“ฝ่าบาท ฝ่าบาท พ่ะย่ะค่ะข้าน้อยสองคนอยากให้ฝ่าบาททรงตัดสินเรื่องความขัดแย้งของเราทั้งสอง”ขุนนางวันกลางคนเกือบชราเดินเข้ามาประสานมือตรงหน้า“มีเรื่องเร่งด่วนใดกันฝ่าบาททรงกำลังดื่มชายามบ่าย” ขันทีข้างกายส่งเสียงปรามขุนนางทั้งสอง“ใต้เท้าเหวินผู้ดูแลกรมคลังสองสามวันมานี้อคติกับข้าไม่ยอมเพิ่มเบี้ยหวัดและเงินตามที่ข้าขอสำหรับเหล่านางในห้องเครื่องที่ทำงานเหนื่อยหนัก”“อคติ มีอะไรให้ต้องอคติข้าเห็นว่านางในห้องเครื่อง กินอิ่มกว่าใครไม่จำเป็นต้องใช้เงินซื้ออาหารเพิ่มได้น้อยกว่า นางในที่ทำนห้าที่อื่นเพียงน้อยนิดเท่านั้นจะเพิ่มไปเพื่ออะไรกัน”“ท่านอย่างไรก็ไร้เหตุผลเอาเรื่องส่วนตัวมาพัวพันกับเรื่องงาน”ใต้เท้าเหวินยิ้มหยันลอยหน้าลอยตา“ท่านทั้งสองบาดหมางกันเรื่องอะไร”หลี่หลงเซียวถามขึ้นดังๆไข้าน้อยมิได้บาดหมางพ่ะย่ะค่ะ มีแต่ใตเท้ากู้ที่เลอะเลือนคิดว่าข้าน้อยคิดเล็กคิดน้อยเพียงนั้น”“พูดมาอย่าอ้อมค้อม กู้เฉวียนพูดมาเดี๋ยวนี้”“ เอ่อ เอ่อข้าน้อยกับใต้เท้าเหวิน เราแข่งขันกันเพื่อที่จะชนะใจเฒ่าแก่เนี๊ยของหอโคมแดงสุริยันจันทรา”“ไร้สาระสิ้นดี แค่เพียงหญิงงามทำให้พวกท่านบาดหมางถึงกับต้องให้ข้าตัดสิน
“ฝ่าบาทโปรดไตร่ตรอง ข้าน้อยผิดไปแล้วทำให้แม่นางจูต้องเดือดร้อนฝ่าบาทโปรดลงทัณฑ์ข้าน้อยสองคนที่นำเรื่องเหลวไหลมากวนใจแต่ได้โปรดอย่าลงทัณฑ์แม่นางจู”“พอแล้ว ไม่ต้องแล้ว แค่ยุติเรื่องราวที่ข้าไม่สู้ชอบใจเหล่านี้เสียแล้วตั้งหน้าตั้งตาช่วยเหลืองานราชสำนัก ต่อไปเอาล่ะข้าจะถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นหากข้าได้ยินว่า มีใครบาดหมางกันเพราะ…เฒ่าแก่เนี๊ยของหอสุริยันจันทราอีกละก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนหัวของนางตอนนี้ฟาดอยู่บนแท่นประหารแล้วรอแค่เพรชฆาตลงดาบก็เท่านั้น”“ไปได้แล้ว”ไคเฉิงส่งเสียงเตือนขุนนางทั้งสอง หนักใจแทนหลี่หลงเซียวไม่น้อยหอสุริยันจันทรา“ท่านแม่ขา คืนนี้ข้าจะได้นั่งบัลลังก์หญิงงามอันดับหนึ่งถูกต้องไหมเจ้าค่ะ”จงอันเล่อที่งดงามราวกับดอกไม้ในเหมันตฤดูที่หาดอกไม้งามได้ยากยิ่งนั่งไขว่ห้าง ร่างอรชร เพราะเคยต้องมือชายมาแล้วจึงยิ่งอวบอิ่มเข้ารูปเข้ารอย เนินถันที่ดันอาภรณ์บางเบาแม้แต่หญิงงามในหอคณิกายังอดชื่นชมไม่ได้ อกอวบปากอิ่มผ่านมือชายก็ยิ่งอวบยิ่งอิ่มท้าทายทุกสายตาหลอกล่อให้บุรุษน้อยใหญ่มาหลงใหลได้ไม่ยากหญิงในหอคณิกาสองคนบีบนวดอีกคนก็พัดให้อย่างเอาใจเงยหน้ามอง ชิงหรูพร้อมกับหยิบองุ่
