แชร์

บทที่ 730

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
แต่ยังไม่ทันได้แตะไหล่ของจั๋วซือหราน นางก็มีปฏิกิริยากลับมาอย่างรวดเร็ว

“เจ้า” จั๋วซือหรานเห็นหน้าคนด้านหลังอย่างชัดเจน

ผมสีขาวรุงรังกับดวงตาสีฟ้าทึมที่เป็นเอกลักษณ์ แสดงชัดถึงตัวตนฐานะของเขา นี่คือคู่มือที่ประลองกับนางบนเวทีเมื่อครู่นี้นั่นเอง

ดวงตาสีฟ้าทึมของเขาจ้องมองจั๋วซือหราน “ข้ายังคิดว่าเจ้าไปแล้วเสียอีก ทำไม? กำลังรอข้าหรือ?”

จั๋วซือหรานมองเขา “เจ้านี่...มั่นใจในตัวเองเสียจริงนะ”

“ใช่สิ” รอยยิ้มในดวงตาสีฟ้าทึมของเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น “ข้ากับเจ้ามันคนประเภทเดียวกัน เป็นพวกที่มั่นใจในตนเองแบบนั้น”

จั๋วซือหรานหัวเราะ จากนั้นจึงเห็นแขนที่ห้อยอยู่ข้างตัวเขา ยังมีเลือดสดไหลอาบลงมา กลิ่นคาวเลือดบนตัวเขายังไม่หายไป

“เจ้าน่าจะรักษาแผลก่อนแล้วค่อยมาพูดจาคุยโตนะ” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น

“เรื่องเล็กน่า” ซางถิงเอ่ยตอบ

จั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “เมื่อครู่เจ้าออมมือไว้ ไม่งั้นคงไม่เจ็บขนาดนี้”

“ใช่เลย ข้าออมมือไว้ ก็เลยลดความยุ่งยากลงไปได้พอควร” ซางถิงตอบ

จั๋วซือหรานยิ้ม “อินเจ๋ออันไม่ใช่ความยุ่งยากหรือ?”

“เขา? เขาจะไปยุ่งยากอะไร...” ซางถิงดูไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ เอ่ยต่อว่า “ข้าออมมือ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 731

    เพราะเวลาค่อนข้างดึกแล้ว กระทั่งสนามประลองทางนี้ก็ยังเงียบสงบ ดังนั้นที่นี่ต่อให้สู้กันขึ้นมาตอนนี้ ก็ไม่ได้ดึงดูดสายตาใครยิ่งไปกว่านั้น ตลาดมืดก็มีกฏของตลาดมืด คนของตลาดมืดก็มีวิถีการดำรงชีวิตของตนเองเช่นกันในนี้กฏที่ใช้ได้ทั่วไปข้อหนึ่งคือ...อย่ายุ่งเรื่องชาวบ้านดังนั้นพวกเขาต่อให้ตายกันที่นี่ ก็น่าจะไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนักตลาดมืดฝังศพเอาไว้แทบทุกที่ นี่คือที่มาของคำพูดนี้ดังนั้นในกลุ่มคนเหล่านี้ หลังจากเข้ามาล้อมซางถิงกับจั๋วซือหรานแล้ว เดิมทีรอบๆ ก็ยังมีคนอยู่อีกส่วนหนึ่งดูจากท่าทางแล้วไม่ธรรมดาเลย ทยอยกันกระจายตัวออกเหมือนสัตว์ ตอนนี้ที่นี่จึงสงบมาก...แทบไม่มีคนเลยคืนเดือนมืดลมพัดแรง ค่ำคืนแห่งการสังหารดูจากเสื้อผ้าคนเหล่านี้ อันที่จริงยังมองไม่ออกถึงตัวตนฐานะแท้จริงของพวกเขาแตว่า ขอแค่คนรู้จริงเรื่องกลุ่มอย่างซางถิง ก็จะมองออกถึงกลุ่มได้อย่างรวดเร็วซางถิงมองกลุ่มออกจากเครื่องมือควบคุมสัตว์ของพวกเขาอย่างรวดเร็วซางถิงเอียงหน้าเล็กน้อย บอกกับจั๋วซือหรานด้านหลังว่า "ระวังด้วย คนพวกนี้ ทั้งหมดเป็นคนของโถงตัดหัวตระกูลซาง"โถงตัดหัว?" จั๋วซือรหานฟังคำนี้แล้วก็เอ่ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 732

