Share

บทที่ 28

Author: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานถอนสายตาออก "ข้าแค่อยากหลบหน่วยลาดตระเวน ไม่ได้ตั้งใจรบกวนการรักษาอาการของท่านอ๋อง ข้าขอโทษจากใจจริง"

เมื่อเขาได้ยินคำว่า "การรักษาอาการ" เฟิงเหยียนก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงของเขายังคงไม่มีความอบอุ่น "เจ้ามีเหตุอันใดจึงมาที่จวนตระกูลเฟิง"

จั๋วซือหรานนึกถึงการเดิมพันระหว่างนางและเหยียนชางและจุดประสงค์ในการการเดิมทางมาที่นี่

เสียงของนางอ่อนลงเล็กน้อย “ข้ามาที่นี่เพื่อขอโทษท่านอ๋อง”

เฟิงเหยียนมองนางด้วยสายตาเย็นชา “บุกเข้าเรือนคนอื่นในยามวิกาล เจ้ามาขอโทษจริงหรือ ”

จั๋วซือหรานพูดด้วยความตื่นตระหนกว่า “มันคือเรื่องเร่งด่วน ข้าไม่อยากให้ท่านอ๋องรับรู้เหตุการณ์จากผู้อื่นในวันพรุ่งนี้ วิธีนี้อาจเสียมารยาทไปหน่อย มิทราบว่า ท่านอ๋องต้องการการขอโทษอย่างสัตย์จริงเช่นใด คราวหน้าจั๋วจิ่วจะระวัง”

เฟิงเหยียนมองดูนางครู่หนึ่งแล้วพูดเบา ๆ “มอบศีรษะมาพบข้า ”

จั๋วซือหราน "..."

เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้สิ

จั๋วซือหรานเงียบไปครู่หนึ่งแล้วอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ ให้แก่เฟิงเหยียนฟัง

“หัาหน้าของห้องหมอหลวง เหยียนชางกล่าวหาว่า ข้าลักลอบฝึกฝนวิชาของตระกูลเหยียน เขากล่าวหาข้าแอบซ้อมวิชาการตร
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ต่าย ต่าย
อ่านมาจนหลายตอนแล้วบทพระเอกใกล้ชิดนางเอกแบบกะหนิงกะหนุงไม่เลย...
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 29

    หลังจากได้รับการอนุญาตจากเฟิงเหยียน จั๋วซือหรานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อนางกระโดดลงจากกำแพงของจวนเฟิง ขาของนางก็อ่อนไร้เรี่ยวแรงจนนางต้องล้มลงกับพื้นร่างกายทุกส่วนของนางกำลังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรงหน่วยสืบสวนพิเศษสมชื่อเสียจริง หน่วยงานนี้ถนัดในการใช้วิธีการทรมานเสียจริง วิธีการเหล่านั้น...ด้วยความสามารถในการฟื้นตัวของนาง จนถึงตอนนี้นางยังคงเจ็บปวดอยู่จั๋วซือหรานพลิกฝ่ามือของนาง และยาเม็ดสีขาวสองเม็ดก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของนาง นางใส่เข้าไปในปากของตนเองมีเงามืดแวบวับอยู่ที่มุมไกล จั๋วซือหรานสังเกตถึงเงานั้น ความจริงเมื่อนางออกมาจากตระกูลจั๋ว นางสังเกตเห็นว่า มีใครบางคนแอบมองนางอยู่ในความมืดจั๋วซือหรานรู้สึกต้องเป็นคนของหน่วยสืบสวนพิเศษแน่ ๆ ทันใดนั้นสมองของนางปรากฏภาพของชายลึกลับผู้หนึ่ง ชายผู้สวมชุดคลุมสีดำและหน้ากากเพลิงไฟชายผู้นั้นไม่ใช่คนธรรมดาเสียจริงอย่างไรก็ตาม คนที่ติดตามและแอบดูในความมืดไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้าใกล้หรือทำร้ายนาง และด้วยสภาพของจั๋วซือหรานในปัจจุบัน นางไม่อยากสร้างปัญหาใหม่อีก นางเลยทำเป็นมองไม่เห็นหลังจากแอบเข้าไปในจวนเฟิง คนที่แอบตาม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 30

