แชร์

บทที่ 166

ผู้แต่ง: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
”องค์จักรพรรดิทรงเตรียมกำลังคนเอาไว้แล้ว”

เขาโบกมือแล้วก็มีองครักษ์เงาสองนายกระโดดออกมาจากเงามืด

ลั่วชิงยวนก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด เขาได้เห็นผู้ที่ลอบเข้ามาในห้องเมื่อคืนหรือไม่?

“ว่ามา” ฟู่เฉินหวนเอามือไพล่หลังและมองลั่วชิงยวนด้วยแววตาเย็นชา

“กรายทูลท่านอ๋อง เมื่อคืนผู้ที่เข้าห้องนี้มีเพียงผู้เดียวพ่ะย่ะค่ะ”

“เป็นนางรับใช้ข้างกายพระชายา แม่นางจือเฉา”

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกใจมาก “จือเฉาหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร!”

“คนของข้าไม่ผิดพลาดแน่ นางเข้าไปในห้องพร้อมอาหาร” องครักษ์เงาทั้งสองต่างบอกเป็นเสียงเดียวกัน

ลั่วชิงยวนรู้สึกยากจะเชื่อ จะเป็นจือเฉาไปได้อย่างไร

นางรีบส่งคนไปตามจือเฉามาทันที

เมื่อจือเฉามาถึง นางก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“จือเฉา ข้าขอถามเจ้า เมื่อคืนนี้เจ้าออกมาจากเรือนหรือไม่?” ลั่วชิงยวนถามอย่างร้อนใจ

จือเฉาไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด นางพยักหน้าและบอกว่า “ข้าออกเจ้าค่ะ”

“แต่เมื่อคืนนี้พระชายาเข้านอนเร็ว และข้าก็ทำงานของข้าเสร็จเร็วจึงเข้านอนแต่หัววัน เมื่อคืนนี้ข้าเลยเข้านอนเร็วกว่าปกติ”

ลั่วชิงยวนรู้สึกร้อนใจ จึงถามต่อว่า “ข้าหมายความว่า เมื่อคื
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 167

    ”หากหม่อมฉันต้องการฆ่าเขา หม่อมฉันมีวิธีการมากมายที่จะทำโดยไม่ให้ท่านรู้และให้เขาตายไปเงียบ ๆ”“เหตุใดหม่อมฉันต้องส่วนนางรับใช้ข้างกายไปฆ่าคนปิดปากด้วย และยังทิ้งร่องรอยไว้มากขนาดนี้?”ตอนนี้แววตาฟู่เฉินหวนเองก็ดำคล้ำเขาจ้องนางเขม็ง ดวงตาสั่นไหวด้วยความคลางแคลงใจลั่วชิงยวนรู้ดีว่าเขาเองก็คิดเรื่องนี้ และอาจจะมีเวลาที่คิดว่านางนั้นโดนใส่ร้ายแต่แววตาฟู่เฉินหวนก็กลับมาเย็นเยียบ เขาสั่งเสียงเย็นชาว่า “เอานางไปขังไว้”หลังจากนั้นเขาก็เดินจากไปลั่วชิงยวนตกตะลึงเขานั้นยอมสังหารคนบริสุทธิ์นับพันดีกว่าปล่อยคนผิดลอยนวลเมื่อมีความแคลงใจบ่มเพาะในใจ ก็ยากที่จะมองคนผู้นั้นโดยไร้อคติอีกต่อไปลั่วชิงยวนเข้าใจเรื่องนี้ดี“ท่านอ๋องเพคะ พระชายาบริสุทธิ์ พระชายาไม่เคยส่งหม่อมฉันไปที่คุก และหม่อมฉันเองก็ไม่เคยเข้าไปที่นั่นด้วยซ้ำ ทรงพิจารณาด้วยเถิดเพคะ”จือเฉาคุกเข่าขอร้อง นางถึงกับลุกเพื่อวิ่งตามฟู่เฉินหวนไปแต่ว่าเขาไม่ได้หยุดเท้าแม่นมเติ้งพยุงลั่วชิงยวนให้ลุกขึ้นอย่างไม่สบายใจ “พระชายา บ่าวควรทำเช่นไรดี?”ตอนนั้นเององครักษ์เงาสองคนก็เข้ามา และพาตัวลั่วชิงยวนและจือเฉาไปขังไว้ในคุก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 168

