แชร์

บทที่ 30

ผู้แต่ง: หูเทียนเสี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ใครจะรู้ล่ะ แต่ก่อนหน้านี้มีข่าวแพร่สะพัดในวังหรือว่า ห้องหมอหลวงรักษาไทเฮาที่นอนสลบไม่ได้ แต่คุณหนูจั๋วจิ่วได้ทำการรักษาให้หายแล้วไม่ใช่หรือ”

“นั่นอาจเป็นเรื่องจริงก็ได้ อย่างไรก็ตาม ที่นี้ มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้จะได้ชม”

เมื่อจั๋วซือหรายตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น ข้าวลือก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงปากต่อปาก!

ชั่งเวลาที่ทานอาหารเช้า จั๋วหวายฝึกซ้อมตอนเช้าเสร็จและรีบกลับไปที่สวนจี๋หย่าย่วน

เขาไม่สามารถระงับความตื่นเต้นในน้ำเสียงของตนได้

“ท่านพี่ จริงไหมเนี่ย จริงหรือท่านพี่...ท่านพี่จะประลองกับตระกูลเหยียน จะแข่งฝีมือทางการรักษาจริงหรือ”

คำพูดของจั๋วหวายทำให้มารดาของเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และทันใดนั้นนางก็มองไปที่จั๋วซือหราน

จั๋วซือหรานยิ้มและไม่พูดอะไร

จั๋วหวายรู้คำตอบแล้ว ดวงตาของเขาเป็นประกาย

จั๋วซือหรานถามเขา "กลัวหรือ"

“ข้าไม่กลัวหรอกนะ” จั๋วหวายตอบอย่างไม่ลังเล

อวิ๋นเหนียงไม่ได้ไร้เตียงสาเหมือนเขา นางมองจั๋วซือหรานด้วยความกังวล "แม่รู้ว่าลูกมีพรสวรรค์อย่างมาก และมีความสามารถมากมายที่แม่ไม่รู้ แต่ตระกูลเหยียนถนัดการแพทย์ไม่ใช่หรือ"

นั่นเป็นเพราะในโลกนี้มีคนที่มีพรสวร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
warunee
เนื้อหาสนุกน่าติดตาม คนเขียนเก่งมาก
goodnovel comment avatar
มานัสรินทร์ อำมฤคขจร
3วันผ่านไปอัพเพิ่มหน่อยจ้า
goodnovel comment avatar
มานัสรินทร์ อำมฤคขจร
อัพเพิ่มเยอะๆเร็วๆหน่อย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 31

    จั๋วซือหรานยืนอยู่ข้างนอก เมื่อนางได้ยินคำพูดเหล่านั้น นางหยุดก้าวเท้า และไม่รีบเดินเข้าห้อง“นั่นคือตระกูลเหยียนนัก พวกข้าทำให้พวกเขาไม่สบายใจง่ายเช่นนี้ได้หรือ” ผู้อาวุโสห้าพูดต่ออย่างโกรธ ๆ “ แม้แต่ หน่วยสืบสวนพิเศษ ก็ยังเข้าข้างพวกเขา นางเคยถูกจับกุมครั้งหนึ่ง นางยังไม่ได้เรียนรู้บทเรียนหรือ นางกล้าก่อเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร แล้วทีนี้ มันจะแก้ปัญหาอย่างไรล่ะ”ผู้อาวุโสห้าไม่ทันสนใจที่จะรักษาความเคารพต่อผู้อาวุโสใหญ่ อีกต่อไป เขาจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสใหญ่“ จั๋วหลาน ถึงเวลานนั้น เจ้าจะทำปกป้องนางอีกครั้งหรือ การที่รุกรานตระกูลเหยียน นั่นหมายถึงการรุกรานตระกูลเฟิง เวลานี้ นางไม่ได้หมั้นหมายกับเฟิงเหยียน ก่อนหน้านี้ นางเคยทำให้ตระกูลเฟิงไม่พอใจไปครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้ก่อเรื่องเช่นนี้อีกครั้ง นางกำลังวางแผนที่จะทำให้ตระกูลเฟิงขุ่นเคืองโดยสิ้นเชิงใช่หรือไม่”ผู้อาวุโสใหญ่มีบุคลิกที่สงบ เมื่อต้องเผชิญกับความก้าวร้าวของ ผู้อาวุโสห้า เขาไม่ตอบสนองและสีหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ดูเหมือนเขาไม่โกรธกับคำพูดอย่างแรงของผู้อาวุโสห้าเขาเพียงเหลือบมองไปทางประตู ราวกับว่า เขาสังเกตเห็นใครบางค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 32

