แชร์

บทที่ 30

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
“ใครจะรู้ล่ะ แต่ก่อนหน้านี้มีข่าวแพร่สะพัดในวังหรือว่า ห้องหมอหลวงรักษาไทเฮาที่นอนสลบไม่ได้ แต่คุณหนูจั๋วจิ่วได้ทำการรักษาให้หายแล้วไม่ใช่หรือ”

“นั่นอาจเป็นเรื่องจริงก็ได้ อย่างไรก็ตาม ที่นี้ มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้จะได้ชม”

เมื่อจั๋วซือหรายตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น ข้าวลือก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงปากต่อปาก!

ชั่งเวลาที่ทานอาหารเช้า จั๋วหวายฝึกซ้อมตอนเช้าเสร็จและรีบกลับไปที่สวนจี๋หย่าย่วน

เขาไม่สามารถระงับความตื่นเต้นในน้ำเสียงของตนได้

“ท่านพี่ จริงไหมเนี่ย จริงหรือท่านพี่...ท่านพี่จะประลองกับตระกูลเหยียน จะแข่งฝีมือทางการรักษาจริงหรือ”

คำพูดของจั๋วหวายทำให้มารดาของเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และทันใดนั้นนางก็มองไปที่จั๋วซือหราน

จั๋วซือหรานยิ้มและไม่พูดอะไร

จั๋วหวายรู้คำตอบแล้ว ดวงตาของเขาเป็นประกาย

จั๋วซือหรานถามเขา "กลัวหรือ"

“ข้าไม่กลัวหรอกนะ” จั๋วหวายตอบอย่างไม่ลังเล

อวิ๋นเหนียงไม่ได้ไร้เตียงสาเหมือนเขา นางมองจั๋วซือหรานด้วยความกังวล "แม่รู้ว่าลูกมีพรสวรรค์อย่างมาก และมีความสามารถมากมายที่แม่ไม่รู้ แต่ตระกูลเหยียนถนัดการแพทย์ไม่ใช่หรือ"

นั่นเป็นเพราะในโลกนี้มีคนที่มีพรสวร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (4)
goodnovel comment avatar
apinyalive
รบกวนสอบถามค่ะ แอปนี้เก็บเงินเป็นรายสัปดาห์ใช่ไหมคะ ถ้าต้องการยกเลิกทำอย่างไรคะ รบกวนสอบถามผู้รู้ค่ะ ขอบคุณค่ะ
goodnovel comment avatar
warunee
เนื้อหาสนุกน่าติดตาม คนเขียนเก่งมาก
goodnovel comment avatar
มานัสรินทร์ อำมฤคขจร
3วันผ่านไปอัพเพิ่มหน่อยจ้า
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 31

    จั๋วซือหรานยืนอยู่ข้างนอก เมื่อนางได้ยินคำพูดเหล่านั้น นางหยุดก้าวเท้า และไม่รีบเดินเข้าห้อง“นั่นคือตระกูลเหยียนนัก พวกข้าทำให้พวกเขาไม่สบายใจง่ายเช่นนี้ได้หรือ” ผู้อาวุโสห้าพูดต่ออย่างโกรธ ๆ “ แม้แต่ หน่วยสืบสวนพิเศษ ก็ยังเข้าข้างพวกเขา นางเคยถูกจับกุมครั้งหนึ่ง นางยังไม่ได้เรียนรู้บทเรียนหรือ นางกล้าก่อเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร แล้วทีนี้ มันจะแก้ปัญหาอย่างไรล่ะ”ผู้อาวุโสห้าไม่ทันสนใจที่จะรักษาความเคารพต่อผู้อาวุโสใหญ่ อีกต่อไป เขาจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสใหญ่“ จั๋วหลาน ถึงเวลานนั้น เจ้าจะทำปกป้องนางอีกครั้งหรือ การที่รุกรานตระกูลเหยียน นั่นหมายถึงการรุกรานตระกูลเฟิง เวลานี้ นางไม่ได้หมั้นหมายกับเฟิงเหยียน ก่อนหน้านี้ นางเคยทำให้ตระกูลเฟิงไม่พอใจไปครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้ก่อเรื่องเช่นนี้อีกครั้ง นางกำลังวางแผนที่จะทำให้ตระกูลเฟิงขุ่นเคืองโดยสิ้นเชิงใช่หรือไม่”ผู้อาวุโสใหญ่มีบุคลิกที่สงบ เมื่อต้องเผชิญกับความก้าวร้าวของ ผู้อาวุโสห้า เขาไม่ตอบสนองและสีหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ดูเหมือนเขาไม่โกรธกับคำพูดอย่างแรงของผู้อาวุโสห้าเขาเพียงเหลือบมองไปทางประตู ราวกับว่า เขาสังเกตเห็นใครบางค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 32

