แชร์

บทที่ 692

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
“ท่านยังอารมณ์เสียอีกหรือ?” ฝูซูมองนาง รู้สึกเหมือนถ้าแค่นางพูดว่าไม่ดีออกมา เขาก็จะโกรธขึ้นแล้ว

จั๋วซือหรานพยักหน้า “อารมณ์ดีอยู่นะ...”

ตอนนี้เอง ชายที่ดูเจ้าเล่ห์คนหนึ่งเห็นรูปร่างของจั๋วซือหราน แล้วยังสวมหมวกปีกกว้างอีก รู้สึกว่าต้องเป็นหญิงสาวแน่

ก็เลยถือโอกาสที่คนเยอะแยะ จงใจเบียดตัวเข้ามา คิดจะชนไปที่ตัวจั๋วซือหราน

คิดจะแต๊ะอั๋งนิดๆ หน่อยๆ

ถึงอย่างไรที่นี่ก็คนเยอะแยะ เบียดเสียดไปมาก็เป็นเรื่องปกติ ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ก็เป็นตลาดมืดด้วย

แต่แค่ชายชุดของจั๋วซือหรานก็ยังแตะไม่โดน พอเบียดเข้ามาอย่างเจ้าเล่ห์ ก็ถูกจั๋วซือหรานบีบคอเอาไว้

“อ่อก...แค่ก!” ชายคนนี้หน้าซีดไปทันที “เจ้าทำ...ทำอะไรน่ะ? ปล่อย...ปล่อยข้านะ!”

จั๋วซือหรานสะบัดเขาไปข้างๆ คนผู้นี้ยืนไม่มั่นคง ล้มจ้ำเบ้าลงบนพื้น

เขาถลึงตามองจั๋วซือหราน “คนมากขนาดนี้ ไปโดนตัวเจ้าอย่างไม่ระวังบ้างแล้วเป็นอะไรไปกัน?!”

“มีที่ตั้งมากให้เบียด แต่เจ้ากลับคิดจะเบียดมาข้างตัวหญิงสาว ก็ไม่มีอะไรหรอก ให้ขาหักขาเจ้าทิ้ง แล้วก็ไปรักษาตัวอยู่ที่บ้าน จะได้ไม่ต้องมาดูงานแบบนี้เสียเลยดีไหม?” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ

คนผู้นี้ก่อนหน้าเจอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 693

    ตอนนี้เป็นช่วงค่ำใกล้อาหารเย็น อีกเดี๋ยวการประลองของพวกเขาก็จะเริ่มแล้วเจี่ยงเทียนซิงเช็ดเศษขนมปิ่งที่มุมปากนางจนสะอาด เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ “ถ้าอย่างนั้นให้เอาของมารองท้องให้เจ้าก่อนดีไหม?”จั๋วซือหรานโบกไม้โบกมือ “ไม่ต้องแล้ว สู้เสร็จแล้วข้าค่อยกินแล้วกัน ข้าเห็นร้านอาหารที่น่าจะไม่เลวอยู่ เดี๋ยวสู้เสร็จเจ้าเลี้ยงข้าวข้าที่นั่นก็พอ”เจี่ยงเทียนซิงพยักหน้า เอ่ยขึ้นว่า “เอาเรื่องสนามทดสอบมาไว้ก่อนอาหารค่ำถือว่ามีเหตุผลอยู่”ไม่รอให้เขาได้อธิบาย จั๋วซือหรานก็พยักหน้าตอบ “ข้ารู้ จัดการสูบเงินค่าข้าวจากผีพนันพวกนั้นมาก่อนสินะ ดังนั้นข้าถึงพูดว่าไม่มีมีมนุษยธรรมขึ้นมานี่ไง”เจี่ยงเทียนซิงเดิมทียังคิดว่านางไม่รู้ คิดไม่ถึงว่านางจะเข้าใจอย่างกระจ่างเลยทีเดียวเจียงเทียนซิงมองหน้าจั๋วซือหราน “ข้ารู้สึกว่าสีหน้าเจ้าไม่ค่อยดีนัก”จั๋วซือหรานโบกไม้โบกมือ “ช่างเถอะ เมื่อคืนนี้ไปจวนตระกูลเฟิงแล้วอาละวาดไปรอบหนึ่ง บาดเจ็บมาหน่อย”เจียงเทียนซิงสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที “เจ้า? คนเดียวหรือ?! ไปบ้านตระกูลเฟิง? เจ้าคงไม่ได้ไปหาเรื่องตระกูลเฟิง...เพราะคนที่สาวงามที่ซ่อนไว้ในห้องทองคนนั้นจริงๆ หรอกใ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 694