    ผู้อาวุโสห้ายังคงโกรธอยู่ "นี่ จะตายแล้ว ยังไม่รู้จักผิดอีก"“ หากพวกท่านกำลังพูดถึงการแข่งขันกับตระกูลเหยียนละก็” เดิมทีก่อนที่จั๋วซือหรานเข้ามา นางว่าจะไว้หน้าให้พวกเขา แต่เมื่อนางได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสห้าจากข้างนอกนอกจากนั้นแล้ว เมื่อครู่ผู้อาวุโสห้ายังอยากโจมตีนางอย่างไม่ลังเล ซึ่งทำให้จั๋วซือหรานเลิกความคิดนี้โดยสิ้นเชิงจั๋วซือหราน ม้วนริมฝีปากของเขา มองไปที่ ผู้อาวุโสห้า และถามด้วยรอยยิ้ม "โอ้ คุณจะไม่แกล้งทำเป็นไม่รู้ตอนนี้เหรอ?"ใบหน้าของ ผู้อาวุโสห้า แข็งทื่อ "คุณพูดอะไร!"“ข้าหมายถึง เมื่อวาน ตอนที่ข้าถูกตระกูลเหยียนกล่าวหาว่า ข้าแอบฝึกทักษะทางการแพทย์ของตระกูลนั้น และข้าถูกหน่วยสืบสวนพิเศษพาตัวไปและถูกสอบปากคำอย่างทรมานเพื่อให้ช้าสารภาพความผิด พวกท่านแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องมิใช่หรือ”จั๋วซือหรานถามแล้วพูดต่อ "ข้าเสนอแข่งขันกับตระกูลเหยียน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้า ทีนี้พวกท่านไม่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วหรือ"ผู้อาวุโสห้าได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขาขมวดคิ้วและหน้าแดง แต่เขายังคงพูดอย่างไม่ยอม "ทำไม เจ้าสร้างปัญหาเอง เจ้ายังต้องการให้ครอบครัวช่วยเจ้าแก้ปัญห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 33

    ส่วนสาเหตุที่จั๋วซือหรานเสนอถอนตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลจั๋วในตอนนี้ ก็เป็นเพราะนางรู้สึกการตัดสินใจของคราวนี้ไม่แย่สำหรับคนอื่น พวกเขารู้สึกว่า การแยกตัวออกจากสำนักงานใหญ่เป็นหายนะ แต่สำหรับจั๋วซือหราน การแยกออกจากสำนักงานใหญ่ไม่ถือเป็นการเนรเทศแต่นางกลับคิดว่าการตัดสินใจของครางนี้ดีที่สุดแล้ว เพราะตราบใดที่นางแยกตัวออกจากสำนักงานใหญ่ นางจะไม่ถูกควบคุมมากนักมิฉะนั้น นางต้องระวังฝ่าฝืนกฎหมายครอบครัวของสำนักงานใหญ่ทุกเมื่อ นั่นไม่ใช่เรื่องตลกนอกจากนี้ เมื่อลูกศิษย์แยกตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลจั๋ว สำนักงานใหญ่จะให้ทรัพยากรบางอย่างเป็นพิเศษด้วย ลูกศิษย์เหล่านั้นที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลทรัพย์สินของครอบครัวในเมืองต่าง ๆ ไม่ได้มีชีวิตที่ยากจนหลายคนที่ไปอยู่ในที่มั่งคั่งและมีชีวิตที่สบายมากดังนั้นเมื่อเจ้าของร่างเดิมยืนกรานที่จะแต่งงานกับฉินตวนหยาง ก็ถือว่าแยกตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลดังนั้น แม้ว่าครอบครัวต้องอับอายมากในเวลานั้น แต่ครอบครัวก็ยังคงให้สินสอดแก่เจ้าของรางเดิมนี่คือวิธีการรักษาเกียรติของตระกูลจั๋ว ในฐานะที่เป็นหนึ่งในห้าตระกูลขุนนางหลักในเมืองหลวงจั๋

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 34

    นางพูดว่า " คุณท่านลิ่วโปรดระวังสิ่งที่ท่านพูด เสียวจิ่วของข้าไม่ได้ถูกไล่ออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูล เหล่าลูกสิษย์ที่แยกออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลและไปอยู่ต่างเมืองหลาย ๆ ที่ พวกเขาล้วนทุ่มเทเพื่อความเจริญของตระกูลจั๋ว หากะวกเขาได้ยินคำพูดของคุณท่านลิ่ว พวกเขาต้องเสียใจขนาดไหน ”ทีแรกคุณท่านจั๋วลิ่วยังสะใจอยู่ แต่เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่ใจเสาะและไม่เย่อหยิ่งของอวิ๋นเหนียง สีหน้าของเขาเปลี่ยนทันที“ข้ามาที่นี่ตามคำสั่งของผุ้อาวุโส มาส่งเจ้าไปจากคฤหาสน์” คุณท่านจั๋วลิ่วพูดอย่างเย็นชา “อย่ารอช้า รีบออกไปเถิด”สำนักงานใหญ่ไม่ได้จัดจวนที่อื่นให้ มันเป็นจวนที่เอาไว้พักอาศัยอยู่หลังจากแต่งงานกับจัวต้วนหยาง แน่นอนว่ามันไม่ดีเท่าจวนของตระกูลจั๋วหรอก แต่อย่างน้อยมันก็เป็นสถานที่ของตัวเองแม้ว่าในจวนหลังนี้ ความทรงจำของจั๋วซือหรานที่เกี่ยวกับชีวิตอย่างน่าสงสารของครึ่งหลังชีวิตของเจ้าของร่างเดิมอาจปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวแต่อย่างน้อย นางไม่ต้องใช้ชีวิตที่ไร้ความอิสระอย่างในคฤหาสน์จั๋วคุณท่านจั๋วลิ่วส่งจั๋วซือหรานมาถึงจวนแห่งนี้ เขาพูดอย่างเย็นชา "อีกไม่กี่วัน เจ้าแข่งขันกับตระกูลเหยียน ถึงเว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 35

