Share

บทที่ 539

Author: ดอกถังร่วงหล่น
ปู๋เยี่ยโหว “!!!!!!”

อ๊าก อ๊าก อ๊าก! คนอื่นเอาแต่บอกว่าเขาเป็นบ้า เขาสิบคนรวมกันยังไม่บ้าเท่าเหมยตงยวนเลย

ไม่พูดไม่จาก็กระชากหัวคนจับกดน้ำแบบนี้ มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว!

เหมยตงยวนจับเขากดน้ำอยู่นานมากทีเดียว จนกระทั่งเขารู้สึกว่าหายใจไม่ออกจริงๆ ถึงได้ยอมปล่อยมือ

เขาได้ยินเสียงของเหมยตงยวนลอยมาว่า “คิดจะแต่งชูอิ่ง? เจ้าคู่ควรหรือไง!”

ปู๋เยี่ยโหว “......”

เขาคิดว่าตนเองก็มิเลวเลยนะ ไม่ได้ย่ำแย่แบบที่เหมยตงยวนพูดสักหน่อย

แต่พอเขาสบตากับดวงตาที่เย็นชาของเหมยตงยวน เขาก็กลืนคำพูดทั้งหมดลงไปทันที

เพราะเขารู้ว่าหากหลุดปากเถียงออกไปแม้แต่ประโยคเดียว เหมยตงยวนได้ใช้กระบี่เชือดเขาแน่

หรือบางทีในสายตาของตาแก่คนนี้ อาจจะไม่มีใครคู่ควรกับลูกสาวของเขาเลยก็ได้

เหมยตงยวนเอ่ยเสียงเย็นชาว่า “เก็บความคิดที่เจ้ามีต่อชูอิ่งเสีย เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้หากเจ้ากล้าแพร่งพรายแม้แต่คำเดียว ข้าจะมาเอาชีวิตของเจ้า”

ปู๋เยี่ยโหวรีบตอบ “ท่านลุงเหมยสบายใจได้ เรื่องที่ชูชูตายแล้วฟื้นคืนชีพขึ้นมา ข้าจะไม่มีวันแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด”

“แต่เจ้าอารามของอารามเทียนอี้คนนั้น คืนนี้เขาก็เป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ด้วย เขาอาจจะไม่ย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 540

    ตอนที่ปู๋เยี่ยโหวเดินทางออกไป ฝนด้านนอกหยุดตกเรียบร้อยแล้ว แต่ความชื้นในอากาศทำให้มีสีขาวนวลปรากฏตรงเส้นขอบฟ้าเขานึกขึ้นได้ว่าจิ่งโม่เยี่ยยังไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเฟิ่งชูอิ่งเลย มุมปากก็ปรากฏรอยยิ้มบางๆเขาแอบคาดหวังให้เหมยตงยวนไปหาเรื่องจิ่งโม่เยี่ยอยู่เล็กน้อย ไม่รู้ว่าถ้าเป็นแบบนั้นจิ่งโม่เยี่ยจะรับมือไหวหรือไม่ทว่าเส้นทางกลับเมืองหลวงของปู๋เยี่ยโหวนับว่าราบรื่นไม่น้อย เขาบังเอิญผ่านมาเห็นกองกำลังของจิ่งโม่เยี่ยปะทะกับกองกำลังเสริมของฮ่องเต้เจาหยวนพอดีปู๋เยี่ยโหวเห็นสถานการณ์แบบนั้นก็พลันฮึกเหิม เขาตระหนักดีว่าการที่บุกเข้าหากองทัพนับหมื่นพันเพียงลำพังไม่ต่างกับการหาเรื่องตาย มิฉะนั้นเขาคงจะบุกเข้าไปร่วมวงด้วยแล้วปู๋เยี่ยโหวใคร่ครวญเล็กน้อยก่อนจะอ้อมไปด้านหลังกองทัพหนุน ไล่สังหารทหารภายในกองทัพคนหนึ่ง แล้วเปลี่ยนไปสวมชุดของคนตาย แฝงตัวปะปนเข้าไปในกองทัพตอนนี้กองกำลังทั้งสองแห่งปะทะกันจนดูไม่ออกว่าใครฆ่าใคร ปู๋เยี่ยโหวฝีมือยอดเยี่ยมมาก เขาแฝงตัวอยู่ในกองทัพโดยไม่มีใครสังเกตเห็นเลยเขาแอบลอบเข้าไปใกล้ผู้นำทัพของฝ่ายตรงข้าม เพราะว่าสถานการณ์สู้รบกำลังดุเดือด เขาจึงไม่เป็นที่สะด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 541

