แชร์

บทที่ 225

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-30 18:44:31
“เราไม่เพียงแต่ตัดสินใจเท่านั้น” เหยียนฉีเดินเข้ามาหา “เมื่อคืน ตระกูลของข้าได้เตรียมการด้วย”

"โอ้" จั๋วซือหรานขมวดคิ้วและมองเหยียนฉี

เหยียนฉีกล่าวต่อว่า "เมื่อคืนทางบ้านยุ่งเกือบทั้งคืน ในห้องเก็บของของบ้าน นอกจากมียาสำรองที่ทางบ้านเก็บไว้ ห้องเก็บของยังเต็มไปด้วยวัสดุยาต่าง ๆ ที่รวบรวมมาจากที่อื่น พูดตามตรง แม่นางจิ่วขอรับ เมื่อคืน ตระกูลของข้าเกือบเก็บวัสดุยาทั้งหมดในเมืองหลวงแล้ว”

หลังจากเหยียนฉีพูดเช่นนี้ วินาทีต่อมา เขาเห็นดวงตาของ จั๋วซือหรานโค้งงอเล็กน้อย นางไม่พูดอะไรต่อ แต่ถามเขา "ยังเช้ามาก คุณชายเหยียนรับประทานข้าวเช้าหรือยัง"

เหยียนฉีรู้สึกทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้ไม่สนใจอย่างอื่นนอกจากผลประโยชน์ เขาไม่รู้สึกนางเลือกปฏิบัติ แต่กลับรู้สึกนางจริงใจและน่ารักนิดหน่อย

เหยียนฉีกล่าว "เหล่าผู้อาวุโสสั่งข้ามาตั้งแต่เช้าเพื่อคุยเรื่องนี้กับแม่นางขอรับ เมื่อข้าได้รับคำสั่ง ข้ามาทันที ยังไม่ได้ทานข้าวเช้าขอรับ"

จั๋วซือหรานหันตาและบอกฝูซู "ไปซื้อเครปอีก โอ้ ใช่เลย และแกงบะหมี่ร้อน ๆ จากร้านข้าง ๆ ด้วย"

“ขอรับ” ฝูซูรับคำสั่งและรีบออกไป

เขาเป็นผู้ที่ประมาท ซึ่งค
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 226

    จั๋วซือหรานเงยหน้าขึ้นและมองเขา "หืม ใช่ ทำไมหรือเจ้าคะ"เหยียนฉีลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "เจ้าควรรู้ดี ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับเขาจะนำอันตรายมาสู่เจ้า"เนื่องจากต่างเป็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ เหยียนฉีจึงเข้าใจอย่างดี การรักษาเฟิงเหยียนต้องนำความทุกข์แก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์มากเท่าไรดังนั้นในตอนที่ต้องรักษาเฟิงเหยียน ไม่ใช่เหยียนฉีรักษาไม่ได้ เพียงแต่เมื่อรักษาเฟิงเหยียนถึงขั้นนั้นแล้ว เขาต้องรับความเสียหายอย่างมากอีกอย่าง เนื่องจากตระกูลเฟิงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลเหยียนตลอดหลายปี เหยียนฉีจึงเข้าใจสถานการณ์ของตระกูลเฟิง อยู่บ้างยิ่งเขารู้เรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าแผนของตระกูลเฟิง อาจไม่ใช่แค่ให้จั๋วซือหรานรักษาอาการบาดเจ็บของเฟิงเหยียน เท่านั้น แต่อาจมีแผนการที่ลึกกว่านั้นด้วยในอดีต จั๋วจิ่วยังคงเป็นสตรีชนชั้นสูงโดยได้รับการหนุนหลังจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลขุนนาง แต่นางก็ยังไม่ได้รับความคุ้มครองจากทางบ้าน ในอนาคต หากนางไม่ได้รับการคุ้มครองจากตระกูลแล้ว นางจะไม่ยิ่ง...หรือแน่นอนว่า จั๋วซือหรานฟังออกคำเตือนของเหยียนฉี นางยิ้มเบา ๆ และพูดว่า "ขอบคุณคุณชาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 227

