แชร์

บทที่ 599

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
ฉุนจวินไม่มีความเห็นใดต่อการกำชับของจั๋วซือหรานแม้แต่น้อย “ได้เลย ข้าน้อยจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”

“ไม่รีบๆ ยังมีอีกชุดหนึ่ง นำไปให้อ๋องเซี่ยนด้วย” จั๋วซือหรานหยิบกล่องข้าวอีกชุดหนึ่งส่งให้ฉุนจวิน

“รับทราบ” ฉุนจวินรับไป

จั๋วซือหรานยิ้มจางๆ บอกกับเขาว่า “รอให้เจ้ายุ่งเรื่องพวกนี้เสร็จ ในครัวข้ายังเหลือไว้ให้เจ้าชุดหนึ่งด้วย อย่าลืมไปกินเสียล่ะ”

ฉุนจวินตกตะลึง คนที่เดิมทีตัดสินใจรับคำสั่งอย่างแน่วแน่ ตอนนี้พูดจาก็ไม่คล่องขึ้นมาเสียแล้ว “ข้า ให้ข้าด้วยหรือ?”

“ใช่แล้ว เจ้าซื้อวัตถุดิบทำอาหารมาเยอะขนาดนั้นคงเหนื่อยแย่ ถึงอย่างไรวางไว้ก็จะไม่สดเสียดายของ ข้าเลยทำมันทั้งหมดเลย” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น “ในห้องครัว อาหารร้อนข้าอุ่นไว้ในหม้อแล้ว ส่วนอาหารเย็นก็เอาตะกร้าสานคลุมไว้แล้ว”

ฉุนจวินพยักหน้าเบาๆ อ้าปากพะงาบ ชั่วขณะหนึ่งเหมือนคิดจะพูดอะไร แต่กลับไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

นายท่านของเขาเฟิงเหยียนไม่ใช่นายท่านที่ปฏิบัติต่อคนใช้อย่างโหดร้าย แต่ก็ไม่เคยทำเรื่องอย่างที่ลงมือทำอาหารด้วยตนเองแล้วส่งให้กับลูกน้องได้กิน

ดังนั้นสถานการณ์เช่นนี้ตรงหน้า ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และไม่เคยประสบพบเห็นมาก่อน

เขา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 600

    ฉุนจวินส่งเสร็จก็กลับไปกินอาหารส่วนของตัวเองและเจี่ยงเทียนซิงพอเปิดกล่องข้าว ก็เห็นกับข้าวมีสีสันครบรสอยู่ด้านใน จ้องมองอยู่พักหนึ่ง เขาจึงยื่นมือหยิบตะเกียบขึ้นมา คีบชิมอาหารหลากสีด้านในไปรอบหนึ่งรสชาติดีมากจริงๆ คิ้วตาก็ผ่อนคลายลงมาในสายตาก็แปลกประหลาดหน่อยๆ แต่สิ่งที่รู้สึกได้มากกว่านั้นคือความโล่งใจ “อย่างที่คาดเอาไว้”อิ๋นไห่ยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกแค่ว่าอาหารในนั้นหอมเกินห้ามใจจริงๆหลังจากนั้นก็เห็นสีหน้าของนายท่าน อิ๋นไห่อดถามขึ้นไม่ได้ “นายท่าน ท่านยิ้มอะไรหรือ?”“ยิ้มหรือ?” เจี่ยงเทียนซิงยกมือขึ้นลูบหน้าตนเอง “น่าจะเพราะ ในที่สุดข้าอาจจะไม่ต้องทำแค่การเป็นเจ้าของบ่อนพนันในตลาดมืดแล้ว อาจจะได้หันมาทำธุรกิจที่ถูกกฎหมายเสียที”อิ๋นไห่ไม่รู้เรื่องที่จั๋วซือหรานกับเจี่ยงเทียนซิงคุยกันก่อนหน้า ดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย “ธุรกิจถูกกฎหมายอะไรหรือ?”เจี่ยงเทียนซิงมองเขา “น่าจะเป็น...โรงเตี๊ยม?”......ส่วนอีกด้านหนึ่ง จั๋วซือหรานเข้าไปในห้องแล้วนางหิ้วกล่องข้าวเดินข้าไปข้างโต๊ะแปดเซียน นำกับข้าวในกล่องข้าวยกออกมาทีละอย่างพอกลอกตากลับไป ก็ยังเห็นผู้ชายคนนั้นยังคงยืนมองนาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 601

