00 เริ่มงาน
ฮ่องกง
ภายในบ้านหลังใหญ่โตที่มีผู้คนรายล้อมมากมายเป็นเหมือนนิยายที่เคยอ่านทว่านี่มันคือชีวิตจริงเพราะถ้าหากเป็นนิยายฉันคงเป็นนางเอกอาภัพที่สุด บ้านหลังใหญ่ที่ฉันยืนอยู่ตอนนี้เป็นคฤหาสน์ของ 'ตระกูลรากราฟ' ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าตระกูลนี่โด่งดังเรื่องอะไรแต่ก็น่าจะรวยน่าดูไม่งั้นคงไม่กล้าซื้อตัวฉันมาในราคาสิบล้านเพื่อมาเป็นแม่บ้านที่นี่หรอก
"เธอบอกว่าอยากเริ่มต้นใหม่ก็เริ่มมันซะที่นี่แหละ แล้วนั่นงานของเธอ"
มาร์โค่ชี้ไปทางห้องครัวขนาดใหญ่กว่าห้องนอนของฉันสามห้องรวมกันด้วยซ้ำสารภาพเลยนะครั้งแรกที่ถูกเขาจับมาฉันกลัวจนไม่กล้าพููดหรือมองหน้าเขาในใจฉันคิดแค่ว่าจะทำทุกอย่างให้จบหากว่าเขาเป็นเหมือนมาเฟียแก๊งอื่นที่ฉันเคยได้ยินฉันก็คงคิดฆ่าตัวตายทันทีแต่พอเจอมาร์โค่ก็ทำให้แปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เขาไม่เหมือนคนอื่นเพราะเท่าที่ฉันเคยรู้มาคนที่ทำงานแบบพวกเขาถ้าไม่ได้เงินแต่ได้ผู้หญิงคนพวกนั้นก็จะย้ำยีเธอเหมือนเป็นของเล่นชิ้นหนึ่ง
“มีอะไรสงสัยก็ถามหัวหน้าแม่บ้านได้เลย อีกสักพักแกก็คงมา” มาร์โค่บอกฉันก่อนจะมองไปรอบๆ
“แล้วคุณไม่อยู่ที่นี่หรอ”
“ฉันมีงานต้องไปทำ เธออยู่ที่นี่ไปก่อน” เขาพูดแค่นั้นก็เดินจากไปทิ้งฉันเอาไว้กลางอากาศ
‘อยู่ที่นี่ไปก่อน’ พูดอย่างกับบ้านเขาหลังเล็กที่เดินหากันเจอได้ง่ายนี่ถ้าไม่รู้ว่าเป็นบ้านเขาฉันคิดว่าที่นี่เป็นโงแรมห้าดาวไปแล้ว อิจฉาชะมัดคนเราทำบุญมาไม่เท่ากันจริงๆ แต่จะว่าไปฉันก็อาจจะเหลือบุญอยู่บ้านสวรรค์เลยเมตตาส่งเขามาช่วยฉัน(ช่วยแหละมั้ง)
"สวัสดี”
หลังจากมาร์โค่ปล่อยฉันไว้กลางทางกก็มีผู้หญิงคนหนึ่งน่าจะอายุพอๆ กับฉันเดินเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรเธอเป็นคนรับอาสาพาฉันเดินทัวร์รอบๆ บ้านพร้อมกับอธิบายงานที่ฉันต้องทำฉันถึงได้รู้ว่าจริงๆ แล้วเจ้าของบ้านหลังนี้ไม่ใช่มาร์โค่แต่เป็นพี่ชายของเขา โดยมีน้องสาวของเขาอีกคนที่อาศัยอยู่ด้วยกันส่วนตัวมาร์โค่เขามักจะไปๆ มาๆ
ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้สึกแบบไหนแต่ใจมันก็หายแปลกๆ ที่อยู่ๆ เขาก็เอาฉันมาทิ้งไว้ทั้งที่ฉันรู้สึกว่าอย่างน้อยการมีมาร์โค่อยู่อาจจะเป็นความสบายใจอย่างเดียวของฉันเพราะมีแค่เขาคนเดียวที่ฉันรู้จักเป็นคนแรก และอาจจะสนิทกว่าทุกคนในนี้
"เธอชื่ออะไร" หญิงสาวผู้นำทัวร์หันมาถามฉันหลังจากเราเดินมาถึงห้องพักของตัวเอง
"มธุรส เธอเรียกฉันว่า อิม ก็ได้นั้นชื่อเล่นของฉัน"