    “ดังนั้นเจ้าน่ะ! ไม่ยอมดูแลตัวเองให้ดี แต่วิ่งแจ้นออกไปทะเลาะกับตระกูลเฟิงจนตัวเองบาดเจ็บมันใช้ได้ที่ไหนกัน?” ในใจเจี่ยงเทียนซิงรู้สึกว่ายังปล่อยผ่านไปไม่ได้ ดังนั้นจึงหยิบออกมาพูดอีกถามขึ้นอย่างทนไม่ไหว “เจ้าไปสู้กับใครมากัน? ถึงทำตัวเองบาดเจ็บแบบนี้?”เจี่ยงเทียนซิงรู้สึกว่า จั๋วซือหรานที่มีวิชาแปลกประหลาดอยู่ตั้งมากมาย ต่อให้เอาชนะไม่ได้ แต่ปกติคิดจะทำร้ายนางก็ไม่น่าทำได้ง่ายๆ นี่นาจั๋วซือหรานเบ้ปาก “พ่อของเฟิงเหยียนน่ะ”เจี่ยงเทียนซิงทำหน้าเหมือนกินแมลงวันเข้าไป ถลึงตาโต พูดไม่ออกไปพักหนึ่ง ผ่านไปครู่หนึ่งจึงพูดออกมาว่า “กลางค่ำกลางคืนแต่เจ้ากลับไปหาเรื่องต่อยตีกับพ่อสามีในอนาคตหรือ?”“นี่มันไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญคือ เมื่อครู่เจ้าบอกว่าคนที่จะสู้กับข้าวันนี้น่าจะเป็นทรยศจากตระกูลซาง? ชื่ออะไรล่ะ?” จั๋วซือหรานถามขึ้นเจี่ยงเทียนซิงมองนาง “นั่นยังไม่สำคัญอีกหรือ? แต่คนเขาชื่ออะไรสำคัญกว่าหรือ? คนทรยศของตระกูลซาง ไม่ว่าจะชื่ออะไรก็ไม่มีทางเป็นพวกอ่อนแอ ต้องเป็นคนแข็งแกร่งแน่นอน”จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “คนแข็งแกร่ง? แกร่งแค่ไหนกัน?”จั๋วซือหรานถามขึ้น “นักภาษาสัตว์หรือ?”เจี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 695

    “เจ้านี่มัน...” เจี่ยงเทียนซิงคิดไม่ออกว่าจะใช้คำว่าอะไรมาพรรณนาจั๋วซือหรานดีเหล่มองอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้นว่า “...เจ้าเล่ห์เหลือเกิน”จั๋วซือหรานมองเขา “ข้าคิดว่าเจ้านิ่งไปค่อนวันแล้วจะหาคำดีดีมาเรียกข้าได้เสียอีก”“เจ้าไม่เข้าใจ” เจี่ยงเทียนซิงโบกไม้โบกมือ “ในปากของพ่อค้าคนหนึ่ง สามารถใช้คำว่าเจ้าเล่ห์มาพรรณนาตัวเจ้าได้ ถือว่าเป็นคำชมที่ยอดเยี่ยมแล้ว”จั๋วซือหรานมองเขา “อย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นก็ขอบคุณที่ชม จะว่าไปเจ้าถามอินเจ๋ออันแล้วหรือยัง วันนี้การทดสอบจะประลองกี่ยก?”“ยังจะกี่ยกได้ล่ะ ปกติก็แค่ยกเดียวไม่ใช่หรือ?” เจี่ยงเทียนซินตอบคำถามนี้ออกมาอย่างคล่องแคล่วจั๋วซือหรานมองเขา “เวลาพูดก็พูดกันอย่างนี้นั่นล่ะ แต่ข้ามันพวกมีประสบการณ์แย่ๆ มาก่อน ตอนนั้นที่ตระกูลเหยียนประลองกับข้า ก็ยังทำตัวไม่ตรงไปตรงมาเลย...”เจี่ยงเทียนซิงพอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ก็คิดถึงตอนที่ตระกูลเหยียนประลองกับนางเมื่อครั้งนั้น มันก็เป็นสถานการณ์ที่ขายหน้าจริงๆคิ้วขมวดขึ้นมา จากนั้นจึงเรียกอิ๋นไห่มาทันที“นายท่าน มีอะไรหรือ?” อิ๋นไห่ถามขึ้นเจียงเทียนซิงขมวดคิ้ว เอ่ยขึ้นเสียงขรึม “เจ้าไป ถามอิน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 696

