Share

บทที่ 47

Author: หูเทียนเสี่ยว
ไม่ต้องพูดถึงที่นี่เลย แม้แต่ในจวนจั๋ว คนรับใช้หลายคนล้วนเคารพผู้มีฐานะ แต่ดูถูกผู้ที่ไร้ฐานะ

ดังนั้นหลังจากเจ้าของร่างเดิมตัดสินใจแต่งงานกับฉินตวนหยาง แม่ของเจ้าของร่างเดิมและจั๋วหวายต่างเริ่มได้รับการดูถูกในจวนจั๋ว

คนรับใช้วัยกลางคนคนนี้ถูกสั่งมาที่นี่เป็นพ่อดูแลบ้าน และเดิมทีเขาไม่พอใจกับชะตากรรมของเขาที่ถูก 'เนรเทศ'

นอกจากนี้ เมื่อเขาเห็นจั๋วซือหรานเพิ่งตื่นและนางดูเหมือนอ่อนแอและถูกกลั่นแกล้งได้ง่าย เขาเลยดูถูกในใจจั๋วซือหรานเล็กน้อย และทัศนคติในการพูดของเขาก็เป็นการไม่ให้ความเคารพโดยธรรมชาติ

ฝูซูขมวดคิ้วขณะที่เขาฟัง"เจ้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร ทำไมเจ้าถึงพูดกับคุณหนุเช่นนี้"

คนรับใช้วัยกลางคนโค้งริมฝีปากแล้วพูดว่า "ข้าพูดอะไรผิดไป อีกอย่าง คุณท่านลิ่วเป็นผู้ที่สั่งข้ามาเป็นพ่อดูแลบ้านของคุณหนูจิ่ว โดยปกติแล้ว เจ้าต้องรับใช้ข้า ดังนั้นเจ้าต้องพูดดี ๆ กับข้าต่างหาก”

“เจ้า” ฝูซูโกรธมากจนหน้าแดง เขาเป็นเพียงชายหนุ่มผู้ภักดีต่อเจ้านายของเขา เขามีนิสัยเรียบง่ายแต่พูดไม่เก่ง ทันใดนั้น เขาไม่ทราบต้องโต้เถียงกับคำพูดนี้

เมื่อจั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนั้น นางหรี่ตาลง บัดนี้นางไม่ง่วงนอนแ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Nongnuch Dit
ถามไม่ตอบโบนัสเอาไว้ทำอะไร
goodnovel comment avatar
Magister Mart WT
การพิมพ์การเรียบเรียงคำเหมือนนักแปลกำลังฝึกหัดเลย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 48

    “เจ้าสองคนแหละ เจ้าคุมเหล่าคนรับใช้เพศชาย ส่วนเจ้า คุมเหล่าคนรับใช้เพศผู้หญิง พวกเจ้าสั่งงานเอง”มีว่างฝูอันน่าเวทนาเป็นตัวอย่าง จั๋วซือหรานเชื่อพวกเขาจะไม่กล้าก่อเรื่องในชั่วคราว“ในเมื่อพวกเจ้ามาจากจวนจั๋ว ทางนั้นว่าอย่างไร หนังสือสารกรมธรรม์ของพวกเจ้าจะให้ข้าเก็บไว้หรือให้จวนจั๋วเก็บไว้เหมือนเดิม” จั๋วซือหรานถาม แต่เมื่อนางเห็นพวกเขายังหวาดกลัวอยู่ ดูเหมือนนางคงไม่ได้คำตอบหรอกจั๋วซือหรานโบกมือ "ช่างมันเถิด วันหลังข้าไปหาผู้อาวุโสใหญ่เอง เอาหนังสือสารกรมธรรม์ของพวกเจ้ากลับมาละกัน"จั๋วซือหรานไม่แน่ใจนางจะเอาหนังสือสารกรมธรรม์กลับมาได้หรือไม่ แต่สิ่งที่นางมั่นใจนั้นก็คือ ในบรรดาคนรับใช้ที่ตระกูลจั๋ว จัดไว้นั้น จะต้องมีสายลับของตระกูลจั๋วแน่ ๆว่างฝูนั้นที่ขดตัวเป็นกลอม ๆ นอนบนพื้นตรงนั้น ดูเหมือนว่าเขายังไม่หายจากอาการตกใจครั้งก่อนแต่ทันทีที่เขาได้ยินจั๋วซือหรานพูดถึงหนังสือสารกรมธรรม์ เขาก็ลุกขึ้นยืนและคลานไปหาจั๋วซือหรานทันที ราวกับว่าเขาฟื้นคืนสติก่อนที่จะเสียชีวิตหากคุณหนูจิ่วไปเอาหนังสือสารกรมธรรม์ของพวกเขาจากจวนจั๋วจริง ๆ นั่นหมายความว่า นางมีสิทธิ์ขายได้ตามใจชอบแม้ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 49

