Share

บทที่ 564

Author: หูเทียนเสี่ยว
เหยียนหยี่หลิงทนไม่ไหวแล้ว เพราะเรื่องวันนี้ เดิมทีเป็นความคิดของนาง เดิมทีคิดว่าเป็นแผนการที่ชนะแน่นอน ตอนนี้เละเทะเป็นแบบนี้ไปแล้ว...

ในตระกูลต้องลงดาบกับนางแน่ ไม่แน่ นางอาจจะเป็นเหมือนจั๋วจิ่ว ถูกขับไล่ออกจากตระกูล ถ้าอย่างนั้นนางก็จบเห่น่ะสิ!

ดังนั้น เหยียนหยี่หลิงจึงทนไม่ไหว เอ่ยขึ้นมาว่า “ท่านแม่ทัพพูดออกมาเบาบางเหลือเกิน จั๋วจิ่วยังหาเงินจากค่ายทหารของพวกท่านได้เลย แต่พวกเรากลับไม่ได้ประโยชน์แม้แต่น้อย ถือดีอย่างไรกัน?”

สีหน้าที่อบอุ่นทรงภูมิมาแต่ไหนแต่ไรของอิงเซ่า เวลานี้ก็เย็นชาลงมาแล้ว สายตาที่ไม่เหลือความอบอุ่นอยู่อีกจดจ้องที่เหยียนหยี่หลิง

“แม่นางจั๋วจิ่วเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้ ดังนั้นคุณหนู ตอนที่ท่านพูดถึงแม่นางจั๋วจิ่วโปรดเกรงใจด้วย” อิงเซ่าสายตาเย็นวาบ

“ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่ว่านางอยากจะได้เงินจากค่ายทหารเสียที่ไหน แต่พวกเรากลัวว่านางจะขาดทุนจึงคิดจะมอบให้เท่านั้น”

เหยียนหยี่หลิงโดนคำนี้ไปจนพูดไม่ออก หน้าซีดเผือด พูดอะไรไม่ได้เลย

อิงเซ่าพอพูดคำนี้ อารมณ์ของเหล่าประชาชนก็ยิ่งเดือดดาลขึ้นมา

เหยียนหยี่หลิงเองก็คิดไม่ถึงว่าจะพลิกมาเป็นแบบนี้ ถ้าหากนางคิดถึ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 565

    ตระกูลเหยียนไม่ใช่แค่ถอนตำรับยาที่แพงลิบลิ่วก่อนหน้านั้นออกไป แต่ยังเปลี่ยนมาเป็นตำรับยาของจั๋วซือหรานที่ราคาปกติแล้วทิศทางรวบรวมวัตถุดิบในตอนแรกของพวกเขานั้นผิด เช่นนั้นวัตถุดิบยาจะต้องไม่เพียงพอแน่นอนและขอแค่วัตถุดิบยาไม่พอ เพื่อรับประกันหน้าตา เพื่อหม่ให้ตกเป็นเป้าของสังคม ต้องคิดหาวิธีซื้อวัตถุดิบยาแน่นอน!เพราะตระกูลเหยียนของพวกเขาเป็นตระกูลใหญ่ แตกต่างกับแม่นางจั๋วจิ่วที่หัวเดียวกระเทียมลีบ ตระกูลใหญ่ยอมรับเรื่องที่ตนเองตกเป็นเป้าสังคมไม่ได้ เพราะหน้าตาของตระกูลสำคัญยิ่งกว่าชีวิต!แต่วัตถุดิบตำรับยาของแม่นางจั๋วจิ่วเหล่านี้ ส่วนใหญ่ถูกเจ้าสำนักกว้านซื้อผูกขาดไปแล้วก่อนหน้า!ถ้าหากตระกูลเหยียนตอนนี้คิดหาวิธีจะซื้อวัตถุดิบยา ก็จะต้องไปซื้อจากเจ้าสำนักแน่นอน! และราคานั้นก็เกรงว่าจะไม่ใช่ราคาทั่วไปด้วยหัวใจอิ๋นไห่เต้นผางอย่างตื่นเต้น แม่นางจั๋วจิ่วคำนวนเรื่องเหล่านี้เอาไว้แล้ว! ให้ตายเถอะ นางคำนวณไปถึงขั้นไหนกันแน่เนี่ย!อิ๋นไห่อารมณ์ตื่นเต้น ฝีเท้าก็เร่งกลับไปช่วยที่ตลาดมืดส่วนจั๋วซือหรานกลับรักษาประชาชนต่อไปอิงเซ่าอยู่ข้างๆ มองใบหน้างามด้านข้างที่ทั้งสวยงามทั้งเย็นชา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 566

