Share

บทที่ 13

Author: หว่านชิงอิ๋น
last update Huling Na-update: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อได้ยินเสียง ทุกคนมองไปที่ลั่วชิงยวนที่ประตูด้วยสายตารังเกียจ

ซูโหยวขมวดคิ้วและก้าวไปข้างหน้า และกันไม่ให้นางเข้ามาด้านในอีกครั้ง ลั่วชิงยวนมองเขาอย่างเฉียบขาด ก่อนจะผลักเขาออกไปแล้วเดินเข้ามา

สายตาที่เฉียบคมเมื่อสักครู่ ทำให้ซูโหยวเกิดความกลัวเล็กน้อย

น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ "เจ้าจะก่อเรื่องอันใดอีก?"

ลั่วชิงยวนมองไปที่ลั่วเยวี่ยอิงอย่างเย็นชา นางหยิบเครื่องประดับปีศาจนั้นออกมา แล้วถามเสียงเย็น "ทำไมเจ้าไม่อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับวัตถุที่ล่อสายฟ้านี้ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังหน่อยเล่า"

ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกผิดเล็กน้อย และไม่กล้ามองนาง แต่นางก็พูดขึ้นอย่างจริงจัง "ท่านพี่ถามข้าเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร ซูโหยวเองก็เห็นว่า ข้าเป็นคนหยิบของชิ้นนั้นออกไป ท่านพี่นำมันกลับมาเพื่อจะพิสูจน์อันใด?”

"นั่นเป็นเพราะข้าเป็นคนขอให้เจ้านำของชิ้นนี้ออกมา แน่นอนว่าเจ้าไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้" ลั่วชิงยวนหัวเราะเยาะ

ลั่วเยวี่ยอิงปฏิเสธที่จะยอมรับความจริง นางมองหน้านางด้วยน้ำตาคลอเบ้า และพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร "ท่านพี่พูดอะไรก็ล้วนเป็นเช่นนั้น ท่านพี่เป็นบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งแต่เด็กจนโตข้าก็เชื่อฟังท่านมาตลอดะ"

น้ำเสียงและหน้าตาที่น่าสงสารนั้น ทำให้ผู้คนคิดว่า ลั่วชิงยวนรังแกนางตั้งแต่นางยังเด็ก!

สิ่งนี้กระตุ้นให้ฟู่เฉินหวนที่ปกป้องนาง เขาตำหนิลั่วชิงยวนอย่างเย็นชา "ลั่วชิงยวน เจ้าอย่าลืมสิ่งที่ตัวข้าอ๋องผู้นี้เคยเตือนเจ้า! ออกไปซะ!"

ความโกรธพลุ่งพล่านในใจของลั่วชิงยวน นางทุบสิ่งนั้นลงบนพื้นทันที หลังจากที่มันแตกเป็นเสี่ยง ๆ มีเข็มเหล็กแหลมคมซ่อนอยู่ในซากปีศาจนั้น ความหนาเท่าหัวแม่มือ ปกคลุมด้วยลวดลายสายฟ้าและอักษรรูน

“เห็นหรือยัง? สิ่งที่ล่อสายฟ้าไม่ใช่ของประดับนี่ แต่เป็นซากสายฟ้าที่ซ่อนอยู่ด้านใน!”

ทุกคนตกใจเมื่อเห็นสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร ?

ใบหน้าของลั่วเยวี่ยอิงซีดเซียว แต่นางตอบสนองอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยความประหลาดใจ "ท่านพี่ ทำไมท่านถึงนำมันกลับเข้ามา! รีบนำมันออกไปเถิดเจ้าค่ะ! มันจะทำร้ายท่านอ๋องนะเจ้าคะ!"

ฟู่เฉินหวนมองไปที่ซูโหยว และซูโหยวก็เข้ามาหยิบสายล่อฟ้านั่นแล้วโยนออกไปนอกประตูทันที

ลั่วชิงยวนกอดอกและยิ้มอย่างเย็นชา "ซากนี้ไม่สามารถก่อให้เกิดฟ้าผ่าลงมาได้ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่ล่อสายฟ้าเท่านั้น และในตำหนักอ๋องแห่งนี้มีสิ่งนี้ซ่อนอยู่มากกว่าสิบชิ้น มันจะต้องวางไว้ในทิศทางต่าง ๆ เพื่อสร้างพลังบางอย่างเฉพาะ และเมื่อมีพายุฝนฟ้าคะนองเท่านั้น ถึงจะสามารถดึงดูดสายฟ้า!"

"และลั่วเยวี่ยอิง เจ้าไม่เข้าใจข้อเท็จจริงแม้แต่ผิวเผินด้วยซ้ำ! เจ้าจงใจปกปิดความจริง และแอบอ้างความดีความชอบ เจ้ากลัวอะไรกันแน่?"

นางรู้ว่าลั่วเยวี่ยอิงจะไม่ให้โอกาสนางทำประโยชน์ต่อหน้าฟู่เฉินหวน แม้ว่านางจะไม่ต้องการความดีความชอบนี้ แต่นางก็ไม่สามารถมองดูความเจ้าเล่ห์ของลั่วเยวี่ยอิงได้!

นางแค่ต้องการใช้โอกาสนี้ฉีกหน้ากากความเจ้าเล่ห์ของลั่วเยวี่ยอิงต่อหน้าสาธารณะเท่านั้น!

ลั่วเยวี่ยอิงไม่คาดคิดว่า คนโง่เขลาผู้นี้จะเข้าใจสิ่งเหล่านี้จริง ๆ แถมนางยังพูดอย่างชัดเจน และมีเหตุผล แต่นางกลับไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ใบหน้านางแดงผาดอย่างรวดเร็ว

"ข้า...ข้าไม่ได้..."

ลั่วเยวี่ยอิงไม่สามารถตอบโต้ได้ ดังนั้นนางจึงหันศีรษะไปทางฟู่เฉินหวน และร้องไห้อย่างเสียใจว่า "ท่านอ๋อง หม่อมฉันมิได้..."