"อิม?...อ่อ โอเค ฉันชื่อมิเชลนะ" มิเชลทำหน้าไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็นั้นแหละที่นี่ส่วนมากใช่ภาษาอังกฤษเป็นหลัง ภาษาจีนเป็นรอง ส่วนภาษาไทยก็มีไม่กี่คนที่เข้าใจนอกจากมาร์โค่แล้วก็น่าจะมีแค่ลูกน้องของเขาชื่ออะไรซันๆ นี่แหละวันนั้นฉันก็ฟังไม่ถนัน
“ทำไมมีสองเตียงละ” พอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นว่าห้องพักของตัวเองมีเตียงถึงเตียง
“เมื่อกี้ฉันลืมบอกไปพอดีห้องที่นี่มันเต็มแล้ว ฉันก็เลยแบ่งห้องตัวเองให้เธอ”
คนต้องเยอะขนาดไหนแม้กระทั่งห้องพักที่จะเหมือนบ้านอีกหลังยังเต็ม แต่ก็เอาเถอะยังไงซะตอนนี้ฉันก็กลายมาเป็นตัวภาระให้กับมิเชลไปแล้ว มาร์โค่นะมาร์โค่ถ้าจะไม่บอกอะไรอย่างน้อยก็น่าจะบอกกันก่อนว่าฉันต้องมีรูมเมทจะได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่วงหน้า
"ขอถามหน่อยปกติที่นี่คนงานเยอะแบบนี้ทุกวันหรอ?" ไม่ว่าจะเดินไปตรงไหนของมุมบ้านไม่เจอคนสวนก็เจอแม่บ้านที่ใส่ชุดแบบฉันเกือบทุกมุม นี่ยังไม่รวมพวกคนชุดดำที่ทำหน้าที่เป็นการ์ดอีกนะเดินกันอย่างกับมดออกรัง
'ไงมิเชลพาเด็กใหม่ทัวร์อยู่หรอ`
'อย่าไปเรียกแบบนั้นสิเขาเป็นแขกของคุณมาร์โค่นะ อีกหน่อยอาจจะเป็นนายหญิง`
‘เธอก็พูดไป นายยงนายหญิงอะไรจำไม่ได้หรอคุณมาร์โค่เขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว แต่มีตำแหน่งหนึ่งที่ว่างนะ’
‘ตำแหน่งอะไรของเธอ’
‘ก็ตำแหน่ง เมียเก็บไง’
ยังไม่ทันได้เริ่มงานก็เหมือนจะมีศัตรูโดยไม่รู้ตัว สองสาวที่เดินสวนมาท่าทางออกจริตหน่อยๆ เอ่ยทักทายมิเชลแต่ปลายตามามองฉันทั้งที่เราก็ใส่ชุดเหมือนกัน ทำงานเหมือนกัน แต่ดูเธอมองฉันสิราวกับว่าฉันกับพวกเธออยู่กันคนละชั้น โดยเฉพาะคำพูดพวกนั้นคิดว่าฉันฟังไม่ออกหรือไงแน่จริงก็พูดภาษาจีนมาเลยสิถ้าแบบนั้นน่ะต่อให้พวกเธอนินทาฉันก็จะยิ้มรับแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร
"พูดให้มันดีหน่อยๆ อิมเขาฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องนะเขาไม่ได้โง่แบบพวกเธอ"
“มิเชล!!! แกว่าใครโง่” หนึ่งในสองคนนั้นถลึงตาใส่เราสองคน
“ไม่ว่าใคร แต่ถ้าเธอจะรับฉันให้ก็ได้นะ” นี่ก็ยอมซะที่ไหน
"ตายไม่ทันไรรีบออกตัวปกป้องกันเชียว ทำไมกลัวไปได้เป็นคนโปรดของคุณมาร์โค่หรอ"
"นี่!!!!!!!"
เท่าที่ได้ยินมาดูเหมือนมาร์โค่คงจะเป็นคนโปรดของพวกเธอมากกว่าเจ้าของบ้านตัวจริงที่ฉันยังไม่ได้ยินใครพูดถึงเลยตั้งมาที่นี่ทั้งที่บ้านหลังนี่พี่ชายเขาเป็นเจ้าของแต่ทุกทำประหนึ่งว่าคุณชายมาร์โค่ของพวกเธอดีแสนดี ก็ดีนั้นแหละแต่ก็ไม่ถึงขั้นดีเวอร์จนจะไปแข่งกันเพื่อแย่งเป็นคนโปรดหรอก
"ทำไรกัน!!!!!!"
"ป้า!!!!!!"
