Share

บทที่ 432

Author: หูเทียนเสี่ยว
แต่จั๋วซือหรานรู้สึกตัวเองอย่าท้าทายกับความอ่อนแอของเหล่าผู้อาวุโสเลยดีกว่า

นางกำลังจะยกมือขึ้นแล้ว เมื่อคิดเช่นนี้ นางวางลงอีกครั้ง

วินาทีต่อมา จั๋วซือหรานตกตะลึง เพราะมือของชายคนนั้นยื่นออกมาจากด้านข้าง มือข้างนั้นมีข้อต่อที่ชัดเจน นิ้วยาว และมีหนังด้านหยาบอยู่ที่ปลายนิ้ว

เจ้าของมือนั้นค่อย ๆ ปาดเหงื่อเล็ก ๆ ที่ปลายจมูกของนางออก

“ขอบคุณ” จั๋วซือหรานกล่าว

มีผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งที่เพิ่งอาเจียนเสร็จ บัดนี้เขายังหายใจไม่ดีอยู่เล็กน้อย เขาพูดว่า " แม่นางจิ่ว แม่กู่อยู่ในหัวของพวกเขาไม่ใช่หรือ หากไม่อยู่... ทำไมเจ้าถึงตีหัวพวกเขา"

จั๋วซือหรานเหลือบมองหลุมดำบนหัวของตัวที่ถูกอาศัย เมื่อครู่นางยิงหัวนั้น ไม่มีแม้แต่เลือดไหลออกจากบาดแผล เหมือนเลือดในร่างกายของพวกเขาหายไปนานแล้ว

“มันไม่อยู่ในหัว” จั๋วซือหรานตอบ จากนั้นนางหัวเราะ “จากว่าไป หากมันจะอยู่ในหัว ข้าล้วกหัวพวกเขา พวกเจ้าจะไม่อาเจียนหรือ”

เหล่าผู้อาวุโสจินตนาการภาพนั้น แค่นึกภาพนั้น พวกเขาก็ทนไม่ไหวแล้ว

จั๋วซือหรานดึงมือของนางออกจากหน้าอกของศพที่ถูกแม่กู่อาศัย มือของนางสะอาดและไม่มีคราบสกปรกใด ๆ

จั๋วซือหรานมองไปที่มือของนาง น
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 433

    หน้าอกของร่างศพนั้นโค้งขึ้นก่อน ดูเหมือนมันต้องการเข้าใกล้มือของจั๋วซือหราน หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือ มันต้องการเข้าใกล้เนื้อและเลือดของจั๋วซือหรานจากนั้น ร่างกายส่วนบนทั้งหมดก็ค่อย ๆ โค้งงอและยืนขึ้นสำหรับคนทั่วไป ฉากนี้ดูน่าขนลุกเห็นได้ชัดว่าคนที่เสียชีวิตเต็ม ๆ แล้วได้ฟื้นความสามารถในการเคลื่อนไหวตัวแม้แต่นี่เป็นการกระทำง่าย ๆ ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกน่าทึ่งเหล่าผู้อาวุโสมองด้วยความตกตะลึง แม้ว่าพวกเขาทุกคนทราบกันดีว่า เฟิงจู๋ตายเสียนานแล้ว เขาเสียชีวิตแล้วจริง ๆแต่เมื่อพวกเขาเห็นฉากนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่ต้องเรียก “จูเอ๋อร์”แน่นอนว่าไม่มีการตอบกลับจั๋วซือหรานเอียงศีรษะเล็กน้อย นางมองดูร่างศพที่มีแม่กู่อยู่ บัดนี้ร่างศพนี้กำลังค่อย ๆ ยกขึ้นที่ใต้มือของนาง นางเลิกคิ้วขึ้น แผลบนฝ่ามือของนางเริ่มหายดีด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากนั้น ราวกับว่ามีดาบคมที่มองไม่เห็นอีกอันในอากาศ กระทบกับบาดแผลเดิมในมือของนางอีกครั้งเลือดกำลังไหลออกมาเร็วขึ้นจั๋วซือหรานกำมือของนางเบา ๆ เพื่อให้เลือดหยดเร็วขึ้นนางโค้งมุมปากของนางขึ้นเล็กน้อย “ชอบพวกนี้หรือ เอาน่า มาเลย…”

