Share

บทที่ 361

Author: ดอกถังร่วงหล่น
last update Last Updated: 2024-08-25 18:00:01
แต่พอฮ่องเต้เจาหยวนมาหา พระสนมสวี่ก็หลงลืมเรื่องที่ถูกเขาตบไปจนหมดสิ้น

เทียนซือรู้สึกทุกข์ใจ แต่กลับต้องสะกดกลั้นความหม่นหมองเหล่านั้นเอาไว้ กระซิบว่า “เมื่อวานเฟิ่งชูอิ่งกับปู๋เยี่ยโหวบุกไปหาเรื่องอารามเทียนอี้”

พระสนมสวี่ชะงัก ก่อนจะตวาดอย่างเดือดดาล “เฟิ่งชูอิ่งจะกล้าได้อย่างไร?”

อารามเทียนอี้เป็นรากฐานของเทียนซือ แล้วก็เป็นทัพหนุนของพระสนมสวี่ด้วย

ถึงนางจะมีกองทัพเกล็ดทอง แต่กิจการในมือกลับมีไม่มีมากมายนัก ไม่สามารถทำให้นางใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ้งเฟ้อได้แบบทุกวันนี้

อารามเทียนอี้มีรายได้แต่ละปีมหาศาล เทียนซือดึงรายได้หนึ่งส่วนในนั้นออกมาปรนเปรอนาง

หากเฟิ่งชูอิ่งลงมือกับอารามเทียนอี้ พระสนมสวี่ก็คิดว่านางกำลังมุ่งเป้ามาหาตนเอง

เทียนซือจ้องนางแวบหนึ่งแล้วเอ่ย “นางขวัญกล้าเทียมฟ้า การขอให้ฝ่าบาทพระราชทานสมรสให้นางกับจิ่งโม่เยี่ย เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมากที่สุด”

พระสนมสวี่แววตาสงบนิ่ง นางกัดฟันเอ่ยว่า “ต้องสั่งสอนนางให้รู้สำนึกเสียบ้าง”

เทียนซือพยักหน้า “ถูกต้อง นางกับอ๋องฉู่พึ่งพาอาศัยกัน หากจับพวกเขาแยกออกจากกันได้ ทั้งสองคนนั้นก็ไม่น่ากลัวอะไรแล้ว”

พระสนมสวี่ขมวดคิ้ว “ทว่าราชโอง
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 362

    ชั่วพริบตานั้น เทียนซือรู้สึกเย็นวาบไปทั่วสรรพางค์กาย ไม่ใช่เพราะเฉี่ยวหลิงเป็นวิญญาณร้าย แต่เพราะท่วงท่าของนางในยามนี้ดูเป็นภัยคุกคามต่อบุรุษผู้หนึ่งอย่างยิ่งก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเห็นวิญญาณร้ายพวกนี้อยู่ในสายตาเลย เพราะเขาว่าวิญญาณร้ายไม่สามารถทำอะไรได้ยามอยู่ต่อหน้าเขา เขาสามารถทำให้พวกมันแหลกสลายได้ดังใจทว่าวิญญาณร้ายที่อยู่ตรงหน้าเขายามนี้กลับทำลายความเข้าใจทั้งหมดที่เขาเคยมีต่อวิญญาณร้ายเฉี่ยวหลิงเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมาก เขาจึงเคลื่อนไหวหลบหลีกไม่ทันนัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยการภาวนา อ้อนวอนขอให้เฉี่ยวหลิงปล่อยเขาไปแต่น่าเสียดาย เฉี่ยวหลิงไม่คิดจะมีเมตตากับเขาแม้แต่น้อย นางใช้เท้าเตะอัดหว่างขาของเขาอย่างรุนแรงความเจ็บปวดรวดร้าวปานจะขาดใจตายปรากฏขึ้นโดยตรง ทั้งยังรุนแรงมากด้วยเทียนซือแผดเสียงร้องโหยหวน ตัวคนล้มลงไปคุดคู้บนพื้นเฉี่ยวหลิงยกมือเท้าเอว “ข้ายังคิดว่าเจ้าจะแน่สักแค่ไหน ถึงทำให้คุณหนูของข้าต้องเปลืองแรงตั้งมากมายเพื่อจัดการกับเจ้า“ตอนนี้ดูแล้ว เจ้าก็ไม่เห็นจะเท่าไหร่เลยนี่!”เหงื่อจำนวนมากผุดขึ้นเต็มหน้าผากของเทียนซือ เขาเจ็บจนเอ่ยเสียงสั่น “คุณหนูของเจ้าเป็นใคร?”เฉ