    เมื่อเปรียบเทียบกับจั๋วซือหราน ผู้หญิงที่เกือบถูกครอบครัวของทอดทิ้ง สถาบันแพทย์หลวงสนใจผู้ที่เป็นเส้นสายและผู้ที่มีบุญคุณมากกว่า และยินดีกับคนเหล่านั้นอย่างไม่ต้องสงสัยดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่มีหนวดคนนี้จึงตัดสินใจกีดขวางจั๋วซือหรานสอบใบอนุญาตแพทย์ เพื่อแสดงความเป็นมิตรกับเหยียนชางสถาบันแพทย์หลวงใครจะไปรู้คุณหนูจั๋วจิ่วผู้นี้ พูดจาโหดเช่นนี้เจ้าหน้าที่ที่มีหนวดโกรธมาก เขาพูดอย่างไม่พอใจ "เจ้ากล้าเรียกชื่อของหัวหน้าของสถาบันแพทย์หลวงได้อย่างไร คุณหนูจั๋วจิ่ว หัวหน้าของสถาบันแพทย์หลวงกลัวหญิงสาวที่ไร้เตียงสาอย่างเจ้าหรือ เจ้าไม่กล้วหาเรื่องใส่ตัวเองหรือ "จั๋วซือหรานเหลือบมองชายที่มีหนวดสั้น ๆ นางโบกมือแล้วพูดว่า "ช่างเถิด ทำไมข้าต้องเสียเวลามาคุยกับเจ้า... "ชายที่หนวดสั้น ๆ ยังคงอยู่ที่นั่นและพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดุถูก"ในเมื่อเจ้าไม่อยากอยู่ที่นี่ อย่าสอบใบอนุญาตแพทย์ละกัน แม่นางจั๋วจิ่วเย่อหยิ่งเช่นนี้ ทำไมเจ้าไม่ไปสอบแพทย์กลั่นยาล่ะ โถ มีทักษะการแพทย์ไม่มาก คิดว่าตัวเป็นหมอเทวดา ถุย”จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "แพทย์กลั่นยาหรือ เจ้าเตือนฉันพอดี"นางสะบัดแขนเสื้อแล้วหันตัวบ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 50

    เพียงแต่หลังจากที่ฝูซูดีใจ เขาก็เริ่มคิดอย่างมีเหตุผล เขาขมวดคิ้วและกระซิบว่า “แต่คุณหนูคะ หน่วยสืบสวนพิเศษไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าเลย เราคงเข้าไปไม่ได้หรอกนะ”หลังจากที่จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดของเขา นางมองไปในทิศทางหนึ่งอย่างกะทันหัน จากนั้นก็ยกมือขึ้นทันทีไม่มีใครสังเกตนางมีอาวุธสีดำอยู่ในมือของนางเมื่อไร เสียง ปัง ปัง ปัง ปัง ดังขึ้น เสียงหลายเสียงดังทะลุอากาศติดต่อกัน มุ่งหน้าตรงไปในทิศทางนั้นและในทิศทางนั้น เพื่อหลบการโจมตีฉับพลันของนาง ชายที่สวมชุดดำปรากฏตัวจากมุมถนนด้วยท่าทีเขินอายเล็กน้อยชายชุดดำตกตะลึงอย่างมาก ไม่เพียงเพราะจั๋วซือหรานสังเกตร่องรอยของเขาอย่างง่ายดาย แต่จากการโจมตีอย่างรวดเร็วภายในเวลาอันสั้นของจั๋วซือหราน นางอาจสังเกตการติดตามของเขาเสียนานแล้ว เพียงแต่นางทนถึงเวลานี้ จึงโจมตีเขาสิ่งที่ทำให้ชายชุดดำตกใจยิ่งกว่านั้นคือการโจมตีของจั๋วซือหราน เขาไม่รู้ว่ามันเป็นอาวุธประเภทใด แต่มันรวดเร็วและแม่นยำมาก หากเขาไม่หลบ เขาอาจจะโดนลูกศรเหล็กอันสั้นสี่ดอกนั้นไม่ต้องพูดถึงว่าชายชุดดำมองเห็นไม่ชัดเจน ฝูซูเองก็ไม่ทันมองคุณหนูของเขาลงมือเมื่อไรเขาเพียงรู้สึกคุณหนู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 51