    ปู๋เยี่ยโหว “......”เขายกมือเกาจมูกเบาๆ เอ่ยด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน “ข้าจะกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ!”จิ่งโม่เยี่ยรู้สึกปวดหัว แต่กลับรู้สึกว่าการกระทำของปู๋เยี่ยโหวผิดแผกเกินไป จึงเอ่ยถามว่า “ทำไมเจ้าถึงออกจากวังหลวงกะทันหัน?”“อย่าตอแหลด้วยการบอกว่าเจ้าไปพบหน้าเฟิ่งชูอิ่งเป็นครั้งสุดท้าย เหตุผลนี้ข้าเชื่อไม่ลง”หากปู๋เยี่ยโหวอยากพบหน้าเฟิ่งชูอิ่งเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ เขาคงไม่ออกไปกะทันหันกลางดึกหรอก เขาคงปรี่ไปตั้งแต่ตอนที่รู้ว่านางเกิดเรื่องขึ้นในจวนอ๋องฉู่แล้วเมื่อคืนนี้จะต้องเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นแน่นอน ปู๋เยี่ยโหวถึงได้รีบร้อนออกไปกลางดึกปู๋เยี่ยโหวยกนิ้วโป้งให้จิ่งโม่เยี่ย “ปิดบังเจ้าไม่ได้จริงๆ สินะ”“ความจริงแล้ววันนี้เจ้าอารามหลบหนีออกมาจากข้างในวัง ในคืนนั้น คงที่ลงมือฆ่าบิดาของข้าก็คือเขา”จิ่งโม่เยี่ยจ้องมองเขา เขาจึงเอ่ยต่อโดยสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน “ตอนแรกข้าจับตัวเขาได้แล้ว คิดไม่ถึงว่าไอ้แก่หัวล้านนั่นจะลูกไม้เยอะไม่เบา ถึงได้หนีจากเงื้อมมือข้าไปได้”“หลังจากเขาหนีไปข้าก็เลยออกตามล่า แต่กลับตามจับกลับมาไม่ได้”“ข้าเป็นห่วงเรื่องทางฝั่งวังหลวงก็เลยย้อนกลับมาดู บังเอิญเจอเจ้ากำ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 542

    เมื่อคืนเหมยตงยวนทราบแล้วว่าจิ่งโม่เยี่ยเป็นคนทำให้เฟิ่งชูอิ่งขาหัก เขาจึงอยากมาดูอาการสักหน่อยแต่เพราะเขายังไม่เคยอยู่ร่วมกับเฟิ่งชูอิ่ง ไม่รู้ว่าพ่อกับลูกสาวควรจะปฏิบัติต่อกันอย่างไร แล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะใช้เหตุผลอะไรมาขอดูแผลที่ขาของนางตอนที่เขาได้ยินเฟิ่งชูอิ่งคุยกับเฉี่ยวหลิงเรื่องแผลที่ขา เขาจึงใช้โอกาสนี้เดินเข้ามาขอดูขาของนางเพราะนางใช้วิชาต้องห้ามไปก่อนหน้านี้ กอปรกับไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ขาของนางในยามนี้จึงบวมเป่งและเป็นสีม่วงช้ำ ดูแล้วน่ากลัวอย่างมากตอนที่นางตกจากกำแพงก็ขาหักแล้ว ตอนที่สู้กับเทียนซือจึงบาดเจ็บหนักยิ่งกว่าเดิม เมื่อคืนนี้ยังถูกปู๋เยี่ยโหวเหยียบซ้ำอีก อาการของนางในตอนนี้จึงสาหัสมากจริงๆและเพราะใช้วิชาต้องห้าม การฟื้นฟูของนางจึงเชื่องช้ากว่าอาการขาหักในยามปกติมากบาดแผลของนางไม่ใช่สิ่งที่หมอทั่วไปจะรักษาได้เหมยตงยวนไม่พูดไม่จา ใช้มือประสานคาถาแล้วลูบผ่านขาของนางเบาๆ ช่วยนางทำลายอาคมต้องห้ามที่ยังหลงเหลืออยู่บนขาเขาเคยร่ำเรียนศาสตร์แพทย์มาบ้าง จึงพอจะมีทักษะด้านการรักษาเขาตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเฟิ่งชูอิ่งอย่างละเอียด “เจ้าต้องเชื่อมกระดูก อาจจะเจ็