    จั๋วซือหรานเขียนตำรับยาเสร็จ วางพู่กันลง หยิบตำรับยามาเป่าหมึก ยื่นส่งให้พนักงานข้างๆจากนั้นก็ถูๆ มือ “ไม่เป็นไร ข้ารักษาให้เจ้าเลยก็พอ แค่จะเจ็บนิดๆ เจ้าทนเอาหน่อย”หญิงสาวพอได้ยินคำพูดนี้ ก็พยักหน้าอย่างงงงัน จากนั้นจึงมองหญิงสาวงดงามตรงหน้าที่ทำให้คนต้องมองซ้ำหลายต่อหลายครั้งจนคล้ายกับดูหมิ่นนางคนนี้ดวงตางามสุกใสราวกับจะล่มเมืองคู่นั้น จ้องนางไม่กระพริบมองจนหญิงสาวตึงเครียดขึ้นหน่อยๆ นางพยักหน้า “ข้า...ข้าจะอดทน คุณหนูจิ่วโปรดวางใจ”จั๋วซือหรานเอ่ยเสียงต่ำ “เป็นแม่คนนั้นคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลย ลำบากหน่อยนะ”พูดจบ นางก็เริ่มพลังวิญญาณของการแพทย์สายวิเศษเข้ารักษาหญิงตั้งครรภ์คนนี้ความเจ็บปวดที่นำมานั้นจิตนาการได้แทบจะในพริบตานั้น หญิงตั้งครรภ์คนนี้ก็กรีดร้องขึ้นอิงเซ่าที่อยู่ข้างๆ ก็ฟังจนขมวดคิ้ว เขาเองก็เคยเจอความลำบาก ยิ่งไปกว่านั้นเพราะบนตัวเขาคือนางพญากู่ ว่าตามหลักการจึงเจ็บปวดกว่ากู่ธรรมดาอยู่มากแต่เขารู้สึกว่าตนเองถึงอย่างไรก็เป็นชายชาตรี แต่นี่คือหญิงสาวที่ในท้องตั้งครรภ์อยู่...จะต้องเจ็บปวดมากแน่ๆอันที่จริงเดิมทียังมีคนไม่น้อยที่แอบคิด ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 567

    อิงเซ๋าไม่เข้าในว่าออกจากเมืองแล้วค่อยเปลี่ยนหมายถึงอะไรจนกระทั่งควบม้าออกจากเมืองไปพร้อมกับจั๋วซือหรานค่ายลาดตระเวนอยู่เมืองชั้นนอก แต่ก็ไม่ได้อยู่นอกเมือง ส่วนค่ายป้องกันกลับอยู่นอกเมืองหลวง ตอนนี้พวกเขากำลังตรงไปยังค่ายป้องกัน เพราะสถานการณ์ค่ายป้องกันของฉีฮ่าวทางนั้นหนักหนากว่าทางค่ายลาดตระเวนส่วนค่ายลาดตระเวน เพราะอิงเซ่ากับต่งคังตอนนั้นมีปฏิกิริยารวดเร็ว เตรียมพร้อมปิดกั้นได้ทันท่วงที ดังนั้นสถานการณ์จึงไม่ได้หนักหนานักอิงเซ่าจึงตรงไปยังค่ายป้องกันพร้อมกับจั๋วซือหรานออกจากเมืองไม่นานนัก อิงเซ๋าก็มองเห็นว่าจั๋วซือหรานค่อยควบม้าช้าลง“คุณหนูจิ่ว?” อิงเซ่ายังไม่ค่อยเข้าใจแล้วจึงเห็นจั๋วซือหราน เม้มปากเป่าสัญญาณออกมาเสียงหนึ่งเสียงของสัญญาณก็ราวกับมีพลังทะลุทะลวงอย่างชัดเจน สามารถดังลอดไปได้ไกลแสนไกลอิงเซ่าตอนแรกยังไม่เข้าใจจั๋วซือหราน แต่เขาก็ค่อยๆ ตอบสนองขึ้นอย่างรวดเร็วคุณหนูจิ่วกำลัง...อัญเชิญการควบคุมสัตว์หรือ!ตอนที่อิงเซ่ารู้ถึงจุดนี้ ในสายตาก็มีอารมณ์ตกตะลึงแผ่ซ่านออกมาและเพียงไม่นาน การคาดเดาของเขาก็ได้รับการพิสูจน์จากจุดที่ห่างไกลทิศใดทิศหนึ่ง จู่ๆ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 568