ในคืนซอกซ้ำหรือหวานฉ่ำยังแยกแยะไม่ได้ อันเล่อกลับไปที่ตระกูลแต่กลับเหมือนกับไปเพื่อให้บิดา ไล่ออกจากตระกูลต่อหน้าคนรักเก่าแม่ทัพชงหยวนอวี ไม่ได้เสียใจหรือเจ็บปวดอะไรตอนนั้นแค่รู้สึกว่า ทำไมต้องซวยแล้วซวยอีกก็แค่โซซัดโซเซไป ขออาศัยในหอนางโลมที่มีชื่อว่านางครวญก็เท่านั้น ทำงานทุกอย่างแลกเงินท่านแม่หอนางครวญที่รักและเมตตาอันเล่อกลัวใคร จนในที่สุดท่านแม่หอนางครวญก็จากไปทิ้งหอคณิกาที่ทรุดโทรมขาดรายได้ ให้อันเล่อดูแลจึงพลิกฟื้นและเปลี่ยนชื่อหอคณิกาเสียใหม่เป็นหอ สุริยันจันทรา“ท่านแม่เจ้าขา นายหญิงบ้านอวีขอพบท่านแม่”คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน อวีซีหยินมาทำไมร่างอ้อนแอ้นอรชรที่เคยเห็นก่อนนั้น ยืนหันหลังให้ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าค่อยๆ หันหน้ามาช้าๆ“มีอะไร เจ้าอยากพบข้ามีอะไรให้ รับใช้ ฮูหยินแม่ทัพชงหยวนอวี”อวีซีหยินทรุดกายลงกับพื้นสีหน้าเศร้าสร้อย“อันเล่อ แม่นางอันเล่อได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย เจ้าโกรธข้าใช่ไหมจึงทำเช่นนี้ ท่านพ่อบิดาข้าวันๆ เอาแต่พร่ำเพ้อถึงเจ้า แล้วยังทำร้ายท่านแม่ข้าเพราะไม่ให้มาพบเจ้าที่หอสุริยันจันทรา หากเจ้าไม่พอใจอะไรข้าก็ ก็…มาลงทีข้าอย่าทำแบบนี้ตอนนี้ข้าอายเขาเหลือเกินชา
“ฮือๆๆๆๆๆๆ ฝ่าบาท พี่ใหญ่ท่านต้องช่วยข้า”องค์หญิงผิงเผยร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่าวิ่งมากอดแขนหลี่หลงเซียวที่กำลังอ่านฎีกาอย่างตั้งอกตั้งใจ“อิงเผย หยุดร้องแล้วพูดมา”“อึกกๆๆ ฮึกๆๆๆๆๆๆๆ อึกๆๆๆๆๆๆ”ยิ่งสะอื้นหนักกว่าเดิม“พูดมา หากยังร้องแบบนี้ก็จะช้าไปอีก สิ่งที่จะให้ช่วยก็ไม่ได้ช่วยให้สำเร็จเสียที”ปลอบเบาๆ“ต้าเถียน น้องเขยของฝ่าบาทหลายวันมานี้แวะเวียนแต่หอคณิกาแต่งกันมาแค่เพียงหนึ่งปีเขาเปลี่ยนไปเพียงนี้”“เป็นเรื่องธรรมดาของบุรุษก็ต้องมีเรื่องแบบนี้บ้าง”“ตะตะแต่ต้าเถียนคนใจร้ายนั่นจะต้องแวะไปที่หอสุริยันจันทรา