    ผู้อาวุโสห้ายังคงโกรธอยู่ "นี่ จะตายแล้ว ยังไม่รู้จักผิดอีก"“ หากพวกท่านกำลังพูดถึงการแข่งขันกับตระกูลเหยียนละก็” เดิมทีก่อนที่จั๋วซือหรานเข้ามา นางว่าจะไว้หน้าให้พวกเขา แต่เมื่อนางได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสห้าจากข้างนอกนอกจากนั้นแล้ว เมื่อครู่ผู้อาวุโสห้ายังอยากโจมตีนางอย่างไม่ลังเล ซึ่งทำให้จั๋วซือหรานเลิกความคิดนี้โดยสิ้นเชิงจั๋วซือหราน ม้วนริมฝีปากของเขา มองไปที่ ผู้อาวุโสห้า และถามด้วยรอยยิ้ม "โอ้ คุณจะไม่แกล้งทำเป็นไม่รู้ตอนนี้เหรอ?"ใบหน้าของ ผู้อาวุโสห้า แข็งทื่อ "คุณพูดอะไร!"“ข้าหมายถึง เมื่อวาน ตอนที่ข้าถูกตระกูลเหยียนกล่าวหาว่า ข้าแอบฝึกทักษะทางการแพทย์ของตระกูลนั้น และข้าถูกหน่วยสืบสวนพิเศษพาตัวไปและถูกสอบปากคำอย่างทรมานเพื่อให้ช้าสารภาพความผิด พวกท่านแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องมิใช่หรือ”จั๋วซือหรานถามแล้วพูดต่อ "ข้าเสนอแข่งขันกับตระกูลเหยียน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้า ทีนี้พวกท่านไม่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วหรือ"ผู้อาวุโสห้าได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขาขมวดคิ้วและหน้าแดง แต่เขายังคงพูดอย่างไม่ยอม "ทำไม เจ้าสร้างปัญหาเอง เจ้ายังต้องการให้ครอบครัวช่วยเจ้าแก้ปัญห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 33

    ส่วนสาเหตุที่จั๋วซือหรานเสนอถอนตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลจั๋วในตอนนี้ ก็เป็นเพราะนางรู้สึกการตัดสินใจของคราวนี้ไม่แย่สำหรับคนอื่น พวกเขารู้สึกว่า การแยกตัวออกจากสำนักงานใหญ่เป็นหายนะ แต่สำหรับจั๋วซือหราน การแยกออกจากสำนักงานใหญ่ไม่ถือเป็นการเนรเทศแต่นางกลับคิดว่าการตัดสินใจของครางนี้ดีที่สุดแล้ว เพราะตราบใดที่นางแยกตัวออกจากสำนักงานใหญ่ นางจะไม่ถูกควบคุมมากนักมิฉะนั้น นางต้องระวังฝ่าฝืนกฎหมายครอบครัวของสำนักงานใหญ่ทุกเมื่อ นั่นไม่ใช่เรื่องตลกนอกจากนี้ เมื่อลูกศิษย์แยกตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลจั๋ว สำนักงานใหญ่จะให้ทรัพยากรบางอย่างเป็นพิเศษด้วย ลูกศิษย์เหล่านั้นที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลทรัพย์สินของครอบครัวในเมืองต่าง ๆ ไม่ได้มีชีวิตที่ยากจนหลายคนที่ไปอยู่ในที่มั่งคั่งและมีชีวิตที่สบายมากดังนั้นเมื่อเจ้าของร่างเดิมยืนกรานที่จะแต่งงานกับฉินตวนหยาง ก็ถือว่าแยกตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลดังนั้น แม้ว่าครอบครัวต้องอับอายมากในเวลานั้น แต่ครอบครัวก็ยังคงให้สินสอดแก่เจ้าของรางเดิมนี่คือวิธีการรักษาเกียรติของตระกูลจั๋ว ในฐานะที่เป็นหนึ่งในห้าตระกูลขุนนางหลักในเมืองหลวงจั๋

