แชร์

บทที่ 699

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
เขาเป็นฝ่ายเสียท่าในเขตอำนาจของตัวเอง ซึ่งทำให้เขารู้สึกโกรธมาก

เขาพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แต่พบว่าไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของเฉี่ยวหลิงได้

เฟิ่งชูอิ่งยกขาที่บาดเจ็บของนางขึ้น เอนตัวพิงพนักเก้าอี้แล้วพูดว่า "ข้าถาม เจ้าตอบ"

รองผู้ว่าราชการตู้ตะโกนด้วยความโกรธ "นังแม่มดชั่ว เจ้ากล้าลงมือในจวนผู้ว่าราชการ เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!"

เฟิ่งชูอิ่งเอามือเท้าคางพิงที่พนักเก้าอี้ นางพูดเสียงเรียบ "ตบปาก"

เฉี่ยวหลิงยกมือตบหน้ารองผู้ว่าราชการตู้หลายที นางมีแรงเยอะมาก แค่ไม่กี่ทีก็ทำให้เขาปากเต็มไปด้วยเลือด ฟันกรามหลุดไปสองซี่

รองผู้ว่าราชการตู้ “!!!!!!!”

เขาตกตะลึงไปหมด ไม่คิดว่าพวกนางจะกล้าลงมือกับเขาจริงๆ!

เฟิ่งชูอิ่งพูดเสียงเรียบ "ตอนนี้พูดดีๆ ได้หรือยัง?"

รองผู้ว่าราชการตู้ตะโกนด้วยความโกรธ "เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!"

เขาพูดยังไม่ทันจบ เฉี่ยวหลิงก็ต่อยเข้าที่ท้องของเขาทันที ทำให้เขาเจ็บจนต้องงอตัว

เฟิ่งชูอิ่งเป่าเล็บมือเบาๆ ราวกับมีฝุ่นทั้งที่ไม่มีอยู่จริง แล้วพูดเสียงเรียบ "เฉี่ยวหลิงของข้ายังมีไม้เด็ดอีกอย่าง"

"นางแค่เตะทีเดียวก็สามารถเหยียบลูกชายของเจ้าให้แตก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 700

    เฟิ่งชูอิ่งไม่ได้แปลกใจกับคำพูดนี้ เพียงแต่การออกมาเดินเล่นของนางเป็นการตัดสินใจกะทันหัน เว้นแต่จะมีคนคอยจับตาดูนางตลอดเวลารองผู้ว่าราชการตู้ตอบ "ข้าก็ไม่รู้ว่าคนนั้นเป็นใคร เพราะไม่สำคัญว่าคนนั้นเป็นใคร สิ่งสำคัญคือข้อมูลนี้"เฟิ่งชูอิ่งถาม "เจ้าไม่กลัวถูกหลอกหรือ?"รองผู้ว่าราชการตู้กัดฟันพูด "ไม่ใช่ว่าข้าไม่กลัวถูกหลอก แต่เรื่องนี้มันเป็นประโยชน์กับข้า"เฟิ่งชูอิ่งนึกถึงคำพูดที่จิ่งโม่เยี่ยมาหานางก่อนหน้านี้ ดวงตาของนางล้ำลึกขึ้นเล็กน้อยนางพูดเสียงเรียบ "ดังนั้นพวกเจ้าก็มองหาโอกาสที่จะฆ่าจิ่งโม่เยี่ยมาตลอดสินะ?"รองผู้ว่าราชการตู้พยักหน้า "ใช่"เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะเยาะ "พวกเจ้าอยากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยก็ไปฆ่าเขาสิ มาลงมือกับข้านี่เรียกตัวเองว่าผู้ชายได้ยังไง?"รองผู้ว่าราชการตู้มองนางแล้วพูด "จิ่งโม่เยี่ยทำอะไรรอบคอบมาก พวกเราหาจุดอ่อนของเขาไม่เจอ""จากปฏิกิริยาของเขาครั้งนี้ เจ้าสำคัญกับเขามาก""จิ่งโม่เยี่ยทำอะไรบ้าคลั่ง ข้าไม่เคยเห็นเขาบ้าคลั่งขนาดนี้เพื่อใครมาก่อน""ดังนั้นการกระทำของข้าครั้งนี้ไม่มีปัญหาอะไรเลย ปัญหาเดียวคือข้าประเมินเจ้าต่ำไป"ดวงตาของเฟิ่งชูอิ่งหรี่ลงเล

