แชร์

บทที่ 49

ผู้แต่ง: หูเทียนเสี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อเปรียบเทียบกับจั๋วซือหราน ผู้หญิงที่เกือบถูกครอบครัวของทอดทิ้ง สถาบันแพทย์หลวงสนใจผู้ที่เป็นเส้นสายและผู้ที่มีบุญคุณมากกว่า และยินดีกับคนเหล่านั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

ดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่มีหนวดคนนี้จึงตัดสินใจกีดขวางจั๋วซือหรานสอบใบอนุญาตแพทย์ เพื่อแสดงความเป็นมิตรกับเหยียนชางสถาบันแพทย์หลวง

ใครจะไปรู้คุณหนูจั๋วจิ่วผู้นี้ พูดจาโหดเช่นนี้

เจ้าหน้าที่ที่มีหนวดโกรธมาก เขาพูดอย่างไม่พอใจ "เจ้ากล้าเรียกชื่อของหัวหน้าของสถาบันแพทย์หลวงได้อย่างไร คุณหนูจั๋วจิ่ว หัวหน้าของสถาบันแพทย์หลวงกลัวหญิงสาวที่ไร้เตียงสาอย่างเจ้าหรือ เจ้าไม่กล้วหาเรื่องใส่ตัวเองหรือ "

จั๋วซือหรานเหลือบมองชายที่มีหนวดสั้น ๆ นางโบกมือแล้วพูดว่า "ช่างเถิด ทำไมข้าต้องเสียเวลามาคุยกับเจ้า... "

ชายที่หนวดสั้น ๆ ยังคงอยู่ที่นั่นและพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดุถูก"ในเมื่อเจ้าไม่อยากอยู่ที่นี่ อย่าสอบใบอนุญาตแพทย์ละกัน แม่นางจั๋วจิ่วเย่อหยิ่งเช่นนี้ ทำไมเจ้าไม่ไปสอบแพทย์กลั่นยาล่ะ โถ มีทักษะการแพทย์ไม่มาก คิดว่าตัวเป็นหมอเทวดา ถุย”

จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "แพทย์กลั่นยาหรือ เจ้าเตือนฉันพอดี"

นางสะบัดแขนเสื้อแล้วหันตัวบ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 50

    เพียงแต่หลังจากที่ฝูซูดีใจ เขาก็เริ่มคิดอย่างมีเหตุผล เขาขมวดคิ้วและกระซิบว่า “แต่คุณหนูคะ หน่วยสืบสวนพิเศษไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าเลย เราคงเข้าไปไม่ได้หรอกนะ”หลังจากที่จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดของเขา นางมองไปในทิศทางหนึ่งอย่างกะทันหัน จากนั้นก็ยกมือขึ้นทันทีไม่มีใครสังเกตนางมีอาวุธสีดำอยู่ในมือของนางเมื่อไร เสียง ปัง ปัง ปัง ปัง ดังขึ้น เสียงหลายเสียงดังทะลุอากาศติดต่อกัน มุ่งหน้าตรงไปในทิศทางนั้นและในทิศทางนั้น เพื่อหลบการโจมตีฉับพลันของนาง ชายที่สวมชุดดำปรากฏตัวจากมุมถนนด้วยท่าทีเขินอายเล็กน้อยชายชุดดำตกตะลึงอย่างมาก ไม่เพียงเพราะจั๋วซือหรานสังเกตร่องรอยของเขาอย่างง่ายดาย แต่จากการโจมตีอย่างรวดเร็วภายในเวลาอันสั้นของจั๋วซือหราน นางอาจสังเกตการติดตามของเขาเสียนานแล้ว เพียงแต่นางทนถึงเวลานี้ จึงโจมตีเขาสิ่งที่ทำให้ชายชุดดำตกใจยิ่งกว่านั้นคือการโจมตีของจั๋วซือหราน เขาไม่รู้ว่ามันเป็นอาวุธประเภทใด แต่มันรวดเร็วและแม่นยำมาก หากเขาไม่หลบ เขาอาจจะโดนลูกศรเหล็กอันสั้นสี่ดอกนั้นไม่ต้องพูดถึงว่าชายชุดดำมองเห็นไม่ชัดเจน ฝูซูเองก็ไม่ทันมองคุณหนูของเขาลงมือเมื่อไรเขาเพียงรู้สึกคุณหนู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 51

