Share

บทที่ 330

Author: หูเทียนเสี่ยว
เฟิงเหยียนยังรออีกสักพัก แต่จั๋วหยุนเฟิงยังไม่ทันพูดต่อ แต่เขารอจนกระทั่งจั๋วหยุนเฟิงถูกประสิทธิภาพของยาทรมานอีกครั้ง

เฟิงเหยียนเลิกคิ้วและพูดอย่างใจเย็น “พิษของจั๋วเสียวจิ่วช่างน่าสนใจจริง ๆ เจ็บบ้าง ไม่เจ็บบ้าง เหมือนกับการให้กำเนิดเด็ก

ในที่สุดจั๋วหยุนเฟิงสามารถเอาชนะความเจ็บปวดที่เกิดจากผลของยาได้ในครั้งนี้ เขาถาม “เจ้า...เจ้าพูดอะไร”

“คำพูดของเมื่อครู่นี้ พุดจบหรือยัง” เฟิงเหยียนถามอย่างใจเย็น

จั๋วหยุนเฟิงหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ดูเหมือนเขาดีใจอย่างมากเมื่อเขาเห็นเฟิงเหยียนใจเย็นต่อไม่ได้

“ทำไม เจ้าโกรธหรือ หรือว่าเรื่องที่ข้าพูดไม่เป็นความจริง” จั๋วหยุนเฟิงถามเฟิงเหยียนกลับครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อให้เฟิงเหยียนแสดงอะไรบางอย่าง เขาจะได้มีความสุขทางจิตใจมากขึ้น

แต่เฟิงเหยียนไม่ได้ว่างขนาดนั้น เขาพยักหน้าเล็กน้อย “เช่นนั้น ข้าถือว่าเจ้าพูดจบแล้ว ข้าอยากรู้จริง ๆ เจ้าได้รับข้อมูลนี้จากใคร”

“ทำไม...ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วย” จั๋วหยุนเฟิงยังคงมีรอยยิ้มที่เย่อหยิ่งและบิดเบี้ยวอยู่บนใบหน้าของเขา

แต่เขาก็รู้สึกอย่างคลุมเครือว่า ดูเหมือนกับทัศนคติของเฟิงเหยียนผิดปกติเล็กน้อย

ในขณะน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 331

    กระบี่เสวียนเหยียนเจาะเข้าที่ไหล่ของจั๋วหยุนเฟิง โดยตรง“เอ่อ อ๊า——!” จั๋วหยุนเฟิงส่งเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวด เสียงของขณะนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากเสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดครั้งก่อนเมื่อเขาถูกทรมานด้วยผลของยา มันฟังดูน่าสังเวชมาก“เจ้า...เจ้าทำอะไร...เจ้าทำอะไรไป...” จั๋วหยุนเฟิงถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า“ไปถามช่องข้อมูลของเจ้า ข้าแน่ใจว่ามันจะบอกเจ้าว่า ข้าทำอะไรไป” เฟิงเหยียนสะบัดเลือดบนกระบี่เสวียนเหยียน จากนั้นใส่มันกลับเข้าไปในฝักแล้วหันหลังและเดินออกไปเพราะเจ้าจั๋วเสียวจิ่วคนนี้เรียนอะไรกับตันติ่งก็ได้ ทำไมต้องเรียนเรื่องพิษ แถมยังเรียนกลั่นพิษประเภทที่ไม่ทำร้ายชีวิตของผู้คน แต่เพียงทำให้ผู้คนต้องทนทุกข์ทรมาน นางยังเรียนรู้มันได้ดี และผลกระทบของพิษนี้กลับส่งผลกระทบเป็นระลอก ทำให้กลิ่นในห้องนี้... ทนไม่ไหวจริง ๆเฟิงเหยียนเพิ่งหันตัวกลับ เขาได้ยินเสียงอันเร่งด่วนของจั๋วหยุนเฟิงจากข้างหลังเขา "ข้า ข้าจะบอก"เฟิงเหยียนหยุดก้าวเท้าเพียงชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก้าวเท้าเดินต่อจั๋วหยุนเฟิงล้มลงกับพื้นและมองเฟิงเหยียนเดินออกไป ในที่สุด เขาก็เริ่มกังวลเล็กน้อยและพูดซ้ำ ๆ ว่า "ข้าจะบ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 332