    จั๋วซือหรานฟังคำนี้ มองไปทางเขา “จริงหรือเปล่า?”“ก็ไม่มีอะไรไม่ได้เสียหน่อย” เฟิงเหยียนเหลือบมองนางผาดหนึ่ง “แต่รสชาติก็รับประกันไม่ได้นะ”จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง “ไม่เป็นไร ค่อยๆ พัฒนาไป” ข้าเชื่อว่าคนที่ยอดเยี่ยมอย่างท่านอ๋อง หากคิดจะทำอะไรต้องทำได้แน่เสียงลือเสียงเล่าอ้างภายนอก อันที่จริงก็ยังไม่สงบลงเลยใครก็คงคิดไม่ถึง ว่าในเสียงลือเสียงเล่าอ้างภายนอก สองคนที่อยู่ท่ามกลางเสียงข่าวลือนั้น ยังคงนั่งกินข้าวด้วยกันอย่างมีความสุขกินข้าวกับเฟิงเหยียนไปพอประมาณแล้ว จั๋วซือหรานจึงจับข้อมือของเขาขึ้นมาเฟิงเหยียนก้มลงมอง มุมปากก็อดเม้มสนิทขึ้นมาไม่ได้จั๋วซือหรานหลังจากจับชีพจรให้เขา คิ้วก็ขมวดเกิดอะไรขึ้น...นางเปลี่ยนไปจับชีพจรอีกข้างหของเฟิงเหยียน คิ้วที่ขมวดก็ไม่ได้ผ่อนคลายลงมาเลยจั๋วซือหรานไม่พูดอะไร แม้ว่านางจะไม่เห็นโรคภัยใดจากในชีพจรของเฟิงเหยียน แต่จากกลับสังเกตได้ว่าร่างกายของเขาอ่อนแอลงกว่าก่อนหน้านี้จากการจับชีพจรของเฟิงเหยียนแต่เนื่องจากสถานการณ์ไม่ได้รุนแรงนัก ดังนั้นจั๋วซือหรานถึงแม้จะรู้สึกแปลกหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้คิดจะตกใจเกินเหตุ คิดจะสังเกตไปอีกวันสองวันแล้วค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 602

    มองตาของนาง เอ่ยเสียงต่ำว่า “หลักการเพี้ยนๆ”แต่ว่าบางครั้ง ก็ต้องมีหลักการเพี้ยนๆ นี้ของนาง ถึงจะทำให้ไม่อึดอัดนักภายใต้สถานการร์ที่ศัตรูล้อมไว้รอบด้านเช่นนี้เฟิงเหยียนเอาเมล็ดพันธุ์ผลหมากรากไม้ผักสวนครัวต่างๆ ที่ให้ฉุนจวินไปเตรียมมาส่งให้กับนาง“ด้านในแบ่งประเภทเอาไว้เรียบร้อย ถ้าหากยังไม่พอ ก็ให้ฉุนจวินไปเตรียมอีกได้” เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานชั่งน้ำหนักดุในมือ “พอแล้วล่ะ”คืนนั้น จั๋วซือหรานก็กลับไปที่เรือนของตนเอง ท่านแม่กับน้องชายส่งออกจากเมืองหลวงไปแล้วนางตอนนี้ถือว่าไม่มีเหลือความกังวลใดอีก ดังนั้นนางจึงเดินกลับเรือนของตนเองอย่างไม่ต้องคิดอะไร ไม่มีท่าทีต้องระมัดระวังตัวอะไรอีกแล้วไม่ต้องกลัวว่าใครจะรู้บนหน้านางแทบจะเขียนเอาไว้ว่า...รีบมาหาเรื่องข้าได้แล้ว!เฉวียนคุนกังวลหน่อยๆ เดินวกไปวนมาตรงหน้าจั๋วซือหรานอย่างยังกังวล“คุณหนู ท่านคอยหลบคลื่นลมเหมือนก่อนหน้านี้ดีกว่าไหมน่ะ? แม้ข่าวลือร้ายๆ ของตระกูลเหยียนจะแก้ไขได้แล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังอยู่ท่ามกลางคลื่นลมนะ เรื่องในจวนท่านไม่ต้องกังวล ให้ข้าจัดการก็พอ”“คนของตระกูลจั๋ว มาเดินวนไปวนมาหน้าบ้านพวกเรา เด็กฉลาดนั่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 603