ในทุกค่ำคืนนี่ก็สามคืนผ่านไปแล้วพี่ใหญ่ท่านคิดว่าปกติหรือ”“หอสุริยันจันทราอีกแล้วหรือ หอแห่งนี้คือสิ่งที่บั่นทอนราชสำนัก ส่งคนสืบสวนหาความจริงจับคนทำผิดมาลงโทษ”“ฝ่าบาทหอคณิกาบุรุษล้วนผ่านเข้าออกจะมีคนผิดเรื่องใดกัน”ไคเฉิงออกความเห็น“เช่นนั้นก็จับเฒ่าแก่เนี๊ยหอคณิกาสุริยันจันทรามาสำเร็จโทษ”“ดี พี่ใหญ่จัดการให้เร็วที่สุดไม่เช่นนั้นก็สั่งปิดหอนางโลมแห่งนั้นเสียอึกๆๆๆๆ”องค์หญิงอิงเผยพูดขึ้นทั้งที่ยังสะอึกสะอื้น“ข้อหาอะไรพ่ะย่ะค่ะ”ไคเฉิงที่จู่ๆ ก็อยากจะเป็นกลาง“ ยังจะถามให้มากคว
“แล้วข้าต้องทำเช่นไร”“รอยามห้ายท่านค่อยมาวางเงินใหม่คืนนี้ท่านแม่รับแขกเพียงสามคนท่านรีบมาเพราะใต้เท้ากวงก็หนึ่งแล้ว แต่ไม่รับรองว่าจะได้พบท่านแม่ มีหลายคนที่มีเงินวางมากมาย เพราะต้องการช่วงชิงการเป็นสามคนในทุกค่ำคืน”ไคเฉิงถอนหายใจวังหลวง“ไปเจรจาเช่นนั้นหรือ”“พ่ะย่ะค่ะ”ไคเฉิงก้มหน้าประสานมือ“ข้าไม่ได้ให้ไปเจรจา ข้าให้ไปจัดการกับนางไม่ได้ให้ไปเจรจา”“ฝ่าบาทจิตใจไร้คุณธรรม ….เช่นนั้นเชียวหรือนางแค่ทำมาหากินเลี้ยงปากท้อง แต่เพราะพวกบุรุษพวกนี้ … ล้วนไม่รู้จักอิ่มเต็มยอมมอบเงินให้นาง จะให้นางไม่รับก็ไม่ได้ ฝ่าบาทเราทำแบบนี้เท่ากับรังแกคนอ่อนแอหรือ”หลี่หลงเชียวหันมามองสบตาไคเฉิงที่รีบหลบตาก็ที่พูดมาเท่ากับตำหนิฮ่องเต้“ดี พูดได้ดี นอกจากจัดการกับนางเจ้ายังทำไม่ได้แล้วยังต้องยอมลงให้กับกฎเกณฑ์ของนางวางเงินให้นางได้หาเลี้ยงตัวเองหากเจ้าขนเงินไปให้นางมากกว่านั้นเจ้ายังคิดว่าจะได้พบนางไหม”“ได้พ่ะย่ะค่ะหากใครที่มีเงินมากพอย่อมพบนางได้อย่างเช่น สวามีขององค์หญิงอิงเผย ต้านเถียนผู้นั้นเพียงแค่อยากเห็นใบหน้าของนางเพียงอึดใจเขาถึงกับยอมจ่ายเป็นทองถึง5000ชั่งเลยทีเดียว”“ข้าจะไปพบนาง ด้วยตัวเอ
“นางมาถึงหรือยัง แล้วพวกเขารู้ได้อย่างไร”ขันทีก้มหน้าจะไม่รู้ได้อย่างไรก็ทหารของวังหลวงต่างจัดทัพราวกับจะไปรบเพื่อคุมตัวท่านแม่คณิกา เพียงคนเดียวนั่นเพราะคำสั่งที่แข็งขันของไคเฉิงแล้วยังเรื่องเล่าที่ไคเฉิงเสียทีให้กับท่านแม่หอคณิกาสุริยันจันทราคนนั้นจนต้องจ่ายตั้งไปตั้งมากมายแต่เรื่องที่ไปทำไม่ลุล่วง พวกเขาจึงต้องนำกำลังไปมากหน่อยกันความผิดพลาด“มาถึงแล้ว