แชร์

บทที่ 913

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 18:00:00
นางยังคงเป็นหญิงสาวที่เฉลียวฉลาดและไม่ยอมเสียเปรียบเหมือนเดิม

ช่วงนี้เขารู้สึกกังวลและกดดัน กลัวว่าแม้พวกเขาจะเริ่มต้นใหม่ แต่ก็ไม่สามารถย้อนกลับไปเหมือนเดิมได้

จนถึงตอนนี้ เขายังคิดอยู่เลยว่าการที่พวกเขาจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขา แต่ขึ้นอยู่กับเฟิ่งชูอิ่ง

ถ้านางเต็มใจ พวกเขาก็สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ทันที

ตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งก็ดูเหมือนจะเข้าใจแล้ว และเต็มใจที่จะเริ่มต้นใหม่กับเขา

หลังจากทานหม้อไฟเสร็จ จิ่งโม่เยี่ยก็รู้สึกอบอุ่นไปทั่วร่างกาย หัวใจของเขาก็อบอุ่นเช่นกัน

เฟิ่งชูอิ่งพูดกับจิ่งโม่เยี่ยว่า "ช่วงนี้ท่านคงยุ่ง ไม่ต้องแวะมาหาข้าเป็นพิเศษหรอก"

"ข้าบอกแล้วว่าจะเริ่มต้นใหม่กับท่าน ก็จะเริ่มต้นใหม่ ไม่เบี้ยวหรอก"

มุมปากของจิ่งโม่เยี่ยยกขึ้นเล็กน้อย "ข้ารู้"

เขาพูดจบก็จับมือนาง "เรื่องของข้า ข้าจัดการเองได้ แต่ข้าดีใจมากที่เจ้าช่วยข้า"

"ถึงเจ้าไม่ช่วยอะไร ขอแค่ยังอยู่ที่เมืองหลวง ข้าก็ดีใจเหมือนกัน"

เฟิ่งชูอิ่งเบะปากเล็กน้อยแล้วดึงมือกลับ "อย่ามาลวนลามกันนะ ข้ายังไม่สนิทกับท่านเสียหน่อย"

จิ่งโม่เยี่ยยิ้มบางๆ ขณะมองนาง "เราเริ่มต้นใหม่ ไม่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 914

    เฟิ่งชูอิ่ง “......”เฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ่งโม่เยี่ยเดินจากไปสักพักแล้ว เฟิ่งชูอิ่งถึงได้สติกลับมาที่เขาทำเมื่อครู่นี้ ไม่ใช่แสดงท่าทางตื้นตันใจที่ได้รับความรัก แต่เป็นการฉวยโอกาสกับนางต่างหากเพียงแต่ตอนที่เขาจูบนางเมื่อครู่ เขาทำเร็วมาก พอจูบเสร็จก็ผละออกไปเร็วเช่นกัน ทำให้นางไม่ทันได้ตั้งตัวตอนนี้นางเพิ่งรู้สึกตัวว่า จิ่งโม่เยี่ยก็ยังคงเป็นจิ่งโม่เยี่ยคนเดิม ในเรื่องการฉวยโอกาสกับนางนั้นไม่เคยปล่อยผ่านไปเลยนางอดไม่ได้ที่จะด่าออกมาว่า “เจ้าคนชั่ว!”ปู๋เยี่ยโหวโผล่พรวดออกมาจากมุมไหนสักแห่ง เอ่ยด้วยสีหน้าตัดพ้อ “ตอนนี้เจ้าด่าไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว!”“ตอนที่เขาจูบเจ้าเมื่อครู่นี้ เจ้าน่าจะตบหน้าเขาสักฉาด!”เฟิ่งชูอิ่ง “......”แปลว่าไอ้หมอนี่ก็อยู่ดูตลอดเลยงั้นสิ?นางหันไปมองเขา เห็นว่าตอนนี้ปากของเขาบวมเป่งเหมือนไส้กรอก ดูแล้วน่าสงสารสุดๆนางจ้องเขาเขม็ง “เจ้าเป็นแบบนี้แล้ว ยังจะมาแอบดูเรื่องของชาวบ้านอีกหรือ?”ปู๋เยี่ยโหวแค่นเสียงในลำคอเบาๆ “ก็เพราะว่าข้าเป็นแบบนี้ ข้าไม่มีอะไรทำ ถึงได้แวะมาดูเรื่องสนุกของผู้อื่นไง”เพราะสำหรับหนุ่มหล่อเหลาอย่างเขา หากมีใครเห็นสภาพแบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 915

