공유

บทที่ 949

작가: หูเทียนเสี่ยว
อ๋องเซี่ยนไม่ได้อยู่ในเรือนจั๋วซือหรานนานนัก เดิมทีที่มาก็เพราะตอนนี้มีเรื่องราวมากมาย

เรื่องซือคงอวี้ครั้งนี้ แม้จะจัดการไปเกือบหมดแล้ว

แต่ก็ยังเหลือปัญหามากมายที่ต้องมาจัดการ จำเป็นต้องให้เขาเข้าไปวุ่น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้อยู่นานนัก หลังรู้ว่าจั๋วซือหรานไม่ได้โกรธ เพียงไม่นานก็บอกลากับจั๋วซือหราน

จั๋วซือหรานคิดๆ ถามขึ้นว่า "จริงด้วย ท่านอ๋อง"

"อื๋อ?"

"เมื่อไรถึงจะเข้าไปตรวจยึดจวนอ๋องของซือคงอวี้?"

"พรุ่งนี้" ซือคงเซี่ยนตอบ จากนั้นจึงคิดได้ "จริงด้วย เจ้าจะไปดูด้วยไหม? ถึงอย่างไรที่นั่นภายหลังก็จะเป็นจวนของเจ้าแล้ว"

จั๋วซือหรานครุ่นคิด พยักหน้าตอบว่า "ได้ เช่นนั้นก็ไปดูเสียหน่อยแล้วกัน"

วันต่อมา จั๋วซือหรานก้ไปที่จวนชินอ๋องอวี้อย่างไม่รีบไม่ร้อน

ในอดีตจวนชินอ๋องอวี้ พูดได้ว่ามีแขกเหรื่อมากมาย แต่ตอนนี้กลับเหมือนกลายเป็นกรมสืบสวนพิเศษไปแล้ว เป็นตัวตนที่ทำให้คนอยากเลี่ยงออกไปให้ไกล

ดูเงียบๆ ไม่มีชีวิตชีวา เหมือนถ้าเดินผ่านที่นี่จะมีความซวยติดตัวไปด้วยอย่างไรอย่างนั้น

ตอนที่จั๋วซือหรานเดินเล่นในจวนชินอ๋องอวี้ ก็ดึงดูดความสนใจมาไม่น้อย ถึงอย่างไรนางก็เป็นคนดังในเมืองหลวง

ดังนั้
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 950

    ต่งคังตอบ "องค์หญิงเนื่องจากยังไม่แต่งงาน ดังนั้นจึงยังไม่ได้ออกจากวังสร้างจวน ยังคงอยู่ในวัง ตำหนัวังของนางไม่ใช่กรมสืบสวนอาญาเข้าไปจัดการ แต่เป็นอ๋องเซี่ยนที่กำชับให้หน่วยงานในวังเข้าไปจัดการ แม่นางจิ่วหากสนใจล่ะก็ ข้าจะไปหาข่าวมาให้"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็โบกไม้โบกมือ "ไม่ต้องแล้ว"ในเมื่อเป็นการกำชับของซือคงเซี่ยน เช่นนั้นถ้าหากมีจุดไหนที่ผิดปกติ ก็น่าจะมาบอกนางจั๋วซือหรานกับต่งคังยืนอยู่หน้าประตูจวนชินอ๋องอวี้ที่ไม่ได้รุ่งโรจน์เหมือนในอดีตอีกแล้วนางหันตามองกลับไป โบกมือเล็กน้อย ป้ายชื่อหนาหนักที่เขียนอักษรสี่ตัวไว้ว่า 'จวนชินอ๋องอวี้' ก็ร่วงลงมาดังโครมจั๋วซือหรานกลับไปที่บ้านตนเอง แล้วไปกำชับกับเฉวียนคุนแล้วก็เหล่าองครักษ์เงา"ย้าย ย้ายบ้านหรือ?""แต่เรือนนี้ของแม่นางจิ่วเพิ่งเข้ามาอยู่ได้ไม่นานเองนะ..."จั๋วซือหรานมองพวกเขาผาดหนึ่ง "ย้ายไปอยู่ที่ที่กว้างกว่าน่ะ"นางเอ่ยถึงเรื่องรางวัลพระราชทานขึ้นมาไม่ใช่ทุกคนที่จะฟังเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ ทุกคนล้วนดีอกดีใจกับรางวัลพระราชทานนี้พอหลังจากที่องครักษ์เงาลงไป พ่อลูกตระกูลเหยียนที่ไม่พูดอะไรอยู่ข้างๆ มาตลอด จึงเอ่ยปาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 951