    จากนั้นเขาก็นำสิ่งของที่เหมือนทรงกระบอกนั้น ส่งให้กับชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ อีกคนรับไป เอียงตาถามขึ้นว่า “เป็นอย่างไร?”“ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่านางมีแค่วิชายุทธ์ วิชาแพทย์ หลอมยากับวิชากู่ แต่ไม่เคยพูดเลยว่านางกระทั่งควบคุมสัตว์ก็ยังทำได้ด้วย” คนผู้นี้เอ่ยขึ้นเสียงต่ำชายหนุ่มที่ข้างเขา กลางหน้าผากมีตราประทับจันทราอยู่เจ้าสำนักหอจันทร์เงิน อินเจ๋ออันนั่นเองอินเจ๋ออันถามขึ้นเสียงเรียบ “ดังนั้น?”“ดังนั้น?” ชายหนุ่มข้างกายอินเจ๋ออันถึงแม้จะปิดบังใบหน้าครึ่งล่างไว้ แต่ก็มองออกได้ไม่ยาก จมูกที่โด่งเป็นสัน คิ้วตาโครงหน้าคม และสีฟ้าอ่อนๆ ที่เหมือนลอดออกมาจากในดวงตานี่เป็นดวงตาที่ศิษย์แห่งห้าตระกูลซางของเมืองหลวงเท่านั้นถึงจะมีและเช่นเดียวกับตระกูลเหยียนที่ถนัดวิชาแพทย์ ตระกูลเฟิงถนัดการรบ ตระกูลฮั่วถนัดข่าวกรอกง ตระกูลจั๋วถนัดการค้าตระกูลซางเองก็มีด้านที่ตนเองแข็งแกร่งที่สุด นั่นก็คือ...การควบคุมสัตว์“ถ้าเป็นคนอื่น ข้ายังสามารถไม่สนใจได้ ควบคุมสัตว์หรือ? ถ้าอย่างนั้นข้าก็อยากจะเจอนางหน่อยแล้ว” ในดวงตาสีน้ำเงินของชายหนุ่ม มีความสนใจอย่างเปี่ยมล้น“ได้ยินว่านางปลุกพลังวิญญาณตระกู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 569

    ถ้าหากคนที่นำหน้าตอนนี้คืออิงเซ่า บางทีอาจจะคิดได้ลึกซึ้งและกว้างไกลกว่านี้แต่บังเอิญคนที่อยู่ตรงหน้านี้คือฉีฮ่าวฉีฮ่าวไม่ละเอียดรอบคอบเหมือนอิงเซ่า เขาเป็นคนนิสัยตรงไปตรงมา ใช้ชีวิตแบบมีบุญคุณต้องทดแทนมาโดยตลอดพอได้ยินคำพูดนี้ของจั๋วซือหราน ฉีฮ่าวก็พยักหน้าหนักๆ “คุณหนูจิ่ววางใจเถอะ! ฉีฮ่าวคนนี้จะยืนอยู่ข้างกายคุณหนูเอง!”จั๋วซือหราพอได้ยินคำนี้ ก็หรุบตาต่ำลงยิ้มๆ “คำพูดของท่านแม่ทัน ไม่กลัวว่าจั๋วจิ่วคนนี้จะทำให้ท่านแม่ทัพต้องไปทำเรื่องเลวๆ อย่างนั้นหรือ?”จั๋วซือหรานพูดพลาง เงยตามองไปยังชายร่างสูงใหญ่ตรงหน้าคนนี้ “ถึงอย่างไรชื่อเสียงของจั๋วจิ่วในเมืองหลวงก็ย่ำแย่อยู่นา”แม่ทัพฉีฮ่าวหลังจากได้ยินคำพูดนี้ของนาง บนหน้าก็เผยรอยยิ้มจริงใจออกมา น้ำเสียงเองฟังแล้วเด็ดขาด ไม่มีลังเลแม้แต่น้อย“ไม่กลัว” ฉีฮ่าวตอบ “ข้าเชื่อสิ่งที่ตนเองเห็นเท่านั้น ข้าเห็นว่าแม่นางจิ๋วเป็นคนดี เช่นนั้นคนอื่นจะพูดอะไรก็ไม่มีผลทั้งนั้น”“ยิ่งไปกว่านั้นข้าเชื่อว่า แพทย์ที่ทรงคุณธรรมที่ช่วยเหลือวิกฤติของค่ายป้องกันกับค่ายลาดตระเวนไว้เช่นนี้ ต่อให้ไม่มีมนุษย์คนไหนรัก ก็ไม่มีทางเป็นคนชั่วช้าสามานย์แน่นอน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 570