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 543

    เขาอยากได้ยินเฟิ่งชูอิ่งเอ่ยเรียกเขาว่าพ่ออีก แต่เขากลับรู้สึกว่าการร้องขอแบบนั้นคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่เขาจึงเอ่ยว่า “หลังจากนี้ไปข้าจะปกป้องเจ้าเอง”เฟิ่งชูอิ่งส่งยิ้มบางๆ ให้เขา “ข้ารู้อยู่แล้ว”“ก่อนหน้านี้พวกเขาบอกว่าบิดามารดาของข้าตายหมดแล้ว ไม่มีใครปกป้องข้าได้ แต่ข้ารู้ว่าตอนที่พวกท่านยังมีชีวิตอยู่จะต้องรักข้ามากแน่ๆ”“พวกท่านพยายามทำทุกอย่างเพื่อทิ้งของที่ดีที่สุดเอาไว้ให้ข้า”เหมยตงยวนได้ยินแบบนั้นก็ปวดแปลบในใจ เขาเอ่ยเสียงแผ่วว่า “ข้าไม่สมควรเป็นพ่อคนเลยสักนิด ข้าติดค้างเจ้ากับแม่ของเจ้ามากเหลือเกิน”“ข้าเป็นคนไม่ได้เรื่องเลย ไม่สามารถปกป้องเจ้ากับแม่ได้ จนเจ้าต้องเผชิญหน้ากับความลำบากมากมาย”เฟิ่งชูอิ่งเบิกตากว้างจ้องมองเขา นางอยากรู้เรื่องของเขากับสตรีศักดิ์สิทธิ์ของแคว้นซีฉู่เขากลับไม่ยอมเล่าอะไรต่อ เปลี่ยนหัวข้อสนทนาว่า “ถึงตอนนี้ข้าจะตายไปแล้ว แต่จะไม่ยอมให้ใครรังแกเจ้าได้”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า “หลังจากนี้ไปข้าจะมีบิดาคอยรักและเป็นห่วงแล้ว”ยามพ่อลูกพบหน้ากันอีกครั้ง เหมยตงยวนเองก็รู้สึกสงสัยเรื่องของนางอยู่มิใช่น้อยเขาครุ่นคิดแล้วถามว่า “เจ้าเล่าเรื่องของเจ้ากับจิ่งโม

