Share

บทที่ 692

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-19 18:00:14
“ท่านยังอารมณ์เสียอีกหรือ?” ฝูซูมองนาง รู้สึกเหมือนถ้าแค่นางพูดว่าไม่ดีออกมา เขาก็จะโกรธขึ้นแล้ว

จั๋วซือหรานพยักหน้า “อารมณ์ดีอยู่นะ...”

ตอนนี้เอง ชายที่ดูเจ้าเล่ห์คนหนึ่งเห็นรูปร่างของจั๋วซือหราน แล้วยังสวมหมวกปีกกว้างอีก รู้สึกว่าต้องเป็นหญิงสาวแน่

ก็เลยถือโอกาสที่คนเยอะแยะ จงใจเบียดตัวเข้ามา คิดจะชนไปที่ตัวจั๋วซือหราน

คิดจะแต๊ะอั๋งนิดๆ หน่อยๆ

ถึงอย่างไรที่นี่ก็คนเยอะแยะ เบียดเสียดไปมาก็เป็นเรื่องปกติ ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ก็เป็นตลาดมืดด้วย

แต่แค่ชายชุดของจั๋วซือหรานก็ยังแตะไม่โดน พอเบียดเข้ามาอย่างเจ้าเล่ห์ ก็ถูกจั๋วซือหรานบีบคอเอาไว้

“อ่อก...แค่ก!” ชายคนนี้หน้าซีดไปทันที “เจ้าทำ...ทำอะไรน่ะ? ปล่อย...ปล่อยข้านะ!”

จั๋วซือหรานสะบัดเขาไปข้างๆ คนผู้นี้ยืนไม่มั่นคง ล้มจ้ำเบ้าลงบนพื้น

เขาถลึงตามองจั๋วซือหราน “คนมากขนาดนี้ ไปโดนตัวเจ้าอย่างไม่ระวังบ้างแล้วเป็นอะไรไปกัน?!”

“มีที่ตั้งมากให้เบียด แต่เจ้ากลับคิดจะเบียดมาข้างตัวหญิงสาว ก็ไม่มีอะไรหรอก ให้ขาหักขาเจ้าทิ้ง แล้วก็ไปรักษาตัวอยู่ที่บ้าน จะได้ไม่ต้องมาดูงานแบบนี้เสียเลยดีไหม?” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ

คนผู้นี้ก่อนหน้าเจอ
Bab Terkunci
Membaca bab selanjutnya di APP

Bab terkait

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 693

    ตอนนี้เป็นช่วงค่ำใกล้อาหารเย็น อีกเดี๋ยวการประลองของพวกเขาก็จะเริ่มแล้วเจี่ยงเทียนซิงเช็ดเศษขนมปิ่งที่มุมปากนางจนสะอาด เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ “ถ้าอย่างนั้นให้เอาของมารองท้องให้เจ้าก่อนดีไหม?”จั๋วซือหรานโบกไม้โบกมือ “ไม่ต้องแล้ว สู้เสร็จแล้วข้าค่อยกินแล้วกัน ข้าเห็นร้านอาหารที่น่าจะไม่เลวอยู่ เดี๋ยวสู้เสร็จเจ้าเลี้ยงข้าวข้าที่นั่นก็พอ”เจี่ยงเทียนซิงพยักหน้า เอ่ยขึ้นว่า “เอาเรื่องสนามทดสอบมาไว้ก่อนอาหารค่ำถือว่ามีเหตุผลอยู่”ไม่รอให้เขาได้อธิบาย จั๋วซือหรานก็พยักหน้าตอบ “ข้ารู้ จัดการสูบเงินค่าข้าวจากผีพนันพวกนั้นมาก่อนสินะ ดังนั้นข้าถึงพูดว่าไม่มีมีมนุษยธรรมขึ้นมานี่ไง”เจี่ยงเทียนซิงเดิมทียังคิดว่านางไม่รู้ คิดไม่ถึงว่านางจะเข้าใจอย่างกระจ่างเลยทีเดียวเจียงเทียนซิงมองหน้าจั๋วซือหราน “ข้ารู้สึกว่าสีหน้าเจ้าไม่ค่อยดีนัก”จั๋วซือหรานโบกไม้โบกมือ “ช่างเถอะ เมื่อคืนนี้ไปจวนตระกูลเฟิงแล้วอาละวาดไปรอบหนึ่ง บาดเจ็บมาหน่อย”เจียงเทียนซิงสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที “เจ้า? คนเดียวหรือ?! ไปบ้านตระกูลเฟิง? เจ้าคงไม่ได้ไปหาเรื่องตระกูลเฟิง...เพราะคนที่สาวงามที่ซ่อนไว้ในห้องทองคนนั้นจริงๆ หรอกใ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 694