    “ใครจะรู้ล่ะ แต่ก่อนหน้านี้มีข่าวแพร่สะพัดในวังหรือว่า ห้องหมอหลวงรักษาไทเฮาที่นอนสลบไม่ได้ แต่คุณหนูจั๋วจิ่วได้ทำการรักษาให้หายแล้วไม่ใช่หรือ”“นั่นอาจเป็นเรื่องจริงก็ได้ อย่างไรก็ตาม ที่นี้ มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้จะได้ชม”เมื่อจั๋วซือหรายตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น ข้าวลือก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงปากต่อปาก!ชั่งเวลาที่ทานอาหารเช้า จั๋วหวายฝึกซ้อมตอนเช้าเสร็จและรีบกลับไปที่สวนจี๋หย่าย่วนเขาไม่สามารถระงับความตื่นเต้นในน้ำเสียงของตนได้“ท่านพี่ จริงไหมเนี่ย จริงหรือท่านพี่...ท่านพี่จะประลองกับตระกูลเหยียน จะแข่งฝีมือทางการรักษาจริงหรือ”คำพูดของจั๋วหวายทำให้มารดาของเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และทันใดนั้นนางก็มองไปที่จั๋วซือหรานจั๋วซือหรานยิ้มและไม่พูดอะไรจั๋วหวายรู้คำตอบแล้ว ดวงตาของเขาเป็นประกายจั๋วซือหรานถามเขา "กลัวหรือ"“ข้าไม่กลัวหรอกนะ” จั๋วหวายตอบอย่างไม่ลังเลอวิ๋นเหนียงไม่ได้ไร้เตียงสาเหมือนเขา นางมองจั๋วซือหรานด้วยความกังวล "แม่รู้ว่าลูกมีพรสวรรค์อย่างมาก และมีความสามารถมากมายที่แม่ไม่รู้ แต่ตระกูลเหยียนถนัดการแพทย์ไม่ใช่หรือ"นั่นเป็นเพราะในโลกนี้มีคนที่มีพรสวร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 31

    จั๋วซือหรานยืนอยู่ข้างนอก เมื่อนางได้ยินคำพูดเหล่านั้น นางหยุดก้าวเท้า และไม่รีบเดินเข้าห้อง“นั่นคือตระกูลเหยียนนัก พวกข้าทำให้พวกเขาไม่สบายใจง่ายเช่นนี้ได้หรือ” ผู้อาวุโสห้าพูดต่ออย่างโกรธ ๆ “ แม้แต่ หน่วยสืบสวนพิเศษ ก็ยังเข้าข้างพวกเขา นางเคยถูกจับกุมครั้งหนึ่ง นางยังไม่ได้เรียนรู้บทเรียนหรือ นางกล้าก่อเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร แล้วทีนี้ มันจะแก้ปัญหาอย่างไรล่ะ”ผู้อาวุโสห้าไม่ทันสนใจที่จะรักษาความเคารพต่อผู้อาวุโสใหญ่ อีกต่อไป เขาจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสใหญ่“ จั๋วหลาน ถึงเวลานนั้น เจ้าจะทำปกป้องนางอีกครั้งหรือ การที่รุกรานตระกูลเหยียน นั่นหมายถึงการรุกรานตระกูลเฟิง เวลานี้ นางไม่ได้หมั้นหมายกับเฟิงเหยียน ก่อนหน้านี้ นางเคยทำให้ตระกูลเฟิงไม่พอใจไปครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้ก่อเรื่องเช่นนี้อีกครั้ง นางกำลังวางแผนที่จะทำให้ตระกูลเฟิงขุ่นเคืองโดยสิ้นเชิงใช่หรือไม่”ผู้อาวุโสใหญ่มีบุคลิกที่สงบ เมื่อต้องเผชิญกับความก้าวร้าวของ ผู้อาวุโสห้า เขาไม่ตอบสนองและสีหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ดูเหมือนเขาไม่โกรธกับคำพูดอย่างแรงของผู้อาวุโสห้าเขาเพียงเหลือบมองไปทางประตู ราวกับว่า เขาสังเกตเห็นใครบางค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 32

    ผู้อาวุโสห้ายังคงโกรธอยู่ "นี่ จะตายแล้ว ยังไม่รู้จักผิดอีก"“ หากพวกท่านกำลังพูดถึงการแข่งขันกับตระกูลเหยียนละก็” เดิมทีก่อนที่จั๋วซือหรานเข้ามา นางว่าจะไว้หน้าให้พวกเขา แต่เมื่อนางได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสห้าจากข้างนอกนอกจากนั้นแล้ว เมื่อครู่ผู้อาวุโสห้ายังอยากโจมตีนางอย่างไม่ลังเล ซึ่งทำให้จั๋วซือหรานเลิกความคิดนี้โดยสิ้นเชิงจั๋วซือหราน ม้วนริมฝีปากของเขา มองไปที่ ผู้อาวุโสห้า และถามด้วยรอยยิ้ม "โอ้ คุณจะไม่แกล้งทำเป็นไม่รู้ตอนนี้เหรอ?"ใบหน้าของ ผู้อาวุโสห้า แข็งทื่อ "คุณพูดอะไร!"“ข้าหมายถึง เมื่อวาน ตอนที่ข้าถูกตระกูลเหยียนกล่าวหาว่า ข้าแอบฝึกทักษะทางการแพทย์ของตระกูลนั้น และข้าถูกหน่วยสืบสวนพิเศษพาตัวไปและถูกสอบปากคำอย่างทรมานเพื่อให้ช้าสารภาพความผิด พวกท่านแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องมิใช่หรือ”จั๋วซือหรานถามแล้วพูดต่อ "ข้าเสนอแข่งขันกับตระกูลเหยียน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้า ทีนี้พวกท่านไม่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วหรือ"ผู้อาวุโสห้าได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขาขมวดคิ้วและหน้าแดง แต่เขายังคงพูดอย่างไม่ยอม "ทำไม เจ้าสร้างปัญหาเอง เจ้ายังต้องการให้ครอบครัวช่วยเจ้าแก้ปัญห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 33