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 34

    นางพูดว่า " คุณท่านลิ่วโปรดระวังสิ่งที่ท่านพูด เสียวจิ่วของข้าไม่ได้ถูกไล่ออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูล เหล่าลูกสิษย์ที่แยกออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลและไปอยู่ต่างเมืองหลาย ๆ ที่ พวกเขาล้วนทุ่มเทเพื่อความเจริญของตระกูลจั๋ว หากะวกเขาได้ยินคำพูดของคุณท่านลิ่ว พวกเขาต้องเสียใจขนาดไหน ”ทีแรกคุณท่านจั๋วลิ่วยังสะใจอยู่ แต่เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่ใจเสาะและไม่เย่อหยิ่งของอวิ๋นเหนียง สีหน้าของเขาเปลี่ยนทันที“ข้ามาที่นี่ตามคำสั่งของผุ้อาวุโส มาส่งเจ้าไปจากคฤหาสน์” คุณท่านจั๋วลิ่วพูดอย่างเย็นชา “อย่ารอช้า รีบออกไปเถิด”สำนักงานใหญ่ไม่ได้จัดจวนที่อื่นให้ มันเป็นจวนที่เอาไว้พักอาศัยอยู่หลังจากแต่งงานกับจัวต้วนหยาง แน่นอนว่ามันไม่ดีเท่าจวนของตระกูลจั๋วหรอก แต่อย่างน้อยมันก็เป็นสถานที่ของตัวเองแม้ว่าในจวนหลังนี้ ความทรงจำของจั๋วซือหรานที่เกี่ยวกับชีวิตอย่างน่าสงสารของครึ่งหลังชีวิตของเจ้าของร่างเดิมอาจปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวแต่อย่างน้อย นางไม่ต้องใช้ชีวิตที่ไร้ความอิสระอย่างในคฤหาสน์จั๋วคุณท่านจั๋วลิ่วส่งจั๋วซือหรานมาถึงจวนแห่งนี้ เขาพูดอย่างเย็นชา "อีกไม่กี่วัน เจ้าแข่งขันกับตระกูลเหยียน ถึงเว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 35

    ทันทีที่นางได้ยินเสียงนี้ จั๋วซือหรานรู้สึกหมั่นไส้จากใจนางไม่แน่ใจความรู้สึกนี้เกิดจากความคิดที่หลงเหลือจากเจ้าของร่างเดิมหรือเปล่าเจ้าของของเสียงที่มาจากนอกประตูนั้นไม่ใช่ใคร แต่เป็นฉินตวนหยางอย่างแน่นอน บัดนี้เขากำลังเอามือตีประตูของจวนจั๋วซือหราน และตะโกนด้วยจวนของตระกูลจั๋วและจวนของตระกูลเฟิงตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีชนชั้นสูงที่ดีที่สุดของเมืองหลวง แต่จวนของจั๋วซือหรานไม่ได้อยู่ในพื้นที่นั้น สภาพแวดล้อมโดยรอบจึงไม่ได้เงียบมากนักการกระทำของฉินตวนหยางทำให้คนรอบข้างสนใจอย่างมากด้วยเสียงเอี๊ยด ประตูของจวนก็ถูกเปิดออกอย่างช้า ๆรูปร่างเพรียวบางยืนอยู่ที่ประตูด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามและบุคลิกที่โดดเด่นเนื่องจากขาของฉินตวนหยางถูกนางหักในวันแต่งงาน และขายังไม่หายดี เขาจึงถูกคนเอาเปลหามเขามานี่ และทีนี้เขาทำได้นอนบนพื้นหน้าประตูเท่านั้นจั๋วซือหรานมองเขาด้วยความดูถูกฉินตวนหยางเห็นจั๋วซือหรานมีการกระทำเช่นนี้ เขาโกรธอย่างไร้เหตุผล เพราะแต่เดิมเขากำลังจะมีชีวิตที่ดีแต่สุดท้าย ผู้หญิงคนนี้ยกเลิกพิธีงานแต่งต่อหน้าแขกทุกท่าน แถมนางโหดเหี้ยมมากและหักขาของเขา ทำให้เขาต้องเสียหน้าต่อห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 36

    ก่อนที่ฉินตวนหยางจะพูดจบ เขาถูกใครบางคนรัดคออย่างแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัวในขณะนี้ ดูเหมือนเขาจึงตระหนักได้ทันทีว่า ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ผู้หญิงที่เชื่อฟัง และไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาควบคุมด้วยเสน่ห์หนอนพิษกู่อีกต่อไปจั๋วซือหรานจ้องมองเขา ราวกับว่า นางกำลังมองไก่ที่ถูกรัดคอและกำลังจะถูกฆ่า“ความรักหรือ ฉินตวนหยาง เจ้าเอาเสน่ห์หนอนพิษกู่มาควบคุมสติของข้า เจ้าพยายามคุมชีวิตของข้าและทำลายชีวิตของข้า ระหว่างข้ากับเจ้า พูดได้เลยว่าเหลือแต่ความพยาบาท คงไม่มีใครกล้าตำหนิข้าหรอกนะ ข้าไม่ไปจัดการเจ้า แต่เจ้ากลับกล้ามาหาข้าหรือ”มุมปากของจั๋วซือหรานเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย นางค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้และจ้องมองไปที่ดวงตาของฉินตวนหยาง "หากข้าเป็นเจ้า ข้าจะอยู่ห่าง ๆ ไว้ ช่างน่าเสียดาย มีคนจำนวนมากเห็นเจ้า มิฉะนั้น....."ฉินตวนหยางได้ยินเสียงออร่าแห่งการฆาตกรรมในน้ำเสียงของนาง เขาสังเกตว่าความแข็งแกร่งของนิ้วของนางแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ และความตื่นตระหนกในใจของเขาก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ"ช่วย ช่วย... ชีวิต..." ฉินตวนหยางหายใจลำบาก เขารู้สึกคอของเขาเจ็บปวดอย่างรุนแรง ราวกับว่าวินาทีถัดไป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 37

