Share

บทที่ 210

Author: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานไม่กลัวว่าจั๋วหยุนชินเป็นสมาชิกของลัทธิอยู่แล้ว และมีอีกประเด็นที่สำคัญมาก จั๋วซือหรานค่อนข้างเข้าใจนิสัยของผู้อาวุโสใหญ่ จั๋วหลาน

ผู้อาวุโสใหญ่เป็นคนยึดถือความยุติธรรม เข้มงวด เชื่อแต่หลักฐาน ดื้อรั้น

เมื่อเขาเชื่อบางเรื่อง ใครมาโน้มน้าวก็ได้ ล้วนไม่ได้ผล

ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงรู้สึกว่า จั๋วหยุนชินคงไม่เหมือนคนโง่นั้น จั๋วหรูซิน

ขนาดนางยังรู้นิสัยของผู้อาวุโสใหญ่ จั๋วหยุนชินต้องรู้เช่นกัน

เขาจะไม่หยุดยั้งผู้อาวุโสใหญ่ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่มีความสามารถในครอบครัว แต่เขาก็เป็นเพียงสมาชิกของตระกูลจั๋วเท่านั้น

แม้ว่าเขาเข้าลัทธิแล้ว และอาจทำให้คนของตระกูลจั๋วและเหล่าผู้อาวุโสยกย่องเขาบ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องฝ่าฝืนกฎของตระกูลเพียงเพราะเขาคนเดียว

เมื่อเขาเริ่มพูดเช่นนี้ เขาต้องมีแผนสำรองอยู่ข้างหลัง

ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงเกียจพูดอะไรกับเขา นางจะรอปฏิบัติก่อนเพื่อล้อเขาพูดถึงประเด็นหลักอย่างรวดเร็ว

จั๋วซือหรานกล่าวคำอำลา“ จั๋วจิ่วยังต้องกลับไปเยี่ยมท่านแม่ ขอตัวก่อน”

ผู้อาวุโสใหญ่ตะโกนด้วยเสียงทุ้ม "จั๋วหยุนชิน คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้ เจ้าไม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 211

    นับตั้งแต่วินาทีที่จั๋วหยุนชินอ้าปากพูด จั๋วซือหรานก็เข้าใจจุดประสงค์ของเขาจริง ๆท้ายที่สุดแล้ว ตระกูลขุนนางเหล่านี้ก็เหมือนกันหมด พวกเขาคิดคำนวนทุกอย่างใ้ห้ตัวเองได้ประโยชน์สูงสุด และที่พวกเขาเดิมพนันมันตลกมากหากอีกฝ่ายแพ้ พวกเขาต้องให้อีกฝ่ายชำระอย่างหนัก แต่หากตัวเองแพ้ พวกเขาก็จะลงโทษตัวเองเบา ๆจั๋วซือหรานสังเกตข้อนี้ตั้งแต่นางแข่งกับตระกูลเหยียนดังนั้นในเวลานั้น จั๋วซือหรานจงใจเพิ่มเดิมพันเมื่อนางแพ้ เพื่อดึงดูดอีกฝ่ายให้เดิมพัน จากนั้นฉวยโอกศเพิ่มเดิมพันหลังจากที่อีกฝ่ายแพ้แต่ในขณะนี้ จั๋วซือหรานขี้เกียจเสียเวลากับจั๋วหรูซินจั๋วหยุนชินยังคงพูดต่อ และเนื้อหาก็ไม่แตกต่างไปจากที่จั๋วซือหรานคิดไว้“หากหรูซินแพ้ ก็ให้นางรับโทษด้วยการเฆี่ยนตีด้วยตัวเอง ไม่มีใครแทนนางได้”จั๋วซือหรานหรี่ตาลงและคิดกับตัวเอง ดูสิ ลงโทษตัวเองอย่างเบาแม้ว่าเหล่าผู้อาวุโสต้องการไว้หน้าแก่จั๋วหยุนชินบ้าง แต่พวกเขาก็รู้สึกว่าเงื่อนไขของเขาไม่ยุติธรรมเล็กน้อยจั๋วหยุนชินยกมุมปากขึ้นและยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเขาหยิบตราออกมาแล้วแขวนไว้ที่เอวของเขา“มันคือตราของแพทย์กลั่นยา”“พี่หยุนชินผ่านการทดสอบ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 212