    จั๋วซือหรานแม้จะกลับมาที่เรือน แต่ก็เตรียมตัวไว้แล้วสำหรับคนที่จะมาหาเรื่องนางเรื่องที่ถูกคนมาหาเรื่องกลางดึกดื่นเช่นนี้ นางเองก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอมาก่อน ตอนนั้นจั๋วหรูซินกับท่านจั๋วลิ่ว ก็จ้างมือสังหารจากหอฟ้าดาวมาลอบสังหารนางดังนั้นก่อนนอนจั๋วซือหรานจึงเตรียมการไว้บางส่วนการเตรียมการง่ายๆ“ลูกแก้วมังกรทั้งเจ็ด” ของนาง...วางไว้ตัวหนึ่งบนร่างของชิ่งหมิงเพื่อรักษาอาการป่วยดังนั้นตอนนี้จึงเหลืออยู่หกตัวนางให้หกตัวนี้กางไหมกู่ไว้ในห้องนอน...ต่อให้ไม่ใช่ตาข่ายสวรรค์ อย่างน้อยก็เป็นตาข่ายระวังภัยให้ได้แม้จะไม่ต้องการให้ไหมกู่พวกนี้สร้างความเสียหายอะไร อย่างน้อยก้ญังสามารถคอยตรวจจับได้ตลอดเวลาว่ามีหรือไม่มีคนเพราะว่า จั๋วซือหรานต่อให้ปกติจะระแวดระวังมากอยู่แล้ว แต่ตอนที่อยู่ในมิติแหวนเสวียนเหยียน พอเทียบกับเวลาปกติ ระดับความเฉียบคมจะอ่อนแอลงพอประมาณแต่ว่าพอมีไหมกู่จากทั้งหกตัวนี้ ก็ไม่ต้องกังวลมากขนาดนั้นแล้วดังนั้นจั๋วซือหรานจึงทำงานในมิติอย่างวางใจ หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินเพียงแต่ที่ทำให้จั๋วซือหรานคิดไม่ถึงก็คือ ปฏิกิริยาตอนแรกสุด กลับไม่ใช่จากตาข่ายเตือนภัยไหมกู่ทั้งหกตั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 604

    เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า “คุณหนูเฟิงสือ เจ้าทำอะไรน่ะ?”จั๋วซือหรานพอเห็นก็จำได้แล้ว คนที่สู้พัวพันอยู่กับเฮยหลิง ก็คือคุณหนูสิบจากตระกูลเฟิง เฟิงหร่านพอคิดๆ แล้ว ก็น่าจะเป็นคนตระกูลเฟิงคนแรกที่ได้เจอ หลังจากที่จั๋วซือหรานข้ามายังโลกนี้จั๋วซือหรานไม่ใช่ไม่เคยคิด ว่าตระกูลเฟิงน่าจะเข้ามาหาเรื่องนาง แต่ที่คิดไม่ถึงคือคนที่เข้ามาหาเรื่องจะเป็นเฟิงหร่านเฉวียนคุนฟังคำนี้แล้วจึงมีปฏิกิริยาขึ้นมา ว่ากระบี่สั้นที่ไม่ชักออกจากฝักในมือของคนที่สู้กับเฮยหลิงอย่างเต็มที่นั่น คือกระบี่ตระกูลของคนในตระกูลเฟิง!ทั้งสองคนต่อสู้กันจนถึงจุดร้อนแรงสุดแล้วหมัดของเฮยหลิงซัดเข้ามาด้วยพลังที่กระชากภูเขาได้ ส่วนเฟิงหร่านก็สังเกตเห็นท่าทางหมัดนี้ของเฮยหลิง นางกัดฟันกรอด มือที่กุมกระบี่สั้นของตระกูลนั้น ในที่สุดก็ทนไม่ไหวแล้วพอเห็นว่ากำลังจะชักกระบี่ในตระกูลออกมาตอนนี้เอง ร่างของจั๋วซือหรานก็ไหววูบไปปรากฏตัวระหว่างคนทั้งสองผมสายดำสลวยของนางพัดเบาๆ ข้อมือขาวที่ดูแล้วเหมือนไร้ซึ่งพลังใดๆ เหมือนแค่บิดก็หักแล้วอย่างไรอย่างนั้นนางยกมือขาวขึ้นเบาๆ ซ้ายทีขวาทีนางกระทั่ง! ไม่ได้ใช้แขนทั้งหมดด้วย แต่ใช้เ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 605

    จั๋วซือหรานตอนที่ได้ยินนางบอกว่ามาแจ้งข่าวให้ทราบ ก็เลิกคิ้วขึ้นจากนั้นก็ได้ยินความโกรธที่ไม่มีปิดบังในน้ำเสียงของเฟิงหร่าน หญิงสาวคนนี้โมโหได้ค่อนข้างตรงไปตรงมา และไม่มีการเหน็บแนมอะไรทั้งนั้น แต่หน้าก็แดงก่ำไปหมดเสียงแกร๊กดังขึ้น จัดการคาดเข็มขัดกระบี่ตระกูลของตนเองจนเรียบร้อย จากนั้นก็หมุนตัวกระฟัดกระเฟียดเดินออกไปจั๋วซือหรานคิดๆ ยื่นมือไปจับแขนของนางไว้ ไม่ให้นางออกไปเฟิงหร่านชะงักไป น่าจะเพราะถูกทำให้โกรธ แล้วยังถูกการกระทำนี้ของจั๋วซือหรานรั้งไว้อีก อาการโกรธแต่เดิม เวลานี้จึงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจ มุมปากนางเบ้ออกเล็กน้อย หันไปมองจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นอย่างน้อยใจ “ข้าปิดบังที่บ้านแล้วแอบออกมา ยังต้องมาสู้กับเจ้าคนประหลาดนี่ แล้วเจ้ายังมาสงสัยขี้อีก แล้วยังมาดูถูกข้า...”จั๋วซือหรานรู้สึกว่า ถ้าแม่นางคนนี้ยังพูดต่อ น่าจะร้องไห้ออกมาแน่ๆจั๋วซือหรานจนใจ ถอนหายใจออกมาเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า “เป็นข้าที่เข้าใจผิดเอง มืดค่ำขนาดนี้แล้ว เจ้าหิวไหม? ข้ามีของกินบางส่วนเอามากินเป็นมื้อค่ำได้ เจ้ากินไปด้วยแล้วค่อยๆ เล่าออกมาดีไหม?”เฟิงหร่านหลังจากได้ยินคำพูดนี้ก็เริ่มลังเล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 606