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 701

    เพียงแค่กำแพงกั้นไว้ แต่กลับเหมือนตัดขาดความหวังทั้งหมดของเขาวิธีการของเฟิ่งชูอิ่งนั้นง่ายและรุนแรง แต่กลับทำให้รองผู้ว่าราชการตู้ได้ลิ้มรสที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนสิ่งที่เขาเคยทำกับนักโทษในอดีต ตอนนี้ถูกเฟิ่งชูอิ่งแก้แค้นคืนทั้งหมดและตอนนี้เขาไม่มีความสามารถที่จะต่อต้านนางแม้แต่น้อยคืนนี้กลายเป็นคืนที่มืดมนที่สุดในชีวิตของเขาเขาคิดว่าเฟิ่งชูอิ่งจะเป็นคนที่ถูกรังแกได้ง่าย แต่นางกลับใช้ความสามารถสอนบทเรียนที่สำคัญที่สุดในชีวิตให้กับเขาถ้าให้เลือกอีกครั้ง เขาขอสู้กับจิ่งโม่เยี่ยดีกว่าที่จะต้องเผชิญหน้ากับนางในขณะนี้ จิ่งโม่เยี่ยนั่งดื่มชาอย่างสงบในห้องส่วนตัวของร้านน้ำชานอกจวนผู้ว่าราชการเมื่อเทียบกับความใจเย็นของเขา ฉินจื๋อเจี้ยนดูกระวนกระวายกว่ามาก เขาเดินไปมาในห้องไม่หยุดหลางซานเข้ามารายงาน "ท่านอ๋อง รองผู้ว่าราชการตู้กลับมาที่จวนผู้ว่าราชการแล้วพ่ะย่ะค่ะ"ตอนบ่าย หลังจากที่รองผู้ว่าราชการตู้จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็มีคนจากวังมาเชิญเขาเข้าวัง ดังนั้นเขาจึงไม่อยู่ที่จวนผู้ว่าราชการในตอนบ่ายดวงตาของจิ่งโม่เยี่ยเย็นชา "ส่งคนไปเฝ้าทุกทางออกจากจวนผู้ว่าราชการ ตั้งแต่ต

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 702

    ฉินจื๋อเจี้ยน "......"เขาชูนิ้วโป้งให้จิ่งโม่เยี่ย "ท่านอ๋องช่างใส่ใจจริงๆ ถ้าพระชายาทราบคงจะดีใจมากทีเดียว"ก่อนหน้านี้แม้ว่าจิ่งโม่เยี่ยจะชอบเฟิ่งชูอิ่ง แต่ก็ไม่ค่อยใส่ใจคิดอะไรให้นางมากนักหลังจากที่ทั้งสองแยกจากกันครั้งล่าสุด จิ่งโม่เยี่ยดูเหมือนจะเข้าใจเรื่องการอยู่ร่วมกับเฟิ่งชูอิ่งในทันทีเขาเข้าใจว่าอะไรคือความรู้สึก อะไรคือการให้เกียรติแต่การที่จิ่งโม่เยี่ยเข้าใจสิ่งเหล่านี้ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่แพงมหาศาลจิ่งโม่เยี่ยพูดอย่างช้าๆ ว่า "ก็ไม่มีอะไรต่างจากเมื่อก่อนหรอก ข้าแค่ไม่อยากให้นางเกลียดข้าอีกเท่านั้น"ฉินจื๋อเจี้ยนได้ยินคำพูดนี้แล้วรู้สึกสงสารเขา จิ่งโม่เยี่ยช่างลำบากจริงๆเขาถามคำถามที่อยู่ในใจ "ตามปกติรองผู้ว่าราชการตู้แม้จะเผด็จการ แต่การกระทำก็ยังมีหลักการอยู่บ้าง อย่างน้อยก็คงไม่ลงมือกับพระชายาโดยตรงแบบนี้""ทำไมครั้งนี้เขาถึงได้ลงมือรุนแรงกับพระชายาแบบนี้? ถึงขนาดไม่สนใจว่าจะขัดแข้งขัดขากับจวนผู้ว่าราชการ?"ดวงตาของจิ่งโม่เยี่ยเย็นชา "คงเป็นเพราะมีคนบอกเขาว่าชูอิ่งสำคัญกับข้าแค่ไหน""ฮองเฮาและมหาราชครูเกลียดข้าเพราะการตายของจิ่งสือเฟิง พวกเขาพยายามหาโอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 703