    ส่วนสาเหตุที่จั๋วซือหรานเสนอถอนตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลจั๋วในตอนนี้ ก็เป็นเพราะนางรู้สึกการตัดสินใจของคราวนี้ไม่แย่สำหรับคนอื่น พวกเขารู้สึกว่า การแยกตัวออกจากสำนักงานใหญ่เป็นหายนะ แต่สำหรับจั๋วซือหราน การแยกออกจากสำนักงานใหญ่ไม่ถือเป็นการเนรเทศแต่นางกลับคิดว่าการตัดสินใจของครางนี้ดีที่สุดแล้ว เพราะตราบใดที่นางแยกตัวออกจากสำนักงานใหญ่ นางจะไม่ถูกควบคุมมากนักมิฉะนั้น นางต้องระวังฝ่าฝืนกฎหมายครอบครัวของสำนักงานใหญ่ทุกเมื่อ นั่นไม่ใช่เรื่องตลกนอกจากนี้ เมื่อลูกศิษย์แยกตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลจั๋ว สำนักงานใหญ่จะให้ทรัพยากรบางอย่างเป็นพิเศษด้วย ลูกศิษย์เหล่านั้นที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลทรัพย์สินของครอบครัวในเมืองต่าง ๆ ไม่ได้มีชีวิตที่ยากจนหลายคนที่ไปอยู่ในที่มั่งคั่งและมีชีวิตที่สบายมากดังนั้นเมื่อเจ้าของร่างเดิมยืนกรานที่จะแต่งงานกับฉินตวนหยาง ก็ถือว่าแยกตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลดังนั้น แม้ว่าครอบครัวต้องอับอายมากในเวลานั้น แต่ครอบครัวก็ยังคงให้สินสอดแก่เจ้าของรางเดิมนี่คือวิธีการรักษาเกียรติของตระกูลจั๋ว ในฐานะที่เป็นหนึ่งในห้าตระกูลขุนนางหลักในเมืองหลวงจั๋

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 34

    นางพูดว่า " คุณท่านลิ่วโปรดระวังสิ่งที่ท่านพูด เสียวจิ่วของข้าไม่ได้ถูกไล่ออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูล เหล่าลูกสิษย์ที่แยกออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลและไปอยู่ต่างเมืองหลาย ๆ ที่ พวกเขาล้วนทุ่มเทเพื่อความเจริญของตระกูลจั๋ว หากะวกเขาได้ยินคำพูดของคุณท่านลิ่ว พวกเขาต้องเสียใจขนาดไหน ”ทีแรกคุณท่านจั๋วลิ่วยังสะใจอยู่ แต่เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่ใจเสาะและไม่เย่อหยิ่งของอวิ๋นเหนียง สีหน้าของเขาเปลี่ยนทันที“ข้ามาที่นี่ตามคำสั่งของผุ้อาวุโส มาส่งเจ้าไปจากคฤหาสน์” คุณท่านจั๋วลิ่วพูดอย่างเย็นชา “อย่ารอช้า รีบออกไปเถิด”สำนักงานใหญ่ไม่ได้จัดจวนที่อื่นให้ มันเป็นจวนที่เอาไว้พักอาศัยอยู่หลังจากแต่งงานกับจัวต้วนหยาง แน่นอนว่ามันไม่ดีเท่าจวนของตระกูลจั๋วหรอก แต่อย่างน้อยมันก็เป็นสถานที่ของตัวเองแม้ว่าในจวนหลังนี้ ความทรงจำของจั๋วซือหรานที่เกี่ยวกับชีวิตอย่างน่าสงสารของครึ่งหลังชีวิตของเจ้าของร่างเดิมอาจปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวแต่อย่างน้อย นางไม่ต้องใช้ชีวิตที่ไร้ความอิสระอย่างในคฤหาสน์จั๋วคุณท่านจั๋วลิ่วส่งจั๋วซือหรานมาถึงจวนแห่งนี้ เขาพูดอย่างเย็นชา "อีกไม่กี่วัน เจ้าแข่งขันกับตระกูลเหยียน ถึงเว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 35

