Share

บทที่ 173

Author: หว่านชิงอิ๋น
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ยามนั้นสตรีชุดแดงรู้สึกได้ถึงพลังที่กดข่ม นางมิอาจสู้สตรีตรงหน้าได้ นางไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากร้องขอความเมตตา

ลั่วชิงยวนพูดเสียงเย็น “เจ้ามีความอาฆาตแค้นมากเกินไป ข้าจะช่วยสลายและช่วยให้เจ้าได้ไปเกิดใหม่”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นสตรีชุดแดงก็ตะลึง จากนั้นก็ส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง “ข้าไม่ต้องการจะไปเกิดใหม่ ข้าไม่ต้องการ… ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ”

สตรีชุดแดงอ้อนวอน นางคุกเข่าขอร้องอย่างสิ้นหวัง

“เพราะเหตุใดเล่า?” ลั่วชิงยวนแปลกใจ

สตรีชุดแดงคุกเข่าอยู่กับพื้น นางร้องไห้สะอึกสะอื้น “ข้าไม่เต็มใจรับ ข้าโดนหลอกให้จากบ้านมาแล้วลูกชายของข้าก็โดนคนชั่วสังหารพร้อมข้า”

“แต่สามีของข้าโดนเจ้าคนชั่วนั่นหลอก เขาคิดมาตลอดว่า ข้านั้นเป็นคนหนีจากบ้านมาเองด้วยโทสะ เขานั้นทั้งรู้สึกผิด ทั้งเสียใจจนดื่มสุราเมามายทั้งวัน”

“และนางหญิงผู้นั้นที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับข้า ก็หาทางเข้าสู่อ้อมกอดเขาแล้วหลอกลวงเขา เขารักใคร่นางนัก…”

“ข้าไม่… ข้าไม่เต็มใจ”

สตรีชุดแดงร้องไห้อย่างขมขื่นและเด็กที่อยู่ข้างกายนางก็เริ่มร้องไห้ พยายามที่จะกอดแม่ของเขาไว้ “ท่านแม่…”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ลั่วชิงยวนก็รู้สึกสงสารและไม
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 174

    ดึกสงัดในราตรีนั้น สายลมก็พัดเย็นเยียบ ลั่วชิงยวนมีแม่นมเติ้งประคองเดินออกมาสูดอากาศด้านนอกแต่ตอนนั้นที่เรือนหัวถิงมีลมกระโชกแรงลั่วเยวี่ยอิงที่นั่งอยู่หน้ากระจกทองเหลืองกำลังทายาอย่างระมัดระวัง นางมองใบหน้าของตนในกระจกอย่างกังวลเมื่อไรที่แผลบนหน้าจะดีขึ้น?ทันใดนั้นลมก็โหมพัดหน้าต่างเปิดออก พาเอาฝุ่นและใบไม้มากมายเข้ามาในห้องลั่วเยวี่ยอิงตกใจและรีบยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยแขนเสื้อ แต่นางก็โดนละอองฝุ่นพัดใส่จนลืมตาไม่ขึ้น“เฉียงเวย นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”เฉียงเวยรีบวิ่งเข้ามาปิดหน้าต่าง แต่มันก็โดนลมกระโชกพัดจนเปิดอีกรอบหลังจากที่ปิดไปแล้วครั้งแล้วครั้งเล่าลมแรงนั้นพัดใบไม้สั่นไหวเสียงดัง และกลิ่นก็แปลกพิกลครั้งสุดท้ายที่เฉียงเวยปิดประตู มันก็โดนลมแรงพัดจนเปิดออก เฉียงเวยโดนประตูกระแทกจนล้มใส่โต๊ะอย่างแรงและหมดสติไปตึง ตึง ตึงประตูหน้าต่างเปิดปิดไม่หยุด และเสียงก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อย ๆ ลั่วเยวี่ยอิงนั้นหวาดกลัวมากจนนางทรุดตัวลงหลบกับพื้น ขนลุกชันทั่วร่างนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางเจอเรื่องแบบนี้นางนั้นหวาดกลัวมาก คิดว่าหากนางหลบซ่อนตัวก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ตอนนั้นเองนางก็