    หลังจากหานกวงจากไป จั๋วซือหรานเตรียมกลับไปนอนต่ที่ห้องของนางอย่างไม่สนใจอะไรมากนักไม่ต้องสนใจหานกวงจะนำคำพูดของนางไปให้เฟิงเหยียนไหม ด้วยร่างกายที่เหมือนแวมไพร์ที่ชายคนนั้นไม่สามารถมองเห็นแสงได้ เขาออกมาได้ในกลางวันแสก ๆ คงลำบากเหลือเกินไม่ใช่เขาออกมากลางวันแสก ๆ ไม่ได้ แต่หากเขาออกมาจริง ๆ นางอาจจะต้องทนทุกข์ทรมานร่วมกับเขาเล็กน้อยจั๋วซือหรานรู้สึกเฟิงเหยียนคงไม่ยอมทำร้ายตัวเองเพื่อหาเรื่องนางก่อนกลับไปนอนที่ห้อง นางยังไม่ลืมบอกฝูซูว่า "เจ้าไปสืบข่าวของภายนอก เพราะวัน ๆ เจ้าไม่มีอะไรทำในบ้าน ข้าว่าเจ้าอ้วนขึ้นแล้ว"ฝูซูเบิกตากว้าง "ข้าเปล่า แม้ว่าข้าอ้วนขึ้นจริง ๆ ก็ตาม นั่นเป็นเพราะข้าอยู่กับคุณหนู กินดีอยู่ดีนั่นเองขอรับ"จั๋วซือหรานยิ้มเบา ๆ และพูดว่า "ใช่ ๆ ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็ไปเดินเล่นอย่างมีความสุข ไปสืบข่าวต่าง ๆ มาให้ มีอะไรผิดปกติ จำไว้ให้ข้า แล้วกลับบมารายงานข้า ข้าน่าจะนอนจนถึง... "จั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วมองไปที่ดวงอาทิตย์แล้วพูดว่า "น่าจะถึงเที่ยง ตอนนั้นเจ้ากลับมากินข้าวกลางวันพอดี"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาของฝูซูก็สว่างขึ้น และเขาก็ออกไปอย่างมีความส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 228

    โดยไม่คาดคิด ทันทีที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าของจั๋วซือหราน ก็เปลี่ยนจากการผ่อนคลายด้วยความสงสัยเป็นความประหลาดใจอย่างรวดเร็ว"ชิ่งหมิงหรือ" จั๋วซือหรานพูดเชื่อนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า นางเบิกตาโตขึ้นเล็กน้อย นางจ้องมองหนุ่มที่สวมเสื้อขาวนวลใครจะคิดได้ล่ะ ชายหนุ่มรูปอันหล่อเหลาตรงหน้าของนางเป็นคนหนึ่งจาก หน่วยสืบสวนพิเศษที่มักจะสวมหน้ากากลวดลายเปลวไฟสีดำ - ซือหลี่ของลัทธิฝานเทียนชิ่งหมิงรู้สึกเขินอายเล็กน้อยเมื่อถูกจั๋วซือหรานจ้องมอง เดิมทีเขายืนอยู่หน้าบ้านของจั๋วซือหราน เขาเขินอายอยู่แล้วในขณะนี้ เขาถอยกลับไปด้านหลังเสา แต่ค่อย ๆ เผยให้เห็นใบหน้าของเขาครึ่งหนึ่ง จากนั้นจึงโบกมือให้นางอย่างอ่อนโยนสีหน้าของเขาแข็งทื่อมากแต่จั๋วซือหรานมองออก เขาพยายามอย่างหนักเพื่อแสดงร้อยยิ้มจริง ๆ“ท่านมาที่นี่ได้อย่างไรเจ้าคะ” จั๋วซือหรานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย“เพราะเจ้า เจ้าไม่... ไม่มาสักที” ชิ่งหมิงกล่าว จริง ๆ แล้วคำพูดเหล่านี้ไม่น่าจะมีอารมณ์มากนัก แต่เพราะเขาพูดติดอ่าง เสียงของเขาจึงฟังดูน่าสงสารอย่างอธิบายไม่ถูก“ป๋อ ป๋อยวนบอกว่า... ช่วงนี้เจ้าน่าจะยุ่งมากกว่า... ดังนั้น... เจ้าจึงไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 229

    "โอ้ จริงด้วย" ดวงตาฝูซูสว่างขึ้น เขาพูดอย่างจริงจัง "คุณหนูขอรับ มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในตระกูลจั๋วขอรับ""เอาล่ะ ไปต่อ"“ เนื่องจากคุณชายหยุนชินบอกว่าเขาจะกลั่นยาให้ตระกูล เหล่าผู้อาวุโสเลยสั่งคนไปซื้อวัสดุยาตั้งแต่เช้า แต่ปรากฏว่า พวกเขา หาซื้อไม่ได้สักที ในทั่วเมืองหลวง พวกเขาหาซื้อวุสดุยาในราคาเดิมไม่ได้สักนิด วัสดุยาทั้งหมดมีราคาอย่างน้อยสามเท่า”ฝูซูพูดอย่างสะใจเล็กน้อย เขารู้สึกสะใจ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะเดิมทีเขารู้สึกน้อยใจแทนคุณหนูของเขาอย่างมากเมื่อจั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนี้ นางก็เลิกคิ้วเล็กน้อยและไม่แสดงความคิดเห็นฝูซูประหลาดใจเล็กน้อยแล้วถาม “คุณหนูไม่รู้สึกสะใจบ้างหรือขอรับ”ก่อนที่จั๋วซือหรานตอบ เสียงที่ติดอ่างเริ่มดังขึ้นจากด้านข้าง ๆ "นี่...คง...คง...เป็นแผน...แผนของเจ้าใช่ไหม"จั๋วซือหรานเหลือบมองชิ่งหมิง นางตอบพูด "ฉลาดดี"ดวงตาของฝูซูเบิกกลมขึ้น และเขาเหลือบมองชิ่งหมิงที่อยู่ด้านข้าง ดูเหมือนว่าเขาจึงค่อย ๆ รู้ตัวในขณะนี้ ชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายเขาแค่พูดติดอ่าง แต่เขาไม่ใช่คนโงแต่ฝูซูไม่ทันสนใจเรื่องนี้ในขณะนี้ เขารีบบอกจั๋วซือหราน "คุณหนูเจ้าคะ เป็นเพรา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 230