    " เสียวจิ่ว... " จั๋วหลานขมวดคิ้ว ก่อนหน้านี้เขารู้สึกอย่างคลุมเครือว่าเด็กหญิงคนนี้เริ่มห่างไกลจากตระกูลมากขึ้นเรื่อย ๆ และตอนนี้ความรู้สึกนี้ก็ยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้นจั๋วซือหรานยิ้มเบา ๆ และพูดว่า "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าเข้าใจ เนื่องจากเพื่อตระกูลทั้งนั้น ผู้อาวุโสใหญ่จึงไม่ต้องเกรงใจมากเกินไปหรอก ให้เขากลั่นยาเยอะ ๆ ให้ตระกูลละกันเจ้าค่ะ"หลังจากจั๋วซือหรานพูดจบ นางก็หันหลังกลับและเดินไปจากด้านหน้าของห้องโถงบรรพบุรุษ เพราะหลังจากถูกสังเกตในก่อนหน้านี้ นางเลยเดินไปที่ด้านหน้า ตอนนี้หากนางอยากออกจากที่นี่ นางต้องเดินผ่านฝูงชนที่อยู่ข้างหลังนางทันทีที่นางหันหลังกลับ ทุกคนก็แยกย้ายและหลีกทางให้ก็มีหนึ่งหรือสองคนที่ไม่ยอมหลีกทางให้ พวกเขาพูดประชดว่า "เป็นสมาชิกของตระกูลจั๋วกัน และก็เป็นแพทย์กลั่นยาทั้งคู่ พี่หยุนชินยังรู้จักกลั่นยาให้ตระกูลเยอะหน่อย เจ้าเก่งขนาดนี้และไปแข่งกับตระกูลเหยียนได้ ทำไมไม่เห็นเจ้าออกแรงเพื่อตระกูลบ้างสิ”ผู้อาวุโสใหญ่ขมวดคิ้วและกำลังจะตำหนิคนเหล่านี้จู่ ๆ มีร่างหนึ่งเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและปรากฏตัวที่ด้านข้างของจั๋วซือหรานความเร็วของนางเร็วมากและการเคลื่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 213

    เมื่อเส้นเลือดปรากฏบนคอของพวกเขา ทุกคนเงียบลงผมค่อย ๆ ร่วงลงบนพื้นจากไหล่ของพวกเขาสีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย และพวกเขารู้สึกมีอาการปวดแสบปวดร้อนที่คอ แม้ว่าจะความรู้สึกเจ็บนั้นจะไม่รุนแรง แต่ก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้เมื่อเขายกมือไปสัมผัสมัน พวกเขารู้สึกถึงบาดแผลบาง ๆ ที่คอของพวกเขา ไม่มีเลือดไหลออกมาอย่างชัดเจน แต่เมื่อพวกเขาสัมผัสด้วยมือ พวกเขารู้สึกได้ถึงเส้นเลือดเหนียว ๆเส้นเลือดนี้ไม่เพียงแต่ทำให้พวกเขาเจ็บปวดรวดร้าวเท่านั้น แต่ยังให้ความรู้สึกหวาดกลัวอีกด้วยเนื่องจากความจริงที่ว่าผู้พิทักษ์เงาหญิงที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาสามารถควบคุมพลังของนางได้มากพอที่จะตัดผมได้โดยไม่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บสาหัส ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการเตือนซึ่งเห็นได้ชัดว่า ความสามารถของนางแข็งแกร่งอย่างมาก อย่างน้อยผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมการฝึกฝนของตระกูลไม่สามารถเทียบได้ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากนางสามารถควบคุมบาดแผลที่เกิดเพียงเส้นเลือดบาง ๆ ได้ นั่นหมายความว่าหากนางต้องการทำให้บาดแผลที่ร้ายแรงกว่านี้ คงเป็นไปได้แน่ ๆ เพราะตำแหน่งของบาดแผลนี้เป็นเพียงเส้นผมที่หัก พูดจริง ๆ หากลงมือหนักกว่านี้ก็คือตัดคอให้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 214