    แพทย์กลั่นยามีจำนวนที่น้อยมาก นั่นเป็นเพราะว่าเกณฑ์นั้นสูงมากหากผู้ใดอยากเป็นแพทย์กลั่นยา ผู้ที่สอบไม่เพียงต้องต้องรู้วิชาการแพทย์เท่านั้น แต่ยังต้องเข้าใจเภสัชวิทยาและพิษวิทยาด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้สอบต้องรู้จักสมุนไพรนับร้อยชนิดและรู้วิธีจับคู่และประสานกันดังนั้นเมื่อเทียบกับแพทย์กลั่นยา การสอบใบอนุญาตแพทย์ก็ง่ายพอ ๆ กับน้ำดื่มและเนื่องจากการที่เป็นแพทย์กลั่นยาต้องมีความสามารถขั้นเทพ โดยปกติแล้ว ไม่หมอกลั่นยานอกระบบคนไหนมาสอบเป็นแพทย์กลั่นยาแพทย์กลั่นยาของแผ่นดินใหญ่มักจะรวมตัวในเจ็ดลัทธิหลัก และแพทย์กลั่นยาที่เก่งที่สุดในเจ็ดลัทธิหลักมักจะรวมตัวอยู่ในลัทธิตันติ่งจั๋วซือหรานรู้ทั้งหมดนี้ และนางทราบดีด้วยว่า ไม่เคยมีผู้ที่อยู่นอกระบบนิกายสอบเป็นแพทย์กลั่นยาได้ แน่นอนว่าไม่สามารถพูดได้ว่า ไม่มีนักเล่นแร่แปรธาตุที่นอกระบบ แต่มีแพทย์กลั่นยานอกระบบที่เรียนด้วยตนเองเดิมทีพวกเขาชินกับการมีความเป็นอิสระแล้ว พวกเขาไม่อยากมาสอบเป็นแพทย์กลั่นยาหรอกดังนั้นจึงเป็นเรื่องจริงที่ว่า แทบไม่มีใครสอบแพทย์กลั่นยาเมื่อซือหลี่ตันติ่งได้ยินจุดประสงค์ของจั๋วซือหราน เขาก็เงียบ "ไม่เคยมีคนมาสอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 52

    อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ซือหลี่ตันติ่งคิดว่าจั๋วซือหรานจะยอมแพ้แต่จั๋วซือหรานไม่ยอมแพ้ นางถามคำถามอื่นเท่านั้น "ใต้เท้าเจ้าคะ ตามหลัก ความเสี่ยงและผลประโยชน์ควรมีอยู่ร่วมกัน หากข้าสอบไม่ผ่านแพทย์กลั่นยา ข้าต้องรับโทษหนักเช่นนี้เพื่อชดใช้ความประมาทเลินเล่อของข้า…”ทันใดนั้น ในดวงตาที่อยู่ด้านหลังของหน้ากากของซือหลี่ตันติ่งเริ่มเกิดความสนใจออันแปลกประหลาดผู้หญิงคนนี้...ไม่กลัวหรือเห็นได้ชัดว่า ก่อนหน้านี้เขาเห็นความตกใจเล็กน้อยในดวงตาของนาง แต่ตอนนี้ดวงตาสีน้ำตาลของนางไม่มีสีหน้าที่สั่นเทาอีกต่อไป แต่ยังคงสงบราวกับว่าแค่มองดวงตาของนางก็จะรู้สึกว่า นางทำได้ง่ายมากจั๋วซือหรานกล่าวต่อ "...ตามเกณฑ์ หากข้าผ่านการสอบแพทย์กลั่นยา ข้าควรได้รับผลประโยชน์มากมาย ท่านคิดว่าอย่างไร"ซือหลี่ตันติ่งหรี่ตาลง และในทันใดนั้น ในน้ำเสียงอันดังของเขาเต็มไปด้วยความดีใจพวกเขาอยู่ห่างไกลจากลัทธิและได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นซือหลี่ในหน่วยสืบสวนพิเศษแคว้นต่าง ๆ แม้ว่างานนี้จะเป็นคุณสมบัติ แต่จริง ๆ แล้วในช่วงเวลาที่รับหน้าที่ ชีวิตของพวกเขาค่อนข้างน่าเบื่อนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับคนที่น่าสนใจใ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 53

    เมื่อจั๋วซือหรานเดินออกจากหน่วยสืบสวนพิเศษ ฝูซูกำลังกังวลมากเมื่อเขาเห็นจั๋วซือหรานเดินออกมา เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก "คุณหนู"ทำไมจะร้องไห้แล้ว” จั๋วซือหรานเห็นดวงตาของฝูซูแดงก่ำ นางรู้สึกกตลก“ข้ากลัว นั่นคือหน่วยสืบสวนพิเศษนะขอรับ ใครจะไม่กลัว หน่วยสืบสวนพิเศษล่ะ ข้าเคยได้ยินคนอื่นเล่ากันว่า หลายคนเข้าไป ออกมาไม่ได้”ฝูซูรีบยกมือเช็ดตาแล้วพูดต่อ "และคุณหนูเป็นผู้ที่ขู่คนของหน่วยสืบสวนพิเศษ จึงเข้าไปได้"แน่นอนว่าเขากังวลคนของหน่วยสืบสวนพิเศษจะหาเรื่องของคุณหนูของเขาเพียงแต่ฝูซูยังหนุ่มอยู่ หลังจากเขาเห็นจั๋วซือหรานเดินออกมาอย่างปลอดภัย เขาหายความค่อยกังวลเล็กน้อย และเขาเริ่มสนใจของอย่างอื่น“คุณหนูขอรับ ม้วนนี้คืออะไรขอรับ” ฝูซูถามและมองดูม้วนหนังสือในมือของจั๋วซือหรานด้วยความอยากรู้อยากเห็น “มันดูละเอียดและงามมาก”ตอนที่จั๋วซือหรานได้รับม้วนหนังสือที่ซือหลี่ของลัทธิตันติ่ง โยนมา นางก็เดินออกมาก่อนโดยไม่ได้สังเกตม้วนหนังสือนี้ดี ๆหลังจากฝูซูเตือนนาง นางจึงสังเกตและตระหนักว่า มันเป็นม้วนหนังสือที่สวยงามมากจริง ๆ ภายนอกทำจากผ้าต่วนที่มีคุณภาพอย่างสูงและด้านในทำจากกระดา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 54