"นอกจากการแสร้งร้องไห้ขอความเห็นใจ เจ้าทำอะไรได้อีก? หากเจ้ามีความสามารถจริงก็จงไปหาสิ่งล่อสายฟ้า และพิสูจน์ความสามารถของเจ้าสิ! พิสูจน์ว่า เจ้าเป็นคนช่วยชีวิตทุกคนจริง ๆ !" น้ำเสียงของลั่วชิงยวนคมกริบราวกับมีด นางเปิดเผยลั่วเยวี่ยอิงอย่างไม่เกรงใจ

ลั่วเยวี่ยอิงกังวลมาก แต่นางทำได้เพียงร้องไห้

ขณะนั้นสายตาที่ซูโหยวมองลั่วเยวี่ยอิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย หากนางเข้าใจสิ่งนี้จริง ๆ นางควรโต้เถียงลั่วชิงยวน แทนที่จะเอาแต่ร้องไห้

ในทางตรงกันข้าม ลั่วชิงยวนพูดถึงสิ่งล่อสายฟ้าได้อย่างชัดเจนและมีเหตุผล แม้ว่ามันจะฟังดูไร้สาระ แต่ก็มีสิ่งที่ล่อสายฟ้าอยู่จริง

และเครื่องประดับนั้น อยู่ที่นั่นก่อนที่ลั่วชิงยวนจะแต่งงานกับท่านอ๋องเข้ามาภายในตำนหนัก ดังนั้นจึงเป็นไปมิได้ที่ลั่วชิงยวนจะเป็นคนวางไว้ที่นั่นเพื่อแสดงละคร

"ท่านอ๋อง หม่อมฉัน... หม่อมฉันมิรู้จริง ๆ ว่าสิ่งล่อสายฟ้าคืออะไร หม่อมฉันแค่คิดว่ามันน่าจะเป็นชั่วร้าย หม่อมฉันจึงหยิบมันออกไป หม่อมฉันมิเข้าใจเลยว่าสิ่งที่ท่านพี่พูดคืออะไร" ลั่วเยวี่ยอิงเงยหน้าขึ้นอย่างไร้เดียงสา ด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารักและน่าสงสาร

ลั่วชิงยวนคิดว่า หลักฐานอยู่ตรงหน้าฟู่เฉินหวนขนาดนี้ เขายังคงไม่ฟังความข้างเดียวของลั่วเยวี่ยอิงหรอกกระมัง?

สิ่งที่นางต้องการคือความยุติธรรม

แต่ทว่านางกลับโดนลั่วเยวี่ยอิงขโมยไป!

อย่างไรก็ตาม เมื่อฟู่เฉินหวนเห็นลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้ เขาก็จ้องมองลั่วชิงยวนอย่างเฉียบคม พร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความโกรธ "นอกจากแข่งขันอำนาจ เจ้ายังทำอะได้อีก? ตำแหน่งพระชายาของเจ้าแท้จริงแล้วก็ควรจะเป็นของลั่วเยวี่ยอิง เจ้ายังกล้ามาเรียกร้องอะไรที่นี่อีก!”

“ออกไปซะ!” ฟู่เฉินหวนโกรธจัด

คิดว่าลั่วชิงยวนเป็นสายลับที่ฟู่อวิ๋นโจวส่งมา จุดประสงค์ของการเรียกร้องความดีความชอบนี้เพื่ออะไรกัน หรือนางต้องการได้รับความไว้วางใจจากทุกคน เพื่อที่จะได้เป็นสายลับที่อยู่เคียงข้างเขา!

เมื่อลั่วชิงยวนถูกตำหนิ นางก็โกรธขึ้นมาทันที

“หม่อมฉันบุ่มบ่ามเองที่ช่วยชีวิตท่านไว้ถึงสองครั้ง! ฟู่เฉินหวน ท่านเป็นหนี้ชีวิตหม่อมฉันสองครั้ง!”

นางหันไปด้วยความโกรธ

เมื่อเห็นฉากนี้ ซูโหยวก็ขมวดคิ้ว ดูเหมือนอาการไม่พอใจของลั่วชิงยวนนั้นเหมือนได้รับความไม่เป็นธรรม ท่านอ๋องปรักปรำนางเช่นนั้นหรือ?

ด้านนอกฝนยังคงตกหนัก และมีฟ้าร้องคำราม เขาอดไม่ได้ที่จะกังวลว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับลั่วชิงยวนหรือไม่ เขาจึงรีบออกไป ตั้งใจจะส่งคนสองคนพานางกลับไปที่ห้อง

อย่างไรก็ตาม ลั่วชิงยวนไม่ได้กลับไปที่ห้อง แต่นางเดินมาที่โถงทางเดินด้วยความโกรธ และย้ายหอกนั่นไปที่อื่น

ตัวล่อสายฟ้าอื่น ๆ ยังไม่ถูกเคลื่อนย้าย แม้ว่าตัวล่อในห้องจะถูกโยนเข้าไปในลานแล้ว การย้ายตัวล่อที่นี่ไปยังตำแหน่งอื่น สามารถสร้างพลังล่อสายฟ้าได้

ซูโหยวผู้ซึ่งเพิ่งเดินออกจากห้องและเห็นฉากนี้

วินาทีต่อมาก็มีเสียงดังโครมคราม

ฟ้าผ่าลงมาจากฟากฟ้า!

ฟ้าผ่าลงมาแทบจะในทันที ทำให้หลังคาแตก

“ท่านอ๋อง!” ซูโหยวอุทาน

ทันทีที่ฟ้าผ่าลงมาที่หลังคา ไฟก็ลุกไหม้อย่างรุนแรง แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป ฝนตกหนักไม่ได้ทำให้ไฟดับในทันที แต่ไฟยังคงลุกลามท่วมเรือนทั้งหลังอย่างบ้าคลั่ง

“ท่านอ๋องระวังเพคะ!” ลั่วเยวี่ยอิงรีบพุ่งตัวใส่ฟู่เฉินหวน

บาดแผลของฟู่เฉินหวนเจ็บปวดอย่างรุนแรง เขากัดฟันและลุกขึ้น รีบห่มผ้านวมและอุ้มลั่วเยวี่ยอิงออกจากห้อง

"ท่านอ๋อง! ท่านอ๋อง!" ซูโหยวกระวนกระวายจนอยากจะรีบเข้าไปในเรือน แต่ถูกไฟขวางเอาไว้

จู่ ๆ ลานบ้านก็วุ่นวาย เซียวชูพาองครักษ์เข้ามาช่วยผู้คนจำนวนมาก ทุกคนต่างถอดเสื้อผ้าออกแล้วตบเพื่อดับไฟ