    นางมองจั๋วหยุนชินอย่างเฉยเมย น้ำเสียงของนางไร้ความรู้สึก น้ำเสียงนั้นไม่เย็นชาหรือยินดี“ข้าบอกเจ้าไปแล้ว ข้าจะแข่งกับเจ้า อย่าบีบบังคับคนสิ รังแกคนของเฟิงเหยียน สนุกมากหรือ หากเจ้ามีทักษะนี้ ไปกลั่นยาให้ตระกูลหน่อยไหม”ยิ่งไปกว่านั้น วิธีที่นางสกัดกั้นการโจมตีของเขายังทำให้จั๋วหยุนชินตกใจเช่นกัน เพราะนางสัมผัสดาบคมของเขาโดยตรง...ด้วยมือเปล่าของนางนิ้วของนางขาวและเรียวยาว และดูเหมือนว่านางสามารถทิ้งบาดแผลอันน่าสยดสยองไว้ได้เพียงแค่รอยขีดข่วนแต่ในขณะนี้ นางบีบที่ขอบดาบของเขา ไม่เพียงแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บจากดาบเท่านั้น แต่ยังไม่ได้รับบาดแผลจากพลังของดาบด้วยซ้ำ"เจ้า..." จั๋วหยุนชินจ้องมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขานางยืนอยู่ระหว่างเขากับหานกวงด้วยสีหน้าที่ไม่แยแส และนางดันดาบของเขากลับไปในทิศทางของเขาอย่างไม่ตั้งใจจากนั้นนางก็หันไปมองหานกวงงแล้วพูดว่า "ไปกันเถิด"“เจ้าค่ะ” จากนั้นหานกวงหันหลังและเดินตามจั๋วซือหราน แสงสีแดงจาง ๆ ที่ข้างคอของนางจึงค่อย ๆ จางหายไปจนกระทั่งทั้งสองคนจากไป คนในห้องโถงบรรพบุรุษยังคงเงียบดูเหมือนว่าหลังจากจั๋วซือหรานหยุดการโจมตีของจั๋วหยุนชินได้อย่างง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 215

    หานกวงคิดถึงการกระทำในก่อนหน้านี้ของจั๋วซือหราน และนางรู้สึกว่าอาจไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไปหานกวงเหลือบมองมือของจั๋วซือหราน นางรู้สึกสงสัยเล็กน้อย“เมื่อครู่นี้แม่นางเก่งมากนัก แม่นางกล้าสัมผัสดาบด้วยมือเปล่าโดยไม่ได้รับบาดแผลใด ๆ แม้ว่าชายก่อนหน้านี้จะไม่ได้เก่งมากนัก แต่เขาก็ยังคงใช้วิชาดาบของลัทธิอู๋จี๋ ดังนั้นเขาแข็งแกร่งอย่างมาก"“นั่นสินะ” จั๋วซือหรานลดสายตาลงและเหลือบมองที่ฝ่ามือของนาง ฝ่ามือของนางขาวและสะอาด มีเส้นฝ่ามือที่ชัดเจนทุกคนที่เห็นฉากของเมื่อครู่นี้มักจะเชื่อได้ยากว่า มือที่ดูนุ่มนวลมากและไร้พลังโจมตีใด ๆ นี้ได้ปะทะกับคมดาบของลัทธิอู๋จี๋ของจั๋วหยุนชินแม้แต่จั๋วซือหรานเองก็ไม่คาดคิดว่า วิชาสืบทอดของการแพทย์สายวิเศษของชาติที่แล้วถูกปลุกตื่นแล้วจริง ๆมือวิเศษเป็นทักษะชนิดหนึ่งของการแพทย์สายวิเศษในความเป็นจริง แม้แต่จั๋วซือหรานในชาติที้แล้ว ต่อให้นางเก่งการแพทย์สายวิเศษ แต่นางมือวิเศษได้ไม่มากนางมักตกอยู่ในสภาพที่ว่า เกือบจะได้สัมผัสถึงทักษะนี้แล้ว แต่มันก็ยังขาดอีกนิดหนึ่งแต่สุดท้าย ก่อนที่นางได้ปลุกทักษะของมือวิเศษได้ นางก็เสียชีวิตและเดินทางมายังโลกที