    เฟิงเหยียนเหลือบมองฉูนจวีน เฟิงเหยียน สำหรับคำพูดของฉูนจวีน เขาไม่ตอบอะไร เขาแค่พูดเบา ๆ ว่า "กลับกันเถิด"......จั๋วซือหรานไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้ในจวนของนาง นางทำอาหารอร่อย ๆ ให้ท่านแม่และน้องชายบางครั้งอาหารก็เป็นพลังที่ดีที่สุดที่สามารถช่วยผ่อนคลายและปลอบใจคนอวิ๋นเหนียงยืนอยู่ที่ประตูห้องครัว มองลูกสาวของนางยุ่งทำกับข้าวอย่างเป็นระเบียบ นางรู้สึกตัวเองทำไม่ถูกและรู้สึกค่อนข้างเป็นทุกข์ ก่อนที่นางออกเรือน นางยังเป็นสตรีชั้นสูงและไม่เคยทำงานบ้านเลยแต่เมื่อนางเห็นลูกสาวของนาง ซึ่งอาศัยอยู่ที่นี่เพียงช่วงเวลาอันสั้น ๆ เท่านั้น แต่ทำอาหารเก่งขนาดนี้ นางก็อดไม่ได้ที่ต้องรู้สึกเศร้าแม้ว่านางเคยชิมอาหารที่จั๋วซือหรานทำมาก่อน แต่ก็ยังมีความแตกต่างระหว่างการชิมและการเห็นลูกสาวทำอาหารด้วยตาของนางเองจั๋วซือหรานมองออกว่า เป็นเพราะเรื่องของวันนี้ อารมณ์ของท่านแม่ได้รับผลกระทบอย่างมาก ขณะที่นางยังทำอาหารอยู่ นางบอกจั๋วหวายว่า ทำอะไรก็ได้ ต้องทำให้ท่านแม่ดีใจดังนั้นในมื้อเย็น อาจกล่าวได้ว่า จั๋วหวายพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้ท่านแม่ดีใจ แต่โชคดีที่ในที่สุดเขาก็ทำให้ท่านแม่ของเขายิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 333

    “แม้หลายปีที่ผ่านมา แม่ก็ไม่นับตัวเองเป็นลูกสาวของตระกูลเซี่ย แม่ไม่ใช่หยุนซี ลูกสาวของตระกูลเซี่ย แต่เป็นเพียงอวิ๋นเหนียง ลูกสะใภ้ของตระกูลจั๋ว จนถึงวันนี้ ”อวิ๋นเหนียงกล่าวพร้อมกับน้ำตาที่ส่องประกายในดวงตาของนางจั๋วซือหรานเห็นน้ำตาของท่านแม่ นางจึงเอื้อมมือออกไปจับมือของอวิ๋นเหนียงเบาๆ "ท่านแม่"อวิ๋นเหนียงสูดจมูกและกลั้นน้ำตาแล้วพูดต่อ "จนถึงวันนี้ เมื่อคนเหล่านั้นของตระกูลจั๋วอยากลงโทษแม่ พวกเขายังจำได้ว่าแม่เป็นลูกสาวของตระกูลเซี่ย แม่เป็นคนที่พวกเขาไม่กล้าทำร้าย"“ไม่เพียงแค่นั้น ก่อนที่ลูกมาช่วยแม่ แม่ได้ยินพวกเขาพูดว่า...”ก่อนที่อวิ๋นเหนียงจะพูดจบ น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาของนางแล้ว น้ำตาตกลงไปที่หลังมือของจั๋วซือหรานด้วยเสียงกระทบกันอวิ๋นเหนียงหายใจเข้าลึก ๆ และสงบสติอารมณ์ก่อน ค่อยพูดต่อ "...แม่ได้ยินพวกเขาบอกว่า เมื่อก่อน เคยมีคนของบ้านคุณตามาหาแม่ แม้ว่าแม่ไม่รู้เรื่องนี้ก็จริง แต่ก็มีคนคอยหนุนหลังแม่จริง ๆ "อวิ๋นเหนียงยกมือขึ้น นางเช็ดน้ำตาและพูดต่อ "ไม่น่าแปลกใจเลย แม่แต่งเข้าตระกูลจั๋ว แม่มากับท่านพ่อขเงเจ้าลำพังโดยไม่มีสินสอด แต่หลายปีที่ผ่านมา แม่ไม่เคยได้รับ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 334