    เขาสัมผัสได้ว่าบนบาดแผลทั้งสองที่ถูกดาบของนางแทงไว้ จนทำให้หินต้องห้ามยังแตกก่อนหน้านี้เวลานี้มันคันยุบยิบ ราวกัยว่า...กำลังผสานอย่างรวดเร็วจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "รักษาให้เจ้าก่อน อีกเดี๋ยวถ้าสู้ขึ้นมา จะได้ไม่ขี้เกียจ"ซางถิงเกือบจะโมโหจนหัวเราะขึ้นมายังไม่ทันที่เขาจะได้พูด ในกลุ่มคนเหล่านั้นที่ล้อมเข้ามา ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น"จั๋วซือหราน เจ้าสังหารลูกหลานตระกูลข้าไป แอบเรียนวิชาลับตระกูลข้า โทษนี้สมควรตาย แต่เห็นแก่ว่าเจ้าไม่ใช่คนในตระกูลเรา ไม่เข้าใจกฏเกณฑ์ของตระกูล จะไว้ชีวิตเจ้า แล้วจะพาเจ้ากลับไปช่วยอธิบายให้หน่อย ว่าไปร่ำเรียนวิชาลับตระกูลเรามาจากที่ไหน"จั๋วซือหรานพอได้ยินเนื้อหานี้ "เข้ามาเพราะความสามารถข้าจริงๆ ด้วย"ซางถิงหัวเราะเฮอะขึ้นมา เอ่ยเสียงต่ำกับจั๋วซือหรานว่า " ข้าก็บอกว่าแล้วไม่ได้มาหาข้า ในเมื่อมันไม่เกี่ยวกับข้า ข้าไปได้แล้วใช่ไหม?"จั๋วซือหรานหัวเราะเหอะๆ " อย่าสิ ข้ารักษาให้เจ้าแล้วนะ รับแล้วก็ตอบแทนกันหน่อยมันเป็นมารยาท"ซางถิงกัดฟัน "แล้วทำไมเจ้าไม่พูดเสียหน่อยว่าบาดแผลพวกนั้นมันมายังไง..."ตอนนี้เอง เสียง 'คาดโทษ' จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้ก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 733

    "มันต้องไม่ปกติอยู่แล้ว! นั่นมันวิชาลับสืบทอดของโถงตัดหัว" ซางถิงเอ่ยขึ้น "ตาข่ายแมงมุมของพวกเขาล้วนหลอมขึ้นมา ก็เพราะเอาไว้ควบคุมฝ่ายตรงข้าม""ในเมื่อควบคุมจั๋วซือหรานได้แล้ว" ผู้หญิงเสียงเย็นชานั่นเอ่ยขึ้นมา "ก็เก็บซางถิงเสีย ข้าเห็นตอนที่เขาสู้กับจั๋วซือหรานบนเวที สู้จนหมดเรี่ยวหมดแรงแล้ว ยังไม่รู้ว่าจับแอบเก็บไพ่ตายอะไรที่ไม่อยากให้ใครเห็นไว้หรือเปล่า? ดูแล้วประหลาดๆ"ซางถิงพอได้ยินเนื้อหาคำพูดของซางเชวี่ย สีตาก็เปลี่ยนไปเขากำกำปั้นแน่น เขาซ่อนไพ่ตายความสามารถที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ไว้จริง เขาสามารถเปิดช่องพลังได้แต่ไม่เหมือนกับเปิดช่องพลังทั่วไป เขาไม่เพียงแต่สามารถเปิดช่องพลัง ยกระดับความสามารถตนเองขึ้นชั่วคราว ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่รู้สึกอ่อนล้าหลังจากที่ใช้พลังเกินตัวอีกด้วยเพราะการเปิดช่องพลังของเขา ไม่ได้เกิดจากใช้พลังงานของตนเองจนหมดแล้วดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินการเปิดช่องพลังของเขา คือใช้พละกำลังของสัตว์ที่ควบคุม ไม้ตายนี้เรียกว่า...วิญญาณเลือดอสูรไขาไม่เพียงแต่สามารถใช้พลังของสัตว์ที่ควบคุมได้ แต่ยังใช้พลังวิญญาณของสัตว์ควบคุมได้ในบางระดับด้วย กระทั่ง ยังสามารถทำให้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 734

    "แต่จากที่ข้ารู้ แมลงพิษที่ใช้เป็นกู่มาหลอมได้...แมงมุมเองก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นพอจั๋วซือหรานพูดคำนี้ คนของโถงตัดหัว สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีจั๋วซือหรานยิ้มๆ "เล่นกู่หรือ? ช่วงนี้ข้าก็สนใจกับการเล่นกู่เหมือนกัน ดังนั้น ตาข่ายของพวกเจ้า ฉันเลยทดสอบไปแล้ว ตอนนี้ตาข้าแล้วกระมัง?"ตอนที่จั๋วซือหรานพูดคำนี้ ซางถิงก็ตกตะลึงไปเขารู้สึกว่าคำพูดนี้ดูคุ้นหู ตอนอยู่บนเวที จั๋วซือหรานก็พูดแบบนี้กับเขาเหมือนกันและหลังจากที่นางพูดคำนี้ ก็โต้กลับอย่างรุนแรงใส่เขาทันทีตอนนี้ นางพูดแบบนี้ออกมาอีกครั้งไม่รู้เพราะอะไร ซางถิงรู้สึกว่า น่าจะเป็นความรู้สึกคล้ายๆ กับก่อนหน้านี้กระมังคนอย่างจั๋วซือหราน ตอนที่เป็นคู่ต่อสู้ของนาง คงรู้สึกตำมือเป็นอย่างมาก มาเจอคนแบบนี้ เหมือนเจอกับเข็มแหลมรอบด้านจริงๆไม่ว่าจะสัมผัสจากมุมไหน ก็ล้วนทิ่มแทงมือทั้งสิ้น!แต่ตอนที่ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้กับนาง แล้วมาเป็นสหายร่วมรบที่มีเป้าหมายเดียวกันก็เหมือนจะรู้สึกว่าวางใจได้อย่างประหลาดเลยทีเดียวตอนที่ได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็เหมือนจะไม่มีอะไรให้สับสนแล้วซางเชวี่ยหัวเราะเย็นชาขึ้นมาในกลุ่มโถงตัดหั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 735