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 216

    จั๋วซือหรานขมวดคิ้วและเดินเข้าไป“ ฝูซู ” จั๋วซือหรานเรียกด้วยเสียงทุ้มลึกเดิมทีฝูซูยังยุ่งในห้องเก็บของ เมื่อเขาได้ยินเสียงนี้ เขารีบวิ่งออกมา “คุณหนู ในที่สุดคุณหนูก็กลับมาแล้ว”“เกิดอะไรขึ้น” จั๋วซือหรานถามฝูซูโบกมือแล้วพูดว่า "ข้ายังคิดอยู่ว่าหลังจากตระกูลเฟิงส่งของขวัญเหล่านี้มา พวกเขาก็ลักพาตัวคุณหนูไปขอรับ"จั๋วซือหรานจึงตระหนักได้ว่า นางลืมเลย และตอนนี้นางตระหนักได้ว่า สาเหตุที่ห้องเก็บของคึกคักก็เพราะตระกูลเฟิงเพิ่งส่งของขวัญเต็มรถมานี่เอง“หากคุณหนูไม่กลับมาอีกนะ ข้าต้องไปบอกฮูหยิน ฮูหยินคงเอาของขวัญเหล่านี้ไปตามหาคุณหนูที่จวนของตระกูลเฟิงแล้วขอรับ” ฝูซูพูดจั๋วซือหรานถาม "ของในห้องเก็บของ ตระกูลเฟิงส่งมาเนี่ยนะ"“ทั้งหมดเลยขอรับ” ฝูซูพยักหน้า “ไม่ใช่แค่ของที่พวกเขาส่งมาในเช้าวันนั้นนะ แต่ยังมีของขวัญอีกมากมายที่ถูกส่งมาในเมื่อเช้านี้ด้วย”ฝูซูไม่กล้าพูดเลยว่า เขาเห็นคุณหนูไปหาตระกูลเฟิง แล้วไม่กลับมา จากนั้นตระกูลเฟิงนำของขวัญมาให้อีก เขาเป็นห่วงมากจนต้องสงสัยว่านี่คือเงินที่คุณหนูแลกด้วยชีวิตหรือเปล่าเขาเกือบจะร้องไห้ฉวนคูนที่ถูกคุณหนูย้ายตำแหน่งงานจากลานนอกไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 217

    ฝูซูตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน“คุณชายหยุนชินกลับมาหรือขอรับ เขาอยู่ในลัทธิไม่ใช่หรือ…เขากลับมาที่นี่ต้องเพื่อคุณท่านลิ่วและคุณหนูหกใช่ไหมขอรับ ด้วยสถานะของเขาในลัทธิ หากเหล่าผู้อาวุโสอยากจัดการคุณท่านลิ่วและคุณหนูหก พวกท่านต้องคิดก่อน นั่นหมายความว่า พวกท่านจะไม่สามารถคืนความยุติธรรมกับคุณหนูหรือเปล่าขอรับ”จั๋วซือหรานมองชายหนุ่มคนนี้ที่มักจะทำอะไรใจร้อน แต่ดวงตาของเขาเฉียบคมในเวลาสำคัญ และเขาสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจนมากจั๋วซือหรานยิ้มและพูดว่า "เจ้าพูดถูก"แม้ว่าฝูซูจะเดาว่าเรื่องเป็นเช่นนี้ แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่ต้องที่ต้องโกรธเล็กน้อย "แต่ทำไม คุณหนูนอกจากจะอายุน้อยกว่าคุณชายหยุนชิน คุณหนูต้อยกว่าเขาอย่างไรล่ะ แถมตอนนี้คุณหนูยังมีชื่อเสียงมากด้วยซ้ำ"จั๋วซือหรานขดริมฝีปากของนางและจิบชาไปสองคำ นางพูดว่า "อาจเป็นเพราะจั๋วหยุนชินสอบติดแพทย์กลั่นยาแล้ว และเขายังบอกว่าในช่วงเวลาที่เขากลับมารเยี่ยมญาติ เขาจะตั้งใจกลั่นยาให้ตระกูลด้วย”ดวงตาฝูซูเกือบจะโผล่ออกมา เขากัดฟันและพูดอย่างขมขื่น "ก็แค่กลั่นยานี่นา คุณหนูของข้ากลั่นเป็นด้วย"“ใช่สิ แต่ทำไมข้าต้องทำงานหนักเพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 218