    ยาขมจนแทบคลั่งถึงยาจะขมปี๋ แต่ฝีมือหมอของเหมยตงยวนก็ไม่ธรรมดาแค่ยาถ้วยเดียว อาการเจ็บคอและจมูกของปู๋เยี่ยโหวก็แทบจะหายเป็นปลิดทิ้งคราวนี้จะอู้งานก็ไม่ได้แล้วหลังจากฝากฝังปู๋เยี่ยโหวไว้กับเหมยตงยวนแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็เตรียมตัวกลับห้องพักแต่ระหว่างทางกลับห้องต้องผ่านห้องครัว ประตูยังเปิดอยู่ สาวใช้ยังไม่มาเก็บจานชามไปล้าง หม้อบนเตายังมีควันร้อนลอยกรุ่นนางเห็นจิ่งสือเฟิงกำลังยืนน้ำลายไหลอยู่หน้าหม้อแต่เขาอยู่ในสภาพวิญญาณ อาหารของมนุษย์ถ้าไม่เซ่นไหว้ให้ เขาก็ไม่สามารถกินได้ ได้แต่ยืนน้ำลายหกอยู่แบบนั้นเฟิ่งชูอิ่งเห็นสภาพเขาแล้วแทบจะปิดตาไม่ทัน ท่าทางแบบนี้ไม่มีเค้ารางขององค์ชายแห่งแคว้นเลยสักนิดนางคิดว่าปล่อยให้เขาว่างงานแบบนี้ รู้จักแต่หลอกล่อขอของกิน ต่อไปไม่รู้จะกลายเป็นวิญญาณแบบไหนนางต้องหาอะไรให้เขาทำบ้างแล้วนางจึงกระแอมไอเบาๆ จิ่งสือเฟิงได้ยินก็รีบหันหลังวิ่งทันทีแต่เขาว่าเร็วแล้ว เฟิ่งชูอิ่งเร็วยิ่งกว่า นางประสานมุทราร่ายคาถาคว้าตัวเขากลับมาได้จิ่งสือเฟิงดูหวาดกลัวนาง รีบยิ้มเจื่อนๆ แล้วพูดว่า "ข้าไม่ได้ขโมยกินนะ!"เฟิ่งชูอิ่งพูดเรียบๆ ว่า "ข้ารู้ ถึงเจ้าจะข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 916

    คำถามนี้ทำให้จิ่งสือเฟิงถึงกับพูดไม่ออก ประโยคที่เขาพูดไปมันก็แค่ประโยคที่เขาพูดเอาใจเฟิ่งชูอิ่งเฉยๆ ไม่ได้มีความหมายอะไรพิเศษเพียงแต่เฟิ่งชูอิ่งถามขึ้นมา ถ้าเขาไม่ให้เหตุผลที่ดี นางคงจะซ้อมเขาอ่วมแน่ๆหลังจากที่เขาตายแล้ว ได้ติดตามเฟิ่งชูอิ่งมานาน ความสามารถในการสังเกตสีหน้าท่าทางก็เพิ่มขึ้นมากเขาจึงพูดว่า “ข้าจะไปฆ่ามัน!”เฟิ่งชูอิ่งเหลือบมองเขาแล้วพูดว่า “ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้เขามีบารมีของฮ่องเต้ติดตัว เจ้าฆ่าเขาไม่ได้อยู่แล้ว”“แม้ว่ามันจะไม่มีบารมีของฮ่องเต้ เจ้าที่เป็นแค่ไอ้ตัวตะกละเอาแต่กิน เจ้าจะฆ่าเขาได้อย่างไร เอาอาหารยัดปากเขาจนตายเหมือนเจ้าหรือ?”จิ่งสือเฟิง “…...”เขาถามอย่างระมัดระวัง “งั้นข้าทำให้เขาเกิดอุบัติเหตุ ให้เขาตายแบบไม่คาดคิดได้ไหม?”เฟิ่งชูอิ่งพูดอย่างใจเย็นว่า “ด้วยสมองของเจ้า คงคิดแผนการอุบัติเหตุต่อเนื่องที่เอาชีวิตเขาไม่ได้หรอกมั้ง?”จิ่งสือเฟิง “…...”เขารู้สึกไม่ค่อยอยากยอมรับ เพราะตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาก็กดข่มอยู่เหนือจิ่งสือเยี่ยนตลอดเวลาแต่เมื่อเขานึกถึงสิ่งที่จิ่งสือเยี่ยนทำหลังจากที่เขาตายไปแล้ว ไหนจะความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ เขาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 917