    จั๋วซือหรานไม่ได้พูดอะไร นางยิ้มและมองเขา เดิมทีนางคิดอยู่ว่า จิตใจของชิ่งหมิงบริสุทธิ์ ให้เขาได้ยินแผนชั่วร้ายลับ ๆ มากมายเช่นนี้ คงไม่เหมาะหรอกกระมังแต่โดยไม่คาดคิด คำพูดต่อไปของชิ่งหมิงคือ...“...พวกเขาที ละคน ต้องปให้...เจ้าได้รับความทุกข์...อย่างมาก”จั๋วซือหรานตกตะลึง นางมองเขาแล้วพูดว่า "ทำไมเจ้าถึงคิดอย่างนั้น"“ตระ ตระกูล... เหยียน ใส่ร้าย...เจ้า...เจ้าทนทนทุกข์ทรมาน... ากมาย แต่เจ้า....เจ้าแค่จัดการตระกูลเหยียนแค่นี้ ตระกูลจั๋วยังคงเป็น...ตระกูลของเจ้า แต่เจ้าปฏิบัติต่อพวกเขาเข่นนี้…..”ตระกูลเหยียนทำให้นางต้องถูกทรมานในหน่วยสืบสวนพิเศษ และนางถูกกล่าวหาว่าขโมยทักษะทางการแพทย์ของตระกูลเหยียน นางจึงต้องแข่งขันกับตระกูลเหยียน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางจะไม่มีความเมตตาต่อตระกูลเหยียน วึ่งเป็นเรื่องปกติแต่ตระกูลจั๋วเป็นตระกูลของนาง แต่นางยังจัดการพวกเขาอย่างไร้ความปราณีและนั่นอธิบายได้แค่นี้ - ในใจของนาง ตระกูลจั๋วเหมือนตระกูลเหยียนบางทีอาจเป็นเพราะตระกูลจั๋วเป็น 'ตระกูลของตัวเอง' ที่ควรไว้วางใจได้ ดังนั้นชิ่งหมิงจึงรู้สึกว่าในตระกูลจั๋ว นางอาจจะรู้สึกน้อยใจมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 231

    ฝูซูนำคำแพูดทั้งหมดของจั๋วซือหรานไปถึงที่อย่างรวดเร็วหลังจากเหยียนฉีได้ยินคำพูดของฝูซู เขาหมดคำพูดเลย “นี่คือคำพูดของคุณหนูของเจ้าจริง ๆ หรือ”“ขอรับ คุณชายเหยียน ข้าน้อยมิกล้าส่งคำพูดผิดขอรับ”“เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าไปบอกคุณหนูของเจ้า เราจะทำตามคำพูดของเขา” เหยียนฉีกล่าวพูดตามตรง เหยียนฉีรู้สึกว่าแม้ว่าจั๋วซือหรานได้คืบจะเอาศอก เขาไม่สนใจหรอก เนื่องจากตระกูลของเขาเลือกที่จะปฏิบัติตามแผนของจั๋วซือหรานแล้ว พวกเขาถอนตัวออกไม่ได้แล้วเหยียนฉีพูดจบ เขาเห็นคนรับใช้ของจั๋วซือหรานยื่นขวดมาให้ "คุณหนูบอกว่านี่คือความจริงใจของคุณหนูขอรับ และคุณหนูมีแผนสำรองอื่นในภายหลังด้วย คุณชายเหยียนโปรดอย่ากังวลขอรับ"เหยียนฉีรับขวดยา เห็นได้ชัดว่าเขาได้ยินเสียงดังกึกก้องและรู้สึกถึงน้ำหนักที่อยู่ในขวด เขาอดไม่ได้ที่ต้องตกใจ "นี่คือ..."“ข้าน้อยมิทราบว่าในนี้มีอะไรขอรับ คุณชายเหยียนเปิดขวดแล้วจะทราบขอรับ ข้าน้อยยังต้องไปจวนของท่านอ๋องเซี่ยน ดังนั้นข้าน้อยอยู่ที่นี่ต่อมิได้อีก ขอลาก่อนขอรับ”ฝูซูรีบออกไปเดิมทีเหล่าผู้อาวุโสกำลังปวดหัวเรื่องที่นางให้ตระกูลเหยียนเล่นงานกับตระกูลจั๋ว ดังนั้นพวกเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 232