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 544

    เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า “หลังฆ่าเทียนซือแล้วข้าก็ช่วยเขาถอนคำสาป”เหมยตงยวนนัยน์ตาเย็นเยียบ “เจ้าช่วยเขาถอนคำสาป เขายังกล้าทำแบบนี้กับเจ้าอีก?”เฟิ่งชูอิ่งไม่ได้พูดอะไร เหมยตงยวนก็ทุบโต๊ะแล้วเอ่ยว่า “ทำแบบนี้ได้อย่างไรกัน!”โต๊ะตัวนั้นถูกฝ่ามือของเขาทุบจนเละเทะ เฟิ่งชูอิ่งกับเฉี่ยวหลิงตกใจจนสะดุ้งเหมยตงยวนเห็นสีหน้าของพวกนางก็รู้ตัวว่าตนเองดุร้ายเกินไป กลัวจะทำให้นางกลัวเขาเอ่ยว่า “เจ้าถูกฮ่องเต้เจาหยวนพระราชสทานสมรสให้จิ่งโม่เยี่ยเพราะหลินชูเจิ้งเป็นคนเสนอ เรื่องนี้โทษจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้”“แต่พวกเจ้าก็ตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วมิใช่หรือว่าเจ้าจะช่วยเขาถอนคำสาป ขณะที่เขาปกป้องเจ้าให้ปลอดภัย หลังถอนคำสาปแล้ว พวกเจ้าก็ไม่ควรเกี่ยวข้องกันอีก”“เขาเกิดความรู้สึกกับเจ้าเองแท้ๆ แต่กลับบังคับให้เจ้าอยู่ข้างกายเขา”“การกระทำที่ไม่สนใจความรู้สึกว่าเจ้าจะยินยอมหรือไม่เช่นนี้ มันบ้าอำนาจไร้เหตุผลสิ้นดี”“เขากล้าทำกับเจ้าแบบนี้ เพราะว่าเจ้ากำพร้าไร้ที่พึ่งพิง ไม่สามารถต่อต้านได้ล่ะสิ”“สุดท้ายความเห็นแก่ตัวและเอาแต่ใจของเขาก็ทำร้ายเจ้าจนตาย คนแบบนี้มันสมควรตายจริงๆ!”เฟิ่งชูอิ่งมองเขาด้วยท่าทางตกใจ เขาดูเ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 545

    นางถามว่า “ท่านพ่อคิดจะทำอะไร? คงไม่ได้คิดจะช่วยฮ่องเต้เจาหยวนต่อกรกับจิ่งโม่เยี่ยหรอกนะ?”นัยน์ตาของเหมยตงยวนเผยความอันตราย “จิ่งโม่เยี่ยสมควรตาย ฮ่องเต้เจาหยวนก็สมควรตาย ทำไมข้าต้องช่วยฮ่องเต้เจาหยวนด้วยล่ะ?”เฟิ่งชูอิ่งถาม “ถ้าอย่างนั้นท่านพ่อจะทำอะไรล่ะ?”เหมยตงยวนเอ่ยเสียงเย็นชา “ข้าถูกขังอยู่ในวังหลวง ออกจากอาวุธวิเศษไม่ได้ แต่ใช่ว่าจะไม่รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นด้านนอกเลย”“ตอนที่ข้าอยู่ในอาวุธวิเศษ สามารถได้ยินเสียงคนพูดคุยจากด้านนอกได้”“ในบรรดาองค์ชายทั้งหมด ฮ่องเต้เจาหยวนไม่ชอบองค์ชายห้าจิ่งสือเยี่ยนมากที่สุด ดังนั้นข้าจะผลักดันเขาให้ได้บัลลังก์”“ต่อให้ช่วยเขาชิงดาวจักรพรรดิมาจากตัวของจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องขัดขวางไม่ให้จิ่งโม่เยี่ยกลายเป็นฮ่องเต้ปกครองแผ่นดิน”เฟิ่งชูอิ่ง “......”เฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”คำพูดของบิดานางฟังดูอันตรายยิ่งนัก!เดี๋ยวก่อนนะ จิ่งสือเยี่ยน?ก่อนหน้านี้นางสงสัยมาโดยตลอด จิ่งสือเยี่ยนที่ไม่มีความทะเยอทะยานและนิสัยดีมากคนนั้น ทำไมถึงตั้งตัวเป็นศัตรูกับจิ่งโม่เยี่ย เพราะในหนังสือไม่มีเขียนอธิบายเอาไว้ตอนนี้พอนางได้ยินแผนการจากปากเหมยตงยวนก็ต้อ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 546