แต่เข้ามาข้างในไม่ได้เพราะ เพราะเหล่าขุนนางที่เคยชื่นชอบท่านแม่หอคณิกาคนนั้นต่างไปยืนดักรอไม่ให้นางเข้ามาพบฝ่าบาทขุนนางเหล่านั้นยังฝากข้าน้อยมาถามว่าฝ่าบาทได้รับฎีกาที่ถวายไปหรือยัง”“บังอาจ ส่งองครักษ์ไปคุมตัวขุนนางพวกนั้นไว้ ตามองค์หญิงอิงเผยให้มาจัดการกับ ต้านเถียนขายหน้าสิ้นดี แล้วลากตัวนางเข้ามาใครกล้าออกหน้าปกป้องนางอีกข้าจะถอดถอนตำแหน่งขุนนางเสีย”ขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ ไคเฉิงรีบขยับไปยืนข้างๆ อยากจะออกความเห็นแต่ไม่กล้า“แม่นางจูอันเล่อท่านแม่หอคณิกาสุริยันจันทรามาถึงแล้วววววว”เพียงอึดใจเดียวอันเล่อก็ก้าวเท้าเข้ามาในท้องพระโรงท่าทีเยื้องย่างราวกับนางหงส์ใบหน้าเชิดสูงไม่เชิดหยิ่งขัดตา ผ้าแพรสีชมพูบางเบาปิดบังใบหน้า งดงามมีเพีย
“พี่ใหญ่หากยุ่งยากนักก็ประหารนางเสีย ในเมื่อจะขังก็ไม่ให้ขังแต่หากปล่อยนางไปก็จะเป็นเช่นเดิมมิสู้ประหารนางเสีย แคว้นเป่ยเหลียงหลายมีมานี้สงบร่มเย็น ไร้ศึกสงครามพวกท่านขุนนางจึงอยู่สบาย ข้าในฐานะองค์หญิง เรื่องนี้หากฝ่าบาทไม่อาจตัดสินใจเพราะเกรงใจพวกท่านแต่ข้าไม่เกรงใจ นำนางไปประหารเสีย” อันเล่อก้มหน้าซ่อนยิ้มเสียหลี่หลงเชียวถอนหายใจ“มีใครจะคัดค้านบัญชาขององค์หญิงหรือไม่”หลี่หลงเชียวพูดขึ้นดังๆ“เช่นนั้นก็กักบริเวณนางก็ได้”เสียงขุนนางคนหนึงเอ่ยขึ้นอ้อมแอ้ม"นางเป็นบ่อนทำลายราชสำนัก ข้าออกกฎอีกข้อห้ามผู้ใดย่างกรายเข้าใกล้บริเวณ ตำหนักฟ้าสางเช่นนั้นจะถือว่าขัดบัญชามีการลงทัณฑ์สถานหนัก”ไคเฉิงอมยิ้มในพระทัยของฝ่าบาทใครอาจหยั่งรู้ได้ในเมื่อสายตาที่ไคเฉิงเห็นยามที่มองอันเล่อนั้นช่างไม่ธรรมดา หากไม่ติดที่แม่นางนิรนามคนนั้นฝ่าบาทคงรับอันเล่อเป็นสนมไปแล้ว“เจ้าว่าอย่างไรท่านแม่หอคณิกาคนงาม”อิงเผยหันไปถามอันเล่อที่ก้มหน้านิ่ง“ข้าไร้หนทางอยู่ที่นี่ไม่อาจทำการค้าได้อีกต่อไป แต่ที่ผ่านมาก็ถือว่ากอบโกยไม่น้อยเช่นนั้นจึงควรสมนาคุณให้กับเหล่าลูกค้าของข้า”หันหลังให้หลี่หลงเชียวหันหน้าให้กับเหล่าขุ