    ทันทีที่นางได้ยินเสียงนี้ จั๋วซือหรานรู้สึกหมั่นไส้จากใจนางไม่แน่ใจความรู้สึกนี้เกิดจากความคิดที่หลงเหลือจากเจ้าของร่างเดิมหรือเปล่าเจ้าของของเสียงที่มาจากนอกประตูนั้นไม่ใช่ใคร แต่เป็นฉินตวนหยางอย่างแน่นอน บัดนี้เขากำลังเอามือตีประตูของจวนจั๋วซือหราน และตะโกนด้วยจวนของตระกูลจั๋วและจวนของตระกูลเฟิงตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีชนชั้นสูงที่ดีที่สุดของเมืองหลวง แต่จวนของจั๋วซือหรานไม่ได้อยู่ในพื้นที่นั้น สภาพแวดล้อมโดยรอบจึงไม่ได้เงียบมากนักการกระทำของฉินตวนหยางทำให้คนรอบข้างสนใจอย่างมากด้วยเสียงเอี๊ยด ประตูของจวนก็ถูกเปิดออกอย่างช้า ๆรูปร่างเพรียวบางยืนอยู่ที่ประตูด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามและบุคลิกที่โดดเด่นเนื่องจากขาของฉินตวนหยางถูกนางหักในวันแต่งงาน และขายังไม่หายดี เขาจึงถูกคนเอาเปลหามเขามานี่ และทีนี้เขาทำได้นอนบนพื้นหน้าประตูเท่านั้นจั๋วซือหรานมองเขาด้วยความดูถูกฉินตวนหยางเห็นจั๋วซือหรานมีการกระทำเช่นนี้ เขาโกรธอย่างไร้เหตุผล เพราะแต่เดิมเขากำลังจะมีชีวิตที่ดีแต่สุดท้าย ผู้หญิงคนนี้ยกเลิกพิธีงานแต่งต่อหน้าแขกทุกท่าน แถมนางโหดเหี้ยมมากและหักขาของเขา ทำให้เขาต้องเสียหน้าต่อห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 36

    ก่อนที่ฉินตวนหยางจะพูดจบ เขาถูกใครบางคนรัดคออย่างแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัวในขณะนี้ ดูเหมือนเขาจึงตระหนักได้ทันทีว่า ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ผู้หญิงที่เชื่อฟัง และไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาควบคุมด้วยเสน่ห์หนอนพิษกู่อีกต่อไปจั๋วซือหรานจ้องมองเขา ราวกับว่า นางกำลังมองไก่ที่ถูกรัดคอและกำลังจะถูกฆ่า“ความรักหรือ ฉินตวนหยาง เจ้าเอาเสน่ห์หนอนพิษกู่มาควบคุมสติของข้า เจ้าพยายามคุมชีวิตของข้าและทำลายชีวิตของข้า ระหว่างข้ากับเจ้า พูดได้เลยว่าเหลือแต่ความพยาบาท คงไม่มีใครกล้าตำหนิข้าหรอกนะ ข้าไม่ไปจัดการเจ้า แต่เจ้ากลับกล้ามาหาข้าหรือ”มุมปากของจั๋วซือหรานเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย นางค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้และจ้องมองไปที่ดวงตาของฉินตวนหยาง "หากข้าเป็นเจ้า ข้าจะอยู่ห่าง ๆ ไว้ ช่างน่าเสียดาย มีคนจำนวนมากเห็นเจ้า มิฉะนั้น....."ฉินตวนหยางได้ยินเสียงออร่าแห่งการฆาตกรรมในน้ำเสียงของนาง เขาสังเกตว่าความแข็งแกร่งของนิ้วของนางแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ และความตื่นตระหนกในใจของเขาก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ"ช่วย ช่วย... ชีวิต..." ฉินตวนหยางหายใจลำบาก เขารู้สึกคอของเขาเจ็บปวดอย่างรุนแรง ราวกับว่าวินาทีถัดไป