    เฟิ่งชูอิ่งคิดว่าหากเหมยตงยวนยื่นมือเข้าไปสอดเรื่องพวกนี้จริงๆ จะต้องเกิดเรื่องที่คาดเดาได้ยากขึ้นมาแน่นางตัดสินใจเกลี้ยกล่อมเขาอีกที “ท่านพ่อ เรื่องระหว่างข้ากับจิ่งโม่เยี่ย หากคิดดีๆ ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของข้ากับเขา”“หากจะจัดการเขา ข้าก็อยากทำด้วยตัวเอง ไม่อยากให้คนอื่นยื่นมือเข้ามาสอดแทรก”เหมยตงยวนขมวดคิ้วแล้วก้มมองขาที่บวมเป่งและช้ำจนเป็นสีดำของนาง ถามว่า “เจ้าอยากจัดการจิ่งโม่เยี่ยด้วยตัวเองหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งคิดว่าวิธีการคิดของนางกับเหมยตงยวนไม่ค่อยจะเหมือนกัน นางจึงอธิบายคำพูดของตัวเองให้ชัดเจนขึ้นนางกล่าวว่า “ไม่ว่าจิ่งสือเยี่ยนจะมีความทะเยอทะยานหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของเขา”“จิ่งโม่เยี่ยทำให้ข้าเจ็บตัว ข้าเกลียดชังเขา แต่กลับไม่อยากเกี่ยวข้องกับเขาอีก”“เรื่องพวกนี้เดิมทีก็ไม่เกี่ยวข้องกับจิ่งสือเยี่ยน การลากเขาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ไม่ค่อยจะยุติธรรมกับเขานัก”เหมยตงยวนถาม “เจ้าสนิทกับจิ่งสือเยี่ยนหรือ?”เฟิ่งชูอิ่งคิดเล็กน้อยแล้วเอ่ย “ใช่ว่าจะสนิท แต่ก็เคยพูดคุยกันอยู่หลายครั้ง คิดว่าเขาเป็นคนที่สดใสร่าเริงดี”“ข้าคิดว่าเขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับการแก่งแย่งในราชวงศ์ ใช้ชี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 547

    “ข้าห้ามไม่ให้ท่านพ่อยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของข้าและจิ่งโม่เยี่ยได้ แต่บอกให้เขาปล่อยวางความแค้นไม่ได้”เฉี่ยวหลิงกล่าวตามสัตย์จริง “ถึงคุณหนูอยากจะสอดมือเข้าไปก็ทำไม่ได้อยู่ดีเจ้าค่ะ”“สภาพของท่านในตอนนี้ ขาก็หัก ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับนิ้ว เคลื่อนไหวลุกเดินไม่รอด...”นางเห็นเฟิ่งชูอิ่งถลึงตาใส่จึงเปลี่ยนวาจา “ข้าช่วยนวดกระตุ้นเลือดลมให้คุณหนูดีกว่า แบบนี้ท่านจะได้หายดีไวๆ”เฟิ่งชูอิ่งไม่เคยรู้สึกว่าตนเองไร้ค่าขนาดนี้มาก่อนเลย ตอนนี้นอกจากนอนเฉยๆ นางก็ทำอะไรไม่ได้เลยสภาพนางเป็นแบบนี้ ต้องใช้เวลาอีกนานเลยว่าจะฟื้นฟูเป็นปกติหลังจากขานางเริ่มหายดีแล้ว นางจะออกจากเมืองหลวงทันที สถานที่โสมมแบบนี้นางอยู่ต่อไม่ไหวจริงๆ!นางเห็นขาที่หักของตัวเองก็อดคิดถึงจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้ นางเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหลับตาให้เฉี่ยวหลิงนวดตอนเย็นของวันนั้น จิ่งโม่เยี่ยพากำลังพลบุกกลับเข้ามาในเมืองหลวง ทว่าตอนที่เขามาถึงเมืองหลวง กลับถูกกองทัพอวี๋ซานของจิ่งสือเยี่ยนขวางไว้ตอนที่จิ่งโม่เยี่ยเห็นจิ่งสือเยี่ยน แววตาก็เย็นชาทันทีตอนแรกจิ่งโม่เยี่ยสามารถควบคุมสถานการณ์ในเมืองหลวงได้แล้ว แต่จิ่งสือเยี่ยนกลับกองทัพอวี๋ซ

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status