    หลังจากดึงผ้าที่อุดปากทหารที่กำลังคลั่งคนหนึ่งออก มือของข้างหนึ่งก็ถือยาไว้ มืออีกข้างบีบคางของทหาร เตรียมจะกรอกยาพอปากของทหารคลั่งไม่ถูกอุดไว้ ก็จะกัดเข้าไปที่มือของนางอย่างดุร้าย“ระวัง!” แพทย์ทหารรร้องตกตะลึงขึ้นมา ส่วนทหารคนอื่นก็ตกตะลึงด้วยเช่นกันฉีฮ่าวทนไม่ไหวเดินขึ้นมาสองก้าวจากนั้นทุกคนก็เห็นมือของนาง ฉากหลบออกมาด้วยการเคลื่อนไหวเล็กน้อยแม้จะเบี่ยงหลบการกัดของทหารคลั่ง แต่หลังมือก็ยังถากกับฟันของทหารคลั่งคนนั้นไป จนเกิดเป็นรอยที่ไม่ใช่แผลลึกขึ้นหยดเลือดสีแดงไหลซึมออกจากบาดแผลเลือดนี้พอประทับบนผิวขาวนวลของนาง ก็ชัดเจนจนแยงตา และแยงเข้าไปในตาของทุกคนด้วยเช่นกันแต่ว่าพวกเขากลับมองไม่เห็นสีหน้าอะไรจากหน้าของนางเลยอย่าว่าแต่จะขมวดคิ้วเลย กระทั่งหนังตาก็ยังไม่เลิกขึ้นด้วยซ้ำยิ่งไปกว่านั้นแขนที่บาดเจ็บข้างนั้นของนาง การเคลื่อนไหวก็ไม่สับสนเลยแม้แต่น้อย ยังขยับไปตามทิศทางเดิม บีบคางทหารคลั่งเอาไว้ข้างหนึ่งออกแรงให้เขาขยับตัวอีกไม่ได้ จากนั้นก็กรอกยาลงไปทั้งชามจั๋วซือหรานปล่อยมือออกจากทหารคลั่งคนนั้น และทำเช่นเดียวกันต่อไปกับทหารคลั่งคนที่สองจากนั้นจึงเก็บมือกลั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 571

    จั๋วซือหรานที่นั่งอยู่ห่างๆ กำลังเย็บแขนข้างหนึ่งอยู่เงียบๆทหารคลั่งตอนแรกยังแยกเขี้ยวใส่นาง รู้สึกเหมือนอยากจะพุ่งเข้าไปกัดนางให้ตายเสียให้ได้ แต่สีหน้าของนางก็ยังไม่เปลี่ยน ยังคงเย็บต่อไปเงียบๆ ครู่หนึ่งก็เอียงตามองไปยังแพทย์ทหารที่กำลังมองอย่างเคลิบเคลิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ประมาณนี้นั่นล่ะ อีกเดี๋ยวท่านก็ลองหาพวกสัตว์อะไรมาทดลองดู หลักการก็เป็นเช่นนี้ ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไร ฝึกมากๆ ก็ชำนาญเอง”แพทย์ทหารพยักหน้าหงึกหงัก ตอนที่มองจั๋วซือหราน ดวงตาก็เปล่งประกาย “ขอบคุณแม่นางจิ่วมาก! เรื่องนี้มีประโยชน์กับพวกเรามาก! ในค่ายทหารเนื่องจากสถานการณ์การฝึกฝนต่างๆ เรื่องการบาดเจ็บภายนอกพบเห็นได้บ่อยมาก...”จั๋วซือหรานทำงานของตนเอง พลางฟังเสียงสนทนาของอิงเซ๋ากับฉีฮ่าวที่อยู่ไม่ไกลออกไปนักด้วยระดับความเฉียบคมของสัมผัสทั้งห้านางตอนนี้ ต่อให้ไม่สามารถฟังออกทุกถ้อยคำอย่างชัดเจน แต่พอฟังประโยคสำคัญบางส่วน จากนั้นก็จะแกะความหมายออกมาได้เองจนในที่สุดที่เสร็จสิ้นสถานการร์ของค่ายป้องกัน ฟ้าก็เริ่มมืดแล้วดวงตะวันลับขอบฟ้า แสงยามเย็นย้อมท้องฟ้าไปทั้งผืน“ทางนี้หลักๆ ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว เช่นนั้นข้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 572