ไฟมอดลงบ้างแล้ว แต่ทันใดนั้น สายฟ้าอีกเส้นหนึ่งก็ฟาดลงมา และจุดไฟให้ลุกไหม้ใหญ่กว่าเดิม

ตู้ม…

คานหัก

ในนาทีสุดท้าย ฟู่เฉินหวนรีบออกจากห้องพร้อมกับลั่วเยวี่ยอิงในอ้อมแขน ท่านหมอกู้เองก็รีบตามออกมาเช่นกัน

เมื่อพวกเขาก้าวออกมา เรือนทั้งหลังก็พังทลายลง

ลั่วชิงยวนไม่แปลกใจที่เห็นฉากนี้ นางรู้จักการก่อตัวเหล่านี้ดี และนางสามารถควบคุมทิศทางของสายฟ้าได้อย่างแม่นยำ สายฟ้านี้ไม่ได้เล็งไปที่เตียงของฟู่เฉินหวน นางไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าพวกเขา เพียงแค่ต้องการกำจัดความโกรธในใจ และสอนบทเรียนให้แก่เขาเท่านั้น

ดังนั้นนางจึงไม่แปลกใจเลยที่ฟู่เฉินหวนยังมีชีวิตอยู่ และออกมาจากห้องนั้น

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ฟู่เฉินหวนออกมา และมอบลั่วเยวี่ยอิงให้ซูโหยว สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่นางด้วยเจตนาสังหารที่รุนแรง

Kaugnay na kabanata

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 14

    ลั่วชิงยวนยืนอยู่กับที่โดยไม่ขยับ ฟู่เฉินหวนสาวเท้าสองสามก้าว จ้องมองนางด้วยความโกรธ "เจ้าเป็นคนทำอย่างนั้นรึ?!"ลั่วชิงยวนมองเขาอย่างสงบ พลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยถากถาง "ท่านเชื่อหม่อมฉันแล้วหรือเพคะ?"คำที่นางพูดออกมาหมายถึงยอมรับมันฟู่เฉินหวนรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก เขาดึงดาบยาวออกมาจากเอวขององครักษ์ส่วนพระองค์ พลางชี้ไปที่คอของลั่วชิงยวน และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ข้าจะฆ่าเจ้า!"ลั่วชิงยวนชูคอด้วยท่าทางเย็นชาและเย่อหยิ่ง "หากท่านอ๋องต้องการฆ่าก็ฆ่าเถิดเพคะ หลังจากที่ฆ่าหม่อมฉันแล้ว สิ่งล่อสายฟ้าในตำหนักอ๋องนี้ยังไม่ถูกถอนออกไป และพายุฝนฟ้าคะนองนี้จะกินเวลาอีกหลายวัน ตำหนักของท่านอ๋องจะกลายเป็นซากปรักหักพังเป็นแน่ อย่าได้คิดที่จะมีชีวิตอยู่ต่อแม้แต่คนเดียว!"“เจ้า!” ฟู่เฉินหวนกำดาบยาวไว้ในมือ ก่อนจะกระอักเลือดออกมาเต็มปากเซียวชูพยุงฟู่เฉินหวนทันทีด้วยความตกใจ และเป็นกังวล "ท่านอ๋อง!"“ท่านหมอกู้อยู่ที่ไหน! ท่านหมอกู้!” เซียวชูตะโกนทันทีองครักษ์นายหนึ่งตอบว่า "หมอกู้หมดสติหลังจากหนีออกมาจากกองไฟ!"เห็นดังนั้นลั่วชิงยวนจึงก้าวไปข้างหน้า และคว้าข้อมือของฟู่เฉินหวนขึ้น

    Huling Na-update : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 15

    หลังจากที่จากไป ลั่วชิงยวนก็พาเซียวชูไปจัดการกับสิ่งล่อสายฟ้าในตำหนักอ๋อง แม้ว่านางจะไม่สามารถหยิบเข็มทิศออกมาได้ แต่นางก็สัมผัสได้ถึงทิศทางที่เข็มทิศชี้ไป เนื่องจากมันเป็นสมบัติของครอบครัวยามนี้ ฝนได้ซาลงมากแล้ว ในตำหนักยังคงสาละวนอยู่กับเรือนหลังที่ถูกฟ้าผ่า จึงไม่มีใครสังเกตเห็นลั่วชิงยวนที่พาเซียวชูลัดเลาะไปมาภายในตำหนักลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกตัวตั้งนานแล้ว เมื่อนางรู้ข่าวว่า ท่านอ๋องอยู่ในห้องตำรากับลั่วชิงยวน นางจึงไม่สามารถเข้าไปรบกวนได้ ได้แต่เดินไปรอบ ๆ ห้องอย่างใจจดใจจ่อในที่สุด เมื่อนางได้ยินว่าลั่วชิงยวนออกมาจากห้องตำราแล้ว นางจึงรีบไปที่นั่นอย่างเร่งรีบแต่เมื่อนางไปถึงห้องตำรา ซูโหยวก็หยุดนางไว้ "คุณหนูรอง ท่านอ๋องบาดเจ็บสาหัส และกำลังพักผ่อนอยู่ขอรับ"ลั่วเยวี่ยอิงตกใจ ห้องตำราของท่านอ๋องไม่เคยอนุญาตให้ใครเข้าไป ลั่วชิงยวนสามารถเข้าไปได้ แต่นางกลับเข้ามิได้ หรือว่าท่านอ๋องจะทรงสงสัยจริง ๆ ว่านางแย่งความดีความชอบจากลั่วชิงยวน?“คุณหนูรอง รีบกลับไปพักผ่อนเถิดขอรับ” ซูโหยวเตือนเบา ๆลั่วเยวี่ยอิงกลับมาได้สติ นางหันหลังกลับและจากไป แม้แต่ซูโหยวก็มิไปส่งนางที่ห้องนางร