    “นี่เจ้าพูดจริงจังหรือ?” ดวงตาเจี่ยงเทียนซิงเบิกโพลงขึ้นอีกพอควรต่อให้นางควบคุมสัตว์ได้ เจี่ยงเทียนซิงก็ยังไม่รู้สึกตกตะลึงนัก คนอย่างจั๋วซือหราน ทำให้ผู้คนตกตะลึงมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วนางเป็นวิชาแพทย์ กลั่นยาได้ ต่อยตีก็ได้ จะควบคุมสัตว์ได้ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เกินคาดนักแต่ควบคุมสัตว์ได้กับเป็นนักภาษาสัตว์มันคนละเรื่องกันจั๋วซือหรานยิ้มตอบกลับมา “เจ้าว่าอย่างไรล่ะ?”“ข้าว่า...” เจี่ยงเทียนซิงขมวดคิ้ว แต่ก็เห็นว่าจั๋วซือหรานตอนนี้ก็ยังมีท่าทีเย้าแหย่เขาจู่ๆ เขาก็เหมือนจะไม่ได้กังวลเหมือนก่อนหน้านี้แล้วเจี่ยงเทียนซิงหันไปบอกกับอิ๋นไห่ “ไปถามอินเจ๋ออันเสีย ว่าประลองกี่ยก”“ขอรับ!” อิ๋นไห่ออกไปทันทีตอนนี้เอง ในหอจันทร์เงินอินเจ๋ออันกำลังนั่งดื่มชา “วันนี้ก็ฝากเจ้าด้วยนะ”ข้างๆ อินเจ๋ออันมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ สวมหน้ากากปิดบังครึ่งล่างใบหน้าไว้ มองเห็นแค่สันจมูกโด่งคมชัดรวมถึงโครงหน้าคมกริบของเขาเท่านั้นดวงตาลึกซึ้งของเขา ม่านตามีสีน้ำเงินอ่อนๆ ดูลึกลับพอได้ยินคำพูดของอินเจ๋ออัน ดูจากรูปทรงคิ้วตาของเขาก็มองออกได้ไม่ยากว่าเขากำลังยิ้มอยู่เล็กน้อย“จะว่าไป” เขาเอ่ยขึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 697

    “ลองฟังดูหน่อยก็ได้” ซางถิงเอ่ยขึ้นมา“ก็ได้” อินเจ๋ออันส่งสายตาให้กับคนรับใช้ไม่นานนัก อิ๋นไห่ก็ถูกเชิญเข้ามา“นายท่านของเจ้ามีอะไรมาบอกข้าหรือ?” อินเจ๋ออันถามเสียงของอิ๋นไห่มีมารยาทและเกรงใจ “ท่านเจ้าสำนักหอจันทร์เงิน นายท่านของข้าให้ข้ามาถามท่านวัน การทดสอบไกล่เกลี่ยตัดสินวันนี้ ท่านคิดจะต่อสู้กันกี่ยกหรือ?”อินเจ๋ออันพอได้ยินคำนี้ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาก่อน ในใจคิดว่าการทดสอบไกล่เกลี่ยตัดสินมันไม่ใช่ว่าแค่ยกเดียวก็พอหรือ? ยังจะเอาสักกี่ยกกัน?แต่อินเจ๋ออันพอคิด ในใจก็มีความคิดหนึ่งแล่นเข้ามา เขาเอียงตามองซางถิงผาดหนึ่งซางถิงเลิกคิ้วอินเจ๋ออันบอกกับอิ๋นไห่ว่า “ปกติ...ไม่ใช่ว่าสามยกหรอกหรือ?”หลังจากนั้นเขาก็เห็นสีหน้าแข็งทื่อของอิ๋นไห่อย่างที่คาดไว้อินเจ๋ออันรู้สึกสะใจขึ้นในนใจทันที เจี่ยงเทียนซิงคงไม่คิดอย่างแน่นอนว่าเขาจะจัดสามยก คงคิดว่าจะมีแค่ยกเดียวกระมัง?ไม่แปลกที่สีหน้าของอิ๋นไห่จะปั้นยากแบบนี้“เจ้าไปบอกเจ้านายเจ้าตามนี้แล้วกัน” อินเจ๋อไห่เอ่ยขึ้น“ขอรับ” หลังจากอิ๋นไห่ขานรับ_ก็หมุนตัวจากไปสีหน้ายังคงแข็งอยู่ หลังจากเดินออกไปก็ถอนใจเบาออกมาเบาๆแม่นางจิ่วเดาไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 698

    จั๋วซือหรานยิ้มๆ ลุกขึ้นยืน สะบัดแขนกับเท้าเล็กน้อย “เวลาน่าจะใกล้แล้ว ข้าลงไปก่อนนะ”พูดจบ จั๋วซือหรานก็เอาหน้ากากชิ้นหนึ่งสวมไปบนหน้าเจี่ยงเทียนซิงเอ่ยขึ้น “ข้าส่งเจ้าไปแล้วกัน”จั๋วซือหรานโบกไม้โบกมือ “ไม่ต้องหรอก เจ้ารอที่นี่เถอะ จำไว้ว่าต้องลงเดิมพันก็ลงเสีย ในเมื่อมีสามยก ยกแรกกับยกสองก็อย่าว่างนักล่ะ ครั้งถ้าไม่โกยเงินจาก ‘เปาบุ้นจิ้น’ นั่นมาให้มากหน่อย เดี๋ยวจะเนรคุณที่เขาลงทุนลงแรงจัดเสียขนาดนี้เอา”“อืม” เจี่ยงเทียนซิงยิ้ม พยักหน้า “เจ้าเองก็ระวังด้วย อย่าบาดเจ็บล่ะ”จั๋วซือหรานเดินออกมาจากห้องหรู ตอนเดินผ่านข้างตัวฝูซู ก็กำชับกับเขา “เจ้าคอยตามเจ้าสำนักหอฟ้าดาวไปก็พอ”จากนั้นจึงเดินออกจากห้องหรูไปฝูซูเดินมาอยู่ข้างกายเจี่ยงเทียนซิง จึงเห็นว่าเจ้าสำนักตลาดมืดที่หนุ่มแน่นคนนี้ กำลังหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดมืออย่างไม่รีบไม่ร้อนอยู่เพราะตอนที่เจ้าสำนักคนนี้ปอกผลไม้ให้กับคุณหนูของเขาก่อนหน้านี้ มือเปื้อนน้ำในผลไม้ไปนั่นเองฝูซูอันที่จริงก็เหมือนสัมผัสอะไรได้รางๆ ...แต่ก็พูดออกมาไม่ได้ตอนนี้เอง เจี่ยงเทียนซิงก็หันหน้ามามองเขา “เจ้ารับใช้ข้างกายซือหรานมานานแล้วกระมัง?”