    “ขอรับ” เฉวียนคุนรับคำ มองไปทางเฮยหลิง เอ่ยขึ้นว่า “เชิญตามข้ามา”หลังจากเฉวียนคุนนำทางเฮยหลิงออกไปจั๋วซือหรานจึงหันกลับมาบอกเฟิงหร่าน “เข้าไปกับข้าเถอะ”เฟิงหร่านมองเฮยหลิงที่ตามเฉวียนคุนออกไป จากนั้นจึงเดินตามจั๋วซือหรานเข้าไปในห้องเฟิงหร่านยู่ปาก ไม่เบิกบานเท่าไรนัก เอ่ยขึ้นเสียงเล็กว่า “ในจวนเจ้ามีผู้ชายตั้งเยอะ...ไม่ค่อยเหมาะไหม? เจ้าไม่กลัวพี่ชายรู้แล้วจะหึงหวงหรือ?”“เขาน่ะนะ?” จั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ ไม่ได้โกรธซ้ำยังหัวเราะถามกลับมาเสียด้วยเฟิงหร่านร้องเสียงหลงออกมา “ไม่มีทางหรอก! จะมีใครคนไหนที่ดีกว่าพี่ชายข้าบ้าง? นอกจากเจ้าจะเป็นคนโง่เท่านั้นถึงจะไม่เอาพี่ชายข้า”จั๋วซือหรานพอได้ยินก็ไม่พูดอะไร แค่ยกมุมปากขึ้นยิ้มๆ หยิบกับข้าวที่เหลือจากการเข้าครัววันนี้ออกมา เดิมทีคิดจะเหลือไว้เป็นมื้อดึกของตนเองเฟิงหร่านอันที่จริงยังอยากจะพูดอะไรอยู่ แต่ก็เหมือนตอบสนองไม่ทัน จ้องมองกับข้าวบนโต๊ะอย่างงงงัน ไม่ค่อยแน่ใจหน่อยๆ ในสายตาก็ถามขึ้นอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “เมื่อครู่บนโต๊ะมีกับข้าวพวกนี้อยู่แล้วหรือ?”แม้ว่าตอนที่เข้ามา ความสนใจของนางก็ยังอยู่บนตัวจั๋วซือหรานแ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 607

    พอได้ยินเฟิงหรานพูด ในใจจั๋วซือหรานก็เต้นตึกตักคิ้วของนางขมวดขึ้นมา ประสานตากับเฟิงหร่าน ในน้ำเสียงที่นิ่งเฉยมาแต่ไหนแต่ไร เปลี่ยนเป็นตั้งใจขึ้นมา“คำพูดนี้ของเจ้า หมายถึงอะไร” จั๋วซือหรานถามขึ้นเฟิงหร่านเม้มปาก เหมือนกำลังเรียบเรียงคำพูดพอนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง จึงเอ่ยขึ้นมาว่า “สิ่งเหล่านี้ที่ข้าบอกกับเจ้า เป็นความลับสุดยอดของตระกูลเรา คนมากมายกระทั่งไม่เคยล่วงรู้ สาเหตุที่ข้ารู้ เพราะตำแหน่งพ่อของข้าไม่ได้ต่ำมากนักในตระกูล...”น่าจะเพราะกำลังจะพูดความลับของตระกูล สิ่งนี้สำหรับเฟิงหรานแล้วเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก ดังนั้นตอนที่นางพูดถึงจุดนี้จึงหยุดลงมาสูดลมลึกไปทีหนึ่ง หลังจากพ่นออกมายาวๆ จึงเอ่ยต่อว่า “แต่ถ้าจะพูดถึงตำแหน่งฐานะสูงแค่ไหน มันก็ไม่มีหรอก แค่พ่อของข้ามีหน้าที่ภาระที่พิเศษอย่างหนึ่ง”จั๋วซือหรานเห็นเฟิงหร่านขณะที่พูดสิ่งเหล่านี้ด้วยดวงตาหรุบต่ำ เวลานี้กลับเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองนางเฟิงหร่านเอ่ยต่อว่า “พ่อของข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกที่รับผิดชอบดูแลห้องโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษ”“...” จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้สึกขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ ว่าห้องโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษน

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 946

    และตอนที่ฮั่วจือโจวกำลังหารือเรื่องเปิดโรงเตี๊ยมอยู่กับเจี่ยงเทียนซิงและอินเจ๋ออัน ก็ได้รู้ข่าวการพระราชทานรางวัลนี้พวกเขาสามคนสบตากัน"จักรพรรดิเฒ่านี่ร้ายจริงๆ"จั๋วซือหรานไม่ได้ส่งเสียง หลังจากได้ยินคนวังประกาศราชโองการจบ นางก็ยืนนิ่งไม่ขยับคนวังเองก็ดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เรียกนางขึ้นคำหนึ่ง "แม่นางจิ่ว ขานรับราชโองการสิ"จั๋วซือหรานไม่ขยับ นางมองราชโองการฉบับนั้น อันที่จริงในใจกำลังพิจารณาจะรับดีไหมองค์จักรพรรดิเฒ่าดีดลูกคิดรอบนี้ ลูกคิดแทบจะกระเด็นมาโดนหน้านางอยู่แล้วพระราชทานเงิน พระราชทานจวน พระราชทานวังสวน สิทธิ์อำนาจพ่อค้าหลวง พวกนี้ไม่มีปัญหาอะไร ใกล้เคียงกับที่นางขอองค์จักรพรรดิเฒ่าไว้แต่การอวยยศ...แต่งตั้งขุนนางกับพื้นที่ศักดินา แบบนี้มันเกินไปจริงๆในสายตาคนนอก นางเป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง ได้รับยศมา เรียกได้ว่าจะกลายเป็นโหวหญิงชั้นสูงเพียงคนเดียวของเมืองหลวงไปเลยยิ่งไปกว่านั้นยังมีพื้นที่ศักดินาให้ เรื่องดีจะตายนี่?แต่การแต่งตั้งเป็นหัวหน้าแพทย์หลวง แม้จะชั่วคราว แต่ใครจะรุ้ว่าต้องนานแค่ไหน?ต้องไปเข้ากะอะไรแบบนั้น น่ารำคาญจะตายยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งข้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 945

    จั๋วซือหรานพอได้ยินเสียงนี้ ก็ไม่เร่งไม่ร้อน ชนแก้วกับจั๋วอวิ๋นฉีก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ดื่มสุราในแก้วลงไปจนหมดตอนนี้ นางกับจั๋วอวิ๋นฉีก็กลายเป็นผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสห้าของตระกูลจั๋วแล้วพอวางแก้วลง จั๋วอวิ๋นฉีก็หน้าเย็นชาลงมา เขาหน้าตาหล่อเหล่า แต่ตอนที่สีหน้าเย็นชา ก็ให้ความรู้สึกบีบคั้นที่เย็นเยียบมากเขามองไปทางผู้อาวุโสที่พูดเมื่อครู่นี้คนคนนั้นหดคอลง ไม่กล้าส่งเสียงอีกจั๋วซือหรานไม่ได้ใส่ใจ งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้วตอนที่อาหารกลางวันดำเนินไปครึ่งหนึ่ง ด้านนอกประตูจู่ๆ ก็มีรายงาน ว่าคนในวังมาแล้ว"คนในวัง?" ยังมีคนไม่เข้าใจ คนในวังมาบ้านตระกูลจั๋วทำไมเพียงไม่นานก็เห็นคนวังประกาศราชโองการในชุดเรียบร้อยเดินเข้ามา เพียงแต่ว่า ดูแล้วหายใจหอบอยู่ น่าจะรีบเข้ามาพอควรคนวังประกาศราชโองการพอเห็นจั๋วซือหราน ก็เผยรอยยิ้มออกมา "แม่นางจิ่วที่แท้ก็อยู่ที่นี่นี่เอง ข้าน้อยหาตัวมาพักหนึ่งแล้ว เกรงว่าจะพลาดฤกษ์ประกาศราชโองการ"สายตาของคนตระกูลจั๋ว ทยอยกันมองจั๋วซือหรานตอนนี้ คนวังประกาศราชโองการจึงลากเสียงขึ้นดังลั่น "จั๋วซือหราน...รับราชโองการ...!"จั๋วซือหรานลุกขึ้น เตรียมจะทำท่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 944