    ทันทีที่นางได้ยินเสียงนี้ จั๋วซือหรานรู้สึกหมั่นไส้จากใจนางไม่แน่ใจความรู้สึกนี้เกิดจากความคิดที่หลงเหลือจากเจ้าของร่างเดิมหรือเปล่าเจ้าของของเสียงที่มาจากนอกประตูนั้นไม่ใช่ใคร แต่เป็นฉินตวนหยางอย่างแน่นอน บัดนี้เขากำลังเอามือตีประตูของจวนจั๋วซือหราน และตะโกนด้วยจวนของตระกูลจั๋วและจวนของตระกูลเฟิงตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีชนชั้นสูงที่ดีที่สุดของเมืองหลวง แต่จวนของจั๋วซือหรานไม่ได้อยู่ในพื้นที่นั้น สภาพแวดล้อมโดยรอบจึงไม่ได้เงียบมากนักการกระทำของฉินตวนหยางทำให้คนรอบข้างสนใจอย่างมากด้วยเสียงเอี๊ยด ประตูของจวนก็ถูกเปิดออกอย่างช้า ๆรูปร่างเพรียวบางยืนอยู่ที่ประตูด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามและบุคลิกที่โดดเด่นเนื่องจากขาของฉินตวนหยางถูกนางหักในวันแต่งงาน และขายังไม่หายดี เขาจึงถูกคนเอาเปลหามเขามานี่ และทีนี้เขาทำได้นอนบนพื้นหน้าประตูเท่านั้นจั๋วซือหรานมองเขาด้วยความดูถูกฉินตวนหยางเห็นจั๋วซือหรานมีการกระทำเช่นนี้ เขาโกรธอย่างไร้เหตุผล เพราะแต่เดิมเขากำลังจะมีชีวิตที่ดีแต่สุดท้าย ผู้หญิงคนนี้ยกเลิกพิธีงานแต่งต่อหน้าแขกทุกท่าน แถมนางโหดเหี้ยมมากและหักขาของเขา ทำให้เขาต้องเสียหน้าต่อห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 36

    ก่อนที่ฉินตวนหยางจะพูดจบ เขาถูกใครบางคนรัดคออย่างแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัวในขณะนี้ ดูเหมือนเขาจึงตระหนักได้ทันทีว่า ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ผู้หญิงที่เชื่อฟัง และไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาควบคุมด้วยเสน่ห์หนอนพิษกู่อีกต่อไปจั๋วซือหรานจ้องมองเขา ราวกับว่า นางกำลังมองไก่ที่ถูกรัดคอและกำลังจะถูกฆ่า“ความรักหรือ ฉินตวนหยาง เจ้าเอาเสน่ห์หนอนพิษกู่มาควบคุมสติของข้า เจ้าพยายามคุมชีวิตของข้าและทำลายชีวิตของข้า ระหว่างข้ากับเจ้า พูดได้เลยว่าเหลือแต่ความพยาบาท คงไม่มีใครกล้าตำหนิข้าหรอกนะ ข้าไม่ไปจัดการเจ้า แต่เจ้ากลับกล้ามาหาข้าหรือ”มุมปากของจั๋วซือหรานเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย นางค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้และจ้องมองไปที่ดวงตาของฉินตวนหยาง "หากข้าเป็นเจ้า ข้าจะอยู่ห่าง ๆ ไว้ ช่างน่าเสียดาย มีคนจำนวนมากเห็นเจ้า มิฉะนั้น....."ฉินตวนหยางได้ยินเสียงออร่าแห่งการฆาตกรรมในน้ำเสียงของนาง เขาสังเกตว่าความแข็งแกร่งของนิ้วของนางแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ และความตื่นตระหนกในใจของเขาก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ"ช่วย ช่วย... ชีวิต..." ฉินตวนหยางหายใจลำบาก เขารู้สึกคอของเขาเจ็บปวดอย่างรุนแรง ราวกับว่าวินาทีถัดไป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 37

