แชร์

บทที่ 1168

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
เหยียนหน่ายซินขี่ม้าผ่านหน้าลั่วชิงยวน สายตาเหลือบมองนางแวบหนึ่ง

สายตาสองคู่สบประสานกัน

เหยียนหน่ายซินกระตุกยิ้มมั่นใจ

จือเฉาตกใจ “เหตุใดนางจึงอยู่กับแม่ทัพเฉิน? นางมิใช่คนตระกูลเหยียนหรือเจ้าคะ?”

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว นางจับเหยียนหน่ายซินมิได้และคิดว่านางคงมิอยู่ในเมืองหลวงแล้ว

มิคิดว่าวันนี้จะได้พบกับเรื่องน่าประหลาดใจเช่นนี้

แม่ทัพเฉินพาเหยียนหน่ายซินเข้าวัง มินานก็มีข่าวออกมาว่าแม่ทัพเฉินได้รับการเลื่อนขั้นเป็นแม่ทัพใหญ่ ได้รับประทานบรรดาศักดิ์ คืนความรุ่งโรจน์ให้ตระกูลเฉิน

ลั่วชิงยวนรอฟู่เฉินหวนกลับมาจนค่ำ

ฟู่เฉินหวนรู้ว่านางจะถามอะไร จึงตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เหยียนหน่ายซินเป็นลูกหลานตระกูลเฉิน”

ลั่วชิงยวนตกใจ “ว่ากระไรนะเพคะ?”

ฟู่เฉินหวนตอบ “ชื่อจริงของนางคือเฉินซินเยวี่ย”

“ตอนที่ตระกูลเฉินล่มสลาย เหยียนหน่ายซินตัวจริงเป็นเพียงบุตรีอนุ ใคร ๆ ก็มิสนใจ เพื่อรักษาชีวิตเฉินซินเยวี่ย จึงให้นางสวมรอยเป็นเหยียนหน่ายซินแทน”

ลั่วชิงยวนมิอยากเชื่อ “เรื่องนี้เป็นความจริงหรือเพคะ?”

“เฉินฮุยซานบอกว่าเป็นความจริง”

“แต่เรื่องราวผ่านมานานแล้ว ยากจะตรวจสอบได้”

“เหยียนหน่ายซินหลบอยู่
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1169

    แต่ยังมิทันที่ฟู่เฉินหวนจะกลับมาก็ได้รับข่าวร้ายที่มิคาดคิดเสียก่อนจักรพรรดิสวรรคต!ข่าวนี้ทำให้ลั่วชิงยวนตกใจสุดขีด “ว่ากระไรนะ? ท่านฟังผิดไปหรือไม่?”ฟู่จิ่งหลีสีหน้าเคร่งขรึม “ขุนนางได้รับหมายเรียกเข้าวังเพื่อปรึกษาเรื่องพิธีศพแล้ว!”“พี่สะใภ้สาม องค์จักรพรรดิ ที่จริงแล้วองค์จักรพรรดิมิน่าจะ... ก่อนหน้านี้ยังแข็งแรงดีอยู่เลยมิใช่หรือ!”จู่ ๆ ก็มีข่าวว่าจักรพรรดิสวรรคต ลั่วชิงยวนรับมิได้นางร้อนใจจนไอออกมา“แค่ก แค่ก แค่ก แค่ก... เข้าวัง เข้าวังไปดู!”ลั่วชิงยวนกับฟู่จิ่งหลีรีบเข้าวัง แต่ก็สายไปเสียแล้ว พระศพจักรพรรดิถูกนำไปบรรจุไว้ในโลงที่หอบรรพบุรุษลั่วชิงยวนมองโลงศพด้วยความมิอยากจะเชื่อ“เหตุใดจักรพรรดิจึงสวรรคตกะทันหัน ข้าจะเปิดหีบพระศพตรวจสอบ!”สิ้นคำของนาง เหล่าขุนนางก็ตกใจจนรีบคุกเข่าลง “มิได้ขอรับพระชายา นี่เป็นการลบหลู่องค์จักรพรรดิ!”“หากพระชายาหีบพระศพ พวกเราต้องตายกันหมด!”ฟู่จิ่งหลีมองโลงศพพลางกำมือแน่นลั่วชิงยวนกัดฟันพูด “หากมีผู้ใดจะเอาผิด ข้ารับผิดชอบเองแต่เพียงผู้เดียว!”“องค์ชายเจ็ด ช่วยหม่อมฉันที!”ฟู่จิ่งหลีพยักหน้า ทั้งสองช่วยกันจะเปิดฝาโลงเห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1170