    "นี่มัน...ไหมกู่?" ซางถิงอยู่ใกล้ๆ จั๋วซือหราน ดังนั้นจึงเห็นเส้นใยเหล่านี้ยิงออกมาจากมือนางและเพราะสามารถมองเห็นได้ชัด ดังนั้นซางถิงจึงมองออกรางๆ ว่าเส้นใยแต่ละเส้นเหล่านี้ กลับไม่เหมือนตาข่ายใยแมงมุมอะไรแต่คล้ายกับ...ไหมกู่ไหมกู่ที่แมลงกู่พ่นออกมาหญิงสาวคนนี้...ใช้วิชากู่ได้ด้วย!ซางถิงก่อนหน้านี้รู้สึกแค่ว่า จั๋วซือหรานถึงแม้จะเก่งกาจ แต่ว่าตนเองก็ออมมือไปบนเวทีด้วยไม่ได้ใช้วิญญาณเลือดอสูรออกมาด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ดูแล้ว จั๋วซือหรานที่อยู่บนเวทีเองก็เหมือนจะออมมืออยู่ไม่น้อยเลย ทั้งสองฝ่ายต่างออมมือจนสู้ออกมาเป็นแบบนั้นคนของโถงตัดหัวตระกูลซาง เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าจั๋วซือหรานจะใช้วิชากู่ได้ด้วย!หญิงสาวคนนี้! คิด! จะทำอะไรกันแน่!วิชาแพทย์ วิชาสกัดยา วิชายุทธ์ ตอนนี้วิชาควบคุมสัตว์กับวิชากู่ก็ยัง...!คนของโถงตัดหัวล้วนมองนางอย่างระแวดระวัง หลังจากกันไหมกู่ของนางออกไปแล้ว ก็ยังไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแต่ก็มีอยู่สองสามคนที่ไม่ระวังถูกไหมกู่ของนางเปื้อนเข้าไป ล้วนล้มลงพื้นครวญครางเจ็บปวดขึ้นมาสายตาซางเชวี่ยก็จับจ้องที่จั๋วซือหรานเช่นกัน "วิชากู่เจ้าก็เป็นด้วย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 736

    "เดิมทีข้าแค่คิดจะจับเจ้าเป็นๆ พากลับไปสอบสวนเสียหน่อย ว่าเจ้าไปรเียนรู้ทักษะภาษาสัตว์ที่แทบจะสาปสูญไปแล้วของตระกูลซางมาได้อย่างไร" ซางเชวี่ยน้ำเสียงเย็นชาลงไปอีกจั๋วซือหรานมองนาง มุมปากยกขึ้นจนเป็นร้อยยิ้มจางๆ ไม่มีความอบอุ่นใดๆ กระทั่งไม่มีอารมณ์ใดอีกด้วยราวกับไม่ว่าซางเชวี่ยกับคนตระกูลซางพวกนี้จะพูดอะไรหรือทำอะไร ก็ไม่อาจส่งผลอะไรกับใจนางได้เลยจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "คนที่บีบเค้นถามข้า บอกว่าข้าแอบเรียนวิชาแพทย์ของตระกูลพวกเขา ตอนนี้ยังนอนอยู่ในบ้าน บางครั้งก็อั้นฉี่ไม่ไหวอยู่เลย "จั๋วซือหรานมองดวงตาซางเชวี่ย "เจ้าอยากจะลองไหม?"ซางเชวี่ยหัวเราะเย็นชา "ข้ายังพูดไม่จบเลยนะ ข้าเดิมทีคิดจะจับเจ้าเป็นๆ แต่ตอนนี้ ข้าเปลี่ยนความคิดแล้ว คนอย่างเจ้า เป็นตัวแปรที่ไม่สามารถควบคุมได้ ไม่รู้ว่าจะเอาความยุ่งยากหรือการเปลี่ยนแปลงมามากแค่ไหน ตายๆ ไปเสียดีกว่า คนตายไปคือปลอดภัยที่สุด ไม่ว่าสำหรับใครก็เป็นเช่นนี้"เสียงเพิ่งหยุดลง ข้อมือของซางเชวี่ยก็สั่นไหวอย่างรุนแรงแสงเงินสายหนึ่ง รวดเร็วมาก! แล่นตรงเข้ามาทางจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย ยื่นมือออกทันทีแต่นางยังไม่ทันยื่นมือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 737