    จั๋วซือหรานสังเกตชายสองคนนี้มานานแล้วเพียงว่านางกำลังยุ่งอยู่กับการจัดการกั ฉินตวนหยาง เลยไม่มีเวลาทักทายพวกเขาเหยียนฉีมาถึงที่นี่ จั๋วซือหรานคิดว่าจะต้องเกี่ยวกับการแข่งขันครั้งต่อไปแต่จั๋วซือหรานไม่เข้าใจ ทำไมเฟิงเหยียนมาด้วยชายสองคนนี้เดินตามจั๋วซือหรานเข้าไปในจวนน์ แม้ว่าในวันที่จั๋วซือหรานเกือบแต่งงานกับฉินตวนหยาง พวกเขาเคยแอบมาเยี่ยมจวนหลังนี้แต่บัดนี้พวกเขาเข้ามาในกลางวันแสก ๆ จึงมีโอกาสเห็นการตกแต่งของจวนหลังนี้จั๋วซือหรานพาพวกเขาไปที่ห้องโถงด้านหน้าและนางสั่งฝูซูเตรียมชา“ต่อไปนางจะอยู่ที่นี่หรือ” เหยียนฉีถามจั๋วซือหรานฟังความเห็นอกเห็นใจในน้ำเสียงของเหยียนฉี เห็นได้ชัดว่า เขาเหมือนเหล่าลูกหลานของตระกูลใหญ่และขุนนางต่างๆ ต่างรู้สึกว่าการที่นางแยกตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูล นั่นเท่ากับว่านางถูกลงโทษด้วยถูกเนรเทศ“เจ้าค่ะ ต่อจากนี้ ข้าจะอยู่ที่นี่” จั๋วซือหรานตอบด้วยสีหน้าปกติเหยียนฉีถอนหายใจเบา ๆ แล้วพูดว่า "แม่นางจั๋วจิ่ว ข้าทราบดี เรื่องของครั้งที่แล้วล้วนเป็นความผิดของอาสามของข้าทั้งนั้น แต่เจ้าไม่จำเป็นต้องเอาอนาคตและชีวิตของเจ้ามาพูดเล่น ตอนนี้เจ้าถูก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 38

    จั๋วซือหรานรู้สึกว่า นางทำเช่นนี้ เขาเย็นชากับตัวเอง นั่นเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วฝูซูไม่รู้เรื่องนี้ จึงได้แต่พูดกับตัวเองว่า "เขาต้องจำฝังใจแน่เลยใช่ไหมขอรับ เขาต้องโกรธคุณหนูเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในก่อนหน้านี้"“อย่ากังวลอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า” จั๋วซือหรานยืนขึ้น “ไปกัน เราไปคลังเก็บของกัน”หลังจากเฟิงเหยียนและเหยียนฉีออกจากจวนของจั๋วซือหรานเหยียนฉีถอนหายใจ "คราวนี้อาสามของข้ามากเกินไปแล้ว เขารังแกแม่นางเช่นนี้ได้อย่างไร ช่างใจร้ายเหลือเกิน... "เขายังไม่ทันพูดจบ เฟิงเหยียนพูดอย่างไร้ความรู้สึกจากด้านข้าง "เจ้าคิดว่าเจ้าจะชนะแน่ ๆ หรือ"“ไม่ใช่หรือ…” เหยียนฉีมองเฟิงเหยียน ดวงตาของเขาค่อย ๆ เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย “เจ้าหมายถึง เจ้าคิดว่านางจะชนะข้าได้หรือ”สีหน้าของเฟิงเหยียนไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก เขาพูดเบา ๆ "ข้าจะไม่ตัดสินอะไร แต่เจ้าเห็นวิชาการตรวจชีพจรโดยไม่สัมผัสผิวหนังของนางแล้ว และฝีมือของเมื่อครู่นี้ด้วย"เหยียนฉีพูด "เจ้าหมายถึง นางทำให้ผู้ชายที่แซ่ฉินเจ็บสาหัสเช่นนั้น แล้วทำให้เขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง นั่นไม่เก่งนัก ข้าก็ทำได้เช่นกัน"“เจ้าเห็นสีหน้าของนางในเวลานั้นหร