    แพทย์กลั่นยามีจำนวนที่น้อยมาก นั่นเป็นเพราะว่าเกณฑ์นั้นสูงมากหากผู้ใดอยากเป็นแพทย์กลั่นยา ผู้ที่สอบไม่เพียงต้องต้องรู้วิชาการแพทย์เท่านั้น แต่ยังต้องเข้าใจเภสัชวิทยาและพิษวิทยาด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้สอบต้องรู้จักสมุนไพรนับร้อยชนิดและรู้วิธีจับคู่และประสานกันดังนั้นเมื่อเทียบกับแพทย์กลั่นยา การสอบใบอนุญาตแพทย์ก็ง่ายพอ ๆ กับน้ำดื่มและเนื่องจากการที่เป็นแพทย์กลั่นยาต้องมีความสามารถขั้นเทพ โดยปกติแล้ว ไม่หมอกลั่นยานอกระบบคนไหนมาสอบเป็นแพทย์กลั่นยาแพทย์กลั่นยาของแผ่นดินใหญ่มักจะรวมตัวในเจ็ดลัทธิหลัก และแพทย์กลั่นยาที่เก่งที่สุดในเจ็ดลัทธิหลักมักจะรวมตัวอยู่ในลัทธิตันติ่งจั๋วซือหรานรู้ทั้งหมดนี้ และนางทราบดีด้วยว่า ไม่เคยมีผู้ที่อยู่นอกระบบนิกายสอบเป็นแพทย์กลั่นยาได้ แน่นอนว่าไม่สามารถพูดได้ว่า ไม่มีนักเล่นแร่แปรธาตุที่นอกระบบ แต่มีแพทย์กลั่นยานอกระบบที่เรียนด้วยตนเองเดิมทีพวกเขาชินกับการมีความเป็นอิสระแล้ว พวกเขาไม่อยากมาสอบเป็นแพทย์กลั่นยาหรอกดังนั้นจึงเป็นเรื่องจริงที่ว่า แทบไม่มีใครสอบแพทย์กลั่นยาเมื่อซือหลี่ตันติ่งได้ยินจุดประสงค์ของจั๋วซือหราน เขาก็เงียบ "ไม่เคยมีคนมาสอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 52

    อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ซือหลี่ตันติ่งคิดว่าจั๋วซือหรานจะยอมแพ้แต่จั๋วซือหรานไม่ยอมแพ้ นางถามคำถามอื่นเท่านั้น "ใต้เท้าเจ้าคะ ตามหลัก ความเสี่ยงและผลประโยชน์ควรมีอยู่ร่วมกัน หากข้าสอบไม่ผ่านแพทย์กลั่นยา ข้าต้องรับโทษหนักเช่นนี้เพื่อชดใช้ความประมาทเลินเล่อของข้า…”ทันใดนั้น ในดวงตาที่อยู่ด้านหลังของหน้ากากของซือหลี่ตันติ่งเริ่มเกิดความสนใจออันแปลกประหลาดผู้หญิงคนนี้...ไม่กลัวหรือเห็นได้ชัดว่า ก่อนหน้านี้เขาเห็นความตกใจเล็กน้อยในดวงตาของนาง แต่ตอนนี้ดวงตาสีน้ำตาลของนางไม่มีสีหน้าที่สั่นเทาอีกต่อไป แต่ยังคงสงบราวกับว่าแค่มองดวงตาของนางก็จะรู้สึกว่า นางทำได้ง่ายมากจั๋วซือหรานกล่าวต่อ "...ตามเกณฑ์ หากข้าผ่านการสอบแพทย์กลั่นยา ข้าควรได้รับผลประโยชน์มากมาย ท่านคิดว่าอย่างไร"ซือหลี่ตันติ่งหรี่ตาลง และในทันใดนั้น ในน้ำเสียงอันดังของเขาเต็มไปด้วยความดีใจพวกเขาอยู่ห่างไกลจากลัทธิและได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นซือหลี่ในหน่วยสืบสวนพิเศษแคว้นต่าง ๆ แม้ว่างานนี้จะเป็นคุณสมบัติ แต่จริง ๆ แล้วในช่วงเวลาที่รับหน้าที่ ชีวิตของพวกเขาค่อนข้างน่าเบื่อนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับคนที่น่าสนใจใ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 53

    เมื่อจั๋วซือหรานเดินออกจากหน่วยสืบสวนพิเศษ ฝูซูกำลังกังวลมากเมื่อเขาเห็นจั๋วซือหรานเดินออกมา เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก "คุณหนู"ทำไมจะร้องไห้แล้ว” จั๋วซือหรานเห็นดวงตาของฝูซูแดงก่ำ นางรู้สึกกตลก“ข้ากลัว นั่นคือหน่วยสืบสวนพิเศษนะขอรับ ใครจะไม่กลัว หน่วยสืบสวนพิเศษล่ะ ข้าเคยได้ยินคนอื่นเล่ากันว่า หลายคนเข้าไป ออกมาไม่ได้”ฝูซูรีบยกมือเช็ดตาแล้วพูดต่อ "และคุณหนูเป็นผู้ที่ขู่คนของหน่วยสืบสวนพิเศษ จึงเข้าไปได้"แน่นอนว่าเขากังวลคนของหน่วยสืบสวนพิเศษจะหาเรื่องของคุณหนูของเขาเพียงแต่ฝูซูยังหนุ่มอยู่ หลังจากเขาเห็นจั๋วซือหรานเดินออกมาอย่างปลอดภัย เขาหายความค่อยกังวลเล็กน้อย และเขาเริ่มสนใจของอย่างอื่น“คุณหนูขอรับ ม้วนนี้คืออะไรขอรับ” ฝูซูถามและมองดูม้วนหนังสือในมือของจั๋วซือหรานด้วยความอยากรู้อยากเห็น “มันดูละเอียดและงามมาก”ตอนที่จั๋วซือหรานได้รับม้วนหนังสือที่ซือหลี่ของลัทธิตันติ่ง โยนมา นางก็เดินออกมาก่อนโดยไม่ได้สังเกตม้วนหนังสือนี้ดี ๆหลังจากฝูซูเตือนนาง นางจึงสังเกตและตระหนักว่า มันเป็นม้วนหนังสือที่สวยงามมากจริง ๆ ภายนอกทำจากผ้าต่วนที่มีคุณภาพอย่างสูงและด้านในทำจากกระดา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 54

