แชร์

บทที่ 160

ผู้เขียน: ดอกถังร่วงหล่น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-23 19:07:05
เจ้าอาวาสพยายามประท้วงเรื่องนี้ แต่ฉินจื๋อเจี้ยนกลับทำเป็นไม่รับรู้

จิ่งโม่เยี่ยไม่สนใจพวกเขา ตอนนี้เขากำลังเป็นห่วงอีกเรื่องหนึ่งอยู่ หลังจากไปแช่น้ำร้อนแล้วเฟิ่งชูอิ่งก็หายเงียบไปเลย

เขาสั่งให้สาวใช้ไปตามเฟิ่งชูอิ่ง ผลคือสาวใช้คนนั้นหายไปประมาณหนึ่งเค่อแล้วก็ไม่กลับมาเช่นกัน เขาจึงตัดสินใจออกไปดูด้วยตัวเอง

เพียงก้าวเข้าไปที่ริมบ่อน้ำพุร้อน เขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติแล้ว

ตอนนี้ท้องฟ้ายังไม่มืดสนิท ตรงนั้นกลับเต็มไปด้วยหมอกหนา

น้ำในบ่อน้ำพุร้อนก็จริง ปกติจะเกิดไอน้ำลอยขึ้นมาบ้างก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร แต่ไอน้ำเพียงอย่างเดียวไม่มีทางหนาแน่นขนาดนี้แน่

จิ่งโม่เยี่ยมองสำรวจรอบด้าน พบว่าเส้นทางด้านในจู่ๆ ก็เพิ่มจำนวนขึ้นมาอย่างกะทันหัน ป่าไม้รอบๆ ก็รกชัฏจนผิดวิสัย

นัยน์ตาของเขาหม่นหมองลงหลายส่วน

นับตั้งแต่เขาโดนคนช่วงชิงโชคชะตาไป ความโชคดีของเขาก็ติดลบ ความเฮงซวยทุกอย่างที่ไม่น่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ เขาล้วนพบพานมาหมดแล้ว

การออกจากจวนแล้วถูกผีบังตาจนหลงทางเป็นเรื่องปกติ บางครั้งยังถูกพวกวิญญาณร้ายคิดจะดูดกลืนเลือดเนื้อด้วยซ้ำ

ด้วยเหตุนี้เอง วันที่เขาเห็นเฉี่ยวหลิงทำลูกตาหล่นออกจากเบ้า ทำคาง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 161

    หลังจากโดนเฟิ่งชูอิ่งตบหนึ่งครา บ่อน้ำพุร้อนที่เดือดพล่านรอบๆ ก็พลันเลือนหายไป ป่าไม้รกชัฏที่แปลกพิกลพวกนั้นก็หายไปด้วยนอกจากน้ำพุร้อนที่แตกกระจายเป็นวงกว้างแล้ว ทุกอย่างก็กลับสู่สภาพเดิมแต่ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เฟิ่งชูอิ่งกระชากอะไรบางอย่างขึ้นมาจากพื้นที่ข้างๆ ก่อนจะกดลงพื้นแล้วกระหน่ำทุบตีหลังจากนางทุบตีจนพอใจ ก็หยิบยันต์ออกมาจากไหนไม่รู้แผ่นหนึ่งแล้วแปะทับลงไปด้านล่างยันต์ปรากฏหมอกสีดำพวยพุ่งออกมา วิญญาณร้ายตัวนั้นพลันแหลกสลายเฟิ่งชูอิ่งยกมือโบกไปมาตรงหน้าจิ่งโม่เยี่ยแล้วเอ่ยถามว่า “ท่านอ๋อง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”จิ่งโม่เยี่ยจ้องนางโดยไม่พูดไม่จา ในแววตาแฝงด้วยความระมัดระวังนางในยามนี้แม้จะไม่ได้งดงามเย้ายวนเหมือนภาพลวงตาที่วิญญาณร้ายตนนั้นแสดงให้เห็น แต่กลับดึงดูดใจคนไม่ต่างกันผมของนางเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ มีหยดน้ำไหลออกมาจากปอยผม ก่อนจะเคลื่อนตัวต่ำลงมาตามลำคอของนางอาภรณ์ของนางขาดวิ่นเล็กน้อยจากการต่อสู้ เผยผิวพรรณที่ขาวผ่องเป็นยองใย ตอนที่หยดน้ำพวกนั้นร่วงหล่นลงมา พวกมันก็พากันไหลผ่านเนินอกของนางจิ่งโม่เยี่ยไม่พูดอะไร เพียงยื่นมือออกไปบีบทรวงอกที่หยดน้ำเหล่านั้นไหลผ่านเฟิ่งช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 162

    เฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่มีใครตั้งตัวทันทั้งนั้น นางไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจสักนิดทางด้านจิ่งโม่เยี่ยก็ชะงักไปเหมือนกัน คราวนี้เขาไม่ได้ตั้งใจจะเอาเปรียบนางจริงๆแต่พอได้ลองจูบนางแบบนี้แล้วเขากลับรู้สึกดีอยู่ไม่น้อยครั้งก่อนเขาจูบนางไปได้นิดเดียวก็ถูกนางกัดลิ้นก่อน ยังไม่ทันจะได้ชิมนางสมใจอยากเลยครั้งนี้เขาจึงไม่คิดจะลังเลสักนิด จึงสอดลิ้นเข้าไปชิมรสชาติของนางโดยตรงเฟิ่งชูอิ่ง “......”เขาเป็นไอ้โรคจิตชอบลวนลามชัดๆ เลยนางตั้งสติได้ก็คิดจะกัดลิ้นเขา ทว่าครู่ต่อมาร่างกายของนางกลับจมลงไปในน้ำน้ำลึกจนมิดจมูกของนาง นางจึงเผลออ้าปากโดยสัญชาตญาณจิ่งโม่เยี่ยก็เลยได้ลองลิ้มชิมรสนางอย่างที่ต้องการมาตลอด เขาพบว่ามันหวานอยู่เล็กน้อย แล้วยังมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์หอมหวานยิ่งกว่าลูกกวาดที่เขาเคยกินมาทั้งหมดเขาติดใจจึงคิดจะกินต่อ แต่เสี้ยวพริบตาถัดมา นางก็กัดปากเขาอย่างแรงหนึ่งคราแต่หลังจากได้ลิ้มลองความหอมหวานไปแล้วมีหรือจิ่งโม่เยี่ยจะยอมปล่อยนางง่ายๆ จึงดำดิ่งลงไปเพื่อชิมรสชาติของนางอีกครั้งเฟิ่งชูอิ่งโกรธเขาจนแทบเป็นบ้า เจ้าบุรุษสุนัขนี่เป็นบ้าไปแล้วหรือไง!นางจึงเพิ่มแร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 163

    จิ่งโม่เยี่ยมองเขาแล้วเอ่ยว่า “สภาพอย่างนี้ เจ้ายังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักบวชอีกหรือ?”เจ้าอาวาสหัวเราะเสียงดัง “พวกเราสนิทกันขนาดนี้แล้ว อยู่ต่อหน้าเจ้าข้าจะเสแสร้งเป็นภิกษุผู้เจริญไปทำไมให้เหนื่อย“อีกอย่างที่นี่ก็ไม่มีคนอื่นอยู่ ข้าจะเสแสร้งให้ใครดูล่ะ?”จิ่งโม่เยี่ยก้าวขายาวๆ เดินตรงไปด้านหน้าโดยไม่สนใจใยดีเขาเจ้าอาวาสรีบวิ่งตามไปประกบเขาแล้วถามว่า “ท่านอ๋อง ปากท่านมีเลือดออก เจ็บหรือไม่?”จิ่งโม่เยี่ยจึงสะบัดแขนเสื้อ เหวี่ยงร่างของเขาปลิวออกไปโดยตรงเจ้าอาวาสแหกปากตะโกนว่า “ท่านอ๋อง ท่านจะไม่ใจแคบไปหน่อยหรือ เล่าให้ข้าฟังบ้างสิ!”จิ่งโม่เยี่ยไพล่มือไปด้านหลังข้างหนึ่ง เดินจ้ำอ้าวออกไปกว่าเฟิ่งชูอิ่งจะผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เรียบร้อยฟ้าก็มืดแล้ว ในยุคนี้ยังไม่มีไฟทาง การขับรถม้าตอนกลางคืนจึงเป็นเรื่องที่ลำบากมาก นางจึงต้องนอนค้างที่จวนตากอากาศของเขาก่อนฉินจื๋อเจี้ยนเป็นจ๋างสื่อที่คุณสมบัติครบถ้วนมาก เขาเป็นคนเข้ามาเอ่ยขอโทษขอโพยกับนางด้วยตัวเอง บอกว่าเดินทางด้วยรถม้าตอนกลางคืนไม่สะดวก แล้วยังอันตรายอย่างมากเขาสั่งให้สาวใช้จัดเตรียมห้องไว้รับรองนางแล้ว บอกให้นางวางใจและนอนพักที่จวนต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 164

