Share

บทที่ 804

Author: หูเทียนเสี่ยว
"พวกนี้เป็นคนของน้องห้า! เจ้าลูกกบฏ!" จักรพรรดิเฒ่ายิ่งมองก็ยิ่งโมโห "นี่เพราะเขาบอกว่าจะไปออกรบ จะไปหาประสบการณ์ที่ค่ายทหาร ข้ากังวลความปลอดภัยของเขา เลยจัดคนไปให้เขา! ไอ้เจ้าลูกกบฏ ตอนนี้กลับใช้มารับมือกับข้า!"

เด็กเลวทำกรรมชั่วหันมาทำร้ายพ่อแม่

จักรพรรดิเท่าที่โกรธขนาดนี้ จั๋วซือหรานเองก็ไม่ใช่จะไม่เข้าใจ

มีแมงมุมน้อยเปิดทางให้ บวกกับการโจมตีระยะไกลของนาง จั๋วซือหรานจัดการควบคุมระยะห่างของอันตรายไว้ได้เป็นอย่างดี

แทบจะไม่มีความยากลำบากเลย แล้วก็มาถึงจุดที่นัดเจอกับอ๋องเซี่ยน

มองไกลๆ พระสนมเอกมองเห็นลูกชายแล้ว

ส่วนอ๋องเซี่ยนเองก็เห็นแมงมุมยักษ์นั่นตรงมาทางนี้นานแล้ว

สถานการณ์น่ากลัวมาก ถ้าเป็นคนปกติก็น่าจะหลีกหนีออกมาจึงจะถูก

แต่อ๋องเซี่ยนกลับไม่รู้สึกว่าน่ากลัวเลย เพราะเขารู้ ว่านั่นจะต้องเป็นวิธีการของจั๋วซือหราน

และเป็นไปตามคาด หลังจากที่แมงมุมยักษ์เข้ามาใกล้ ก็มองเห็นคนหลายคนที่อยู่บนหลังมัน

ตอนเห็นหญิงสาวที่หน้าตาซูบผอม แต่ยังคงมีแววตาที่อ่อนโยน

อ๋องเซี่ยนก็ดีดตัวขึ้นทันที!

"เสด็จพ่อ! เสด็จแม่!" ซือคงเซี่ยนร้องเรียกขึ้นมา

จากนั้น ร่างชุดแดงที่ยืนอยู่หน้าสุดบนหลังแมง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 805

    ซือคงเซี่ยนเองก็ไม่เสียเวลา รีบขึ้นไปบนหลังของแมงมุมกับจั๋วซือหรานราชาแมงมุมหน้าผีจึงพาพวกเขา ตรงห่างออกไปไกลลิบ"พวกเรากำลัง...จะกลับเมืองหลวงหรือ?" จักรพรรดิเฒ่าถามขึ้นคำหนึ่งตอนนี้เขาพูดกับจั๋วซือหรานอ่อนโยนลงเรื่อยๆ แล้ว น้ำเสียงเองก็ไม่มีบารมีอย่างที่องค์จักรพรรดิควรมีจั๋วซือหรานตอบว่า "ไม่ อ๋องอวี้ชินตอนนี้ยังอยู่ในเมืองหลวงน่ะ"พอพูดถึงซือคงอวี้ หน้าของจักรพรรดิเฒ่าก็ขรึมลงมาแล้ว "เจ้าลูกกบฏนั่น!""เพราะยังไม่รู้ว่าเขาวางอะไรเอาไว้บ้างแล้วในวังจักรพรรดิ ถ้าบุ่มบ่ามพาฝ่าบาทกลับไป ข้รารู้สึกว่าคงไม่เหมาะเท่าไร" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นนางพูดออกมาอย่างไม่มีปิดบัง พูดอย่างตรงไปตรงมา "ซือคงอวี้เจ้าขยะนั่น ด้วยสมองของเขาข้าก็ไม่กังวลว่าจะวางวิธีการอะไรได้มากนักหรอก""แต่ว่าซือคงเจาหมิ่นคนนั้นร้ายกาจอยู่ แม้จะบอกว่านางตอนนี้ไปที่ดินแดนทางใต้แล้วก็ตาม แต่ใครก็ยืนยันไม่ได้ ว่าก่อนที่นางจะไปได้ทิ้งลูกไม้หรือวิธีการอะไรให้ซือคงอวี้มารับมือกับพวกท่านหรือเปล่า"จั๋วซือหรานมองไปทางจักรพรรดิเฒ่า "ถึงอย่างไรก่อนที่นางจะไปก็ขู่อาฆาตข้าไว้ ให้ตระกูลเฟิงพุ่งเป้ามาทางข้า"จักรพรรดิเฒ่าพอได