“พี่ใหญ่หากยุ่งยากนักก็ประหารนางเสีย ในเมื่อจะขังก็ไม่ให้ขังแต่หากปล่อยนางไปก็จะเป็นเช่นเดิมมิสู้ประหารนางเสีย แคว้นเป่ยเหลียงหลายมีมานี้สงบร่มเย็น ไร้ศึกสงครามพวกท่านขุนนางจึงอยู่สบาย ข้าในฐานะองค์หญิง เรื่องนี้หากฝ่าบาทไม่อาจตัดสินใจเพราะเกรงใจพวกท่านแต่ข้าไม่เกรงใจ นำนางไปประหารเสีย” อันเล่อก้มหน้าซ่อนยิ้มเสียหลี่หลงเชียวถอนหายใจ“มีใครจะคัดค้านบัญชาขององค์หญิงหรือไม่”หลี่หลงเชียวพูดขึ้นดังๆ“เช่นนั้นก็กักบริเวณนางก็ได้”เสียงขุนนางคนหนึงเอ่ยขึ้นอ้อมแอ้ม"นางเป็นบ่อนทำลายราชสำนัก ข้าออกกฎอีกข้อห้ามผู้ใดย่างกรายเข้าใกล้บริเวณ ตำหนักฟ้าสางเช่นนั้นจะถือว่าขัดบัญชามีการลงทัณฑ์สถานหนัก”ไคเฉิงอมยิ้มในพระทัยของฝ่าบาทใครอาจหยั่งรู้ได้ในเมื่อสายตาที่ไคเฉิงเห็นยามที่มองอันเล่อนั้นช่างไม่ธรรมดา หากไม่ติดที่แม่นางนิรนามคนนั้นฝ่าบาทคงรับอันเล่อเป็นสนมไปแล้ว“เจ้าว่าอย่างไรท่านแม่หอคณิกาคนงาม”อิงเผยหันไปถามอันเล่อที่ก้มหน้านิ่ง“ข้าไร้หนทางอยู่ที่นี่ไม่อาจทำการค้าได้อีกต่อไป แต่ที่ผ่านมาก็ถือว่ากอบโกยไม่น้อยเช่นนั้นจึงควรสมนาคุณให้กับเหล่าลูกค้าของข้า”หันหลังให้หลี่หลงเชียวหันหน้าให้กับเหล่าขุน
“อย่างนั้นสิเพคะต้องทำให้คังหยินวางใจแล้วยังต้องหาทางช่วยต้านเถียนช่วยองคืหญิงอิงเผยหาเรื่องให้ไทเอาออกไปบำเพ็ญเพียรแต่แอบเปลี่ยนเส้นทางมาที่หอคณิกา เพื่อความปลอดภัยหากแผนล่มคังหยินรุ้ว่าฝ่าบาทยังไม่ตายพวกเขาที่เป้นคนที่รักของฝ่าบาทจะต้องกลายเป็นเครื่องต่อรอง”“หากไม่มีเจ้าข้าคงลำบากไม่น้อยขอบใจเจ้าจริงๆอันเล่อมาถึงตอนนี้ เสด็จแม่ก็คงเสียใจที่เคยใช้วาจาดูแคลนเจ้า”“อันเล่อไม่เคยรู้สึกเช่นนั้นการที่ทำได้อย่างทุกวันนี้เพราะไม่ยอมแพ้ คนที่น่านับถือที่สุดคือคนที่ไม่ยอมแพ้”“เฮ้อ ไม่น่าเชื่อหญิงเมามายคนหนึ่งในคืนนั้นจะทำให้สุขสมจนต้องให้คนออกตามหานางและไม่น่าเชื่อว่าหญิงคนเดียวกันนี้จะคือหนึ่งในดวงใจข้าจนไม่มีสายตาไว้มองใคร และยิ่งไม่น่าเชื่อกว่านั้นคือ หลีหลงเชียวคนนี้ตกเป็นทาสของเจ้าแล้วนับจากนี้ไป อันเล่อของข้า”“หือออ ฝ่าบาทขี้โกงแอบกอดแอบหอมไม่เอ่ยถึงตำแหน่งฮองเฮาแม้แต่น้อย”“ก้มันของตายนี่ตำแหน่งฮองเฮาอย่างไรก็ต้องเป็นของอันเล่อคนเดียวไหนบอกว่าไม่ได้อยากเป็นฮองเฮาของใคร”“อะนั่นพูดถึงหากเป็นคังหยินนี่เพคะเขาให้ทองตั้งมากแต่หากเป็นคนนี้…..”ซบหน้าลงบนอกกว้างหลี่หลงเชียวจุมพิตที่ปากบาง อ
