แชร์

บทที่ 834

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า “เขาตายไปนานแล้ว ตอนนี้เป็นเพียงวิญญาณร้าย คำว่าวิญญาณร้ายอาฆาตใช้บรรยายถึงเขาได้เหมาะสมที่สุดแล้ว”

ปู๋เยี่ยโหวกล่าวเบาๆ ว่า “เจ้าสุนัขตัวนี้ดูเหมือนจะชั่วร้ายกว่าเมื่อก่อนอีกนะ?”

ตอนนี้เทียนซือไม่มีท่าทีสงบนิ่งดุจเซียนเหมือนตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ วิญญาณทั้งหมดแผ่รังสีอำมหิตออกมาเด่นชัด

ช่วงนี้เหมยตงยวนตามหาเทียนซือไปทั่วเมืองหลวง แต่เขาก็หายตัวไปราวกับหมอกควัน

ไม่รู้ว่าช่วงนี้เขาไปหลบอยู่ที่ไหน

การที่เขากล้าปรากฏตัวที่นี่ในตอนนี้ คงเป็นเพราะเจ้าสุนัขตัวนี้ คงจะใช้วิธีการบางอย่างไล่เหมยตงยวนออกไป

เจ้าสารเลวนี่คงเห็นว่าพวกเขารังแกง่าย เจาะจงเลือกเฉพาะคนที่อ่อนแอกว่าตัวเอง

เฟิ่งชูอิ่งตอบว่า “เขาฝึกวิชาชั่วร้าย ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นแบบนี้”

โดยพื้นฐานแล้ว ตอตที่นาง “ถูกเผาตาย” ครั้งที่แล้ว ก็เป็นเพราะเทียนซือ

นางกับเทียนซือเป็นศัตรูคู่แค้นกันอย่างแท้จริง

หากวิญญาณของเทียนซือยังไม่สลายไป ความแค้นของพวกเขาก็จะไม่จบสิ้น

เฟิ่งชูอิ่งยิ้มทักทายเทียนซือ “เจ้าคนขี้ขลาดที่เอาแต่ซุกหัวอยู่ในรู เราเจอกันอีกแล้ว”

เมื่อเทียนซือได้ยินคำนี้ก็หัวเราะเยาะ “วันนี้ไม่มีใครช่ว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 835

    เขาครุ่นคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนหรือผีกันแน่แต่บนใบหน้ากลับไม่แสดงออกแม้แต่น้อย ยิ้มแล้วพูดว่า “อืมๆ มีสาวงามอยู่เป็นเพื่อน ข้าจะต้องกลัวอะไรล่ะ?”พูดจบก็ถามหญิงสาวคนนั้นว่า “เจ้าชื่ออะไร?”สาวงามตอบว่า “พวกเขาเรียกข้าว่า จิ้งจอกสือซานเหนียง”พอได้ยินคำนี้ ปู๋เยี่ยโหวก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นปีศาจจิ้งจอก ไม่ใช่ผีเขาจึงพูดว่า “สือซานเหนียง? ชื่อนี้น่าสนใจดีนะ ที่บ้านเจ้าคงมีพี่น้องเยอะสินะ?”สมัยที่ปู๋เยี่ยโหวเที่ยวหอคณิกา เขาเป็นที่ถูกอกถูกใจของหญิงคณิกาอย่างมากเขามีประสบการณ์การพูดคุยกับผู้คนมากมาย หาจุดเริ่มต้นบทสนทนาได้ง่ายมากจิ้งจอกสือซานเหนียงยิ้มบางๆ “ใช่ บ้านข้ามีคนเยอะแยะเลย”“ถ้ามีโอกาส ข้าจะเชิญท่านไปเที่ยวที่บ้านข้า พี่น้องของข้าต้องชอบท่านแน่ๆ”ปู๋เยี่ยโหวยิ้มแย้ม “ดี ดี พี่น้องของเจ้าสวยเหมือนเจ้าไหม?”จิ้งจอกสือซานเหนียงพยักหน้า “แน่นอน”พูดจบนางก็เข้าไปแนบชิดปู๋เยี่ยโหว ดันร่างกายที่อ่อนนุ่มแนบชิดร่างกายของเขาในขณะเดียวกัน มือที่วางอยู่บนไหล่ของปู๋เยี่ยโหวก็มีเล็บที่แหลมคมงอกออกมาปู๋เยี่ยโหวดูเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย ดวงตาที่สวยงามของเขาจ้องมอง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 836