    ทันใดนั้น ฟู่เฉินหวนก็ปรากฏกายขึ้นท่ามกลางพายุหิมะ เสื้อคลุมโบกสะบัดท่ามกลางสายลม กลิ่นอายดุดันน่าเกรงขาม“เสด็จพี่ ที่นี่คือสถานที่เช่นไร ท่านน่าจะทราบดี แม้แต่เสด็จพ่อก็ไม่มีทางอนุญาตให้เปิดหีบพระศพในที่แห่งนี้”“มิเพียงเป็นการลบหลู่องค์จักรพรรดิเท่านั้น แต่ยังเป็นการลบหลู่บรรพบุรุษของเราด้วย!”“เสด็จพี่เป็นถึงผู้สำเร็จราชการ น่าจะเข้าใจกฎระเบียบนี้ดีกว่ากระหม่อม” ฟู่อวิ๋นโจวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาฟู่เฉินหวนมองโลงศพด้วยแววตาซับซ้อน “ข้าเคยบอกแล้ว ข้าสามารถส่งเจ้าขึ้นสู่ตำแหน่งนี้ได้ก็สามารถดึงเจ้าลงมาได้”“เจ้าอย่าให้ข้าหาหลักฐานมาได้ก็แล้วกัน”พูดจบ ฟู่เฉินหวนก็จูงมือลั่วชิงยวนจากไปอย่างรวดเร็วฟู่จิ่งหลีจ้องมองฟู่อวิ๋นโจวอย่างเย็นชา ก่อนจะรีบตามไปลมหนาวพัดแรง ลั่วชิงยวนสูดลมหายใจเข้าแล้วไอออกมาอีกฟู่เฉินหวนรีบหยุดเดิน แล้วสวมหมวกคลุมให้นาง ก่อนจะรีบโอบไหล่นางเดินจากไป“ฟู่จิ่งหานจากไปแล้วจริงหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนยังคงทำใจรับมิได้ฟู่เฉินหวนมิตอบ สีหน้าเคร่งขรึมแต่ความเงียบของเขาก็ถือเป็นคำตอบเช่นกันลั่วชิงยวนกัดฟันพูด “หม่อมฉันมิคิดเลยว่าเขาจะมีจิตใจเหี้ยมโหดถึงเพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1171