    จั๋วซือหรานสังเกตชายสองคนนี้มานานแล้วเพียงว่านางกำลังยุ่งอยู่กับการจัดการกั ฉินตวนหยาง เลยไม่มีเวลาทักทายพวกเขาเหยียนฉีมาถึงที่นี่ จั๋วซือหรานคิดว่าจะต้องเกี่ยวกับการแข่งขันครั้งต่อไปแต่จั๋วซือหรานไม่เข้าใจ ทำไมเฟิงเหยียนมาด้วยชายสองคนนี้เดินตามจั๋วซือหรานเข้าไปในจวนน์ แม้ว่าในวันที่จั๋วซือหรานเกือบแต่งงานกับฉินตวนหยาง พวกเขาเคยแอบมาเยี่ยมจวนหลังนี้แต่บัดนี้พวกเขาเข้ามาในกลางวันแสก ๆ จึงมีโอกาสเห็นการตกแต่งของจวนหลังนี้จั๋วซือหรานพาพวกเขาไปที่ห้องโถงด้านหน้าและนางสั่งฝูซูเตรียมชา“ต่อไปนางจะอยู่ที่นี่หรือ” เหยียนฉีถามจั๋วซือหรานฟังความเห็นอกเห็นใจในน้ำเสียงของเหยียนฉี เห็นได้ชัดว่า เขาเหมือนเหล่าลูกหลานของตระกูลใหญ่และขุนนางต่างๆ ต่างรู้สึกว่าการที่นางแยกตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูล นั่นเท่ากับว่านางถูกลงโทษด้วยถูกเนรเทศ“เจ้าค่ะ ต่อจากนี้ ข้าจะอยู่ที่นี่” จั๋วซือหรานตอบด้วยสีหน้าปกติเหยียนฉีถอนหายใจเบา ๆ แล้วพูดว่า "แม่นางจั๋วจิ่ว ข้าทราบดี เรื่องของครั้งที่แล้วล้วนเป็นความผิดของอาสามของข้าทั้งนั้น แต่เจ้าไม่จำเป็นต้องเอาอนาคตและชีวิตของเจ้ามาพูดเล่น ตอนนี้เจ้าถูก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 38

    จั๋วซือหรานรู้สึกว่า นางทำเช่นนี้ เขาเย็นชากับตัวเอง นั่นเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วฝูซูไม่รู้เรื่องนี้ จึงได้แต่พูดกับตัวเองว่า "เขาต้องจำฝังใจแน่เลยใช่ไหมขอรับ เขาต้องโกรธคุณหนูเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในก่อนหน้านี้"“อย่ากังวลอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า” จั๋วซือหรานยืนขึ้น “ไปกัน เราไปคลังเก็บของกัน”หลังจากเฟิงเหยียนและเหยียนฉีออกจากจวนของจั๋วซือหรานเหยียนฉีถอนหายใจ "คราวนี้อาสามของข้ามากเกินไปแล้ว เขารังแกแม่นางเช่นนี้ได้อย่างไร ช่างใจร้ายเหลือเกิน... "เขายังไม่ทันพูดจบ เฟิงเหยียนพูดอย่างไร้ความรู้สึกจากด้านข้าง "เจ้าคิดว่าเจ้าจะชนะแน่ ๆ หรือ"“ไม่ใช่หรือ…” เหยียนฉีมองเฟิงเหยียน ดวงตาของเขาค่อย ๆ เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย “เจ้าหมายถึง เจ้าคิดว่านางจะชนะข้าได้หรือ”สีหน้าของเฟิงเหยียนไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก เขาพูดเบา ๆ "ข้าจะไม่ตัดสินอะไร แต่เจ้าเห็นวิชาการตรวจชีพจรโดยไม่สัมผัสผิวหนังของนางแล้ว และฝีมือของเมื่อครู่นี้ด้วย"เหยียนฉีพูด "เจ้าหมายถึง นางทำให้ผู้ชายที่แซ่ฉินเจ็บสาหัสเช่นนั้น แล้วทำให้เขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง นั่นไม่เก่งนัก ข้าก็ทำได้เช่นกัน"“เจ้าเห็นสีหน้าของนางในเวลานั้นหร