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 806

    ในค่ายทหารมีกองกำลังที่จะออกจากค่ายไปฝึกซ้อมในตอนเช้า และมาเจอเข้ากับกลุ่มของจั๋วซือหรานพอดีตอนแรกก็จัดขบวนเตรียมพร้อม แต่หลังจากเห็นร่างในชุดแดงของจั๋วซือหรานชัดแล้ว ก็ผ่อนคลายลงมาอย่างรวดเร็วกองทหารม้ากลุ่มหนึ่งทะยานเข้ามาจนฝุ่นตลบ!"แม่นางจิ่ว!""แม่นางจิ่ว...!""แม่นางจิ่วมาแต่เช้าเลย!"องค์จักรพรรดิตกตะลึงหน่อยๆ เขาเป็นถึงองค์จักรพรรดิ แต่เหมือนในสายตาทหารเหล่านี้ ตัวตนฐานะยังต่ำกว่าหญิงสาวคนนี้เสียอีกแต่ว่ายังดีหลังจากที่พวกเขาเข้าใกล้ ก็มองออกถึงคนในชุดเหลืองสว่างแม้จะบอกว่าพวกเขาเป็นทหารราบที่ยังไม่เคยเข้าเฝ้า แต่ชุดคลุมเหลืองสว่งที่ปักลายมังกรทั้งตัว ก็เพียงพอจะสำแดงตัวตนฐานะแล้วทหารทั้งหมดรีบลงจากหลังม้าแล้วคุกเข่าลงทันที กู่ก้องหมื่นปีหมื่นหมื่นปีหลังจากจักรพรรดิเฒ่าบอกไม่ต้องมากพิธี จั๋วซือหรานจึงเอ่ยขึ้นว่า "พวกเจ้าเปิดทางหน่อย ฝ่าบาทต้องไปพบกับแม่ทัพฉีฮ่าว""ขอรับ!" เหล่าทหารรีบพลิกตัวขึ้นหลังม้าตรงไปเปิดทางนำจั๋วซือหรานไปที่ค่ายทหารถึงแม้ท่าทางของแมงมุมใหญ่ตัวนี้ ทำให้เหล่าทหารราบในค่ายทหารพรั่นพรึงขึ้นมา แต่หลังจากที่เขาจำจั๋วซือหรานได้ ก็ทยอยกันกระ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 807

    จั๋วซือหรานไม่ได้แสดงท่าทีปฏิเสธอะไรกับเรื่องนี้ มีอะไรน่าปฏิเสธกันสกุลจั๋วอย่างนาง ทุบอกพูดมาได้อย่างเต็มปากว่าได้รับมาอย่างคู่ควรแล้ว...ในเมื่อเจรจากันเสร็จแล้ว จั๋วซือหรานจึงออกจากกระโจมค่าย เตรียมตัวออกจากค่ายทหารจักรพรรดิเฒ่าเองหน้ามองน้องเจ็ดของครอบครัวตน เอ่ยขึ้นอย่างผิดหวัง "แล้วเจ้าจะอยู่ที่นี่เฝ้าข้ากับแม่ของเจ้าทำไมกัน?""อะไรหรือ?" ซือคงเซี่ยนได้ยินคำพูดนี้ของเสด็จพ่อ ก็ไม่ค่อยเข้าใจนักจักรพรรดิเฒ่าแน่นอนว่าไม่อธิบายอะไรมาก แต่เป็นพระสนมเอกข้างๆ ที่เอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่นว่า"เซี่ยนเอ๋อร์ พ่อของเจ้ากับแม่อยู่ในค่ายกองทหารองครักษ์ มีแม่ทัพฉีฮ่าวคอยคุ้มกันอยู่ ไม่น่ามีอันตรายอะไรแล้ว ดังนั้น เจ้าสู้เข้าเมืองหลวงไปช่วยแม่นางจั๋วจิ่วดีกว่า นางเป็นหญิงสาวคนเีดยว ต่อให้จะเก่งกาจแค่ไหน ถ้ามีคนอยู่ช่วยด้วยก็ยังดีกว่า"องค์จักรพรรดิเฒ่าที่อยู่ข้างๆ จึงเอ่ยขึ้นว่า "คนที่ดีก็มีสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ แต่ตอนนี้ตระกูลเฟิงไม่ใช่ไม่ยอมรับการหมั้นหมายของนางแล้วหรือ ถึงได้รังแกนางอยู่แบบนี้..."พอได้ยินคำพูดของเสด็จพ่อและเสด็จแม่ ซือคงเซี่ยนก็เข้าใจขึ้นทันที เขาตาเป็นประกาย รีบประสา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 808