    “พระชายาเป็นอะไรไปเจ้าคะ?”หัวใจของลั่วชิงยวนพลันเต้นระรัวด้วยความตระหนก รีบตรวจชีพจรตัวเองอีกครั้งนาง...ตั้งครรภ์แล้วข่าวนี้ควรเป็นที่น่ายินดีทว่าในยามนี้กลับทำให้ลั่วชิงยวนร้อนรุ่มใจนักเหตุใดจึงต้องเป็นเวลานี้ร่างกายของนางบาดเจ็บสาหัส อ่อนแอเสียจนมิอาจใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ได้“พระชายา?”ลั่วชิงยวนฝืนยิ้ม ใบหน้าซีดเซียว “มิเป็นอะไร เจ้าออกไปเถิด”“ข้าขอพักสักครู่”ลั่วชิงยวนเช็ดคราบเลือด แล้วล้มตัวลงนอนจือเฉาจัดแจงที่นอนและห่มผ้าให้นาง “หากพระชายาต้องการสิ่งใด เรียกบ่าวได้เลยนะเจ้าคะ”จือเฉากล่าวจบก็ถอยออกจากห้อง แต่ในใจยังคงกังวลมิหายลั่วชิงยวนนอนบนเตียง อย่างไรก็มิอาจข่มตาหลับลงได้นางมิรู้ว่าควรทำเช่นไร การเกิดขึ้นของชีวิตน้อย ๆ นี้ช่างมิถูกเวลาเอาเสียเลยแล้วก็มิรู้ว่าควรบอกข่าวนี้แก่ฟู่เฉินหวนหรือไม่ฟู่จิ่งหานสิ้นชีพแล้ว ก้าวต่อไปฟู่อวิ๋นโจวก็คงหมายมั่นจะขึ้นครองราชย์ หากเขาได้เป็นจักรพรรดิแล้ว นางมิอาจคาดเดาได้ว่าเขาจะทำสิ่งใด เข็มทิศอาณัติสวรรค์ก็มิอาจทำนายได้ดูท่าทุกสิ่งล้วนเป็นลิขิตสวรรค์บัดนี้ฟู่เฉินหวนมีภาระมากมาย นางจึงเลือกที่จะมิบอกเขา เพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1172

    “เฉินชี! ปล่อยข้า! เจ้าจะพาข้าไปที่ใด!” ลั่วชิงยวนดิ้นรนสุดกำลังเฉินชีโอบอุ้มนางไว้ด้วยมือเดียว เหินทะยานไปบนหลังคา มุ่งหน้าออกจากเมืองหลวงโดยพลันท่ามกลางพายุหิมะ รอบด้านขาวโพลนพร่าเลือน ลั่วชิงยวนสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อบางเบา เมื่อต้องเผชิญกับลมหนาวจัดใบหน้าก็ซีดเผือด สติเลื่อนลอยมิรู้ว่าต้องทนหนาวอยู่ท่ามกลางสายลมเช่นนี้เนิ่นนานเพียงใดกระทั่งถึงกระท่อมมุงจากหลังหนึ่งบนภูเขานอกเมือง เฉินชีจึงวางลั่วชิงยวนลง นางทรุดลงกับพื้นทันที ร่างกายเย็นเยียบ ขดตัวด้วยความหนาวเหน็บ สติเลือนรางเต็มทีเมื่อเฉินชีเห็นดังนั้น สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยน รีบอุ้มนางเข้าไปในกระท่อมแล้ววางลงบนเตียง ก่อนจะห่มผ้าให้แล้วรีบก่อไฟในห้อง อุณหภูมิในห้องจึงค่อย ๆ อุ่นขึ้นเฉินชีเดินมาข้างเตียง แล้วเอามือแตะหน้าผากลั่วชิงยวนจึงพบว่าร้อนจัดเฉินชีขมวดคิ้ว “เหตุใดร่างกายเจ้าจึงอ่อนแอถึงเพียงนี้ เพียงแค่ลมหนาวก็ทนมิได้”กล่าวจบ เขาก็รีบออกไปเก็บสมุนไพรบนภูเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม…...ยามราตรีเสียงลมหนาวพัดหวีดหวิว ทหารองครักษ์ล้อมห้องทรงพระอักษรไว้แน่นหนาฟู่เฉินหวนผู้สวมเสื้อคลุมยาวมาถึงด้วยท่าทางองอาจขณะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1173