    เขาคิดถึงนิสัยของเฟิ่งชูอิ่ง และรู้สึกว่าคำอธิบายของจิ่งโม่เยี่ยมีเหตุผลเขาหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า "ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี"เฟิ่งชูอิ่งไม่รู้เรื่องที่จิ่งโม่เยี่ยทำ แต่นางรู้ว่าเขาคงจะสนใจเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่การที่นางถูกจองจำในคุกครั้งนี้ แง่หนึ่งก็เป็นเพราะมีความเกี่ยวข้องกับเขาตอนนี้ความรู้สึกของเขาที่มีต่อนางถือว่าชัดเจนแล้ว ในสถานการณ์แบบนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่สนใจนางเลยดังนั้นนางจึงรู้ว่านางสามารถก่อเรื่องในศาลได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาก็สามารถจัดการให้นางได้ด้วยเหตุนี้ เมื่อนางเผชิญหน้ากับรองผู้ว่าราชการตู้ที่โหดร้ายไร้ปรานี นางจึงไม่จำเป็นต้องเกรงใจเลยแม้แต่น้อยคนแบบนี้ชอบใช้อำนาจในทางที่ผิด ไม่ได้มองประชาชนเป็นคน นางจึงต้องสอนให้เขารู้จักเป็นผู้เป็นคนเสียบ้างและเพราะนางได้เห็นความเลวทรามของรองผู้ว่าราชการตู้ นางจึงไม่รู้สึกดีกับคนในจวนมหาราชครูเลยคิดดูให้ดี ถ้าจวนมหาราชครูมีกฎระเบียบที่ดี ก็คงไม่เลี้ยงดูฮองเฮาให้มีนิสัยเลวร้ายขนาดนี้ครั้งนี้เมื่อนางปะทะกับรองผู้ว่าราชการตู้ นางก็เข้าใจกฎระเบียบของจวนมหาราชครูได้ชัดเจนยิ่งขึ้นทั้งตระกูลนี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 704

    รองผู้ว่าราชการตู้กลัวว่าเฟิ่งชูอิ่งจะแทงเขาอีกครั้งหากพูดอะไรไม่เหมาะสม เขาจึงตะโกนด้วยความโกรธ "ข้าบอกแล้วว่าให้ฟังนาง!"คนสนิทของรองผู้ว่าราชการตู้รับคำและรีบส่งคนไปเชิญผู้ว่าราชการมาทันทีผู้ว่าราชการตั้งใจจะแกล้งป่วยเพื่อไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับชีวิตของรองผู้ว่าราชการตู้ คนสนิทของเขาจึงไม่สนใจเรื่องยศถาบรรดาศักดิ์ บุกเข้าไปในห้องและลากตัวเขาออกมาผู้ว่าราชการไม่มีทางเลือก จำต้องออกมาดูสถานการณ์แต่เมื่อเขามาถึงและเห็นรองผู้ว่าราชการตู้เต็มไปด้วยเลือด เขาก็ตกใจและถามว่า "เจ้าเป็นอะไรทำไมเจ็บหนักขนาดนี้?"เฟิ่งชูอิ่งตอบเสียงเรียบ "ข้าตีเขาเอง"ผู้ว่าราชการ “......”ดวงตาของเขากลอกไปมา ในใจคิดว่ารองผู้ว่าราชการตู้สมควรโดนแล้ว!ทำไมต้องไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งด้วยด้วย!แม้ว่าเขาจะเป็นผู้บังคับบัญชา แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาก็ต้องทนกับความก้าวร้าวของรองผู้ว่าราชการตู้มามากมาย ตอนนี้เมื่อเห็นสภาพอันน่าสังเวชของรองผู้ว่าราชการตู้ เขารู้สึกพอใจอย่างบอกไม่ถูกแต่เขาไม่สามารถแสดงความรู้สึกนั้นออกมาได้เขาจึงพูดอย่างจริงจัง "รองผู้ว่าเป็นขุนนาง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 705

    "ข้ารู้ว่านี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของอาชญากรรมที่เขาก่อขึ้น แต่แม้เพียงส่วนเล็กๆ นี้ก็น่าตกใจมากแล้ว!"พูดจบนางก็ส่งกระดาษที่รองผู้ว่าราชการตู้สารภาพผิดให้กับผู้ว่าราชการผู้ว่าราชการมองนางแวบหนึ่ง แล้วมองรองผู้ว่าราชการตู้ที่อยู่ด้านหลังนางอีกที เขาเริ่มเข้าใจคร่าวๆ แล้วว่านางกำลังจะทำอะไรเขาคลี่กระดาษออก สีหน้าที่เดิมดูเหมือนไม่ใส่ใจค่อยๆ เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นตอนนี้รองผู้ว่าราชการตู้เริ่มได้สติขึ้นมาบ้างแล้ว พูดอย่างอ่อนแรงว่า "ใต้เท้าขอรับ นี่เป็นการบังคับให้รับสารภาพ!""ทุกอย่างที่เขียนในคำให้การนี้ล้วนเป็นสิ่งที่นางพูด แล้วบังคับให้ข้าน้อยประทับตรา!"เฟิ่งชูอิ่งมองผู้ว่าราชการพูดว่า "ทุกเรื่องที่เขียนอยู่ในนี้ล้วนเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น""จริงๆ แล้วผู้เสียหายบางคนตอนนี้ก็อยู่ในคุกของจวนผู้ว่าราชการ""ขอเชิญท่านสอบสวนคดีนี้ และตรวจสอบเรื่องราวที่เขียนไว้ในคำรับสารภาพอย่างละเอียด"สีหน้าของรองผู้ว่าราชการตู้เปลี่ยนไปอย่างมาก เรื่องราวในคำรับสารภาพนั้น อะไรที่เขาทำ อะไรที่เขาไม่ได้ทำ เขารู้ดีที่สุด!เรื่องเหล่านี้ แน่นอนว่าตอนแรกเขาไม่อยากเขียน แต่เฟิ่งชูอิ่งดูเหมือนจะรู