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1142

    จั๋วซือหรานไม่มีเรื่องอื่นให้ทำ จึงเริ่มตั้งใจค้นคว้าหุ่นเชิดความมืดอย่างจริงจังแม้จะบอกว่าไม่เหมือนคืนนั้น ที่มีพลังวิญญาณความร้อนของใครบางคนคอยขับไล่ความเย็นเยือกให้แต่น่าจะเพราะคนนั้นก่อนหน้านี้คอยเฝ้านางอยู่ทั้งคืน จึงยังพอเหลือประสิทธิภาพอยู่บ้างบวกกับว่า หลังจากที่จั๋วซือหรานค้นคว้าหุ่นเชิดความมืดมานาน เริ่มจะพอคลำๆคุณสมบัติมันได้บ้างแล้วดังนั้น จั๋วซือหรานรูสึกว่า ตนเองน่าจะมีปัญหาไม่มากนักเพียงแต่ว่า นางนำตลับหุ่นเชิด...หรือก็คือที่คุณชายเยี่ยนทิ้งไว้ให้ ตลับหุ่นเชิดที่รื้อออกมาจากบนตัวผู้ดูแลชุยพอเปิดออก ตอนที่ปล่อยหุ่นเชิดความมืดที่ปิดผนึกอยู่ด้านในออกมาจั๋วซือหรานยังรู้สึกตกตะลึงอยู่"นายท่าน นี่มัน..." ราชาแมงมุมหน้าผีเองก็เห็นสถานการณ์นี้ รู้สึกประหลาดใจหน่อยๆจั๋วซือหรานมองหุ่นเชิดความมืดที่ออกมาจากในตลับหุ่นเชิดนี้ เป็นเหมือนกับหุ่นเชิดความที่ได้มาก่อนหน้าตัวนั้น ใส่หุ่นเชิดความมืดเอาไว้ตามหลักการแล้วจะต้องมีปราณหยินอยู่มหาศาล กระทั่งพลังเย็นเยือกยังส่งผลกระทบต่อตัวคนอีกด้วยแต่พอเปิดตลับหุ่นเชิดนี้แล้วปล่อยหุ่นเชิดความมืดออกมา กลับไม่มีกลิ่นอายพลังเย็

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1141

    "ได้ๆๆ กินไปๆๆ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นอย่างจนใจเทียบกับแมลงกู่ในหลุมฆ่าเหล่านี้ที่ไม่รู้ว่าจะหลอมเป็นนางพญากู่แบบไหน จั๋วซือหรานก็ยังเอ็นดูเจ้าก้อนเนื้อทั้งเจ็ดของตนเองมากกว่า ถึงอย่างไรก็มีความรู้สึกต่อกันนี่นะแม้จะบอกว่าสำหรับแมลงกู่ในหลุมฆ่าพวกนี้ จั๋วซือหรานอันที่จริงก็รู้สึกสนใจอยากจะเปิดกล่องสุ่มดูเหมือนกันแต่ก็ทนดูสภาพน้ำลายสออขงเจ้เาจ็ดตัวนี้ไม่ได้จริงๆความรู้สึกนี้เหมือนกำลังมองเด็กๆ บ้านตัวเองแอบจ้องอาหารในชามคนอื่นจนน้ำลายไหลอย่างไรอย่างนั้น...จั๋วซือหรานยังพูดไม่ทันขาดคำ เจ้าเจ็ดตัวนุ่มนิ่มหนุบหนับตรงหน้านางที่ดูอารมณ์ดีสุดๆ นี้ก็กางฟันแหลมคมของพวกมันเองออกมาในพริบตา ดูดุร้ายมากยื่นไหมกู่ที่คมกริบออกไปฉับพลัน!จั๋วซือหรานถอนใจ เดินไปอยู่ข้างๆ ไม่รบกวนการกินของพวกมันบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนยังคงเบ่งบานได้ไม่เลว ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่เหมือนตอนที่อยู่ในป่าด้วย ที่ส่งผลกระทบกับพื้นที่ออกไปกว้างๆเพียงแค่แผ่ออกไปเป็นรัศมีประมาณบ้านหลังหนึ่งจากจุดที่มันอยู่เท่านั้น ที่มีหมอกพิษของป่าปกคลุมอยู่แมงมุมของนางล้อมอยู่รอบๆ ต้นไม้ต้นนี้ อยู่ในหมอกพิษของมัน ราวกับกลาย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1140