    เหตุใดแม้แต่ลั่วฉิงก็สามารถควบคุมเขาได้!เหตุใดกัน!ลั่วฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ ท่านสามารถขวางฟู่อวิ๋นโจวมิให้ขึ้นครองบัลลังก์ได้ แต่ท่านแน่ใจหรือว่าท่านจะต้านทานฤทธิ์ยาควบคุมนี้ได้?”“ข้าจะพูดอีกครั้ง ปล่อยฟู่อวิ๋นโจว!”ฟู่เฉินหวนพยายามต่อต้านคำสั่ง แต่สิ่งที่ตามมาก็คือความเจ็บปวดแสนสาหัสเขารู้ว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ร่างกายของเขาคงทนมิไหวแล้วเขาจึงมิต่อต้านอีกได้แต่พยุงร่างตัวเองเดินออกจากห้องทรงพระอักษรอย่างยากลำบาก“ใครก็ได้!”“ท่านอ๋อง!”“ปล่อยฟู่อวิ๋นโจว”ในมิช้าฟู่อวิ๋นโจวก็กลับมาเขาเอามือไพล่หลัง เดินเข้ามาอย่างสงบนิ่ง จากนั้นมองเลือดที่มุมปากของฟู่เฉินหวน แล้วกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “เสด็จพี่ วันนี้ท่านถูกอาคมล่อลวงเสียหรือ?”“เป็นลั่วชิงยวนที่ใช้อาคมล่อลวงท่านใช่หรือไม่?”น้ำเสียงของฟู่อวิ๋นโจวเย็นยะเยือก ทำให้สีหน้าของฟู่เฉินหวนเปลี่ยนไปแล้วมองเขาด้วยความตกใจ“เจ้าคิดจะทำอะไร!”ดวงตาของฟู่อวิ๋นโจวเย็นชา ขณะพูดเสียงแผ่วเบาว่า “ข้าต้องการให้เสด็จพี่... หย่ากับลั่วชิงยวน”“เรื่องวันนี้ ข้าสามารถพูดได้ว่าเป็นความเข้าใจผิด”“ม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1174

    ลั่วชิงยวนมิได้หลบเลี่ยงทว่าในจังหวะที่เฉินชีโน้มกายเข้ามาใกล้ นางกลับฉวยโอกาสชักกริชที่เอวของเฉินชีออกมา แล้วแทงเข้าใส่กลางอกของเขาอย่างแรงทว่ากริชกลับปักเข้าไปเพียงแค่ส่วนปลายเท่านั้นเพราะเฉินชีคว้าใบมีดไว้ได้ทันควันเลือดหลั่งรินจากฝ่ามือของเขาหยดลงบนอาภรณ์สีขาวของลั่วชิงยวนทีละหยดลั่วชิงยวนออกแรงสุดกำลัง ทว่าเฉินชีกลับยังคงจับใบมีดไว้แน่น เขาแย่งกริชไปจากนางแล้วเหวี่ยงมันลงพื้นอย่างแรงเฉินชีใช้นิ้วเปื้อนเลือดจับปลายคางของลั่วชิงยวน เลือดสีแดงฉานเปรอะเปื้อนริมฝีปากของนางลั่วชิงยวนใช้เท้าถีบอกของเขา แต่เฉินชีกลับทำราวกับมิรู้สึกเจ็บปวดเลยเขากระชากข้อมือของนางขึ้นเหนือศีรษะ“เฉินชี! หากเจ้ากล้าแตะต้องข้า ข้าจะฉีกเจ้าให้เป็นชิ้น!” ลั่วชิงยวนตวาดด้วยความโกรธ ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำแต่ในดวงตาของเฉินชีกลับฉายแววตื่นเต้น “เช่นนั้นข้าก็ยิ่งอยากลิ้มลอง!”เขาก้มลงโน้มกายเข้าหานางลั่วชิงยวนสะบัดมือจนหลุด แล้วตบเขาด้วยฝ่ามืออย่างแรงเฉินชีคว้าข้อมือของนางไว้ได้อีกแต่ในชั่วพริบตานั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปแล้วมองนางด้วยความตกตะลึง “เจ้าตั้งครรภ์แล้ว!”แววตาของเขาราวก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1175