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 706

    รองผู้ว่าราชการตู้เห็นสภาพของเขาแบบนี้ก็รู้ว่าวันนี้จบแน่เขาทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการมาหลายปี รู้ดีว่าผู้ว่าราชการเป็นคนแบบไหนเมื่อผู้ว่าราชการพูดแบบนี้ แสดงว่าเขาตัดสินใจเข้าข้างจิ่งโม่เยี่ยแล้วและวันนี้เขาจะกลายเป็นของขวัญที่ผู้ว่าราชการมอบให้จิ่งโม่เยี่ย!เขาโกรธจัดพูดว่า "ข้าถูกเฟิ่งชูอิ่งบังคับให้รับสารภาพ ข้าเป็นขุนนางราชสำนัก ถึงท่านจะเป็นผู้บังคับบัญชา ตอนนี้ท่านก็ไม่มีสิทธิ์สอบสวนข้า"คำพูดของเขาไม่มีปัญหา ตามกฎหมายราชวงศ์นี้ การสอบสวนขุนนางราชสำนักต้องผ่านขั้นตอนต่างๆแววตาของผู้ว่าราชการลึกลง ดวงตามีความลำบากใจในตอนนั้นหลางซานเข้ามาพูดว่า "นี่คือคำสั่งของอ๋องผู้สำเร็จราชการ สามารถสอบสวนขุนนางทั่วแผ่นดินได้"รองผู้ว่าราชการตู้ “!!!!!!!”ผู้ว่าราชการ “......”จิ่งโม่เยี่ยส่งคำสั่งมาตอนนี้ เขาสงสัยอย่างยิ่งว่าจิ่งโม่เยี่ยแอบส่งคนมาอยู่ข้างกายเขา!เฟิ่งชูอิ่งกอดอกเบาๆ ยกคิ้วขึ้นนางเคยประชันปัญญากับจิ่งโม่เยี่ยมาก่อน รู้ว่าเขามีความสามารถแค่ไหนเมื่อเขาไม่สู้กับนางแต่ไปจัดการคนอื่นแทน ก็ชวนให้รู้สึกดีทีเดียวผู้ว่าราชการเป็นคนเจ้าเล่ห์ หลังจากตัดสินใจแล้ว เพื่อป

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 707

    เรื่องนี้ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น จวนผู้ว่าราชการทั้งหมดก็พลอยโกลาหลไปด้วยแม้ว่าผู้ว่าราชการจะไม่สามารถเปลี่ยนคนเหล่านั้นทั้งหมดได้ในคราวเดียว แต่ก็สามารถเปลี่ยนคนสนิทของรองผู้ว่าราชการตู้ไปได้หลายคนอีกทั้งยังมีนักโทษอย่างอู่อิ้งเหวินที่ถูกคุมขังอยู่ในจวนผู้ว่าราชการ ทำให้สะดวกในการสอบสวน การตัดสินความผิดของรองผู้ว่าราชการตู้จึงไม่มีความยากลำบากเลยผู้ว่าราชการได้กลับมาควบคุมจวนผู้ว่าราชการทั้งหมดในทันที ความรู้สึกนี้ช่างดีเหลือเกินแม้ว่าเฟิ่งชูอิ่งจะเป็นนักโทษ แต่ก็ได้ดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ข้างๆผู้ว่าราชการที่สามารถเป็นผู้ว่าราชการได้นั้น ความสามารถของเขาไม่ต้องสงสัยเลย เมื่อเขาสอบสวนคดี มักจะถามได้ตรงจุดสำคัญที่สุดเสมอหลังจากคืนหนึ่งผ่านไป ความผิดของรองผู้ว่าราชการตู้ก็ถูกตัดสินว่าสมควรตายอย่างไม่มีข้อสงสัยแต่คดีของเฟิ่งชูอิ่งกลับมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยโดยไม่คาดคิด หลินอีฉุนไม่ได้ถูกรองผู้ว่าราชการตู้ฆ่าเขาได้รับข่าวว่าจิ่งโม่เยี่ยห่วงใยเฟิ่งชูอิ่ง จึงต้องการวางแผนเล่นงานนางบังเอิญว่าหลินอีฉุนเสียชีวิต เขาจึงใช้ความตายของหลินอีฉุนมาเป็นเรื่องราวเมื่อเขาสร้างเรื่อง

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status