    “ดังนั้นเจ้าน่ะ! ไม่ยอมดูแลตัวเองให้ดี แต่วิ่งแจ้นออกไปทะเลาะกับตระกูลเฟิงจนตัวเองบาดเจ็บมันใช้ได้ที่ไหนกัน?” ในใจเจี่ยงเทียนซิงรู้สึกว่ายังปล่อยผ่านไปไม่ได้ ดังนั้นจึงหยิบออกมาพูดอีกถามขึ้นอย่างทนไม่ไหว “เจ้าไปสู้กับใครมากัน? ถึงทำตัวเองบาดเจ็บแบบนี้?”เจี่ยงเทียนซิงรู้สึกว่า จั๋วซือหรานที่มีวิชาแปลกประหลาดอยู่ตั้งมากมาย ต่อให้เอาชนะไม่ได้ แต่ปกติคิดจะทำร้ายนางก็ไม่น่าทำได้ง่ายๆ นี่นาจั๋วซือหรานเบ้ปาก “พ่อของเฟิงเหยียนน่ะ”เจี่ยงเทียนซิงทำหน้าเหมือนกินแมลงวันเข้าไป ถลึงตาโต พูดไม่ออกไปพักหนึ่ง ผ่านไปครู่หนึ่งจึงพูดออกมาว่า “กลางค่ำกลางคืนแต่เจ้ากลับไปหาเรื่องต่อยตีกับพ่อสามีในอนาคตหรือ?”“นี่มันไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญคือ เมื่อครู่เจ้าบอกว่าคนที่จะสู้กับข้าวันนี้น่าจะเป็นทรยศจากตระกูลซาง? ชื่ออะไรล่ะ?” จั๋วซือหรานถามขึ้นเจี่ยงเทียนซิงมองนาง “นั่นยังไม่สำคัญอีกหรือ? แต่คนเขาชื่ออะไรสำคัญกว่าหรือ? คนทรยศของตระกูลซาง ไม่ว่าจะชื่ออะไรก็ไม่มีทางเป็นพวกอ่อนแอ ต้องเป็นคนแข็งแกร่งแน่นอน”จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “คนแข็งแกร่ง? แกร่งแค่ไหนกัน?”จั๋วซือหรานถามขึ้น “นักภาษาสัตว์หรือ?”เจี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 695

    “เจ้านี่มัน...” เจี่ยงเทียนซิงคิดไม่ออกว่าจะใช้คำว่าอะไรมาพรรณนาจั๋วซือหรานดีเหล่มองอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้นว่า “...เจ้าเล่ห์เหลือเกิน”จั๋วซือหรานมองเขา “ข้าคิดว่าเจ้านิ่งไปค่อนวันแล้วจะหาคำดีดีมาเรียกข้าได้เสียอีก”“เจ้าไม่เข้าใจ” เจี่ยงเทียนซิงโบกไม้โบกมือ “ในปากของพ่อค้าคนหนึ่ง สามารถใช้คำว่าเจ้าเล่ห์มาพรรณนาตัวเจ้าได้ ถือว่าเป็นคำชมที่ยอดเยี่ยมแล้ว”จั๋วซือหรานมองเขา “อย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นก็ขอบคุณที่ชม จะว่าไปเจ้าถามอินเจ๋ออันแล้วหรือยัง วันนี้การทดสอบจะประลองกี่ยก?”“ยังจะกี่ยกได้ล่ะ ปกติก็แค่ยกเดียวไม่ใช่หรือ?” เจี่ยงเทียนซินตอบคำถามนี้ออกมาอย่างคล่องแคล่วจั๋วซือหรานมองเขา “เวลาพูดก็พูดกันอย่างนี้นั่นล่ะ แต่ข้ามันพวกมีประสบการณ์แย่ๆ มาก่อน ตอนนั้นที่ตระกูลเหยียนประลองกับข้า ก็ยังทำตัวไม่ตรงไปตรงมาเลย...”เจี่ยงเทียนซิงพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ก็คิดถึงตอนที่ตระกูลเหยียนประลองกับนางเมื่อครั้งนั้น มันก็เป็นสถานการณ์ที่ขายหน้าจริงๆคิ้วขมวดขึ้นมา จากนั้นจึงเรียกอิ๋นไห่มาทันที“นายท่าน มีอะไรหรือ?” อิ๋นไห่ถามขึ้นเจียงเทียนซิงขมวดคิ้ว เอ่ยขึ้นเสียงขรึม “เจ้าไป ถามอิน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 696