    เขาพูดพลางชักกระบี่ออกมา “ถ้าเจ้ายังไม่ตาย ข้าจะฟันซ้ำอีกสองสามครั้ง!”จิ้งจอกสือซานเหนียง “……”ใครบอกว่าปู๋เยี่ยโหวชอบผู้หญิง ไม่เคยลงมือกับสตรี?นางใช้พลังที่เหลืออยู่ทั้งหมดปัดป้องกระบี่ของปู๋เยี่ยโหวปู๋เยี่ยโหวรู้สึกว่ากระบี่ของตนฟันลงไปเหมือนฟันโดนก้อนสำลีเขามั่นใจในเพลงกระบี่ของตนเองมาก ฟันไม่โดนครั้งหนึ่ง ก็ฟันอีกครั้งอย่างไรเสียปีศาจที่อยู่กับเทียนซือก็ไม่ใช่ปีศาจดีอะไรหรอกจิ้งจอกสือซานเหนียงร้องห้าม “เดี๋ยวก่อน!”ปู๋เยี่ยโหวไม่ฟังนาง ฟันกระบี่ลงมาทันทีจิ้งจอกสือซานเหนียงต้องใช้แรงทั้งหมดที่มีตะเกียกตะกายขึ้นมาแต่นางยังไม่ทันได้ก้าวไปไหน ก็ถูกใครบางคนเตะจนกระเด็นออกไปเฉี่ยวหลิงด่า “นางจิ้งจอกหน้าด้าน แม้แต่ผู้ชายของข้าก็ยังกล้ามาอ่อย!”ปู๋เยี่ยโหวตกใจสุดสีหน้า “ข้าเป็นผู้ชายของเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่?”เฉี่ยวหลิงตอบหน้าตาเฉย “เจ้าเป็นผู้ชายที่อยู่ข้างกายข้า เรียกสั้นๆ ว่าผู้ชายของข้า เจ้ามีปัญหาหรือ?”ปู๋เยี่ยโหว “……”เขามีปัญหา แต่บอกไปนางก็คงไม่ฟังเขาจึงพูดว่า “ใช่ๆๆ ข้าเป็นผู้ชายของเจ้า”จิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นท่าไม่ดี รีบหันหลังวิ่งหนีทันทีพลังโจมตีข

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 837

    เฉี่ยวหลิงตอบว่า “เทียนซือสารเลวคนนั้นได้เรียกผู้ช่วยที่เก่งกาจมาหลายคน ที่นี่ถูกวางกลไกใหญ่ครอบทับเอาไว้”“ตอนที่เทียนซือลงมือ ข้าก็แยกจากคุณหนูแล้ว”ปู๋เยี่ยโหวขมวดคิ้วพูดว่า “ถ้าชูชูต้องเผชิญหน้ากับเทียนซือคนเดียว คงจะอันตรายน่าดู”เฉี่ยวหลิงพยักหน้า “ดังนั้นข้าจึงอยากจะทำลายกลไกนี้”“กลไกนี้น่าจะเป็นฝีมือจิ้งจอกตัวนั้นวางเอาไว้ ถ้าฆ่าจิ้งจอกได้ กลไกนี้ก็น่าจะถูกทำลาย”พูดถึงตรงนี้นางก็จ้องปู๋เยี่ยโหวแล้วพูดว่า “ทั้งหมดเป็นความผิดเจ้า ที่ปล่อยให้จิ้งจอกตัวนั้นหนีไป!”ช่วงนี้นางติดตามเหมยตงหยวนและฝึกฝนมาตลอด จึงเข้าใจเรื่องศาสตร์ลี้ลับมากขึ้นนางฝึกฝนในร่างวิญญาณร้าย แม้จะไม่ได้ก้าวหน้าเร็วนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็นับว่าได้เรียนรู้หลายสิ่งถึงตอนนี้แม้นางจะยังเป็นวิญญาณร้าย แต่ร่างกายกลับมีกลิ่นอายของศาสตร์ลี้ลับที่ไม่เข้ากับวิญญาณร้ายยันต์บนตัวปู๋เยี่ยโหวพัดเฉี่ยวหลิงกระเด็นไป เรื่องนี้เขาไม่อยากรับผิดก็ต้องรับเขาถามเฉี่ยวหลิง “แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรต่อ?”สายตาของเฉี่ยวหลิงตกลงบนหางจิ้งจอกเส้นนั้นนางพูดอย่างครุ่นคิด “ถ้ากลไกนี้เป็นฝีมือจิ้งจอกตัวนี้ หางจิ้งจอกที่เป็นขอ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 838