    แม้ว่าผู้รับใช้ที่ที่เหยียนชางเชื่อที่สุดสืบสวนข่าวนี้มาก แต่พวกเขาก็ไม่เข้าใจความหมาย "เพียงว่าข้าน้อยไม่เข้าใจ นางไปหน่วยสืบสวนพิเศษทำไมขอรับ"เหยียนชางโยนชามชาอีกใบแล้วพูดด้วยความโกรธ "จะทำอะไรได้อี! นางทำอะไรได้อีก นอกจากจะไปฟ้องข้า"เหยียนชางรู้ยัยเด็กที่แซ่จั๋วนั้นเป็นเด็กที่ไม่ยอมเสียเปรียบ มีอะไรต้องแก้แค้นแน่ ๆ ครั้งสุดท้ายเขาไปฟ้องนางที่หน่วยสืบสวนพิเศษ จนนางต้องทนทุกข์ทรมานมากมายจากการลงโทษของหน่วยสืบสวนพิเศษจั๋วซือหรานต้องแก้แค้นแน่ ๆ ตอนนี้นางไปที่หน่วยสืบสวนพิเศษ นางอาจไปฟ้องเขาใช้อำนาจในทางที่ผิดและติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันไม่ให้นางสอบใบอนุญาตแพทย์เหยียนชางรีบเดินไปทางหน่วยสืบสวนพิเศษเนื่องจากตระกูลเหยียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซือหลี่ของลัทธิฉือซือหาง ดังนั้นเหยียนชาง ที่จะไปที่ หน่วยสืบสวนพิเศษ จึงไม่คดเคี้ยวเท่ากับ จั๋วซือหรานเหยียนชางได้พบซือหลี่ฉือหางอย่างรวดเร็ว ซือหลี่ฉือหางช่วยเขาอย่างไม่ถือสาเขาพาเหยียนชางไปหาซือหลี่ตันติ่ง“แม่นางคนที่เก้าของตระกูลจั๋วมาที่นี่เพื่อพบซือหลี่ตันติ่ง ” ซือหลี่ฉือหางพูดเหยียนชางยกมือขึ้นและโค้งคำนับให้กับซือหลี่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 55

    ซือหลี่ตันติ่งไม่กล่าวอะไร ซึ่งถือเป็นการยินยอมเหยียนชางตกใจอย่างมาก ในชั่วขณะนั้น เขาแทบจะไม่มีปฏิกิริยาแต่เขาค่อย ๆ รู้ตัว ยัยจั๋วซือหราน ทำไมยัยเด็กนี้ไม่ยอมแพ้สักที นางไม่กลัวสิ่งใดเลยจริง ๆ นางไม่กลัวอะไรเลยหรือความไม่เกรงกลัวของนางจะทำให้คู่ต่อสู้ของนางหวาดกลัวได้อย่างง่ายดายเพราะเรื่องต่าง ๆ มักจะเป็นเช่นนี้ เมื่อเจ้าไม่กลัวสิ่งใด ๆ ศัตรูของเจ้าจะเริ่มกลัวแทนยิ่ง จั๋วซือหราน แบบนี้ เขาจะเอาชนะอุปสรรคใด ๆ เพียงเพื่อแข่งขันกับ ตระกูลเหยียน ของพวกเขา ในมุมมองของเหยียนชาง เขามักรู้สึกมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า นางจะต้องชนะการแข่งขันครั้งนั้นยิ่งนางแข็งแกร่งเท่าไร นางจะยิ่งไม่กลัวมากขึ้นเท่านั้น เขามักจะอ่อนแอมากขึ้นเท่านั้น และยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นเท่านั้นเป็นเพราะความกลัวนี้เองที่ทำให้เหยียนชางเสียสติในชั่วขณะเขาระงับอารมณ์และควบคุมน้ำเสียงไม่ได้ เขาบอกซือหลี่ตันติ่ง"ท่าน ท่านจะให้นางมาสอบแพทย์กลั่นยาได้อย่างไร ใคร ๆ ก็สอบแพทย์กลั่นยาได้เลยหรือ ยัยเด็กเย่อหยิ่ง นางคิดว่าตัวเองใช้ทักษะการแพทย์เป็นบ้าง และนางจะเก่งมาก ”ซือหลี่ฉือหางที่อยู่ด้านข้างกายเริ่มโกรธ และเสียงที่อ่อ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1142