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 175

    แม่นมเติ้งตกใจมาก “พระชายาน่าทึ่งมาก นางทำให้คุณหนูรองลั่วพูดความจริงออกมาได้ ท่านอ๋องต้องทรงได้ยินแน่เจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนหรี่ตาเล็กน้อย นางยกยิ้มมุมปากมองไปทางตำหนักที่ยังมีแสงไฟอยู่ ก่อนพูดเบา ๆ “แน่นอนว่าต้องได้ยิน”“แต่คงบอกยากว่า เมื่อได้ยินแล้วทีท่าจะเป็นเช่นไร”แม่นมเติ้งพูดอย่างยินดี “หากท่านอ๋องทรงทราบว่า คุณหนูรองลั่วมิได้อ่อนหวานเหมือนฉากหน้า แต่ที่จริงนางโหดเหี้ยมชั่วร้ายนัก เขาต้องไม่ปฏิบัติกับนางเหมือนเดิมแน่เจ้าค่ะ”ที่จริงช่วงหลังมานี้ท่านอ๋องหลบหน้าคุณหนูรองลั่ว และท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป พอตอนนี้เมื่อความจริงเปิดเผยแล้ว ท่านอ๋องจะต้องไม่ยอมรับคุณหนูรองลั่วแน่จู่ ๆ ประตูตำหนักก็เปิดออก และฟู่เฉินหวนก็เดินหน้าโกรธขึ้งออกมาเมื่อเขาเห็นลั่วเยวี่ยอิงอยู่ไม่ไกลดูตื่นตระหนก นางไม่รู้ถึงการมาของเขาเลยแม้แต่น้อยเมื่อลั่วชิงยวนเห็นเช่นนั้น นางก็ยกมือปิดปากและบอกว่า “เจ้าคิดวิธีนี้เพื่อจัดการกับลั่วชิงยวนเช่นนั้นรึ? เจ้าร่วมมือกับลั่วชิงยวนทำร้ายข้างั้นรึ?”ตอนนั้นในสายตาของลั่วเยวี่ยอิง คำพูดเหล่านี้ล้วนออกมาจากปากของเมิ่งจินอวี่ลั่วเยวี่ยอิงรีบอธิบาย “ข้าเปล่านะ ข้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 176

    ลั่วเยวี่ยอิงกัดฟันแน่น นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทุ่มสุดตัวเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้จะจบเช่นไรเล่า?หากว่าการที่ลั่วชิงยวนรนหาที่ตายนั้นสามารถเปลี่ยนท่าทีที่ท่านอ๋องมีให้นางได้ ตัวนางเองก็ทำได้เช่นกันนางวิ่งเข้าใส่กำแพงอย่างแรงตอนนี้หน้าผากกำลังจะชนผนังก็มีมือมารั้งนางไว้อย่างแรงสีหน้าของฟู่เฉินหวนนั้นบิดเบี้ยวดูไม่ได้ลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้และคุกเข่าลง “ท่านอ๋อง หม่อมฉันรู้จริง ๆ ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น หม่อมฉันไม่รู้ว่าพูดเรื่องไร้สาระอะไรออกไปบ้าง ทั้งหมดนั้นหม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ…”ตอนนั้นเองท่านหมอกู้ก็รีบเดินเข้ามา เขามองหน้าลั่วเยวี่ยอิงและพูดกับฟู่เฉินหวนว่า “ท่านอ๋อง คุณหนูรองลั่วดููสับสนนัก นางอาจจะกินยาบางอย่างที่ทำให้นางมึนงงสับสน”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วเยวี่ยอิงก็เหมือนเห็นฟางช่วยชีวิต นางรีบพูดว่า “เพคะ ท่านอ๋อง ต้องมีคนพยายามทำร้ายหม่อมฉันแน่”“ท่านหมอกู้เองก็พูดเช่นนี้ ท่านอ๋องต้องเชื่อหม่อมฉันนะเพคะ”แน่นอนว่าฟู่เฉินหวนรู้ว่าลั่วเยวี่ยอิงนั้นไม่รู้ตัว หากว่านางมีสตินางจะพูดเรื่องพวกนี้ออกมาได้อย่างไรสิ่งที่ลั่วเยวี่ยอิงทำคืนนี้นั้นแปลกมากเขาอดไม่ได้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 177

    ภาพใบหน้านั้นไปอยู่บนหน้าของเวินซีหลันประกอบกับชุดสีแดงและผมดำดุจม่านน้ำตก ใบหน้านั้นยิ่งงดงามชวนตะลึงเหวินซีหลันยกมือสัมผัสหน้าและแปลกใจจนรีบคุกเข่าลงอีกครั้ง “ขอบคุณท่านมาก”ลั่วชิงยวนใช้วิธีการเดียวกันกับใบหน้าของลูกชายเวินซีหลันเมื่อไม่มีแผลเป็นน่ากลัว เด็กน้อยก็กล้าจะเงยหน้าขึ้นลั่วชิงยวนไอสองครั้งและค่อย ๆ นั่งลง “ตอนนี้เจ้าบอกข้าเรื่องของครอบครัวและตัวตนของเจ้ามา ข้าจะได้ช่วยเจ้าได้”ลั่วชิงยวนอยากจะช่วยจัดการปัญหานี้ให้เร็ว และช่วยเวินซีหลันได้ภายในพรุ่งนี้แต่นางไม่คิดว่าเมื่อเวินซีหลันเอ่ยปากจะทำให้นางต้องตกตะลึงไป…“สามีของข้าคือบุตรชายคนรองของจวนแม่ทัพใหญ่ ฉินไป๋ลี่”ลั่วชิงยวนเกือบสำลักชาที่กำลังดื่มอยู่“จวนแม่ทัพใหญ่งั้นรึ?” นางคิดไว้อยู่แล้วว่าสามีของเวินซีหลันนั้นน่าจะมีฐานะร่ำรวย แต่นางไม่คาดว่าสถานะของเขาจะสูงส่งเช่นนี้เวินซีหลันดูโศกเศร้าและบอกว่า “ก่อนนี้ข้าปกปิดบางเรื่องไว้ จวนแม่ทัพใหญ่นั้นไม่ใช่ธรรมดา ข้าอยากจะออกไปตามหาเขาหลายครั้งแต่ว่า มียันต์อักขระเวทย์ในจวนแม่ทัพใหญ่และบนร่างของเขา ทำให้ข้าเข้าใกล้เขามิได้”“หากว่าเรื่องนี้ยากเกินมือ ก็ไม่จ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 178