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 728

    “นี่ฝูซูกับเฮยหลิงยังไว้หน้าพวกเจ้าอยู่นะ ถึงยังไม่จับตะเกียบ ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าแค่น้ำแกงก็ไม่ได้ชิมด้วยซ้ำ” เจี่ยงเทียนซิงวางตะเกียบลงหัวเราะฮั่วจือโจวไม่อยากเชื่อ ถามขึ้นว่า “นี่คือของที่แม่นางจั๋วจิ่วทำหรือ? จริงหรือเปล่า?”“เป็นของที่คุณหนูข้าทำเอง” ฝูซูพยักหน้าอินเจ๋ออันมองเขา ถามขึ้นว่า “คุณชายฮั่ว ยอมรับแล้วหรือยัง?”ฮั่วจือโจวถอนหายใจเบาๆ พยักหน้าเจี่ยงเทียนซิงเห็นท่าทางแขกยึดครองตำแหน่งเจ้าภาพของอินเจ๋ออันแล้วก็หัวเราะพรวดขึ้นมา “เปาน้อย เจ้าเองก็ไว้หน้าตัวเองหน่อยดีไหม คำพูดนี้ข้าต่างหากที่ควรถาม? เจ้าน่ะยอมรับแล้วหรือยัง?”“ถ้าข้าไม่ยอมรับ แล้วข้าจะเอาเงินมาให้พวกเจ้าด้วยตัวเองทำไมกัน?!” อินเจ๋ออันจ้องอย่างมาดร้ายไปทางเจี่ยงเทียนซิงตัวเขาเองอาจจะไม่ทันสังเกต ว่าตนเองกระทั่งลืมไปแล้วว่าต่อต้านชื่อเรีย ‘เปาน้อย’ อยู่เฟิงหร่านนั่งอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรมาตลอด สนใจแค่การกินอาหารบนโต๊ะอย่างรวดเร็วราวพายุดูดเท่านั้นนางกินไปด้วย พิจารณาชายหนุ่มสามคนนี้ไปด้วยในใจจู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาเฟิงหร่านเกิดวิตกกังวลขึ้นมาแทนพี่ชายตนเอง นางชื่นชมในใจ พี่หญิงจั๋วน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 727

    สายตาฮั่วจือโจวมองจั๋วซือหรานอย่างลึกซึ้งตระกูลขุนนางเหล่านี้ล้วนเป็นแบบเดียวกัน จั๋วซือหรานเองก็เดินออกมาจากตระกูลขุนนาง ดังนั้นจึงเข้าใจเป็นอย่างดีต่อให้ทุกคนจะเป็นลูกหลานในตระกูลเหมือนกัน และก็จะมีพวกลูกหลานที่ได้รับการปฏิบัติกับให้ความสำคัญมากกว่า และก็จะมีลูกหลานที่ถูกมองข้ามหรือเมินเฉยแต่นี่ก็จะขึ้นอยู่กับฝีมือของรุ่นพ่อและฝีมือของตนเองดูจากจั๋วซือหรานแล้วมองออกไม่ยาก กระทั่งฝีมือของรุ่นพ่อก็ยังไม่แน่ว่าจะสำคัญ เพราะพ่อของนางนั้นไม่อยู่มานานแล้วมีเพียงฝีมือของตนเองที่ถูกให้ความสำคัญมากที่สุดดังนั้นในฐานะที่เป็นลูกหลานในตระกูล หากคิดจะได้รับการให้ความสำคัญของตระกูล อย่างน้อยก็ต้องทำผลงานออกมาให้ได้สถานการณ์ของฮั่วจือโจวตอนนี้ก็น่าจะเป็นเช่นนี้เขามีฝีมืออยู่บ้าง และมีอุดมการณ์ของตนเองด้วยเช่นกัน แต่ก็จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ จะตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามไม่ได้เพราะในตระกูลเช่นนี้ คนมากมายล้วนเป็นแบบเดียวกัน โอกาสอาจจะมีแค่ครั้งเดียว ถ้าทำผลงานไม่ได้ หลังจากนี้ทรัพยายากรก็อาจจะไม่เอนมาทางเขาอีกแล้วจุดนี้ จั๋วซือหรานไม่ลังเลที่จะพูดออกมาสายตาฮั่วจือโจวหยุดอยู่ที่แ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 726