    เขาอยู่ในตอนนั้น การกระทำของเขาในตอนนั้น เขาไร้ประโยชน์มากจนตัวเองยังดูถูกตัวเองเลยจั๋วซือหรานจะไม่ทราบได้อย่างไรว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังเป็นห่วงเขาล่ะนางเม้มมุมปาก เลิกคิ้วแล้วถาม "จริงหรือ"“จริงขอรับ” จั๋วหวายพยักหน้าราวกับไก่จิกข้าว“เอาล่ะ เช่นนั้นพรุ่งนี้เจ้าไปเรียนที่หอหลวงเลย” จั๋วซือหรานกล่าวทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา ใบหน้าของจั๋วหวายก็แข็งค้างทันที “เรียน เรียนหรือ”“ไหนบอกว่าจะตั้งใจเรียนไม่ใช่หรือ” จั๋วซือหรานถามจั๋วหวายพูดด้วยสีหน้าอันโศกเศร้า “แต่ แต่เรียน...”“นี่คือโอกาสที่ข้าชิงมาอย่างอยาก หลาย ๆ คนของตระกูลจั๋ว อยากไป แต่พวกเขาไปไม่ได้” จั๋วซือหรานกล่าวเมื่อจั๋วหวายได้ยินคำพูดนี้ เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ เขาทำได้เพียงพยักหน้าอย่างฝืนใจ "เอา...เอาล่ะ ข้าไปเรียนก็ได้"“จ้ะ เด็กดี ไปเก็บข้อมูลก่อน ข้าเสร็จธุระเมื่อไร ข้าจะไปโรงเรียนกับเจ้า” จั๋วซือหรานตบไหล่ของจั๋วหวายเบา ๆ “เอาล่ะ รีบไปนอนเถิด” พรุ่งนี้ไปเรียน อย่าสายไปสายล่ะ..."จั๋วซือหรานยังไม่ทันพูดจบ มีการเคลื่อนไหวที่มีเสียงดังมาจากทิศทางของประตูมีร่างหนึ่งเคลื่อนเข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว และฉวนคูนหอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 335

    คำพูดของชิ่งหมิงทำให้จั๋วซือหรานประหลาดใจ “ใช่หรือ”นางเลิกคิ้ว “เจ้าหมายความว่า เจ้าอยากไปช่วยข้าที่จวนจั๋วหรือ”ชิ่งหมิงเป็นห่วงอย่างมาก จนใบหน้าของเขาแดงก่ำ เขาพยักหน้าอย่างแรงและพูดซ้ำว่า " ป๋อยวน ไม่ให้"จั๋วซือหรานยังคงเม้มมุมปากอยู่ แต่นางก็ไม่มีอะไรต้องโกรธด้วยเหตุนี้จั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า " จากมุมมองของซือหลี่ตันติ่งและหน่วยสืบสวนพิเศษ นี่เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาไม่อนุญาตเจ้าไปหาข้าอย่างประมาทเช่นนี้"ไม่ต้องพูดถึงหน่วยสืบสวนพิเศษ แม้แต่เมื่อราชวงศ์และฝ่ายราชการต้องเพชิญหน้าต่อเรื่องความขัดแย้งภายในตระกูลชนชั้นสูง พวกเขาก็จะไม่ พวกเขาไม่ยุ่งเรื่องของตระกูลชนชั้นสูง พวกเขาแค่พูดขอไปทีหลังจากทุกเรื่องจบกันมิฉะนั้น เมื่อพ่อแม่ของจั๋วหยุนเฟิงเสียชีวิตอย่างอนาถ คงไม่จบง่าย ๆ ที่ให้จั๋วหยุนฉีไปจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลหรอกนี่อาจถือได้ว่าเป็นการลงโทษที่ร้ายแรงมากสำหรับลูกหลานของสำนักงานใหญ่ของตระกูลของชนชั้นสูง เพราะหากถอนตัวจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลแล้ว โดยพื้นฐานแล้วจะไม่มีโอกาสเใช้ทรัพยากรของตระกูลแล้วแต่ในสายตาของคนนอก นี่เป็นเพียงการลงโทษอย่างขอไปที ถึงข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 336

    ชิ่งหมิงยังคงดูโกรธอยู่ แต่มองจากดวงตาของเขา เห็นได้ชัดว่า เขาเริ่มลังเลแล้ว เขาเงียบ ๆ อยู่พักหนึ่งสุดท้ายอดไม่ได้ที่ต้องถาม “ของ...อร่อยอะไร”จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่ของอะไรที่โดดเด่น มีเพียงอาหารเหลือที่ตอนที่นางทำกับข้าวให้ท่านแม่และน้องชายในตอนเย็น เช่น ผักตุ๋น และอื่น ๆของเหล่านี้เหมาะนำมาใช้เป็นอาหารจานหลัก เครื่องเคียง หรือแม้แต่เป็นของว่างคู่กับเครื่องดื่ม ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงทำไว้ให้เยอะ ๆเดิมทีนางวเก็บบางส่วนไว้ให้ชิ่งหมิง และส่งบางส่วนไปให้เฟิงเหยียนเช่นกันจั๋วซือหรานยืนขึ้นและเดินไปที่ห้องครัว ด้านหลังนาง ชายหนุ่มที่ยังคงนั่งอยู่บนบันไดด้วยความโกรธเล็กน้อย บัดนี้ เขาลุกขึ้นและเดินตามนางอย่างกระตือรือร้นจั๋วซือหรานทำบะหมี่ให้เขา เทน้ำแกงจากหม้อปรุงอาหารลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ จากนั้นใส่เนื้อตุ๋นที่หั่นบาง ๆ ปีกไก่ตุ๋น 2 อัน และไข่ตุ๋น 1 ฟอง จากนั้นใส่ผักลวกสองสามชิ้นบะหมี่เนื้อตุ๋นที่มีส่วนผสมมากมายก็ทำเสร็จแล้วเดิมทีจั๋วหวายยังยืนข้าง ๆ และไม่กล้าพูดอะไรเลย แม้ว่าเขาเคยเจอชิ่งหมิงมาก่อน ถือว่ารู้จักกันแล้วแต่ชิ่งหมิงเป็นผู้ที่มีนิสัยอ่อนโยนมากมาโดยตลอด และเขาไม่เ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 337