    “นี่เจ้าพูดจริงจังหรือ?” ดวงตาเจี่ยงเทียนซิงเบิกโพลงขึ้นอีกพอควรต่อให้นางควบคุมสัตว์ได้ เจี่ยงเทียนซิงก็ยังไม่รู้สึกตกตะลึงนัก คนอย่างจั๋วซือหราน ทำให้ผู้คนตกตะลึงมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วนางเป็นวิชาแพทย์ กลั่นยาได้ ต่อยตีก็ได้ จะควบคุมสัตว์ได้ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เกินคาดนักแต่ควบคุมสัตว์ได้กับเป็นนักภาษาสัตว์มันคนละเรื่องกันจั๋วซือหรานยิ้มตอบกลับมา “เจ้าว่าอย่างไรล่ะ?”“ข้าว่า...” เจี่ยงเทียนซิงขมวดคิ้ว แต่ก็เห็นว่าจั๋วซือหรานตอนนี้ก็ยังมีท่าทีเย้าแหย่เขาจู่ๆ เขาก็เหมือนจะไม่ได้กังวลเหมือนก่อนหน้านี้แล้วเจี่ยงเทียนซิงหันไปบอกกับอิ๋นไห่ “ไปถามอินเจ๋ออันเสีย ว่าประลองกี่ยก”“ขอรับ!” อิ๋นไห่ออกไปทันทีตอนนี้เอง ในหอจันทร์เงินอินเจ๋ออันกำลังนั่งดื่มชา “วันนี้ก็ฝากเจ้าด้วยนะ”ข้างๆ อินเจ๋ออันมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ สวมหน้ากากปิดบังครึ่งล่างใบหน้าไว้ มองเห็นแค่สันจมูกโด่งคมชัดรวมถึงโครงหน้าคมกริบของเขาเท่านั้นดวงตาลึกซึ้งของเขา ม่านตามีสีน้ำเงินอ่อนๆ ดูลึกลับพอได้ยินคำพูดของอินเจ๋ออัน ดูจากรูปทรงคิ้วตาของเขาก็มองออกได้ไม่ยากว่าเขากำลังยิ้มอยู่เล็กน้อย“จะว่าไป” เขาเอ่ยขึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 697

    “ลองฟังดูหน่อยก็ได้” ซางถิงเอ่ยขึ้นมา“ก็ได้” อินเจ๋ออันส่งสายตาให้กับคนรับใช้ไม่นานนัก อิ๋นไห่ก็ถูกเชิญเข้ามา“นายท่านของเจ้ามีอะไรมาบอกข้าหรือ?” อินเจ๋ออันถามเสียงของอิ๋นไห่มีมารยาทและเกรงใจ “ท่านเจ้าสำนักหอจันทร์เงิน นายท่านของข้าให้ข้ามาถามท่านวัน การทดสอบไกล่เกลี่ยตัดสินวันนี้ ท่านคิดจะต่อสู้กันกี่ยกหรือ?”อินเจ๋ออันพอได้ยินคำนี้ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาก่อน ในใจคิดว่าการทดสอบไกล่เกลี่ยตัดสินมันไม่ใช่ว่าแค่ยกเดียวก็พอหรือ? ยังจะเอาสักกี่ยกกัน?แต่อินเจ๋ออันพอคิด ในใจก็มีความคิดหนึ่งแล่นเข้ามา เขาเอียงตามองซางถิงผาดหนึ่งซางถิงเลิกคิ้วอินเจ๋ออันบอกกับอิ๋นไห่ว่า “ปกติ...ไม่ใช่ว่าสามยกหรอกหรือ?”หลังจากนั้นเขาก็เห็นสีหน้าแข็งทื่อของอิ๋นไห่อย่างที่คาดไว้อินเจ๋ออันรู้สึกสะใจขึ้นในนใจทันที เจี่ยงเทียนซิงคงไม่คิดอย่างแน่นอนว่าเขาจะจัดสามยก คงคิดว่าจะมีแค่ยกเดียวกระมัง?ไม่แปลกที่สีหน้าของอิ๋นไห่จะปั้นยากแบบนี้“เจ้าไปบอกเจ้านายเจ้าตามนี้แล้วกัน” อินเจ๋อไห่เอ่ยขึ้น“ขอรับ” หลังจากอิ๋นไห่ขานรับ_ก็หมุนตัวจากไปสีหน้ายังคงแข็งอยู่ หลังจากเดินออกไปก็ถอนใจเบาออกมาเบาๆแม่นางจิ่วเดาไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 698

    จั๋วซือหรานยิ้มๆ ลุกขึ้นยืน สะบัดแขนกับเท้าเล็กน้อย “เวลาน่าจะใกล้แล้ว ข้าลงไปก่อนนะ”พูดจบ จั๋วซือหรานก็เอาหน้ากากชิ้นหนึ่งสวมไปบนหน้าเจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้น “ข้าส่งเจ้าไปแล้วกัน”จั๋วซือหรานโบกไม้โบกมือ “ไม่ต้องหรอก เจ้ารอที่นี่เถอะ จำไว้ว่าต้องลงเดิมพันก็ลงเสีย ในเมื่อมีสามยก ยกแรกกับยกสองก็อย่าว่างนักล่ะ ครั้งถ้าไม่โกยเงินจาก ‘เปาบุ้นจิ้น’ นั่นมาให้มากหน่อย เดี๋ยวจะเนรคุณที่เขาลงทุนลงแรงจัดเสียขนาดนี้เอา”“อืม” เจี่ยงเทียนซิงยิ้ม พยักหน้า “เจ้าเองก็ระวังด้วย อย่าบาดเจ็บล่ะ”จั๋วซือหรานเดินออกมาจากห้องหรู ตอนเดินผ่านข้างตัวฝูซู ก็กำชับกับเขา “เจ้าคอยตามเจ้าสำนักหอฟ้าดาวไปก็พอ”จากนั้นจึงเดินออกจากห้องหรูไปฝูซูเดินมาอยู่ข้างกายเจี่ยงเทียนซิง จึงเห็นว่าเจ้าสำนักตลาดมืดที่หนุ่มแน่นคนนี้ กำลังหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดมืออย่างไม่รีบไม่ร้อนอยู่เพราะตอนที่เจ้าสำนักคนนี้ปอกผลไม้ให้กับคุณหนูของเขาก่อนหน้านี้ มือเปื้อนน้ำในผลไม้ไปนั่นเองฝูซูอันที่จริงก็เหมือนสัมผัสอะไรได้รางๆ ...แต่ก็พูดออกมาไม่ได้ตอนนี้เอง เจี่ยงเทียนซิงก็หันหน้ามามองเขา “เจ้ารับใช้ข้างกายซือหรานมานานแล้วกระมัง?”