"ป้าแอน"
ก่อนที่จะเกิดสงครามภายในเสียงของผู้หญิงดูจะมีอายุหน่อยๆ ดังขึ้นทำเอาสองคนนั้นรีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นไร้เดียงสาทันทีส่วนมิเชลเพื่อนรัก อ่อ! ลืมบอกไปว่าฉันเลื่อนขั้นให้เธอเป็นเพื่อนรักเพื่อนเดียวของฉันเมื่อกี้นี่เลยเธอถอยห่างจากสองคนนั้นก่อนจะไปยืนข้างๆ คนที่เธอเรียกว่าป้าแอน
"โตขนาดนี้แล้วยังจะทะเลาะกันอีก พวกเธอสองคนมีอะไรทำก็ไปทำซะ ส่วนเธอมากับฉัน เธอด้วย"
แกจัดแจงทุกคนไปตามทางที่มาก่อนจะเหลียวไปสั่งมิเชล และฉันให้เดินตามแกมาในบ้านตอนที่เข้ามาถ้าฉันเดาไม่ผิดคนนี้นี่แหละที่มาร์โค่บอกเอาไว้ เธอคงเป็นหัวหน้าแม่บ้านของที่นี่สินะไม่อย่างงั้นสองคนนั้นจะกลัวจนรีบ้พ่นหนีไปหรอ
“มายังไม่ถึงวันก็มีเรื่องกับคนอื่นเลยนะ”
“พวกนั้นต่างหากที่มาหาเรื่องหนูกับอิมก่อน” มิเชลเถียงแทนฉัน
“เธอก็อีกคนรู้จักเขาดีแล้วหรือไงถึงออกตัวปกป้อง”
“อย่าว่ามิเชลเลยค่ะ อันที่จริงสองคนนั้นเขาแค่มาทักทายเพียงแต่การทักทายมันแรงไปหน่อย” ฉันจะปล่อยให้เธอโดนป้าหัวหน้าแม่บ้านนี่ดุคนได้ไง
“โอ้ว~ดีนี่ไม่คิดเลยว่าเธอจะเก่งด้านภาษา” ปากเอ่ยชมแต่สายตากลับมีความดูถูก แต่ก็เอาเถอะต่อให้พวกเขาจะคิดยังไงก็ช่างมันเป็นปัญหาของพวกเขาไม่ใช่กับฉัน
“ขอบคุณค่ะพอดีตอนอยู่ที่ไทยฉันเรียนด้านภาษา”
“ก็ดีเวลาพูดอะไรจะได้เข้าใจได้ง่ายๆ แล้วดูท่าเมื่อกี้เธอคงออกไปทำงานร่วมกับคนอื่นๆ ยังไม่ได้เพราะฉะนั้นฉันจะให้เธอมาทำงานในบ้านกับฉัน” ป้าหัวหน้าพูด
"เอ้อหมายถึงในบ้านนี่หรอคะ" มันใหญ่มากเลยนะจะทำแค่สามคนเราไหวหรอ
"ทำไม! ทำไม่ได้งั้นหรอ หรือว่าเป็นประเภทงานหนักไม่เอางานเบาไม่สู้"
"เปล่าค่ะ ฉันทำได้หมดนั้นแหละจะหนักจะเบาก็ทำได้" รู้สึกเหมือนกำลังโดนถามหาเรื่องอยู่เลยทีแรกก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกแต่ชักจะสงสัยซะแล้วฉันไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจตอนไหนแต่ละคนถึงได้มองฉันอย่างกับเป็นศัตรู
"งั้นก็ทำตามที่ฉันบอก ที่นี่ถึงจะมีคนงานเยอะแต่พวกเขาก็ทำได้แค่ด้านหน้า ส่วนพวกห้องทำงานจนไปถึงห้องนอนของเจ้านายจะมีแค่ฉันกับมิเชลที่ดูแลตอนนี้ก็เพิ่มเธอมาอีกคนละกัน"
“ที่จริงให้ฉันไปทำงานกับคนอื่นด้วยก็ได้นะคะ” รู้สึกเหมือนกำลังเอาเปรียบเพื่อนร่วมงานยังไงก็ไม่รู้
“งั้นเธอก็ไปบอกกับคุณมาร์โค่เอง ฉันมีหน้าที่แค่ทำตาม" นี่เป็นคำสั่งของเขาอีกสิท่า
"ค่ะ"
คำก็มาร์โค่ สองคำก็มาร์โค่ช่างเป็นคนดีจริงๆ เอาฉันมาทิ้งให้พวกเขาอย่างน้อยก็น่าจะบอกกันสักหน่อยแต่นี่กลับให้ฉันมาเรียนรู้เองแล้วดูสิก่อนไปก็น่าจะบอกให้ชัดเจนไม่ใช่ให้คนอื่นมาเข้าใจผิดว่าฉันเป็นคนของเขา เพราะคำๆ นี้ในความหมายของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
"อ่อ อีกอย่างที่เธอต้องรู้ถ้าอยากทำงานที่นี่นานๆ ต้องเชื่อฟังฉันเพราะฉันมีกฎที่เธอต้องทำตาม"
"อะไรคะ?"