    เขาเอ่ยแทรกแบบทับควัน “ไป ไป! ข้ายอมไปแล้วยังไม่พอหรือไง? โอ๊ย อย่าตีข้า มันเจ็บ!”เฟิ่งชูอิ่งรู้สึกว่าคนอย่างจิ่งสือเฟิง ถ้าพูดดีๆ ด้วยคงไม่ยอมทำ ต้องใช้ไม้แข็งเข้าช่วยนางต้องจัดการทุบตีเขาจนยอมแพ้ ถึงจะเชื่อฟังครู่ต่อมา จิ่งสือเฟิงก็นั่งร้องไห้อยู่บนพื้น ถึงแม้จะไม่มีน้ำตา แต่เขาก็แสร้งทำเป็นร้องไห้ได้น่าสงสารยิ่งกว่าคนที่มีน้ำตาเสียอีกเฟิ่งชูอิ่งถามเขาว่า “จำทุกอย่างที่ต้องทำในจวนอ๋องจิ้นได้แล้วใช่ไหม?”จิ่งสือเฟิงสูดน้ำมูกแล้วตอบว่า “จำได้แล้ว”เฟิ่งชูอิ่งมองเขาแล้วพูดว่า “ทวนให้ฟังหน่อย”จิ่งสือเฟิงสะอื้นพลางพูดว่า “เข้าฝันจิ่งสือเยี่ยนทุกวัน สร้างภาพหลอนให้เขา ปลุกความกลัวในใจเขา”“แล้วก็เข้าฝันคนสนิทของเขา ให้ความฝันของพวกเขาเชื่อมโยงกัน ให้พวกเขาคิดว่าความฝันนั้นเป็นเรื่องจริง”“นอกจากนี้ก็ต้องคอยจับตาดูเขา ถ้าเขามีความเคลื่อนไหวอะไรก็ให้รีบมารายงานเจ้า”เฟิ่งชูอิ่งพูดด้วยความพอใจ “จำได้ไม่เลว โครงเรื่องก็ชัดเจน ถ้าทำแผนงานที่สมบูรณ์มาให้ข้าได้ ก็ไปทำภารกิจได้เลย”จิ่งสือเฟิงชะงักไปครู่หนึ่ง “ต้องทำแผนงานด้วยหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งมองเขาแล้วพูดว่า “ปกติเจ้าก็ทำอะไรไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 918