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 699

    จากเวลาเริ่มประลองที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตลาดมืดก็คึกคักขึ้นเรื่อยๆ เช่นกันเพราะการประลองกับเฮยหลิงก่อนหน้านี้ แม้หอฟ้าดาวจะไม่ได้พูดชัดเจนว่าเป็นจั๋วซือหรานแต่ที่ต่อมาที่เฮยหลิงไปเป็น ‘เทพประตู’ ให้เปล่าๆ ที่เรือนของจั๋วซือหราน ทุกคนจึงคาดเดากันว่าคนที่ประมือกับเฮยหลิงครั้งนั้น จะต้องเป็นจั๋วซือหรานแน่นอน!เพียงแต่ว่า เรื่องราวมากมายส่วนใหญ่มักเป็นเช่นนี้ ถ้าแค่ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน มันก็เป็นได้แค่สิ่งทีเรียกว่าข่าวลือเท่านั้นและเจ้าข่าวลือนี้ พอยิ่งมีความไม่แน่นอนมากขึ้น แน่นอนว่าจึงมีทั้งคนที่เชื่อ และมีคนที่ไม่เชื่อเหล่าประชาชนที่แจ้นไปรักษากับจั๋วซือหรานก่อนหน้านี้ กว่าครึ่งนั้นเชื่อ รู้สึกว่าจั๋วซือหรานมีฝีมือ ดันั้นจึงสามารถเอาชนะเฮยหลิงได้ ทำให้พวกผีพนันพวกนั้นได้จดได้จำ โดนสั่งสอนกันไปตามระเบียบแต่ในสายตาผีพนันเหล่านั้น ก็มักจะหาข้ออ้างให้กับตนเอง รู้สึกว่าต้องไม่ใช่แน่ จะเป็นไปได้อย่างไร ไม่มีทางที่ทุกเรื่องจะเป็นฝีมือของนาง เพียงเพราะว่าช่วงนี้นางกำลังโด่งดังที่สุดในเมืองหลวงหรอกกระมัง?ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากเป็นนางจริง แล้วทำไมตระกูลขุนนางเหล่านั้นถึงไม่ออกมาพูดถึงเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 700

    “เอาล่ะ รู้แล้ว” จั๋วซือหรานถามต่อ “ยังมีอีกไหม?”อิ๋นไห่บอกต่อว่า “คนจากตระกูลเฟิง ตระกูลจั๋ว ตระกูลเหยียนกับตระกูลฮั่วล้วนมากันหมด”ตอนนี้ กลายมาเป็นจั๋วซือหรานประหลาดใจแล้วแม้ว่านางจะรู้ว่าตนเองถูกจับตามอง แต่ในระดับนี้...“เอิกเกริกเสียจริง” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นอิ๋นไห่เอ่ยต่อ “ใช่เลย ดังนั้นนายท่านจึงให้ข้ามาบอกแม่นางก่อน เกรงว่าท่านจะมีแผนการอื่นอยู่อีก”เจี่ยงเทียนซิงนี่รอบคอบใช้ได้เลยแต่จั๋วซือหรานก็คิดๆ เอ่ยต่อว่า “ยังไม่มีแผนกับความคิดอื่นชั่วคราว ให้เจี่ยงเทียนซิงทำตามแผนเดิม คอยดูแล้วจัดการเอา”อิ๋นไห่พยักหน้ารับคำสั่ง “ขอรับ”“อาจริงด้วย” จั๋วซือหรานมองไปทางอิ๋นไห่“แม่นางโปรดกำชับได้เลย” อิ๋นไห่เอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังจั๋วซือหรานคิดๆ พูดต่อมาว่า “ให้เจี่ยงเทียนซิงคอยระวังหน่อย ตามหลักการแล้วในห้าตระกูลนี้ ที่ควรไปผิดใจด้วยข้าก็ผิดใจมาจนหมดแล้ว...”อิ๋นไห่ฟังคำนี้ของจั๋วซือรหาน ก็รู้สึกทั้งนับถือทั้งจนใจ ว่าอย่างไรดีล่ะ เกรงว่าตอนนี้ทั้งเมืองหลวง คงมีแค่แม่นางจิ่วเท่านั้นที่มีพลังพูดคำนี้ออกมา“สรุปคือ ตามหลักการแล้วทั้งห้าตระกูลนี้ไม่มีใครมองข้าดีสักคน คิดว่