"กฏของที่นี่มีแค่สามข้อที่เธอต้องทำอย่างเคร่งครัด"
"ค่ะ" ถึงจะไม่ได้อยากรู้แต่ดูแล้วฉันคงต้องอยู่ที่นี่อีกนานมาร์โค่เองก็ไม่ได้บังคับว่าฉันจะต้องทำนู้นทำนี่นั้นเท่ากับว่าหากวันไหนฉันทำงานเก็บเงินตั้งตัวได้มากพอแล้ว ฉันก็มอาจจะมีสิทธิ์ออกไปใช้ชีวิตอิสระเหมือนคนอื่นๆ ก็ได้ถ้าวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่ฉันออกไปแน่
"กฏข้อแรกห้องใหญ่มุมขวามือที่เธอพึ่งเดินผ่านมาเมื่อกี้ถ้าไม่มีคำสั่งจากฉันเธอห้ามเข้าไป"
ฉันก็คนมีการศึกษามารยาทฉันก็มีอันควรทำไม่ควรทำฉันก็รู้ทำไมต้องมาตั้งเป็นกฎให้วุ่ยวายด้วยละ
"ส่วนข้อสองกฏข้อนี้ฉันตั้งขึ้นมาเพราะเด็กสาวแบบพวกเธอสมัยนี้งานหนักไม่สู้ชอบงานสบายรวยทางลัดฉันถึงต้องห้ามหลังสองทุ่มไม่ว่าจะธุระอะไรก็ตามห้ามออกไปจากบริเวณบ้าน แม้กระทั่งห้องทำงานของเจ้านายห้ามเข้าไปวุ่นวาย"
"แล้วข้อสุท้ายละคะ" ข้อแรกว่าแปกแล้วข้อสองถ้าไม่บอกว่าเป็นกฏฉันคงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคำสั่งของหัวหน้าแม่บ้านอย่างป้าแอนที่หวงเจ้านายประหนึ่งกลัวใครมาแย่ง
"ข้อสุดท้าย....ทุกอย่างที่ฉันบอกถือเป็นคำสั่ง! ข้อนี้ฉันตั้งขึ้นมาเพื่อเธอ"
"เข้าใจค่ะทุกข้อที่ว่ามาฉันทำได้หมด แต่ติดใจอยู่ข้อเดียวทำไมฉันต้องฟังแต่ป้า ป้าไม่ใช่เจ้านายฉัน" อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะฉันรู้สึกว่าแกไม่ค่อยชอบหน้าฉันสักเท่าไหร่ ไหนๆ ก็ไม่ชอบแล้วถามไปเลยก็คงไม่ได้ทำให้แกเกลียดฉันน้อยลงหรอก
"เพราะฉันเป็นหัวหน้าแม่บ้านของที่นี่ และฉันก็เป็นคนเก่าคนแก่สิ่งที่ฉันทำเป็นความหวังดีที่มีให้กับพวกคุณหนูของฉัน ฉันไม่อยากให้คุณหนูคนไหนต้องมาหลงผิดเพราะผู้หญิงแบบพวกเธอเพราะฉะนั้นถ้าเธอทำไม่ได้ก็ออกไปฉันจะรายงานคุณมาร์โค่เองว่าเธอไม่ทำ”
"ไม่ต้องลำบากไปบอกเขาหรอกค่ะ ฉันทำได้ขอโทษด้วยที่เมื่อกี้ฉันถามอะไรที่ไม่ควรออกไป"
"รู้ก็ดี! พรุ่งนี้ฉันจะให้มิเชลจัดแจงหน้าที่ของเธอให้ ส่วนวันนี้ถือซะว่าพึ่งเริ่มงานวันแรกเธอไปพักได้"
ถึงจะดูใจแคบไปสักหน่อยแต่ก็ยังถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่เมตตาต่อเด็กอยู่บ้างจะว่าไปแล้วคุณป้าหัวหน้าแม่บ้านอายุก็คงจะไล่ๆ กับป้าของฉันอยู่สักหน่อย เห้อ~~พอพูดถึงป้าแล้วจะโกรธก็โกรธไม่สุดไม่รู้ว่าตอนนี้แกจะเป็นยังไงอยู่บ้าง
"ถึงแล้วห้องพักเธอกับฉัน"
"อืม" ฉันแค่พยักหน้ารับกับมิเชลแล้วเดินเข้ามาในห้องพักที่เมื่อกี้ได้ดูผ่านๆ ไปครั้งหนึ่งแล้วไม่ทันได้สังเกตให้ดีว่าในห้องนี้มีของใช้ของฉันวางอยู่
“มองอะไร” มิเชลที่เดินตามหลังมาชโงกหน้ามามองตามฉัน
“นี่มันของๆ ฉันที่อยู่ไทยมันมาอยู่ที่นี่ได้ไง” ฉันจับได้ว่าตอนมาฉันมาตัวเปล่านะหยิบจับอะไรก็ไม่ทัน