    Huling Na-update : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 16

    หลังจากฝนตกหนักท้องฟ้าก็แจ่มใส อากาศสดชื่นขึ้นเป็นพิเศษ เมื่อจือเฉากลับไปพักผ่อนแล้ว ลั่วชิงยวนก็ออกมาอีกครั้งพร้อมกับเข็มทิศนางออกค้นหาสถานที่ที่มีฮวงจุ้ยสมบูรณ์ ที่ดูดซับแก่นแท้ของดวงตะวันและจันทรา เพราะมันสามารถช่วยให้นางฝึกฝนความแข็งแกร่งของกำลังภายใน และทักษะทางจิตใจได้ นางต้องการฟื้นฟูความสามารถของตนเองโดยเร็วที่สุด!……ยามนี้เป็นช่วงเวลากลางดึก ทั้งเรือนจึงเงียบสงบ นางใช้เข็มทิศออกค้นหาไปรอบ ๆ จนกระทั่งเดินมาถึงศาลาในสวนเล็ก ๆ อันเงียบสงบ นางจึงวางเข็มทิศไว้ข้างหน้าหมุนมันด้วยความคงที่อย่างช้า ๆ แสงจันทราสาดส่องลงบนเข็มทิศ กระจายแสงสีขาวบริสุทธิ์ออกมาจาง ๆครั้นรุ่งสาง เมื่อไก่ทองขัน และท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาแม้ว่านางเพิ่งจะฝึกฝนกำลังภายในได้เพียงแค่สองวัน แต่ผลที่ได้นั้นช่างน่าอัศจรรย์ นางกำหมัดขึ้นมา รู้สึกได้เลยว่ามันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก“กรี๊ดดด…”ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องก็ทำลายเช้าอันเงียบสงบและสวยงามนี้……เมิ่งจิ่นอวี่ได้เสียชีวิตแล้วนางเสียชีวิตในบ่อน้ำ ในลานของลั่วชิงยวน และเสียชีวิตในลักษณะที่แปลกประหลาดใบหน้าซีดเซียวลอยอ

    Huling Na-update : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 17

    “พวกเจ้าดูให้ชัด ๆ ฆาตกรคือนางต่างหาก!”"แขนเสื้อหลุดลุ่ย มีร่องรอยของเศษเชือกป่านและตะไคร่น้ำ! คนที่ตัดเชือกที่นี่เมื่อคืนนี้คือลั่วเยวี่ยอิง!"“การตายของเมิ่งจิ่นอวี่ไม่เกี่ยวกับข้า!” ขณะนั้นเกิดความโกลาหลไปทั่วลั่วเยวี่ยอิงพยายามดิ้นรนอย่างหวาดกลัว ใบหน้าของนางซีดเซียว และพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล "ข้ามิได้ทำ มิใช่ข้า""หลักฐานแน่นหนาขนาดนี้ เจ้ายังจะเถียงอีกหรือ! น้องสาวที่ดีของข้า เจ้าจงใจหลอกเมิ่งจิ่นอวี่และฆ่านาง จากนั้นก็โยนความผิดให้ข้า!" ลั่วชิงยวนคว้าข้อมือของลั่วเยวี่ยอิง ดวงตาของนางแหลมคมราวกับใบมีด นางพูดขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ "แล้วความรักที่ลึกซึ้งของพี่น้องเล่า? เจ้าทำเช่นนี้หมายความเยี่ยงไร"ครั้งแล้วครั้งเล่า คิดว่านางรังแกได้ง่าย ๆ อย่างงั้นหรือ!ถึงลั่วชิงยวนยอมทนกับความโกรธนี้ แต่นางลั่วเหลาจะไม่มีวันยอมเด็ดขาด!อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา แขนอันทรงพลังคู่หนึ่งก็ดึงลั่วเยวี่ยอิงออกไป ก่อนจะตบนางอย่างรุนแรง พร้อมกับด่าทอด้วยความโกรธ "ลั่วชิงยวน!"ในขณะนั้นแหวนบนมือของฟู่เฉินหวนปัดผ่านแก้มของลั่วชิงยวน ทิ้งรอยนิ้วมือทั้งห้าไว้บนใบหน้าของนางพร้อมกับคราบเลือดกลิ

    Huling Na-update : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 18

    เมื่อไม่มีใครอยู่ในลานแล้ว ลั่วชิงยวนก็หยิบเข็มทิศออกมาและเดินไปที่ด้านข้างของบ่อน้ำ ดูเหมือนว่าวิญญาณชั่วร้ายถูกเปิดออก พวกมันพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง และแพร่กระจายไปทั่วนางขมวดคิ้วสงสัยในใจ พลางผูกเชือกเข้ากับเสา แล้วปล่อยมันห้อยลงไปในบ่อน้ำ ก่อนจะจับเชือกแล้วค่อย ๆ เดินลงไปด้านในนางต้องการตรวจสอบให้แน่ชัดว่า ด้านล่างนั้นมันเป็นอย่างไรกันแน่บ่อน้ำนั้นไม่ได้ลึกอย่างที่นางจินตนาการไว้ นางจึงกลั้นหายใจและว่ายไปที่ก้นบ่อ ก่อนจะพบว่า มีกระจกยันต์แปดทิศอยู่ที่ก้นบ่อ แต่กระจกยันต์แปดทิศนั้นหนักมาก และตรงมุมมีเชือกผูกติดเอาไว้ นางมิสามารถนำมันขึ้นมาได้ วิญญาณชั่วร้ายถูกปล่อยออกมาจากกระจกยันต์แปดทิศนี้ แสดงว่ามันน่าจะเอาไว้สะกดวิญญาณศพที่อยู่รอบ ๆ และเมื่อศพถูกนำออกไป ตำแหน่งของกระจกยันต์แปดทิศจึงเปลี่ยน และได้ปลดปล่อยวิญญาณร้ายจะออกมานางแน่ใจได้เลยว่า นี่คือการรวมตัวของสิ่งชั่วร้ายในแคว้นหลี่ตราบใดที่กระจกยันต์แปดทิศถูกผนึกอย่างดี พลังงานชั่วร้ายจะไม่รั่วไหลออกไป และโดยทั่วไปแล้วตรวจจับได้ไม่ง่ายนัก เมื่อพลังงานชั่วร้ายรวมตัวกัน และมีพลังเพียงพอ เมื่อมันถูกเปิดออกอีกครั้ง พลังงานชั่ว