    เทียนซือหัวเราะเยาะ “เจ้ายังปากแข็งแม้ยามใกล้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะลั่น จากนั้นจึงกระดิกนิ้วเรียกเขา “ถ้าเจ้าคิดว่าข้าใกล้ตายแล้ว ก็เข้ามาฆ่าข้าสิ!”เทียนซือ “......”ยิ่งนางดูสงบนิ่งเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่านางต้องมีแผนเตรียมเอาไว้กับดักนี้ร้ายกาจมาก ตราบใดที่นางขยับเพียงนิดเดียว ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแต่นางกลับไม่ขยับเลย!เทียนซือสงสัยอย่างมากว่าหากเขาเข้าไปใกล้นาง นางจะต้องใช้วิธีบางอย่างเล่นงานเขาแน่ที่ครั้งก่อนเขาสามารถเผานางได้ ก็เพราะนางถูกขังอยู่ในห้องเก็บฟืน ไม่มีเครื่องรางและยันต์อยู่ใกล้มือครั้งนี้ที่ต้องเผชิญหน้ากับนางเช่นนี้ เขาไม่มีความมั่นใจเลยจริงๆช่วงนี้เขาถูกเหมยตงยวนไล่ฆ่าจนต้องหลบหนีไปทั่ว จนเกิดเป็นความกลัวฝังใจโอกาสครั้งนี้กว่าจะหามาได้ เขาไม่อยากปล่อยเฟิ่งชูอิ่งไปจริงๆดังนั้นเขาจึงเรียกวิญญาณร้ายตนหนึ่งมาโจมตีเฟิ่งชูอิ่งแต่วิญญาณร้ายยังไม่ทันได้เข้าใกล้เฟิ่งชูอิ่ง ก็ถูกนางจัดการด้วยยันต์เพียงใบเดียวเฟิ่งชูอิ่งทำหน้ารังเกียจ “แค่นี้ก็คิดจะมาฆ่าข้า ใครกันที่ให้ความกล้าเจ้ามา”เทียนซือ “......”เขาก็ค้นพบเช่นกันว่า เฟิ่งชูอิ่งเก่งกว่า