    ฉีฮ่าวยืนอยู่ข้างๆ มองจั๋วซือหราน ถามขึ้นว่า "แม่นางจิ่ว เช่นนั้นข้าทางนี้ก็รอข่าวจากท่านแล้วค่อยเดินทางหรือ?""อืม เจ้าปกป้องฝ่าบาทกับพระสนมเอกไว้แล้วกัน รอข่าวจากข้า" จั๋วซือหรานพูดจบ ก็หนีบท้องม้า พุ่งตรงไปทางเมืองหลวงซือคงเซี่ยนตามไปอย่างรวดเร็วเพราะขากลับไม่ได้เร่งเดินทางนัก จึงไม่ได้ห้อทะยานนักระหว่างนี้พอช้าลงมา ซือคงเซี่ยนก็ควบม้าไปอยู่ข้างๆ จั๋วซือหราน ถามขึ้นอย่างกังวลว่า "ซือหราน ครั้งนี้เจ้าคิดจะทำอย่างไรหรือ?"จั๋วซือหรานคิดๆ "ถึงแม้ข้าจะดูถูกซือคงอวี้ แต่ขั้วอำนาจของเขาก็น่าจะใช้ได้อยู่ ดังนั้นข่าวที่ข้าบุกเข้าไปวังสวนราชวงศ์กลางดึกช่วยคนออกมา ไม่ช้าก็น่าจะไปถึงหูของเขาแล้ว เขาน่าจะมีปฏิกิริยาออกมาอย่างรวดเร็ว"พอได้ยินคำนี้ คิ้วของซือคงเซี่ยนก็ขมวดขึ้นมาเบาๆจั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "ถึงแม้ข้าจะรู้สึกว่าด้วยสมองกับนิสัยนั่นของเขา หลังจากรู้ข่าวแล้ว ก็น่าจะเดือดดาลแล้วมาหาเรื่องข้า แต่ถึงอย่างไรตอนนั้นเขาก็มีซือคงเจาหมิ่นมาวางแผนให้ ดังนั้น...""เจ้าคิดว่าเขามีวิธีการอื่นหรือ?" ซือคงเซี่ยนถามขึ้นจั๋วซือหรานพยักหน้าเบาๆ "เป็นไปได้อยู่ บวกกับตอนนี้ตระกูลเฟิงเดิมที