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 704

    “ใช่เลย แส้นี้ฟาดจนทำให้จั๋วจิ่วต้องมุ่งไปทางปากสัตว์ประหลาดของเขาเลยทีเดียว!”เมื่อครู่ คนทั้งหมดล้วนมองเห็น ซางถิงที่อยู่บนเวที พอเริ่มต้นก็ทำเอาจั๋วซือหรานประหลาดใจไปเลยทีเดียวพอฟาดแส้เข้ามา จั๋วซือหรานก็จำต้องหลบไปยังตำแหน่งที่แส้โจมตีไม่ถึงและซางถิงเองก็อัญเชิญสัตว์ประหลาดออกมาทันที ปรากฏตัวรอในทิศทางนั้นอยู่แล้วในสายตาของผู้ชม นั่นจึงเป็นการที่จั๋วซือหรานถูกซางถิงต้อนไปยังปากของสัตว์ประหลาดของตนเอง!แต่ไม่นานนัก ท่ามกลางสายตาของคนทั้งหมด หญิงสาวในสนาม ก็มีปฏิกิริยาขึ้นฉับพลันในจังหวะสะเก็ดไฟกระทั่งไม่มีใครมองเห็น ว่าสองดาบที่หลังนางปรากฏขึ้นมาเมื่อไร!แต่ก็ปรากฏขึ้นมาแล้ว ดาบยาวสองเล่มนั้น ถูกนางแบกไขว้ไว้ที่หลัง ตอนนี้ก็ล้วนทยอยกันออกจากฝัก ถูกนางกุมมั่นเอาไว้ในมือสัตว์ประหลาดที่ซางถิงเรียกออกมาคือเสือเขี้ยวดาบตัวหนึ่งสัตว์ประหลาดที่ดุดันเช่นนี้ แล้วยังเป็นพวกตระกูลแมว พอมาอยู่บนเวทีประลอง อันที่จริงก็ได้เปรียบพอควรเพราะไม่เพียงแต่ดุร้าย แต่ยังคล่องตัวอีกด้วย!ถ้าหากจะพูดว่าสัตว์ประหลาดนี้มีจุดบกพร่องอะไร จุดบกพร่องนั้นจะต้องเป็นเพราะความยอดเยี่ยมเกินไป ความยาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 703

    “ปากแข็งนัก!” อินเจ๋ออันโมโหจนเข็ดฟัน ตะคอกใส่แผ่นหลังจั๋วซือหรานคำหนึ่งจั๋วซือหรานมองกลับมาเล็กน้อย มุมปากกระดกขึ้นยิ้มอย่างสบายๆ อำมหิตชั่วร้ายอินเจ๋ออันเหมือนถูกรอยยิ้มนี้ของนางกระแทกเข้า สีหน้าที่โมโหจนเข็ดฟันบนหน้าเหล่านั้นก็เหมือนทำต่อไม่ไหวแล้วถึงอย่างไร อีกฝ่ายที่ยิ้มอย่างสบายๆ แต่ตนเองมาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันนี่มันค่อนข้าง...ยังดูนิ่งไม่พอ ขาดความสง่างามตอนนี้เอง ที่ห้องพักผ่อนอีกด้านของเวที ร่างสูงโปร่งร่างหนึ่งก็พุ่งตัวออกมาจั๋วซือหรานตอนนี้จึงได้เห็นอีกฝ่าย เห็นถึงคู่มือในครั้งนี้อีกฝ่ายอยู่ในชุดทะมัดทะแมงสีดำ ดูแล้วคล่องแคล่วมาก ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับชุดทะมัดทะแมงสีแดงที่นางสวมอยู่ยิ่งไปกว่านั้นชุดดำของเขาก็ขัดกับสีผมของเขาอย่างแรง เพราะผมรุงรังกระเซอะกระเซิงของเขา ที่ปักอยู่บนหัวกลับเป็นสีขาวที่สะดุดตาใบหน้าเขาก็สวมหน้ากากไว้ ไม่เหมือนหน้ากากแบบของนาง แต่เป็นหน้ากากที่เหมือนคอเสื้อดึงขึ้นมาคลุมถึงจมูกแบบนั้นจั๋วซือหรานมองรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย กระพริบตาปริบ เอ่ยกับตนเองเสียงต่ำว่า “สภาพนี้มัน...คาคาชิหรือ? (ตัวละครนินจาหนึ่งจากนารุโตะ)”นี่ก็แค่คำล้อเล่นเท่า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 702