    แต่เพราะสถานการณ์ของสองวันนี้ก็ยังต้องกระโจนออกมาเหมือนสุ...บางทีอาจไม่ควรจะเรียกว่ากระโจนออกมาเหมือนสุนัขจนตรอกแต่เป็นโมโหจากความล้มเหลวอดพูดไม่ได้เลย ว่าจั๋วซือหรานคาดเดาไว้แม่นยำมากไม่นานก่อนหน้านี้ ตอนที่นางยังวุ่นอยู่ในค่ายป้องกันในอุทยานหลิ่วพ่านที่ห่างออกไปอ๋องอวี้ชินผู้สูงส่งโกรธเดือดดาล จนคนรับใช้ถูกไล่ออกไปแล้วสองคนถ้วยถาดกระจัดกระจายระเนระนาดเต็มพื้นชายหนุ่มในชุดหรูหรานั่งบนที่นั่งหลัก ใบหน้าเองก็หล่อเหลาอยู่ แต่ดวงตาทั้งสองกลับแดงก่ำ เหมือนดวงตาถูกแผดเผาด้วยความโกรธอย่างไรอย่างนั้น“ไม่ได้เรื่อง! ไม่ได้เรื่อง! ไม่ได้เรื่อง!”เพล้ง! เสียงแตกสะท้านดังขึ้นอีกครั้ง กาน้ำชาชั้นดีใบหนึ่ง ถูกขว้างจนแตกกระจายบนพื้น“มีแต่พวกไม่ได้เรื่อง! เจาหมิ่นอยู่ไหน! ? นางไม่ใช่บอกแล้วหรือ ว่านี่เป็นแผนที่สมบูรณ์แบบ?! แล้วนี่คือแผนสมบูรณ์แบบที่นางว่าหรือ?”ซือคงอวี้โมโหเดือดดาล เขาหัวเราะเย็นชาขึ้นมาทีหนึ่ง “ข้าได้ยินว่านางออกจากวังหลวงไปแล้วใช่ไหม? พอเห็นว่าล้มเหลวก็เลยหนีหางจุกตูดหรือ? แผนการยอดเยี่ยมเสียเหลือเกิน...”ตอนนี้เอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นที่ปากประตู “องค์ชายห้าอย่า

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1264

    จะเหมือนว่าตบหน้าใส่ตนเองอย่างแรง ทั้งที่เดิมทีก็อยู่บนโชคชะตาที่ขมขื่นอยู่แล้ว กระทั่งยังเป็นการตบหน้าตนเองในตอนนั้นอีกด้วยแบบนั้น...มันขมขื่นเกินไป พวกเขาเดิมทีก็ยากลำบากอยู่แล้วปันอวิ๋นนิ่งงันไปพักหนึ่ง อันที่จริงรู้สึกเหมือนไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนดีอยู่หน่อยๆความเงียบงันดำเนินต่อไประยะหนึ่งยังคงเป็นเฟิงเหยียนที่เอ่ยเสียงต่ำขึ้นมาก่อน "ขอบคุณมาก"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ ก็รู้สึกแปลกประหลาด อารมณ์เองก็ไม่ค่อยมั่นคงทั้งที่มั่นคงมาตลอดแท้ๆหลังผ่านไปพักหนึ่ง ปันอวิ๋นจึงเอ่ยตอบว่า "เรื่องเล็กน้อย"ตอนที่ได้ยินคำนี้ สายตาของเฟิงเหยียนก็เหมือนขยับนิดๆยังจำได้ว่า ตอนยังเด็กถ้าปันอวิ๋นช่วยเขาทำอะไร ขอแค่เขาขอบคุณ ปันอวิ๋นก็จะพูดคำว่า 'เรื่องเล็กน้อย' ออกมาเสมอต่อให้บางครั้ง จะไม่ใช่เรื่องเล็กเลยก็ตาม แต่ก็ยังทำให้เขารู้สึกว่า ไม่ต้องเกรงใจ ยังมีพี่น้องคนนี้ช่วยแบกอยู่เฟิงเหยียนหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงเรียบขึ้นว่า "ก่อนหน้านี้ ข้าเจอกับหลงเฉินมา"พอได้ยินชื่อนี้ที่คุ้นเคย ม่านตาปันอวิ๋นก็หดลงเล็กน้อยเฟิงเหยียนเอ่ยต่อว่า "เขามีชีวิตไม่ค่อยดีนัก เหมือนตอนนั้นหลังจากที่เขาท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status