    Huling Na-update : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 19

    ดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางจงใจเบียดตัวไปทางเฉียงเวย "ข้าตัวใหญ่จริง ๆ นั่นแหละ และข้าก็สามารถทับเจ้าตายได้ เจ้าเชื่อหรือไม่?"เฉียงเวยถูกเบียดเข้ามุม นางถูกบีบระหว่างลั่วชิงยวนและลั่วเยวี่ยอิง ลั่วชิงยวนเบียดจนมีพื้นที่ว่าง ก่อนจะกวักมือเรียกจือเฉาที่อยู่นอกรถม้า ตบพื้นที่ว่างข้างตัว และเอ่ยขึ้น "จือเฉา ขึ้นมา"จือเฉายิ้มและรีบเข้ามาในรถม้า "พระชายา ท่านใจดีจริง ๆ เจ้าค่ะ"เฉียงเวยบิดตัวไปมา และเอ่ยอย่างไม่พอใจ "พระชายารถม้าคันเล็กนิดเดียว เหตุใดท่านถึงได้นำนางรับใช้ขึ้นมาด้วยเล่าเจ้าคะ! ดูสิเบียดคุณหนูรองหมดแล้ว!”ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกอึดอัดมาก จนนางแทบจะหายใจไม่ออก"พวกเจ้าเบียดกันแล้วเกี่ยวอะไรกับข้า? ถ้าใครมิอยากเบียดก็ลงไปสิ" ลั่วชิงยวนตะคอกเสียงเย็น อาศัยขนาดของตัวเองเบียดเข้าไปอีก แม้ว่าร่างกายจะอ่อนแอ แต่น้ำหนักก็หนักพอควร ไม่ว่าเฉียงเวยจะผลักกลับแค่ไหน นางก็ไม่ขยับเลยสักนิด ราวกับภูเขาลูกเล็ก ๆ ท้ายที่สุดลั่วเยวี่ยอิงก็ทนมิไหวอีกต่อไป นางไล่นางรับใช้สองคนออกจากรถม้า จึงมีพื้นที่ที่กว้างขึ้นลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก แต่นางก็ทำอะไรมิได้ ได้แต่นั่

    Huling Na-update : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 20

    "แม่นมกู้ ในกล่องว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดอยู่เลย!" นางขมวดคิ้วและรีบลุกขึ้นเพื่อมองหาแม่นมกู้แม่นมกู้เพิ่งจะเดินมาถึงตู้ นางเหลือบมองไปที่กล่องเปล่าอย่างตกใจ "ไม่มีสิ่งใดเลยหรือเจ้าคะ?""ใครเอาสมบัติของแม่คุณหนูไปกัน!" ทันใดนั้นแม่นมกู้ก็รู้สึกเป็นกังวลใจขึ้นมา ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วพลางนึกคิด สมบัตินี้มิน่าจะเพิ่งหายไป ก่อนหน้านี้ต้องมีคนมาแอบเอามันไปเป็นแน่ เพียงแต่ลั่วชิงยวนและแม่นมกู้ไม่ทันได้สังเกตเท่านั้นหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ขมวดคิ้ว “ลั่วเยวี่ยอิง!” นางรีบสาวเท้าเดินออกจากห้องไปทันทีมีเพียงลั่วเยวี่ยอิงเท่านั้นที่เคยพานางรับใช้มาที่ห้องของนาง ในเวลานั้นลั่วชิงยวนคิดว่า นางคือน้องสาวสุดที่รัก และไม่เคยคิดสงสัยในตัวของลั่วเยวี่ยอิงเลย นอกจากลั่วเยวี่ยอิงแล้ว ใครจะกล้าแตะต้องสมบัติของแม่นางกัน!เมื่อก่อนนางมิได้ใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้ แต่เมื่อมาเห็นผังฮวงจุ้ยของตระกูลลั่ว นางก็รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก และต้องการตรวจสอบให้ได้ว่าแม่ของลั่วชิงยวนเป็นใครกัน! และนางเป็นปรมาจารย์ฮวงจุ้ยจากแคว้นหลี่หรือไม่ ? ถ้าหากใช่ ก็น่าจะเป็นคนที่นางรู้จักความคิดเร่งด่วนนี้ ทำให้นาง

    Huling Na-update : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 21

    ลั่วชิงยวนที่บอบช้ำได้บาดแผลเพิ่มขึ้นมาอีกนางเงยหน้าขึ้นด้วยความไม่อยากเชื่อ มองดูท่านพ่อที่เกรี้ยวกราด นางรู้สึกไม่พอใจ "เหตุใดถึงได้ตบตีข้า?"นางรู้สึกโกรธและเจ็บปวดใจ ลั่วชิงยวนก่ออาชญากรรมอะไรอย่างนั้นหรือ ทำไมรอบตัวถึงได้มีแต่คนเยี่ยงนี้ แม้แต่พ่อของนางก็ยังทุบตีนางโดยไร้เหตุผล ทั้ง ๆ ที่ลั่วเยวี่ยอิงเป็นคนเอาสมบัติของแม่นางไปก่อน!ผิดอะไรที่นางอยากได้สมบัติของแม่นางคืน?"เจ้ายังจะกล้าเถียงอีกรึ!" ลั่วไห่ผิงโกรธจัด และตบหน้านางอีกครั้งลั่วชิงยวนเวียนหัวมาก นางไม่มีแม้แต่แรงที่จะหลบหลีก การที่ถูกตบถึงสองคราทำให้ภาพเบื้องหน้าของนางเป็นสีดำ ศีรษะของนางบวมจนทนกับความเจ็บปวดนี้ไม่ไหว เลือดค่อย ๆ ไหลหยดลงบนพื้นนางกำฝ่ามือแน่น เต็มไปด้วยความโกรธ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและมองตรงไปที่ลั่วไห่ผิงอย่างไม่พอใจ "ข้าทำอะไรผิดอย่างงั้นหรือ? ข้าเพียงแค่ต้องการสิ่งสมบัติของแม่ข้าคืนมาก็เท่านั้น! แต่ท่านพ่อกลับตบตีข้าอย่างไร้เหตุผล ท่านลำเอียงเกินไปหรือไม่!"ในความทรงจำ ลั่วชิงยวนต่างหากที่เป็นผู้ได้รับความรัก และเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมาตั้งแต่เด็ก แต่หลังจากป่วยหนักร่างกายของนางก็อ้วนขึ้น ตั้งแ