    จั๋วซือหรานไม่มีเรื่องอื่นให้ทำ จึงเริ่มตั้งใจค้นคว้าหุ่นเชิดความมืดอย่างจริงจังแม้จะบอกว่าไม่เหมือนคืนนั้น ที่มีพลังวิญญาณความร้อนของใครบางคนคอยขับไล่ความเย็นเยือกให้แต่น่าจะเพราะคนนั้นก่อนหน้านี้คอยเฝ้านางอยู่ทั้งคืน จึงยังพอเหลือประสิทธิภาพอยู่บ้างบวกกับว่า หลังจากที่จั๋วซือหรานค้นคว้าหุ่นเชิดความมืดมานาน เริ่มจะพอคลำๆคุณสมบัติมันได้บ้างแล้วดังนั้น จั๋วซือหรานรูสึกว่า ตนเองน่าจะมีปัญหาไม่มากนักเพียงแต่ว่า นางนำตลับหุ่นเชิด...หรือก็คือที่คุณชายเยี่ยนทิ้งไว้ให้ ตลับหุ่นเชิดที่รื้อออกมาจากบนตัวผู้ดูแลชุยพอเปิดออก ตอนที่ปล่อยหุ่นเชิดความมืดที่ปิดผนึกอยู่ด้านในออกมาจั๋วซือหรานยังรู้สึกตกตะลึงอยู่"นายท่าน นี่มัน..." ราชาแมงมุมหน้าผีเองก็เห็นสถานการณ์นี้ รู้สึกประหลาดใจหน่อยๆจั๋วซือหรานมองหุ่นเชิดความมืดที่ออกมาจากในตลับหุ่นเชิดนี้ เป็นเหมือนกับหุ่นเชิดความที่ได้มาก่อนหน้าตัวนั้น ใส่หุ่นเชิดความมืดเอาไว้ตามหลักการแล้วจะต้องมีปราณหยินอยู่มหาศาล กระทั่งพลังเย็นเยือกยังส่งผลกระทบต่อตัวคนอีกด้วยแต่พอเปิดตลับหุ่นเชิดนี้แล้วปล่อยหุ่นเชิดความมืดออกมา กลับไม่มีกลิ่นอายพลังเย็

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1141

    "ได้ๆๆ กินไปๆๆ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นอย่างจนใจเทียบกับแมลงกู่ในหลุมฆ่าเหล่านี้ที่ไม่รู้ว่าจะหลอมเป็นนางพญากู่แบบไหน จั๋วซือหรานก็ยังเอ็นดูเจ้าก้อนเนื้อทั้งเจ็ดของตนเองมากกว่า ถึงอย่างไรก็มีความรู้สึกต่อกันนี่นะแม้จะบอกว่าสำหรับแมลงกู่ในหลุมฆ่าพวกนี้ จั๋วซือหรานอันที่จริงก็รู้สึกสนใจอยากจะเปิดกล่องสุ่มดูเหมือนกันแต่ก็ทนดูสภาพน้ำลายสออขงเจ้เาจ็ดตัวนี้ไม่ได้จริงๆความรู้สึกนี้เหมือนกำลังมองเด็กๆ บ้านตัวเองแอบจ้องอาหารในชามคนอื่นจนน้ำลายไหลอย่างไรอย่างนั้น...จั๋วซือหรานยังพูดไม่ทันขาดคำ เจ้าเจ็ดตัวนุ่มนิ่มหนุบหนับตรงหน้านางที่ดูอารมณ์ดีสุดๆ นี้ก็กางฟันแหลมคมของพวกมันเองออกมาในพริบตา ดูดุร้ายมากยื่นไหมกู่ที่คมกริบออกไปฉับพลัน!จั๋วซือหรานถอนใจ เดินไปอยู่ข้างๆ ไม่รบกวนการกินของพวกมันบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนยังคงเบ่งบานได้ไม่เลว ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่เหมือนตอนที่อยู่ในป่าด้วย ที่ส่งผลกระทบกับพื้นที่ออกไปกว้างๆเพียงแค่แผ่ออกไปเป็นรัศมีประมาณบ้านหลังหนึ่งจากจุดที่มันอยู่เท่านั้น ที่มีหมอกพิษของป่าปกคลุมอยู่แมงมุมของนางล้อมอยู่รอบๆ ต้นไม้ต้นนี้ อยู่ในหมอกพิษของมัน ราวกับกลาย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1140