“ฉึกๆ”ต้านเถียนที่อยู่ด้านหลังใช้กระบี่ในมือเสียบเข้าที่กลางแผ่นหลังของคังหยิน แล้วชักกระบี่ออก ร่างสูงทรุดกายลงกับพื้นดึงเอาอันเล่อล้มตามลงไปด้วยหลี่หลงเชียวรีบเข้าประคอง อันเล่อให้ลุกขึ้นยืน สำรวจทั่วร่างว่าอันเล่อบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ด้วยความห่วงใย“อะอันเล่อ เจ้าให้เขาฆ่าข้าหรือ ให้ต้านเถียนฆ่าข้าหรือ เจ้าไม่กลัวว่าจะไม่ได้พบข้าอีกหรือเจ้าไม่เคยรักข้าสินะถึงไม่กลัวว่าจะไม่ได้พบข้าอีก”น้ำตาไหลนองอาบแก้ม เลือดสดๆ ไหลออกจากบาดแผล อันเล่อเบือนหน้าซบอกหลี่หลงเชียวเสีย“เจ้าไม่เสียใจใช่ไหมที่ข้าจะจากไป จริงสิเจ้าไม่เคยรักข้ามีเพียงข้าที่โง่งม”“ม่ายๆๆๆๆๆๆๆ”จูไห่หลิงวิ่งเข้ามา พยุงคังหยินไว้ในอ้อมแขน“ฝะฝะฝ่าบาทท่านจะตายไม่ได้ ข้ายังอยากเป็นฮองเฮาท่านจะตายไม่ได้”จูไห่หลิงร้องไห้สะอึกสะอื้น“อั๊กๆๆๆ อันเล่อ ได้โปรดอย่าทำร้ายไห่หลิงอีกข้าขอร้อง ถือเสียว่าข้าชดใช้ในส่วนที่นางทำกับเจ้าไว้แล้ว”อันเล่อหลับตาลงช้าๆ“นางแพศยา เจ้าทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้อันเล่อเจ้าฆ่าเขาเขาเป็นสามีข้าใครใช้ให้เจ้าทำร้ายเขา ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย”ลุกขึ้นคว้ากระบี่ตรงเข้าหาอันเล่อ ต้านเถียนเสียบคมกระบี่อีกครั้ง“ต้านเถียนอ
จะบอกอย่างไรเขาพอร่วมรักกับจูไห่หลิงแล้วถึงได้รู้ว่าคนที่ไร้ซึ่งความรักไม่อาจให้ความสุขสมได้เท่าหญิงที่ทั้งรักและใคร่ในคราวเดียวกัน“หยุดร้องได้แล้วพรุ่งนี้ข้าให้ฟงฉีรับเจ้าในตำแหน่งสนม”จูไห่หลิงกัดฟันแน่นแค่ตำแหน่งสนมหรือไร แล้วตำแหน่งฮองเฮานั่นจะมอบให้กับอันเล่ออย่างนั้นหรือแต่ไม่เอื้อนเอ่ยออกมา“เพคะไห่หลิงจะรออย่างอดทน”เกี้ยวของคังหยินถูกเร่งความเร็วยังวังหลวง อันเล่อจรดพู่กันลงบนกระดาษสีขาวสะอาดเป็นตัวอักษรสาวยงาม“อันเล่อ”ประตูตำหนักเปิดอ้าออกคังหยินวิ่งเข้ามาสวมกอดอันเล่อที่เบี่ยงตัวหลบ บนกระดาษนั้น“ไร้รักไร้หัวใจหมดสิ้นแล้วความรักก่อนพรุ่งนี้จึงนั่งทอดถอนหายใจพรุ่งนี้จึง ………“เจ้าโกรธข้าหรือ”อันเล่อยิ้มหวานหยด“ไม่เพคะ”“เจ้าหมดรักข้าแล้วหรือจึงเย็นชาเช่นนี้“ไม่เพคะ”“อันเล่ออย่าทำแบบนี้”ตรงเข้าสวมกอดทว่าอันเล่อกลับผลักร่างสูงของคังหยิน“ทำไมเจ้าไม่รักข้าแล้วหรือ หรือเป็นเพราะข้า… กับพี่สาวเจ้า อันเล่อถึงอย่างไรข้าก็รักเจ้าคนเดียวไม่เคยมีคนอื่นในใจ เจ้าอภัยให้ข้าได้ไหม”รู้ว่าสิ่งที่ทำไม่อาจรอดพ้นสายตาอันเล่อ“ ไม่อภัยหากแต่ ฝ่าบาท อันเล่อขอโทษ เพราะอันเล่อไม่เคยรักฝ่าบา