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 434

    พวกเขามองจั๋วซือหรานอีกครั้ง ดวงตาของพวกเขาแสดงความลึกเล็กน้อยหนอนพิษกู่นี้น่ากลัวจริง ๆหากเป็นเรื่องจริงอย่างที่เหยียนเอ๋อร์พูด หนอนพิษกู่นี้อาจสามารถควบคุมคนที่ถูกอาคมหนอนพิษกู่ได้ในระดับหนึ่งดวงตาของจั๋วซือหรานเปล่งประกาย และเห็นได้ชัดว่านางเริ่มสนใจแม่กู่นี้มากขึ้นเรื่อย ๆ นี่ช่างน่าสนุกเหลือเกินนางไม่เคยเจอของเช่นนี้มาก่อนในชาติที่แล้ว เพราะในโลกของชาติที่แล้วไม่มีของเช่นนี้จริง ๆ ...จั๋วซือหรานรู้สึกถึงควมรู้สึกอันนุ่มนวลระหว่างปลายนิ้วของนาง นางมั่นใจนางสัมผัสมันได้แล้วเพียงแต่ดูเหมือนว่ามันจะหยั่งรากอยู่ใน 'รัง' นี้ นางดึงมันออกมาไม่ได้เลยช่างเป็นตัวเล็กที่ดื้อรั้นจริง ๆแต่ดูเหมือนว่ามันแค่ห่วงแต่ของอร่อย ๆมิฉะนั้น เห็นได้ชัดมันไม่ต้องเปิดเผยตัวเองเลย แต่มันถูกดึงดูดโดยพลังวิเศษอันแข็งแกร่งของการแพทย์สายวิเศษที่อยู่ในพลังทางจิตวิญญาณของไม้ ในเลือดของนางพลังทางจิตวิญญาณของไม้สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสิ่งมีชีวิตอยู่แล้ว เมื่อคู่กับความมีชีวิตชีวาของพลังการแพทย์สายวิเศษนั้นจะไม่น่าดึงดูดได้อย่างไรแต่เมื่อจั๋วซือหรานเอื้อมมือออกไป นางได้ใช้ความสามารถขอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 435

    จั๋วซือหรานรู้สึกว่านางค่อนข้างเข้าใจหลักการของหนอนพิษกู่นี้เส้นใยเหล่านี้ที่พองตัวขึ้นอย่างกะทันหันเป็นวิธีที่ใช้ในการควบคุมการกระทำของเฟิงจู๋และคนอื่น ๆดังนั้น แม้ว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บที่ข้อต่อของแขนขา แต่พวกเขาก็ไม่สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวแต่พวกเขายังคงสามารถเคลื่อนไหว เพียงเพราะเส้นใยเหล่านี้กำลังดึงร่างกายของพวกเขา เหมือนหุ่นเชิด...เหมือนผู้ที่ถูกควบคุมเพียงเพราะหนอนพิษกู่ตัวนี้ไม่แข็งแรงพอ พลังของเส้นใยเหล่านั้นจึงไม่เพียงพอที่จะควบคุมแขนขาของพวกมันได้อย่างแม่นยำและพิถีพิถันดังนั้นเมื่อเฟิงช่าน เฟิงจู๋และคนอื่น ๆ ถูกควบคุม การเคลื่อนไหวของพวกเขาจึงดูกระตุกและแข็งทื่อมากหากมันเป็นหนอนพิษกู่ที่แข็งแกร่งพอ...จั๋วซือหรานบอกการคาดเดาของนางให้เฟิงเหยียนและผู้อาวุโสฟังผู้อาวุโสทุกคนต่างตกใจเมื่อได้ยินคำพูดนี้“ แม่นางจิ่ว เจ้าหมายถึง...เจ้าหมายถึง...”จั๋วซือหรานเหลือบมอง 'ขนมชาม' ที่อยู่ในมือของนาง "ข้าคิดว่าหากมันเป็นหนอนพิษกู่ที่มีความแข็งแกร่งเพียงพอ มันจะสามารถควบคุมร่างกายของเฟิงจู๋ เฟิงช่านและคนอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่ การเคลื่อนไหวของพวกเขาคล่องแคล่วมา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 436

    ก่อนที่เหล่าผู้อาวุโสเดินออกจากตำหนักใต้ดิน พวกเขาทั้งหมดมองจั๋วซือหรานด้วยสายตาที่ซับซ้อนมากแม้ว่าพวกเขามีอายุมากกว่านางหลายปีก็ตาม แต่พวกเขายังต้องยอมรับว่า ผู้หญิงคนนี้ทำตามที่นางพูดจริง ๆก่อนที่พวกเขาเดินออกจากตำหนักใต้ดิน จั๋วซือหราน กล่าวว่า "ใช่แล้ว ข้ามีเรื่องหนึ่งที่ต้องปรึกษากับผู้อาวุโส"ตอนนี้เหล่าผู้อาวุโสปฏิบัติต่อจั๋วซือหรานอย่างมีมารยาทที่พอสมควรดังนั้นเราต้องยอมรับว่า บางครั้งหากเราต้องการได้รับความเคารพจากผู้อื่น เราต้องชิงความเคารพนั้นด้วยความแข็งแกร่งและความสามารถของตัวเอง“ เชิญแม่นางจิ่วพูด” เหล่าผู้อาวุโสกล่าว“วางศพของสามคนนี้ไว้ที่นี่ มีแต่จะเพิ่มความเสี่ยง ให้ข้าจัดการจะดีกว่าไหม” จั๋วซือหรานแนะนำเหล่าผู้อาวุโสตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าสิ่งที่จั๋วซือหราน พูดถึงคือร่างศพสามคนนั้นที่แม่กู่อาศัยเหล่าผู้อาวุโสลังเลเล็กน้อย ดูเหมือนพวกเขาตัดสินใจลำบาก“ แม่นางจิ่ว ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากสัให้เจ้า เพียงแต่...”จั๋วซือหรานพยักหน้าเมื่อนางได้ยินคำพูดของพวกเขา นางพูดว่า "ข้าเข้าใจความกังวลของพวกเจ้า เพราะต้องรีบนำคนที่เสียชีวิตไปฝัง พวกเขาจะไปขึ้นสวรรค์อย่างม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 437