    ซางถิงสังเกตเห็นถึงสายตาของจั๋วซือหราน เขาไม่รู้เพราะอะไร ตนเองเหมือนจะเข้าใจความหมายบางส่วนในสายตาของจั๋วซือหรานขึ้นมาดวงตาซางถิงเบิกโพลงขึ้นมา ม่านตาหดลง จ้องมองจั๋วซือหราน "เจ้าคิดจะทำอะไร?"เขารู้สึกว่า จั๋วซือหรานกำลังคิดเรื่องที่แปลกใหม่เอามากๆคนปกติไม่มีทางมีความคิดเช่นนี้ แต่นางกลับกำลังคิดอยู่จริงๆ!จั๋วซือหรานเอียงตาเหลือบมองซางถิงผาดหนึ่ง คนผู้นี้ฉลาดจริงๆ มองออกแล้วว่านางคิดจะทำอะไรซางถิงกดเสียงต่ำพูดกับนาง "การโจมตีของงูเพลิงเงินนั้นอหังการมาก การป้องกันเองก็ยอดเยี่ยม เกล็ดหนังสีเงินทั้งตัวก็เหมือนเหล็กที่ไม่มีวันขาด ยิ่งไปกว่นั้นเพลิงเงินของมันก็ร้ายกาจ จะเผาไหม้สิ่งที่สัมผัสโดนมันจนไหม้เป็นจุณ!"จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว ตอนนี้เอง งูสีเงินตัวนั้น ก็ถูกแส้ของซางถิงกับไหมกู่ของนางพันเอาไว้แน่นและเป็นอย่างที่ซางถิงพูดเอาไว้เลย เกล็ดหนังของมันพลังป้องกันโดดเด่นมาก ไหมกู่ของนางแทงหนังเกล็ดของมันไม่เข้าเลย ทำอันตรายกับมันไม่ได้และมันก็เหมือนจะโกรธที่ถูกแส้กับไหมกู่พันเอาไว้ด้วย จึงอ้าปาก แล้วพ่นเพลิงเงินลูกหนึ่งออกมาเพลิงเงินลูกหนึ่ง ดูแล้วราวกับเป็นปรอทอย่างไรอย่างนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 738

    งูเพลิงเงินยังคงอ้าปาก กัดไปบนมือของจั๋วซือหราน แต่กลับกัดไม่เข้าซางถิงเพิ่งจะสังเกตเห็น ว่าบนผิวมือจั๋วซือหราน มีสิ่งของสีหยกบางอย่างที่ไม่รุ้จักเพิ่มขึ้นมาชั้นหนึ่งแต่ความคมของเขี้ยวงูเพลิงเงินนี้เหมือนจะกัดไม่เข้างูเพลิงเงินเองก็เหมือนจะคิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องแบบนี้ มันพ่นเพลิงเงินออกมาทันที!แต่ของที่ราวกับเป็นปรอทนั่น พออยู่บนแขนของจั๋วซือหรานซางถิงรู้สึกเหมือนใจจะดีดออกมาอีกครั้ง ภาพนี้มันตื่นเต้นเกินไปแล้วแต่ว่า ไม่มีอะไรเลยสถานการณ์อย่างแขนจะถูกเผาจนเห็นกระดูกอะไรนั่น ไม่มีเลย เพลิงเงินนั่นค้างอยู่บนแขนของนาง แต่กลับไม่สร้างบาดแผลอะไรเลยจั๋วซือหรานกางฝ่ามือออก กอบเพลิงเงินนั่นไว้ในมือคนของโถงตัดหัวตระกูลซางล้วนตกตะลึงกระทั่งสีหน้าของซางเชวี่ยก็ยังเปลี่ยนไปแล้ว "ปะ เป็นไปได้อย่างไร...?"อันที่จริงหลังจากที่จั๋วซือหรานก็สังเกตได้ว่างูตัวนี้แม้เพลิงเงินที่พ่นออกมาจะชื่อว่าเพลิงเงิน แต่อันที่จริงมันไม่ใช่เปลวไฟ แต่เเป็นพิษที่มีฤทธิ์กัดกร่อนของมันแล้วจั๋วซือหรานก็รู้สึกว่าพลังคุกคามนี้ไม่หนักหนาอะไรนัก หัตถ์เสวียนอวี้ของนางตอนที่เผชิญหน้ากับการแผดเผาของดวงใจแห่ง