    ในห้องขังจือเฉาขยับร่างของนักทำนายชะตาไปด้านข้าง แล้วจัดเตียงง่าย ๆ “พระชายา มานั่งพักสักนิดเถิดเจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนตรวจดูอาหารและเห็นว่าสิ่งที่สังหารนักทำนายชะตาเป็นเพียงพิษดาษดื่นธรรมดาเท่านั้นทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังจากนอกห้องพลันประตูห้องขังก็โดนเปิดออก แม่นมเติ้งเดินเข้ามาพร้อมอาหาร “พระชายา”เมื่อวางอาหารลงแล้วแม่นมเติ้งก็รีบมากระซิบที่ข้างหูนางว่า “พระชายา ข้าแอบไปตรวจดูแล้ว นางรับใช้หลายคนที่รูปร่างคล้ายจือเฉาต่างพิสูจน์ได้ว่าเมื่อคืนพวกนางไม่ได้ออกจากเรือนเจ้าค่ะ”“แต่มีนางรับใช้คนหนึ่งที่ท่าทางคล้ายกัน นางออกไปซื้อของตอนเย็นแล้วยังมิได้กลับเข้ามา”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลั่วชิงยวนก็นิ่วหน้า “หาตัวนางรับใช้นั้นให้เจอ”แม่นมเติ้งพยักหน้าและพูดอย่างจริงจังว่า “ข้าจะหาทางหาตัวนาง ท่านอ๋องเองก็คงกำลังคิดว่าจะทำเช่นไรต่อไป หากว่านางรับใช้คนนั้น…”ลั่วชิงยวนนิ่วหน้าตอบว่า “หาคนให้ได้ก่อนเถอะ”“เจ้าค่ะ” แม่นมเติ้งรับคำและรีบจากไปห้องขังถูกใส่กุญแจจากด้านนอกอีกครั้งดูเหมือนว่าตอนนี้ด้านนอกจะไม่มีใครอยู่ แต่ลั่วชิงยวนรู้ดีว่ามีองครักษ์เงาสองคนคอยเฝ้าอยู่ไม่ห่างหลังจาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 169

    จือเฉาร้อนใจจนนางก้าวออกมาอย่างฉุนเฉียวและผลักเฉียงเวยออกไป “เจ้าพูดไร้สาระอันใดกัน? อย่ามาแตะต้องพระชายานะ”“เราต่างก็เห็นกันอยู่กับตา องค์ชายห้าเอาสัมภาระมาด้วย หากว่านี้ไม่ใช่หนีตามกันแล้วคืออันใดเล่า?” เฉียงเวยพูดเสียงแหลมอย่างประชดประชัน“ข้าไม่คิดเลยว่า หน้าตาและเรือนร่างอย่างพระชายาจะสามารถล่อลวงบุรุษได้ ขนาดองค์ชายห้ายังยอมเสี่ยงทุ่มเทเพื่อหนีตามไปกับท่าน”การหนีตามกันนั้นเป็นเรื่องใหญ่ในราชวงศ์ และจะเป็นเรื่องน่าอับอายให้โดนติฉินนินทามากสำหรับองค์ชายหากว่าเรื่องนี้แพร่ออกไปส่วนพระชายานั้นต้องโดนฝังทั้งเป็น หรือไม่ก็โดนจับถ่วงแม่น้ำเมื่อเป็นเช่นนั้นแน่นอนว่าเฉียงเวยจึงไม่มีอะไรต้องกลัวลั่วเยวี่ยอิงยิ่งยินดีเมื่อได้ยินเช่นนั้น แบบนี้ลั่วชิงยวนยังจะเอาชีวิตรอดไปได้อีกหรือ?“อย่าพูดจาไร้สาระ…” ฟู่อวิ๋นโจวเริ่มร้อนใจและไอออกมาอีกครั้งก่อนที่จะทันพูดได้จบ“ไร้สาระหรือเพคะ? เรื่องที่หม่อมฉันพูดไร้สาระตรงไหน? นี่เป็นเพราะพระชายากระทำตัวไม่เหมาะสม ก่อนหน้านี้นางก็พยายามดิ้นรนจนได้สมรสกับท่านอ๋องจนสำเร็จ วิธีการของนางนั้นช่างชั่วร้ายนัก”“ตอนนี้หม่อมฉันก็ไม่รู้ว่านางล่อลวงอง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 170