    และตอนนี้ ในห้องเตรียมตัวข้างเวทีจั๋วซือหรานมองเห็นสถานการณ์ความคึกคักของอัฒจันทร์ผ่านช่องอากาศ สายตาของนางโดดเด่นกว่าคนอื่น ดังนั้นจึงเห็นสถานการณ์บนเวทีได้ค่อนข้างชัดเจนดังนั้นจึง...“เฮอะ” จั๋วซือหรานเบ้มุมปาก พูดเสียงต่ำกับตนเอง “ยุคสมัยนี้เป็นแม่ทัพเป็นทหารนี่ว่างกันขนาดนี้เชียวหรือ? มันนับเป็นการจับกลุ่มเล่นพนันใช่ไหม? จะโดนลงโทษวินัยทหารไหม?”ทว่าจั๋วซือหรานก็เห็นว่าคนกลุ่มนั้น ใบหน้ามีความเจ็บปวด ยิ่งไปกว่านั้นบนอัฒจันทร์ ก้นเองก็ยังไม่กล้าแตะกับที่นั่งด้วยซ้ำจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “โอ้ ดูท่าจะโดนลงโทษวินัยทหารแต่ก็ยังมากันอีกสินะ นี่เอาจริงเอาจังเสียจริง...”นางเดิมทียังคิดจะสู้แบบส่งเดชอยู่ แล้วก็จะไม่ให้คนเดิมพันข้างนางมากนัก กดอัตราต่อรองของนางลงมาตอนนี้เหมือนจะคิดแบบนี้ไม่ได้แล้วจั๋วซือหรานพูดกับราชาแมงมุมหน้าผีในมิติน้ำพุวิเศษว่า “แมงมุมน้อย เลิกเกี่ยวยาได้แล้ว วันนี้พวกเราต้องสู้ดีดีกันสักยกนะ คนดูเยอะขนาดนี้ข้าต้องสู้ให้งดงามหน่อยแล้ว...” จากเสียงคนโห่ร้องที่คึกคักขึ้นเรื่อยๆ บนอัฒจันทร์ เวลาเริ่มประลองก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วในที่สุดเสียงระฆังสัมฤทธิ์ก็ดังขึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 701

    เจี่ยงเทียนซิงได้ยินคนรับใช้เข้ามารายงาน ก็รู้สึกมืดแปดด้านขึ้นมา“พวกเขามาได้อย่างไรกัน?” เจี่ยงเทียนซิงยกมือขึ้นกดขมับอิ๋นไห่เอ่ยขึ้น “นายท่าน พวกเขาไม่ใช่คนธรรมดาหรือ?”“ไม่ใช่แน่นอน” เจี่ยงเทียนซิงตอบฝูซูรู้สึกสนใจขึ้นมา “แล้วพวกเขาเป็ฯใครกัน? ทำให้เจ้าสำนักปวดหัวได้ขนาดนี้?”เจี่ยงเทียนซิงถอนหายใจ “เจ้านายของเจ้าไม่ได้แค่ช่วยแค่พวกคนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกนั้น คนที่นายท่านเจ้าช่วยไว้ครั้งนี้ ที่มีความซื่อสัตย์สุจริตไม่ได้มีแค่เฮยหลิงคนเดียว”พอได้ยินคำนี้ ฝูซูก็เข้าใจขึ้นมา “ท่านพูดถึงแม่ทัพสองคนนั้นหรือ?”เจี่ยงเทียนซิงพยักหน้า “แม้ในเมืองหลวงนี้ เจ้านายของเจ้าไปผิดใจกับห้าตระกูลใหญ่ จนแทบจะกระโดดขึ้นไปเหยียบบนหัวพวกเขาอยู่แล้ว ดังนั้นจึงมีพวกตระกูลขุนนางเหล่านี้มาคอยใส่ร้ายป้ายสี วิพากษ์วิจารณ์เจ้านายเจ้าอย่างไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไรนัก”“แต่ว่าในค่ายทหาร ชื่อเสียงเจ้านายเจ้าก็สูงส่งเอาการอยู่ ทหารพวกนั้น แต่ละคนเป็นพวกเถื่อนๆ หัวทื่อทั้งนั้น พวกเขาไม่สนใจเรื่องผลประโยชน์ของตระกูลอะไรนั่น พวกนี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระ”“พอช่วยชีวิตพวกเขาไว้ ช่วยชีวิตแม่ทัพของพวกเขาไว้ จึงเป็