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1094

    ถ้าหากใช้ศพของคนล่ะ?แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นสิ่งต้องห้าม ดังนั้นตอนที่หุ่นเชิดร่างแรกถูกหลอมออกมา ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนคนนั้นกระทั่ง ปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนคนนั้นก็พบกับการลงโทษที่รุนแรงยิ่งไปกว่านั้นหุ่นเชิดมนุษย์ก็ถูกตราว่าเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ว่า ทักษะนี้ก็ปรากฏออกมาแล้วทักษะอะไรก็ตามพอปรากฏออกมาแล้ว ต่อให้จะถูกตีตราเป็นสิ่งต้องห้ามก็ตาม แต่ก็ยังมีคนที่แอบนำมาใช้งานกันอยู่ส่วนหุ่นเชิดความมืดตัวแรกนั้น...จั๋วซือหรานฟังถึงตรงนี้ก็เลิกคิ้วขึ้น "ดังนั้นเอาคนเป็นมาใช้ถึงจะกลายเป็นหุ่นเชิดความมืดสินะ"นางมองผู้เฒ่าเหอ "ข้าเป็นหมอ วิชาแพทย์เองก็ไม่เลวนัก บาดแผลที่เกิดขึ้นก่อนตายกับบาดแผลที่เกิดขึ้นหลายตายไปแล้ว ข้าเข้าใจเป็นอย่างดี"เจตนาที่จั๋วซือหรานพูดคำนี้ออกมานั้นง่ายมาก ก็คือจะพูดกับผู้เฒ่าเหอให้ชัดเจนถึงความหมายหนึ่ง...อย่าโกหกข้าผู้เฒ่าเหอเหลือบมองนางผาดหนึ่ง ตอนนี้จึงเอ่ยขึ้นเสียงเล็ก "ใช่แล้ว แค่นำคนเป็นมาทำ ก็จะเรียกว่าหุ่นเชิดความมืด แม้หุ่นเชิดความมืดจะถูกสั่งห้ามมาตลอด แต่ระหว่างปรมาจารย์วิชาเหยี่ยนด้วยกันก็มีการหารือกันมาตลอด หุ่นเชิดมนุษย์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องควา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1093

    พอได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน ดวงตาผู้เฒ่าเหอถลึงตาโตกว่าเดิมไม่มีอะไรที่ที่จะยอดเยี่ยมไปกว่าคนที่เก่งรอบด้าน คำพูดส่งๆ ที่ว่า 'อันที่จริงข้าก็แค่เล่นๆ เท่านั้น ไม่เคยเรียนรู้จริงจังมาก่อนเลย' ยิ่งทำให้คนรู้สึกว่าถูกดูถูกมากขึ้นไปอีกแต่ผู้เฒ่าเหอถึงจะโกรธก็ไม่กล้าพูด ดูเหมือนกลั้นหายใจค้างอยู่ที่อก เข้าก็ไม่ได้ออกก็ไม่ได้ผ่านไปพักหนึ่งถึงหายใจได้คล่องหน่อยเหมือนเพิ่งจะได้ความสามารถในการพูดกลับมา"สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของวิชาหุ่นเชิดก็คือหุ่นเชิดความมืด และสิ่งที่สำคัญที่สุดของหุ่นเชิดความมืดก็คือตะปูวิญญาณ" ผู้เฒ่าเหอเอ่ยขึ้นหลังจากที่จั๋วซือหรานได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้น ทำท่าเหมือนจะสนใจขึ้นมา "เล่าให้ละเเอียดหน่อย"ผู้เฒ่าเหอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ในใจก็เกิดความคิดขึ้นเพียงแต่ความคิดเหล่านี้พอโผล่ขึ้นมาในใจ ก็ถูกจั๋วซือหรานทำลายลงทันที"ถึงอย่างไรเจ้าก็คิดจะดึงข้าไว้ที่นี่อยู่แล้ว เจ้าจะได้ให้กองหนุนจากสำนักเมฆาวารีเข้ามาสั่งสอนข้า ช่วยระบายให้กับเจ้าไม่ใช่หรือ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น"ข้าเองก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าได้ รอกองหนุนของเจ้าที่นี่เสียเลย" จั๋วซือหรานยกมุมปากเป็นร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1092

    ตอนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม รู้สึกถึงแต่ความกดดันบีบคั้น ทว่ายืนอยู่ฝั่งตนเองก็ไม่เหมือนเดิม รู้สึกปลอดภัยอย่างสิ้นเชิงโดยเฉพาะ...ทำไมถึงเริ่มนับขึ้นมาล่ะ?ยิ่งไปกว่านั้น ในมือจั๋วซือหรานตอนนี้ ยังปรากฏตะปูยาวสีดำที่เต็มไปด้วยอักขระคำสาปแปลกประหลาดที่ดูแล้วลึกลับอย่างมากเล่มหนึ่ง!จากนั้นจึงเริ่มนับ "หนึ่ง""สอง"แล้วความเร็วการนับก็ไม่ได้ช้าเลย รู้สึกเหมือนไม่คิดจะให้คนได้ลังเลด้วยซ้ำจะยอมแพ้ หรือจะตาย ไม่มีตัวเลือกที่สามจะเจรจาหรือไม่เจรจา ไม่มีให้เห็นทั้งสิ้นผู้เฒ่าเหอ ตอนที่สายตาจับภาพตะปูยาวในมือจั๋วซือหรานได้ก็เปลี่ยนไปแล้ว ความหวาดกลัวตกตะลึงมหาศาลระเบิดขึ้นมาในดวงตากระทั่งตอนที่จั๋วซือหรานนับถึงสอง เขาก็รีบเอ่ยขึ้นว่า "ให้เจ้า! ให้เจ้าก็พอสินะ!"เสียงของผู้เฒ่าเหอแม้จะไม่ได้ต่ำขรึม แต่ก็ยังหนักแน่นแต่ตอนที่รีบตะโกนคำนี้ออกมา เสียงก็สั่นเครือราวกับกรีดร้องแหลมเหมือนกลัวว่าถ้าช้าไปสักนิดเดียว นางจะเอาตะปูประหลาดเล่มนั้นมาเล่นงานเขาดูแล้วพอเทียบกับการกลัวจั๋วซือหราน สู้บอกว่าเขากลัวตะปูในมือนางนั่นมากกว่าจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว ตะปูยาวที่อยู่ระหว่างนิ้ว หมุนควงเหมื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1091

    ผู้เฒ่าเหอก่อนหน้านี้เดิมทีถูกทำให้ตกใจจนสลบไปเท่านั้น ร่างกายไม่ได้บุบสลายแต่อย่างใดดังนั้นจึงได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ว่า หลังจากได้สติแล้วในใจยังไม่มีแผนรับมือ จึงทำได้แค่แกล้งนอนสลบไปบนพื้นต่อครุ่นคิดว่าควรจะรับมืออย่างไร แต่หญิงสาวคนนี้จะหลอกล่อก็หลอกไม่ได้ ทิฐิสูงไม่มีอ่อนข้อให้เลยจริงๆชั่วขณะหนึ่งก็ยากจะหาแผนการรับมือออกมาได้จึงทำได้แค่แกล้งสลบดึงเวลาออกไปก่อนดังนั้นผู้เฒ่าเหอจึงแกล้งนอนสลบอยู่บนพื้น ไม่ยอมลุกขึ้นมาเขายังคิดว่าจะไม่ถูกพบเสียอีก ฟังคำพูดเหล่านั้นของจั๋วซือหราน ฟังฟู่จาวหนิงชักชวนยุยงเหล่าคนคุ้มกันของเขาผู้เฒ่าเหอรู้สึกชิงชังในใจ!ตอนนี้เขาเองก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาแล้ว ว่าคนคุ้มกันเหล่านี้ไม่ได้ทรยศหักหลังเขาแต่หญิงสาวคนนี้จงใจไว้ชีวิตพวกเขา ปล่อยพวกเขากลับมา...ใครจะรู้ว่านางคำนวณไว้แล้วหรือเปล่าว่าเขาจะไม่มีท่าทีที่ดีกับคนคุ้มกันเหล่านี้ ใครจะรู้ว่านางรอให้สถานการณ์แบบนี้ปรากฏขึ้นหรือเปล่า?!ผู้เฒ่าเหอในใจชิงชังนางอย่างมากแล้วยังแอบคิดในใจ ถึงอย่างไรหนังสือสารกรมธรรม์เจ้าพวกนี้ก็ยังอยู่ในมือเขาขอแค่หนังสือสารกรมธรรม์ยังอยู่ในมือเขา จั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1090

    จั๋วซือหรานไม่ตอบ แค่เลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่ยอมรับหรือปฏิเสธหัวหน้าคนคุ้มกันออกแรงเม้มปาก ในดวงตาแดงก่ำขึ้นจั๋วซือหรานเอ่ยเสียงเรียบ "เดิมทีข้าคิดว่าเจ้าน่าจะเห็นแล้วว่าเจ้านายเจ้าเป็นพวกที่ไม่เห็นความสำคัญของชีวิตคน จะมองออกถึงดวงชะตาแล้ว ทั้งที่ผ่านความเป็นความตายมาแล้วก็น่าจะหวงแหนชีวิตขึ้นมาบ้างจึงจะถูก นี่เจ้ากลับเข้ามารนหาที่ตาย"หัวหน้าคนคุ้มกันริมฝีปากสั่นระริก "แม่นาง..."จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "เอาล่ะ เลือกมา"พอได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันก็ตกตะลึง "อะ อะไรหรือ?""อยากจะรอดหรืออยากจะตาย" จั๋วซือหรานพลิกข้อมือ อาวุธเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ "ถ้าจะส่งเจ้าไปสบายมันง่ายดายมาก ไม่ใช่เรื่องลำบากเลย อย่าว่าแต่เจ้า พวกลูกน้องเหล่านี้ของเจ้า ข้าสังหารทั้งหมดได้แค่ในไม่กี่อึดใจ"พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน หัวหน้าคนคุ้มกันที่ในดวงตาสงบนิ่งไปแล้วแท้ๆ แต่กลับเหมือนมีประกายของดวงดาวเปล่งปลั่งขึ้นมา"ยังมี...ชีวิตต่อได้หรือ?" ในน้ำเสียงของหัวหน้าคนคุ้มกันมีความหวังขึ้นมาแล้วจั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "ได้ แต่มีสิ่งที่ต้องจ่าย""จ่ายด้วย...อะไรหรือ?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1089