    แม้ว่าผู้รับใช้ที่ที่เหยียนชางเชื่อที่สุดสืบสวนข่าวนี้มาก แต่พวกเขาก็ไม่เข้าใจความหมาย "เพียงว่าข้าน้อยไม่เข้าใจ นางไปหน่วยสืบสวนพิเศษทำไมขอรับ"เหยียนชางโยนชามชาอีกใบแล้วพูดด้วยความโกรธ "จะทำอะไรได้อี! นางทำอะไรได้อีก นอกจากจะไปฟ้องข้า"เหยียนชางรู้ยัยเด็กที่แซ่จั๋วนั้นเป็นเด็กที่ไม่ยอมเสียเปรียบ มีอะไรต้องแก้แค้นแน่ ๆ ครั้งสุดท้ายเขาไปฟ้องนางที่หน่วยสืบสวนพิเศษ จนนางต้องทนทุกข์ทรมานมากมายจากการลงโทษของหน่วยสืบสวนพิเศษจั๋วซือหรานต้องแก้แค้นแน่ ๆ ตอนนี้นางไปที่หน่วยสืบสวนพิเศษ นางอาจไปฟ้องเขาใช้อำนาจในทางที่ผิดและติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันไม่ให้นางสอบใบอนุญาตแพทย์เหยียนชางรีบเดินไปทางหน่วยสืบสวนพิเศษเนื่องจากตระกูลเหยียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซือหลี่ของลัทธิฉือซือหาง ดังนั้นเหยียนชาง ที่จะไปที่ หน่วยสืบสวนพิเศษ จึงไม่คดเคี้ยวเท่ากับ จั๋วซือหรานเหยียนชางได้พบซือหลี่ฉือหางอย่างรวดเร็ว ซือหลี่ฉือหางช่วยเขาอย่างไม่ถือสาเขาพาเหยียนชางไปหาซือหลี่ตันติ่ง“แม่นางคนที่เก้าของตระกูลจั๋วมาที่นี่เพื่อพบซือหลี่ตันติ่ง ” ซือหลี่ฉือหางพูดเหยียนชางยกมือขึ้นและโค้งคำนับให้กับซือหลี่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 55

    ซือหลี่ตันติ่งไม่กล่าวอะไร ซึ่งถือเป็นการยินยอมเหยียนชางตกใจอย่างมาก ในชั่วขณะนั้น เขาแทบจะไม่มีปฏิกิริยาแต่เขาค่อย ๆ รู้ตัว ยัยจั๋วซือหราน ทำไมยัยเด็กนี้ไม่ยอมแพ้สักที นางไม่กลัวสิ่งใดเลยจริง ๆ นางไม่กลัวอะไรเลยหรือความไม่เกรงกลัวของนางจะทำให้คู่ต่อสู้ของนางหวาดกลัวได้อย่างง่ายดายเพราะเรื่องต่าง ๆ มักจะเป็นเช่นนี้ เมื่อเจ้าไม่กลัวสิ่งใด ๆ ศัตรูของเจ้าจะเริ่มกลัวแทนยิ่ง จั๋วซือหราน แบบนี้ เขาจะเอาชนะอุปสรรคใด ๆ เพียงเพื่อแข่งขันกับ ตระกูลเหยียน ของพวกเขา ในมุมมองของเหยียนชาง เขามักรู้สึกมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า นางจะต้องชนะการแข่งขันครั้งนั้นยิ่งนางแข็งแกร่งเท่าไร นางจะยิ่งไม่กลัวมากขึ้นเท่านั้น เขามักจะอ่อนแอมากขึ้นเท่านั้น และยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นเท่านั้นเป็นเพราะความกลัวนี้เองที่ทำให้เหยียนชางเสียสติในชั่วขณะเขาระงับอารมณ์และควบคุมน้ำเสียงไม่ได้ เขาบอกซือหลี่ตันติ่ง"ท่าน ท่านจะให้นางมาสอบแพทย์กลั่นยาได้อย่างไร ใคร ๆ ก็สอบแพทย์กลั่นยาได้เลยหรือ ยัยเด็กเย่อหยิ่ง นางคิดว่าตัวเองใช้ทักษะการแพทย์เป็นบ้าง และนางจะเก่งมาก ”ซือหลี่ฉือหางที่อยู่ด้านข้างกายเริ่มโกรธ และเสียงที่อ่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 56