    “ จั๋วจิ่ว คนนี้เป็นคนเด็กขาดจริง ๆ”เหยียนฉีฟังอยู่ข้าง ๆ เขาคิดอย่างช่วยไม่ได้ในใจ นางเป็นคนเด็ดขาดจริง ๆ หากนางไม่ใช่คนประเภทเด็ดขาดจริง ๆ นางคงไม่ทำถึงขั้นที่ต้องทำให้ตระกูลเหยียนทั้งหมดขุ่นเคืองเพียงเพื่อ สู้กับเหยียนชางผู้เดียว“ไม่ว่านางมีปัญหากับตระกูลจั๋วหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา ในเมื่อนางได้แสดงความจริงใจของนางแล้ว เพื่อให้พวกเราไม่ต้องกังวล ท่านคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ขอรับ” เหยียนฉีถามเหล่าผู้อาวุโสมองหน้ากัน และพวกเขาตกลงเรื่องนี้ทันทีฝูซูไปที่จวนของท่านอ๋องเซี่ยนอีก เขานำคำพูดของจั๋วซือหรานให้ท่านอ๋องเซี่ยนอย่างราบรื่นซือคงเซี่ยนไม่ได้เจอจั๋วซือหรานมาสักพักแล้ว เมื่อเขาได้ยินคำพูดของฝูซู เขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า "นางขอความช่วยเหลือ แต่นางไม่มาเองหรือ"ฝูซูยื่นขวดกระเบื้องในมือให้ “คุณหนูฝากข้าน้อยมอบสิ่งนี้ให้ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ เพื่อแสดงความจริงใจของคุณหนู โปรดท่านอ๋องมิรังเกียจพ่ะย่ะค่ะ”ซือคงเซี่ยนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ทันทีที่เขารับขวดนั้น เขาก็รู้ทันทีว่ามีอะไรอยู่ข้างในฝูซูจำคำพูดของคุณหนูได้ เขาพูดต่อ "คุณหนูหวังว่าท่านอ๋องอย่าตำหนิคุณหนูในตอนนี้ ที่คุณหนูไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 233

    จากนั้นเขาก็แนะนำให้เขารู้จักชิ่งหมิง " ชิ่งหมิง นี่คือน้องชายของข้า จั๋วหวาย มาทำความรู้จักกันเถิด"ชิ่งหมิงยืนอยู่ข้างเสา แต่ตอนนี้เขาย่อตัวไปด้านหลังเสาและมองมาทางนี้อย่างระมัดระวังจั๋วซือหรานทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย ชายหนุ่มคนนี้ทำให้นางรู้สึกว่า... เสาหลักดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเขาจั๋วหวายไม่ได้เขินอายขนาดนั้น ดังนั้นเขาจึงมองชิ่งหมิงอย่างละเอียด “แต่เขาดู..ไม่เด็กมากนัก”“ดูไม่เด็ก จะเล่นด้วยกันไม่ได้หรือ แล้วเจ้าอายุนี้แล้ว ท่านแม่ยังเรียกเจ้า ลูกรัก เลย” จั๋วซือหรานเลิกคิ้วแล้วถามใบหน้าของจั๋วหวายแดงเหมือนโดนไฟไหม้ "ท่านพี่" เขาพูดอย่างกังวล "ทำไมท่านพี่พูดทุกเรื่องน่ะ"จั๋วซือหรานยกเท้าขึ้นและเตะบั้นท้ายเบา ๆ "เข้าไปทำงานเลย และนำอาหารออกมา ข้าทำกับข้าวให้แล้ว ดังนั้นข้าไม่รัมผิดขอบถ้วยกับตะเกียบแล้ว"จั๋วหวาย ชิ่งหมิง และฝูซูดูเหมือนอายุไม่ต่างกันมากนักพวกเขาทั้งสามเข้าไปในห้องรับประทานอาหารด้วยกัน และจัดเรียงอาหาร ชาม และตะเกียบเรียบร้อยดูเหมือนจะไม่ได้คิดอะไรผิดปกติโดยปกติแล้ว แม้ว่าเดิมทีฝูซูเป็นคนรับใช้อยู่แล้ว ก็คงจะไม่บ่นตัวเองต้องทำงานบ้านท้ายที่สุด จั๋