    แม้ว่าจะกินยาลงไปแล้วแต่อาการของลั่วชิงยวนก็มิได้ทุเลาลง ร่างของนางยังคงสั่นเทามิหยุด พร้อมกับไอเป็นระยะ“แค่ก แค่ก แค่ก...”เฉินชีขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งเครียด “เหตุใดร่างกายของเจ้าจึงอ่อนแอเช่นนี้”“ต่างจากเมื่อก่อนลิบลับ”ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ยา... แค่กแค่กแค่กแค่ก...”เฉินชีเอื้อมมือแตะหน้าผากของนาง แม้กินยาลงไปแล้วแต่ร่างกายก็ยังคงร้อนผ่าวและอ่อนแรงเช่นนี้ ดูท่าว่าสมุนไพรธรรมดาที่เก็บมาจากภูเขาคงมิอาจช่วยได้“เฉินชี... เฉินชี...” นางร้องเรียกชื่อเขาราวกับขอความช่วยเหลือ สติเริ่มเลือนรางเสียงเรียกชื่อนี้ทำให้ใจของเฉินชีอ่อนยวบลงในทันใดเขาก้าวออกจากห้องแล้วปิดประตูเขาออกไปเก็บสมุนไพรบนภูเขาอีกครั้งค้นหาอยู่นานกว่าจะพบสมุนไพรบางชนิด จึงนำกลับมาต้มเป็นยาต่อไปกว่าจะรู้ตัวราตรีก็มาเยือนอีกครั้งลั่วชิงยวนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มตั้งแต่ปลายเท้าจรดศีรษะ ยังคงไอมิหยุดเมื่อเฉินชีต้มยาเสร็จก็ป้อนให้นางกินเขาเฝ้าอยู่ในห้องและก่อไฟให้แรงขึ้นเฉินชีร้อนจนเหงื่อไหล แต่ลั่วชิงยวนบนเตียงกลับยังคงหนาวจนพูดเสียงสั่นในยามสะลึมสะลือ ลั่วชิงยวนก็ร้องเรียกอีกครั้ง “เฉินช

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1176

    ในช่วงเวลาคับขันนั้น ทันใดนั้นก็มีขบวนม้าควบออกมาจากประตูเมืองและในจังหวะเดียวกันนั้นเอง ลมหนาวก็พัดม่านรถม้าเปิดออก เฉินชีเห็นลั่วชิงยวนที่อยู่ภายในส่วนลั่วชิงยวนก็เห็นเฉินชีเช่นกันทั้งสองสบตากันสายตาของเฉินชีเย็นเยียบทันใดนั้น ร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นในสายตาของลั่วชิงยวน“เซียวชู!”เมื่อเซียวชูซึ่งกำลังสั่งการให้คนออกตามหาพระชายาอยู่ได้ยินเสียงเรียกก็พลันเปลี่ยนสีหน้า“พระชายา!”เซียวชูรีบลงจากหลังม้า “พระชายา! ท่านปลอดภัยดีหรือไม่ขอรับ?”ลั่วชิงยวนรีบลงจากรถม้า แล้วชี้ไปที่เฉินชี “จับเขาไว้!”เฉินชียิ้มเยาะ แล้วเหาะหายไปในพริบตา“อาเหลา เจ้าหนีข้ามิพ้นหรอก” เสียงหัวเราะของเฉินชีดังเข้ามาในโสตประสาทของลั่วชิงยวน ทำให้นางรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกสันหลังโชคดีที่เซียวชูรีบสั่งให้คนออกตามล่า จึงมิได้สนใจคำว่าอาเหลาที่เฉินชีเอ่ยเพียงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “พระชายา ท่านหายไปไหนมาขอรับ? ข้าร้อนใจแทบตาย”“ท่านอ๋องก็มิกลับมาสองวันแล้ว ท่านก็ยังจะหายไปอีก...”ลั่วชิงยวนตกใจเมื่อได้ยินดังนั้น “ว่ากระไรนะ? ท่านอ๋องก็หายไปสองวันแล้วหรือ? เขาอยู่ที่ใด?”เซียวชูมีสีหน้า

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status