    เวลาเองก็ค่อนข้างมืดแล้ว แล้วห้องของจั๋วซือหรานนั่น ถึงยังไงก็เป็นห้องหญิงสาวนะกลับเรียกให้เหยียนฉีไป...เหยียนเจินมองไปด้วยสายตาครุ่นคิด "คงไม่ใช่ว่า..."เขายังพูดไม่ทันจบ ก็สบเข้ากับสายตาจั๋วซือหรานแล้วไม่รู้ว่าเพราะอะไร พอมองสายตานี้ของจั๋วซือหรานแล้ว เหยียนเจินก็รู้สึกว่า คำพูดของตนเองต่อจากนี้ น่าจะสำคัญมาก จะพูดจาเรื่อยเปื่อยไม่ได้ดังนั้นคำพูดแต่เดิมทีว่า 'สนใจลูกชายข้าหรือ?' จึงขึ้นมาแค่มุมปาก แต่พอออกจากปากก็บิดเบือนไปเป็น "จะสอนวิชาแพทย์ให้ลูกข้ารึ?"ถึงอย่างไรก็อย่าลืมว่าเหยียนฉีจะคารวะจั๋วซือหรานเป็นอาจารย์พูดคำนี้จบ เหยียนฉีก็เห็นสีหน้าจั๋วซือหรานเปลี่ยนไปจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เหยียนฉีก็รู้สึกบางอย่างตอนที่จั๋วซือหรานเรียกเขาไปที่ห้องนาง...แต่ตอนนี้ พอท่านพ่อพูดออกมา เขาก็รู้สึกได้ถึงเจตนาของจั๋วซือหรานแล้วแล้วก็เป็นไปตามนั้น จั๋วซือหรานหลังจากได้ยินคำพูดนี้ของเหยียนเจิน ก็ยิ้มตาโค้งขึ้นมา "ใช่แล้ว จะเรียกลูกชายท่านไปใช้แรงงานหน่อย ไปเถอะ"เหยียนฉีก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่คิดไม่ออกมาตลอด ว่าจั๋วซือหรานเก่งกาจแบบนี้ได้อย่างไร หญิงสาวที่ถูกตระกูลทอดทิ้งคนหนึ่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 952

    ่จั๋วซือหรานแม้จะแก้ปัญหาเรื่องพวกองครักษ์ตระกูลเฟิงที่ตามล่าสังหารเฟิงหร่านเข้ามาได้แล้ว แต่เรื่องที่ว่าทำไมเฟิงหร่านถึงถูกตระกูลเฟิงไล่สังหาร นางเองก็ไม่มีเวลาไปทำความเข้าใจเลย หลังจากกลับมาเมืองหลวงเรื่องราวมากมายเหลือเกิน ยุ่งตัวเป็นเกลียวจนไม่มีเวลาเอาเสียเลยและตอนนี้เอง ก็เพิ่งจะได้มาไต่ถามสถานการณ์กับเฟิงหร่านไม่พูดขึ้นมายังพอว่า แต่พอพูดขึ้นมา เฟิงหร่านก็เหมือนจะโมโหเอามากๆ กระทั่งความถี่การหายใจก็ยังเปลี่ยนไปนางสูดลมหายใจลึกไปหลายที จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า "พวกเขา...กล้าเกินไปแล้ว"จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ มุมปากก็ยกขึ้น เข้าใจความหมายของเฟิงหร่านทันทีติดต่อศัตรูทรยศแคว้น เข้าร่วมการชิงบัลลังก์ของราชวงศ์ ไม่แตกต่างอะไรกับก่อกบฏ นี่มันก็ กล้าหาญชาญชัยมากจริงๆ"น่าขันที่พวกเขารู้อยู่ว่ามันผิด แต่กลับต่อให้ตายก็ไม่ยอมแก้ ไม่รู้ว่าไอ้ความหยิ่งทะนงในกระดูกนั่นมันไม่มียาจะช่วยได้แล้วใช่ไหม..."เฟิงหร่านสูดลมหายใจลึก อารมณ์ฮึดฮัดในหน้าอก จึงค่อยๆ ผ่อนลงมา"พ่อข้าบอกว่า ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ไหว เขารู้สึกว่าถ้ายังอยู่ในตระกูลเฟิงต่อ จะจบไม่สวยแน่ แต่เขา...ไม่มีทางให้ถอยแล้ว"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 953