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 699

    จากเวลาเริ่มประลองที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตลาดมืดก็คึกคักขึ้นเรื่อยๆ เช่นกันเพราะการประลองกับเฮยหลิงก่อนหน้านี้ แม้หอฟ้าดาวจะไม่ได้พูดชัดเจนว่าเป็นจั๋วซือหรานแต่ที่ต่อมาที่เฮยหลิงไปเป็น ‘เทพประตู’ ให้เปล่าๆ ที่เรือนของจั๋วซือหราน ทุกคนจึงคาดเดากันว่าคนที่ประมือกับเฮยหลิงครั้งนั้น จะต้องเป็นจั๋วซือหรานแน่นอน!เพียงแต่ว่า เรื่องราวมากมายส่วนใหญ่มักเป็นเช่นนี้ ถ้าแค่ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน มันก็เป็นได้แค่สิ่งทีเรียกว่าข่าวลือเท่านั้นและเจ้าข่าวลือนี้ พอยิ่งมีความไม่แน่นอนมากขึ้น แน่นอนว่าจึงมีทั้งคนที่เชื่อ และมีคนที่ไม่เชื่อเหล่าประชาชนที่แจ้นไปรักษากับจั๋วซือหรานก่อนหน้านี้ กว่าครึ่งนั้นเชื่อ รู้สึกว่าจั๋วซือหรานมีฝีมือ ดันั้นจึงสามารถเอาชนะเฮยหลิงได้ ทำให้พวกผีพนันพวกนั้นได้จดได้จำ โดนสั่งสอนกันไปตามระเบียบแต่ในสายตาผีพนันเหล่านั้น ก็มักจะหาข้ออ้างให้กับตนเอง รู้สึกว่าต้องไม่ใช่แน่ จะเป็นไปได้อย่างไร ไม่มีทางที่ทุกเรื่องจะเป็นฝีมือของนาง เพียงเพราะว่าช่วงนี้นางกำลังโด่งดังที่สุดในเมืองหลวงหรอกกระมัง?ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากเป็นนางจริง แล้วทำไมตระกูลขุนนางเหล่านั้นถึงไม่ออกมาพูดถึงเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 700

    “เอาล่ะ รู้แล้ว” จั๋วซือหรานถามต่อ “ยังมีอีกไหม?”อิ๋นไห่บอกต่อว่า “คนจากตระกูลเฟิง ตระกูลจั๋ว ตระกูลเหยียนกับตระกูลฮั่วล้วนมากันหมด”ตอนนี้ กลายมาเป็นจั๋วซือหรานประหลาดใจแล้วแม้ว่านางจะรู้ว่าตนเองถูกจับตามอง แต่ในระดับนี้...“เอิกเกริกเสียจริง” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นอิ๋นไห่เอ่ยต่อ “ใช่เลย ดังนั้นนายท่านจึงให้ข้ามาบอกแม่นางก่อน เกรงว่าท่านจะมีแผนการอื่นอยู่อีก”เจี่ยงเทียนซิงนี่รอบคอบใช้ได้เลยแต่จั๋วซือหรานก็คิดๆ เอ่ยต่อว่า “ยังไม่มีแผนกับความคิดอื่นชั่วคราว ให้เจี่ยงเทียนซิงทำตามแผนเดิม คอยดูแล้วจัดการเอา”อิ๋นไห่พยักหน้ารับคำสั่ง “ขอรับ”“อาจริงด้วย” จั๋วซือหรานมองไปทางอิ๋นไห่“แม่นางโปรดกำชับได้เลย” อิ๋นไห่เอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังจั๋วซือหรานคิดๆ พูดต่อมาว่า “ให้เจี่ยงเทียนซิงคอยระวังหน่อย ตามหลักการแล้วในห้าตระกูลนี้ ที่ควรไปผิดใจด้วยข้าก็ผิดใจมาจนหมดแล้ว...”อิ๋นไห่ฟังคำนี้ของจั๋วซือรหาน ก็รู้สึกทั้งนับถือทั้งจนใจ ว่าอย่างไรดีล่ะ เกรงว่าตอนนี้ทั้งเมืองหลวง คงมีแค่แม่นางจิ่วเท่านั้นที่มีพลังพูดคำนี้ออกมา“สรุปคือ ตามหลักการแล้วทั้งห้าตระกูลนี้ไม่มีใครมองข้าดีสักคน คิดว่