    Last Updated : 2024-08-25
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 363

    ทว่าเขายังไม่ทันจะได้เดินไปไหนไกล ก็มองเห็นป้ายที่แขวนอยู่บนต้นไม้สองต้นเบื้องหน้า ป้ายแผ่นนั้นเขียนตัวอักษรด้วยเลือดที่ยังไม่แห้งดี คงแปลกหากเขามองไม่เห็นบนป้ายสองแผ่นนั้นเขียนไว้ว่า ‘เทียนซืออัณฑะแหลกหมดสิ้นความเป็นชาย’ ส่วนอีกแผ่นเขียนว่า ‘พระสนมสวี่มากตัณหาผ่านบุรุษมานับหมื่น’บนพื้นยังมีตัวอักษรสีแดงขนาดใหญ่เขียนแนวขวางเอาไว้อีกว่า ‘มีใจแต่ไร้น้ำยา’กลอนเหล่านี้ไม่คล้องจองกัน แล้วยังไม่มีความงามทางกาพย์กลอน ทว่ากลับมีความดูถูกเหยียดหยามอยู่เต็มเปี่ยมเทียนซือโกรธจนแทบกระอักเลือดชั่วชีวิตนี้เขาไม่เคยรู้สึกโมโหจนเลือดขึ้นหน้ามากขนาดนี้มาก่อนเลย!เขาโกรธจนเอื้อมมือไปกระชากแผ่นป้ายออก ทว่าพอแผ่นป้ายร่วงลงไปแล้วกลับมีข้อความซ่อนอยู่ด้านหลังอีกเทียนซือบอกกับตัวเองว่าไม่ควรอ่านกลอนบ้าๆ พวกนี้อีก เพราะอ่านไปก็โมโหมากขึ้นเปล่าๆทว่าสายตาของเขากลับกวาดผ่านมันอย่างอดไม่อยู่ ข้อความดังกล่าวเขียนเอาไว้ว่า ‘เทียนซือกำลังจะตาย ณ ที่แห่งนี้’สัญชาตญาณของเทียนซือร้องเตือนอย่างหนัก เขาตระหนักได้ว่ามือขวาของตนเองผิดปกติ เมื่อก้มลงไปมองจึงเห็นรอยเข็มแห่งหนึ่ง รอบๆ รอยเข็มดังกล่าวมีรอยช้ำสีม่วงคล้ำ

    Last Updated : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 364

    หากสังหารเทียนซือหลังจากนั้น คนที่จะต้องเจ็บตัวก็คือจิ่งโม่เยี่ยจิ่งโม่เยี่ยกล่าวอย่างปลงตก “การที่เทียนซือต้องมาเจอเจ้า คงถือเป็นความซวยแปดชั่วโคตรของเขาแล้วล่ะ แต่เจ้าทำได้ไม่เลวจริงๆ”ไม่รู้เพราะอะไร ท้องน้อยของเขายามนี้กลับรู้สึกเย็นวาบขึ้นมา วิธีการทรมาทรกรรมคนของนาง ช่างมากมายซับซ้อนไม่จบสิ้นเสียจริงๆ แล้วยังยากต่อการป้องกันด้วยแม้เขาจะรู้สึกสะใจ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกเป็นห่วงตัวเองในภายภาคหน้าด้วยหลังจากพวกเขาแต่งงานกันแล้ว จวนอ๋องของเขาเกรงว่าจะไม่มีวันสงบสุขเฟิ่งชูอิ่งหัวเราะเบาๆ “ข้าไม่ชอบการที่ท่านอ๋องกล่าวเช่นนี้เลยเพคะ อะไรเรียกว่าการเจอข้าเป็นความซวยแปดชั่วโคตรกัน?“หากเขาไม่ได้คิดจะฆ่าข้าให้ตาย ข้าก็คงไม่ลงมือกับเขาเช่นนี้หรอก? หากจะพูดให้ถูก เป็นเขาที่แส่หาเรื่องตายเองชัดๆ เลย“วิชาเต๋าของเขาสูงล้ำกว่าข้า ความสามารถก็แข็งแกร่งกว่าข้า หากข้าประมือซึ่งๆ หน้าแล้วเอาชนะเขาไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีอื่นอยู่แล้วสิ“ไม่ว่าจะใช้วิธีการแบบไหน ขอแค่ฆ่าเทียนซือได้ก็เป็นเรื่องดีทั้งนั้นแหละ”จิ่งโม่เยี่ยเห็นด้วยกับความคิดของนาง เพราะความจริงแล้ว เขาก็คิดว่าเทียนซือสมควรตายเหมือนกันเ