    ผู้อาวุโสสาม!?ครั้งที่แล้วที่นางกลับไปตระกูลจั๋ว คือเชิญนางไปเป็นผู้อาวุโสหรือ?!อย่าว่าแต่พวกที่มาดูมหรสพเลย กระทั่งเฉวียนคุนพอได้ยินคำเรียกนี้ก็ยังตะลึงไปและเพราะอารมณ์ในใจเขาตื่นเต้นเกินไป จึงสั่นไปทั้งตัว!เรียก เรียกว่าอะไรนะ?!นี่เรียกว่า! สะใจสินะ! เขาตอนนั้นยังจำได้ว่า คุณหนูจิ่วออกจากตระกูล ตอนนั้นคนมากมายล้วนรอดูนางเป็นตัวตลก หรือรู้สึกว่านางนี่ล่ะที่เป็นตัวตลกตอนนั้นส่งคนใช้มามากมายมาที่เรือนของนาง แต่ละคนล้วนรู้สึกเหมือนถูกเนรเทศอย่างไรอย่างนั้น รู้สึกว่าจะไม่มีวันได้กลับไปเชิดหน้าชูตาอีกแล้วมีแค่เขาที่อยู่รอด! นับจากตอนนั้นเขาก็เริ่มเชื่อมั่นว่านายท่านจะต้องก้าวหน้าแน่!จั๋วซือหรานได้ยินคำเรียกนี้ สีหน้าก็ดูสงบนิ่งมากทุกคนเห็นสีหน้านางก็รู้แล้ว นางคงรู้เรื่องนี้มานานแล้วพอคนใช้รายงานเสร็จ ก็มองจั๋วซือหรานอย่างตึงเครียดขึ้นมาราวกับ...กลัวว่านางจะปฏิเสธพวกเขาถูกส่งมาเชิญนาง ถ้าหากเชิญไม่ได้ กลับไปอาจจะถูกลงโทษก็ไม่แน่ดังนั้นพวกเขาจึงมองดูการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของจั๋วซือหราน เตรียมว่าถ้าหากเห็นเค้าลางการปฏิเสธในสีหน้า พวกเขาก็จะอ้อนวอนนางทันทีแต่จั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 943

    ตอนที่เฉวียนคุณเคาะประตูจั๋วซือหรนา นางเพิ่งจะวุ่นกับการหลอมยา...งานช่วงเช้าเสร็จเฉวียนคุนรีบเข้ามารินชาให้นางจั๋วซือหรานรับไปดื่มสองอึก "ทำไมหรือ?"เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นว่า "นายท่าน นี่มันเรื่องอะไรกัน"สีหน้าของเฉวียนคุณปั้นยาก "เดิมทีเรือนของพวกเราก็ไม่ได้เล็กอะไร ตามหลักการแล้วก็พออาศัยอยู่"เดิมทีก็มีแค่นายท่าน ข้า เด็กฉลาด เฮยหลิง นี่ก็ไม่ใช่ว่าพออยู่เหลือเฟือหรือ"แต่ก่อนหน้านั้นก็เพิ่งจะมีใต้เท้าพวกนั้นที่ท่านช่วยกลับมาจากตระกูลเฟิง" เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นหมายถึงพวกเหล่าองครักษ์เงาของเฟิงเหยียนที่นางช่วยกลับมา"ตอนนี้ยังมีพ่อลูกสกุลเหยียนอีก" เฉวียนคุนเอ่ยต่อ "ดังนั้นห้องข้างจึงไม่ค่อยพอแล้วนะ"ห้องพักคนใช้นอกเรือนยังว่างอยู่ ปัญหาคือ เฉวียนคุนมองว่าคนเหล่านี้ นายท่านก็ไม่ได้มองพวกเขาเหมือนคนรับใช้ ดูคล้ายจะเป็นแขกมากกว่าจะให้แขกไปอยู่ในห้องพักคนใช้ก็ไม่ได้..."อา..." จั๋วซือหรานฟังถึงจุดนี้ ก็เข้าใจความหมายของเฉวียนคุนแล้ว "อย่างนี้นี่เอง รู้แล้ว"เฉวียนคุนพยักหน้า "นายท่านเข้าใจบ้างก็ดีแล้ว ตอนนี้ยังพอจัดให้ได้ถูไถ แต่หลังจากนี้ถ้าฮูหยินกับนายท่านกลับมา ก็น่าจะจัดไม่ลง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 942