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 946

    และตอนที่ฮั่วจือโจวกำลังหารือเรื่องเปิดโรงเตี๊ยมอยู่กับเจี่ยงเทียนซิงและอินเจ๋ออัน ก็ได้รู้ข่าวการพระราชทานรางวัลนี้พวกเขาสามคนสบตากัน"จักรพรรดิเฒ่านี่ร้ายจริงๆ"จั๋วซือหรานไม่ได้ส่งเสียง หลังจากได้ยินคนวังประกาศราชโองการจบ นางก็ยืนนิ่งไม่ขยับคนวังเองก็ดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เรียกนางขึ้นคำหนึ่ง "แม่นางจิ่ว ขานรับราชโองการสิ"จั๋วซือหรานไม่ขยับ นางมองราชโองการฉบับนั้น อันที่จริงในใจกำลังพิจารณาจะรับดีไหมองค์จักรพรรดิเฒ่าดีดลูกคิดรอบนี้ ลูกคิดแทบจะกระเด็นมาโดนหน้านางอยู่แล้วพระราชทานเงิน พระราชทานจวน พระราชทานวังสวน สิทธิ์อำนาจพ่อค้าหลวง พวกนี้ไม่มีปัญหาอะไร ใกล้เคียงกับที่นางขอองค์จักรพรรดิเฒ่าไว้แต่การอวยยศ...แต่งตั้งขุนนางกับพื้นที่ศักดินา แบบนี้มันเกินไปจริงๆในสายตาคนนอก นางเป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง ได้รับยศมา เรียกได้ว่าจะกลายเป็นโหวหญิงชั้นสูงเพียงคนเดียวของเมืองหลวงไปเลยยิ่งไปกว่านั้นยังมีพื้นที่ศักดินาให้ เรื่องดีจะตายนี่?แต่การแต่งตั้งเป็นหัวหน้าแพทย์หลวง แม้จะชั่วคราว แต่ใครจะรุ้ว่าต้องนานแค่ไหน?ต้องไปเข้ากะอะไรแบบนั้น น่ารำคาญจะตายยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งข้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 945

    จั๋วซือหรานพอได้ยินเสียงนี้ ก็ไม่เร่งไม่ร้อน ชนแก้วกับจั๋วอวิ๋นฉีก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ดื่มสุราในแก้วลงไปจนหมดตอนนี้ นางกับจั๋วอวิ๋นฉีก็กลายเป็นผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสห้าของตระกูลจั๋วแล้วพอวางแก้วลง จั๋วอวิ๋นฉีก็หน้าเย็นชาลงมา เขาหน้าตาหล่อเหล่า แต่ตอนที่สีหน้าเย็นชา ก็ให้ความรู้สึกบีบคั้นที่เย็นเยียบมากเขามองไปทางผู้อาวุโสที่พูดเมื่อครู่นี้คนคนนั้นหดคอลง ไม่กล้าส่งเสียงอีกจั๋วซือหรานไม่ได้ใส่ใจ งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้วตอนที่อาหารกลางวันดำเนินไปครึ่งหนึ่ง ด้านนอกประตูจู่ๆ ก็มีรายงาน ว่าคนในวังมาแล้ว"คนในวัง?" ยังมีคนไม่เข้าใจ คนในวังมาบ้านตระกูลจั๋วทำไมเพียงไม่นานก็เห็นคนวังประกาศราชโองการในชุดเรียบร้อยเดินเข้ามา เพียงแต่ว่า ดูแล้วหายใจหอบอยู่ น่าจะรีบเข้ามาพอควรคนวังประกาศราชโองการพอเห็นจั๋วซือหราน ก็เผยรอยยิ้มออกมา "แม่นางจิ่วที่แท้ก็อยู่ที่นี่นี่เอง ข้าน้อยหาตัวมาพักหนึ่งแล้ว เกรงว่าจะพลาดฤกษ์ประกาศราชโองการ"สายตาของคนตระกูลจั๋ว ทยอยกันมองจั๋วซือหรานตอนนี้ คนวังประกาศราชโองการจึงลากเสียงขึ้นดังลั่น "จั๋วซือหราน...รับราชโองการ...!"จั๋วซือหรานลุกขึ้น เตรียมจะทำท่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 944