    เหยียนชางมิกล้าเถียงคำใด ๆ "ใต้เท้า...สั่งสอนข้าน้อยไดเถูกต้อง ข้าน้อย...มิกล้าทำเช่นนี้อีกต่อไป"เสียงของซือหลี่ตันติ่งยังคงเย็นชา เขาตะคอกอย่างเย็นชาและพูดว่า "มีคนอยากมาสอบแพทย์กลั่นยา ข้ายินดีอย่างยิ่ง หากเจ้าคิดว่า จั๋วซือหรานกำลังเสียเวลาของข้า หรือนางกำลังเล่นงานข้า เจ้าเลิกคิดเช่นนี้ได้”“หากนางสอบไม่ผ่าน นางต้องยอมรับการลงโทษจากหน่วยสืบสวนพิเศษ นางทราบเงื่อนไขข้อนี้และยอมรับมัน”เมื่อเหยียนชางได้ยินซือหลี่ตันติ่งพูดถึงเช่นนี้ ดวงตาของเหยียนชางสว่างขึ้นทันที "จริงหรือ"ทันทีที่เขาพูดจบ ซือหลี่ตันติ่งตบหน้าเขาด้วยพลังทางจิตวิญญาณของเขา และเสียงของการตบนั้นดังก้องดเป็นพิเศษซือหลี่ตันติ่งกล่าวต่อ "เดิมทีลัทธิอยู่ห่าง ๆ กับใต้หล้า โดยเนื้อแท้แล้ว พวกเราควรเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของพวกเจ้าเกินไป หากเจ้ากล้านำความขุ่นเคืองของเจ้ามากวนข้า มาพูดกับข้าเช่นนี้ และสงสัยคำพูดของข้าอีกครั้งละก็ ข้าจะจัดการเจ้าอย่างหนักแน่ ๆ ”เหยียนชางไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไปและเมื่อพิจารณาจากทัศนคติของซือหลี่ฉือหางในภายหลัง เหยียนชางรู้สึกว่า การกระทำของเขาในวันนี้อาจทำให้ซือหลี่ฉือหางไม่สบายใจเล็

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 57

    เมื่อฝูซูได้ยินคำพูดที่ครอบงำของคุณหนู เหมือนเขาได้รับความมั่นใจจากคุณหนู เดิมทีเขาวิตกกังวลอยู่ ตอนนี้เขาสบายใจได้เพียงแต่เขามองจั๋วซือหราน และขมวดคิ้ว“เป็นอะไร” จั๋วซือหรานเห็นสีหน้าของเขา นางกำลังงงฝูซูถอนหายใจแล้วพูดว่า "คุณหนูขอรับ คุณหนูไปส่องกระจกดูหน้าตาก่อนไหมขอรับ หากคุณหนูเดินออกไปในสภาพนี้นี้ ยังไม่สอบเลย คนอื่นจะคิดว่าคุณหนูสอบตกแน่ ๆ"จั๋วซือหรานตกตะลึง จากนั้นนางเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของนางแล้วลูบหน้า “สีหน้าของข้าแย่ขนาดนี้เลยหรือ”นางเดินเข้าไปในห้องแล้วมองในกระจก อย่างที่ฝูซูพูดถึงเลย นางหน้าซีด ดวงตาแดงก่ำ และยู่ใต้เบ้าตาดำเนื่องจากการแข่งขันครั้งนี้สำคัญอย่างมาก ไปสภาพนี้ไม่ได้......เนื่องจากตระกูลเหยียนจงใจเผยแพร่ข่าวที่จั๋วซือหรานไม่เจียมตัวและอยากสอบติดแพทย์กลั่นยา ข่าวนี้ถูกกระจายไปทั่วเมืองหลวงแล้วดังนั้นระหว่างทางจากจวนของนางไปถึงหน่วยสืบสวนพิเศษ จึงมีผู้คนยืนดูนางเป็นจำนวนอย่างมากที่ประตูจวนของนางมีคนมาเฝ้าดูชาวบ้านเห็นประตูปิดสนิท พวกเขาต่างคิดกันว่า จั๋วซือหรานกลัวและไม่กล้าเข้าร่วมการแข่งขัน“นางต้องกลัวแล้วสิ อยากสอบแพทย์กลั่นยา นางค