    มุมปากของเหมยตงยวนกระตุกเบาๆ เขาเห็นนางเล่นงานจิ่งสือเฟิงแบบนี้ เผลอคิดไปว่านางจะฝากความหวังไว้กับเขา ไม่คิดว่านางแค่เล่นสนุกกับเขาเท่านั้นเขาเห็นด้วยว่า “จิ่งสือเฟิงก็แค่ผีที่ไม่ได้เรื่องได้ราวตนหนึ่ง อย่าไปหวังอะไรกับเขาเลยจะดีที่สุด”ให้จิ่งสือเฟิงไปสร้างความเดือดร้อนให้จิ่งสือเยี่ยน ทำให้จิ่งสือเยี่ยนไม่มีความสงบสุขอีกต่อไป ถือเป็นเรื่องที่ดีมากอย่างไรเขาก็เป็นแค่ขยะ ตอนนี้ถือว่าเป็นการใช้ประโยชน์จากขยะ ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมเฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “ใช่ ถ้าวันหนึ่งเขาดันมีประโยชน์ขึ้นมา สร้างความประหลาดใจให้พวกเราได้ล่ะ?”พูดจบ นางก็ถามต่อว่า “มีข่าวคราวของสือซานเหนียงหรือยัง?”เหมยตงยวนส่ายหน้า “ยังไม่มีเลย”ตั้งแต่ครั้งก่อนที่จิ้งจอกสือซานเหนียงหนีไป ไม่ว่าเหมยตงยวนจะตามหาอย่างไร นางก็เหมือนปลาที่ว่ายหายไปในทะเล ไร้ร่องรอยอย่างสิ้นเชิงเหมยตงยวนตามหานางมานานขนาดนี้แล้ว ยังไม่มีข่าวคราวเบาะแสของจิ้งจอกสือซานเหนียง เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันแปลกๆเฟิ่งชูอิ่งครุ่นคิด “ท่านพ่อตามหานางแบบนี้ แต่กลับไม่มีข่าวเลย นางน่าจะซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ที่พิเศษมากแน่ๆ”เหมยตงยวนตามหาจิ้งจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 919

    ด้วยเรื่องนี้เอง ทำให้เรื่องที่ฮ่องเต้เจาหยวนและมหาราชครู ร่วมมือกันฆ่าฮ่องเต้พระองค์ก่อนเพื่อแย่งชิงบัลลังก์นั้น กลายเป็นเรื่องที่จริงแท้แน่นอนแต่ทุกคนต่างก็คาดเดากันว่า แท้จริงแล้วฮ่องเต้พระองค์ก่อนได้ทรงทิ้งราชโองการสืบราชบัลลังก์ไว้หรือไม่หากมี แล้วราชโองการฉบับนั้นอยู่ในมือของผู้ใดช่วงหลายวันที่ผ่านมามีผู้คนคาดเดาเรื่องนี้กันมาก พวกเขากำลังตามหาขุนนางผู้ลึกลับที่ได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้พระองค์ก่อนบางคนก็คาดเดาว่า จิ่งโม่เยี่ยจะจัดการกับฮ่องเต้เจาหยวนอย่างไรหากไม่นับเรื่องการแย่งชิงอำนาจในราชสำนัก ความแค้นที่บิดาถูกฆ่านั้นมิอาจอยู่ร่วมฟ้าเดียวกันได้แต่ช่วงหลายวันที่ผ่านมา จิ่งโม่เยี่ยกลับมิได้ทำอันใดกับฮ่องเต้เจาหยวน เรื่องนี้ยิ่งทำให้เกิดการคาดเดามากขึ้นบัดนี้ฮ่องเต้เจาหยวนสิ้นพระชนม์แล้ว แผ่นดินจะว่างเว้นจากกษัตริย์ไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างจะปะทุขึ้นในวินาทีนี้การต่อสู้ระหว่างจิ่งโม่เยี่ยและจิ่งสือเยี่ยนก็จะเริ่มต้นขึ้นอย่างเต็มรูปแบบเฟิ่งชูอิ่งไม่เคยถามจิ่งโม่เยี่ยว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร เพราะนางเชื่อมั่นในความสามารถและขุมกำลังของเขา เชื่อว่าเขาต้องเตรียมก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 920