    ผู้อาวุโสสาม!?ครั้งที่แล้วที่นางกลับไปตระกูลจั๋ว คือเชิญนางไปเป็นผู้อาวุโสหรือ?!อย่าว่าแต่พวกที่มาดูมหรสพเลย กระทั่งเฉวียนคุนพอได้ยินคำเรียกนี้ก็ยังตะลึงไปและเพราะอารมณ์ในใจเขาตื่นเต้นเกินไป จึงสั่นไปทั้งตัว!เรียก เรียกว่าอะไรนะ?!นี่เรียกว่า! สะใจสินะ! เขาตอนนั้นยังจำได้ว่า คุณหนูจิ่วออกจากตระกูล ตอนนั้นคนมากมายล้วนรอดูนางเป็นตัวตลก หรือรู้สึกว่านางนี่ล่ะที่เป็นตัวตลกตอนนั้นส่งคนใช้มามากมายมาที่เรือนของนาง แต่ละคนล้วนรู้สึกเหมือนถูกเนรเทศอย่างไรอย่างนั้น รู้สึกว่าจะไม่มีวันได้กลับไปเชิดหน้าชูตาอีกแล้วมีแค่เขาที่อยู่รอด! นับจากตอนนั้นเขาก็เริ่มเชื่อมั่นว่านายท่านจะต้องก้าวหน้าแน่!จั๋วซือหรานได้ยินคำเรียกนี้ สีหน้าก็ดูสงบนิ่งมากทุกคนเห็นสีหน้านางก็รู้แล้ว นางคงรู้เรื่องนี้มานานแล้วพอคนใช้รายงานเสร็จ ก็มองจั๋วซือหรานอย่างตึงเครียดขึ้นมาราวกับ...กลัวว่านางจะปฏิเสธพวกเขาถูกส่งมาเชิญนาง ถ้าหากเชิญไม่ได้ กลับไปอาจจะถูกลงโทษก็ไม่แน่ดังนั้นพวกเขาจึงมองดูการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของจั๋วซือหราน เตรียมว่าถ้าหากเห็นเค้าลางการปฏิเสธในสีหน้า พวกเขาก็จะอ้อนวอนนางทันทีแต่จั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 943

    ตอนที่เฉวียนคุณเคาะประตูจั๋วซือหรนา นางเพิ่งจะวุ่นกับการหลอมยา...งานช่วงเช้าเสร็จเฉวียนคุนรีบเข้ามารินชาให้นางจั๋วซือหรานรับไปดื่มสองอึก "ทำไมหรือ?"เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นว่า "นายท่าน นี่มันเรื่องอะไรกัน"สีหน้าของเฉวียนคุณปั้นยาก "เดิมทีเรือนของพวกเราก็ไม่ได้เล็กอะไร ตามหลักการแล้วก็พออาศัยอยู่"เดิมทีก็มีแค่นายท่าน ข้า เด็กฉลาด เฮยหลิง นี่ก็ไม่ใช่ว่าพออยู่เหลือเฟือหรือ"แต่ก่อนหน้านั้นก็เพิ่งจะมีใต้เท้าพวกนั้นที่ท่านช่วยกลับมาจากตระกูลเฟิง" เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นหมายถึงพวกเหล่าองครักษ์เงาของเฟิงเหยียนที่นางช่วยกลับมา"ตอนนี้ยังมีพ่อลูกสกุลเหยียนอีก" เฉวียนคุนเอ่ยต่อ "ดังนั้นห้องข้างจึงไม่ค่อยพอแล้วนะ"ห้องพักคนใช้นอกเรือนยังว่างอยู่ ปัญหาคือ เฉวียนคุนมองว่าคนเหล่านี้ นายท่านก็ไม่ได้มองพวกเขาเหมือนคนรับใช้ ดูคล้ายจะเป็นแขกมากกว่าจะให้แขกไปอยู่ในห้องพักคนใช้ก็ไม่ได้..."อา..." จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ ก็เข้าใจความหมายของเฉวียนคุนแล้ว "อย่างนี้นี่เอง รู้แล้ว"เฉวียนคุนพยักหน้า "นายท่านเข้าใจบ้างก็ดีแล้ว ตอนนี้ยังพอจัดให้ได้ถูไถ แต่หลังจากนี้ถ้าฮูหยินกับนายท่านกลับมา ก็น่าจะจัดไม่ลง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 942