    Huling Na-update : 2024-10-29

Pinakabagong kabanata

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1125

    ลั่วชิงยวนเข้าไปถวายการรักษาด้วยการฝังเข็มและถวายยาให้จักรพรรดิสูงสุดอาการประชวรของจักรพรรดิสูงสุดเริ่มดีขึ้น แต่ยังพูดและเดินมิคล่องฟู่จิ่งหานและฟู่เฉินหวนต่างก็คอยพยุงจักรพรรดิสูงสุดเดินเล่นในสวน“เหนื่อยแล้ว” จักรพรรดิสูงสุดหยุดพักฟู่จิ่งหานประคอง “หากทรงเหนื่อยก็กลับไปพักผ่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”แต่จักรพรรดิสูงสุดมิยอมกลับ “ไม่”ฟู่จิ่งหานคุกเข่าลง “เช่นนั้นให้ลูกแบกเสด็จพ่อกลับดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”จักรพรรดิสูงสุดส่ายหน้า แล้วเงยหน้ามองดวงอาทิตย์ “แดด”ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “จักรพรรดิสูงสุดประสงค์จะอาบแดดที่นี่ ให้คนไปนำเก้าอี้มาเถิดเพคะ”จักรพรรดิสูงสุดพยักหน้าอย่างพึงพอใจเมื่อเอนกายลงบนเก้าอี้ มินานจักรพรรดิสูงสุดก็หลับไปฟู่จิ่งหานนำผ้าห่มมาห่มให้ แล้วคอยเฝ้าอยู่มิห่างฟู่เฉินหวนจูงมือลั่วชิงยวนเดินเล่นในสวน พลางเอ่ยขึ้นว่า “ชิงยวน ขอบคุณนะ”“ขอบคุณเรื่องอันใดเพคะ?”“ขอบคุณที่รักษาเสด็จพ่อ ข้ามิเคยคิดว่าเสด็จพ่อจะกลับมาพูดได้อีกครั้ง”ลั่วชิงยวนยิ้ม “ขอบคุณแค่วาจาหรือเพคะ?”ฟู่เฉินหวนยิ้ม ก่อนจะประคองหน้านางมาจุมพิต“เจ้าต้องการสิ่งใด?”“นอกจากใต้หล้าใบนี้ ข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1124

    “ค้นทั่วเมืองหลวงแล้วก็ยังมิพบร่องรอยของลั่วฉิง”“ยึดทรัพย์ตระกูลเหยียนแล้ว แต่มิพบตัวเหยียนหน่ายซิน ถามบ่าวไพร่ในจวน พวกเขากล่าวว่าหลังจากมหาราชาจารย์เหยียนลาออกจากราชสำนักกลับเมืองฉิน เหยียนหน่ายซินก็หายไป มิเคยกลับมาที่จวนอีกเลย”“ไม่มีใครรู้ว่านางไปอยู่ที่ใด”ลั่วชิงยวนใจหาย “ดูเหมือนเหยียนหน่ายซินจะติดต่อลั่วฉิงไว้ก่อนแล้ว มิเช่นนั้นคงมิเสี่ยงมาช่วยนาง”“แม้ตระกูลเหยียนจะล่มสลาย แต่ในเมืองหลวงต้องมีคนที่ยังจงรักภักดีต่อเหยียนหน่ายซิน พวกนางคงหนีออกจากเมืองไปแล้ว”ฟู่เฉินหวนพยักหน้า แล้วลูบไล้แก้มนาง “ข้าจะเข้าวัง เจ้าพักผ่อนเถิด”“เพคะ”จากนั้นฟู่เฉินหวนก็รีบออกไปลั่วชิงยวนกลับห้องมาคำนวณวันมงคลสำหรับซ่งเชียนฉู่กับเฉินเซี่ยวหานแต่เมื่อคำนวณแล้ว นางก็หน้าซีดเผือดชะตาเข้ากัน เพลิงเผาผลาญภัยพิบัติจะเกิดขึ้นในอีกมิกี่เดือนข้างหน้าภัยที่เห็นได้ชัดที่สุดคือเพลิงเผาผลาญจากทิศตะวันตกทิศตะวันตกที่เกี่ยวข้องกับซ่งเชียนฉู่ก็คือสำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยหรือว่าครอบครัวของซ่งเชียนฉู่จะมีภัย?......กลางดึกในคืนเดือนมืด ลั่วฉิงนั่งอยู่บนเตียงไม้แข็งดวงตาขวาปวดระบม มองมิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1123

    “ระวัง!”ทุกคนต่างพากันปิดปากปิดจมูกฟู่เฉินหวนรีบปกป้องลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนโบกมือพัดด้วยความระแวดระวัง แต่ก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นทันใดนั้นนางก็รู้สึกใจหาย “แย่แล้ว ลั่วฉิง!”นางรีบวิ่งไปทางลั่วฉิงและแล้วก็พบเพียงรอยเลือดบนพื้นลั่วฉิงหายตัวไปแล้วซ่งเชียนฉู่ตกใจ “หนีไปแล้ว!”ลั่วชิงยวนมองไปรอบ ๆ ผู้คนพลุกพล่าน หาตัวคนร้ายมิเจอ“นางหนีไปเร็วถึงเพียงนั้นเองมิได้ ต้องมีคนช่วยไว้”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว “นางมีผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยหรือ?”ลั่วชิงยวนครุ่นคิด ลั่วฉิงมักจะอยู่คนเดียวมาตลอด ไม่มีพวกพ้องแต่เมื่อนึกถึงความลับที่ลั่วเยวี่ยอิงรู้ ก็มีคนคนหนึ่งที่เชื่อมโยงพวกนางเข้าด้วยกัน“เหยียนหน่ายซิน!”ฟู่เฉินหวนสั่งการทันที “ใครก็ได้ ไปตรวจค้นตระกูลเหยียน จับคนทั้งหมด ห้ามปล่อยให้รอดแม้แต่คนเดียว!”“พ่ะย่ะค่ะ!”ฟู่เฉินหวนมิวางใจ นำกำลังออกตามล่าด้วยตัวเองมิอาจปล่อยให้ลั่วฉิงหนีไปได้ส่วนลั่วชิงยวนก็พาซ่งเชียนฉู่กับเฉินเซี่ยวหานกลับไปก่อนเมื่อเปิดเผยตัวตนแล้ว ลั่วชิงยวนก็มิต้องปลอมตัวอีก นางพาพวกเขากลับเรือน“เชียนฉู่ การเดินทางราบรื่นหรือไม่?” ลั่วชิงยวนเห็นเฉินเซี่ยวหานดูสด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1122