    ความหมายของคำถามนี้ชัดเจนอย่างไม่ต้องสงสัย เหยียนฉี ถามอย่างไม่เชื่อ "เจ้าไม่อยากยึดร้านนั้นจริง ๆ หรือ"“ข้าแค่ต้องการเมื่อข้าต้องการยา ตระกูลเหยียนสามารถจัดหายาให้ข้าได้ สิ่งที่ข้าต้องการคือความสะดวกและผลประโยชน์ ข้าเอาร้านขายยาของบ้านเจ้าทำไม มันไม่เหนื่อยหรือ…” จั๋วซือหรานขมวดคิ้วสีหน้าของเหยียนฉีดูทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย "พวกข้า...คิดเลวไปเองขอรับ "จั๋วซือหรานชี้ไปที่จานบนโต๊ะ “ตอนนี้กินข้าวกันได้ยังเจ้าคะ คงไม่กังวลขนาดนั้นแล้วนะ”เหยียนฉีจึงหยิบตะเกียบขึ้น สุ่มคีบแมกโนเลียขึ้นมาแล้วถามว่า “แล้ววันนี้แม่นางจิ่วหาข้าเพื่อเรื่องอันใด”เมื่อเหยียนฉีพูดจบ เขาเห็นจั๋วซือหรานวางตะเกียบลงด้วยแววตาที่เย็นชาเมื่อเห็นแววตาที่เย็นชาเช่นนี้ เหยียนฉีตกใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาคิดออกทันทีแม้แต่ต่อหน้าเขา คุณหนูจั๋วจิ่วผู้นี้ไม่เคยมีสายตาเย็นชาและไม่แยแสเช่นนี้มาก่อน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคนของตระกูลเหยียนอย่าง ผู้อาวุโสสี่ เหยียนชางหรือคนอื่น ๆ นางมักจะมีแววตาเช่นนี้ทันใดนั้น เหยียนฉีเข้าใจว่า ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่เคยนับเขาเป็นศัตรูเลย“จั๋วหยุนชินกลับมาแล้ว” จั๋วซือหรานเริ่มพ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1264

    จะเหมือนว่าตบหน้าใส่ตนเองอย่างแรง ทั้งที่เดิมทีก็อยู่บนโชคชะตาที่ขมขื่นอยู่แล้ว กระทั่งยังเป็นการตบหน้าตนเองในตอนนั้นอีกด้วยแบบนั้น...มันขมขื่นเกินไป พวกเขาเดิมทีก็ยากลำบากอยู่แล้วปันอวิ๋นนิ่งงันไปพักหนึ่ง อันที่จริงรู้สึกเหมือนไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนดีอยู่หน่อยๆความเงียบงันดำเนินต่อไประยะหนึ่งยังคงเป็นเฟิงเหยียนที่เอ่ยเสียงต่ำขึ้นมาก่อน "ขอบคุณมาก"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ ก็รู้สึกแปลกประหลาด อารมณ์เองก็ไม่ค่อยมั่นคงทั้งที่มั่นคงมาตลอดแท้ๆหลังผ่านไปพักหนึ่ง ปันอวิ๋นจึงเอ่ยตอบว่า "เรื่องเล็กน้อย"ตอนที่ได้ยินคำนี้ สายตาของเฟิงเหยียนก็เหมือนขยับนิดๆยังจำได้ว่า ตอนยังเด็กถ้าปันอวิ๋นช่วยเขาทำอะไร ขอแค่เขาขอบคุณ ปันอวิ๋นก็จะพูดคำว่า 'เรื่องเล็กน้อย' ออกมาเสมอต่อให้บางครั้ง จะไม่ใช่เรื่องเล็กเลยก็ตาม แต่ก็ยังทำให้เขารู้สึกว่า ไม่ต้องเกรงใจ ยังมีพี่น้องคนนี้ช่วยแบกอยู่เฟิงเหยียนหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงเรียบขึ้นว่า "ก่อนหน้านี้ ข้าเจอกับหลงเฉินมา"พอได้ยินชื่อนี้ที่คุ้นเคย ม่านตาปันอวิ๋นก็หดลงเล็กน้อยเฟิงเหยียนเอ่ยต่อว่า "เขามีชีวิตไม่ค่อยดีนัก เหมือนตอนนั้นหลังจากที่เขาท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status