    แต่หลังจากที่พวกเขาออกไป จั๋วซือหรานกลับไม่ได้ลงมาจากบนกำแพงล้อมแต่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นว่า "พวกเจ้ายังมีเรื่องอะไรอีก"นางปวดหัว เรื่องนึงสงบลงอีกเรื่องก็ผุดขึ้นมา นางสัมผัสได้นานแล้ว ต่อให้จะเป็นตอนที่คุมเชิงกับคนตระกูลเฟิงที่ไล่ตามเฟิงหร่านมา นางก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จับจ้องแอบมองอยู่จากมุมหนึ่งมาโดยตลอดแล้วพอคนจากไป นางก็รออยู่อีกพักหนึ่ง สายตาที่แอบมองอยู่นั่นก็ยังอยู่นางเองก็ขี้เกียจมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้แล้ว จึงส่งเสียงขึ้นมาตรงๆตอนนี้เอง ในมุมลับตา ก็มีเงาสองร่างเดินออกมาจั๋วซือหรานรู้จักหนึ่งในนี้ นางเลิกคิ้ว "วันนี้คึกคักเสียจริง"พอได้ยินคำนี้ เหยียนฉีก็รู้สึกเขินหน่อยๆ เขาประสานมือให้ "แม่นางจิ่ว ไม่เจอกันเสียนาน"จั๋วซือหรานพยักหน้า มองไปยังคนข้างๆ ผาดหนึ่งเหยียนฉีเอ่ยแนะนำว่า "นี่ นี่คือพ่อของข้าเหยียนเจิน"จั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง "เข้ามาสิ"นางไม่ได้กระโจนกลับจากกำแพงล้อมหรือกระโจนออกไป แต่ยืนขึ้นย้ำไปตามสันกำแพง เดินตรงไปยังประตูหน้าพร้อมพวกเขาตอนที่พวกเขาเดินมาถึงประตูเรือนหลัก จึงมีเงาแดงร่างหนึ่งร่อนลงมาตรงหน้าพวกเขา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 941

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน หานกวงก็พยักหน้า "ใช่แล้ว"จั๋วซือหรานมุมปากกระตุก "ไม่จบไม่สิ้นเสียที"หานกวงฟังออก ถึงความเย็นชาและขุ่นเคืองในน้ำเสียงของแม่นางจิ่วจั๋วซือหรานผลักประตูออก เดินไปที่ห้องตะวันออกเฟิงหร่านพยุงร่างขึ้นมานั่งบนเตียง นางอยู่ในชุดดำ มีบาดแผลอยู่ไม่น้อย มีเลือดซึมออกมาข้างนอกด้วยจั๋วซือหรานแค่เหลือบมอง ก็รู้ว่าปัญหาไม่ใหญ่นักนางเดินเข้าไป ใช้มือหนึ่งจับชีพจรของเฟิงหร่าน อีกมือหนึ่งโยนขวดใบหนึ่งให้นางเฟิงหร่านก็รับไปแบบมือไม้พัลวัน "พี่จั๋ว นี่คือ...""เจ็บไม่หนักมาก กินยาเอาเองเลย" จั๋วซือหรานตอบมาเฟิงหร่านเดาว่าด้านในน่าจะเป็ยารักษาอะไรบางอย่าง นางพยักหน้า "ได้เลย ขอบคุณพี่จั๋วมาก"นางเดิมทียังคิดจะเอ่ยปาก บอกเรื่องในตระกูลเฟิงกับจั๋วซือหรานแต่ก็เห็นว่าว่าหลังที่จั๋วซือหรานส่งยาให้นางแล้ว ก็หมุนตัวเดินไปนอกประตูทันทีเฟิงหร่านรีบถามขึ้น "พี่จั๋ว ท่านจะไปไหน?"จั๋วซือหรานมุถมปากกระตุก "คนตระกูลเฟิงที่ไล่สังหารเจ้ามาพวกนั้น มาล้อมอยู่นอกบ้านข้าแล้ว พอดีเลย คืนนี้ข้าจะได้ไม่ต้องไปหาพวกเขา"พูดจบ นางก็เดินออกจาห้องไปเฟิงหร่านนั่งลงบนเตียงงงๆ แล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 940

    แพงไม่ว่า แต่บางทีมีเงินก็หาซื้อไม่ได้พวกเขาตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกขึ้นได้ว่าตัวตนนักกลั่นยาของจั๋วซือหรานนั้นมีประโยชน์มากจริงๆถ้าหากเดิมทียังรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง ตอนนี้ก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้วสายตาของพวกเขาเปล่งประกายจับจ้องจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยิ้มๆ นางมองสายตาเปล่งประกายรอบๆ จากนั้นจึงมองไปทางผู้อาวุโสใหญ่"ถ้าหากให้ข้าตัดสินใจได้ล่ะก็ เงื่อนไขนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน"เสียงของจั๋วซือหรานสงบนิ่งมาก "จะทำเช่นที่มอบให้กับตระกูลฮั่ว มอบยาลูกกลอนให้ตระกูลจั๋ว กระทั่งถ้าอารมณ์ดี จะมอบที่ขั้นสูงกว่าให้ด้วย แต่เงื่อนไขก็คือ ตระกูลจั๋วข้าต้องมีอำนาจตัดสินใจ แล้วก็ไม่ใช่ว่ามีพวกกลุ่มที่กระโจนตัวลากใบหน้าแก่ๆ ออกมาสั่งโน่นสั่งนี่กับข้า"จั๋วหลานฟังถึงคำนี้ ในใจก็อดสั่นกึกขึ้นไม่ได้เขาฟังออกถึงความหมายเชิงลึกในคำพูดนาง...ถ้าหากวันไหนที่นางไม่มีอำนาจตัดสินใจในตระกูลจั๋ว นางก็จะตัดการส่งมอบให้ได้ตลอดเวลา พวกเขาไม่มีทางเลือกเลยแม้แต่น้อยดังนั้น ไม่ว่าในใจเหล่าผู้อาวุโสที่นี่จะมีความคิด 'ฟังนางไปก่อนชั่วคราว หลังจากนี้ค่อยว่ากัน' แค่ไหน ตอนนี้ก็ต้องดับมอดลงไปทันทีจั๋วซือหรานพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 939