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 728

    “นี่ฝูซูกับเฮยหลิงยังไว้หน้าพวกเจ้าอยู่นะ ถึงยังไม่จับตะเกียบ ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าแค่น้ำแกงก็ไม่ได้ชิมด้วยซ้ำ” เจี่ยงเทียนซิงวางตะเกียบลงหัวเราะฮั่วจือโจวไม่อยากเชื่อ ถามขึ้นว่า “นี่คือของที่แม่นางจั๋วจิ่วทำหรือ? จริงหรือเปล่า?”“เป็นของที่คุณหนูข้าทำเอง” ฝูซูพยักหน้าอินเจ๋ออันมองเขา ถามขึ้นว่า “คุณชายฮั่ว ยอมรับแล้วหรือยัง?”ฮั่วจือโจวถอนหายใจเบาๆ พยักหน้าเจี่ยงเทียนซิงเห็นท่าทางแขกยึดครองตำแหน่งเจ้าภาพของอินเจ๋ออันแล้วก็หัวเราะพรวดขึ้นมา “เปาน้อย เจ้าเองก็ไว้หน้าตัวเองหน่อยดีไหม คำพูดนี้ข้าต่างหากที่ควรถาม? เจ้าน่ะยอมรับแล้วหรือยัง?”“ถ้าข้าไม่ยอมรับ แล้วข้าจะเอาเงินมาให้พวกเจ้าด้วยตัวเองทำไมกัน?!” อินเจ๋ออันจ้องอย่างมาดร้ายไปทางเจี่ยงเทียนซิงตัวเขาเองอาจจะไม่ทันสังเกต ว่าตนเองกระทั่งลืมไปแล้วว่าต่อต้านชื่อเรีย ‘เปาน้อย’ อยู่เฟิงหร่านนั่งอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรมาตลอด สนใจแค่การกินอาหารบนโต๊ะอย่างรวดเร็วราวพายุดูดเท่านั้นนางกินไปด้วย พิจารณาชายหนุ่มสามคนนี้ไปด้วยในใจจู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาเฟิงหร่านเกิดวิตกกังวลขึ้นมาแทนพี่ชายตนเอง นางชื่นชมในใจ พี่หญิงจั๋วน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 727

    สายตาฮั่วจือโจวมองจั๋วซือหรานอย่างลึกซึ้งตระกูลขุนนางเหล่านี้ล้วนเป็นแบบเดียวกัน จั๋วซือหรานเองก็เดินออกมาจากตระกูลขุนนาง ดังนั้นจึงเข้าใจเป็นอย่างดีต่อให้ทุกคนจะเป็นลูกหลานในตระกูลเหมือนกัน และก็จะมีพวกลูกหลานที่ได้รับการปฏิบัติกับให้ความสำคัญมากกว่า และก็จะมีลูกหลานที่ถูกมองข้ามหรือเมินเฉยแต่นี่ก็จะขึ้นอยู่กับฝีมือของรุ่นพ่อและฝีมือของตนเองดูจากจั๋วซือหรานแล้วมองออกไม่ยาก กระทั่งฝีมือของรุ่นพ่อก็ยังไม่แน่ว่าจะสำคัญ เพราะพ่อของนางนั้นไม่อยู่มานานแล้วมีเพียงฝีมือของตนเองที่ถูกให้ความสำคัญมากที่สุดดังนั้นในฐานะที่เป็นลูกหลานในตระกูล หากคิดจะได้รับการให้ความสำคัญของตระกูล อย่างน้อยก็ต้องทำผลงานออกมาให้ได้สถานการณ์ของฮั่วจือโจวตอนนี้ก็น่าจะเป็นเช่นนี้เขามีฝีมืออยู่บ้าง และมีอุดมการณ์ของตนเองด้วยเช่นกัน แต่ก็จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ จะตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามไม่ได้เพราะในตระกูลเช่นนี้ คนมากมายล้วนเป็นแบบเดียวกัน โอกาสอาจจะมีแค่ครั้งเดียว ถ้าทำผลงานไม่ได้ หลังจากนี้ทรัพยายากรก็อาจจะไม่เอนมาทางเขาอีกแล้วจุดนี้ จั๋วซือหรานไม่ลังเลที่จะพูดออกมาสายตาฮั่วจือโจวหยุดอยู่ที่แ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 726