    ด้วยวิธีนี้ พ่อแม่ของปู๋เยี่ยโหวก็จะไม่ต้องตายเขาก็ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำตัวเป็นคนเสเพลตั้งนานหลายปี เขาสามารถเป็นคนเสเพลที่แท้จริงได้อย่างมีความสุข แค่คิดถึงวันเวลาเหล่านั้นก็รู้สึกดีแล้วตอนนี้ฮ่องเต้เจาหยวนสิ้นพระชนม์แล้ว ถึงเวลาที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องจบลงปู๋เยี่ยโหวพ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับพูดอย่างหัวเสียว่า “ไอ้สารเลวนี่มันรู้จักเลือกเวลาตายจริงๆ!”“วันนี้ข้าโดนพริกเล่นงานจนเป็นแบบนี้ เดิมทีข้ายังอยากจะพักผ่อนสักสองสามวัน พอเป็นแบบนี้ก็ไม่ได้พักแล้ว”เขาเป็นคนฉลาด รู้ว่าการสิ้นพระชนม์ของฮ่องเต้เจาหยวนหมายความว่าอย่างไรจิ่งสือเยี่ยนและจิ่งโม่เยี่ยต้องตัดสินแพ้ชนะกัน มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้เฟิ่งชูอิ่งได้ยินเสียงระฆังมรณะ ในขณะที่จิ่งโม่เยี่ยก็ได้ยินเช่นกันก่อนหน้านี้หมอหลวงเคยวินิจฉัยไว้ว่าฮ่องเต้เจาหยวนจะอยู่ได้ไม่เกินเจ็ดวัน วันนี้เป็นวันที่หกเพราะจิ่งโม่เยี่ยรู้ว่าฮ่องเต้เจาหยวนกำลังจะสิ้นพระชนม์ เขาจึงไม่ได้ไปรังแกฮ่องเต้เจาหยวนซ้ำอีกสาเหตุที่เขาไม่รังแกฮ่องเต้เจาหยวน ไม่ใช่เพราะเขามีความสงสารฮ่องเต้เจาหยวน แต่เป็นเพราะนี่เป็นโอกาสที่ดีในก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 921

    ถ้าอย่างนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็จะทำให้เขาได้รู้ก่อนตาย ว่าความสำเร็จในชีวิตทั้งหมดของเขา ได้มาเพราะฮ่องเต้พระองค์ก่อนไม่ต้องการนั่งอยู่บนบัลลังก์ต่างหากล่ะทว่าบัดนี้จิ่งโม่เยี่ยต้องการบัลลังก์ ดังนั้นเขาจึงแย่งมันคืนมาจิ่งโม่เยี่ยใช้ความจริงบอกกับฮ่องเต้เจาหยวนว่า ฮ่องเต้เจาหยวนไม่มีวันเทียบอดีตฮ่องเต้ได้ ลูกชายมากมายที่ฮ่องเต้เจาหยวนให้กำเนิดออกมาก็สู้ลูกชายเพียงคนเดียวของอดีตฮ่องเต้ไม่ได้ความจริงเช่นนี้สำหรับฮ่องเต้เจาหยวนแล้ว เลวร้ายเสียยิ่งกว่าการฆ่าเขาให้ตายอีกเพราะว่าฮ่องเต้เจาหยวนคิดมาตลอดว่าตัวเองเฉลียวฉลาด และฝีมือเก่งกาจอย่างยิ่ง ไม่ได้ด้อยไปกว่าอดีตฮ่องเต้สักนิด บัลลังก์มันควรจะเป็นของเขาไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจยอมรับความจริงเรื่องที่เขาด้อยกว่าอดีตฮ่องเต้ได้ดังนั้นหากจะพูดให้ถูกต้องแล้ว ฮ่องเต้เจาหยวนถูกจิ่งโม่เยี่ยทำให้โมโหจนขาดใจตายจิ่งโม่เยี่ยฆ่าฮ่องเต้เจาหยวนได้โดยไม่ต้องลงดาบ เขาเพียงทำลายจิตใจอีกฝ่ายโดยตรงฮ่องเต้เจาหยวนนับว่าไม่ได้สิ้นพระชนม์ด้วยโรคภัยไข้เจ็บความเจ็บปวดที่ฮ่องเต้เจาหยวนสร้างให้กับจิ่งโม่เยี่ยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จิ่งโม่เยี่ยได้ใช้วิธีการของเขาเอา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

DMCA.com Protection Status