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 700

    “เอาล่ะ รู้แล้ว” จั๋วซือหรานถามต่อ “ยังมีอีกไหม?”อิ๋นไห่บอกต่อว่า “คนจากตระกูลเฟิง ตระกูลจั๋ว ตระกูลเหยียนกับตระกูลฮั่วล้วนมากันหมด”ตอนนี้ กลายมาเป็นจั๋วซือหรานประหลาดใจแล้วแม้ว่านางจะรู้ว่าตนเองถูกจับตามอง แต่ในระดับนี้...“เอิกเกริกเสียจริง” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นอิ๋นไห่เอ่ยต่อ “ใช่เลย ดังนั้นนายท่านจึงให้ข้ามาบอกแม่นางก่อน เกรงว่าท่านจะมีแผนการอื่นอยู่อีก”เจี่ยงเทียนซิงนี่รอบคอบใช้ได้เลยแต่จั๋วซือหรานก็คิดๆ เอ่ยต่อว่า “ยังไม่มีแผนกับความคิดอื่นชั่วคราว ให้เจี่ยงเทียนซิงทำตามแผนเดิม คอยดูแล้วจัดการเอา”อิ๋นไห่พยักหน้ารับคำสั่ง “ขอรับ”“อาจริงด้วย” จั๋วซือหรานมองไปทางอิ๋นไห่“แม่นางโปรดกำชับได้เลย” อิ๋นไห่เอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังจั๋วซือหรานคิดๆ พูดต่อมาว่า “ให้เจี่ยงเทียนซิงคอยระวังหน่อย ตามหลักการแล้วในห้าตระกูลนี้ ที่ควรไปผิดใจด้วยข้าก็ผิดใจมาจนหมดแล้ว...”อิ๋นไห่ฟังคำนี้ของจั๋วซือรหาน ก็รู้สึกทั้งนับถือทั้งจนใจ ว่าอย่างไรดีล่ะ เกรงว่าตอนนี้ทั้งเมืองหลวง คงมีแค่แม่นางจิ่วเท่านั้นที่มีพลังพูดคำนี้ออกมา“สรุปคือ ตามหลักการแล้วทั้งห้าตระกูลนี้ไม่มีใครมองข้าดีสักคน คิดว่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 699

    จากเวลาเริ่มประลองที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตลาดมืดก็คึกคักขึ้นเรื่อยๆ เช่นกันเพราะการประลองกับเฮยหลิงก่อนหน้านี้ แม้หอฟ้าดาวจะไม่ได้พูดชัดเจนว่าเป็นจั๋วซือหรานแต่ที่ต่อมาที่เฮยหลิงไปเป็น ‘เทพประตู’ ให้เปล่าๆ ที่เรือนของจั๋วซือหราน ทุกคนจึงคาดเดากันว่าคนที่ประมือกับเฮยหลิงครั้งนั้น จะต้องเป็นจั๋วซือหรานแน่นอน!เพียงแต่ว่า เรื่องราวมากมายส่วนใหญ่มักเป็นเช่นนี้ ถ้าแค่ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน มันก็เป็นได้แค่สิ่งทีเรียกว่าข่าวลือเท่านั้นและเจ้าข่าวลือนี้ พอยิ่งมีความไม่แน่นอนมากขึ้น แน่นอนว่าจึงมีทั้งคนที่เชื่อ และมีคนที่ไม่เชื่อเหล่าประชาชนที่แจ้นไปรักษากับจั๋วซือหรานก่อนหน้านี้ กว่าครึ่งนั้นเชื่อ รู้สึกว่าจั๋วซือหรานมีฝีมือ ดันั้นจึงสามารถเอาชนะเฮยหลิงได้ ทำให้พวกผีพนันพวกนั้นได้จดได้จำ โดนสั่งสอนกันไปตามระเบียบแต่ในสายตาผีพนันเหล่านั้น ก็มักจะหาข้ออ้างให้กับตนเอง รู้สึกว่าต้องไม่ใช่แน่ จะเป็นไปได้อย่างไร ไม่มีทางที่ทุกเรื่องจะเป็นฝีมือของนาง เพียงเพราะว่าช่วงนี้นางกำลังโด่งดังที่สุดในเมืองหลวงหรอกกระมัง?ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากเป็นนางจริง แล้วทำไมตระกูลขุนนางเหล่านั้นถึงไม่ออกมาพูดถึงเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 698

    จั๋วซือหรานยิ้มๆ ลุกขึ้นยืน สะบัดแขนกับเท้าเล็กน้อย “เวลาน่าจะใกล้แล้ว ข้าลงไปก่อนนะ”พูดจบ จั๋วซือหรานก็เอาหน้ากากชิ้นหนึ่งสวมไปบนหน้าเจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้น “ข้าส่งเจ้าไปแล้วกัน”จั๋วซือหรานโบกไม้โบกมือ “ไม่ต้องหรอก เจ้ารอที่นี่เถอะ จำไว้ว่าต้องลงเดิมพันก็ลงเสีย ในเมื่อมีสามยก ยกแรกกับยกสองก็อย่าว่างนักล่ะ ครั้งถ้าไม่โกยเงินจาก ‘เปาบุ้นจิ้น’ นั่นมาให้มากหน่อย เดี๋ยวจะเนรคุณที่เขาลงทุนลงแรงจัดเสียขนาดนี้เอา”“อืม” เจี่ยงเทียนซิงยิ้ม พยักหน้า “เจ้าเองก็ระวังด้วย อย่าบาดเจ็บล่ะ”จั๋วซือหรานเดินออกมาจากห้องหรู ตอนเดินผ่านข้างตัวฝูซู ก็กำชับกับเขา “เจ้าคอยตามเจ้าสำนักหอฟ้าดาวไปก็พอ”จากนั้นจึงเดินออกจากห้องหรูไปฝูซูเดินมาอยู่ข้างกายเจี่ยงเทียนซิง จึงเห็นว่าเจ้าสำนักตลาดมืดที่หนุ่มแน่นคนนี้ กำลังหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดมืออย่างไม่รีบไม่ร้อนอยู่เพราะตอนที่เจ้าสำนักคนนี้ปอกผลไม้ให้กับคุณหนูของเขาก่อนหน้านี้ มือเปื้อนน้ำในผลไม้ไปนั่นเองฝูซูอันที่จริงก็เหมือนสัมผัสอะไรได้รางๆ ...แต่ก็พูดออกมาไม่ได้ตอนนี้เอง เจี่ยงเทียนซิงก็หันหน้ามามองเขา “เจ้ารับใช้ข้างกายซือหรานมานานแล้วกระมัง?”