    จั๋วซือหรานยิ้มๆ “ก็ต้องตั้งแต่ตอนที่เจ้าตามพวกเราเข้ามาแล้วน่ะสิ”ฮั่วจือโจวลุกขึ้นยืน เดินตรงเข้ามาทางนี้ นั่งลงข้างโต๊ะพวกเขา“เมื่อครู่แผนของแม่นางจิ่ว ข้าได้ยินแล้ว” ฮั่วจือโจวเองก็ไม่ปิดบัง พูดออกมาตรงๆเขาพูดประโยคนี้ออกมา ก็หวังว่าจั๋วซือหรานจะไม่ต้องมาเสียเวลาคิดมากในเรื่องนี้แล้วแต่ฮั่วจือโจวคิดไม่ถึงว่าจั๋วซือหรานจะพูดว่า “ข้าจงใจพูดออกมาให้เจ้าได้ยิน”สีหน้าฮั่วจือโจวตกตะลึงไปทันที “อะไรนะ?”จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้งเอ่ยขึ้นว่า “คุณชายสามฮั่วฟังแผนการของข้าแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง?”“ไม่เลว” ฮั่วจือโจวตอบ “มิน่าสี่ตระกูลที่เหลือจึงมองเจ้าเป็นหนามยอกอก”รอยยิ้มบนหน้าจั๋วยังไม่จางหาย “ถ้าข้าไม่จงใจพูดให้เจ้าได้ยิน แล้วจะกล่อมให้เจ้ามาร่วมมือได้อย่างไรกัน?”“ร่วมมือ?” ฮั่วจือโจวตกตะลึงจั๋วซือหรานตอบ “อืม ข้าไม่มีเจตนาจะทำให้ตระกูลฮั่วต้องลำบากใจ ถ้าแค่ตระกูลฮั่วไม่ทำให้ข้าลำบากใจน่ะนะ แต่ข้าเองก็เข้าใจ บุ่มบ่ามไปแย่งธุรกิจของคนอื่น ดูแล้วยังไงก็ไม่เหมาะสม และยังเป็นในสถานการณ์ที่ข้ามั่นใจว่าข้าคว้ามันมาได้ด้วย”ฟังคำพูดนี้ของจั๋วซือหรานแล้ว ฮั่วจือโจวก็หัวเราะขึ้นมา เขาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 725

    “ทำให้มันคึกคักขึ้น?” เฟิงหร่านตาเป็นประกาย ความชื่นชมต่อตัวจั๋วซือหรานของนางไม่ได้แค่นิดหน่อยแล้วตอนนี้มองจั๋วซือหรานด้วยตาเป็นประกาย “พี่หญิงจั๋ว จะทำให้มันคึกคักขึ้นได้อย่างไรหรือ?”จั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “วิธีการมีอยู่เยอะเลยทีเดียว ก็ให้เจ้าไปแสดงพ่นไฟ เฮยหลิงไปแสดงหน้าอกทลายหินอะไรแบบนั้น หรือไม่ข้าก็ให้พวกแมลงไปแสดงละครหุ่นกระบอก? ต้องสนุกคึกคักแน่ๆ...”“พ่น พ่น...พ่นไฟ??” ในสายตาเฟิงหร่านเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อก็จริง สำหรับนางที่เป็นคุณหนูลูกขุนนางเช่นนี้ทุกการกระทำทั้งหมดของจั๋วซือหราน กระทั่งแค่ลมหายใจของนาง ก็ดูจะผิดแปลกไปจากคนอื่นๆ ในตระกูลขุนนางเหล่านั้น “พ่นไฟเป็นไหม? ถ้าไม่เป็นเดี๋ยวไว้ข้าหาเวลาสอนเจ้า” จั๋วซือหรานวางตะเกียบลง “สรุปคือ ถ้าถึงเวลาต้องเปิดกิจการ ก็หาการแสดงอะไรมา จากนั้นพอเปิดร้านก็เตรียมการให้ลูกค้าแต่ละโต๊ะหลังจากที่กินอาหารเสร็จ ก็มอบอาหารเพิ่มให้อีกหนึ่งจานแบบไม่ต้องจ่ายเงินอะไรแบบนี้”“ประชาชนกินเพื่ออยู่ ขอแค่ของอร่อย ยังต้องกลัวว่าจะไม่มีใครมาอีกหรือ” จั๋วซือหรานคิดคิด เอ่ยต่อว่า “ไหนจะเรื่องที่อาหารของที่นี่รสชาติแย่แค่ไหน น่าจะไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 724

    จั๋วซือหรานตอบ “เดี๋ยวเจ้าลองชิมก็รู้แล้ว...”ผ่านไปครู่หนึ่ง อาหารก็ส่งขึ้นมา หน้าตาแย่เอามากๆเจี่ยงเทียนซิงจึงเพิ่งได้ยินประโยคหลังของจั๋วซือหราน “...ไม่ใช่ห่วยแตกแบบธรรมดาด้วย”เจี่ยงเทียนซิง “...”เฟิงหร่าน “...”ฝูซู “...”เฮยหลิง “...”ทุกคนทยอยกันพูดไม่ออกจั๋วซือหรานหยิบตะเกียบขึ้นมา คีบคำหนึ่งส่งเข้าปาก หลังจากเคี้ยวไปสองคำ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “พวกเจ้าลองชิมสิ ห่วยแตกแบบไม่ธรรมดาจริงๆ”เฮยหลิงยังพอไหว ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ก็ใช้ชีวิตยากลำบากมาแล้ว ขยับตะเกียบ หลังจากกินคำแรกไปเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าเขาเหมือนจะโกรธขึ้นแล้วเฟิงหร่านเองพอเห็นสถานการณ์ จึงวางตะเกียบลงเงียบๆเจี่ยงเทียนซิงถาม “เจ้าหิวแล้ว แต่จงใจมายังร้านอาหารที่รสชาติแย่หรือ?”จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น “ลองชิมดูก่อน แบบนี้ภายหลังจะได้มีความแตกต่าง”เจี่ยงเทียนซิงก็เชื่อฟังคำพูดของนาง คีบขึ้นมาพอส่งเข้าปาก จึงเพิ่งมีปฏิกิริยากับคำพูดของจั๋วซือหราน “...ภายหลัง?”ตอนนี้เอง อะไรบางอย่างที่อยู่ในปาก ในที่สุดก็ทำเอาประสามรับรสของเขาถูกปะทะอย่างรุนแรง“ถุด” เจี่ยงเทียนซิงพ่นอาหารในปากออกมา รู้สึกว่าคำวิจารณ์ก่อน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 723