    "ความเร็วนี้ยังพอไหว พยายามไปให้ถึงเขตเมืองอวิ๋นในช่วงค่ำให้ได้" จั๋วซือหรานเอ่ยกำชับ"รับทราบ" เหลียนเจินขานรับจั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "พวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ยังไหวไหม?"เหลียนเจินซาบซึ้งขึ้นในใจ รู้ว่านายท่านเป็นห่วงสุขภาพของพวกเขา ถึงอย่างไรก่อนหน้าที่จะถูกนางรับตัวมา พวกเขาก็เพิ่งจะผ่านการทรมานของเหอจื้อหย่วนไป"นายท่านวิชาแพทย์ยอดเยี่ยม ใช้ยาได้ราวกับเทพ พวกข้าน้อยฟื้นฟูได้ระดับหนึ่งแล้ว นายท่านวางใจได้เลย พวกข้าน้อยจะไม่ทำให้งานของนายท่านล่าช้าแน่" เหลียนเจินเอ่ยขึ้นเสียงขรึมเขาเองก็รู้สาเหตุและเหตุผลการเดินทางครั้งนี้ของนายท่านจากเจิ้นเจียงแล้ว เข้าใจความรู้สึกของนายท่านดีจั๋วซือหรานพยักหน้า "อืม ถ้าอย่างนั้นก็ดี"สายตานางเหลือบมองไปด้านหลัง เอ่ยกับเหลียนเจินว่า "ท้ายสุดแล้ว พวกเจ้าก็เป็นคนของข้า แล้วข้าเองก็ดีกับคนของข้ามาโดยตลอด ดังนั้นถ้าหากพวกเจ้ามีตรงไหนไม่ค่อยดี ก็ไม่ต้องเอาแต่ทนไว้"จั๋วซือหรานยิ้มๆ "รีบขึ้นรถม้าไปพักผ่อนซะ แล้วให้เจ้าพวกบนรถม้านั่นลงมาวิ่งตามรถก็พอ"บนใบหน้าเคร่งขรึมของเหลียนเจิน ผ่อนคลายลงมาเพราะคำนี้ของนายท่าน เผยรอยยิ้มออกมา"รู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1139

    มนุษย์กู่ แค่ฟังจากชื่อ ก็น่าจะไม่ใช่ตัวเลือกอะไรที่น่ายอมรับแล้วแต่มนุษย์เราก็เป็นแบบนี้ มักจะถูกครอบงำได้ง่ายจากปรากฏการณ์รื้อหน้าต่างแม้ว่ามนุษย์กู่จะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีมาก แต่ขณะเผชิญหน้าความตาย ก็เหมือนจะเปลี่ยนเป็นอะไรที่ไม่ได้ยอมรับยากขนาดนั้นแล้วผู้จัดการพยักหน้าแทบไม่ทัน รีบร้อนตอบว่า "มนุษย์กู่! ข้ายอมกลายเป็มนุษย์กู่ของท่าน!"เมืองหยางถึงอย่างไรก็เป็นเมืองที่อยู่ใกล้พรมแดนใต้ ดังนั้นจึงค่อนข้างเข้าใจต่อพิษกู่ดังนั้นจึงเข้าใจคร่าวๆ แม้พิษกู่จะรุนแรงมาก แต่ปรมาจารย์กู่ถ้าหากใส่กู่เข้าไปในมนุษย์กู่ที่ตนเองเลี้ยง ก็จะไม่ทำให้ตายไปอย่งแท้จริง ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ปกติ จะต้องเจ็บตัวบ้าง แต่ก็ไม่ถึงชีวิตปันอวิ๋นเดิมทีก็อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว มองออกได้ไม่ยากแต่หลังจากที่ผู้จัดการพยักหน้าหงึกหงัก อารมณ์เขาก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาพอควรผู้จัดการเห็นตราประทับกู่ในมือเขา ปรทับลงมาบนตัวตนเองแม้ใจจะหวาดกลัว แต่ก็ไม่กล้าขยับตัวซี้ซั้วรู้สึกแค่ว่าที่หลังคอเหมือนถูกอะไรบางอย่างเล็กๆ แทงเข้ามา ไม่ได้เจ็บปวดอะไรนัก"เอาล่ะ ตัวข้ายังมีเรื่องต้องไปทำ เท่านี้ก่อนแล้วกัน" ปันอวิ๋นเอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1138

    เสียงของเขาดูไม่ได้ใส่ใจนัก "โอ้ ล้มเหลวไปแล้ว""เจ้าขยะ" ในน้ำเสียงอีกด้านมีความรู้สึกที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด "เจ้าเฟิงเหยียนนั่นอย่างน้อยก็ยังรู้จักให้ความร่วมมือลบความทรงจำทิ้ง แต่เจ้า แค่ให้ไปปล้นก็ยังไม่สำเร็จ เจ้ามันขยะกว่าเขาเสียอีก"ปันอวิ๋นพอได้ยิน มุมปากยังคงเป็นเส้นโค้งที่ดูประชดประชัน ในดวงตาไม่มีความอบอุ่นใดอยู่อีกด้านไม่รอเขาตอบ เอ่ยต่อมาว่า "ดังนั้นตอนแรกพวกเราถึงให้หลงเฉินเลือกเฟิงเหยียนไม่เลือกเจ้าไงล่ะ ดูท่าจะไม่ได้เลือกผิด"เส้นโค้งประชดประชันเหล่านั้นของมุมปากปันอวิ๋นลดลงมา ความอบอุ่นในดวงตาเย็นเยียบไปแล้วอย่างสิ้นเชิงเพียงแต่น้ำเสียงฟังแล้วยังดูนิ่งไม่มีความผันผวนใด ราวกับไม่มีอารมณ์ใดๆ อยู่"แต่ตอนนี้พวกเจ้าก็ยังต้องให้ข้ามาจัดการความยุ่งยากของเฟิงเหยียน" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ"แล้วเจ้าจัดการแล้วหรือยัง? ให้เจ้าไปปล้นมาก็ยังทำไม่ได้" เสียงจากอีกด้านหัวเราะเย็นชาขึ้นมาแต่ปันอวิ๋นก็หัวเราะขึ้นเบาๆ ดูนิ่งมาก "ข้าเป็นพวกเมตตาต่อสตรีนะ เรื่องปล้นอะไรไม่ถนัดหรอก แต่ยังพอเปลี่ยนวิธีแก้ไขความยุ่งยากได้""เจ้ายังมีวิธีอะไรอีก? อย่าคิดว่าตัวเองฉลาดนักเล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1137