    ลั่วอวิ๋นสี่ลั่วอวิ๋นสี่เกาะแขนสตรีผู้นั้นอยู่ พร้อมมองลงมาและแค่นเสียงเดียดฉันท์“ใครในเมืองนี้ไม่รู้บ้างว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการนั้นชอบพอเยวี่ยอิง? แค่ไม่สังหารนังผู้หญิงอัปลักษณ์ผู้นี้ก็ถือว่าเมตตามากแล้ว นางจะกล้ามาอวดอ้างอำนาจของท่านอ๋องได้อย่างไร?”นี่มันถือว่าเป็นการเจอศัตรูบนทางแคบจริง ๆ ลั่วอวิ๋นสี่อยู่ที่นี่ด้วยแต่สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจมากกว่าคือเสียงตื่นเต้นของเวินซีหลันดังเข้ามาในหูนางว่า“หลิวฮุ่ยเซียง คนที่ถือพัดกลมนั่นคือหลิวฮุ่ยเซียง”เมื่อได้ยินเช่นนี้ลั่วชิงยวนก็แปลกใจนางหรี่ตามอง เห็นว่าลั่วอวิ๋นสี่นั้นเกาะแขนของหลิวฮุ่ยเซียงอย่างรักใคร่ ดูเหมือนว่าทั้งสองนั้นสนิทสนมกันอย่างมากไยลั่วอวิ๋นสี่ถึงได้มาคบหากับคนชั่วช้าแบบนี้ได้? นี่นางไม่มีสหายที่ดีอยู่ข้างกายบ้างเลยหรือไร?ลั่วชิงยวนอดปวดหัวแทนท่านอาลั่วหลงไม่ได้“เจ้ามองหาพระแสงอันใด? หากเจ้ามองอีกครั้งข้าจะควักลูกตาเจ้าออกมา” คนที่พูดนั้นคือคนที่เยาะเย้ยลั่วชิงยวนในตอนแรกแม้ว่าลั่วชิงยวนจะจำไม่ได้ว่านางเป็นใคร แต่ก็รู้สึกคุ้นหน้าว่าน่าจะเป็นคนที่อยู่กับลั่วเยวี่ยอิงนางเดาว่าคนผู้นี้ก็คงไม่ได้มีพื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 179

    ”ท่านป้า อยากพูดอะไรก็พูดมาตรง ๆ เถิด ไม่ต้องมากมารยาทหรอก” ลั่วชิงยวนยิ้มอ่อนหวานและมองหลิวฮุ่ยเซียงเมื่อได้ยินคำว่าป้าอีกครั้งก็ทำให้หลิวฮุ่ยเซียงทนไม่ไหวอีกต่อไป นางยกมือขึ้นจะตบและบอกว่า “หุบปาก”ลั่วชิงยวนนั้นทั้งตาไว มือไว นางเตะหลิวฮุ่ยเซียงทันทีลูกเตะนั้นซัดใส่ร่างของหลิวฮุ่ยเซียงจนนางกระเด็นเมื่อเวินซีหลันเห็นดังนั้น นางก็รีบก่อกระแสลมลูกหนึ่งและใช้พลังนั้นพัดส่งหลิวฮุ่ยเซียงออกไปนอกหอตอนนั้นเองสีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปอย่างรุนแรงทุกคนต่างตกตะลึงตาค้างตูมจากนั้นก็มีเสียงดังสนั่นทุกคนรีบวิ่งไปดู และเห็นหลิวฮุ่ยเซียงตกลงไปในน้ำ มีน้ำสาดกระจายไปทั่ว“ตายแล้ว”“ลั่วชิงยวนคนนี้กล้าเกินไปแล้ว”“รีบไปช่วยคนเร็ว”ทั้งหอเริงรมย์พลันชุลมุนฟู่เฉินหวนเองก็โดนจักรพรรดิฟู่จิ่งหานที่ปลอมตัวเป็นสามัญชนลากมาที่หอเริงรมย์“พี่สาม ท่านมาดูกับข้าสิ ได้ยินมาว่าหอเริงรมย์นั้นน่าสนใจยิ่ง แต่ข้ายังไม่เคยมาที่นี่มาก่อน”ฟู่เฉินหวนส่ายหน้าอย่างจนปัญญา “หากว่าไทเฮาทรงรู้ว่าพระองค์ทรงแอบออกมาจากวังหลวงอีกแล้ว พระนางต้องเรียกไปตำหนิอีกแน่”“ข้าไม่ได้ออกจากวังมาครึ่งปีแล้วนะ ข้าอึ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 180