"อ่อ คุณมาร์โค่ให้คนเอามาให้ ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่ามาตอนไหนคงจะตอนที่เราไปหาป้าแอล" เพราะแบบนี้สินะคนถึงได้เทตะแนนไปให้คุณชายมาร์โค่ผู้แสนดี ใครจะไปคิดว่าเขาจะยังมีน้ำใจเอาของฉันให้
"เธอทำงานที่นี่มานานหรือยัง" จริงๆ ก็พอมองออกอยู่แล้วมิเชลคงทำงานที่นี่มานานจนสามารถกระโดดเตรียมไปตบหน้าสองคนเมื่อเช้าได้
"ก็ตั้งแต่จำความได้พ่อกับแม่ฉันเสียไปตั้งแต่เด็กป้าแอลเธียแกเป็นคนเลี้ยงฉันมา"
"จริงหรอ! บังเอิญจังเธอฉันก็เหมือนกันพ่อแม่ฉันก็เสียฉันโตมากับป้า"
"แล้วป้าเธอละ ไม่มาด้วยหรอ์"
"........." ตอนนี้คงอยู่ที่ไหนสักที่ฉันได้แต่ยิ้มให้มิเชลในใจก็หวังแค่ว่าชีวิตของฉันที่แลกมาด้วยเงินสิบล้านจะทำให้ป้ามีความสุขไม่ต้องอยู่หลบๆ ซ่อนๆ
"นี่!!!" มิเชลโบกมือไปมาตรงหน้าเรียกสติที่หลุดลอยของฉัน "เป็นไรไปอยู่ดีๆ ก็ใจลอย"
"อ่อ เปล่าฉันแค่คิดถึงป้าน่ะ"
"คิดถึงแล้วทำไมถึงมาทำงานที่นี่ได้ละ ที่ไทยเธอไม่มีงานหรอ" ตั้งแต่มาถึงที่นี่หลายๆ ครั้งที่ได้ยินก็รู้สึกว่าคนที่นี่คงยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วฉันถูกมาร์โค่เจ้านายของพวกเขาซื้อมา
"ที่นี่ได้เงินเยอะดี" ไม่ได้โกหกนะได้เยอะจนป้าฉันสบายไปทั้งชาติเลยมั้ง
"ก็จริงอยู่ที่นี่อาหารก็ฟรีที่อยู่ก็ฟรีแถมได้เงินอีกทุกอย่างดีหมดติดแค่อย่างเดียว..."
"อะไร???" มิเชลหยุดพูดไปก่อนจะมองรอบๆ ห้องที่มีแค่เราสองคน
"นายใหญ่หน้ากลัว แต่เธอไม่ต้องกลัวหรอกนะถึงจะดูเย็นชาไปบ้างแต่เขาใจดีกับพวกเรา"
"นายใหญ่ที่เธอพูดถึงคือพี่ชายของมาร์โค่หรอก" เจ้านายฉันตัวจริงสินะ
"ใช่ นายใหญ่เขาชื่อซิกโก้เป็นลูกชายคนโตของตระกูลคนนี้ป้าฉันหวงสุดๆ" มิเชลพูดไปก็ทำหน้ายู่เข้าหากัน
“ทำไมละ?”
“ก็แกเลี้ยงนายใหญ่มากับมือไม่หวงได้ไง ส่วนคุณมาร์โค่ กับคุณซาร่า แกก็เลี้ยงนะแต่ใครดูก็รู้ว่าป้าแอลน่ะรักนายใหญ่ที่สุด”
“แบ่งแยกชัดเจนดีนิ” ฉันเป็นป้าหัวหน้าแม่บ้านฉันก็เลือกเจ้าบ้านอยู่แล้วปากท้องต้องมาก่อน
“จะว่าอย่างงั้นก็ได้ เอ่อ! จริงสิพรุ่งนี้ฉันมีธุระต้องไปทำข้างนอกฝากเธอทำงานแทนฉันก่อนนะ”
"อืม"
ฉันก็แค่พยักหน้ารับทีเจอมาทั้งวันนี้ก็ไม่มีอะไรให้ฉันต้องมากลัวอีกแล้วเจอทุกรูปแบบในวันเดียวนี่สินะที่เขาเรียกหนึ่งวันพันเหตุการณ์ถึงแม้จะได้ยินความต่างของสองพี่น้องมาร์โค่ และเจ้าของบ้านที่ทุกคนเรียกว่านายใหญ่ฉันก็ไม่ได้เอ๊ะใจอะไร
แต่ก็มีแอบเตรียมใจไว้บ้างแล้วละเพราะงานของฉันมันดันถูกส่งให้ไปทำในบ้านที่มีข้อห้ามจากคุณป้าแอลเธียมากมาย อยากจะตะโกนออกไปให้แกได้ยินว่าฉันมาทำงานไม่ได้มาจับเจ้านายเธอ อีกอย่างถึงฉันจะจับคนระดบนั้นก็คงไม่เหลียวมองแม่บ้านธรรมดาแบบฉันหรอก นอกซะจากคนพวกนี้หน้าหม้อเอาไม่เลือก!