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1142

    จั๋วซือหรานไม่มีเรื่องอื่นให้ทำ จึงเริ่มตั้งใจค้นคว้าหุ่นเชิดความมืดอย่างจริงจังแม้จะบอกว่าไม่เหมือนคืนนั้น ที่มีพลังวิญญาณความร้อนของใครบางคนคอยขับไล่ความเย็นเยือกให้แต่น่าจะเพราะคนนั้นก่อนหน้านี้คอยเฝ้านางอยู่ทั้งคืน จึงยังพอเหลือประสิทธิภาพอยู่บ้างบวกกับว่า หลังจากที่จั๋วซือหรานค้นคว้าหุ่นเชิดความมืดมานาน เริ่มจะพอคลำๆคุณสมบัติมันได้บ้างแล้วดังนั้น จั๋วซือหรานรูสึกว่า ตนเองน่าจะมีปัญหาไม่มากนักเพียงแต่ว่า นางนำตลับหุ่นเชิด...หรือก็คือที่คุณชายเยี่ยนทิ้งไว้ให้ ตลับหุ่นเชิดที่รื้อออกมาจากบนตัวผู้ดูแลชุยพอเปิดออก ตอนที่ปล่อยหุ่นเชิดความมืดที่ปิดผนึกอยู่ด้านในออกมาจั๋วซือหรานยังรู้สึกตกตะลึงอยู่"นายท่าน นี่มัน..." ราชาแมงมุมหน้าผีเองก็เห็นสถานการณ์นี้ รู้สึกประหลาดใจหน่อยๆจั๋วซือหรานมองหุ่นเชิดความมืดที่ออกมาจากในตลับหุ่นเชิดนี้ เป็นเหมือนกับหุ่นเชิดความที่ได้มาก่อนหน้าตัวนั้น ใส่หุ่นเชิดความมืดเอาไว้ตามหลักการแล้วจะต้องมีปราณหยินอยู่มหาศาล กระทั่งพลังเย็นเยือกยังส่งผลกระทบต่อตัวคนอีกด้วยแต่พอเปิดตลับหุ่นเชิดนี้แล้วปล่อยหุ่นเชิดความมืดออกมา กลับไม่มีกลิ่นอายพลังเย็

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1141

    "ได้ๆๆ กินไปๆๆ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นอย่างจนใจเทียบกับแมลงกู่ในหลุมฆ่าเหล่านี้ที่ไม่รู้ว่าจะหลอมเป็นนางพญากู่แบบไหน จั๋วซือหรานก็ยังเอ็นดูเจ้าก้อนเนื้อทั้งเจ็ดของตนเองมากกว่า ถึงอย่างไรก็มีความรู้สึกต่อกันนี่นะแม้จะบอกว่าสำหรับแมลงกู่ในหลุมฆ่าพวกนี้ จั๋วซือหรานอันที่จริงก็รู้สึกสนใจอยากจะเปิดกล่องสุ่มดูเหมือนกันแต่ก็ทนดูสภาพน้ำลายสออขงเจ้เาจ็ดตัวนี้ไม่ได้จริงๆความรู้สึกนี้เหมือนกำลังมองเด็กๆ บ้านตัวเองแอบจ้องอาหารในชามคนอื่นจนน้ำลายไหลอย่างไรอย่างนั้น...จั๋วซือหรานยังพูดไม่ทันขาดคำ เจ้าเจ็ดตัวนุ่มนิ่มหนุบหนับตรงหน้านางที่ดูอารมณ์ดีสุดๆ นี้ก็กางฟันแหลมคมของพวกมันเองออกมาในพริบตา ดูดุร้ายมากยื่นไหมกู่ที่คมกริบออกไปฉับพลัน!จั๋วซือหรานถอนใจ เดินไปอยู่ข้างๆ ไม่รบกวนการกินของพวกมันบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนยังคงเบ่งบานได้ไม่เลว ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่เหมือนตอนที่อยู่ในป่าด้วย ที่ส่งผลกระทบกับพื้นที่ออกไปกว้างๆเพียงแค่แผ่ออกไปเป็นรัศมีประมาณบ้านหลังหนึ่งจากจุดที่มันอยู่เท่านั้น ที่มีหมอกพิษของป่าปกคลุมอยู่แมงมุมของนางล้อมอยู่รอบๆ ต้นไม้ต้นนี้ อยู่ในหมอกพิษของมัน ราวกับกลาย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1140

    "ความเร็วนี้ยังพอไหว พยายามไปให้ถึงเขตเมืองอวิ๋นในช่วงค่ำให้ได้" จั๋วซือหรานเอ่ยกำชับ"รับทราบ" เหลียนเจินขานรับจั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "พวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ยังไหวไหม?"เหลียนเจินซาบซึ้งขึ้นในใจ รู้ว่านายท่านเป็นห่วงสุขภาพของพวกเขา ถึงอย่างไรก่อนหน้าที่จะถูกนางรับตัวมา พวกเขาก็เพิ่งจะผ่านการทรมานของเหอจื้อหย่วนไป"นายท่านวิชาแพทย์ยอดเยี่ยม ใช้ยาได้ราวกับเทพ พวกข้าน้อยฟื้นฟูได้ระดับหนึ่งแล้ว นายท่านวางใจได้เลย พวกข้าน้อยจะไม่ทำให้งานของนายท่านล่าช้าแน่" เหลียนเจินเอ่ยขึ้นเสียงขรึมเขาเองก็รู้สาเหตุและเหตุผลการเดินทางครั้งนี้ของนายท่านจากเจิ้นเจียงแล้ว เข้าใจความรู้สึกของนายท่านดีจั๋วซือหรานพยักหน้า "อืม ถ้าอย่างนั้นก็ดี"สายตานางเหลือบมองไปด้านหลัง เอ่ยกับเหลียนเจินว่า "ท้ายสุดแล้ว พวกเจ้าก็เป็นคนของข้า แล้วข้าเองก็ดีกับคนของข้ามาโดยตลอด ดังนั้นถ้าหากพวกเจ้ามีตรงไหนไม่ค่อยดี ก็ไม่ต้องเอาแต่ทนไว้"จั๋วซือหรานยิ้มๆ "รีบขึ้นรถม้าไปพักผ่อนซะ แล้วให้เจ้าพวกบนรถม้านั่นลงมาวิ่งตามรถก็พอ"บนใบหน้าเคร่งขรึมของเหลียนเจิน ผ่อนคลายลงมาเพราะคำนี้ของนายท่าน เผยรอยยิ้มออกมา"รู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1139