    Last Updated : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 365

    หลางซานลองคำนวณเวลาดูและพบว่าตั้งแต่ตอนที่เทียนซือถูกเตะกล่องดวงใจ ตอนนี้ใกล้จะครบหนึ่งเค่อแล้วหากยังมีร่มสีดำคันนั้นอยู่ พวกเขาก็คงฆ่าเทียนซือไม่ได้บรรยายกาศหนาวยะเยือกรอบๆ ก็ทวีความรุนแรงขึ้นด้วย ยันต์คุ้มครองที่เฟิ่งชูอิ่งมอบให้พวกเขาเริ่มแผ่ความร้อนรุนแรงกว่าเดิมเขาจึงตัดสินใจอย่างเฉียบขาด “ถอย!”เสี้ยวพริบตาที่พวกเขาถอนกำลังออกไป คนของอารามเทียนอี้ก็มาถึงพอดีพวกเขามองเห็นเทียนซือที่ทรุดอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าซีดขาวก็พากันตกตะลึงเพราะว่าเทียนซือคือผู้ที่แข็งแกร่งอันดับหนึ่งในอารามเทียนอี้ ถึงเขาจะไม่ใช่เจ้าอาราม แต่กลับเป็นคนที่อำนาจตัดสินใจอย่างแท้จริงของอารามเทียนอี้เขากัดฟันเลยว่า “เผาแผ่นป้ายพวกนั้นให้ข้าเดี๋ยวนี้!”แผ่นป้ายไม้ที่วางอยู่ตรงนั้นนับเป็นความอัปยศอดสูของเขาอย่างมากบรรดานักพรตที่เพิ่งมาถึงแอบแปลกใจ ทำไมเรื่องแรกที่เขาสั่งให้ทำถึงเป็นการเผาแผ่นป้ายพวกนี้ล่ะ พวกเขาจึงหันมองแผ่นป้ายเหล่านั้นโดยไม่รู้ตัวเทียนซือตะคอกอย่างสุดเสียง “ห้ามมอง เผาให้หมด!”เสียงของเขาดังมากจนพวกนักพรตสะดุ้งกันเป็นแถบๆ เพราะว่าในใจของพวกเขา เทียนซือเป็นบุคคลที่มีความสูงส่ง สุขุมและสง่างาม