    วันนั้นเฟิ่งชูอิ่งเขียนยันต์ให้อารามของเขาหลายแผ่น อีกทั้งยันต์พวกนั้นยังให้ผลลัพธ์ยอดเยี่ยมมาก เมื่อสองวันก่อนจึงมีคนมาขอซื้อยันต์เพิ่มเขาไปหานางที่จวนสกุลหลินไม่สะดวกนัก ตอนนี้ได้บังเอิญพบนางที่นี่ทั้งที เขาไม่คิดจะปล่อยให้โอกาสแบบนี้หลุดมือไปหรอกเฟิ่งชูอิ่งไม่คิดจะปฏิเสธการค้าขายที่ได้เงิน จึงเอ่ยว่า “เจ้าพกกระดาษยันต์กับพู่กันมาด้วยหรือ?”เจ้าอาวาสรีบตอบ “พกมาทั้งหมดเลย!”เขากล่าวจบก็ล้วงกระดาษยันต์และพู่กันสลักยันต์ออกมาทั้งหมด จิ่งโม่เยี่ยเห็นแบบนั้นก็ปรายตามองเขาทีหนึ่ง แต่เขาทำเป็นมองไม่เห็นวันนี้ความจริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจมาหาจิ่งโม่เยี่ยหรอก เขามาเพื่อให้เฟิ่งชูอิ่งเขียนยันต์ต่างหากล่ะเพราะวันนี้นางใช้เวลาช่วงเย็นไปกับการแช่น้ำร้อนหรอก มิฉะนั้นเขาคงขอให้นางเขียนยันต์ให้ตั้งแต่ตอนเย็นแล้วเฟิ่งชูอิ่งก็อยากจะรวบรวมเงินให้ได้สักก้อนก่อนจะออกจากเมืองหลวง จึงกล่าวว่า “ยันต์แบบไหนได้รับความนิยมมากสุด?”เจ้าอาวาสตอบว่า “ยันต์ที่ได้รับความนิยมมากสุดในอารามของพวกเรา ย่อมเป็นยันต์คุ้มครองความปลอดภัยทั่วไปนี่แหละ“แต่ยันต์อสนีบาตที่เจ้าเขียนให้ข้ารอบที่แล้วอานุภาพร้ายกาจมาก ข้าจะขอซ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 165

    เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางจำได้ว่าอารามกับทางกลับจวนสกุลหลินมันแทบจะอยู่คนละฟากเลยนะนางเอ่ยถาม “เจ้าแน่ใจนะว่าเป็นทางผ่าน?”เจ้าอาวาสยิ้มอ่อน “ถ้าข้าอยากจะให้มันเป็นทางผ่าน มันก็ต้องเป็นทางผ่านอยู่แล้วล่ะ”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางล่ะยอมรับนับถือเขาจริงๆ ที่แท้คัมภีร์พุทธศาสนาก็อธิบายความหมายของทางผ่านไปเยี่ยงนี้ นางบรรลุถึงแก่นเลย!จิ่งโม่เยี่ยยังมีธุระค้างคาจึงต้องอยู่จัดการที่จวนตากอากาศ ยังไม่สามารถกลับเข้าเมืองหลวงได้ในตอนนี้หลังจากเขาเห็นเจ้าอาวาสขอติดรถม้าไปกับเฟิ่งชูอิ่ง ดวงตาของเขาก็หรี่ลงเล็กน้อย พยายามข่มใจบอกตัวเองไม่ให้ขัดขวางพวกเขาหลังจากพวกเขาอยู่บนรถม้าแล้ว เจ้าอาวาสก็ตั้งหน้าตั้งตาอธิบายเรื่องที่เขาพูดจาไร้สาระกับนางไปเมื่อคืนนี้หลังจากเขาพล่ามทุกอย่างออกมาหมดแล้ว ก็พยายามประจบนางสารพัด บอกว่าหากนางว่างๆ ก็ช่วยเขียนยันต์ให้หน่อย พวกเขาจะได้ร่ำรวยไปพร้อมกันหลังจากเฟิ่งชูอิ่งคุ้นเคยกับเขาแล้ว ถึงได้ตระหนักว่าเขาไม่เหมาะกับการเป็นนักบวชที่สุดแล้วนางทนฟังเขาพูดเจื้อยแจ้วต่อไปไม่ไหว จึงกล่าวว่า “ถ้าเจ้ายังไม่หยุดพูดอีก ข้าจะเขียนยันต์อสนีบาตใส่เจ้าเดี๋ยวนี้เลย”เพื่อแสดง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 166