    เขารีบเข้าไปในหอ เขานั้นไม่รู้ว่าลั่วชิงยวนกำลังทำอะไรแต่เขาต้องไม่ปล่อยให้นางลงมือฆ่าคนตายต่อหน้าผู้คนหลังจากลั่วชิงยวนออกคำสั่งเสร็จ เวินซีหลันก็กลับมาและปล่อยหลิวฮุ่ยเซียงตอนนี้หลิวฮุ่ยเซียงก็ถูกช่วยขึ้นมาได้แล้วอึดใจต่อมาข้อมือของลั่วชิงยวนก็โดนจับไว้แน่น และนางก็โดนลากเข้าไปในห้องส่วนตัวนางไม่ทันได้ตั้งตัวจึงปลิวเข้าไปในอ้อมกอดของอีกฝ่ายลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นและก็เห็นแววตาเกรี้ยวกราดของฟู่เฉินหวน เขาลดเสียงลงและบอกว่า “หยุดเดี๋ยวนี้ เจ้าคิดจะฆ่าคนจริง ๆ รึ?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ลั่วชิงยวนก็ตะลึงไป สีหน้านางดูตกใจฟู่เฉินหวนรู้อะไรมาหรือไม่?แต่นางก็กลับมามีทีท่านิ่งสงบ ก่อนยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ไยหม่อมฉันถึงไม่เข้าใจว่าท่านอ๋องพูดเรื่องอันใด?”“แล้วเจ้าคิดว่าข้าผู้เป็นอ๋องพูดเรื่องอันใดเล่า?” ฟู่เฉินหวนนิ่วหน้าลั่วชิงยวนยิ้ม “ท่านอ๋องพูดถึงนางหรือ?”นางเดินออกไปด้านนอกและมองลงไปข้างล่างฟู่เฉินหวนเองก็ก้าวตามมาและตกใจไปเมื่อได้เห็นว่าหลิวฮุ่ยเซียงนั้นถูกช่วยขึ้นมาแล้วลั่วชิงยวนมองสีหน้าแปลกใจของฟู่เฉินหวน นางยกยิ้มและพูดเสียงเย็นชาว่า “ท่านอ๋อง ได้โปรดอย่ากล่าวหาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 181

    หลิวฮุ่ยเซียงมิกล้าลงมือต่อ นางชักมือกลับ ยืนตัวสั่นระริกอยู่กลางลมหนาว และพูดดุอย่างเกรี้ยวกราด “ท่านอ๋องคิดปกป้องพระชายาต่อหน้าทุกคนหรือเจ้าคะ!” “เมื่อครู่ทุกคนต่างเห็นแล้ว ลั่วชิงยวนเตะข้าตกน้ำ! นางคิดจะสังหารข้าโดยจงใจ! โทษนี้ ท่านอ๋องมิใส่ใจแม้แต่นิดงั้นหรือเพคะ? หากวันนี้ท่านคืนความยุติธรรมให้หม่อมฉันมิได้ หม่อมฉันคงได้เพียงรายงานแก่ฝ่าบาท!” หลิวฮุ่ยเซียงโกรธถึงขีดสุด นางเป็นถึงหลานสะใภ้ของท่านแม่ทัพใหญ่หลิว! จักทนกับความน่าอับอายเช่นนี้ได้เยี่ยงไร! หากวันนี้ลั่วชิงยวนมิได้รับการลงโทษ นางมิยอมแน่! ฟู่จิ่งหานที่กำลังดูเรื่องสนุกในฝูงชนกลับชะงัก จากนั้นเผยยิ้มสนใจขึ้น ใครจะคิด จักรพรรดิในตอนนี้ จะกำลังดูเรื่องสนุกอยู่อีกด้าน นัยน์ตาฟู่เฉินหวนกะพริบแววรำคาญใจ แต่แล้วเขากลับเหลือบไปเห็นฟู่จิ่งหานในฝูงชน หากเพียงหลิวฮุ่ยเซียง เขามิสนใจแม้แต่นิด แต่องค์จักรพรรดิอยู่ด้วย เขาจะทำตัวบุ่มบ่ามมิได้ “แต่ข้าได้ยินพระชายากล่าว เรื่องราวมิได้เป็นเช่นนี้” น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนเยือกเย็น และแฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม ลั่วชิงยวนที่อยู่อีกด้านชะงัก นางเงยหน้ามองไปทางฟู่เฉินหวนทีหนึ่