    แต่หลังจากที่พวกเขาออกไป จั๋วซือหรานกลับไม่ได้ลงมาจากบนกำแพงล้อมแต่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นว่า "พวกเจ้ายังมีเรื่องอะไรอีก"นางปวดหัว เรื่องนึงสงบลงอีกเรื่องก็ผุดขึ้นมา นางสัมผัสได้นานแล้ว ต่อให้จะเป็นตอนที่คุมเชิงกับคนตระกูลเฟิงที่ไล่ตามเฟิงหร่านมา นางก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จับจ้องแอบมองอยู่จากมุมหนึ่งมาโดยตลอดแล้วพอคนจากไป นางก็รออยู่อีกพักหนึ่ง สายตาที่แอบมองอยู่นั่นก็ยังอยู่นางเองก็ขี้เกียจมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้แล้ว จึงส่งเสียงขึ้นมาตรงๆตอนนี้เอง ในมุมลับตา ก็มีเงาสองร่างเดินออกมาจั๋วซือหรานรู้จักหนึ่งในนี้ นางเลิกคิ้ว "วันนี้คึกคักเสียจริง"พอได้ยินคำนี้ เหยียนฉีก็รู้สึกเขินหน่อยๆ เขาประสานมือให้ "แม่นางจิ่ว ไม่เจอกันเสียนาน"จั๋วซือหรานพยักหน้า มองไปยังคนข้างๆ ผาดหนึ่งเหยียนฉีเอ่ยแนะนำว่า "นี่ นี่คือพ่อของข้าเหยียนเจิน"จั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง "เข้ามาสิ"นางไม่ได้กระโจนกลับจากกำแพงล้อมหรือกระโจนออกไป แต่ยืนขึ้นย้ำไปตามสันกำแพง เดินตรงไปยังประตูหน้าพร้อมพวกเขาตอนที่พวกเขาเดินมาถึงประตูเรือนหลัก จึงมีเงาแดงร่างหนึ่งร่อนลงมาตรงหน้าพวกเขา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 941

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน หานกวงก็พยักหน้า "ใช่แล้ว"จั๋วซือหรานมุมปากกระตุก "ไม่จบไม่สิ้นเสียที"หานกวงฟังออก ถึงความเย็นชาและขุ่นเคืองในน้ำเสียงของแม่นางจิ่วจั๋วซือหรานผลักประตูออก เดินไปที่ห้องตะวันออกเฟิงหร่านพยุงร่างขึ้นมานั่งบนเตียง นางอยู่ในชุดดำ มีบาดแผลอยู่ไม่น้อย มีเลือดซึมออกมาข้างนอกด้วยจั๋วซือหรานแค่เหลือบมอง ก็รู้ว่าปัญหาไม่ใหญ่นักนางเดินเข้าไป ใช้มือหนึ่งจับชีพจรของเฟิงหร่าน อีกมือหนึ่งโยนขวดใบหนึ่งให้นางเฟิงหร่านก็รับไปแบบมือไม้พัลวัน "พี่จั๋ว นี่คือ...""เจ็บไม่หนักมาก กินยาเอาเองเลย" จั๋วซือหรานตอบมาเฟิงหร่านเดาว่าด้านในน่าจะเป็ยารักษาอะไรบางอย่าง นางพยักหน้า "ได้เลย ขอบคุณพี่จั๋วมาก"นางเดิมทียังคิดจะเอ่ยปาก บอกเรื่องในตระกูลเฟิงกับจั๋วซือหรานแต่ก็เห็นว่าว่าหลังที่จั๋วซือหรานส่งยาให้นางแล้ว ก็หมุนตัวเดินไปนอกประตูทันทีเฟิงหร่านรีบถามขึ้น "พี่จั๋ว ท่านจะไปไหน?"จั๋วซือหรานมุถมปากกระตุก "คนตระกูลเฟิงที่ไล่สังหารเจ้ามาพวกนั้น มาล้อมอยู่นอกบ้านข้าแล้ว พอดีเลย คืนนี้ข้าจะได้ไม่ต้องไปหาพวกเขา"พูดจบ นางก็เดินออกจาห้องไปเฟิงหร่านนั่งลงบนเตียงงงๆ แล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 940

    แพงไม่ว่า แต่บางทีมีเงินก็หาซื้อไม่ได้พวกเขาตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกขึ้นได้ว่าตัวตนนักกลั่นยาของจั๋วซือหรานนั้นมีประโยชน์มากจริงๆถ้าหากเดิมทียังรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง ตอนนี้ก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้วสายตาของพวกเขาเปล่งประกายจับจ้องจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยิ้มๆ นางมองสายตาเปล่งประกายรอบๆ จากนั้นจึงมองไปทางผู้อาวุโสใหญ่"ถ้าหากให้ข้าตัดสินใจได้ล่ะก็ เงื่อนไขนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน"เสียงของจั๋วซือหรานสงบนิ่งมาก "จะทำเช่นที่มอบให้กับตระกูลฮั่ว มอบยาลูกกลอนให้ตระกูลจั๋ว กระทั่งถ้าอารมณ์ดี จะมอบที่ขั้นสูงกว่าให้ด้วย แต่เงื่อนไขก็คือ ตระกูลจั๋วข้าต้องมีอำนาจตัดสินใจ แล้วก็ไม่ใช่ว่ามีพวกกลุ่มที่กระโจนตัวลากใบหน้าแก่ๆ ออกมาสั่งโน่นสั่งนี่กับข้า"จั๋วหลานฟังถึงคำนี้ ในใจก็อดสั่นกึกขึ้นไม่ได้เขาฟังออกถึงความหมายเชิงลึกในคำพูดนาง...ถ้าหากวันไหนที่นางไม่มีอำนาจตัดสินใจในตระกูลจั๋ว นางก็จะตัดการส่งมอบให้ได้ตลอดเวลา พวกเขาไม่มีทางเลือกเลยแม้แต่น้อยดังนั้น ไม่ว่าในใจเหล่าผู้อาวุโสที่นี่จะมีความคิด 'ฟังนางไปก่อนชั่วคราว หลังจากนี้ค่อยว่ากัน' แค่ไหน ตอนนี้ก็ต้องดับมอดลงไปทันทีจั๋วซือหรานพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 939