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 839

    พอเห็นสถานการณ์ไม่ดี เทียนซือก็คิดจะถอยทัพทันทีแต่กลับพบว่าหนีไปไหนไม่ได้ เพราะมียันต์ตรึงร่างอยู่เทียนซืออยากสบถเป็นพันคำ!แล้วในตอนนั้นเอง สายฟ้าฟาดครั้งที่สองก็ตามมาเทียนซือฝึกวิชาศาสตร์ชั่วร้าย ซึ่งฟ้าผ่าเป็นขั้วขัดแย้งกับศาสตร์ชั่วร้ายในพริบตาถัดมา เทียนซือก็ถูกฟ้าผ่าจนควันโขมง พลังป้องกันทั้งหมดถูกทำลายในขณะเดียวกัน ยันต์สายฟ้าก็ไปกระตุ้นยันต์อื่นๆในชั่วพริบตาเดียว เพลิงและน้ำก็พุ่งเข้าใส่เทียนซืออย่างบ้าคลั่งเขาเป็นศูนย์กลาง รายล้อมด้วยฟ้าแลบฟ้าร้องเทียนซือ “......”นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาโดนยันต์เยอะขนาดนี้ แถมยันต์ของเฟิ่งชูอิ่งยังทรงพลังมากอีกด้วยผมของเขายังถูกมัดไว้อีก จะไปเรียกร้องความเป็นธรรมกับใครได้?ตอนสู้กับเหมยตงยวนเทียนซือยังไม่เคยต้องเจออะไรอัดอั้นตันใจขนาดนี้มาก่อนฟ้าผ่าห้าครั้ง ทำให้ร่างวิญญาณของเทียนซือเริ่มจางลงและเปลวเพลิงก็ยังคงลุกโชนเทียนซือคิดว่าวันนี้ต่อให้ไม่ตายเพราะฟ้าผ่า ก็ต้องตายเพราะไฟคลอกแน่ๆเปลวเพลิงที่รุนแรงได้เผาไหม้ผมของเขาจนขาด ร่างของเขาลอยไปด้านหลังเฟิ่งชูอิ่งกลัวว่าวงเวทจะถูกกระตุ้น จึงยังไม่กล้าขยับ นางหยิบ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 840

    เหมยตงยวนเก็บกระบี่ จิ้งจอกก็คาบเทียนซือหนีไปเหมยตงยวนจะตามไป จิ้งจอกก็ใช้พลังของค่ายกลกักเหมยตงยวนไว้ชั่วครู่หลังจากนั้นไม่นาน เหมยตงยวนก็ทำลายค่ายกลได้ แต่จิ้งจอกก็พาเทียนซือหนีไปแล้วปู๋เยี่ยโหวอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ลุงเหมย เมื่อครู่นี้ทำไมจู่ๆ ท่านถึงเก็บกระบี่ล่ะ”ถ้าหากเหมยตงยวนฟันกระบี่ลงไป ทั้งจิ้งจอกและเทียนซือคงต้องวิญญาณแตกสลายเหมยตงยวนไม่ได้ตอบคำถาม แต่เดินไปที่กลางค่ายกลแล้วปักกระบี่ลงไปกระบี่ของเขาทำลายตาของค่ายกล ค่ายกลถูกทำลาย เขาจึงวิ่งไปรอบๆ จวนของมหาราชครูอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่พบร่องรอยของจิ้งจอกและเทียนซือแล้วพวกเขาหนีไปแล้วเมื่อค่ายกลถูกทำลาย หมอกหนาก็สลายไปอย่างรวดเร็วเฟิ่งชูอิ่งวิ่งเข้ามาถามว่า “ท่านพ่อ เกิดอะไรขึ้น”เหมยตงยวนตอบว่า “พ่อเจอสือซานเหนียงแล้ว”เฟิ่งชูอิ่งงุนงง “สือซานเหนียง? สือซานเหนียงคือใคร”เหมยตงยวนตอบว่า “เจ้ายังจำที่พ่อเคยเล่าให้ฟังได้ไหม ว่าแม่ของเจ้าเคยเลี้ยงจิ้งจอกตัวหนึ่ง ต่อมาแม่ของเจ้าพาจิ้งจอกตัวนั้นฝ่าค่ายกลหนี และจิ้งจอกตัวนั้นตายในค่ายกล”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า “ข้าจำได้”น้ำเสียงของเหมยตงยวนสั่นเล็กน้อย “จิ้งจอกตัวน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 841