01 เราที่พึ่งเจอกัน ถ้านับวันนี้ก็เข้าวันที่สามแล้วแต่ฉันก็ยังอาจจะดูเหมือนฉันไม่รู้สึกอะไรอยู่ที่ไหนก็ได้ทว่าในใจลึกๆ ฉันกลับไม่ได้รู้สึกเหมือนที่แสดงออกไปแต่ก็ช่างเถอะมันก็ดีกว่าถูกขายไปที่อื่นถ้าไม่ใช่มาร์โค่ฉันก็ไม่อยากคิดเหมือนกันว่าตอนนี้ตัวเองจะเป็นยังไงแต่คงไม่ได้มาทำงานปัดกวาดเช็ดถูที่มันสบายแบบนี้หรอก “มธุรส!” เสียงเข้มที่ติดออกเจ้ากี้เจ้าการตามประสาคนเป็นใหญ่เป็นโตในบ้านเรียกซะจนเกือบปาไม้กวาดทิ้ง “มีอะไรคะป้าแอล?” “ตามฉันมาไปเจอนายใหญ่” “ค่ะ” ไม่รู้ว่าสีหน้าแบบนี้เขาเรียกว่าหน้านิ่ง หรือเพราะเกลียดขี้หน้าฉันกันแน่แต่ก็นั้นแหละฉันอยู่ที่นี่ต่อให้จะเป็นมาร์โค่ที่พาเข้ามายังไงซะฉันก็เป็นเพียงแม่บ้านคนหนึ่งที่ต้องทำตามกฎ และคำสั่งของป้าหัวหน้า “อีกเดี๋ยวเธอเจอนายใหญ่จะพูดอะไรก็คิดก่อน นายใหญ่กับนายน้อยไม่เหมือนกัน” “ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับให้ผ่านๆ ไป “แล้วที่สำคัญอย่าคิดว่าเป็นคนของคุณมาร์โค่แล้วจะเข้าหานายใหญ่ได้” “รู้แล้วค่ะ ทำตามทุกอย่าง”
"เขาเห็นเธอเป็นเพียงแค่ของเล่นชิ้นใหม่ ที่เหมือนชิ้นเก่ารักเดียวที่เธอจะมีให้ได้คือรักตัวเอง"รู้อะไรมั้ย? คนเราน่ะมันเสียใจกันได้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งถึงจะจำสักทีว่าความเจ็บปวดมันทรมานแค่ไหนแต่ทุกครั้งเราก็มักจะหลอกตัวเองว่าไม่เป็นไรทั้งที่ในใจมันแทบจะไม่เหลือความรู้สึกอะไรให้น่าจดจำอีกแล้วเหมือนกับฉันที่ทั้งชีวิตเป็นได้แค่คน 'ถูกทิ้ง'----------------------------------------------------------------------------ซิกโก้ รากราฟ : เจ้าพ่อมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลในแทบตะวันตก เขาเกิดมาพร้อมอำนาจของตระกูลเก่าแก่ที่มีพร้อมทุกอย่าง ทว่าพอเข้าอายุ17 ปีจากเด็กวัยรุ่นทั่วไปเขากลับต้องขึ้นมาในตำแหน่งหัวหน้าตระกูลแทนพ่อของเขาที่ด่วนจากไป ในฐานะพี่ใหญ่ภาระหน้าที่ทุกอย่างจำต้องตกเป็นของเขาแม้จะดูเหมือนเย็นชา แต่ยังไงเขาก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งหัวใจทั้งดวงที่แตกสลายไปพร้อมเธอมันไม่อาจเรียกคืนกลับมาได้สิ่งเดียวที่อยู่ในใจของเขามาตลอด คือ 'ตราบาปที่เธอทิ้งเอาไว้'"เป็นเพราะฉันที่ทำให้เธอจากไป"-----------------------------------อิม มธุรส : ทั้งชีวิตนี้ฉันก็เป็นคนที่ถูกทิ้งมาตลอดจะเพิ่มเขาเข้ามาอีกคนจะ