    จั๋วซือหรานยิ้มๆ “ก็ต้องตั้งแต่ตอนที่เจ้าตามพวกเราเข้ามาแล้วน่ะสิ”ฮั่วจือโจวลุกขึ้นยืน เดินตรงเข้ามาทางนี้ นั่งลงข้างโต๊ะพวกเขา“เมื่อครู่แผนของแม่นางจิ่ว ข้าได้ยินแล้ว” ฮั่วจือโจวเองก็ไม่ปิดบัง พูดออกมาตรงๆเขาพูดประโยคนี้ออกมา ก็หวังว่าจั๋วซือหรานจะไม่ต้องมาเสียเวลาคิดมากในเรื่องนี้แล้วแต่ฮั่วจือโจวคิดไม่ถึงว่าจั๋วซือหรานจะพูดว่า “ข้าจงใจพูดออกมาให้เจ้าได้ยิน”สีหน้าฮั่วจือโจวตกตะลึงไปทันที “อะไรนะ?”จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้งเอ่ยขึ้นว่า “คุณชายสามฮั่วฟังแผนการของข้าแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง?”“ไม่เลว” ฮั่วจือโจวตอบ “มิน่าสี่ตระกูลที่เหลือจึงมองเจ้าเป็นหนามยอกอก”รอยยิ้มบนหน้าจั๋วยังไม่จางหาย “ถ้าข้าไม่จงใจพูดให้เจ้าได้ยิน แล้วจะกล่อมให้เจ้ามาร่วมมือได้อย่างไรกัน?”“ร่วมมือ?” ฮั่วจือโจวตกตะลึงจั๋วซือหรานตอบ “อืม ข้าไม่มีเจตนาจะทำให้ตระกูลฮั่วต้องลำบากใจ ถ้าแค่ตระกูลฮั่วไม่ทำให้ข้าลำบากใจน่ะนะ แต่ข้าเองก็เข้าใจ บุ่มบ่ามไปแย่งธุรกิจของคนอื่น ดูแล้วยังไงก็ไม่เหมาะสม และยังเป็นในสถานการณ์ที่ข้ามั่นใจว่าข้าคว้ามันมาได้ด้วย”ฟังคำพูดนี้ของจั๋วซือหรานแล้ว ฮั่วจือโจวก็หัวเราะขึ้นมา เขาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 725

    “ทำให้มันคึกคักขึ้น?” เฟิงหร่านตาเป็นประกาย ความชื่นชมต่อตัวจั๋วซือหรานของนางไม่ได้แค่นิดหน่อยแล้วตอนนี้มองจั๋วซือหรานด้วยตาเป็นประกาย “พี่หญิงจั๋ว จะทำให้มันคึกคักขึ้นได้อย่างไรหรือ?”จั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “วิธีการมีอยู่เยอะเลยทีเดียว ก็ให้เจ้าไปแสดงพ่นไฟ เฮยหลิงไปแสดงหน้าอกทลายหินอะไรแบบนั้น หรือไม่ข้าก็ให้พวกแมลงไปแสดงละครหุ่นกระบอก? ต้องสนุกคึกคักแน่ๆ...”“พ่น พ่น...พ่นไฟ??” ในสายตาเฟิงหร่านเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อก็จริง สำหรับนางที่เป็นคุณหนูลูกขุนนางเช่นนี้ทุกการกระทำทั้งหมดของจั๋วซือหราน กระทั่งแค่ลมหายใจของนาง ก็ดูจะผิดแปลกไปจากคนอื่นๆ ในตระกูลขุนนางเหล่านั้น “พ่นไฟเป็นไหม? ถ้าไม่เป็นเดี๋ยวไว้ข้าหาเวลาสอนเจ้า” จั๋วซือหรานวางตะเกียบลง “สรุปคือ ถ้าถึงเวลาต้องเปิดกิจการ ก็หาการแสดงอะไรมา จากนั้นพอเปิดร้านก็เตรียมการให้ลูกค้าแต่ละโต๊ะหลังจากที่กินอาหารเสร็จ ก็มอบอาหารเพิ่มให้อีกหนึ่งจานแบบไม่ต้องจ่ายเงินอะไรแบบนี้”“ประชาชนกินเพื่ออยู่ ขอแค่ของอร่อย ยังต้องกลัวว่าจะไม่มีใครมาอีกหรือ” จั๋วซือหรานคิดคิด เอ่ยต่อว่า “ไหนจะเรื่องที่อาหารของที่นี่รสชาติแย่แค่ไหน น่าจะไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 724

    จั๋วซือหรานตอบ “เดี๋ยวเจ้าลองชิมก็รู้แล้ว...”ผ่านไปครู่หนึ่ง อาหารก็ส่งขึ้นมา หน้าตาแย่เอามากๆเจี่ยงเทียนซิงจึงเพิ่งได้ยินประโยคหลังของจั๋วซือหราน “...ไม่ใช่ห่วยแตกแบบธรรมดาด้วย”เจี่ยงเทียนซิง “...”เฟิงหร่าน “...”ฝูซู “...”เฮยหลิง “...”ทุกคนทยอยกันพูดไม่ออกจั๋วซือหรานหยิบตะเกียบขึ้นมา คีบคำหนึ่งส่งเข้าปาก หลังจากเคี้ยวไปสองคำ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “พวกเจ้าลองชิมสิ ห่วยแตกแบบไม่ธรรมดาจริงๆ”เฮยหลิงยังพอไหว ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ก็ใช้ชีวิตยากลำบากมาแล้ว ขยับตะเกียบ หลังจากกินคำแรกไปเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าเขาเหมือนจะโกรธขึ้นแล้วเฟิงหร่านเองพอเห็นสถานการณ์ จึงวางตะเกียบลงเงียบๆเจี่ยงเทียนซิงถาม “เจ้าหิวแล้ว แต่จงใจมายังร้านอาหารที่รสชาติแย่หรือ?”จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น “ลองชิมดูก่อน แบบนี้ภายหลังจะได้มีความแตกต่าง”เจี่ยงเทียนซิงก็เชื่อฟังคำพูดของนาง คีบขึ้นมาพอส่งเข้าปาก จึงเพิ่งมีปฏิกิริยากับคำพูดของจั๋วซือหราน “...ภายหลัง?”ตอนนี้เอง อะไรบางอย่างที่อยู่ในปาก ในที่สุดก็ทำเอาประสามรับรสของเขาถูกปะทะอย่างรุนแรง“ถุด” เจี่ยงเทียนซิงพ่นอาหารในปากออกมา รู้สึกว่าคำวิจารณ์ก่อน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 723