    ลั่วชิงยวนไม่ได้หลบดาบเย็นเยียบนั้นชี้มาที่นาง ข่มขู่ถึงแก่ชีวิตน้ำเสียงของเขาเย็นชาเหมือนดั่งวันที่ลั่วชิงยวนตื่นขึ้นมาและพบว่าตนเป็นภรรยาของเขา น้ำเสียงที่ไร้ซึ่งอารมณ์และความอบอุ่นใด…“นั่นก็เพราะว่าโดนจับได้ก่อนหนีตามสำเร็จ”ริมฝีปากลั่วชิงยวนยกโค้งเป็นรอยยิ้มหยันตนเอง “เพราะว่าลั่วเยวี่ยอิงบังเอิญมาเห็นเข้าสินะ ดังนั้นหากว่าไม่โดนจับได้ก็คงจะหนีตามกันไปแล้วใช่หรือไม่เล่า? ช่างเถอะ ข้าไม่คิดว่าท่านอ๋องจะเชื่อข้าอยู่แล้ว”นางไม่คิดจะตามองค์ชายห้าไปจริง ๆ แต่ดูเหมือนว่าคำอธิบายนั้นจะยิ่งเหมือนคำแก้ตัวดังนั้นนางจึงหลับตาลงแล้วรอให้ดาบของฟู่เฉินหวนแทงเข้ามามือของนางกำแน่นอยู่ใต้แขนเสื้อเข็มทิศนั้นสั่นไหว เริ่มจากสั่นช้า ๆ ก่อนที่จะเร่งความเร็วขึ้นมีบางอย่างกำลังใกล้เข้ามาเมื่อเห็นว่าลั่วชิงยวนเจตนาจะหลับตาลง แววตานิ่งไร้อารมณ์ของฟู่เฉินหวนก็มีประกายบางอย่างพาดผ่านชั่วแวบ ดาบนั้นก็ยังคงไม่ขยับ“ท่านอ๋อง…” เมื่อได้เห็นว่าฟู่เฉินหวนชักช้าไม่ลงมือ ลั่วเยวี่ยอิงก็อดไม่ได้ที่จะเตือนเขาแต่นางไม่กล้าที่จะพูดอะไรมาก เพราะห่วงว่าตนจะทิ้งภาพที่ไม่ดีในสายตาของท่านอ๋องจือเฉาคุ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 171

    แต่ในวันที่สองของการแต่งงานเข้ามาแทน นางก็แสร้งทำจะเป็นจะตายให้เขาดูตอนนี้ลั่วเยวี่ยอิงเองก็ตื่นตระหนกไม่ใช่เพราะว่าลั่วชิงยวนนั้นหาที่ตาย แต่ว่านางได้ยินความร้อนรนในน้ำเสียงของท่านอ๋องเห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากให้ลั่วชิงยวนตายนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ท่าทีของท่านอ๋องที่มีต่อลั่วชิงยวนเห็นได้ชัดว่าเปลี่ยนไป เพียงแต่ท่านอ๋องนั้นไม่รู้ตัว หรือไม่ก็ไม่ยอมรับ“ท่านอ๋อง…” ลั่วเยวี่ยอิงพูดอย่างระแวดระวัง อยากจะเตือนท่านอ๋องว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พระชายารนหาที่ตายแต่ตอนนั้นเปลือกตาของลั่วชิงยวนก็ปิดลง นางหมดสติไปแล้วฟู่เฉินหวนดูร้อนใจมากและอุ้มลั่วชิงยวนเดินออกไป “ไปตามท่านหมอกู้มา”จือเฉารีบวิ่งตามไปลั่วเยวี่ยอิงยืนค้างอยู่ตรงนั้น นางและเฉียงเวยมองพวกเขาเดินจากไป นางกัดฟันแน่นอย่างเกลียดชัง“เหตุใดกัน? ท่านอ๋องถึงไม่อยากให้นางตาย? เพราะเหตุใดกัน?”ลั่วเยวี่ยอิงคิดไม่ออกว่า เหตุใดทั้งท่านอ๋องและองค์ชายห้าถึงได้ปฏิบัติกับลั่วชิงยวนต่างออกไปทั้งที่นางน่าเกลียดราวกับสุกรเฉียงเวยอยากจะพูดบางอย่าง แต่เพราะขากรรไกรที่หลุดนั้นเจ็บปวดมากจนนางได้แต่ร้องไห้ นางจึงไม่ได้สนใจอะไรลั่วเยว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 172

    ”เจ้าตอบแทนผู้ช่วยชีวิตเช่นนี้หรือ?”สายตาลึกล้ำสงบนิ่งนั้นเหมือนจะมองทะลุทุกสิ่ง ทำให้เงาที่ลอยอยู่ในอากาศนั้นตัวแข็งทื่อ และมือที่เกาะกุมลำคอลั่วชิงยวนแน่นก็คลายลง“ท่านเห็นข้าหรือ?” น้ำเสียงแหบพร่าของนางเต็มไปด้วยความสับสนมุมปากลั่วชิงยวนยกขึ้นเล็กน้อย “ข้าช่วยเจ้าออกมาจากภาพวาด แน่นอนว่าข้ามองเห็นเจ้า”เมื่อได้ยินเช่นนี้ดวงตาสตรีชุดแดงก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง นางถามด้วยเสียงแหบพร่า “แล้วเหตุใดท่านต้องช่วยมันด้วย คนชั่วผู้นั้นทำร้ายข้าและลูก”ตอนนี้เองที่ลั่วชิงยวนเข้าใจว่า เหตุใดสตรีชุดแดงจึงอย่างฆ่านางและฟู่เฉินหวนเพราะว่าพวกเขาช่วยนักทำนายชะตามาไม่แปลกใจที่นักทำนายชะตามั่นใจมากว่าตนต้องตาย แม้ว่าจะไม่โดนผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลังฆ่า เขาก็ต้องตายด้วยน้ำมือแม่ลูกคู่นี้นี่เป็นสิ่งที่กรรมชั่วสนองเขา ตอนนี้วิญญาณแม่ลูกนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชังและเจตนาสังหาร ดังนั้นจึงรับมือได้ไม่ง่าย“แต่เขาก็ตายอยู่ดี” ลั่วชิงยวนตอบหลังจากได้ยินเช่นนี้ สตรีชุดแดงยิ่งคลุ้มคลั่ง แววตาของนางแดงฉานและกรีดร้องว่า “มันตายแล้ว ข้าจะไปแก้แค้นกับผู้ใดกัน มันทรมานข้ามาห้าปี แล้วข้าจะไปทวงความแค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 173