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 809

    จั๋วซือหรานพูดมาก็ไม่ผิด ตอนนี้คนที่น่าจะร้อนรนคือซือคงอวี้ ไม่ใช่นางสวนชิวอีซือคงอวี้ได้รับข่าวจากคนคุ้มกันของวังสวนราชวงศ์แล้วซือคงอวี้เนื่องจากโมโหเกินไป อย่าว่าแต่กาน้ำชากับถ้วยชาเลย กระทั่งของเล่นมือทำจากหยกอุ่นที่ชอบที่สุด ก็ยังขว้างมันลงพื้นจนแตกเป็นชิ้นๆ"ขยะเอ๊ย! ขยะทั้งนั้น!""ใต้ฝ่าพระบาทโปรดระงับความโกรธด้วย"ผู้ใต้บัญชาคุกเข่าเป็นแถวอยู่ตรงหน้าซือคงอวี้ ถูกชิ้นส่วนบาดหน้าก็ยังไม่กล้าขยับตัว"ทิ้งพวกเจ้าเอาไว้ตั้งมากมายที่วังสวน! แต่นี่แค่ผู้หญิงคนเดียวก็เอาไม่อยู่! ขยะทั้งนั้น! ไอ้พวกขยะ! ถึงกับทำให้นางพาตาแก่พวกนั้นออกจากเรือนออกไปอย่างผ่าเผยได้ขนาดนี้""ใต้ฝ่าพระบาทโปรดระงับความโกรธด้วย อันที่จริงจั๋วจิ่วคนนั้นปลิ้นปล้อนมาก ใครก็คิดไม่ถึงว่านางจะลอบเข้าไปในวังสวนคนเดียว" เหล่าลูกน้องอธิบายเสียงแผ่วแล้วก็ถูกซือคงอวี้ตบฉาดลงไปกองกับพื้น"ยังมีหน้ามาอธิบายอีกเรอะ !? ถ้าอย่างนั้นยังไม่พูดเรื่องที่จั๋วซือหรานลอบเข้าไปในวังสวนคนเดียว ตั้งนานขนาดนี้แล้ว ทีให้พวกเจ้ารีบไปจัดการตาแก่พวกนั้น พวกเจ้าจัดการแล้วหรือยัง?"เหล่าลูกน้องไม่กล้าขยับตัว และไม่กล้าอธิบายแล้ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 810

    ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชานั่น พริบตาที่สบสายตากับนาง ก็ยิ้มกว้างออกมาทันที "ซือหราน! เจ้ากลับมาแล้ว!"เขาเดินก้าวใหญ่ออกมาจากสวนสมุนไพร เท้าเปื้อนโคลนไปหมดแต่ก็ไม่สนใจ บนใบหน้าหล่อเหลา ทั้งที่ดูเฉียบคมและเย็นชา แต่ตอนที่เห็นรอยยิ้มนาง กลับเผยดวงตาโค้งและฟันขาวสะอาดออกมาราวกับหิมะละลายหายไปชั่วพริบตาน่าจะเพราะโคลนที่เท้าเป็นเหตุ มีดินเหลืองก้อนใหญ่ติดอยู่ใต้เท้าเขา ทำให้เขายืนไม่มั่นคงจั๋วซือหรานเหมือนจะเห็นหน้าตาชายหนุ่มคนนี้จนชินแล้ว ในจิตใต้สำนึกยังรู้สึกว่ายังต้องดูแลอีกสักหน่อย พอเห็นเขายืนไม่มั่นคง นางก็ยื่นมือเข้าไปประคองด้วยสัญชาตญาณแต่ชิ่งหมิงก็ประคองร่างให้มั่นคงได้อย่างรวดเร็ว แล้วยังยื่นมือไปกุมไหล่ของนางไว้"ซือหราน" เขาเรียกชื่อนางเสียงต่ำ "ข้าโตแล้วนะ"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็หัวเราะขึ้นมา "โตแล้วแต่ยังยืนไม่มั่นคงเนี่ยนะ ข้าก็ยังเห็นเป็นเด็กน้อยอยู่ดี แล้วอยู่ดีดีทำไมถึงมาจัดการสวนสมุนไพรของข้ากันล่ะ?"จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "ซางถิงแอบขี้เกียจหรือ?"ซางถิงเพิ่งจะหิ้วตะกร้าสมุนไพรเข้าไปในห้องตาก พอถือตะกร้าเปล่าเดินออกมาก็ได้ยินคำพูดของจั๋วซือหรานซางถิงเอ่ยขึ้นอย่างจน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 811