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 914

    ทุกคนรู้สึกว่านางผิด เพียงแค่เพราะ นางไม่ยอมทำตัวเป็นปกติเหมือนพวกเขาสายตาของเหยียนเจินเปล่งประกาย เอ่ยขึ้นว่า "จะไม่มีทางออกเลยหรือไร? ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ไปเข้ากับจั๋วจิ่วเลย!"เหยียนฉีพอได้ยินก็ตกตะลึง งงงันไป "ได้...ได้หรือ? ตระกูลเหยียนกับนาง...ตอนนี้น่าจะอยู่ในสภาพไม่ตายไม่เลิกรากันแล้วกระมัง?""ตระกูลเหยียนก็คือตระกูลเหยียน" เหยียนเจินไม่แยแส "พวกเราถ้าออกจากตระกูลเหยียน เช่นนั้นความแค้นนั่นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา ยิ่งไปกว่านั้นข้าก็มองออกถึงนิสัยจั๋วจิ่ว ขอแค่ไม่ผิดใจกับนาง นางก็จะไม่ทำอะไรคนอื่น"อดพูดไม่ได้ เหยียนเจินมองนิสัยจั๋วซือหรานออกจริงๆดังนั้น พ่อลูกตระกูลเหยียนคู่นี้ หลังจากที่หารือกันเสร็จคืนนี้เช้าวันถัดมาตอนที่ข่าวเรื่องจั๋วซือหรานถูกพระราชทานรางวัลลือมาถึงเมืองหลวง จึงออกจากตระกูลเหยียนไปเงียบๆสถานการณ์ของตระกูลเหยียนเป็นเช่นนี้ ตระกูลอื่นกลับเป็นอีกแบบหนึ่งบรรยากาศของตระกูลเฟิงตึงเครียดมากแต่สิ่งเหล่านี้ เฟิงเหยียนไม่คิดจะเข้าร่วม เขานั่งอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าเหล่าผู้อาวุโสจะพูดอะไรกันเขาก็ไม่เข้าร่วมการสนทนาเลยสายตาเหม่อลอยหน่อยๆ ราวกับคิดถึงเรื่อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 913

    "เจ้าอย่ามาพูดให้เกินจริงนัก! ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพื่อมาฟังเจ้าพูดเกินจริง!""นั่นสิ ตระกูลฮั่วเพราะอะไรถึงได้ช่วยจั๋วจิ่วแบบนี้ เสี่ยงจะผิดใจกับตระกูลอื่นๆ อีก..."และก็มีเสียงคัดค้านไม่เชื่อปรากฏขึ้นเช่นกันแต่คนฉลาดก็หัวเราะเย็นชาขึ้นา "ใช่สิ ข้าพูดเกินจริงเองนั่นล่ะ พวกเจ้าเห็นว่าตระกูลฮั่วมันโง่สินะ"คนผู้นี้โมโหจนหัวเราะ "ตระกูลฮั่วถูกพวกเราสี่ตระกูลกดมาตั้งหลายปี! พวกเขาในสายตาพวกเราคืออะไร? ผู้ค่าข่าว ผู้จัดการโรงเตี๊ยม...หลายปีมานี้ถูกพวกเราสี่ตระกูลกดดัน""ตอนนี้พวกเขาได้เวลาเฉิดฉายแล้ว โดยไม่สิ้นเปลืองกำลังทหารอีกด้วย ก็แค่เพราะ...เดิมพันถูกกับความโดดเด่นของจั๋วจิ่วเท่านั้น! พวกเจายังคิดว่าเขาจะร่วมมือกับเราเพื่อแก้แค้นหรือ? พวกเรานั่นล่ะที่เป็นศัตรูของเขา!"พูดจบสิ่งเหล่านี้ เขาเองก็ขี้เกียจจะพูดไร้สาระกับคนเหล่านี้แล้วมีแค่วิธีเดียว ออกไป รีบออกไปจากตระกูลที่ไม่มียาอะไรจะช่วยได้แล้วนี่เสียคนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น พ่อของเหยียนฉีนั่นเองในงานประชุมของตระกูลเช่นนี้ แม้ยังพูดเรื่องเหล่านี้ได้บ้าง แต่เพราะความตรงไปตรงมาและรุนแรงเกินไป ทำให้ก่อนหน้านี้มักจะก่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 912