Introฉันถูกจับมาเพื่อแลกกับอิสระของผู้มีพระคุณ!ฉันถูกทิ้งเพราะคนที่ฉันรักมากที่สุดเลือกเดินออกไปจากชีวิตฉันในวันที่ฉันไม่เหลือใคร!และทั้งหมดนี้คงเป็นคำนิยามสั้นๆ ที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องเป็นผู้ถูกทิ้งอยู่ร่ำไป!"เธอแน่ใจนะว่าจะทำแบบนี้""นอกจากไปกับพวกคุณฉันมีตัวเลือกอื่นอีกมั้ย?"เพราะไม่ว่าจะเลือกอย่างไหนสุดท้ายฉันก็เป็นแค่เครื่องมือให้กับคนที่ฉันรักทั้งสองคนใช้เป็นสะพานข้ามน้ำให้ตัวเองรอด คนแรกก็คือป้าของฉันเธอเป็นคนเลี้ยงดูฉันมาหลังจากที่พ่อกับแม่ฉันจากไปแม้จะไม่ได้อยากเลี้ยงสักเท่าไหร่แต่อย่างน้อยเธอก็อุส่าเลี้ยงฉันมาจนโตและให้ฉันตอบแทนบุญคุณของเธอด้วยการใช้หนี้สิบล้านแน่นอนว่าฉันไม่มีปัญญาหามาให้ได้แต่ทว่าใครจะคิดว่าตัวฉันนี่แหละที่มีค่าถึงสิบล้านเชียวนะส่วนคนที่สองเขาก็เป็นคนที่ฉันรัก และรักมากมากจนไม่เคยเอ๊ะใจเลยว่าตลอดเวลาที่ฉันทำงานหาเงินเพื่อมาสร้างอนาคตไปพร้อมกับเขา ในเวลาเดียวกันเขาเองก็กำลังไปสร้างอนาคตกับผู้หญิงคนอื่นแค่รู้ว่าตัวเองถูกนอกใจมันก็เจ็บมากพอแล้วแต่ใครจะไปคิดว่าคนที่แทงข้างหลังเราจะเป็นเพื่อนทสนิทที่เรารักสุดท้ายชีวิตฉันใน 2
01 เราที่พึ่งเจอกัน ถ้านับวันนี้ก็เข้าวันที่สามแล้วแต่ฉันก็ยังอาจจะดูเหมือนฉันไม่รู้สึกอะไรอยู่ที่ไหนก็ได้ทว่าในใจลึกๆ ฉันกลับไม่ได้รู้สึกเหมือนที่แสดงออกไปแต่ก็ช่างเถอะมันก็ดีกว่าถูกขายไปที่อื่นถ้าไม่ใช่มาร์โค่ฉันก็ไม่อยากคิดเหมือนกันว่าตอนนี้ตัวเองจะเป็นยังไงแต่คงไม่ได้มาทำงานปัดกวาดเช็ดถูที่มันสบายแบบนี้หรอก “มธุรส!” เสียงเข้มที่ติดออกเจ้ากี้เจ้าการตามประสาคนเป็นใหญ่เป็นโตในบ้านเรียกซะจนเกือบปาไม้กวาดทิ้ง “มีอะไรคะป้าแอล?” “ตามฉันมาไปเจอนายใหญ่” “ค่ะ” ไม่รู้ว่าสีหน้าแบบนี้เขาเรียกว่าหน้านิ่ง หรือเพราะเกลียดขี้หน้าฉันกันแน่แต่ก็นั้นแหละฉันอยู่ที่นี่ต่อให้จะเป็นมาร์โค่ที่พาเข้ามายังไงซะฉันก็เป็นเพียงแม่บ้านคนหนึ่งที่ต้องทำตามกฎ และคำสั่งของป้าหัวหน้า “อีกเดี๋ยวเธอเจอนายใหญ่จะพูดอะไรก็คิดก่อน นายใหญ่กับนายน้อยไม่เหมือนกัน” “ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับให้ผ่านๆ ไป “แล้วที่สำคัญอย่าคิดว่าเป็นคนของคุณมาร์โค่แล้วจะเข้าหานายใหญ่ได้” “รู้แล้วค่ะ ทำตามทุกอย่าง”
00 เริ่มงาน ฮ่องกง ภายในบ้านหลังใหญ่โตที่มีผู้คนรายล้อมมากมายเป็นเหมือนนิยายที่เคยอ่านทว่านี่มันคือชีวิตจริงเพราะถ้าหากเป็นนิยายฉันคงเป็นนางเอกอาภัพที่สุด บ้านหลังใหญ่ที่ฉันยืนอยู่ตอนนี้เป็นคฤหาสน์ของ 'ตระกูลรากราฟ' ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าตระกูลนี่โด่งดังเรื่องอะไรแต่ก็น่าจะรวยน่าดูไม่งั้นคงไม่กล้าซื้อตัวฉันมาในราคาสิบล้านเพื่อมาเป็นแม่บ้านที่นี่หรอก "เธอบอกว่าอยากเริ่มต้นใหม่ก็เริ่มมันซะที่นี่แหละ แล้วนั่นงานของเธอ" มาร์โค่ชี้ไปทางห้องครัวขนาดใหญ่กว่าห้องนอนของฉันสามห้องรวมกันด้วยซ้ำสารภาพเลยนะครั้งแรกที่ถูกเขาจับมาฉันกลัวจนไม่กล้าพููดหรือมองหน้าเขาในใจฉันคิดแค่ว่าจะทำทุกอย่างให้จบหากว่าเขาเป็นเหมือนมาเฟียแก๊งอื่นที่ฉันเคยได้ยินฉันก็คงคิดฆ่าตัวตายทันทีแต่พอเจอมาร์โค่ก็ทำให้แปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เขาไม่เหมือนคนอื่นเพราะเท่าที่ฉันเคยรู้มาคนที่ทำงานแบบพวกเขาถ้าไม่ได้เงินแต่ได้ผู้หญิงคนพวกนั้นก็จะย้ำยีเธอเหมือนเป็นของเล่นชิ้นหนึ่ง “มีอะไรสงสัยก็ถามหัวหน้าแม่บ้านได้เลย อีกสักพักแกก็คงมา” มาร์โค่บอกฉันก่อนจะมองไปรอบๆ “แล้ว