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1105

    ดีงูที่ทำให้ฝีมือของนางเพิ่มพูนขึ้นอย่างมากนั้น นางยังคงจำได้มิลืมเลือนน่าเสียดายที่ข้างกายซ่งเชียนฉู่มีคนผู้ทรงอานุภาพคอยคุ้มครอง นางจึงพยายามด้วยวิธีการต่างๆ แต่ก็ยังล้มเหลวการใช้ความสัมพันธ์ระหว่างฉู่ลั่วกับซ่งเชียนฉู่อาจจะประสบความสำเร็จ แต่ฉู่ลั่วกลับดื้อดึงมิยอมร่วมมือกับนาง!เมื่อมิสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็จำต้องทำลายเขาเสีย!ลั่วชิงยวนกลับไปยังลานหลังร้านซ่งเชียนฉู่ถามด้วยความสงสัยว่า “ท่านมิได้ไปแล้วหรอกหรือ? เหตุใดจึงกลับมาอีก?”ลั่วชิงยวนทำท่าให้เงียบแล้วพาส่งเฉียนฉู่กลับไปยังห้อง จากนั้นบอกเล่าเรื่องราวให้ฟังเมื่อซ่งเชียนฉู่ฟังจบก็รีบกล่าวว่า “ดูเหมือนว่านางผู้นี้จะมิปล่อยท่านไป หรือว่าท่านจะเข้าวังไปดำรงตำแหน่งมหาปราชญ์ เมื่อมีตำแหน่งนี้แล้ว นางก็จะต้องเกรงใจบ้าง”ลั่วชิงยวนไตร่ตรอง แล้วพูดว่า “มหาปราชญ์ อืม... ค่อยว่ากันอีกที”จนกระทั่งล่วงเข้ายามดึก เมื่อแน่ใจแล้วว่าลั่วฉิงจากไปแล้ว ลั่วชิงยวนจึงกลับตำหนักอ๋องอย่างเงียบเชียบเมื่อกลับแล้วก็ถูกหล่างมู่ขวางทาง “พี่หญิง ท่านไปที่ใดมาขอรับ? ฟู่เฉินหวนมาหาท่านตอนค่ำ”“แล้วเจ้าบอกเขาว่าอย่างไร?”“ข้าบอกว่าพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1104

    ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมองหล่างมู่อย่างช่วยมิได้“หล่างมู่ เจ้ากลับไปก่อนเถิด ข้าจะไปทำธุระก่อน” ลั่วชิงยวนหันหลังวิ่งไปหล่างมู่ถือลูกถังหูลู่สองไม้วิ่งตามไปสองสามก้าว “พี่หญิง ท่านจะไปที่ใด? ไฉนมิพาข้าไปด้วยเล่า?”ลั่วชิงยวนมิได้ใส่ใจ รีบวิ่งออกจากถนนไปแล้วเมื่อไปเปลี่ยนอาภรณ์ที่หอฝูเสวี่ยแล้ว นางจึงไปที่ร้านอย่างเงียบเชียบเมื่อไปถึงลานด้านหลังก็พบกับซ่งเชียนฉู่ที่กำลังแบกตะกร้ากลับมาจากประตูหน้า ท่าทางดูรีบร้อนนัก“ท่านมาพอดี ท่านเห็นประกาศบนถนนหรือไม่? องค์จักรพรรดิจะเชิญท่านเข้าวังเพื่อแต่งตั้งท่านเป็นมหาปราชญ์!” ซ่งเชียนฉู่ส่งประกาศให้“นี่เป็นประกาศที่ติดอยู่ที่ประตูร้านเรา”“มิกี่วันที่ผ่านมา ข้าออกไปเก็บสมุนไพร พวกเขาคงจะมาหาท่าน แต่ไม่มีใครอยู่จึงติดประกาศไว้”“จะทำอย่างไรดี?”ซ่งเชียนฉู่ก็ตกตะลึงเช่นกันลั่วชิงยวนรับประกาศมาดูอีกครั้ง ในนั้นยังเขียนด้วยว่าให้นางเข้าวังหลวงเพื่อทำนายชะตาของแคว้นเทียนเชวียแล้วแต่งตั้งเป็นมหาปราชญ์ซ่งเชียนฉู่ถอนหายใจ “ข้าคิดว่าครั้งนี้ ตัวตนของท่านคงจะปกปิดมิได้แล้ว”“คอยดูกันต่อไปเถิด” ลั่วชิงยวนยังมิรู้ว่าจะบอกฟู่เฉินหวนอย่างไร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1103