    โกรธหรือ?จั๋วซือหรานมองไปทางเฟิงหร่าน เหมือนในที่สุดจะมีท่าทีอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาเฟิงหร่านเห็นพี่จั๋วในที่สุดก็เริ่มมีท่าทีสนใจขึ้นบ้างแล้ว มุมปากจึงยกขึ้นเป็นเส้นโค้ง ในใจก็แอบผ่อนลมหายใจออกมาเฟิงหร่านอันที่จริงก็กลัวมากมาตลอด เพราะนางมองออกว่าจั๋วซือหรานเป็นคนที่อิสระไม่ยึดติด นางกลัวมากว่าถ้าตระกูลเฟิงยังเอาแต่ทำให้มันยุ่งเหยิงเช่นนี้ พี่จั๋วจะไม่เอาพี่ชายขึ้นมาแต่ก่อน เฟิงหร่านรู้สึกแค่ว่า เป็นจั๋วซือหรานที่ใฝ่สูงต่อตัวพี่ชาย แต่ต่อมาก็ค่อยๆ รู้สึกว่า พี่จั๋วกับพี่ชาย ใครก็ไม่ได้ใฝ่สูงใส่ใครทั้งนั้น พวกเขาเข้ากันได้ดี เหมาะสมกันมากแต่เรื่องที่ตระกูลเฟิงก่อขึ้นมา!เฟิงหร่านพอพูดถึงเรื่องนี้ ก็พบว่าจั๋วซือหรานเหมือนดูสนใจอยู่ ทำให้ความเร็วในการพูดจึงเร็วขึ้นมาพอควร"เพราะในข่าวที่ลือกลับมา มีข่าวที่ว่าพี่จั๋วอาจจะถูกพระราชทานงานอภิเษกกับอ๋องเซี่ยนด้วย พวกเขาจึงด่าว่าท่านทำตัวไม่เหมาะสม แล้วพี่ชายก็เลยโกรธ บีบเก้าอี้จนป่นไปเลย"จั๋วซือหรานมุมปากยกขึ้นเบาๆเฟิงหร่านเอ่ยต่อ "แต่เพราะข้าตอนนั้นเตรียมจะหนีแล้ว ข้าเองก็เข้าไปฟังในโถงประชุมไม่ได้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน สรุปคือ ต่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 954

    จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนี้ "ถ้าเป็นลุงสาม...พ่อของเฟิงเหยียน เฟิงอวี้หรือ?"เฟิงหร่านพยักหน้า "สถานการณ์หลักๆ พ่อของข้าก็รู้มาไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่ลุงสามตอนนั้นก็เสียวความจำไปกะทันหัน แต่มาผ่านไปกว่าครึ่งปี ท่านพี่ก็เกิดขึ้นมา"เฟิงหร่านพูดแบบไม่ค่อยชัดเจน จั๋วซือหรานรู้ว่านางไม่ใช่คิดจะปิดบัง แต่เกรงว่าสิ่งที่นางรู้ก็มีเพียงเท่านี้เพียงแต่ว่า ข้อมูลเหล่านี้ของนาง ก็ทำให้จั๋วซือหรานรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาแล้วในเมื่อเฟิงหร่านไม่รู้ จั๋วซือหรานก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ"พักผ่อนเถอะ ตอนนี้ก็อยู่ที่นี่ไปก่อน อีกเดี๋ยวจะย้ายไปบ้านที่ใหญ่หน่อยแล้ว"จั๋วซือหรานตอนนี้จึงออกจากห้องของเฟิงหร่านนางออกจากเรือน ตรงไปยังโรงเตี๊ยมโรงเตี๊ยมที่นางคิดจะทำนั้น มีเบื้องหลังเป็นตระกูลฮั่วกับหอจันทร์เงินและหอฟ้าดาว ช่วงนี้การเตรียมการก็ดำเนินไปอย่างเข้มข้นแล้วตอนที่ไปถึงโรงเตี๊ยม ฮั่วจือโจวกำลังดื่มชาอยู่กับเจี่ยงเทียนซิงด้านใน"เอ๊? ท่านโหวของพวกเรามาแล้ว" เจี่ยงเทียนซิงยิ้มทักขึ้นมาคำหนึ่งฮั่วจือโจวมองไปทางนาง "มาได้อย่างไรกัน? คิดว่าช่วงนี้เจ้าจะยุ่งมากเสียอีก""ก็ยุ่งนั่นล่ะ แต่การค้าของตัว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 955

    สายตาทั้งสองคน ทำเอาจั๋วซือหรานพูดไม่ค่อยออกนางโบกมือเอ่ยขึ้น "เอาล่ะๆๆ ก็แค่ข้าอยากรู้สถานการณ์ของเฟิงเหยียนเองได้ไหมล่ะ? พูดได้หรือเปล่า"รู้สึกว่าถ้าหากตนเองไม่ยอมรับจุดนี้ สองคนนี้ก็เอาแต่ใช้สายตาสงสัยนี้จ้องนางไม่ได้ยุ่งยากอะไร สู้ยอมรับจุดนี้ไปเลยถึงแม้จะพูดได้ไม่เต็มปาก แต่ก็อดพูดไม่ได้เลย หลังจากที่ตนเองได้ยินคำพูดของเฟิงหร่านแล้ว ก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาเจี่ยงเทียนซิงกับฮั่วจือโจวอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ สกิลเฟิงคนนั้นมีดีอะไรกันแน่นะคนอย่างจั๋วจิ่วนี่ ใครบ้างที่ไม่คู่ควรกัน ทำไมถึงเลือกไปแขวนคอตายอยู่กับต้นไม้คดๆ อย่างเฟิงเหยียนได้เนี่ย หรือว่ามันมีไอ้สิ่งที่เรียกว่าสวรรค์ลิขิตไว้อยู่จริงๆ?เจี่ยงเทียนซิงคิดๆ เอ่ยตอบว่า "ความเข้าใจต่อตระกูลจั๋ว ก่อนหน้านี้ก็บอกกับเจ้าไปแล้ว"จั๋วซือหรานคิดถึงเรื่องที่เจี่ยงเทียนซิงเล่าว่าพ่อของเขาเคยเจอคนตระกูลเฟิงที่แดนเหนือคนนั้นตระกูลเฟิงเดิมทีก็ค่อนข้างปิดและลึกลับอยู่แล้ว โลกภายนอกรู้น้อยมากฮั่วจือโจวครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "สำหรับความเข้าใจต่อตัวเฟิงเหยียน ก็มีแค่เท่านั้นล่ะ""ตระกูลฮั่วของข้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 956