    พอได้ยินคำพูดของเจี่ยงเทียนซิง จั๋วซือหรานก็เลิกคิ้ว “นั่นก็จริงอยู่”เจี่ยงเทียนซิงถามขึ้น “บาดแผลของเจ้าไม่เป็นไรหรือ?”“ถ้าเจ้าถามช้าอีกหน่อย มันก็หายสนิทแล้ว” จั๋วซือหรานมองตำแหน่งบาดแผลเหล่านั้นบนร่างกายตนเองผาดหนึ่ง“ที่ข้าพูดไม่ได้หมายถึงบาดแผลในการประลองเมื่อครู่ แต่เป็นของเมื่อคืนนี้” เจี่ยงเทียนซิงบอกมาเฟิงหร่านอยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดของเจี่ยงเทียนซิง จึงรีบกำชับขึ้นมาว่า “จริงด้วย พี่หญิงจั๋ว ท่านไม่เป็นอะไรแล้วหรือ? ข้าได้ยินเรื่องที่ท่านเข้าไปในศาลบรรพบุรุษเมื่อคืนนี้แล้ว นั่นมันอันตรายมากเลย! ท่านไม่ได้บาดเจ็บใช่ไหม?”จั๋วซือหรานเหลือบมองแม่นางคนนี้ “พี่ชายของเจ้า กลับบ้านไปแล้วหรือยัง?”เฟิงหร่านตกตะลึง จากนั้นจึงพยักหน้า “กลับมาแล้ว”“เช่นนั้นเขาไม่ได้บอกเจ้าหรือ?” จั๋วซือหรานถามขึ้นมาอีกเฟิงหร่านถอนหายใจอีกครั้ง “อารมณ์ของพี่ชายเหมือนไม่ค่อยดีนัก หลังจากกลับมา ผู้อาวุโสหลายคนที่อยากไปคุยกับเขา ก็ล้วนถูกไล่ออกมาหมด ข้าเองก็ไม่กล้าเข้าไปวุ่นวาย”นางมองจั๋วซือหรานตาแป๋ว “พี่หญิงจั๋ว เป็นเพราะท่านหรือเปล่า?”“หือ?” จั๋วซือหรานส่งเสียงสงสัยขึ้นมาเฟิงหร่านถามขึ้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 722

    “ไม่มีเคล็ดวิชาอะไร กระทั่งไม่มีถุงเก็บสัตว์ด้วยซ้ำ แต่กลับเก็บแมงมุมหน้าผีระดับราชาลงไปได้ในชั่วพริบตา” ซางเชวี่ยเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ “ก่อนหน้านี้ตอนที่นางอัญเชิญราชาแมงมุมหน้าผีออกมา พวกเราถูกทำให้เข้าใจผิดจนคิดว่าอีกฝ่ายอัญเชิญออกมา คู่มือของนางคนนั้น แม้ความเร็วในการอัญเชิญจะเร็ว แต่ก็ยังต้องมีเคล็ดวิชาอะไรอยู่”“ตอนนั้นถูกเบนความสนใจจนไม่ทันสังเกต ตอนนี้กลับมองเห็นชัดเจนแล้ว ไม่แน่ว่าตอนที่นางอัญเชิญมาก็เป็นเช่นนี้ ไม่มีเคล็ดวิชาอะไรในการเก็บหรือเรียก” คนตระกูลซางที่ถูกจั๋วซือหรานแย่งราชาแมงมุมหน้าผีไปคนนั้นเอ่ยขึ้นเสียงขรึมเขาจู่ๆ ก็รู้สึกโชค ที่ตอนไปจัดการราชาแมงมุมหน้าผีในป่าลึกลับตอนนั้น ตนเองไม่ได้เผชิญหน้ากับจั๋วซือหรานเหมือนคนพวกนั้นตอนนั้นเขายังรู้สึกว่า ราชาแมงมุมหน้าผีถูกแย่งไปเพราะโชคดีที่ไม่ได้มาเจอกับเขา ดังนั้นจึงแย่งไปได้อย่างราบรื่นแต่พอเห็นตรงนี้ ในใจเขาก็แอบรู้สึกโชคดี ยังดีที่ตนเองโชคดี! ไม่ได้ไปเจอเข้ากับจั๋วซือหรานในตอนนั้น! ไม่เช่นนั้น เขาคงได้กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนอยู่ในป่าลึกลับเหมือนคนอื่นๆ พวกนั้นแน่!และบนเวทีประลองตอนนี้ หลังจากจั๋วซือหรานเก็บราชาหน้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 721