    สิ่งเหล่านี้ จั๋วซือหรานล้วนไม่รู้เหมือนกับที่นางก็ไม่รู้ ว่าตอนนี้ในตระกูลเหล่านั้น ตอนนี้มีสภาพเช่นไรมันวุ่นวายยุ่งเหยิงแค่ไหนเพราะว่า ข่าวที่นางได้รับชัยไม่ใช่เพิ่งลือมาถึงเมืองหลวงเช้าวันนี้แม้จะบอกว่าเช้าวันนี้เพิ่งส่งมาถึงเมืองหลวง แต่ในฐานะตระกูลชั้นสูง เมื่อวานนี้ก็รู้ข่าวที่ค่ายคุ้มกันแล้วดังนั้นเมื่อคืนนี้ ตอนที่จั๋วซือหรานพักผ่อนอยู่ในค่ายคุ้มกันในเมืองหลวง ตระกูลต่างๆ กลับเป็นคนละแบบกันไปเลยในโถงใหญ่งานพิธีตระกูลเหยียน โคมไฟสว่างไสวบรรยายาศกลับตึงเครียด"ตอนนี้อย่างไรถึงจะดี..." คำถามแบบที่ไม่มีความเห็นแบบนี้และมีพวกที่อารมณ์รุนแรง ด่ากราดออกมาทันที "ถ้าไม่ใช่พวกเจ้าคิดแต่จะไปยุ่งกับตระกูลเฟิง คงไม่ทำให้จั๋วจิ่วผิดใจจนเป็นแบบนี้"มีคนไม่ค่อยยอมรับกับคำพูดนี้ "เจ้าพูดอะไรออกมา! จั๋วจิ่วนั่น! ตระกูลเหยียนของพวกเราผิดใจไปตั้งนานแล้ว! คนที่ผิดใจกับนางตอนแรกสุดคือพวกเรา! ตอนนี้ถ้าคิดจะถอยออกมามันทันเสียที่ไหน!""เพราะอะไรถึงไม่ทัน! ทำไมถึงจะไม่ทัน! เพราะอะไรถึงจะไม่ทัน! นางไปร่วมมือกับตระกูลฮั่วแล้ว! ยิ่งไปกว่านั้นจากที่ข้าเห็น ตระกูลจั๋วเหมือนจะต้องกระโจนขึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 911

    ตอนนี้ข่าวที่รู้แน่ชัดแล้วคือ องค์จักรพรรดิเฒ่าจะส่งอำนาจพ่อค้าหลวงของตระกูลจั๋วให้กับนางวังสวนอุทยานหลิ่วพ่านของราชวงศ์เองก็ให้นางด้วยแล้วจากที่พูด กระทั่งจวนชินอ๋องอวี้กับสวนชิวอี ก็จะยอมยกให้นางด้วยแล้วยังมีข่าวที่มากกว่า เริ่มทยอยกันลือออกมา"ได้ยินว่าฝ่าบาทยังถามนางด้วยว่าจะแต่งงานกับอ๋องเซี่ยนหรือเปล่า!""ให้ตายเถอะ! นี่มันสุดยอดไปเลย""จริงด้วย ตระกูลเฟิงทำผิดกับนาง เอาจริงๆ จั๋วจิ่วคนนี้ควรจะไม่เหลือหน้าตาอีกแล้วสิ คิดไม่ถึงเลย ว่าฝ่าบาทถึงกับถามนางว่าจะแต่งงานกับอ๋องเซี่ยนไหม!""จะว่าไป สถานการณ์ตรงหน้านนี้ ชินอ๋องอวี้ท่าจะไม่ไหวแล้วมั๊ง เช่นนั้นหลังจากนี้...ไม่แน่ว่าอ๋องเซี่ยนก็จะเป็น...""จริงด้วย ถ้านางพยักหน้าล่ะก็ อนาคตจะไม่ใช่..."พระมารดาแห่งใต้หล้าหรือ!ตามหลักการ ตัวตนฐานะของจั๋วจิ่วเองก็ไม่ใช่ต่ำต้อย ตระกูลจั๋วเองก็ถือว่าเป็นครอบครัวตระกูลสูงปัญหาคือตอนนี้นางเป็นแค่หญิงสาวที่ถูกทอดทิ้งเท่านั้นพอบวกกับ ก่อนหน้านี้นางเคยหมั้นไปครั้งหนึ่ง ตัวนางเองก็โดนเสน่ห์หนอนพิษกู่จนต้องมาเสียใจที่แต่งงาน แล้วก็ยังเกือบจะได้แต่งงานไปครั้งหนึ่งด้วย ทำเอาพิธีแต่งงานวั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 910

    แต่พอคิดดู เขาจะไปทำอะไรแม่นางจิ่วได้กันล่ะ?ดังนั้นทุกคนจึงค่อนข้างวางใจ"เจ้าอยากจะรู้อะไร?"และไม่รู้เพราะเห็นจั๋วซือหรานไม่พูดอะไรเลย คนผู้นี้จึงถามนางขึ้นมาอย่างทนไม่ไหวจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ไม่ต้องรีบ ตอนที่ข้าอยากรู้ ข้าจะถามเจ้าเอง""เจ้าตอนนี้ยังไม่อยากรู้หรือ?" สีหน้าของชายหนุ่มดูแล้วแปลกประหลาดสุดๆจั๋วซือหรานตอบเสียงเรียบ "ยังไม่ถึงเวลา รออีกหน่อยเถอะ"จั๋วซือหรานคิดๆ ถามไปคำหนึ่ง "จริงด้วย เจ้าชื่ออะไรล่ะ?"ชายหนุ่มก้มหน้าลงเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกาย "ฮาร์วีย์ ข้าชื่อฮาร์วีย์"จั๋วซือหรานพยักหน้า เอ่ยเสียงต่ำเรียกชื่อนี้ขึ้นมา "ฮาร์วีย์หรือ? เข้าใจแล้ว"นางบอกกับเขาว่า "เจ้าก็ตามข้ามาแล้วกัน รอตอนที่ข้าอยากถาม ข้าจะถามเจ้าเอง"จั๋วซือหรานเดินมาถึงกระโจมค่าย ซือคงเซี่ยนเองก็เดินเข้ามาพอเห็นว่าด้านหลังนางมีคนแดนใต้ตามอยู่ ก็รู้สึกประหลาดใจหน่อยๆแต่ว่าซือคงเซี่ยนเองก็ไม่ได้ตกใจมากนัก แค่ถามขึ้นว่า "ซือหาาน ได้ยินว่าเจ้าจะไปส่งเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ที่เมืองหลวงด้วยตนเองหรือ?""อืม" จั๋วซือหรานขานกลับเสียงแผ่ว "ถึงอย่างไรข้าก็จะไปเมืองหลวงอยู่แล้ว ถือโอกาสทำให้ไปเลย""