    "ความเร็วนี้ยังพอไหว พยายามไปให้ถึงเขตเมืองอวิ๋นในช่วงค่ำให้ได้" จั๋วซือหรานเอ่ยกำชับ"รับทราบ" เหลียนเจินขานรับจั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "พวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ยังไหวไหม?"เหลียนเจินซาบซึ้งขึ้นในใจ รู้ว่านายท่านเป็นห่วงสุขภาพของพวกเขา ถึงอย่างไรก่อนหน้าที่จะถูกนางรับตัวมา พวกเขาก็เพิ่งจะผ่านการทรมานของเหอจื้อหย่วนไป"นายท่านวิชาแพทย์ยอดเยี่ยม ใช้ยาได้ราวกับเทพ พวกข้าน้อยฟื้นฟูได้ระดับหนึ่งแล้ว นายท่านวางใจได้เลย พวกข้าน้อยจะไม่ทำให้งานของนายท่านล่าช้าแน่" เหลียนเจินเอ่ยขึ้นเสียงขรึมเขาเองก็รู้สาเหตุและเหตุผลการเดินทางครั้งนี้ของนายท่านจากเจิ้นเจียงแล้ว เข้าใจความรู้สึกของนายท่านดีจั๋วซือหรานพยักหน้า "อืม ถ้าอย่างนั้นก็ดี"สายตานางเหลือบมองไปด้านหลัง เอ่ยกับเหลียนเจินว่า "ท้ายสุดแล้ว พวกเจ้าก็เป็นคนของข้า แล้วข้าเองก็ดีกับคนของข้ามาโดยตลอด ดังนั้นถ้าหากพวกเจ้ามีตรงไหนไม่ค่อยดี ก็ไม่ต้องเอาแต่ทนไว้"จั๋วซือหรานยิ้มๆ "รีบขึ้นรถม้าไปพักผ่อนซะ แล้วให้เจ้าพวกบนรถม้านั่นลงมาวิ่งตามรถก็พอ"บนใบหน้าเคร่งขรึมของเหลียนเจิน ผ่อนคลายลงมาเพราะคำนี้ของนายท่าน เผยรอยยิ้มออกมา"รู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1139

    มนุษย์กู่ แค่ฟังจากชื่อ ก็น่าจะไม่ใช่ตัวเลือกอะไรที่น่ายอมรับแล้วแต่มนุษย์เราก็เป็นแบบนี้ มักจะถูกครอบงำได้ง่ายจากปรากฏการณ์รื้อหน้าต่างแม้ว่ามนุษย์กู่จะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีมาก แต่ขณะเผชิญหน้าความตาย ก็เหมือนจะเปลี่ยนเป็นอะไรที่ไม่ได้ยอมรับยากขนาดนั้นแล้วผู้จัดการพยักหน้าแทบไม่ทัน รีบร้อนตอบว่า "มนุษย์กู่! ข้ายอมกลายเป็มนุษย์กู่ของท่าน!"เมืองหยางถึงอย่างไรก็เป็นเมืองที่อยู่ใกล้พรมแดนใต้ ดังนั้นจึงค่อนข้างเข้าใจต่อพิษกู่ดังนั้นจึงเข้าใจคร่าวๆ แม้พิษกู่จะรุนแรงมาก แต่ปรมาจารย์กู่ถ้าหากใส่กู่เข้าไปในมนุษย์กู่ที่ตนเองเลี้ยง ก็จะไม่ทำให้ตายไปอย่งแท้จริง ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ปกติ จะต้องเจ็บตัวบ้าง แต่ก็ไม่ถึงชีวิตปันอวิ๋นเดิมทีก็อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว มองออกได้ไม่ยากแต่หลังจากที่ผู้จัดการพยักหน้าหงึกหงัก อารมณ์เขาก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาพอควรผู้จัดการเห็นตราประทับกู่ในมือเขา ปรทับลงมาบนตัวตนเองแม้ใจจะหวาดกลัว แต่ก็ไม่กล้าขยับตัวซี้ซั้วรู้สึกแค่ว่าที่หลังคอเหมือนถูกอะไรบางอย่างเล็กๆ แทงเข้ามา ไม่ได้เจ็บปวดอะไรนัก"เอาล่ะ ตัวข้ายังมีเรื่องต้องไปทำ เท่านี้ก่อนแล้วกัน" ปันอวิ๋นเอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1138

    เสียงของเขาดูไม่ได้ใส่ใจนัก "โอ้ ล้มเหลวไปแล้ว""เจ้าขยะ" ในน้ำเสียงอีกด้านมีความรู้สึกที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด "เจ้าเฟิงเหยียนนั่นอย่างน้อยก็ยังรู้จักให้ความร่วมมือลบความทรงจำทิ้ง แต่เจ้า แค่ให้ไปปล้นก็ยังไม่สำเร็จ เจ้ามันขยะกว่าเขาเสียอีก"ปันอวิ๋นพอได้ยิน มุมปากยังคงเป็นเส้นโค้งที่ดูประชดประชัน ในดวงตาไม่มีความอบอุ่นใดอยู่อีกด้านไม่รอเขาตอบ เอ่ยต่อมาว่า "ดังนั้นตอนแรกพวกเราถึงให้หลงเฉินเลือกเฟิงเหยียนไม่เลือกเจ้าไงล่ะ ดูท่าจะไม่ได้เลือกผิด"เส้นโค้งประชดประชันเหล่านั้นของมุมปากปันอวิ๋นลดลงมา ความอบอุ่นในดวงตาเย็นเยียบไปแล้วอย่างสิ้นเชิงเพียงแต่น้ำเสียงฟังแล้วยังดูนิ่งไม่มีความผันผวนใด ราวกับไม่มีอารมณ์ใดๆ อยู่"แต่ตอนนี้พวกเจ้าก็ยังต้องให้ข้ามาจัดการความยุ่งยากของเฟิงเหยียน" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ"แล้วเจ้าจัดการแล้วหรือยัง? ให้เจ้าไปปล้นมาก็ยังทำไม่ได้" เสียงจากอีกด้านหัวเราะเย็นชาขึ้นมาแต่ปันอวิ๋นก็หัวเราะขึ้นเบาๆ ดูนิ่งมาก "ข้าเป็นพวกเมตตาต่อสตรีนะ เรื่องปล้นอะไรไม่ถนัดหรอก แต่ยังพอเปลี่ยนวิธีแก้ไขความยุ่งยากได้""เจ้ายังมีวิธีอะไรอีก? อย่าคิดว่าตัวเองฉลาดนักเล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1137