    ม่านรอบรถม้าถูกม้วนขึ้นเผยให้เห็นจักรพรรดิสูงสุดที่ประทับอยู่ภายในพร้อมด้วยจักรพรรดิและอ๋องผู้สำเร็จราชการฟู่เฉินหวนเมื่อมาถึงลานประหาร ฟู่เฉินหวนก็กระโดดลงมายืนขวางหน้าลั่วชิงยวนไทเฮาจ้องเขาด้วยสายตาอาฆาต “เจ้าคิดจะทำอะไร! จักรพรรดิสูงสุดประชวรหนัก เจ้ากล้าพาพระองค์ออกจากวัง! อ๋องผู้สำเร็จราชการ คิดก่อกบฏหรือ!”ใกล้จะประหารลั่วชิงยวนต่อหน้าต่อตานางแล้ว!กลับมีเรื่องวุ่นวาย!แม้แต่จักรพรรดิสูงสุดก็ถูกพวกเขาเชิญมาได้ฝ่ายจักรพรรดิพยุงจักรพรรดิสูงสุดเข้ามา แม้จะเดินอย่างเชื่องช้า แต่ภาพนั้นก็เพียงพอจะทำให้ทุกคนตกตะลึงเมื่อมาถึงแล้ว จักรพรรดิก็มองไทเฮาด้วยสายตาผิดหวัง “เสด็จแม่ ลูกมิคิดเลยว่าท่านจะทำเรื่องอุกอาจเช่นนี้”ไทเฮาทรงหน้าซีด จ้องมองจักรพรรดิสูงสุดฝ่ามือเย็นเฉียบมีเหงื่อไหลสิ่งที่ทำให้ผู้คนตกตะลึงยิ่งกว่าการที่จักรพรรดิสูงสุดเดินได้ คือการที่เขาพูดได้แม้จะพูดตะกุกตะกักด้วยเสียงแหบพร่า แต่ก็ยังทรงอำนาจ“ไทเฮาวางยาพิษข้า ใช้อำนาจในทางมิชอบ คิดก่อกบฏ บัดนี้ปลดไทเฮา แล้วคุมขังไว้ในพระตำหนักโช่วสี่ตลอดชีวิต”เขาพูดแต่ละคำออกมาอย่างเชื่องช้าแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1121

    ลั่วชิงยวนใจหายวาบ “ช่างน่ารังเกียจ!”“สงสารแล้วรึ? หากสงสารก็เอาเข็มทิศมาให้ข้าสิ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้ากับฟู่เฉินหวน”“เพียงแค่พวกเจ้าออกจากเมืองหลวง มิยุ่งเกี่ยวกับราชสำนักอีก ไปอยู่ที่ใดก็ได้ ข้ารับรองว่าจะมิตามล่า”ลั่วชิงยวนกล่าวเสียงเย็นชา “ข้ามิเชื่อเจ้าหรอก นอกจากเจ้าจะช่วยข้าก่อน ข้าจึงจะพิจารณาเรื่องเข็มทิศ”“ก่อนที่ข้ากับฟู่เฉินหวนจะปลอดภัย เจ้าอย่าหวังจะรู้ว่าเข็มทิศอยู่ที่ใด”ลั่วฉิงหมดความอดทนนางมิกล้าปล่อยลั่วชิงยวนง่าย ๆ เพราะหากปล่อยนางไป ถ้านางหนีรอดแต่มิยอมให้เข็มทิศ เช่นนั้นจะทำเช่นไรเล่า“ลั่วชิงยวน เจ้าช่างฉลาดแกมโกงนัก หากมิใช่ศัตรูกัน ข้าอยากคบเจ้าเป็นสหายเสียจริง” ลั่วฉิงเอ่ยชมลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก “เราต่างก็เป็นปีศาจจิ้งจอกพันปีกันทั้งนั้น ใครจะเจ้าเล่ห์กว่ากัน?”“คิดจะหลอกเอาของของข้า เลิกคิดเสียเถิด”ลั่วฉิงมองนางด้วยสายตาอาฆาต “เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้ามิให้โอกาส”กล่าวจบนางก็หรี่ตามองดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า แล้วเอ่ยว่า “ใกล้เที่ยงแล้ว เจ้าเตรียมตัวหรือยัง”“ใต้หล้านี้ ไม่มีสิ่งใดที่เจ้าห่วงใยแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนมิตอบมินานก็ถึงเวลาเที่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1120

    ด้วยบัญชาของฟู่เฉินหวนจึงมิได้มีการทรมานหรือเบียดเบียนลั่วชิงยวนในคุกแต่อย่างใดนางกลับได้รับการดูแลอย่างดี มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์และยังได้รับอนุญาตให้ออกจากคุกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ครึ่งชั่วยามในยามเที่ยงทุกวันด้วย แต่ก็เป็นการปล่อยตัวออกไปอย่างเป็นความลับวันหนึ่งในยามเที่ยง ลั่วชิงยวนได้เห็นอาเสินกำลังบินวนอยู่บนท้องฟ้าเมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดอยู่ใกล้ นางจึงยื่นแขนออกไปอาเสินจึงบินลงมาเกาะบนแขนของนาง พร้อมกับนำดอกชามาให้นางหนึ่งดอกลั่วชิงยวนดมกลิ่นดอกชานั้นแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าต้องการบอกข้าว่านางเดินทางมาแล้วใช่หรือไม่”อาเสินมิอาจพูดตอบได้จึงบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง บินวนเวียนอยู่สักพักก่อนจะบินจากไป ลั่วชิงยวนดมกลิ่นหอมของดอกชานั้นอีกครั้ง แล้วคำนวณตำแหน่งของซ่งเชียนฉู่ ปรากฏว่าอีกสามวันนางก็คงจะมาถึงเมืองหลวงแล้วแต่สิ่งที่ลั่วชิงยวนคาดมิถึงก็คือก่อนที่สามวันนั้นจะมาถึงไทเฮากลับเสด็จมา พร้อมกับพระราชโองการ“ลั่วชิงยวนเป็นนางปีศาจผู้ก่อความวุ่นวายให้แก่แผ่นดิน ให้ประหารชีวิตด้วยการตัดหัวในยามเที่ยงวันนี้!” “ให้รีบนำตัวไปยังลานประหารทันที”ลั่วชิง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1119