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 909

    บางครั้ง คำพูดร้ายๆ ก็ไม่จำเป็นต้องพูดขณะที่กำลังโกรธจัดถึงจะมีพลังทำร้ายประหัตประหารกระทั่งในบางโอกาศ พูดออกมาตอนที่ยิ้มๆ ยังมีพลังทำร้ายมากยิ่งกว่าอย่างเช่นตอนนี้ จั๋วซือหรานพูดออกมาด้วยรอยยิ้มตาหยีเช่นนี้ ยิ่งทำให้คนที่พูดว่านางสะกดคำว่าตายไม่เป็นก่อนหน้านี้ เกิดอาการเหงื่อแตกพลั่กขึ้นมาเขาอ้าปากพะงาบๆ ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับคำนี้ของจั๋วซือหรานอย่างไรจั๋วซือหรานขี้เกียจจะสนใจเขา เอ่ยต่อมาว่า "ถ้าหากมีคนยอมบอกข้าล่ะก็ ข้าก็จะไว้ชีวิตนั้นไว้ โอ้จริงด้วย กระทั่งไม่แตะต้องแมลงกู่บนตัวเลยนะ"และหลังจากที่พวกเขาได้ยินคำนี้ของจั๋วจิ่วแล้วจึงเห็นนางนับจำนวนพวกเขาขึ้นมาอย่างไม่ค่อยตั้งใจนัก "พวกเจ้ามีสิบสี่คน แต่ข้ามีแมลงแค่เจ็ดตัว ก่อนหน้านี้กินไปที่ประตูค่ายแล้วตัวนึง เหลืออีกหกตัว เมื่อครู่กินของพวกเจ้าไปแล้วหกคน พวกเจ้ายังเหลืออีกแปดคนสินะ ทว่ามื้อต่อไปขอแค่เจ็ดคนก็พอ"นางคำนวณขึ้นมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน จากนั้นจึงพยักหน้าเอ่ยว่า "เหลือไว้ได้คนนึงจริงๆ"เหล่าปรมาจารย์กู่แดนใต้ดูสิ้นหวังหน่อยๆ เพราะพวกเขาได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของจั๋วซือหรานแล้วอะไรคือ...มื้อต่อไป?เจ้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 908

    ให้ใครมาเห็น ก็ล้วนไม่ใช่ภาพที่ชวนมองนักหน้าผากคนเหล่านี้ เส้นเลือดที่คอกับแขนขาไขกระดูก ราวกับมีอะไรบางอย่างกำลังมุดทะลวงอยู่อย่างไรอย่างนั้นจั๋วซือหรานรู้ ว่านั่นคือไหมกู่ของเจ้าพวกก้อนเนื้อ พวกมันเข้ากลืนกินแมลงกู่ทั้งหมดที่น่าจะซ่อนและบำรุงอยู่ตามเส้นลมปราณเส้นชีพจรของปรมาจารย์กู่คนเถื่อนเหล่านี้สำหรับคนทั่วไปแล้ว อาจจะไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องใหญ่แต่สำหรับคนเถื่อนเหล่านี้แล้ว พวกเขาล้วนเป็นปรมาจารย์กู่นะ แมลงกู่ของพวกเขาล้วนเป็นรากฐานที่ทำให้ตนเองอยู่ได้อย่างมั่นคงไหนจะเรื่องที่แมลงกู่พวกนี้ต้องใช้เลือดเนื้อของตัวพวกเขาในการชุบเลี้ยง ยิ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญเข้าไปอีกตอนนี้ถูกแมลงกู่ของจั๋วจิ่ว กินกันอย่างเอร็ดอร่อยมื้อใหญ่...พวกเขาจะไม่โกรธได้อย่างไรแต่นอกจากความโกรธแล้ว ก็ยังมีความตกตะลึงอยู่ด้วยนางเป็นแค่หญิงสาวอายุน้อยคนหนึ่ง แล้วยังอยู่ในดินแดนต้าชาง แล้วไปฝึกวิชากู่มาจากไหน? ฝึกแมลงกู่ที่อหังการขนาดนี้ออกมาได้อย่างไร?เพราะ นางยัดเข้ามาในปากคนอื่นแบบนี้ ไม่ได้กังวลเลยว่าแมลงกู่ของตนเองจะมาเจอกับแมลงที่ร้ายกาจกว่าของตนเองสังหารหรือไม่นางไม่กังวลเลยสั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 907