    ผู้จัดการโรงเตี๊ยม เกือบร้องจะร้องแหลมขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ แต่ยังดีที่ทนเอาไว้ อย่างน้อยก็ไม่เหมือนผู้เฒ่าเหอที่ร้องเป็นไก่เมื่อวานนี้"เจ้า เจ้า..."เดิมทียังคิดจะถามว่าเป็นใคร แต่ผู้จัดการก็มองออกทันที หนึ่งในผู้ชายป่าเถื่อนที่จั๋วซือหรานผู้หญิงตัวซวยคนนั้นพากลับมาจากที่ผู้จัดการโรงเตี๊ยมเห็น ที่ผู้หญิงตัวซวยคนนั้นพามาล้วนเป็นผู้ชายป่าเถื่อนทั้งสิ้นหลักๆ คือนางเองไม่ได้พาผู้หญิงกลับมา ไม่ว่าจะเชลยหรือว่าอะไรก็ตาม...ไม่ว่าจะใครก็ล้วนเป็นผู้ชายทั้งสิ้นแต่นอกจากเชลยเหล่านั้น คนที่นางพากลับมาสองคน ไม่ว่าจะใคร ดูแล้วก็อันตรายไม่แพ้กันผู้จัดการยังคิดว่าพวกเขาจะไปพร้อมกันเสียอีก!ทำไม! ทำไมยังเหลือทิ้งไว้อีกล่ะ?!"เจ้า...ทำไมถึงไม่ได้ไปกับนาง..." ผู้จัดการพูดจาตะกุกตะกักไปหมดแล้ว ถอยหลังออกมาก้าวหนึ่งด้วยสัญชาตญาณ เพราะรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าคนนี้ แม้จะหน้าตาหล่อเหลา แต่ก็ดูชั่วร้ายมากแค่เหลือบมองก็รู้สึกอันตรายแล้วแต่ว่าอีกฝ่ายกลับไม่ให้โอกาสเขาได้ถอยหนีคิ้วยาวเขาเลิกขึ้นเล็กน้อย "ดูท่า นางจะเป็นตัวซวยคนนั้นจากปากของเจ้าสินะ?"ผู้จัดการไม่กล้าพูด แต่พริบตาต่อมา มือก็ถูกออกแ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1136

    เจิ้นเจียงไม่ค่อยเข้าใจคามหมายลึกๆ ของคำพูดนี้เพียงแต่ดูแล้ว นายท่านเองก็เหมือนไม่คิดจะไปตามหาคุณชายเหยี่ยนด้วย"ให้ข้าน้อยไปตามหาคุณชายเยี่ยนไหมขอรับ?" เจิ้นเจียงถามจั๋วซือหรานส่ายหัว "ไม่ต้องแล้ว ข้าเสียเวลาที่นี่อีกไม่ได้แล้ว ข้ายังมีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการอีก"เจิ้นเจียงเองก็เข้าใจ เรื่องของคุณชายน้อยจั๋วหวาย เป็นเรื่องสำคัญในตอนนี้ของนายท่านยิ่งไปกว่านั้นพอดูแล้ว อารมณ์ของนายท่านก็เหมือนจะปรับเรียบร้อยแล้วด้วยกระทั่งอารมณ์ที่ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้ เหมือนจะสภาพหดหู่เล็กๆ ก็ยังกลับมาเป็นปกติแล้วเจิ้นเจียงรีบตามนางไป จากนั้นก็ได้ยินนางเหมือนจะงึมงำกับตนเองแว่วมาตามสายลม"ยิ่งไปกว่านั้นใครจะูร้ว่าเขาไปแล้วจริงหรือเปล่า ไม่แน่อาจจะหลบอยู่ใกล้ๆ แอบฟังก็ได้..."จั๋วซือหรานให้เจิ้นเจียงไปจัดการรถรางวัล เตรียมตัวออกเดินทางเดิมทียังกังวลว่ารถจะไม่พอใส่ ถึงตอนนั้นคงต้องพิจารณาเรื่องซื้อรถม้า หรือไม่ก็ให้สำนักเมฆาวารีพวกนี้วิ่งตามรถม้าเอา...ผลคือตระกูลเหอก็ส่งรถม้าเข้ามา เรียกได้ว่าพอง่วงหนอนหมอนก็หนุนเข้ามาพอดีคนสำนักเมฆาวารีที่เป็นเชลยจากด่านกระดูกแพะก่อนหน้นี้ สภาพจิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1135