    มนุษย์กู่ แค่ฟังจากชื่อ ก็น่าจะไม่ใช่ตัวเลือกอะไรที่น่ายอมรับแล้วแต่มนุษย์เราก็เป็นแบบนี้ มักจะถูกครอบงำได้ง่ายจากปรากฏการณ์รื้อหน้าต่างแม้ว่ามนุษย์กู่จะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีมาก แต่ขณะเผชิญหน้าความตาย ก็เหมือนจะเปลี่ยนเป็นอะไรที่ไม่ได้ยอมรับยากขนาดนั้นแล้วผู้จัดการพยักหน้าแทบไม่ทัน รีบร้อนตอบว่า "มนุษย์กู่! ข้ายอมกลายเป็มนุษย์กู่ของท่าน!"เมืองหยางถึงอย่างไรก็เป็นเมืองที่อยู่ใกล้พรมแดนใต้ ดังนั้นจึงค่อนข้างเข้าใจต่อพิษกู่ดังนั้นจึงเข้าใจคร่าวๆ แม้พิษกู่จะรุนแรงมาก แต่ปรมาจารย์กู่ถ้าหากใส่กู่เข้าไปในมนุษย์กู่ที่ตนเองเลี้ยง ก็จะไม่ทำให้ตายไปอย่งแท้จริง ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ปกติ จะต้องเจ็บตัวบ้าง แต่ก็ไม่ถึงชีวิตปันอวิ๋นเดิมทีก็อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว มองออกได้ไม่ยากแต่หลังจากที่ผู้จัดการพยักหน้าหงึกหงัก อารมณ์เขาก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาพอควรผู้จัดการเห็นตราประทับกู่ในมือเขา ปรทับลงมาบนตัวตนเองแม้ใจจะหวาดกลัว แต่ก็ไม่กล้าขยับตัวซี้ซั้วรู้สึกแค่ว่าที่หลังคอเหมือนถูกอะไรบางอย่างเล็กๆ แทงเข้ามา ไม่ได้เจ็บปวดอะไรนัก"เอาล่ะ ตัวข้ายังมีเรื่องต้องไปทำ เท่านี้ก่อนแล้วกัน" ปันอวิ๋นเอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1138

    เสียงของเขาดูไม่ได้ใส่ใจนัก "โอ้ ล้มเหลวไปแล้ว""เจ้าขยะ" ในน้ำเสียงอีกด้านมีความรู้สึกที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด "เจ้าเฟิงเหยียนนั่นอย่างน้อยก็ยังรู้จักให้ความร่วมมือลบความทรงจำทิ้ง แต่เจ้า แค่ให้ไปปล้นก็ยังไม่สำเร็จ เจ้ามันขยะกว่าเขาเสียอีก"ปันอวิ๋นพอได้ยิน มุมปากยังคงเป็นเส้นโค้งที่ดูประชดประชัน ในดวงตาไม่มีความอบอุ่นใดอยู่อีกด้านไม่รอเขาตอบ เอ่ยต่อมาว่า "ดังนั้นตอนแรกพวกเราถึงให้หลงเฉินเลือกเฟิงเหยียนไม่เลือกเจ้าไงล่ะ ดูท่าจะไม่ได้เลือกผิด"เส้นโค้งประชดประชันเหล่านั้นของมุมปากปันอวิ๋นลดลงมา ความอบอุ่นในดวงตาเย็นเยียบไปแล้วอย่างสิ้นเชิงเพียงแต่น้ำเสียงฟังแล้วยังดูนิ่งไม่มีความผันผวนใด ราวกับไม่มีอารมณ์ใดๆ อยู่"แต่ตอนนี้พวกเจ้าก็ยังต้องให้ข้ามาจัดการความยุ่งยากของเฟิงเหยียน" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ"แล้วเจ้าจัดการแล้วหรือยัง? ให้เจ้าไปปล้นมาก็ยังทำไม่ได้" เสียงจากอีกด้านหัวเราะเย็นชาขึ้นมาแต่ปันอวิ๋นก็หัวเราะขึ้นเบาๆ ดูนิ่งมาก "ข้าเป็นพวกเมตตาต่อสตรีนะ เรื่องปล้นอะไรไม่ถนัดหรอก แต่ยังพอเปลี่ยนวิธีแก้ไขความยุ่งยากได้""เจ้ายังมีวิธีอะไรอีก? อย่าคิดว่าตัวเองฉลาดนักเล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1137