    คนรับใช้ที่อยู่ด้านข้างถามด้วยความเคารพ " เจ้าหุบเขา กำลังพูดถึงแม่กู่เส้นไหมที่ท่านปรับแต่งมาก่อนและจัดเตรียมส่งไปยังแคว้นชางหรือ"“ใช่” เสียงอันมีเสน่ห์นั้นตอบเบา ๆ “มันเป็นเพียงหนอนที่ปรับแต่งไม่สำเร็จ ทางนั้นต้องการ ข้าเลยเอาให้พวกเขา”“ตายแล้วหรือ” คนรับใช้ที่ยืนอยู่ด้านข้างถามแม้ว่าในเวลานั้น พวกเขาเอาหินนำทางให้ทางนั้นแล้ว จากการเปลี่ยนแปลงของหินน้ำทาง ผู้ที่ถือหินนำทางสามารถรับรู้ได้ว่าแม่กู่ตายหรือไม่แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหุบเขาในฐานะที่เป็นผู้ปรับแต่งแม่กู่เหล่านั้นยังคงมีความสามารถระดับหนึ่งที่รับรู้การเปลี่ยนแปลงของแม่กู่เพราะเวลากลั่นพิษกู่ในระดับนี้ ต้องใช้เลือดของหัวใจดังนั้นการตอบสนองที่ผู้กลั่นมีต่อหนอนพิษกู่ไม่เหมือนหินนำทางที่รับรู้แค่ว่าหนอนกู่นั้นตายหรือไม่ ผู้กลั่นรับรู้ถึงละเอียดมากกว่า“มันยังไม่ตาย” ชายผู้มีดวงตาสองสีที่ถูกเรียกว่า เจ้าหุบเขา พูด “บางทีมันอาจจะมีชีวิตที่ดีกว่า”“เช่นนั้นทางเราต้องการส่งข้อความถึงแคว้นชางหรือไม่” คนรับใช้ถามชายผู้มีดวงตาสองสีคิดอยู่ครู่หนึ่ง รูปลักษณ์และลักษณะใบหน้าของเขาดูมิติมาก เผยให้เห็นลักษณะของคนต่างแดน เขายิ้ม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 438

    เด็กผู้หญิงบนที่นั่งไม่พูดอะไร และหลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางจึงพูดเบา ๆ “มันยังไม่ตาย มันแค่หรี่ลงนิดหน่อย บางที... ตัวถูดแม่กู่อาศัยตายแล้ว”เจาหมิ่นยิ้มและพูดอย่างเย็นชา "อย่างไรก็ตาม พวกเขาเป็นพรสวรรค์ที่โดดเด่นของตระกูลเฟิง แต่ตระกูลเฟิงละทิ้งพวกเขาโดยไม่ลังเลใด ๆ ช่างเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองหลวงของแคว้นชางอย่างแท้จริง"“ถ้าอย่างนั้น... ตอนนี้องค์หญิงจะไปเยี่ยมจวนของตระกูลเฟิงหรือไม่” หนึ่งในนั้นถามอีกครั้งเจาหมิ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางยกมุมปากขึ้นแล้วยิ้มอย่างไร้ความอบอุ่น “อย่ากังวล รออีกสักสองสามวัน หากตัวที่ถูกแม่กู่อาศัยตาย เช่นนั้นเรารอให้แม่กู่ระเบิด เมื่ออาคมหนอนพิษกู่ถูกแพร่กระจายร้ายแรงในจวนของตระกูลเฟิงแล้ว ถึงเวลานั้น ข้าค่อยเสนอตัวล้างพิษให้พวกเขา จากนั้นพวกเขายิ่งขอบคุณข้า”......ในจวนเฟิง บรรยากาศเคร่งขรึมและเงียบอย่างมากผู้พิทักษ์เงาของเฟิงเหยียนได้กลับมาถึงจวนเฟิงกันแล้ว และตอนนี้พวกเขารวมตัวกันอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ของหอพักของเฟิงเหยียน“ท่านสั่งพวกข้าเลยขอรับ”ผู้พิทักษ์เงาทุกคนแต่งกายด้วยชุดสีดำและมีอารมณ์ที่น่าเกรงขาม พวกเขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกทีละคน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 439