    ชิ่งหมิงรู้สึกเขินอายเล็กน้อย และใบหน้าของเขาแสดงความเขินอายที่จั๋วซือหรานคุ้นเคยในความเป็นจริง เขารู้อยู่ในใจว่าเหตุผลที่เขาพูดกับจั๋วซือหราน ได้คล่องเรื่อย ๆ ไม่ใช่เพราะเขาอิ่ม แต่เพราะการป้องกันของเขาต่อนางเริ่มลดลงเรื่อย ๆ นั่นคือสาเหตุที่เขาเป็นเช่นนี้เช่นเดียวกับตอนที่เขาคุยกับป๋อยวน ป็นการส่วนตัว เขาไม่ได้สะดุดมากนัก“พูดจริง ๆ นะ วันนี้หากข้ามาได้ เจ้าก็ไม่ต้อง ออกหน้าออกตาเลย และเจ้าก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บ”ชิ่งหมิงขมวดคิ้ว และใบหน้าอันหล่อเหลาของเขามีความกังวลเล็กน้อยในคำพูดของเขามีส่วนที่โทษตัวเองไม่ได้ไปช่วยเหลือจั๋วซือหราน และยังมีการดูถูกเรื่องของวันนี้ด้วย พูดให้ถูกคือ เขาดูถูกทั้ง ตระกูลจั๋วและจั๋วหยุนเฟิง "มันเป็นเพียงศิษย์ภายในของลัทธิเสวียนหมิง ไม่ใช่คนสำคัญอะไรเลย"จั๋วหวายกำลังกินเนื้อตุ๋นอยู่ เขาเกือบสำลัก เขาเลยรีบดื่มแกงก๋วยเตี๋ยวสองคำแล้วกลืนลงเขาตบหน้าอกของเขาด้วยความกลัว และหันไปมองชิ่งหมิง อย่างระมัดระวัง เดิมทีเขาคิดว่าชิ่งหมิงเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวและพูดไม่คล่อง... เป็นคนที่โหดเหี้ยมที่แม้แต่ลัทธิเสวียนหมิงก็ยังดูถูกจั๋วซือหรานทราบว่า หน่วยสืบสวนพิเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 338

    จะพูดอย่างไรดี นางไม่เคยกลัวใครเลยไม่ต้องสนใจมันเป็นโรคอะไรก็ตาม แม้ว่านางต้องแย่งชีวิตคนกับราชาแห่งนรก นางก็ต้องลองดูโดยเฉพาะเมื่อเผชิญหน้ากับดวงตาอันบริสุทธิ์และโปร่งใสของ ชิ่งหมิง ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเศร้า จั๋วซือหรานรู้สึกไม่ว่าอย่างไร นางต้องลองดูนางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "อย่าไปฟังเขา เขาเป็นแค่แพทย์กลั่นยา เขาเก่งเรื่องการวางยาพิษคนจริง ๆ แต่เขาอาจจะไม่สามารถรักษาคนได้ ดังนั้นเรื่องการแพทย์ เจ้าต้องฟังข้า ข้าจะลองดูก่อน "ดวงตาของชิ่งหมิงกระพริบตา แม้ว่าจะเห็นได้ชัดว่าเขายอมรับความเจ็บป่วยที่รักษาไม่หายแล้วแต่เขายังคงมีความสุขเพราะทัศนคติของจั๋วซือหราน เขาพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ดีจัง"“กล้าพูดนัก” ทันใดนั้นเสียงทุ้มก็ดังขึ้นวินาทีต่อมา ร่างสูงร่างหนึ่งก็รีบเข้ามาหาจั๋วซือหรานอย่างกะทันหัน ในมือนั้นมีแสงเย็นชาด้วยดวงตาของชิ่งหมิงเป็นประกาย"เฉียง——" เสียงบางอย่างดังขึ้นมีเสียงปะทะกันที่คมชัด และระหว่างสายฟ้ากับหินเหล็กไฟ มีดยาวสีดำทองได้ปิดกั้นการโจมตีที่เข้ามาคนคนนั้นปิดกั้นอาวุธของเขาห่างจากจั๋วซือหรานระยะหนึ่งจั๋วซือหรานนั่งที่ที่เดิมอยู่ นา

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status