    น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนนั้นบ่งบอกชัดเจนว่ากำลังหึงหวงอยู่ลั่วชิงยวนปอกส้มแล้วป้อนให้ฟู่เฉินหวนพลางพูดอย่างอารมณ์ดีว่า “หล่างมู่มองหม่อมฉันเป็นเพียงพี่หญิงจริง ๆ เพคะ”“เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่หญิงมาตั้งแต่เด็ก แต่พี่หญิงของเขาเสียชีวิตเพราะเขา จึงเป็นบ่วงกรรมและความเสียใจตลอดชีวิตของเขา”“ต่อมาหล่างชิ่นกลายเป็นพี่หญิงของเขา เขาเชื่อฟังหล่างชิ่นทุกอย่าง แต่สุดท้ายหล่างชิ่นกลับต้องการให้เขาตาย”“หลังจากนั้นเมื่อหม่อมฉันไปยังเผ่านอกด่าน ราชาเผ่านอกด่านบอกว่าหม่อมฉันเป็นพี่หญิงของเขา ดังนั้นเขาจึงมองหม่อมฉันเป็นพี่หญิงแท้ ๆ มาโดยตลอด”เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนั้นก็สงสัยยิ่งนัก “พูดตามตรงคือข้ายังคงมิเข้าใจเลยว่าเหตุใดราชาเผ่านอกด่านจึงมั่นใจว่าเจ้าเป็นลูกสาวของเขา”ลั่วชิงยวนพูดเสียงเบาว่า “ราชาเผ่านอกด่านกับลั่วไห่ผิงมีใบหน้าเหมือนกันราวกับแกะ! พวกเขาเป็นพี่น้องกันเพคะ!”“ก่อนที่ท่านแม่ของหม่อมฉันจะมาเมืองหลวงแล้วแต่งงานกับลั่วไห่ผิง นางเคยมีความสัมพันธ์กับราชาเผ่านอกด่าน แต่สุดท้ายก็มิได้ลงเอยกันจึงมาเมืองหลวงและแต่งงานกับลั่วไห่ผิงเพคะ”ฟู่เฉินหวนตกตะลึงยิ่งนักเมื่อได้ฟัง“

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1102

    หล่างมู่ชกเข้าที่ใบหน้าของฟู่เฉินหวนจนฟู่เฉินหวนถอยหลังไปหลายก้าวหล่างมู่แสดงสีหน้าโกรธแค้น “ข้าขอเตือนท่านเลยว่าถ้าท่านทำเช่นนี้กับพี่หญิงของข้าอีก ข้าจะฆ่าท่านเสีย!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพลางเช็ดเลือดที่มุมปาก “ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด ข้าจะพบกับนาง”“นางอยู่ที่ใด แล้วท่านเกี่ยวอะไรด้วย!” หล่างมู่แสดงสีหน้ามิพอใจ เขายังคงจำได้ว่าในวันคล้ายวันพระราชสมภพของจักรพรรดิ อ๋องผู้สำเร็จราชการยินดีที่จะมอบลั่วชิงยวนให้เขาชายคนนี้ช่างน่ารังเกียจ!เขามิเข้าใจว่าเหตุใดพี่หญิงจึงยังคงอยู่กับชายผู้นี้วันนี้กลับนิ่งเฉยมองดูคนอื่นทำร้ายพี่หญิงอย่างมิแยแสอีก!หล่างมู่มิพอใจอย่างยิ่งเมื่อทั้งสองสบตากัน ความเป็นปรปักษ์ก็ปะทุขึ้นบรรยากาศตึงเครียด ในวินาทีต่อมาดูเหมือนว่าจะต้องต่อสู้กันแน่แล้วลั่วชิงยวนเพิ่งเข้ามาในลานก็เห็นเหตุการณ์นี้ จึงรีบเข้าไปขวางไว้“พวกท่านกำลังทำอะไรกัน!”“แค่ก แค่ก แค่ก...” เมื่อนางร้อนใจก็กุมอกด้วยความเจ็บปวดสีหน้าของทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างมากแล้วเข้าไปพยุงนางพร้อมกัน ลั่วชิงยวนปัดมือของทั้งสองออก แล้วหันไปมองหล่างมู่ “พี่บอกเจ้าว่าอย่างไร!”ความโกรธของหล่างมู่หา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1101