    ทุกคนเห็นว่าบนหน้าจั๋วซือหรานมีรอยยิ้มจางๆ อยู่ตลอดแม้จะไม่มีความหมายอะไร ลอยอยู่ผิวเผิน แต่ก็มีอยู่มาตลอดจนตอนที่คำพูดนี้ออกมา รอยยิ้มผิวเผินบนหน้านางเหล่านั้นก็หายวับไปทันทีเหลือเพียงความเย็นชาไร้ความรู้สึกนางบอกกับคนวังจดบันทึกที่อยู่ข้างๆ "รบกวนเจ้าด้วย"คนวังจดบันทึกรู้ว่าคนผู้นี้เป็นตัวตนที่สำคัญแค่ไหนสำหรับฝ่าบาทดังนั้นท่าทีจึงนอบน้อมมาก หยิบม้วนผ้าไหมเลืองทองออกมาคลี่ออกใครก็เห็นลายมังกรที่อยู่บนนั้น...นี่มันคือราชโองการ!คนวังจดบันทึกหยิบพู่กันออกมา เริ่มตวัดเขียนขึ้นบัญชาสวรรค์ จักรพรรดิรับสั่ง ตระกูลจั๋วมีบุตรสาว ชื่อนามหรูซิน จึงขอพระราชทานงานอภิเษกให้กับฉินตวนหยางปราชญ์แห่งกรมดาราศาสตร์...หลังจากได้ยินคนวังจดบันทึกอ่านประกาศร่างราชโองการจั๋วหรูซินยังคงเป็นลมไม่ได้ เพราะยาเม็ดนั้นที่จั๋วซือหรานให้มาอหังการเหลือเกิน บอกว่าจะทำให้นางสติตื่นตัว ก็ทำให้ตื่นตัวได้จริงๆดังนั้นนางจึงโกรธแค้นจนเกินทน กระอักเลือดสดออกมาจั๋วซือหรานลุกขึ้นยืน ในดวงตาไม่มีคนผู้นี้อยู่อีก ราวกับว่า ล้างแค้นสิ่งที่ควรทำเรียบร้อยคนอย่างจั๋วหรูซิน ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในสายตานางอี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 938

    ถังหยวนมองสภาพจั๋วหรูซินตอนนี้ เขาอดมีสายตาสับสนขึ้นมาไม่ได้ตรงหน้าเขามีภาพตอนที่จั๋วซือหรานถูกลงโทษแวบผ่านขึ้นมา กระดูกสันหลังที่ไม่ยอมคดงอนั่นเก้าแส้ฟาดลงไป หน้าขาวซีด เหมือนจะร่วงพับสิ้นสติ สภาพซมซานน่าเวทนาแต่ในสีหน้าท่าทาง ไม่มีท่าทีเจ็บปวดร้องไห้ชักกระตุกให้เห็นกระทั่งว่า ถังหยวนเกิดความรู้สึกลวงขึ้นมา ว่ามันควรจะเป็นเช่นนี้หรือเปล่า?แต่ตอนนี้พอเห็นท่าทางของจั๋วหรูซิน จึงมีปฏิกิริยาเข้าใจขึ้นทันที จั๋วหรูซินแบบนี้ต่างหากที่เป็นสภาพปกติแต่แบบจั๋วซือหรานนั่น เป็นตัวตนที่แตกต่างจากคนอื่นจั๋วหลานมองจั๋วซือหราน "เสียวจิ่ว พอสบายใจขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานเดินขึ้นไปทีละก้าวทุกคนล้วนคิดว่า หญิงสาวคนนี้ยังไม่สะใจพอ ต้องเข้าไปมองความเจ็บปวดทรมานของจั๋วหรูซินใกล้ๆ จึงจะพอใจจั๋วอวิ๋นชินอดทนอยู่ข้างๆ แม้เขาจะไม่พอใจน้องสาวคนนี้นัก แต่ถึงอย่างไรก็เป็นน้องสาวจะอย่างไรก็ยังมีความรู้สึกทนไม่ไหวอยู่ เขาเตรียมจะยัดยาลูกกลอนให้กับจั๋วหรูซินแล้วแต่ตอนนี้พอเห็นจั๋วซือหรานเดินขึ้นมา แม้เขาจะหยุดเท้าลง แต่ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจั๋วอวิ๋นชินเอ่ยขึ้นเสียงขรึม "จั๋วซือหราน หรูชินได้ร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status