    ยามนั้นสตรีชุดแดงรู้สึกได้ถึงพลังที่กดข่ม นางมิอาจสู้สตรีตรงหน้าได้ นางไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากร้องขอความเมตตาลั่วชิงยวนพูดเสียงเย็น “เจ้ามีความอาฆาตแค้นมากเกินไป ข้าจะช่วยสลายและช่วยให้เจ้าได้ไปเกิดใหม่”เมื่อได้ยินเช่นนั้นสตรีชุดแดงก็ตะลึง จากนั้นก็ส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง “ข้าไม่ต้องการจะไปเกิดใหม่ ข้าไม่ต้องการ… ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ”สตรีชุดแดงอ้อนวอน นางคุกเข่าขอร้องอย่างสิ้นหวัง“เพราะเหตุใดเล่า?” ลั่วชิงยวนแปลกใจสตรีชุดแดงคุกเข่าอยู่กับพื้น นางร้องไห้สะอึกสะอื้น “ข้าไม่เต็มใจรับ ข้าโดนหลอกให้จากบ้านมาแล้วลูกชายของข้าก็โดนคนชั่วสังหารพร้อมข้า”“แต่สามีของข้าโดนเจ้าคนชั่วนั่นหลอก เขาคิดมาตลอดว่า ข้านั้นเป็นคนหนีจากบ้านมาเองด้วยโทสะ เขานั้นทั้งรู้สึกผิด ทั้งเสียใจจนดื่มสุราเมามายทั้งวัน”“และนางหญิงผู้นั้นที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับข้า ก็หาทางเข้าสู่อ้อมกอดเขาแล้วหลอกลวงเขา เขารักใคร่นางนัก…”“ข้าไม่… ข้าไม่เต็มใจ”สตรีชุดแดงร้องไห้อย่างขมขื่นและเด็กที่อยู่ข้างกายนางก็เริ่มร้องไห้ พยายามที่จะกอดแม่ของเขาไว้ “ท่านแม่…”เมื่อได้ยินเช่นนี้ลั่วชิงยวนก็รู้สึกสงสารและไม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 174

    ดึกสงัดในราตรีนั้น สายลมก็พัดเย็นเยียบ ลั่วชิงยวนมีแม่นมเติ้งประคองเดินออกมาสูดอากาศด้านนอกแต่ตอนนั้นที่เรือนหัวถิงมีลมกระโชกแรงลั่วเยวี่ยอิงที่นั่งอยู่หน้ากระจกทองเหลืองกำลังทายาอย่างระมัดระวัง นางมองใบหน้าของตนในกระจกอย่างกังวลเมื่อไรที่แผลบนหน้าจะดีขึ้น?ทันใดนั้นลมก็โหมพัดหน้าต่างเปิดออก พาเอาฝุ่นและใบไม้มากมายเข้ามาในห้องลั่วเยวี่ยอิงตกใจและรีบยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยแขนเสื้อ แต่นางก็โดนละอองฝุ่นพัดใส่จนลืมตาไม่ขึ้น“เฉียงเวย นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”เฉียงเวยรีบวิ่งเข้ามาปิดหน้าต่าง แต่มันก็โดนลมกระโชกพัดจนเปิดอีกรอบหลังจากที่ปิดไปแล้วครั้งแล้วครั้งเล่าลมแรงนั้นพัดใบไม้สั่นไหวเสียงดัง และกลิ่นก็แปลกพิกลครั้งสุดท้ายที่เฉียงเวยปิดประตู มันก็โดนลมแรงพัดจนเปิดออก เฉียงเวยโดนประตูกระแทกจนล้มใส่โต๊ะอย่างแรงและหมดสติไปตึง ตึง ตึงประตูหน้าต่างเปิดปิดไม่หยุด และเสียงก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อย ๆ ลั่วเยวี่ยอิงนั้นหวาดกลัวมากจนนางทรุดตัวลงหลบกับพื้น ขนลุกชันทั่วร่างนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางเจอเรื่องแบบนี้นางนั้นหวาดกลัวมาก คิดว่าหากนางหลบซ่อนตัวก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ตอนนั้นเองนางก็