    Last Updated : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 366

    เฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”เขาเป็นบ้าอะไรเนี่ย!คนที่ทะยานเข้ามาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นปู๋เยี่ยโหวที่ถูกจับแขวนอยู่ด้านนอกทั้งคืนจิ่งโม่เยี่ยยกเท้าเตรียมจะถีบเขาให้กระเด็น เขากลับก้มตัวหมอบลงและกอดขาของเฟิ่งชูอิ่งเอาไว้ “ข้าไม่ขออะไรมากหรอก ขอแค่เจ้าเห็นอกเห็นใจข้าสักหน่อยก็พอ”เฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”นางขนลุกขนพองไปทั่วสรรพางค์กายแต่กลับได้ยินเขากล่าวต่อว่า “หลังจากนี้ไปหากมีเรื่องอะไรน่าสนุก หรือจะไปฆ่าใครที่ไหนอย่าลืมเรียกข้าไปด้วยล่ะ ไม่ต้องพาคนอื่นไปหรอก”เฟิ่งชูอิ่ง “......”มารดาเถอะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย?ตอนที่จิ่งโม่เยี่ยคิดจะถีบปู๋เยี่ยโหวให้กระเด็นออกไปอีกครั้ง เขาก็กลิ้งตัวลงพื้นอย่างว่องไว อ้อมไปคุกเข่าด้านหลังเฟิ่งชูอิ่งแทนเนื่องจากปูมหลังของปู๋เยี่ยโหวเป็นตระกูลบัณฑิต วรยุทธ์จึงไม่เก่งกาจเท่าจิ่งโม่เยี่ย แต่วิชาตัวเบาของเขานับว่ายอดเยี่ยม เคลื่อนไหวหลบหลีกได้คล่องแคล่วอย่างยิ่งขนาดเฉี่ยวหลิงที่อยู่ตรงนั้นยังได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ เจ้าหมอนี่จะลื่นไหลเกินไปแล้ว!จิ่งโม่เยี่ยเอ่ยใบหน้ามืดครึ้ม “จะดีร้ายเจ้าก็เป็นถึงเชื้อพระวงศ์ของแคว้น ช่วยรักษาเกียรติตัวเองหน่อยได้ไหม?”ปู

    Last Updated : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 367

    เฟิ่งชูอิ่งทำเมินไม่สนใจเขาอีก ไอ้ลูกหมานี่ทดสอบขีดจำกัดนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทว่าปู๋เยี่ยโหวกลับเกาะติดนางไม่เลิก “ทำให้ข้ามองเห็นน้องสาววิญญาณร้ายทีสิ!”เฟิ่งชูอิ่งกระตุกมุมปากเล็กน้อย “ได้สิ!”นางกล่าวจบก็ช่วยเปิดเนตรทิพย์ให้เขา เขาจึงมองเห็นเฉี่ยวหลิงที่อยู่ห่างจากเขาไม่ไกลเฉี่ยวหลิงไม่ใช่สตรีที่งดงามจนล่มเมืองล่มแคว้นอะไร แต่นางหน้าตาหมดจดเกลี้ยงเกลา หากมองดูดีๆ ก็ถือว่าเป็นสาวงามคนหนึ่งเลยปู๋เยี่ยโหวส่งเสียงจิ๊ปากเบาๆ “ที่แท้น้องสาววิญญาณร้ายก็หน้าตางดงามเช่นนี้อีก น่าเอ็นดูถึงเพียงนี้.....”ทว่าประโยคถัดมายังไม่ทันหลุดออกจากปากของเขา เพราะว่าเฉี่ยวหลิงแสดงสิ่งที่นางช่ำชองที่สุดให้เขาดู ซึ่งก็คือคางหลุดลูกตาหล่นปู๋เยี่ยโหว “......”ปู๋เยี่ยโหว “!!!!!!”ถึงแม้จะเป็นกลางวันแสกๆ แต่เขาก็ยังหวาดกลัวจนเหงื่อเย็นออกชุ่มแผ่นหลังทว่าเฉี่ยวหลิงที่ไม่มีคางและลูกตายังแสยะยิ้มบางๆ ให้เขาซ้ำอีก เขาจึงตื่นกลัวจนหงายหลังก้นจ้ำเบ้าจิ่งโม่เยี่ยเห็นสภาพของเขาก็หัวเราะอย่างเย็นชา “สมน้ำหน้า!”ปู๋เยี่ยโหวไม่ได้อยากจะเห็นภาพอะไรแบบนี้สักนิด นางจึงโอดครวญว่า “ชูชู ช่วยปิดเนตรทิพย์ให้ข้าทีเถอะ!”เฟิ่