    เฟิ่งชูอิ่งร้อนรน “เจ้าเป็นถึงเจ้าอาวาส แต่กลับต่อยตีไม่เป็นเนี่ยนะ!”เจ้าอาวาสก็กระวนกระวาย “ถึงข้าจะเป็นเจ้าอาวาส แล้วทำไมต้องต่อยตีได้ล่ะ?”ระหว่างที่พวกเขากำลังเถียงกัน พวกมือสังหารก็บุกเข้ามาโจมตีพวกเขาเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”ทั้งสองคนกระโจนหลบคนละทาง หลบดาบแรกของมือสังหารได้แบบหวุดหวิดเจ้าอาวาสทำอะไรไม่ถูก “ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดี?”เฟิ่งชูอิ่งก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าต้องทำอย่างไร แต่สถานการณ์แบบนี้จะไปทำอะไรได้ล่ะ?คนพวกนี้มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นนักฆ่ามืออาชีพ แต่ละคนมีวรยุทธ์สูงส่งถึงพวกเขาสองคนจะพอมีฝีมืออยู่บ้าง แต่ไม่มีทางต่อกรกับนักฆ่ามืออาชีพพวกนี้ได้หรอกหากปะทะกันตรงๆ พวกเขาไม่มีทางสู้ไหวแน่นอนเฟิ่งชูอิ่งรู้ว่าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป วันนี้นางกับเจ้าอาวาสจะต้องถูกฝังกลบอยู่ที่สุสานแห่งนี้แน่นางจึงหยิบป้ายหยกออกมาแล้วตะโกนเรียก “เฉี่ยวหลิง ช่วยด้วย!”วันที่นางเดินทางไปจวนตากอากาศของจิ่งโม่เยี่ย เฉี่ยวหลิงทำท่าจะเป็นจะตายอย่างไรก็ไม่ยอมมาด้วย นางจึงบอกให้เฉี่ยวหลิงอยู่เฝ้าบ้าน ไม่ได้พามาด้วยเพียงแต่นางกับเฉี่ยวหลิงมีวิธีการสื่อสารพิเศษ ต่อให้เฉี่ยวหลิงอยู่ในจวนสกุลหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 167

    พระพุทธเจ้าคุ้มครอง!เขาตระหนักจากใจจริง วิธีการต่อสู้ของนางยอดเยี่ยมยิ่งกว่าการที่ตนเองเป็นวรยุทธ์เสียอีกกลยุทธ์การต่อสู้ของนางเมื่อครู่นี้ แค่มองดูเฉยๆ ก็ทำเอาเขาตาพร่าแล้วหลังจากเฟิ่งชูอิ่งจัดการคนพวกนั้นได้แล้วก็ยกมือปาดเหงื่อ ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นแล้วโกยอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่เมื่อครู่นี้พวกเขาต้องหลบการโจมตีของนักฆ่า ไหนจะต้องอัญเชิญเฉี่ยวหลิง แล้วยังใช้พลังเต๋าในร่างจุดระเบิดยันต์ปัญจอสนีอีก ทำเอานางเหนื่อยจนแทบขาดใจเจ้าอาวาสเปิดเนตรทิพย์แล้วมองไปรอบๆ กลับไม่พบสิ่งที่เฟิ่งชูอิ่งเรียกว่า ‘ผีกันเอง’ เลยสักตัวเขาเอ่ยถามว่า “วิญญาณร้ายของเจ้าหายไปไหนแล้ว?”มาถึงขั้นนี้แล้วเฟิ่งชูอิ่งก็ไม่จำเป็นจะต้องปิดบังเขา จึงเอ่ยเรียกว่า “เฉี่ยวหลิง ออกมาเถอะ!”ครู่ต่อมา เฉี่ยวหลิงก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเจ้าอาวาสตอนที่เจ้าอาวาสเห็นนางก็ตกใจเผลอถอยกรูดไปสองสามก้าว เฉี่ยวหลิงก็ตั้งท่าระแวงเขาเช่นกันเฟิ่งชูอิ่งหอบหายใจไปด้วยเอ่ยไปด้วย “เอาล่ะๆ คนกันเองทั้งนั้น ไม่ต้องเกร็งกันขนาดนี้หรอก”เฉี่ยวหลิงเข้าไปหลบหลังเฟิ่งชูอิ่ง “แต่เขาเป็นพระนะ!”เจ้าอาวาสอาจจะดูไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว แต่บนตัวเขากลับมีร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23
  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 168

    เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกออกมาอย่างไร เฉี่ยวหลิงกลายเป็นผีต่อหน้าฮวาซื่ออย่างนั้นหรือ?นางเอ่ยถาม “เจ้าหายตัวไปต่อหน้าต่อตาฮวาซื่อเลยหรือ?”เฉี่ยวหลิงจึงตอบว่า “ก็ไม่ขนาดนั้น ข้าบอกนางว่าคุณหนูเรียกตัว แล้วก็วิ่งกลับไปทางห้องพักของพวกเรา“ข้ากลัวว่าเจ้าจะเป็นอันตราย ตอนนั้นก็เลยวิ่งเร็วกว่าคนปกติไปสักหน่อย พอถึงมุมอับสายตาที่นางมองไม่เห็นก็รีบมาทันทีเลย”เฟิ่งชูอิ่งลองคำนวณเวลาตั้งแต่ตอนที่นางเรียกเฉี่ยวหลิง จนถึงตอนที่เฉี่ยวหลิงปรากฏตัวออกมา ความเร็วในการวิ่งของนางไม่ได้เหนือกว่าคนทั่วไปแล้วล่ะ นางเหาะมาชัดๆ เลย!นางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วบอกว่า “ไม่เป็นไรหรอก เรื่องหลังจากนี้ข้าจะจัดการเอง”เฉี่ยวหลิงจึงพยักหน้ารับเบาๆ เจ้าอาวาสเดินวนรอบตัวเฉี่ยวหลิงอยู่หลายครั้ง “ข้ามีคำถาม ทำไมเจ้าถึงเคลื่อนไหวอย่างอิสระตอนกลางวันได้ล่ะ? เจ้าไม่กลัวถูกแสงแดดเผาหรือ?”ถึงวันนี้แสงอาทิตย์จะไม่ได้ร้อนแผดเผาอะไรขนาดนั้น แต่ก็ค่อนข้างแสบตาอยู่เหมือนกัน ว่ากันตามหลักแล้ว เฉี่ยวหลิงไม่ควรปรากฏตัวออกมาได้สิเฉี่ยวหลิงตอบว่า “เพราะข้ามีเจ้านายที่ดีอย่างไรล่ะ ข้าถึงไม่ต้องกลัวแสงอาทิตย์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-23

บทล่าสุด

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 997

    เฟิ่งชูอิ่งพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ข้าไม่เหลือทั้งบิดามารดาแล้ว เจ้าห้ามรังแกข้าเชียวนะ!”จิ่งโม่เยี่ยยกมือสาบานต่อฟ้าทันที “หากข้าทำไม่ดีกับเจ้าในภายภาคหน้า ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ส่งฟ้ามาผ่าให้ตาย!”เฟิ่งชูอิ่งหัวเราะ “เรื่องฟ้าผ่าไม่ต้องถึงมือสวรรค์หรอก ข้าก็ทำได้”จิ่งโม่เยี่ย “......”เขาเกือบลืมไปแล้วว่านางวาดยันต์ได้เก่งมาก ตราบใดที่นางต้องการ ใช้ฟ้าผ่าเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเฟิ่งชูอิ่งเห็นท่าทางของเขาก็แอบหัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปกอดแล้วซุกศีรษะพิงอกเขา กล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน”“ตอนนี้เราทั้งสองล้วนไม่มีพ่อแม่แล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกันและกัน”“ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างเต็มที่ จะไม่ระแวงเจ้าอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะเชื่อใจเจ้า”หัวใจที่ตึงเครียดของจิ่งโม่เยี่ยก็ผ่อนคลายลงในทันทีเขากอดนางตอบ “กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง”เขาโน้มตัวลงจูบหน้าผากนางเบาๆ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักเจ้า”เมื่อเฟิ่งชูอิ่งได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็สั่นไหว นางช้อนตามองขึ้นไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนางรู้ว่าคำพูดของเขาในตอนนี้ล้วนมาจ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 996

    ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ฐานะของจิ้งจอกสือซานเหนียง แต่ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจได้หลังจากได้ยินบทสนทนาระหว่างจิ้งจอกสือซานเหนียงและเฟิ่งชูอิ่งจิ้งจอกสือซานเหนียงเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งถามว่า “เจ้าจะไปไหน? ข้ายังมีเรื่องอยากจะถามเจ้าอีกมาก”จิ้งจอกสือซานเหนียงตอบว่า “ข้าจะไปหาที่ขับไล่พลังชั่วร้ายออกจากร่างกาย พอขับไล่เสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางฝึกฝนวิชาสายชั่วร้ายมากมาย ทำให้พลังชั่วร้ายในร่างกายมีมากเกินไป หากอยู่ใกล้ใครนานๆ จะมีผลกระทบต่อคนรอบข้างเฟิ่งชูอิ่งจึงเตือนนางว่า “เจ้าอย่าผิดคำพูดล่ะ ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”จิ้งจอกสือซานเหนียงโบกมือแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ ข้าจะกลับมาแน่นอน”หลังจากนางเดินออกไปไกลแล้ว เฟิ่งชูอิ่งก็ถอนหายใจยาวๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกันให้จิ่งโม่เยี่ยฟังหลังจากที่จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเรื่องของเหมยตงยวน เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เพราะรักถลำลึกจึงไม่ยืนยาว เรื่องระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่ช่างน่าเศร้า”เฟิ่งชูอิ่งกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดังนั้นการสื่อสารจึงสำคัญ ต่อไปไม่ว่าจะมี

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 995

    สิ้นเสียงของนาง สายฟ้าก็ฟาดลงมาอีกครั้ง ทำให้พลังที่พุ่งพล่านของเขาสลายไปจิ่งสือเยี่ยน “!!!!!!!!”หลังจากถูกอสนีบาตฟาดใส่อย่างต่อเนื่องห้าครั้ง ร่างวิญญาณของเขาก็จางลงอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ตายเฟิ่งชูอิ่งถึงกับตกใจ ชีวิตของจิ่งสือเยี่ยนช่างแข็งแกร่งเสียจริง!นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะกลายเป็นเทียนซือคนที่สอง และจะกลายเป็นภัยพิบัติในอนาคตนางกำลังจะม้วนแขนเสื้อขึ้นเพื่อเสกยันต์ใส่จิ่งสือเยี่ยนอีกครั้ง แต่กลับมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วกลืนเขาเข้าไปทั้งตัวเฟิ่งชูอิ่ง “!!!!!!”จิ้งจอกสือซานเหนียงเรอออกมาคำโตแล้วบอกว่า “เขาเป็นอาหารที่ข้าหมายตาไว้แต่แรก”“การปล่อยให้อาหารหลุดมือไป เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้”เฟิ่งชูอิ่ง “......”นางเคยจินตนาการถึงความตายของจิ่งสือเยี่ยนไว้หลายแบบ แต่ไม่มีฉากจบแบบนี้อยู่เลยนางได้คงบอกได้แค่ว่าจิ้งจอกสือซานเหนียงเจ๋งสุดยอด!ขณะเดียวกันนั้นจิ่งโม่เยี่ยก็เดินเข้ามา เขาจ้องมองจิ้งจอกสือซานเหนียงด้วยความระแวดระวัง มือจับกระบี่เอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะฟันจิ้งจอกสือซานเหนียงได้ทุกเมื่อเฟิ่งชูอิ่งบีบมือเขาเบาๆ ให้เขาผ่อนคลายจิ้งจอก

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 994

    แต่ทว่าคันธนูของจิ่งสือเยี่ยนเพิ่งจะยกขึ้นมา ก็มีลูกธนูที่เร็วกว่าพุ่งทะลุหัวใจของเขาในทันทีจิ่งสือเยี่ยนมองลูกธนูที่ปักอยู่บนอกด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองและเห็นดวงตาที่เย็นชาของจิ่งโม่เยี่ยเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองยังมีระยะห่างต่อกันอยู่แท้ๆ และตำแหน่งที่เขาหลบอยู่ก็เป็นมุมอับที่จิ่งโม่เยี่ยยิงมาไม่ถึงทว่าเพียงแค่อึดใจเดียว จิ่งโม่เยี่ยก็ปรับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและยิงธนูทะลุหัวใจเขาได้ในนัดเดียวในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนกับจิ่งโม่เยี่ยไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก แต่ถ้าพูดคุยกันตามปกติก็คงไม่ได้ยินทว่าในเวลาเช่นนี้ จิ่งสือเยี่ยนกลับได้ยินเสียงของจิ่งโม่เยี่ย “คนที่กล้าทำร้ายชูอิ่งต้องตาย!”ก่อนหน้านี้จิ่งสือเยี่ยนคิดแค่ว่าจิ่งโม่เยี่ยดีต่อเฟิ่งชูอิ่งมาก ทว่าตอนนี้เขาเพิ่งได้รู้ซึ้งเรื่องบางอย่างเฟิ่งชูอิ่งไม่ใช่แค่จุดอ่อนของจิ่งโม่เยี่ย แต่เป็นทั้งชีวิตของเขาแต่มาเข้าใจเอาป่านนี้ก็สายไปแล้วในตอนนี้เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนคว่ำอยู่บนพื้นหิมะ นางได้ยินเสียงวัตถุแหวกอากาศจึงหันไปมอง และเห็นภาพของจิ่งสือเยี่ยนล้มลงกับพื้นในเวลานี้ เฟิ่งชูอิ่งก็เข้าใจใด้ทันทีว่าในโลกน