    ฟู่จิ่งหานมิได้ใส่ใจเรื่องนี้ แต่กลับรู้สึกผิดเล็กน้อยที่พระราชโองการนั้นทำให้ลั่วชิงยวนได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ จึงพูดว่า “มิเป็นอะไร การประลองครั้งนี้ก็มิได้ห้ามมิให้แคว้นเพื่อนเรือนเคียงเข้าร่วม”“พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการสามารถเอาชนะองค์ชายเผ่านอกด่าน แล้วยกให้เป็นน้องชายได้ นับว่าความสามารถเป็นที่ประจักษ์แก่ข้าแล้ว!”“พระชายามีบาดแผล อนุญาตให้พระชายาและองค์ชายหล่างมู่ออกไปก่อนได้”ลั่วชิงยวนก้มหน้าลงเล็กน้อย “ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ”แล้วหล่างมู่ก็พยุงลั่วชิงยวนออกไปเนื่องจากหอฝูเสวี่ยอยู่มิไกลและสามารถมองเห็นการประลองจากชั้นสามได้ ลั่วชิงยวนจึงพาหล่างมู่ไปพักผ่อนที่หอฝูเสวี่ยก่อนซิ่งอวี่ต้มยามาให้นางกินลั่วชิงยวนนั่งข้างหน้าต่าง มองดูการประลองที่ยังคงดำเนินต่อไป เมื่อเห็นฟู่อวิ๋นโจวเอาชนะทุกคนได้ นางก็รู้ว่าเขากำลังจะเข้าสู่ราชสำนักแล้ว“พี่หญิง ยังเจ็บบาดแผลอยู่หรือไม่ขอรับ?” หล่างมู่ยกชามาให้หนึ่งถ้วยลั่วชิงยวนส่ายหน้า “มิเป็นอะไรแล้ว บาดแผลมิสาหัส พักสักสองสามวันก็หาย”“หล่างมู่ เจ้ามาเมืองหลวงได้อย่างไร? ในเผ่านอกด่านเกิดเรื่องใหญ่อันใดหรือไม่? รีบร้อนมาเช่นนี้เลยหรือ?

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1100

    ฟู่อวิ๋นโจว!หล่างมู่กำหมัดแน่น แล้วกระโจนเข้าไปอีกครั้งผู้คนมากมายต่างเป็นห่วงฟู่อวิ๋นโจว หล่างมู่เป็นคนเผ่านอกด่าน ฝีมือของเขาเป็นที่ประจักษ์ของทุกคนแล้วร่างกายที่อ่อนแอของฟู่อวิ๋นโจวจะรับมือได้อย่างไรแต่ลั่วชิงยวนรู้ดีว่าเวลาที่ฟู่อวิ๋นโจวปรากฏตัวนั้นเหมาะสม นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเขาที่จะแสดงความสามารถฟู่อวิ๋นโจวรับหมัดของหล่างมู่ได้อย่างแน่นอนจากนั้นทั้งสองก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดหลายสิบกระบวนท่าทำให้ผู้คนในที่นั้นต่างตกตะลึง“นี่คือองค์ชายห้าหรือ?”“ฝีมือของเขาแข็งแกร่งเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”“ใช่แล้ว มิใช่ว่าเขาป่วยอยู่หรอกหรือ?”ขณะที่ผู้คนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ฟู่อวิ๋นโจวก็พบจุดอ่อนของหล่างมู่แล้ว จึงเหวี่ยงหล่างมู่ลงไปกับพื้น แล้วชกเข้าที่ใบหน้าของหล่างมู่ลั่วชิงยวนรีบวิ่งเข้าไปห้าม “หยุดนะ!”ฟู่อวิ๋นโจวสะดุ้งแล้วลดมือลงหล่างมู่ลุกขึ้นยืนและกำลังจะตอบโต้ แต่ถูกลั่วชิงยวนดึงไว้“หล่างมู่แพ้แล้ว” ลั่วชิงยวนประกาศผลทันทีสายตาของนางมองฟู่อวิ๋นโจวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “ขอแสดงความยินดีกับองค์ชายห้าเพคะ”เขายังคงมิได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระและเรียบง่าย แต่กลั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1099

    ฟู่เฉินหวนใจตึงเครียดจนฝ่ามือชุ่มไปด้วยเหงื่อลั่วชิงยวนพยายามยันตัวลุกขึ้น แต่กลับไร้เรี่ยวแรงที่จะตอบโต้เหยียนผิงเซียวชกเข้าที่ท้องของลั่วชิงยวนอีกครั้ง เลือดสีแดงฉานพุ่งออกมาจากปากนางเหยียนผิงเซียวจิกผมของนางแล้วกระซิบข้างหูอย่างร้ายกาจว่า “เจ้าเก่งนักมิใช่หรือ! ทำให้ท่านพ่อของข้าต้องลาออกจากตำแหน่งกลับไปยังเมืองฉิน เจ้าเป็นผู้มีพระคุณใหญ่หลวงของตำหนักอ๋องนี่!”“เจ้าลองเดาดูสิว่าฟู่เฉินหวนจะช่วยเจ้าหรือไม่?”“แต่มิสำคัญแล้ว เพราะข้าต้องการเพียงให้เจ้าตายเท่านั้น!”เหยียนผิงเซียวใช้ร่างของลั่วชิงยวนบังสายตาของผู้คนส่วนมืออีกข้างที่กำหมัดแน่นมีแผ่นเหล็กแหลมคมติดอยู่ แล้วกระแทกลงไปที่ท้องของลั่วชิงยวนอย่างแรงลั่วชิงยวนเห็นอาวุธลับนั้นแล้วก็ตึงเครียดมากฟู่เฉินหวนแทบขาดใจ ความรู้สึกมิสบายใจอย่างรุนแรงถาโถมเข้ามาฟู่อวิ๋นโจวผู้นั่งอยู่มุมห้องใต้หลังคาก็กำมือแน่นด้วยความตึงเครียดเช่นกันแม้ว่าฝีมือของลั่วชิงยวนจะสู้เหยียนผิงเซียวมิได้ แต่ก็มิควรจะไร้เรี่ยวแรงที่จะตอบโต้เช่นนี้จะลงมือช่วยนางตอนนี้เลยดีหรือไม่!ฟู่อวิ๋นโจวลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่แล้วในวินาทีนั้นเองเงาร่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1098