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1105

    ดีงูที่ทำให้ฝีมือของนางเพิ่มพูนขึ้นอย่างมากนั้น นางยังคงจำได้มิลืมเลือนน่าเสียดายที่ข้างกายซ่งเชียนฉู่มีคนผู้ทรงอานุภาพคอยคุ้มครอง นางจึงพยายามด้วยวิธีการต่างๆ แต่ก็ยังล้มเหลวการใช้ความสัมพันธ์ระหว่างฉู่ลั่วกับซ่งเชียนฉู่อาจจะประสบความสำเร็จ แต่ฉู่ลั่วกลับดื้อดึงมิยอมร่วมมือกับนาง!เมื่อมิสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็จำต้องทำลายเขาเสีย!ลั่วชิงยวนกลับไปยังลานหลังร้านซ่งเชียนฉู่ถามด้วยความสงสัยว่า “ท่านมิได้ไปแล้วหรอกหรือ? เหตุใดจึงกลับมาอีก?”ลั่วชิงยวนทำท่าให้เงียบแล้วพาส่งเฉียนฉู่กลับไปยังห้อง จากนั้นบอกเล่าเรื่องราวให้ฟังเมื่อซ่งเชียนฉู่ฟังจบก็รีบกล่าวว่า “ดูเหมือนว่านางผู้นี้จะมิปล่อยท่านไป หรือว่าท่านจะเข้าวังไปดำรงตำแหน่งมหาปราชญ์ เมื่อมีตำแหน่งนี้แล้ว นางก็จะต้องเกรงใจบ้าง”ลั่วชิงยวนไตร่ตรอง แล้วพูดว่า “มหาปราชญ์ อืม... ค่อยว่ากันอีกที”จนกระทั่งล่วงเข้ายามดึก เมื่อแน่ใจแล้วว่าลั่วฉิงจากไปแล้ว ลั่วชิงยวนจึงกลับตำหนักอ๋องอย่างเงียบเชียบเมื่อกลับแล้วก็ถูกหล่างมู่ขวางทาง “พี่หญิง ท่านไปที่ใดมาขอรับ? ฟู่เฉินหวนมาหาท่านตอนค่ำ”“แล้วเจ้าบอกเขาว่าอย่างไร?”“ข้าบอกว่าพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1104

    ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมองหล่างมู่อย่างช่วยมิได้“หล่างมู่ เจ้ากลับไปก่อนเถิด ข้าจะไปทำธุระก่อน” ลั่วชิงยวนหันหลังวิ่งไปหล่างมู่ถือลูกถังหูลู่สองไม้วิ่งตามไปสองสามก้าว “พี่หญิง ท่านจะไปที่ใด? ไฉนมิพาข้าไปด้วยเล่า?”ลั่วชิงยวนมิได้ใส่ใจ รีบวิ่งออกจากถนนไปแล้วเมื่อไปเปลี่ยนอาภรณ์ที่หอฝูเสวี่ยแล้ว นางจึงไปที่ร้านอย่างเงียบเชียบเมื่อไปถึงลานด้านหลังก็พบกับซ่งเชียนฉู่ที่กำลังแบกตะกร้ากลับมาจากประตูหน้า ท่าทางดูรีบร้อนนัก“ท่านมาพอดี ท่านเห็นประกาศบนถนนหรือไม่? องค์จักรพรรดิจะเชิญท่านเข้าวังเพื่อแต่งตั้งท่านเป็นมหาปราชญ์!” ซ่งเชียนฉู่ส่งประกาศให้“นี่เป็นประกาศที่ติดอยู่ที่ประตูร้านเรา”“มิกี่วันที่ผ่านมา ข้าออกไปเก็บสมุนไพร พวกเขาคงจะมาหาท่าน แต่ไม่มีใครอยู่จึงติดประกาศไว้”“จะทำอย่างไรดี?”ซ่งเชียนฉู่ก็ตกตะลึงเช่นกันลั่วชิงยวนรับประกาศมาดูอีกครั้ง ในนั้นยังเขียนด้วยว่าให้นางเข้าวังหลวงเพื่อทำนายชะตาของแคว้นเทียนเชวียแล้วแต่งตั้งเป็นมหาปราชญ์ซ่งเชียนฉู่ถอนหายใจ “ข้าคิดว่าครั้งนี้ ตัวตนของท่านคงจะปกปิดมิได้แล้ว”“คอยดูกันต่อไปเถิด” ลั่วชิงยวนยังมิรู้ว่าจะบอกฟู่เฉินหวนอย่างไร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1103