    ทุกคนเห็นว่าบนหน้าจั๋วซือหรานมีรอยยิ้มจางๆ อยู่ตลอดแม้จะไม่มีความหมายอะไร ลอยอยู่ผิวเผิน แต่ก็มีอยู่มาตลอดจนตอนที่คำพูดนี้ออกมา รอยยิ้มผิวเผินบนหน้านางเหล่านั้นก็หายวับไปทันทีเหลือเพียงความเย็นชาไร้ความรู้สึกนางบอกกับคนวังจดบันทึกที่อยู่ข้างๆ "รบกวนเจ้าด้วย"คนวังจดบันทึกรู้ว่าคนผู้นี้เป็นตัวตนที่สำคัญแค่ไหนสำหรับฝ่าบาทดังนั้นท่าทีจึงนอบน้อมมาก หยิบม้วนผ้าไหมเลืองทองออกมาคลี่ออกใครก็เห็นลายมังกรที่อยู่บนนั้น...นี่มันคือราชโองการ!คนวังจดบันทึกหยิบพู่กันออกมา เริ่มตวัดเขียนขึ้นบัญชาสวรรค์ จักรพรรดิรับสั่ง ตระกูลจั๋วมีบุตรสาว ชื่อนามหรูซิน จึงขอพระราชทานงานอภิเษกให้กับฉินตวนหยางปราชญ์แห่งกรมดาราศาสตร์...หลังจากได้ยินคนวังจดบันทึกอ่านประกาศร่างราชโองการจั๋วหรูซินยังคงเป็นลมไม่ได้ เพราะยาเม็ดนั้นที่จั๋วซือหรานให้มาอหังการเหลือเกิน บอกว่าจะทำให้นางสติตื่นตัว ก็ทำให้ตื่นตัวได้จริงๆดังนั้นนางจึงโกรธแค้นจนเกินทน กระอักเลือดสดออกมาจั๋วซือหรานลุกขึ้นยืน ในดวงตาไม่มีคนผู้นี้อยู่อีก ราวกับว่า ล้างแค้นสิ่งที่ควรทำเรียบร้อยคนอย่างจั๋วหรูซิน ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในสายตานางอี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 938

    ถังหยวนมองสภาพจั๋วหรูซินตอนนี้ เขาอดมีสายตาสับสนขึ้นมาไม่ได้ตรงหน้าเขามีภาพตอนที่จั๋วซือหรานถูกลงโทษแวบผ่านขึ้นมา กระดูกสันหลังที่ไม่ยอมคดงอนั่นเก้าแส้ฟาดลงไป หน้าขาวซีด เหมือนจะร่วงพับสิ้นสติ สภาพซมซานน่าเวทนาแต่ในสีหน้าท่าทาง ไม่มีท่าทีเจ็บปวดร้องไห้ชักกระตุกให้เห็นกระทั่งว่า ถังหยวนเกิดความรู้สึกลวงขึ้นมา ว่ามันควรจะเป็นเช่นนี้หรือเปล่า?แต่ตอนนี้พอเห็นท่าทางของจั๋วหรูซิน จึงมีปฏิกิริยาเข้าใจขึ้นทันที จั๋วหรูซินแบบนี้ต่างหากที่เป็นสภาพปกติแต่แบบจั๋วซือหรานนั่น เป็นตัวตนที่แตกต่างจากคนอื่นจั๋วหลานมองจั๋วซือหราน "เสียวจิ่ว พอสบายใจขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานเดินขึ้นไปทีละก้าวทุกคนล้วนคิดว่า หญิงสาวคนนี้ยังไม่สะใจพอ ต้องเข้าไปมองความเจ็บปวดทรมานของจั๋วหรูซินใกล้ๆ จึงจะพอใจจั๋วอวิ๋นชินอดทนอยู่ข้างๆ แม้เขาจะไม่พอใจน้องสาวคนนี้นัก แต่ถึงอย่างไรก็เป็นน้องสาวจะอย่างไรก็ยังมีความรู้สึกทนไม่ไหวอยู่ เขาเตรียมจะยัดยาลูกกลอนให้กับจั๋วหรูซินแล้วแต่ตอนนี้พอเห็นจั๋วซือหรานเดินขึ้นมา แม้เขาจะหยุดเท้าลง แต่ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจั๋วอวิ๋นชินเอ่ยขึ้นเสียงขรึม "จั๋วซือหราน หรูชินได้ร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status