    ไม่มีความแน่นอนเท่าไร"เข้าใจแล้ว ขอบคุณที่บอกสิ่งเหล่านี้กับข้า" จั๋วซือหรานพูดพลางลุกขึ้นยืน "ข้อมูลพวกนี้ข้าจะไปตรวจสอบอีกครั้ง"ฮั่วจือโจวที่ตระกูลค้าข่าวสารอยู่แล้ว สนใจช่องทมางข่าวกรองทั้งหมด ดังนั้นพอได้ยินจั๋วซือหรานเพูดเช่นนี้จึงอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา "เจ้าไปตรวจสอบที่ไหนหรือ?"จั๋วซือหรานคิดๆ "ไปถามกับเฟิงอวี้เอา?"เจี่ยงเทียนซิง "..."ฮั่วจือโจว"..."พวกเขาถึงแม้จะรู้สึกพูดไม่ออก งงงันไปบ้าง แต่เพราะอะไรพอคำนี้ออกจากปากจั๋วซือหรานกลับดู...เหมือนจะเชื่อได้อย่างประหลาดนางคงไม่ได้คิดจะไปถามเฟิงอวี้จริงๆ หรอกกระมัง?แต่ว่าจั๋วซือหรานไม่ได้พูดหัวข้อสนทนานี้อีกแค่หยิบกระดาษออกมาให้ฮั่วจือโจว "นี่ นี่คือรายการอาหารที่ข้าทำออกมา เจ้าให้พ่อครัวลองทำออกมาชิมดูก่อน ถ้าหากไม่อร่อยข้าจะกลับมาใหม่"จั๋วซือหรานพูดเสร็จก็ลุกขึ้นจะเดินเจี่ยงเทียนซิงกับฮั่วจือโจว ส่งนางไปที่ประตูเจี่ยงเทียนซิงทนไม่ไหว ถามขึ้นว่า "เจ้าคงไม่คิดจะไปถามเฟิงอวี้หรอกใช่ไหม?"จั๋วซือหรานมองเขาเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม "เจ้าเดาดูสิ?"ยังไม่ทันที่จั๋วซือหรานจะออกไปที่ถนน ก็มีคนเข้ามาหาเสียแล้ว"แม่นาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 957

    จั๋วซือหรานตามซือคงเซี่ยนเข้าไปในตำหนักวังที่เจาหมิ่นอยู่อดพูดไม่ได้เลย เจาหมิ่นอยู่ในแคว้นชาง ไม่ใช่องค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานอะไรถ้าให้พูดจริงๆ อันที่จริงแคว้นชางก็ไม่มีองค์หญิงคนไหนที่ได้รับความโปรดปรานพิเศษอยุ่แล้ว องค์จักรพรรดิเองก็มีแค่ซือคงอวี้ที่เป็นที่โปรดปรานมากที่สุดเท่านั้นองค์จักรพรรดิเฒ่าก่อนหน้านี้น่าจะคำนวณไว้เช่นนั้น ไม่อยากให้ลูกๆ มาทะเลาะกันมาก แล้วมาฆ่าล้างสังหารกันเองดังนั้นจึงวางท่าทีเอาไว้ชัดเจนตั้งแต่แรก ลำเอียงไว้อย่างเห็นได้ชัดให้ตายเถอะ ทำให้องค์ชายคนอื่นรู้ว่าตนเองไม่มีหวัง แล้วไม่เกิดความคิดก่อกบฏหรือความทะเยอทะยานมากเกินไปจากเรื่องนี้แล้วก็ทำให้ลูกชายที่ได้รับความลำเอียงคนนั้น ไม่รู้สึกว่าเหล่าพี่น้องมีพลังคุกคามอะไร จนต้องมาลงไม้ลงมือกับเหล่าพี่น้องด้วยกันตามหลักการแล้ว วิธีการเช่นนี้ขององค์จักรพรรดิเฒ่า ต้องการจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้และฆ่าฟันกันเองของเหล่าลูกๆเจรนาเริ่มต้นนั้นดีมากตามหลักการ เรื่องราวควรจะเป็นไปตามที่เขาคิดไว้ใครจะรู้ว่าลูกชายที่ตนเองโปรดปรานลำเอียงนั้นไม่ใช่เชื้อสายของตนเอง เช่นนั้นเหล่าลูกๆ คนอื่นที่เดิมทีไม่มีพลัง

최신 챕터

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status