    น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนนั้นบ่งบอกชัดเจนว่ากำลังหึงหวงอยู่ลั่วชิงยวนปอกส้มแล้วป้อนให้ฟู่เฉินหวนพลางพูดอย่างอารมณ์ดีว่า “หล่างมู่มองหม่อมฉันเป็นเพียงพี่หญิงจริง ๆ เพคะ”“เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่หญิงมาตั้งแต่เด็ก แต่พี่หญิงของเขาเสียชีวิตเพราะเขา จึงเป็นบ่วงกรรมและความเสียใจตลอดชีวิตของเขา”“ต่อมาหล่างชิ่นกลายเป็นพี่หญิงของเขา เขาเชื่อฟังหล่างชิ่นทุกอย่าง แต่สุดท้ายหล่างชิ่นกลับต้องการให้เขาตาย”“หลังจากนั้นเมื่อหม่อมฉันไปยังเผ่านอกด่าน ราชาเผ่านอกด่านบอกว่าหม่อมฉันเป็นพี่หญิงของเขา ดังนั้นเขาจึงมองหม่อมฉันเป็นพี่หญิงแท้ ๆ มาโดยตลอด”เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนั้นก็สงสัยยิ่งนัก “พูดตามตรงคือข้ายังคงมิเข้าใจเลยว่าเหตุใดราชาเผ่านอกด่านจึงมั่นใจว่าเจ้าเป็นลูกสาวของเขา”ลั่วชิงยวนพูดเสียงเบาว่า “ราชาเผ่านอกด่านกับลั่วไห่ผิงมีใบหน้าเหมือนกันราวกับแกะ! พวกเขาเป็นพี่น้องกันเพคะ!”“ก่อนที่ท่านแม่ของหม่อมฉันจะมาเมืองหลวงแล้วแต่งงานกับลั่วไห่ผิง นางเคยมีความสัมพันธ์กับราชาเผ่านอกด่าน แต่สุดท้ายก็มิได้ลงเอยกันจึงมาเมืองหลวงและแต่งงานกับลั่วไห่ผิงเพคะ”ฟู่เฉินหวนตกตะลึงยิ่งนักเมื่อได้ฟัง“

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1102

    หล่างมู่ชกเข้าที่ใบหน้าของฟู่เฉินหวนจนฟู่เฉินหวนถอยหลังไปหลายก้าวหล่างมู่แสดงสีหน้าโกรธแค้น “ข้าขอเตือนท่านเลยว่าถ้าท่านทำเช่นนี้กับพี่หญิงของข้าอีก ข้าจะฆ่าท่านเสีย!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพลางเช็ดเลือดที่มุมปาก “ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด ข้าจะพบกับนาง”“นางอยู่ที่ใด แล้วท่านเกี่ยวอะไรด้วย!” หล่างมู่แสดงสีหน้ามิพอใจ เขายังคงจำได้ว่าในวันคล้ายวันพระราชสมภพของจักรพรรดิ อ๋องผู้สำเร็จราชการยินดีที่จะมอบลั่วชิงยวนให้เขาชายคนนี้ช่างน่ารังเกียจ!เขามิเข้าใจว่าเหตุใดพี่หญิงจึงยังคงอยู่กับชายผู้นี้วันนี้กลับนิ่งเฉยมองดูคนอื่นทำร้ายพี่หญิงอย่างมิแยแสอีก!หล่างมู่มิพอใจอย่างยิ่งเมื่อทั้งสองสบตากัน ความเป็นปรปักษ์ก็ปะทุขึ้นบรรยากาศตึงเครียด ในวินาทีต่อมาดูเหมือนว่าจะต้องต่อสู้กันแน่แล้วลั่วชิงยวนเพิ่งเข้ามาในลานก็เห็นเหตุการณ์นี้ จึงรีบเข้าไปขวางไว้“พวกท่านกำลังทำอะไรกัน!”“แค่ก แค่ก แค่ก...” เมื่อนางร้อนใจก็กุมอกด้วยความเจ็บปวดสีหน้าของทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างมากแล้วเข้าไปพยุงนางพร้อมกัน ลั่วชิงยวนปัดมือของทั้งสองออก แล้วหันไปมองหล่างมู่ “พี่บอกเจ้าว่าอย่างไร!”ความโกรธของหล่างมู่หา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1101