    Last Updated : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 368

    ปู๋เยี่ยโหว “!!!!!!”เขาค่อนข้างชอบเรื่องเร้าใจนะ แต่วันนี้มันเร้าใจมากเกินไป!ตอนที่เขากำลังจะหล่นกระแทกพื้น เฉี่ยวหลิงก็วาดขาเตะเขาลอยโด่งขึ้นไปอีกครั้งด้วยเหตุนี้เอง ปู๋เยี่ยโหวจึงถูกเฉี่ยวหลิงเตะส่งออกจากจวนอ๋องคนในจวนส่วนมากจะไม่ค่อยรู้เรื่องที่ข้างกายเฟิ่งชูอิ่งมีวิญญาณร้ายอยู่ด้วย พอได้เห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว พวกเขาก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้างจิ่งโม่เยี่ยเห็นสภาพน่าสังเวชของปู๋เยี่ยโหว เขาก็คิดขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้ที่สั่งให้องครักษ์มาเชิญตัวเขาออกไป เป็นการกระทำที่ค่อนข้างจะมีมารยาททีเดียวเพราะการเตะคนจนกระเด็นออกไปเช่นนี้ ถึงจะเป็นวิธีการรับมือกับปู๋เยี่ยโหวที่ถูกต้องฉินจื๋อเจี้ยนพานางกำนัลกลุ่มหนึ่งเดินถืออาหารมาส่งให้เฟิ่งชูอิ่ง เห็นฉากดังกล่าวเข้าพอดี ถาดอาหารในมือของเขาจึงตกลงพื้นและหกกระจายพวกเขามองไม่เห็นเฉี่ยวหลิง จึงเห็นเพียงปู๋เยี่ยโหวที่หมุนไปหมุนมากลางอากาศเหมือนลูกหนัง ทั้งยังเปลี่ยนทิศทางไปทางนั้นทีทางนี้ทีนี่มันเป็นการเห็นผีกลางวันแสกๆ ชัดๆ เลย!ตอนที่เทียนซือถูกนำตัวไปถึงอารามเทียนอี้ ส่วนท้องน้อยของเขาก็บวมปูดจนน่าเกลียดแล้วนอกจากนี้ มือซ้ายของเขายังบวมเป่งเ

    Last Updated : 2024-08-26
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 369

    เจ้าอารามกล่าวว่า “เทียนซือ เมื่อวานนี้ตอนที่ปู๋เยี่ยโหวบุกเข้ามาในอารามเทียนอี้ เขาใช้กลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม[footnoteRef:1] ส่งคนแฝงตัวเข้าไปในคลังสมบัติและกวาดทุกอย่างที่อยู่ข้างในไปหมดเลย” [1: หลอกล่อความสนใจของศัตรูให้เข้าใจผิด] เทียนซือตกตะลึง “เจ้าว่าอะไรนะ? ของในคลังสมบัติมีตั้งมากมายขนาดนั้น พวกเขาขโมยไปทั้งหมดเลยหรือ?”เจ้าอารามตอบ “ใช่ แม้แต่อีแปะเดียวพวกเขาก็ไม่เหลือเอาไว้“ดังนั้นเทียนซือ ไม่ใช่พวกเราไม่อยากมอบเครื่องประดับให้ท่านหรอก แต่เพราะว่าไม่มีอะไรเหลือจริงๆ!“ตอนนี้อารามเทียนอี้ แม้จะไม่ถึงขั้นยากจนข้นแค้น แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่านั้นมากนัก”เขาเองก็อัดอั้นตันใจ ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดของอารามเทียนอี้ถูกเก็บเอาไว้ในคลังสมบัติตอนนี้พวกเขายังพอจะเหลือเงินติดตัวอยู่บ้าง แต่จำนวนก็ไม่ได้เยอะอะไรเพราะว่ามีจำนวนไม่มาก อาจถึงขั้นไม่พอใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วยซ้ำวันนี้ตอนที่พ่อครัวมาหาเขาเพื่อขอเงินซื้อวัตถุดิบทำอาหาร เขายังไม่มีจ่ายเลยตอนแรกเทียนซือยังฝืนประคองสติอยู่ได้ กำลังจะเตือนให้คนของอารามเทียนอี้ระวังเฟิ่งชูอิ่งเอาไว้แต่พอยามนี้เขาได้ยินสิ่งที่อีกฝ่าย

    Last Updated : 2024-08-26

Latest chapter

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status