    เปรี๊ยะ...! ตอนที่เสียงนี้ดังขึ้น แจ่มชัดอย่างมากต่อให้ในสถานที่ที่สับสนวุ่นวายอย่างในลานประลอง ก็ยังแจ่มชัดอย่างมาก!ทุกคนล้วนมีปฏิกิริยากันขึ้นว่ามาต้นเสียงมาจากไหนแต่เพียงไม่นาน ก็มีคนพบขึ้นแล้ว“ดู...ดูสิ! ให้ตายเถอะ...เว เวที แตก...แตกออกแล้ว!”ภายใต้การจับตามองของทุกคน ด้านใต้ร่างกายของซางถิง แตกออกมาเป็นรอยแยกรอยหนึ่ง!“นั่น...นั่นไม่ใช่เวทีที่ทำจากหินต้องห้ามหรือ? ทำ ทำไมถึง...แตกล่ะ?”ระดับความแข็งของหินต้องห้ามแค่จินตนาการก็รู้แล้ว ไหนจะคุณสมบัติพิเศษของหินต้องห้ามที่สามารถสะกดพลังวิญญาณของมนุษย์ได้ถ้าหากไม่สามารถใช้พลังวิญญาณ แล้วคิดจะสร้างรอยแตกแก่หินต้องห้าม นั่นมันฝันกลางวันชัดๆทว่าตอนนี้ กลับมีคนทำได้แล้วก็คือคนที่เดิมทีถูกทุกคนดูถูกบนเวทีประลอง ถูกทุกคนเข้าใจว่าสู้หลอกๆ เข้าใจว่านางไม่มีฝีมือการต่อสู้...คนที่เป็นแค่หญิงสาวในสายตาของทุกคนคนนั้นจัดการหั่น...เวทีประลองที่ทำจากหินต้องห้ามนี้จนแตกหลังจากที่ทุกคนตระหนักขึ้นได้ ทั่วทั้งลานก็เงียบลงมาทันทีจั๋วซือหรานมองไปทางอินเจ๋ออัน อินเจ๋ออันก็สีหน้าปั้นยากขึ้นมา กระทั่งประกาศแพ้ชนะก็ยังลืมทำ ยืนแข็งทื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 720

    เพราะบนเวทีประลอง ไม่ค่อยจะมีความยอดเยี่ยมที่พิเศษนัก หรือก็คือ การต่อสู้ที่งดงามยอดเยี่ยม คนที่เก่งกาจจริงๆ ใครก็ไม่อยากจะมาเสียเวลาบนเวทีประลองระดับต่ำๆ เช่นนี้ปกติจึงมีแต่การต่อสู้ที่ไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรนัก และเพราะเหตุนี้ ทุกคนจึงอยากจะลองเดิมพันกัน อยากจะเห็นการต่อสู้ที่เลือดสาดยิ่งขึ้น เพราะมันต้องมีอะไรสักอย่างที่ดึงดูดสายตาแต่ตอนนี้ การต่อสู้บนเวที ไม่จำเป็นต้องเลือดสาด แค่นี้ก็ยอดเยี่ยมเพียงพอแล้วยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็มองออก!สถานการณ์ตอนนี้เหมือนเคยเจอมาก่อนเพียงไม่นาน ก็มีคนมีปฏิกิริยาขึ้นมา“ไม่ใช่เหมือนกับตอนยกแรกหรือ? แค่พลิกกลับมาเท่านั้น”“จริงด้วย! ตอนยกแรก เป็นหญิงสาวถูกอีกฝ่ายใช้แส้ไล่ฟาดบีบจนเข้าไปในระยะโจมตีของสัตว์ประหลาด!”“แต่ว่าตอนนี้เหมือนนางมาไล่บี้ชายคนนี้ไปในระยะของสัตว์ประหลาด...?”“ไม่ ไม่ใช่ นางบีบชายคนนี้ ตรงไปยังจุดโจมตีถัดไปของนาง!”“พอพูดเช่นนี้ ตอนยกแรกคงไม่ใช่ว่านางยอมให้คนอื่นชนะหรอกใช่ไหม...?”จั๋วซือหรานได้ยินเสียงเหล่านี้ หางตายกโค้งนางคิดจะให้ทุกคนรู้สึกเช่นนี้ พอเป็นแบบนี้ก็คงไม่มีใครรู้สึกว่านางไม่มีฝีมือ เอาชนะมาได้เพราะอีกฝ

DMCA.com Protection Status