    เพราะขนมชามมีไฟวิเศษเปลวเพลิงอู๋ซื่ออยู่ในตัว รูปร่างเดิมจึงกึ่งโปร่งใสถนัดการพรางตัวมากที่สุดและสภาพก่อนหน้านี้ การปรากฏตัวกะทันหันของจั๋วซือหราน ตอนที่ผู้เฒ่าเหอมีอาการสั่นไปทั้งตัวจากความผวาต่อตัวนาง แน่นอนว่าความสนใจทั้งหมดจึงพุ่งไปบนตัวนางจนไม่ทันได้สังเกตถึงการเคลื่อนไหวผิดปกติอื่น ดังนั้นจึงไม่รู้สึกตัวเลย ว่าแมลงกู่ที่ร่างกายกึ่งโปรงใสในปกติ และในตอนที่จำเป็นก็เพิ่มระดับความโปร่งใสได้อีก ตัวนี้ ไปเกาะอยู่บนไหล่เขาตั้งแต่เมื่อไรตอนนีเ้อง พอเห็นว่าร่างของผู้เฒ่าเหอล้มลงกะทันหันขนมชามก็รีบกระพือปีกน้อยทั้งสองนั่นขึ้นมา แม้จะบินไม่ได้เร็วหรือสูงนัก แต่การจะบินขึ้นมาจากจุดเดิมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ตุบตุบ...ตุบตุบ...มาอยู่เบื้องหน้าจั๋วซือหราน หยุดลงข้างๆ หูแล้วจึงส่งเสียงจี๊ดๆ ขึ้นมาแต่ที่ได้ยินในหูจั๋วซือหราน ขนมชามกำลังบอกว่า "นายท่าน เขาสลบไปแล้ว"จั๋วซือหรานจุ๊ปากขึ้นมา "ชิ อ่อนแอเสียจริง""ใช่เลย" ขนมชามเห็นด้วยกับคำพูดของนายท่าน หลังจากนั้นก็ร่อนลงมาบนไหล่จั๋วซือหราน เอ่ยว่า "ทั้งที่ข้าเป็นคนที่ทนรับได้ง่ายที่สุดในกลุ่มพวกเราแล้วด้วยซ้ำ"จั๋วซือหรานคิดแล้วก็ขำ พูดอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1088

    สีหน้าผู้เฒ่าเหอแข็งทื่อไป หลังจากตั้งสติกลับมาได้ สีหน้าก็เขียวจนซีดไป นี่นางกำลังตอบโต้เขาว่าก่อนหน้านี้ผายลมออกมาไม่ดังพอสินะ!ผู้เฒ่าเหอโมโหไม่พอใจ สูดลมหายใจลึก แล้วจึงสงบลงมาได้เขาจ้องจั๋วซือหราน "ใต้เท้าจั๋ว ท่านมาโดยไม่ได้รับเชิญถึงสองรอบ วางยาพิษลูกชายข้า ทำร้ายผู้ใต้บัญชาข้า นี่รังแกกันมากเกินไปแล้ว ทำไมหรือ? ขุนนางราชสำนักสามารถรังแกคนได้แบบนี้หรือไรกัน? คิดว่าต้าชางไม่มีกฏหมายหรือไร?"จั๋วซือหรานหลังจากได้ยินคำนี้ พูดออกมาแค่ว่า "เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?""ความหมายของข้าก็คือ..." ผู้เฒ่าเหอกำลังคิดจะพูดแต่เขายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกจั๋วซือหรานตัดบทไปแล้ว "เจ้าคิดว่ายกเอากฏหมายออกมาแล้วจะช่วยชีวิตเจ้าได้เรอะ?""นี่เจ้า...!" ผู้เฒ่าเหอถลึงตาโตในดวงตาถลึงโตของเขา สะท้อนใบหน้ารอยยิ้มชั่วร้ายของจั๋วซือหราน "ในเมื่อเจ้ากล้าคิดวิธีมาทำร้ายข้า ก็คงจะเคยหาข่าวเรื่องข้ามาแล้ว คงเข้าใจในตัวข้าอยู่บ้างสินะ""ในเมื่อเจ้าเข้าใจตัวข้า ก็น่าจะชัดเจนว่า จั๋วจิ่วอย่างข้าไม่มีนิสัยที่ทำตามกฏระเบียบมาแต่ไหนแต่ไร" จั๋วซือหรานเหลือบตามองเขา"เจ้ายกกฏหมายขึ้นมามีประโยชน์อะไร? ต่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1087