Introฉันถูกจับมาเพื่อแลกกับอิสระของผู้มีพระคุณ!ฉันถูกทิ้งเพราะคนที่ฉันรักมากที่สุดเลือกเดินออกไปจากชีวิตฉันในวันที่ฉันไม่เหลือใคร!และทั้งหมดนี้คงเป็นคำนิยามสั้นๆ ที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องเป็นผู้ถูกทิ้งอยู่ร่ำไป!"เธอแน่ใจนะว่าจะทำแบบนี้""นอกจากไปกับพวกคุณฉันมีตัวเลือกอื่นอีกมั้ย?"เพราะไม่ว่าจะเลือกอย่างไหนสุดท้ายฉันก็เป็นแค่เครื่องมือให้กับคนที่ฉันรักทั้งสองคนใช้เป็นสะพานข้ามน้ำให้ตัวเองรอด คนแรกก็คือป้าของฉันเธอเป็นคนเลี้ยงดูฉันมาหลังจากที่พ่อกับแม่ฉันจากไปแม้จะไม่ได้อยากเลี้ยงสักเท่าไหร่แต่อย่างน้อยเธอก็อุส่าเลี้ยงฉันมาจนโตและให้ฉันตอบแทนบุญคุณของเธอด้วยการใช้หนี้สิบล้านแน่นอนว่าฉันไม่มีปัญญาหามาให้ได้แต่ทว่าใครจะคิดว่าตัวฉันนี่แหละที่มีค่าถึงสิบล้านเชียวนะส่วนคนที่สองเขาก็เป็นคนที่ฉันรัก และรักมากมากจนไม่เคยเอ๊ะใจเลยว่าตลอดเวลาที่ฉันทำงานหาเงินเพื่อมาสร้างอนาคตไปพร้อมกับเขา ในเวลาเดียวกันเขาเองก็กำลังไปสร้างอนาคตกับผู้หญิงคนอื่นแค่รู้ว่าตัวเองถูกนอกใจมันก็เจ็บมากพอแล้วแต่ใครจะไปคิดว่าคนที่แทงข้างหลังเราจะเป็นเพื่อนทสนิทที่เรารักสุดท้ายชีวิตฉันใน 2
"เขาเห็นเธอเป็นเพียงแค่ของเล่นชิ้นใหม่ ที่เหมือนชิ้นเก่ารักเดียวที่เธอจะมีให้ได้คือรักตัวเอง"รู้อะไรมั้ย? คนเราน่ะมันเสียใจกันได้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งถึงจะจำสักทีว่าความเจ็บปวดมันทรมานแค่ไหนแต่ทุกครั้งเราก็มักจะหลอกตัวเองว่าไม่เป็นไรทั้งที่ในใจมันแทบจะไม่เหลือความรู้สึกอะไรให้น่าจดจำอีกแล้วเหมือนกับฉันที่ทั้งชีวิตเป็นได้แค่คน 'ถูกทิ้ง'----------------------------------------------------------------------------ซิกโก้ รากราฟ : เจ้าพ่อมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลในแทบตะวันตก เขาเกิดมาพร้อมอำนาจของตระกูลเก่าแก่ที่มีพร้อมทุกอย่าง ทว่าพอเข้าอายุ17 ปีจากเด็กวัยรุ่นทั่วไปเขากลับต้องขึ้นมาในตำแหน่งหัวหน้าตระกูลแทนพ่อของเขาที่ด่วนจากไป ในฐานะพี่ใหญ่ภาระหน้าที่ทุกอย่างจำต้องตกเป็นของเขาแม้จะดูเหมือนเย็นชา แต่ยังไงเขาก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งหัวใจทั้งดวงที่แตกสลายไปพร้อมเธอมันไม่อาจเรียกคืนกลับมาได้สิ่งเดียวที่อยู่ในใจของเขามาตลอด คือ 'ตราบาปที่เธอทิ้งเอาไว้'"เป็นเพราะฉันที่ทำให้เธอจากไป"-----------------------------------อิม มธุรส : ทั้งชีวิตนี้ฉันก็เป็นคนที่ถูกทิ้งมาตลอดจะเพิ่มเขาเข้ามาอีกคนจะ