    ปู๋เยี่ยโหวก็เลยตีความไปอีกแบบว่า “จิ้งจอกสือซานเหนียงเป็นคนรู้ใจของลุงเหมยหรือ?”เหมยตงยวนไม่อยากทนแล้วเขาคว้าปู๋เยี่ยโหวมากดลงกับพื้นแล้วซ้อมให้หนักปู๋เยี่ยโหว “……”เขาเข้าใจแล้ว ที่เขาพูดเรื่องของเหมยตงยวนต่อหน้าเฟิ่งชูอิ่ง ทำให้เหมยตงยวนโกรธจนเสียหน้าเขาคิดว่าผู้ชายทุกคนต้องมีจุดอ่อนเขารีบพูดว่า “ลุงเหมย อย่าตีข้า ข้าเข้าใจแล้ว!”เหมยตงยวนถามว่า “เจ้าเข้าใจอะไร?”ปู๋เยี่ยโหวขยิบตาให้เขา “พวกเราเป็นผู้ชายเหมือนกัน ข้าเข้าใจทุกอย่าง”เหมยตงยวน “……”เขาคิดว่าปู๋เนี่ยโหวไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิดเพื่อกำจัดความคิดฟุ้งซ่านในหัวของปู๋เยี่ยโหว เขาคิดว่าควรจะซ้อมปู๋เยี่ยโหวอีกสักรอบปู๋เยี่ยโหวถูกซ้อมจนต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเฟิ่งชูอิ่งยิ้มมุมปากเล็กน้อย เฉี่ยวหลิงพูดว่า “สมน้ำหน้า!”จิ่งโม่เยี่ยมาถึงพอดี เอ่ยถามว่า “เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”เฟิ่งชูอิ่งไม่ตอบแต่ถามกลับว่า “ท่านมาได้อย่างไร?”จิ่งโม่เยี่ยตอบว่า “ข้าได้ยินว่าพวกเจ้ามาที่จวนมหาราชครู กลัวว่าพวกเจ้าจะมีอันตรายจึงรีบมาดู”“มหาราชครูคนนี้เจ้าเล่ห์มาก คำพูดของเขาเชื่อถือไม่ได้”เฟิ่งชูอิ่งเห็นด้วยกับคำพูดของเขา “ต

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 842

    ทุกคนคิดว่านี่เป็นกับดัก มหาราชครูเพียงแค่ใช้เฉี่ยวหลิงล่อเฟิ่งชูอิ่งไปยังจวนมหาราชครู แล้วให้เทียนซือซุ่มโจมตีเฟิ่งชูอิ่งดังนั้น พวกเขาจึงไปดูเรื่องราชโองการด้วยความคิดที่จะดูเรื่องสนุกสนานแต่เมื่อพวกเขาเปิดราชโองการฉบับนั้นออกมา พวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาคิดผิดนั่นคือราชโองการสืบราชบัลลังก์ที่เหมือนของจริงจนแยกไม่ออกผู้ที่จะได้รับการสืบราชบัลลังก์ก็คือจิ่งโม่เยี่ยจริงๆนอกจากตราประทับของตราลัญจกรแผ่นดินแล้ว ยังมีตราประทับส่วนพระองค์ของฮ่องเต้องค์ก่อนประทับอยู่ด้วยถึงแม้ว่าเฟิ่งชูอิ่งจะเดาไว้ก่อนหน้านี้ว่ามหาราชครูจะทำราชโองการปลอมวางไว้ที่นี่ นางก็ไม่คิดว่าราชโองการนี้จะปลอมได้เหมือนจริงขนาดนี้นางไม่ค่อยเข้าใจกฎของราชวงศ์ ถือราชโองการนี้ดูอยู่สามรอบก็ยังมองไม่ออกว่ามีปัญหาอะไรนางยื่นราชโองการให้จิ่งโม่เยี่ย “ท่านมองออกไหมว่าราชโองการมีปัญหาอะไร?”จิ่งโม่เยี่ยพิจารณาดูอย่างละเอียดแล้วกล่าวว่า “รูปแบบทั้งหมดไม่มีปัญหา การใช้คำก็ไม่มีปัญหาอะไร”“แม้แต่กระดาษที่ใช้เขียนราชโองการก็เป็นของจริง ปัญหาเดียวอยู่ที่ตราลัญจกรแผ่นดินนี้”เฟิ่งชูอิ่งและปู๋เยี่ยโหวต่างพิจารณาดูตราลัญจกร

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status