    ผู้จัดการโรงเตี๊ยม เกือบร้องจะร้องแหลมขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ แต่ยังดีที่ทนเอาไว้ อย่างน้อยก็ไม่เหมือนผู้เฒ่าเหอที่ร้องเป็นไก่เมื่อวานนี้"เจ้า เจ้า..."เดิมทียังคิดจะถามว่าเป็นใคร แต่ผู้จัดการก็มองออกทันที หนึ่งในผู้ชายป่าเถื่อนที่จั๋วซือหรานผู้หญิงตัวซวยคนนั้นพากลับมาจากที่ผู้จัดการโรงเตี๊ยมเห็น ที่ผู้หญิงตัวซวยคนนั้นพามาล้วนเป็นผู้ชายป่าเถื่อนทั้งสิ้นหลักๆ คือนางเองไม่ได้พาผู้หญิงกลับมา ไม่ว่าจะเชลยหรือว่าอะไรก็ตาม...ไม่ว่าจะใครก็ล้วนเป็นผู้ชายทั้งสิ้นแต่นอกจากเชลยเหล่านั้น คนที่นางพากลับมาสองคน ไม่ว่าจะใคร ดูแล้วก็อันตรายไม่แพ้กันผู้จัดการยังคิดว่าพวกเขาจะไปพร้อมกันเสียอีก!ทำไม! ทำไมยังเหลือทิ้งไว้อีกล่ะ?!"เจ้า...ทำไมถึงไม่ได้ไปกับนาง..." ผู้จัดการพูดจาตะกุกตะกักไปหมดแล้ว ถอยหลังออกมาก้าวหนึ่งด้วยสัญชาตญาณ เพราะรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าคนนี้ แม้จะหน้าตาหล่อเหลา แต่ก็ดูชั่วร้ายมากแค่เหลือบมองก็รู้สึกอันตรายแล้วแต่ว่าอีกฝ่ายกลับไม่ให้โอกาสเขาได้ถอยหนีคิ้วยาวเขาเลิกขึ้นเล็กน้อย "ดูท่า นางจะเป็นตัวซวยคนนั้นจากปากของเจ้าสินะ?"ผู้จัดการไม่กล้าพูด แต่พริบตาต่อมา มือก็ถูกออกแ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1136

    เจิ้นเจียงไม่ค่อยเข้าใจคามหมายลึกๆ ของคำพูดนี้เพียงแต่ดูแล้ว นายท่านเองก็เหมือนไม่คิดจะไปตามหาคุณชายเหยี่ยนด้วย"ให้ข้าน้อยไปตามหาคุณชายเยี่ยนไหมขอรับ?" เจิ้นเจียงถามจั๋วซือหรานส่ายหัว "ไม่ต้องแล้ว ข้าเสียเวลาที่นี่อีกไม่ได้แล้ว ข้ายังมีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการอีก"เจิ้นเจียงเองก็เข้าใจ เรื่องของคุณชายน้อยจั๋วหวาย เป็นเรื่องสำคัญในตอนนี้ของนายท่านยิ่งไปกว่านั้นพอดูแล้ว อารมณ์ของนายท่านก็เหมือนจะปรับเรียบร้อยแล้วด้วยกระทั่งอารมณ์ที่ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้ เหมือนจะสภาพหดหู่เล็กๆ ก็ยังกลับมาเป็นปกติแล้วเจิ้นเจียงรีบตามนางไป จากนั้นก็ได้ยินนางเหมือนจะงึมงำกับตนเองแว่วมาตามสายลม"ยิ่งไปกว่านั้นใครจะูร้ว่าเขาไปแล้วจริงหรือเปล่า ไม่แน่อาจจะหลบอยู่ใกล้ๆ แอบฟังก็ได้..."จั๋วซือหรานให้เจิ้นเจียงไปจัดการรถรางวัล เตรียมตัวออกเดินทางเดิมทียังกังวลว่ารถจะไม่พอใส่ ถึงตอนนั้นคงต้องพิจารณาเรื่องซื้อรถม้า หรือไม่ก็ให้สำนักเมฆาวารีพวกนี้วิ่งตามรถม้าเอา...ผลคือตระกูลเหอก็ส่งรถม้าเข้ามา เรียกได้ว่าพอง่วงหนอนหมอนก็หนุนเข้ามาพอดีคนสำนักเมฆาวารีที่เป็นเชลยจากด่านกระดูกแพะก่อนหน้นี้ สภาพจิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1135