    หลังจากสั่งงานผู้พิทักษ์เงาเสร็จแล้ว เฟิงเหยียนเรียกพ่อดูแลเรื่องต่าง ๆ ของจวนของตระกูลเฟิง เขาสั่งงานอย่างอื่นแก่พ่อดูแลกิจกรรมของจวนเฟิงเมื่อสั่งงานเสร็จเฟิงเหยียนจึงเหลือบมองฉูนจวีน “ จั๋วเสียวจิ่วอยู่ที่ไหน”“แม่นางน่าจะกำลังทานข้าวอยู่กระมัง” ฉูนจวีนตอบ เขารู้สึกหมดคำพูดเล็กน้อยเพราะจะคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ที่ช่วยตระกูลเฟิงพ้นตัวออกจากวิกฤติในเหตุการณ์นี้หลังจากนางแก้ไขวิกฤติต่าง ๆ เหล่านั้นและจัดการทุกเรื่องเสร็จเมื่อนางเดินออกจากตำหนักใต้ดิน เหล่าผู้อาวุโสถามนางว่า พวกเขาสามารถทำอะไรให้นางได้บ้างสิ่งที่นางพูดคือ...“ข้าหิว ข้าอยากกินของอร่อย ๆ ”จากนั้นเหล่าผู้อาวุโสรีบออกคำสั่งและเตรียมอาหารให้นางอย่างรวดเร็วฉูนจวีนกล่าวต่อ "แค่ดูเหมือนว่า แม่นางจิ่วไม่ค่อยพอใจกับอาหารที่จวนเราเตรียมให้แม่นาง"เดิมทีเฟิงเหยียนอาจจะไม่เข้าใจ แต่เฟิงเหยียนเคยลิ้มรสทักษะการทำอาหารของนางแล้วดังนั้นเขาไม่แปลกใจเลยที่จั๋วซือหรานอาจจะไม่ชอบอาหารของจวนเขา "พ่อครัวของจวนเราทำอาหารพอใช้ได้จริง ๆ นางค่อนข้างจู้จี้จุกจิกกับอาหารการกิน นางไม่ชอบกับข้าวในจวนเรา นั่นเป็นเรื่องธรรมดา"เมื่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 440

    นี่คือเหตุผลที่ฉูนจวีนค่อนข้างตกใจจั๋วซือหรานจะไม่เห็นความตกใจของเขาได้อย่างไร นางยิ้มและพูด "พวกเจ้าไม่มีความรู้สึกเลยใช่ไหม"“ข้าไม่ได้สังเกตขอรับ ส่วนเจ้านาย…” ฉูนจวีนไม่แน่ใจจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงมองไปที่เฟิงเหยียนเฟิงเหยียนส่ายหัวแล้วพูดว่า "ข้าไม่สังเกตเลย"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ จั๋วซือหรานยิ้มและพูด "เป็นเรื่องปกติที่พวกเจ้าไม่สังเกต"“จะปกติได้อย่างไร” เฟิงเหยียนมองนางจั๋วซือหรานกล่าวว่า "มันพิสูจน์ให้เห็นว่าข้ามีความเชี่ยวชาญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการใช้พลังวิเศษ และ..."นางจ้องเข้าไปในดวงตาของเฟิงเหยียน แล้วพูดว่า "ข้าได้รับพลังวิเศษมากมายจากท่านอ๋อง"ทันทีที่นางพูดถึงเรื่องนี้ สมองของเฟิงเหยียนก็นึกย้อนไปถึงตอนที่เขายังอยู่ในตำหนักใต้ดินเขาจูบกับนางอย่างเร่าร้อนภายใต้สายตาของผู้อาวุโสหลายคน...“แค๊ก” เฟิงเหยียนไอด้วยน้ำเสียงเข้ม เขามองไปทางอื่นเล็กน้อยเมื่อเห็นเขาทำตัวเช่นนี้ จั๋วซือหรานอดไม่ได้ที่ต้องหัวเราะกล่าวโดยสรุป ก่อนที่นางมาที่นี่ จั๋วซือหรานจึงสังเกตพลังวิเศษของนางดูเหมือนมีความแตกต่างปเล็กน้อยเนื่องจากลักษณะของพลังทางจิตวิญญาณของนางเปลี่ยนไปบางทีอาจเป็น

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status