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 697

    “ลองฟังดูหน่อยก็ได้” ซางถิงเอ่ยขึ้นมา“ก็ได้” อินเจ๋ออันส่งสายตาให้กับคนรับใช้ไม่นานนัก อิ๋นไห่ก็ถูกเชิญเข้ามา“นายท่านของเจ้ามีอะไรมาบอกข้าหรือ?” อินเจ๋ออันถามเสียงของอิ๋นไห่มีมารยาทและเกรงใจ “ท่านเจ้าสำนักหอจันทร์เงิน นายท่านของข้าให้ข้ามาถามท่านวัน การทดสอบไกล่เกลี่ยตัดสินวันนี้ ท่านคิดจะต่อสู้กันกี่ยกหรือ?”อินเจ๋ออันพอได้ยินคำนี้ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาก่อน ในใจคิดว่าการทดสอบไกล่เกลี่ยตัดสินมันไม่ใช่ว่าแค่ยกเดียวก็พอหรือ? ยังจะเอาสักกี่ยกกัน?แต่อินเจ๋ออันพอคิด ในใจก็มีความคิดหนึ่งแล่นเข้ามา เขาเอียงตามองซางถิงผาดหนึ่งซางถิงเลิกคิ้วอินเจ๋ออันบอกกับอิ๋นไห่ว่า “ปกติ...ไม่ใช่ว่าสามยกหรอกหรือ?”หลังจากนั้นเขาก็เห็นสีหน้าแข็งทื่อของอิ๋นไห่อย่างที่คาดไว้อินเจ๋ออันรู้สึกสะใจขึ้นในนใจทันที เจี่ยงเทียนซิงคงไม่คิดอย่างแน่นอนว่าเขาจะจัดสามยก คงคิดว่าจะมีแค่ยกเดียวกระมัง?ไม่แปลกที่สีหน้าของอิ๋นไห่จะปั้นยากแบบนี้“เจ้าไปบอกเจ้านายเจ้าตามนี้แล้วกัน” อินเจ๋อไห่เอ่ยขึ้น“ขอรับ” หลังจากอิ๋นไห่ขานรับ_ก็หมุนตัวจากไปสีหน้ายังคงแข็งอยู่ หลังจากเดินออกไปก็ถอนใจเบาออกมาเบาๆแม่นางจิ่วเดาไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 696

    “นี่เจ้าพูดจริงจังหรือ?” ดวงตาเจี่ยงเทียนซิงเบิกโพลงขึ้นอีกพอควรต่อให้นางควบคุมสัตว์ได้ เจี่ยงเทียนซิงก็ยังไม่รู้สึกตกตะลึงนัก คนอย่างจั๋วซือหราน ทำให้ผู้คนตกตะลึงมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วนางเป็นวิชาแพทย์ กลั่นยาได้ ต่อยตีก็ได้ จะควบคุมสัตว์ได้ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เกินคาดนักแต่ควบคุมสัตว์ได้กับเป็นนักภาษาสัตว์มันคนละเรื่องกันจั๋วซือหรานยิ้มตอบกลับมา “เจ้าว่าอย่างไรล่ะ?”“ข้าว่า...” เจี่ยงเทียนซิงขมวดคิ้ว แต่ก็เห็นว่าจั๋วซือหรานตอนนี้ก็ยังมีท่าทีเย้าแหย่เขาจู่ๆ เขาก็เหมือนจะไม่ได้กังวลเหมือนก่อนหน้านี้แล้วเจี่ยงเทียนซิงหันไปบอกกับอิ๋นไห่ “ไปถามอินเจ๋ออันเสีย ว่าประลองกี่ยก”“ขอรับ!” อิ๋นไห่ออกไปทันทีตอนนี้เอง ในหอจันทร์เงินอินเจ๋ออันกำลังนั่งดื่มชา “วันนี้ก็ฝากเจ้าด้วยนะ”ข้างๆ อินเจ๋ออันมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ สวมหน้ากากปิดบังครึ่งล่างใบหน้าไว้ มองเห็นแค่สันจมูกโด่งคมชัดรวมถึงโครงหน้าคมกริบของเขาเท่านั้นดวงตาลึกซึ้งของเขา ม่านตามีสีน้ำเงินอ่อนๆ ดูลึกลับพอได้ยินคำพูดของอินเจ๋ออัน ดูจากรูปทรงคิ้วตาของเขาก็มองออกได้ไม่ยากว่าเขากำลังยิ้มอยู่เล็กน้อย“จะว่าไป” เขาเอ่ยขึ

DMCA.com Protection Status