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 993

    ในเมื่อเขาไม่ได้ราชบัลลังก์และเฟิ่งชูอิ่งมาครอบครอง ราชบัลลังก์เขาอาจจะทำลายไม่ได้ แต่เฟิ่งชูอิ่งแค่คนเดียวเขาทำลายได้แน่นอนองครักษ์สองคนของเขารีบเปลี่ยนมาง้างคันธนูเล็งไปที่เฟิ่งชูอิ่ง ทว่าลูกธนูยังไม่ทันได้ยิงออกไป ก็ถูกบางสิ่งบางอย่างปัดออกไปอีกครั้งในตอนนี้จิ่งสือเยี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่างขึ้นมาทันทีตลอดทางที่ผ่านมา วิญญาณร้ายของเฟิ่งชูอิ่งถึงจะมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือ นั่นก็น่าจะมีเหตุผลที่ลงมือไม่ได้วิญญาณร้ายโจมตีองครักษ์ของเขา แต่กลับไม่โจมตีเขา นั่นก็หมายความว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นโจมตีเขาไม่ได้เขานึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่า พลังมังกรของผู้เป็นฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ปราบภูตผีปีศาจได้วิญญาณร้ายไม่โจมตีเขา นั่นแสดงว่าวิญญาณร้ายทำอะไรเขาไม่ได้ แปลว่าเขามีพลังมังกรอยู่ในตัว?ความคิดนี้ทำให้จิตใจเขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขารีบหยิบธนูของตัวเองขึ้นมา อดทนต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลแล้วยิงธนูไปที่หลังของเฟิ่งชูอิ่งเฉี่ยวหลิงเห็นภาพนี้ก็ตกใจ รีบยื่นมือออกไปเพื่อจะรับลูกธนูนั้นทว่าลูกธนูนั้นเปื้อนเลือดของจิ่งสือเยี่ยน เลือดนั้นเป็นอันตรายต่อวิญญาณร้ายอย่างมาก มือของนางแค่เพียงสัมผ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 992

    หิมะยังคงโปรยปรายลงมา โลกนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหิมะดังฟุ่บฟั่บช่วงใกล้รุ่งสาง ชวีเหลียงอวี่ก็มาปรากฏตัวและเอ่ยขึ้นทันทีว่า "ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรออยู่ข้างนอกแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางหันไปบอกกับจิ่งสือเยี่ยนว่า "เมื่อครู่ข้าลองคิดดูดีๆ แล้ว รู้สึกว่าที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง การมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลว"จิ่งสือเยี่ยน “......”หลังจากผ่านมาทั้งคืน นางกลับปลงตกในเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยแต่การที่นางคิดได้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องดีเขาจึงพูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่างทำได้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น ตายไปแล้วทำไม่ได้""ตราบใดที่เจ้าพาข้าออกจากค่ายกลแห่งนี้ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้าอีก”เฟิ่งชูอิ่งพยักหน้า "ก็ได้ งั้นตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปทำลายค่ายกล"พูดจบนางก็ควบม้านำหน้าไป จิ่งสือเยี่ยนรีบนำทหารตามไปทันทีเพียงแต่พวกเขาเดินวนเวียนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว พลังจึงลดลงไปมากเฟิ่งชูอิ่งมียันต์ป้องกันความหนาวติดตัวอยู่จึงไม่รู้สึกหนาว ก่อนหน้านี้ก็นอนหลับมาตลอดทาง ทำให้รักษาพลังงานไว้ได้มากที่สุ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 991