    ฟู่จิ่งหานมิได้ใส่ใจเรื่องนี้ แต่กลับรู้สึกผิดเล็กน้อยที่พระราชโองการนั้นทำให้ลั่วชิงยวนได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ จึงพูดว่า “มิเป็นอะไร การประลองครั้งนี้ก็มิได้ห้ามมิให้แคว้นเพื่อนเรือนเคียงเข้าร่วม”“พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการสามารถเอาชนะองค์ชายเผ่านอกด่าน แล้วยกให้เป็นน้องชายได้ นับว่าความสามารถเป็นที่ประจักษ์แก่ข้าแล้ว!”“พระชายามีบาดแผล อนุญาตให้พระชายาและองค์ชายหล่างมู่ออกไปก่อนได้”ลั่วชิงยวนก้มหน้าลงเล็กน้อย “ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ”แล้วหล่างมู่ก็พยุงลั่วชิงยวนออกไปเนื่องจากหอฝูเสวี่ยอยู่มิไกลและสามารถมองเห็นการประลองจากชั้นสามได้ ลั่วชิงยวนจึงพาหล่างมู่ไปพักผ่อนที่หอฝูเสวี่ยก่อนซิ่งอวี่ต้มยามาให้นางกินลั่วชิงยวนนั่งข้างหน้าต่าง มองดูการประลองที่ยังคงดำเนินต่อไป เมื่อเห็นฟู่อวิ๋นโจวเอาชนะทุกคนได้ นางก็รู้ว่าเขากำลังจะเข้าสู่ราชสำนักแล้ว“พี่หญิง ยังเจ็บบาดแผลอยู่หรือไม่ขอรับ?” หล่างมู่ยกชามาให้หนึ่งถ้วยลั่วชิงยวนส่ายหน้า “มิเป็นอะไรแล้ว บาดแผลมิสาหัส พักสักสองสามวันก็หาย”“หล่างมู่ เจ้ามาเมืองหลวงได้อย่างไร? ในเผ่านอกด่านเกิดเรื่องใหญ่อันใดหรือไม่? รีบร้อนมาเช่นนี้เลยหรือ?

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1100

    ฟู่อวิ๋นโจว!หล่างมู่กำหมัดแน่น แล้วกระโจนเข้าไปอีกครั้งผู้คนมากมายต่างเป็นห่วงฟู่อวิ๋นโจว หล่างมู่เป็นคนเผ่านอกด่าน ฝีมือของเขาเป็นที่ประจักษ์ของทุกคนแล้วร่างกายที่อ่อนแอของฟู่อวิ๋นโจวจะรับมือได้อย่างไรแต่ลั่วชิงยวนรู้ดีว่าเวลาที่ฟู่อวิ๋นโจวปรากฏตัวนั้นเหมาะสม นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเขาที่จะแสดงความสามารถฟู่อวิ๋นโจวรับหมัดของหล่างมู่ได้อย่างแน่นอนจากนั้นทั้งสองก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดหลายสิบกระบวนท่าทำให้ผู้คนในที่นั้นต่างตกตะลึง“นี่คือองค์ชายห้าหรือ?”“ฝีมือของเขาแข็งแกร่งเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”“ใช่แล้ว มิใช่ว่าเขาป่วยอยู่หรอกหรือ?”ขณะที่ผู้คนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ฟู่อวิ๋นโจวก็พบจุดอ่อนของหล่างมู่แล้ว จึงเหวี่ยงหล่างมู่ลงไปกับพื้น แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของหล่างมู่ลั่วชิงยวนรีบวิ่งเข้าไปห้าม “หยุดนะ!”ฟู่อวิ๋นโจวสะดุ้งแล้วลดมือลงหล่างมู่ลุกขึ้นยืนและกำลังจะตอบโต้ แต่ถูกลั่วชิงยวนดึงไว้“หล่างมู่แพ้แล้ว” ลั่วชิงยวนประกาศผลทันทีสายตาของนางมองฟู่อวิ๋นโจวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “ขอแสดงความยินดีกับองค์ชายห้าเพคะ”เขายังคงมิได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระและเรียบง่าย แต่กลั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1099

    ฟู่เฉินหวนใจตึงเครียดจนฝ่ามือชุ่มไปด้วยเหงื่อลั่วชิงยวนพยายามยันตัวลุกขึ้น แต่กลับไร้เรี่ยวแรงที่จะตอบโต้เหยียนผิงเซียวชกเข้าที่ท้องของลั่วชิงยวนอีกครั้ง เลือดสีแดงฉานพุ่งออกมาจากปากนางเหยียนผิงเซียวจิกผมของนางแล้วกระซิบข้างหูอย่างร้ายกาจว่า “เจ้าเก่งนักมิใช่หรือ! ทำให้ท่านพ่อของข้าต้องลาออกจากตำแหน่งกลับไปยังเมืองฉิน เจ้าเป็นผู้มีพระคุณใหญ่หลวงของตำหนักอ๋องนี่!”“เจ้าลองเดาดูสิว่าฟู่เฉินหวนจะช่วยเจ้าหรือไม่?”“แต่มิสำคัญแล้ว เพราะข้าต้องการเพียงให้เจ้าตายเท่านั้น!”เหยียนผิงเซียวใช้ร่างของลั่วชิงยวนบังสายตาของผู้คนส่วนมืออีกข้างที่กำหมัดแน่นมีแผ่นเหล็กแหลมคมติดอยู่ แล้วกระแทกลงไปที่ท้องของลั่วชิงยวนอย่างแรงลั่วชิงยวนเห็นอาวุธลับนั้นแล้วก็ตึงเครียดมากฟู่เฉินหวนแทบขาดใจ ความรู้สึกมิสบายใจอย่างรุนแรงถาโถมเข้ามาฟู่อวิ๋นโจวผู้นั่งอยู่มุมห้องใต้หลังคาก็กำมือแน่นด้วยความตึงเครียดเช่นกันแม้ว่าฝีมือของลั่วชิงยวนจะสู้เหยียนผิงเซียวมิได้ แต่ก็มิควรจะไร้เรี่ยวแรงที่จะตอบโต้เช่นนี้จะลงมือช่วยนางตอนนี้เลยดีหรือไม่!ฟู่อวิ๋นโจวลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่แล้วในวินาทีนั้นเองเงาร่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1098