    พอได้ยินคำพูดของเจี่ยงเทียนซิง จั๋วซือหรานก็เลิกคิ้ว “นั่นก็จริงอยู่”เจี่ยงเทียนซิงถามขึ้น “บาดแผลของเจ้าไม่เป็นไรหรือ?”“ถ้าเจ้าถามช้าอีกหน่อย มันก็หายสนิทแล้ว” จั๋วซือหรานมองตำแหน่งบาดแผลเหล่านั้นบนร่างกายตนเองผาดหนึ่ง“ที่ข้าพูดไม่ได้หมายถึงบาดแผลในการประลองเมื่อครู่ แต่เป็นของเมื่อคืนนี้” เจี่ยงเทียนซิงบอกมาเฟิงหร่านอยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดของเจี่ยงเทียนซิง จึงรีบกำชับขึ้นมาว่า “จริงด้วย พี่หญิงจั๋ว ท่านไม่เป็นอะไรแล้วหรือ? ข้าได้ยินเรื่องที่ท่านเข้าไปในศาลบรรพบุรุษเมื่อคืนนี้แล้ว นั่นมันอันตรายมากเลย! ท่านไม่ได้บาดเจ็บใช่ไหม?”จั๋วซือหรานเหลือบมองแม่นางคนนี้ “พี่ชายของเจ้า กลับบ้านไปแล้วหรือยัง?”เฟิงหร่านตกตะลึง จากนั้นจึงพยักหน้า “กลับมาแล้ว”“เช่นนั้นเขาไม่ได้บอกเจ้าหรือ?” จั๋วซือหรานถามขึ้นมาอีกเฟิงหร่านถอนหายใจอีกครั้ง “อารมณ์ของพี่ชายเหมือนไม่ค่อยดีนัก หลังจากกลับมา ผู้อาวุโสหลายคนที่อยากไปคุยกับเขา ก็ล้วนถูกไล่ออกมาหมด ข้าเองก็ไม่กล้าเข้าไปวุ่นวาย”นางมองจั๋วซือหรานตาแป๋ว “พี่หญิงจั๋ว เป็นเพราะท่านหรือเปล่า?”“หือ?” จั๋วซือหรานส่งเสียงสงสัยขึ้นมาเฟิงหร่านถามขึ้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 722

    “ไม่มีเคล็ดวิชาอะไร กระทั่งไม่มีถุงเก็บสัตว์ด้วยซ้ำ แต่กลับเก็บแมงมุมหน้าผีระดับราชาลงไปได้ในชั่วพริบตา” ซางเชวี่ยเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ “ก่อนหน้านี้ตอนที่นางอัญเชิญราชาแมงมุมหน้าผีออกมา พวกเราถูกทำให้เข้าใจผิดจนคิดว่าอีกฝ่ายอัญเชิญออกมา คู่มือของนางคนนั้น แม้ความเร็วในการอัญเชิญจะเร็ว แต่ก็ยังต้องมีเคล็ดวิชาอะไรอยู่”“ตอนนั้นถูกเบนความสนใจจนไม่ทันสังเกต ตอนนี้กลับมองเห็นชัดเจนแล้ว ไม่แน่ว่าตอนที่นางอัญเชิญมาก็เป็นเช่นนี้ ไม่มีเคล็ดวิชาอะไรในการเก็บหรือเรียก” คนตระกูลซางที่ถูกจั๋วซือหรานแย่งราชาแมงมุมหน้าผีไปคนนั้นเอ่ยขึ้นเสียงขรึมเขาจู่ๆ ก็รู้สึกโชค ที่ตอนไปจัดการราชาแมงมุมหน้าผีในป่าลึกลับตอนนั้น ตนเองไม่ได้เผชิญหน้ากับจั๋วซือหรานเหมือนคนพวกนั้นตอนนั้นเขายังรู้สึกว่า ราชาแมงมุมหน้าผีถูกแย่งไปเพราะโชคดีที่ไม่ได้มาเจอกับเขา ดังนั้นจึงแย่งไปได้อย่างราบรื่นแต่พอเห็นตรงนี้ ในใจเขาก็แอบรู้สึกโชคดี ยังดีที่ตนเองโชคดี! ไม่ได้ไปเจอเข้ากับจั๋วซือหรานในตอนนั้น! ไม่เช่นนั้น เขาคงได้กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนอยู่ในป่าลึกลับเหมือนคนอื่นๆ พวกนั้นแน่!และบนเวทีประลองตอนนี้ หลังจากจั๋วซือหรานเก็บราชาหน้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 721