    "นายท่าน?" เจิ้นเจียงเห็นจั๋วซือหรานยืนอยู่แถวบ่อน้ำ เหมือนจะไม่ขยับตัวมาพักหนึ่ง จึงหันหน้ามองไปทางนางอย่างสงสัย"มีอะไรหรือ?" เจิ้นเจียงเดินขึ้นเข้ามา และเห็นสายตาตกตะลึงหน่อยๆ ของนายท่าน เอ่ยถามเสียงต่ำว่า "มีอะไรผิดปกติหรือขอรับ?"จั๋วซือหรานจึงเก็บสายตากลับ "ไม่มีอะไร ไปเถอะ ห้องเขาอยู่ที่ไหน?""โอ้! ตามข้ามาเลย" เจิ้นเจียงนำทางจั๋วซือหรานต่อไปทางห้องแขกเพียงแต่ว่า เขาไม่รู้ว่าเข้าใจผิดหรือเปล่า รู้สึกเหมือนการก้าวเดินของนายท่าน เทียบกับความเอ้อระเหยไม่รีบร้อนก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะรีบเร่งขึ้นมาพอควร!ไม่นานนัก เจิ้นเจียงก็นำมาถึงประตูห้องแขก"ที่นี่ขอรับ" เจิ้นเจียงกดเสียงต่ำ บอกกับจั๋วซือหรานว่า "แต่ว่า นายท่าน ตอนนี้มันจะเช้าไปหน่อยไหม? ถ้าคุณชายเหยี่ยนยังพักผ่อนอยู่ล่ะ..."จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็เหมือนไม่ได้ยิน ยกมือขึ้นเคาะประตู"ตึงๆๆ..."ในประตูไม่มีปฏิกิริยาการเคลื่อนไหวใดเจิ้นเจียงเอ่ยขึ้นข้างๆ "คุณชายเหยี่ยนน่าจะยังไม่ตื่น นายท่าน ถ้างั้น..."เสียงเขายังไม่ทันขาด ก็เห็นนายท่านขมวดคิ้ว จากนั้นสองมือก็ค่อยๆ ดันเปิดตรงหน้าเจิ้นเจียงรู้สึกว่า เหมือนมีพลังอบอุ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1134

    จั๋วซือหรานรับรายชื่อของขวัญมา กวาดตามองผาดหนึ่ง คิ้วเลิกขึ้นเบาๆ "จวนตระกูลเหอส่งมาหรือ?""ขอรับ ส่งมาแต่เช้าตรูเลย น่าจะเตรียมไว้เมื่อคืนนี้" เจิ้นเจียงเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานดีดรายการของขวัญในมือเบาๆ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม "ดูท่าเหอจื้อหย่วนจะกลัวจริงๆ ซะแล้ว"เมื่อคืนนี้ก่อนที่นางจะออกมาบอกกับเหอจื้อหย่วนเรื่องที่นางจะสะสางหนี้ ดูท่าจะทำเขาผวาไปแล้วฟ้ายังไม่สาง ก็ส่งกองนี้เข้ามา"ต้อง ต้องรับไว้ไหม?" เจิ้นเจียงดูจะระแวดระวัง "จะมีตุกติกอะไรหรือเปล่า?""จะมีอะไรตุกติกได้อีก" จั๋วซือหรานยิ้มๆ "ยังมองไม่ออกอีกหรือ?""มองอะไร...ไม่ออกหรือขอรับ?" เจิ้นเจียงไม่เข้าใจจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "เขากำลังขับไล่สิ่งอัปมงคลนี่ ให้ข้ามาเยอะขนาดนี้ คงอยากให้ข้ารีบไปเต็มแก่แล้ว..."เจิ้นเจียงได้ยินคำนี้ แม้จะรู้สึกดู...ยังไงๆ อยู่ แต่ก็...เหมาะควรดีจั๋วซือหรานเดิมทียังไม่ได้นอนมาคืนหนึ่ง แม้คุณสมบัติร่างกายจะแข็งแกร่ง ด้านสุขภาพไม่มีอาการเหนื่อยล้า แต่ในด้านจิตใจก็มีอาการเหนื่อยล้าเล็กๆตอนนี้ก็ดูจะมีแรงขึ้นหน่อย ถือรายการของขวัญมือไพล่หลังเดินไปยังรถของขวัญด้านนอกเพื่อตรวจสอบ ดูแล้วจิตใจจะ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status