    ในมิช้าการประลองก็เริ่มขึ้นโชคดีที่ลั่วเยวี่ยอิงมิได้ก่อเรื่องวุ่นวายอีก นางเฝ้าดูการประลองอย่างสงบลั่วชิงยวนใช้โอกาสนี้ทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ ดาบและกระบี่นั้นไร้ตา ดังนั้นการประลองครั้งนี้จึงห้ามใช้ดาบและอาวุธลับแต่เมื่อปรมาจารย์ต่อสู้กันก็อาจจะควบคุมมือมิทัน เพื่อให้ทุกคนได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ การประลองครั้งนี้ ความเป็นความตายจึงเป็นเรื่องของชะตาฟ้าลิขิตชัยชนะครั้งสุดท้ายมิใช่ผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุดสิ่งสำคัญคือการแสดงผลงานในระหว่างการประลอง ฟู่เฉินหวนจะคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นบางคนสำหรับฟู่จิ่งหาน การประลองครั้งนี้มิใช่เพียงการคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการชมการประลองที่น่าตื่นเต้นด้วย ดังนั้นจึงมีความอิสระสูงทุกคนสามารถขึ้นไปท้าทายได้ หนึ่งรอบมีผู้แข่งขันสิบคน ผู้ชนะจะได้พักแล้วเข้าสู่รอบที่สองดังนั้นผู้ชนะในแต่ละรอบจะสามารถท้าทายคู่ต่อสู้ที่ตนคิดว่าแข็งแกร่งกว่าได้อย่างอิสระการประลองรอบแรกจบลงอย่างรวดเร็ว ฟู่เฉินหวนกับฟู่จิ่งหานวิเคราะห์ผู้ที่เหมาะสมในรอบนี้อย่างจริงจังฟู่จิ่งหานพยักหน้าให้ขันทีที่ยืนอยู่ด้านข้างจดบันทึกชื่อทุกอย่าง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1097

    “พระชายา เหตุใดมิลงไปหามาให้ข้าเล่า? หากขุดพบรากบัวได้สองหัว ข้าจะเมตตาตกรางวัลให้อย่างงาม!”น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเยาะเย้ยและหยิ่งผยองนั้น มิใช่ปฏิบัติต่อลั่วชิงยวนดุจพระชายา หากแต่ปฏิบัติเสมือนทาสบริวารเหล่าผู้คนโดยรอบต่างตกตะลึงพรึงเพริดตำแหน่งของลั่วชิงยวนในตำหนักอ๋องนั้นต่ำต้อยถึงเพียงนี้เชียวหรือ?ฟู่เฉินหวนอดรนทนมิไหวอีกต่อไป จึงพูดเสียงเย็นเยียบว่า “ฤดูกาลนี้จะมีรากบัวอยู่ได้อย่างไร มิต้องลำบากเช่นนั้นเลย”ลั่วเยวี่ยอิงกลับคว้าแขนฟู่เฉินหวนพลางทำท่าทางออดอ้อน“ไม่เพคะ ท่านอ๋อง เผื่อว่าจะมีก็ได้! โปรดให้พระชายาลงไปค้นหาดูเถิดเพคะ!”นางกล่าวจบก็ถอดกำไลหยกที่ข้อมือ แล้วขว้างลงไปในบึงจากนั้นเชิดหน้าพูดกับลั่วชิงยวนว่า “ไปสิ กำไลหยกวงนี้เป็นรางวัลของเจ้า!”ท่าทางเช่นนี้ประหนึ่งว่ากำลังสั่งการสุนัขตัวหนึ่งฟู่เฉินหวนกำมือแน่น รู้สึกปวดร้าวที่ศีรษะอย่างยิ่งลั่วชิงยวนเห็นดังนั้นก็กังวลเพราะอาการของฟู่เฉินหวน นัยน์ตานางฉายแววเย็นชาขณะมองหน้าลั่วเยวี่ยอิง แล้วหันหลังกระโดดลงไปในสระน้ำเมื่อเสียงน้ำกระเพื่อมดังขึ้น เสียงฮือฮาต่างก็ดังมาจากทั่วบริเวณ“นางกระโดดลงไปจริง ๆ

DMCA.com Protection Status