    เขาไม่เคยเจอใครดื้อด้านเท่านางมาก่อน!เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถตบตีหรือด่าทอนางได้ทั้งนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เจ้าอยากไปเจียงหนานไม่ใช่หรือ? พอออกจากที่นี่ได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า เจ้าก็จะได้ไปชมวิวทิวทัศน์เจียงหนานที่เจ้าอยากเห็น”“เจียงหนานในฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั้งงดงามและน่าหลงใหล ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็น ต้องไปดูด้วยตาตัวเองให้ได้เลย”เฟิ่งชูอิ่งยังคงนอนอยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่ไป อากาศหนาวเกินไป เดินทางเหนื่อยเกินไป”จิ่งสือเยี่ยน “…...”ตั้งแต่วินาทีที่เขาติดกับอยู่ที่นี่ สถานะระหว่างเขากับเฟิ่งชูอิ่งก็สลับกันโดยสิ้นเชิงเพราะเขามีความทะเยอทะยาน อยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งเฟิ่งชูอิ่งแสดงออกว่าอยากตายมากเท่าไหร่ จิ่งสือเยี่ยนก็ยิ่งไม่ยอมให้นางตายมากขึ้นเท่านั้นดังนั้นตอนนี้นางจึงควบคุมเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จการที่นางแสดงท่าทีไม่ยอมทำตามไม่ว่าเขาจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนเช่นนี้ ทำให้เขาแทบเป็นบ้าจิ่งสือเยี่ยนไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าการจับตัวประกันจะน่าอึดอัดขนาดนี้เฟิ่งชูอิ่งนอนเอกเขนกอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ เหตุผลก็ง่ายๆ นางใช้

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 990

    เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วถามว่า “ทางที่ข้าชี้นำ เจ้ากล้าเดินตามหรือ?”เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว นางก็คร้านจะเสแสร้งต่อไปสีหน้าของจิ่งสือเยี่ยนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง นางพูดอย่างเฉื่อยชาว่า “เพราะพวกเจ้าติดอยู่ที่นี่ คงรู้สึกหนาวเหน็บและหวาดกลัว”“เจ้าบาดเจ็บ ในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ แผลของเจ้าจะยิ่งทรุดหนัก”“เจ้ารีบร้อนมารวบรวมกำลังพลของกองกำลังอวี๋ซาน เจ้าคงไม่ได้พกอาหารมาด้วยมากนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเจ้าคงหิวมากแล้ว”“ในสถานการณ์เช่นนี้ แค่ข้ากักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ ต่อให้ไม่หนาวตาย พวกเจ้าก็คงอดตายอยู่ดี”ขณะนี้หิมะขาวโพลนโปรยปรายไปทั่ว อากาศหนาวเหน็บ สภาพอากาศเช่นนี้คงจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนเป็นอย่างที่เฟิ่งชูอิ่งบอก พวกเขาเดินทางมาที่นี่โดยไม่ได้พกเสบียงอาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นมาด้วยเลยด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขาเดินวนจนครบรอบที่สาม เสบียงอาหารก็หมดลงตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลังจากตกกลางคืน อากาศจะยิ่งหนาวเย็นลง พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นจิ่งสือเยี่ยนชักกระบี่ยาวออกมา “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถบั่นคอเจ้าด้วยกระบี่เล่มนี้ได้!”เฟิ่งชูอิ่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยว่า “เอาเลย ฆ

  • ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี   บทที่ 989

    เขาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ได้”หลังจากฆ่าจิ่งโม่เยี่ยแล้ว จะปล่อยนางไปหรือไม่ เรื่องนี้เขาจะเป็นคนตัดสินใจนางเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกชอบจริงๆ และนางก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักกับความล้มเหลวเขารู้ว่านางมีวิธีการบางอย่างที่คนทั่วไปไม่มี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาท เขาจะป้อนยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงให้นางกินทุกวันเฟิ่งชูอิ่งรู้ทันความคิดของเขา และยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีขณะที่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด ครั้งที่แล้วโดนไปขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสฆ่าเขาให้ตายสนิทแบบไม่มีสิทธิ์ฟื้นขึ้นมาอีกนางพลันนึกถึงเรื่องที่เหมยตงยวนวิญญาณแหลกสลายหลังจากรู้ข่าวการตายของเฟิ่งชิงหลิง จิตใจนางจึงหม่นหมองตามไปด้วยนางรู้ว่าเหมยตงยวนรักเฟิ่งชิงหลิงอย่างสุดซึ้ง แต่ไม่คิดว่านั่นจะเป็นรากฐานที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้เพราะนางเห็นความรักของพวกเขา นางจึงยิ่งรู้ชัดว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนต่อจิ่งโม่เยี่ยในเมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักให้สุดหัวใจอย่าได้ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดอีกจิ่งสือเยี่ยนไม่ได้ไปตามล่าจิ่งโม่เยี่ยโดยตรง เขาวางแผนท

DMCA.com Protection Status