    ผู้จัดการโรงเตี๊ยม เกือบร้องจะร้องแหลมขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ แต่ยังดีที่ทนเอาไว้ อย่างน้อยก็ไม่เหมือนผู้เฒ่าเหอที่ร้องเป็นไก่เมื่อวานนี้"เจ้า เจ้า..."เดิมทียังคิดจะถามว่าเป็นใคร แต่ผู้จัดการก็มองออกทันที หนึ่งในผู้ชายป่าเถื่อนที่จั๋วซือหรานผู้หญิงตัวซวยคนนั้นพากลับมาจากที่ผู้จัดการโรงเตี๊ยมเห็น ที่ผู้หญิงตัวซวยคนนั้นพามาล้วนเป็นผู้ชายป่าเถื่อนทั้งสิ้นหลักๆ คือนางเองไม่ได้พาผู้หญิงกลับมา ไม่ว่าจะเชลยหรือว่าอะไรก็ตาม...ไม่ว่าจะใครก็ล้วนเป็นผู้ชายทั้งสิ้นแต่นอกจากเชลยเหล่านั้น คนที่นางพากลับมาสองคน ไม่ว่าจะใคร ดูแล้วก็อันตรายไม่แพ้กันผู้จัดการยังคิดว่าพวกเขาจะไปพร้อมกันเสียอีก!ทำไม! ทำไมยังเหลือทิ้งไว้อีกล่ะ?!"เจ้า...ทำไมถึงไม่ได้ไปกับนาง..." ผู้จัดการพูดจาตะกุกตะกักไปหมดแล้ว ถอยหลังออกมาก้าวหนึ่งด้วยสัญชาตญาณ เพราะรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าคนนี้ แม้จะหน้าตาหล่อเหลา แต่ก็ดูชั่วร้ายมากแค่เหลือบมองก็รู้สึกอันตรายแล้วแต่ว่าอีกฝ่ายกลับไม่ให้โอกาสเขาได้ถอยหนีคิ้วยาวเขาเลิกขึ้นเล็กน้อย "ดูท่า นางจะเป็นตัวซวยคนนั้นจากปากของเจ้าสินะ?"ผู้จัดการไม่กล้าพูด แต่พริบตาต่อมา มือก็ถูกออกแ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1136

    เจิ้นเจียงไม่ค่อยเข้าใจคามหมายลึกๆ ของคำพูดนี้เพียงแต่ดูแล้ว นายท่านเองก็เหมือนไม่คิดจะไปตามหาคุณชายเหยี่ยนด้วย"ให้ข้าน้อยไปตามหาคุณชายเยี่ยนไหมขอรับ?" เจิ้นเจียงถามจั๋วซือหรานส่ายหัว "ไม่ต้องแล้ว ข้าเสียเวลาที่นี่อีกไม่ได้แล้ว ข้ายังมีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการอีก"เจิ้นเจียงเองก็เข้าใจ เรื่องของคุณชายน้อยจั๋วหวาย เป็นเรื่องสำคัญในตอนนี้ของนายท่านยิ่งไปกว่านั้นพอดูแล้ว อารมณ์ของนายท่านก็เหมือนจะปรับเรียบร้อยแล้วด้วยกระทั่งอารมณ์ที่ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้ เหมือนจะสภาพหดหู่เล็กๆ ก็ยังกลับมาเป็นปกติแล้วเจิ้นเจียงรีบตามนางไป จากนั้นก็ได้ยินนางเหมือนจะงึมงำกับตนเองแว่วมาตามสายลม"ยิ่งไปกว่านั้นใครจะูร้ว่าเขาไปแล้วจริงหรือเปล่า ไม่แน่อาจจะหลบอยู่ใกล้ๆ แอบฟังก็ได้..."จั๋วซือหรานให้เจิ้นเจียงไปจัดการรถรางวัล เตรียมตัวออกเดินทางเดิมทียังกังวลว่ารถจะไม่พอใส่ ถึงตอนนั้นคงต้องพิจารณาเรื่องซื้อรถม้า หรือไม่ก็ให้สำนักเมฆาวารีพวกนี้วิ่งตามรถม้าเอา...ผลคือตระกูลเหอก็ส่งรถม้าเข้ามา เรียกได้ว่าพอง่วงหนอนหมอนก็หนุนเข้ามาพอดีคนสำนักเมฆาวารีที่เป็นเชลยจากด่านกระดูกแพะก่อนหน้นี้ สภาพจิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1135