    ฟู่เฉินหวนมองไทเฮาด้วยสายตาคมกริบ “ไทเฮาทรงได้รับบาดเจ็บ ให้หมอหลวงมาตรวจดูเถิด”ไทเฮาเหลียวมองเขาอย่างเย็นชาแล้วหันหลังเดินออกไปจักรพรรดิจึงสั่งเลิกประชุมราชสำนัก ฟู่เฉินหวนก็เดินออกไปเช่นกันเมื่อมาถึงสวน ฟู่เฉินหวนก็พบกับไทเฮา“ไทเฮาทรงแสร้งประชวรได้เหมือนจริง แม้เหยียนผิงเซียวและมหาราชาจารย์เหยียนจะตายก็ยังทำให้ท่านล้มมิได้”ไทเฮาหัวเราะเย็นชา “ยังมิถึงตอนตัดสินเลย ตัวข้าจะล้มได้อย่างไร”“แม้ทั้งตระกูลเหยียนจะเหลือเพียงตัวข้าผู้เดียว ข้าก็จะมิยอมแพ้”“เพราะข้าคือไทเฮา!” ไทเฮาพูดด้วยสายตาแน่วแน่ เปี่ยมล้นด้วยความทะเยอทะยานฟู่เฉินหวนหรี่ตาลง “เช่นนั้นนี่ก็คือตอนตัดสิน ไทเฮาคิดว่าท่านจะชนะหรือ?”ไทเฮาตรัสอย่างมั่นใจ “ข้ามิเคยแพ้!”กล่าวจบก็สะบัดแขนเสื้อจากไปลั่วชิงยวนถูกคุมขัง ฟู่เฉินหวนก็รีบตามมา“ชิงยวน!”ฟู่เฉินหวนสั่งให้ผู้คุมออกไปเมื่อไม่มีผู้ใดอยู่ด้วยแล้ว ฟู่เฉินหวนก็จับมือนาง “เจ้าคงลำบากใจที่ต้องอยู่ในคุกสองวัน ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง”ลั่วชิงยวนส่ายหน้า “ท่านอย่าใจร้อนเลยเพคะ”“แค่พยายามถ่วงเวลาไว้ หม่อมฉันกำลังรอข่าวอยู่”ฟู่เฉินหวนตกใจเล็กน้อย“ได้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1118

    “พวกเจ้าคิดจะประหารชายาของข้าโดยมิถามความเห็นข้าก่อนรึ?” ฟู่เฉินหวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดันทั่วทั้งท้องพระโรงพลันเงียบสงัดไม่มีผู้ใดกล้าท้าทายอำนาจของเขาต่างพากันปิดปากเงียบฟู่เฉินหวนกล่าวเสียงเย็นชา “นางรับใช้บังอาจกล่าววาจาเหลวไหลในท้องพระโรง? เพียงแค่นางพูด พวกเจ้าก็เชื่อแล้วจริง ๆ”“หรือว่ามาประชุมราชสำนักเช้าเกินไป ยังมิตื่นเต็มที่ ก็เลยลืมเอาสมองมาด้วย?” ฟู่เฉินหวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบที่เต็มไปด้วยความโกรธจักรพรรดิรีบพูดทันที “แม้ลั่วชิงยวนจะเป็นท่านเซียนฉู่ แต่นางมิเคยกล่าววาจาหลอกลวง หรือใช้สถานะไปเบียดเบียนราษฎร การที่นางได้เข้าวังมาเป็นมหาปราชญ์ก็เป็นความคิดของข้าเอง”“พวกเจ้าคิดจะประหารนาง หรือว่าต้องลงโทษข้าก่อนล่ะ?”ขุนนางทั้งหลายรีบคุกเข่า “มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!”ลั่วชิงยวนตอบอย่างองอาจ “เดิมทีข้ามิได้อยากเป็นมหาปราชญ์ มิต้องพูดถึงการกล่าววาจาหลอกลวงราษฎร”“แต่บัดนี้หากมิเป็นมหาปราชญ์ คงดูเหมือนข้าหวาดกลัวและมีพิรุธ”“ดังนั้นวันนี้ข้าจะใช้สถานะของลั่วชิงยวนรับตำแหน่งมหาปราชญ์”สิ้นคำของนาง ทุกคนก็ตกตะลึงลั่วชิงยวนช่างอวดดีนัก!จักรพรรดิได้ยินก็กำลังจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1117

    “แล้วเหยียนผิงเซียวเล่า ท่านก็เป็นคนฆ่าเขาด้วยเช่นกันสินะ!” ขุนนางในท้องพระโรงเอ่ยถามลั่วชิงยวนยังมิทันตอบก็มีขุนนางที่นางมิเคยเห็นมาก่อนเอ่ยขึ้นว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมมีพยานและหลักฐานพ่ะย่ะค่ะ!”องค์จักรพรรดิขมวดคิ้ว แม้จะมิเต็มใจ แต่เรื่องนี้มิอาจเพิกเฉยได้“นำตัวเข้ามา”ลั่วชิงยวนหันกลับไปมองก็เห็นลั่วฉิงเดินเข้ามาในท้องพระโรง“ฝ่าบาท หม่อมฉันลั่วฉิง เป็นนางรับใช้ข้างกายคุณชายเหยียน คืนที่เกิดเรื่องกับคุณชายเหยียน หม่อมฉันเห็นเขาไปที่ร้านของท่านเซียนฉู่และถูกท่านเซียนฉู่ฆ่าตายเพคะ”“ตอนที่คุณชายเหยียนต่อสู้กับท่านเซียนฉู่ หน้ากากของท่านเซียนฉู่หลุด หม่อมฉันเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา ปรากฏว่าเขาคือพระชายาลั่วชิงยวนเพคะ!”“บาดแผลร้ายแรงถึงชีวิตของคุณชายเหยียน หมอตรวจสอบแล้วว่าเกิดจากกริชจันทร์เสี้ยว หลายคนย่อมเคยเห็นอาวุธป้องกันตัวที่พระชายาใช้เป็นประจำ ซึ่งก็คือกริชจันทร์เสี้ยว!”ลั่วฉิงนำหลักฐานมาแสดงแล้วกล่าวต่อไปว่า “หม่อมฉันพบจดหมายในห้องของคุณชายเหยียน เป็นจดหมายที่ท่านเซียนฉู่นัดเขาไปที่ร้านด้วยเพคะ”“ท่านเซียนฉู่หลอกลวงคุณชายเหยียนไปฆ่า!”เมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ผ

DMCA.com Protection Status