    ในมิช้าการประลองก็เริ่มขึ้นโชคดีที่ลั่วเยวี่ยอิงมิได้ก่อเรื่องวุ่นวายอีก นางเฝ้าดูการประลองอย่างสงบลั่วชิงยวนใช้โอกาสนี้ทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ ดาบและกระบี่นั้นไร้ตา ดังนั้นการประลองครั้งนี้จึงห้ามใช้ดาบและอาวุธลับแต่เมื่อปรมาจารย์ต่อสู้กันก็อาจจะควบคุมมือมิทัน เพื่อให้ทุกคนได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ การประลองครั้งนี้ ความเป็นความตายจึงเป็นเรื่องของชะตาฟ้าลิขิตชัยชนะครั้งสุดท้ายมิใช่ผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุดสิ่งสำคัญคือการแสดงผลงานในระหว่างการประลอง ฟู่เฉินหวนจะคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นบางคนสำหรับฟู่จิ่งหาน การประลองครั้งนี้มิใช่เพียงการคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการชมการประลองที่น่าตื่นเต้นด้วย ดังนั้นจึงมีความอิสระสูงทุกคนสามารถขึ้นไปท้าทายได้ หนึ่งรอบมีผู้แข่งขันสิบคน ผู้ชนะจะได้พักแล้วเข้าสู่รอบที่สองดังนั้นผู้ชนะในแต่ละรอบจะสามารถท้าทายคู่ต่อสู้ที่ตนคิดว่าแข็งแกร่งกว่าได้อย่างอิสระการประลองรอบแรกจบลงอย่างรวดเร็ว ฟู่เฉินหวนกับฟู่จิ่งหานวิเคราะห์ผู้ที่เหมาะสมในรอบนี้อย่างจริงจังฟู่จิ่งหานพยักหน้าให้ขันทีที่ยืนอยู่ด้านข้างจดบันทึกชื่อทุกอย่าง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1097

    “พระชายา เหตุใดมิลงไปหามาให้ข้าเล่า? หากขุดพบรากบัวได้สองหัว ข้าจะเมตตาตกรางวัลให้อย่างงาม!”น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเยาะเย้ยและหยิ่งผยองนั้น มิใช่ปฏิบัติต่อลั่วชิงยวนดุจพระชายา หากแต่ปฏิบัติเสมือนทาสบริวารเหล่าผู้คนโดยรอบต่างตกตะลึงพรึงเพริดตำแหน่งของลั่วชิงยวนในตำหนักอ๋องนั้นต่ำต้อยถึงเพียงนี้เชียวหรือ?ฟู่เฉินหวนอดรนทนมิไหวอีกต่อไป จึงพูดเสียงเย็นเยียบว่า “ฤดูกาลนี้จะมีรากบัวอยู่ได้อย่างไร มิต้องลำบากเช่นนั้นเลย”ลั่วเยวี่ยอิงกลับคว้าแขนฟู่เฉินหวนพลางทำท่าทางออดอ้อน“ไม่เพคะ ท่านอ๋อง เผื่อว่าจะมีก็ได้! โปรดให้พระชายาลงไปค้นหาดูเถิดเพคะ!”นางกล่าวจบก็ถอดกำไลหยกที่ข้อมือ แล้วขว้างลงไปในบึงจากนั้นเชิดหน้าพูดกับลั่วชิงยวนว่า “ไปสิ กำไลหยกวงนี้เป็นรางวัลของเจ้า!”ท่าทางเช่นนี้ประหนึ่งว่ากำลังสั่งการสุนัขตัวหนึ่งฟู่เฉินหวนกำมือแน่น รู้สึกปวดร้าวที่ศีรษะอย่างยิ่งลั่วชิงยวนเห็นดังนั้นก็กังวลเพราะอาการของฟู่เฉินหวน นัยน์ตานางฉายแววเย็นชาขณะมองหน้าลั่วเยวี่ยอิง แล้วหันหลังกระโดดลงไปในสระน้ำเมื่อเสียงน้ำกระเพื่อมดังขึ้น เสียงฮือฮาต่างก็ดังมาจากทั่วบริเวณ“นางกระโดดลงไปจริง ๆ

DMCA.com Protection Status