    จั๋วซือหรานเพิ่งยื่นนิ้วออกไป เจ้าก้อนเนื้อสีม่วงจางตัวนี้ก็ดูร่าเริงขึ้นมาจากความห่อเหี่ยวก่อนหน้าทันทียิ่งไปกว่านั้นยังคิดจะปีนตามนิ้วจั๋วซือหรานไปที่ฝ่ามือนางด้วยแล้วก็ถูกจั๋วซือหรานจับคว้าเอาไว้ บีบมันอย่างไม่เกรงใจ บีบจนมันร้องกี๊ซกี๊ซ แต่ฟังแล้วไม่เหมือนกำลังลำบากใจ แต่เหมือนจะดีใจเสียมากกว่าชิ่งหมิงมองอยู่ข้างๆ อิจฉาหน่อยๆแต่อันที่จริงในหูของจั๋วซือหราน ความหมายของเสียงกี๊ซกี๊ซของเจ้าก้อนเนื้อตัวนี้ที่ส่งมา เหมือนจะกำลัง "ฮือๆๆ..."คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเจ้าขี้แย จั๋วซือหรานคิดในใจจากนั้นจึงตั้งชื่อให้กับเจ้าขี้แยตัวนี้ เรียกว่าขนมเผือกกวนแล้วกันจั๋วซือหรานมองสีม่วงอ่อนสวยงามบนตัวขนมเผือกกวน แหงนตาขึ้นมองชิ่งหมิง"ไฟวิเศษของเจ้าสีม่วงหรือ?" จั๋วซือหรานถามชิ่งหมิงตกตะลึง จากนั้นจึงพยักหน้า "ใช่ เพลิงม่วงบัวคราม ที่แท้ก็เกี่ยวข้องกับสิ่งนี้สินะ ข้าก็ว่าทำไมสีมันถึงเปลี่ยนไป...""อืม" จั๋วซือหรานเอาพวกมันออกมา "พวกนี้ที่เปลี่ยนสีไปก็เพราะสูดรับเอาไฟวิเศษเข้ามา"ตอนนี้ในมือนางมีเปลวเพลิงหรงเยี่ยนของขนมถั่วแดง เปลวเพลิงรุ่ยซินของขนมมะม่วง ไฟเย็นข่งเชวี่ยของขนมชาเขียว เป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 812

    ชิ่งหมิงเอ่ยขึ้นข้างๆ "ท่านลุงก็แค่มาอยู่กับข้าน่ะ ลองดูสิว่ามีอะไรช่วยได้ไหม"ชิ่งหมิงชี้นิ้ว "ท่านลุงช่วยตากยามาตลอดเลย""อย่างนี้นี่เอง เช่นนั้นก็ขอบคุณใต้เท้ามาก" จั๋วซือหรานยิ้มเวินป๋อยวนมองเขา "วิชาหลอมยาของเจ้าก็พัฒนาขึ้นอีกแล้ว อีกไม่นาน สำนักใหญ่ต่างๆจะร่วมกันจัดงานหลอมสกัดยา เจ้าไม่ไปลองดูหน่อยหรือ?"จั๋วซือหรานยิ้ม "เดิมทีก็อยากจะไปลองเหมือนกัน รอให้ข้าจัดการงานที่ยุ่งเหยิงในเมืองหลวงเสร็จก่อน ก็น่าจะไปทันอยู่"เวินป๋อยวนมองนางครู่หนึ่ง พยักหน้าเอ่ยขึ้นว่า "ถึงตอนนั้นข้าไปกับเจ้าด้วยแล้วกัน"จั๋วซือหรานงงงัน "ได้สิทธิประโยชน์แบบนี้ด้วยหรือ""ถือเป็นการขอบคุณที่เจ้ารักษาชิ่งหมิงจนหายดี" เวินป๋อยวนตอบเสียงต่ำจั๋วซือหรานแน่นอนว่าไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้เพียงแต่ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาจะไปยิ่งกับงานหลอมสกัดยา ธุระในเมืองหลวงยังมีออีกมากจั๋วซือหรานกลอกตาไปพูดกับซางถิงว่า "ไม่ต้องกังวล อย่างมากก็คือนนี้ พวกเขาจะส่งแมงมุมมาให้เจ้าอย่างว่าง่ายเอง พวกเขาคิดว่าข้าล้อเล่นกับพวกเขาสินะ มาถึงจวนของข้า แล้วคิดว่าข้าจะปล่อยให้พวกเขาออกไปโดยไม่เจ็บไม่คันแบบนั้นหรือ...?"ซางถิงพอได้ย

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status