    เปรี๊ยะ...! ตอนที่เสียงนี้ดังขึ้น แจ่มชัดอย่างมากต่อให้ในสถานที่ที่สับสนวุ่นวายอย่างในลานประลอง ก็ยังแจ่มชัดอย่างมาก!ทุกคนล้วนมีปฏิกิริยากันขึ้นว่ามาต้นเสียงมาจากไหนแต่เพียงไม่นาน ก็มีคนพบขึ้นแล้ว“ดู...ดูสิ! ให้ตายเถอะ...เว เวที แตก...แตกออกแล้ว!”ภายใต้การจับตามองของทุกคน ด้านใต้ร่างกายของซางถิง แตกออกมาเป็นรอยแยกรอยหนึ่ง!“นั่น...นั่นไม่ใช่เวทีที่ทำจากหินต้องห้ามหรือ? ทำ ทำไมถึง...แตกล่ะ?”ระดับความแข็งของหินต้องห้ามแค่จินตนาการก็รู้แล้ว ไหนจะคุณสมบัติพิเศษของหินต้องห้ามที่สามารถสะกดพลังวิญญาณของมนุษย์ได้ถ้าหากไม่สามารถใช้พลังวิญญาณ แล้วคิดจะสร้างรอยแตกแก่หินต้องห้าม นั่นมันฝันกลางวันชัดๆทว่าตอนนี้ กลับมีคนทำได้แล้วก็คือคนที่เดิมทีถูกทุกคนดูถูกบนเวทีประลอง ถูกทุกคนเข้าใจว่าสู้หลอกๆ เข้าใจว่านางไม่มีฝีมือการต่อสู้...คนที่เป็นแค่หญิงสาวในสายตาของทุกคนคนนั้นจัดการหั่น...เวทีประลองที่ทำจากหินต้องห้ามนี้จนแตกหลังจากที่ทุกคนตระหนักขึ้นได้ ทั่วทั้งลานก็เงียบลงมาทันทีจั๋วซือหรานมองไปทางอินเจ๋ออัน อินเจ๋ออันก็สีหน้าปั้นยากขึ้นมา กระทั่งประกาศแพ้ชนะก็ยังลืมทำ ยืนแข็งทื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 720

    เพราะบนเวทีประลอง ไม่ค่อยจะมีความยอดเยี่ยมที่พิเศษนัก หรือก็คือ การต่อสู้ที่งดงามยอดเยี่ยม คนที่เก่งกาจจริงๆ ใครก็ไม่อยากจะมาเสียเวลาบนเวทีประลองระดับต่ำๆ เช่นนี้ปกติจึงมีแต่การต่อสู้ที่ไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรนัก และเพราะเหตุนี้ ทุกคนจึงอยากจะลองเดิมพันกัน อยากจะเห็นการต่อสู้ที่เลือดสาดยิ่งขึ้น เพราะมันต้องมีอะไรสักอย่างที่ดึงดูดสายตาแต่ตอนนี้ การต่อสู้บนเวที ไม่จำเป็นต้องเลือดสาด แค่นี้ก็ยอดเยี่ยมเพียงพอแล้วยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็มองออก!สถานการณ์ตอนนี้เหมือนเคยเจอมาก่อนเพียงไม่นาน ก็มีคนมีปฏิกิริยาขึ้นมา“ไม่ใช่เหมือนกับตอนยกแรกหรือ? แค่พลิกกลับมาเท่านั้น”“จริงด้วย! ตอนยกแรก เป็นหญิงสาวถูกอีกฝ่ายใช้แส้ไล่ฟาดบีบจนเข้าไปในระยะโจมตีของสัตว์ประหลาด!”“แต่ว่าตอนนี้เหมือนนางมาไล่บี้ชายคนนี้ไปในระยะของสัตว์ประหลาด...?”“ไม่ ไม่ใช่ นางบีบชายคนนี้ ตรงไปยังจุดโจมตีถัดไปของนาง!”“พอพูดเช่นนี้ ตอนยกแรกคงไม่ใช่ว่านางยอมให้คนอื่นชนะหรอกใช่ไหม...?”จั๋วซือหรานได้ยินเสียงเหล่านี้ หางตายกโค้งนางคิดจะให้ทุกคนรู้สึกเช่นนี้ พอเป็นแบบนี้ก็คงไม่มีใครรู้สึกว่านางไม่มีฝีมือ เอาชนะมาได้เพราะอีกฝ

DMCA.com Protection Status