    เอาจริงๆ เจ้าพวกนี้โอดครวญอยู่นานแล้วก่อนหน้านี้จั๋วซือหรานทนการโอดครวญของเจ้าพวกนี้ แล้วไปรักษาทหารบาดเจ็บคนนั้นนี่ทำให้จั๋วซือหรานเกิด...ความรู้สึกของหมอในสนามรบแล้วจริงๆหมอในสนามรบคนอื่นด้านนอกมีเสียงการล่าการสังหารแต่ในสมองนางมีเสียงพวกลูกๆ ทะเลาะกันจะเป็นจะตายจะว่าอย่างไรดี ถ้าว่าจากเรื่องมลภาวะทางเสียงก็ถือว่าพอๆ กัน สถานการณ์ที่นางเจอไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย ยิ่งไปกว่านั้นจั๋วซือหรานยังรู้สึกว่า เนื่องจากเจ้าพวกแมลงสามารถกลิ้งไปกลิ้งมาในจิตสำนึกนางได้โดยตรงดังนั้น...บางทีสถานการณ์ที่ตนเองเผชิญจะดูรุนแรงกว่าการรบกวนที่พวกแพทย์สนามรบได้รับเสียอีกแมลงพวกนี้ไม่ได้จงใจเอะอะใส่นาง แต่ก่อนหน้านี้ที่นางยัดขนมชาเขียวเข้าไปในปากปรมาจารย์กู่ที่เตรียมจะระเบิดตัวเองคนนั้นหลังจากที่เก็บขนมชาเขียวกลับมา ขนมชาเขียวก็ดูอิ่มเอมมาก อดไปพูดให้เจ้าก้อนเนื้อตัวอื่นๆ ในมิติน้ำพุวิเศษฟังอย่างอดไม่อยู่ส่วนเจ้าพวกก้อนเนื้อจะว่าอย่างไรดี เพิ่งจะมีสติปัญญาขึ้นมาได้ไม่นานนัก จะมากน้อยก็ยังมีความคิดนิสัยแบบเด็กๆ อยู่ขนมชาเขียวพอเอาของอร่อยที่ผู้ปกครองซื้อให้กลับไปคุยโม้กับเพื่อนๆ คนอื่นในหั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 906

    แพทย์ทหารเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "ข้าข้ามีทักษะเช่นนี้...ทหารราบเหล่านั้นก็คงไม่ตายกันแล้ว..."เสียงของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขาประจักษ์กับตาแล้วถึงการเปลี่ยนสิ่งเน่าเสียกลายเป็นสิ่งอัศจรรย์ของแม่นางจั๋วจิ่วแล้วพอเห็นว่านางทำตัวราวกับเป็นช่างยอดฝีมือ จัดการเย็บช่องท้องของคนผู้นี้ราวกับเย็บกระเป๋าขาดยิ่งไปกว่านั้นยังจัดการรักษาส่วนที่บาดเจ็บของอวัยวะภายในไปแล้วด้วยนี่ทำให้เขาอดคิดไปถึงทหารที่ตายอย่างน่าเวทนาเหล่านั้น ต่อมาถูกก็ถูกพวกคนเถื่อนเอาหัวขึ้นไปแขวนบนคาน...เขาอดคิดไม่ได้เลย ถ้าหากตนเองมีฝีมือเสียหน่อย ไม่แน่คนเหล่นั้นอาจจะช่วยไว้ได้กระมังคำพูดนี้มีอารมณ์อยู่ด้วย เพราะตอนนี้อารมณ์ของเขาถูกส่งผลกระทบอยู่จริงๆแต่เสียงของจั๋วซือหรานกลับสงบ นางก้มหน้าพูดว่า "ไม่หรอก ถ้าหากเจ็บหนักเกินไป อย่างเช่นหัวขาดออกจากกัน ต่อให้เทพเจ้าก็ทำอะไรไม่ได้ แน่นอนว่าข้าเองก็ไม่มีวิธีเหมือนกัน ข้าเป็นแค่แพทย์ ไม่ใช่พระเจ้า"แม้คำพูดนี้จะดูใจเย็น ราวกับกำลังอธิบายข้อเท็จจริงอยู่ แต่คำพูดนี้ก็ยังทำให้แพทย์ทหารที่ยังรู้สึกโทษตัวเองอยู่ก่อนหน้านี้ อารมณ์ผ่อนคลายลงมาบ้างแล้วจั๋วซือหรานเย็บเข็มส

DMCA.com Protection Status