    "นายท่าน?" เจิ้นเจียงเห็นจั๋วซือหรานยืนอยู่แถวบ่อน้ำ เหมือนจะไม่ขยับตัวมาพักหนึ่ง จึงหันหน้ามองไปทางนางอย่างสงสัย"มีอะไรหรือ?" เจิ้นเจียงเดินขึ้นเข้ามา และเห็นสายตาตกตะลึงหน่อยๆ ของนายท่าน เอ่ยถามเสียงต่ำว่า "มีอะไรผิดปกติหรือขอรับ?"จั๋วซือหรานจึงเก็บสายตากลับ "ไม่มีอะไร ไปเถอะ ห้องเขาอยู่ที่ไหน?""โอ้! ตามข้ามาเลย" เจิ้นเจียงนำทางจั๋วซือหรานต่อไปทางห้องแขกเพียงแต่ว่า เขาไม่รู้ว่าเข้าใจผิดหรือเปล่า รู้สึกเหมือนการก้าวเดินของนายท่าน เทียบกับความเอ้อระเหยไม่รีบร้อนก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะรีบเร่งขึ้นมาพอควร!ไม่นานนัก เจิ้นเจียงก็นำมาถึงประตูห้องแขก"ที่นี่ขอรับ" เจิ้นเจียงกดเสียงต่ำ บอกกับจั๋วซือหรานว่า "แต่ว่า นายท่าน ตอนนี้มันจะเช้าไปหน่อยไหม? ถ้าคุณชายเหยี่ยนยังพักผ่อนอยู่ล่ะ..."จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็เหมือนไม่ได้ยิน ยกมือขึ้นเคาะประตู"ตึงๆๆ..."ในประตูไม่มีปฏิกิริยาการเคลื่อนไหวใดเจิ้นเจียงเอ่ยขึ้นข้างๆ "คุณชายเหยี่ยนน่าจะยังไม่ตื่น นายท่าน ถ้างั้น..."เสียงเขายังไม่ทันขาด ก็เห็นนายท่านขมวดคิ้ว จากนั้นสองมือก็ค่อยๆ ดันเปิดตรงหน้าเจิ้นเจียงรู้สึกว่า เหมือนมีพลังอบอุ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1134

    จั๋วซือหรานรับรายชื่อของขวัญมา กวาดตามองผาดหนึ่ง คิ้วเลิกขึ้นเบาๆ "จวนตระกูลเหอส่งมาหรือ?""ขอรับ ส่งมาแต่เช้าตรูเลย น่าจะเตรียมไว้เมื่อคืนนี้" เจิ้นเจียงเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานดีดรายการของขวัญในมือเบาๆ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม "ดูท่าเหอจื้อหย่วนจะกลัวจริงๆ ซะแล้ว"เมื่อคืนนี้ก่อนที่นางจะออกมาบอกกับเหอจื้อหย่วนเรื่องที่นางจะสะสางหนี้ ดูท่าจะทำเขาผวาไปแล้วฟ้ายังไม่สาง ก็ส่งกองนี้เข้ามา"ต้อง ต้องรับไว้ไหม?" เจิ้นเจียงดูจะระแวดระวัง "จะมีตุกติกอะไรหรือเปล่า?""จะมีอะไรตุกติกได้อีก" จั๋วซือหรานยิ้มๆ "ยังมองไม่ออกอีกหรือ?""มองอะไร...ไม่ออกหรือขอรับ?" เจิ้นเจียงไม่เข้าใจจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "เขากำลังขับไล่สิ่งอัปมงคลนี่ ให้ข้ามาเยอะขนาดนี้ คงอยากให้ข้ารีบไปเต็มแก่แล้ว..."เจิ้นเจียงได้ยินคำนี้ แม้จะรู้สึกดู...ยังไงๆ อยู่ แต่ก็...เหมาะควรดีจั๋วซือหรานเดิมทียังไม่ได้นอนมาคืนหนึ่ง แม้คุณสมบัติร่างกายจะแข็งแกร่ง ด้านสุขภาพไม่มีอาการเหนื่อยล้า แต่ในด้านจิตใจก็มีอาการเหนื่อยล้าเล็กๆตอนนี้ก็ดูจะมีแรงขึ้นหน่อย ถือรายการของขวัญมือไพล่หลังเดินไปยังรถของขวัญด้านนอกเพื่อตรวจสอบ ดูแล้วจิตใจจะ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status