    พอได้ยินเสียงนี้ที่ดังขึ้นกะทันหัน แล้วยังคุ้นหูขนาดนี้คุ้นหูจนทำให้ผู้เฒ่าเหอยังหลังเย็นวาบ จนถึงตอนนี้ ข้างหูเขาก็เหมือนยังได้ยินเสียงกรีดร้องของลูกชายอยู่เลย...ดังนั้น พริบตาที่ได้ยินเสียงนี้ เสียงของผู้เฒ่าเหอที่เดิมทียังกระฟัดกระเฟียด ก็หยุดลงไปทันทีทั่วทั้งลานเปลี่ยนเป็นเงียบสงัด!และเสียงใสเย็นของหญิงสาวคนนั้น ก็ดังลอดเข้ามาอีกครั้ง "เจ้าเองก็ลองผายลมเสียงดังๆ ให้ฟังหน่อยสิ"ผู้เฒ่าเหอก็เหมือนจะเพิ่งยืนยันได้ว่านี่ไม่ได้หูฝาด แต่เป็นเสียงของหญิงสาวคนนั้นจริงๆสีหน้าเปลี่ยนเป็นปั้นยากขึ้นมาทันทีและตอนนี้เองหัวหน้าคนคุ้มกันตระกูลเหอที่นอนหายใจรวยรินกันบนพื้น แม้แต่จะเหลือบตามองก็ยังสุดกำลัง ก็เลิกหนังตาขึ้น แล้วมองไปทางเสียงที่ดังลอดเข้ามาเหลือบมองออกไปอย่างสุดกำลังที่มีในสายตา เงาสีแดงร่างหนึ่ง ก็รวกับเป็นเปลวไฟกลุ่มหนึ่ง เผาไหม้เข้ามาจั๋วซือหรานยืนอยู่ตรงนั้น จากนั้น จึงก้มลงมองเขาผาดหนึ่งและสบตาเข้ากับเขาที่เงยขึ้นมาพอดีจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว จุ๊ปากขึ้นมาทีหนึ่ง "ข้าเตือนพวกเจ้าแล้ว"หัวหน้าคนนี้เข้าใจความหมายในคำพูดของจั๋วซือหรานซึ่งก็จริง ก่อนหน้านี้นาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1086

    "เจ้า...เจ้าเจ้า..." เสียงของคนคุ้มกันประตูตะกุกตะกักขึ้นมาเขาเห็นหญิงสาวตรงหน้าหรี่ตายิ้ม แต่กลับไม่รู้สึกว่าอบอุ่นเลย ซ้ำยังสัมผัสได้ถึงอาการเย็นวาบที่แผ่นหลังอีกด้วยก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยางหน่วยคนคุ้มกันที่ผู้เฒ่าเหอส่งออกมารับมือจั๋วซือหราน แต่กลับล้มเหลวแถมยังบาดเจ็บ ก็กลับมาถึงจวนตระกูลเหอแล้วพอรู้ว่าพวกเขากลับมาอย่างล้มเหลว แล้วตลับหุ่นเชิดยังถูกแย่งไปอีกด้วย ผู้เฒ่าเหอก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่ได้สนใจพวกคนคุ้มกันที่บาดเจ็บกลับมาเหล่านั้นเลย กระทั่งพวกเขาอันที่จิรงมีคนหนึ่งไม่ได้กลับมาด้วย ไม่รู้ว่าตายไปแล้วหรือยังแต่ภายใต้สถานการณืเช่นนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็ยังจะลงโทษพวกเขาก่อนหน้าที่จั๋วซือหรานจะมาถึงเมืองหยาง พวกเขาก็ถูกผู้เฒ่าเหอลงโทษด้วยแส้มาตลอดแรกสุดที่บาดเจ็บจากหมอกพิษที่ป่าทวนแสง แล้วยังรีบกลับมาอย่างสุดกำลัง บวกกับการลงแส้ของผู้นำตระกูลนี่อีกพวกเขาล้วนกลายเป็นธนูแผ่วปลายกันหมดแล้ว หายใจรวยรินและตอนนี้เอง ผู้เฒ่าเหอหยุดฟาดแส้ ไม่ใช่เพราะเห็นบาดแผลพวกเขาแล้วใจอ่อนลงมา แต่เป็นเพราะเอาแต่หวดแส้แบบนี้ ผู้เฒ่าเหอเองก็เหนื่อยขึ้นมาแล้วเท่านั้น

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status