    "นายท่าน?" เจิ้นเจียงเห็นจั๋วซือหรานยืนอยู่แถวบ่อน้ำ เหมือนจะไม่ขยับตัวมาพักหนึ่ง จึงหันหน้ามองไปทางนางอย่างสงสัย"มีอะไรหรือ?" เจิ้นเจียงเดินขึ้นเข้ามา และเห็นสายตาตกตะลึงหน่อยๆ ของนายท่าน เอ่ยถามเสียงต่ำว่า "มีอะไรผิดปกติหรือขอรับ?"จั๋วซือหรานจึงเก็บสายตากลับ "ไม่มีอะไร ไปเถอะ ห้องเขาอยู่ที่ไหน?""โอ้! ตามข้ามาเลย" เจิ้นเจียงนำทางจั๋วซือหรานต่อไปทางห้องแขกเพียงแต่ว่า เขาไม่รู้ว่าเข้าใจผิดหรือเปล่า รู้สึกเหมือนการก้าวเดินของนายท่าน เทียบกับความเอ้อระเหยไม่รีบร้อนก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะรีบเร่งขึ้นมาพอควร!ไม่นานนัก เจิ้นเจียงก็นำมาถึงประตูห้องแขก"ที่นี่ขอรับ" เจิ้นเจียงกดเสียงต่ำ บอกกับจั๋วซือหรานว่า "แต่ว่า นายท่าน ตอนนี้มันจะเช้าไปหน่อยไหม? ถ้าคุณชายเหยี่ยนยังพักผ่อนอยู่ล่ะ..."จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็เหมือนไม่ได้ยิน ยกมือขึ้นเคาะประตู"ตึงๆๆ..."ในประตูไม่มีปฏิกิริยาการเคลื่อนไหวใดเจิ้นเจียงเอ่ยขึ้นข้างๆ "คุณชายเหยี่ยนน่าจะยังไม่ตื่น นายท่าน ถ้างั้น..."เสียงเขายังไม่ทันขาด ก็เห็นนายท่านขมวดคิ้ว จากนั้นสองมือก็ค่อยๆ ดันเปิดตรงหน้าเจิ้นเจียงรู้สึกว่า เหมือนมีพลังอบอุ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1134

    จั๋วซือหรานรับรายชื่อของขวัญมา กวาดตามองผาดหนึ่ง คิ้วเลิกขึ้นเบาๆ "จวนตระกูลเหอส่งมาหรือ?""ขอรับ ส่งมาแต่เช้าตรูเลย น่าจะเตรียมไว้เมื่อคืนนี้" เจิ้นเจียงเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานดีดรายการของขวัญในมือเบาๆ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม "ดูท่าเหอจื้อหย่วนจะกลัวจริงๆ ซะแล้ว"เมื่อคืนนี้ก่อนที่นางจะออกมาบอกกับเหอจื้อหย่วนเรื่องที่นางจะสะสางหนี้ ดูท่าจะทำเขาผวาไปแล้วฟ้ายังไม่สาง ก็ส่งกองนี้เข้ามา"ต้อง ต้องรับไว้ไหม?" เจิ้นเจียงดูจะระแวดระวัง "จะมีตุกติกอะไรหรือเปล่า?""จะมีอะไรตุกติกได้อีก" จั๋วซือหรานยิ้มๆ "ยังมองไม่ออกอีกหรือ?""มองอะไร...ไม่ออกหรือขอรับ?" เจิ้นเจียงไม่เข้าใจจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "เขากำลังขับไล่สิ่งอัปมงคลนี่ ให้ข้ามาเยอะขนาดนี้ คงอยากให้ข้ารีบไปเต็มแก่แล้ว..."เจิ้นเจียงได้ยินคำนี้ แม้จะรู้สึกดู...ยังไงๆ อยู่ แต่ก็...เหมาะควรดีจั๋วซือหรานเดิมทียังไม่ได้นอนมาคืนหนึ่ง แม้คุณสมบัติร่างกายจะแข็งแกร่ง ด้านสุขภาพไม่มีอาการเหนื่อยล้า แต่ในด้านจิตใจก็มีอาการเหนื่อยล้าเล็กๆตอนนี้ก็ดูจะมีแรงขึ้นหน่อย ถือรายการของขวัญมือไพล่หลังเดินไปยังรถของขวัญด้านนอกเพื่อตรวจสอบ ดูแล้วจิตใจจะ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status