที่อยู่ข้างหลังฉินอี้กำหมัดแน่นในทันทีฝ่ามือถูกจิกจนเกือบจะเลือดออกฟู่เฉินหวนที่ได้ยินเสียงนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงและอดมิได้ที่จะพุ่งไปหาแต่ฉินอี้คว้าข้อมือของเขาเอาไว้“เฉินชีจะมาช่วยนางเอง”“หากตอนนี้เจ้าถูกจับได้ก็ช่วยนางออกไปมิได้ แล้วพวกเจ้าก็จะต้องตายอยู่ที่นี่”“ด้วยตัวตนของเจ้า มีแต่จะต้องเผชิญกับจุดจบที่น่าอนาถยิ่งกว่าเดิม”ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่น เขาก้าวถอยหลังมาหนึ่งก้าวและอดทนต่อไปฝ่ามือของเขาเหงื่อออกเมื่อได้ยินเสียงเฆี่ยนตีอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มีเสียงร้องของความเจ็บปวด ก็สามารถบอกได้ว่า ลั่วชิงยวนกำลังทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมากเพียงใดนั่นทำให้ฟู่เฉินหวนรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมากทว่าเขาทำได้เพียงเฝ้ามองจากที่ไกล ๆ มิสามารถเข้าไปใกล้หรือช่วยนางได้เสียงแส้ดังขึ้นอย่างมิหยุดหย่อน และเสียงแส้ในแต่ละครั้งนั้นดูเหมือนจะฟาดลงไปที่หัวใจของฟู่เฉินหวนจนเลือดสด ๆ ไหลออกมาเป็นทางเวลาเหมือนจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า และเสียงแส้น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status