“ขออภัยขอรับท่านแม่ทัพท่านสั่งให้เราเข้มงวดเรื่องการเข้าออกข้าน้อยก็เลยทำตามหน้าที่”“อืมมม”เกี้ยวเคลื่อนออกจากวังหลวงไปยังหอสุริยันจันทรา ต้านเถียนผลักร่างสูงที่ไร้สติของชงหยวนอวี่ลงไปนอนบนพื้นเกี้ยวลุกขึ้นมานั่งกอดอก“ตามอิงเผย”หลี่หลงเชียวสั่งเจียวเจียวให้ไปตามองค์หญิงอิงเผยที่หลับไปแล้ว“ฝ่าบาทท่านแม่อันเล่อ ฝากมาบอกว่านางรอท่านอยู่”หลี่หลงเชียวยิ้มประหลาดใจและดีใจที่พบต้านเถียนถึงจะไม่ชอบเขาแต่ก็อดสงสารน้องสาวไม่ได้“ท่านพี่”อิงเผย พุ่งตัวเข้าหาอ้อมกอดของต้านเถียนที่โอบร่างร่างอวบ หลี่หลงเชียวเผลอถอนหายใจ“ขะขะข้าว่าชาตินี้จะไม่ได้พบท่านอีกแล้ว ท่านทำให้ข้าต้องเศร้าโศกทำไมไม่มาเร็วกว่านี้”“ท่านแม่อันเล่อให้ข้าหลบที่ตำหนักฟ้าสางนางช่วยข้าก่อนที่เพชฌฆาตจะลงดาบ วันนั้นท่านแม่อันเล่อคุมการประหารด้วยตัวเองนางจึงทำตามใจไม่มีใครกล้าขัดนาง แม้แต่ศพของข้ายังไม่มีใครกล้าตรวจสอบเพราะคำสั่งของท่านแม่อันเล่อ ส่วนศพที่เจ้าฝังไปนั้นคือศพไร้ญาติที่ท่านแม่อันเล่อให้คนนำมาสวมรอยเป็นข้า เพราะนางช่วยข้าจึงต้องเชื่อฟังนางนางไม่ให้มาเช่นไรจึงมาได้และข้ายกย่องนางเท่ากับแม่คนหนึ่งนางคืนชีวิตให้ข้าจึงไม
บ้านจู“ฝ่าบาท ไห่หลิงขอบพระทัยฝ่าบาทที่เป็นธุระจัดการเรื่องพิธีศพของท่านพ่อ”สายตาอ่อนหวานเว้าวอน คังหยินถอนหายใจ“อันเล่อนางไม่น่าว่าจะเป็นคนอย่างนี้ ปกติแล้วนางเป็นคนที่มีเหตุผล”“น้องคกำลังเสียใจที่บิดาจาไปไม่ได้ร่ำลา ฝ่าบาทอย่าได้ถือโทษน้องเลยค่ะหากจะดทษใครสักคนต้องโทษไห่หลิงที่สั่งสอนน้องไม่ได้เพราะต่ำต้อยกว่านาง อันเล่อนางเป็นคนที่เข้มแข้งเกินกว่าหฺญิงใดก็ไม่ผิดที่น้องจะแสดงออกอย่างนี้”“ข้าไม่ชอบที่นางเป็นแบบนี้ ต่อไปก็คงร้าวฉานกับนาง”“ฝ่าบาทอย่าทรงกริ้วเพคะ ไห่หลิงในตอนนี้ไร้ญาติขาดมิตรังไม่เคยคิดจะโกรธน้องฝ่าบาทยังไม่รู้จักนางไห่หลิงรู้จักนางดีอนาคตต่อจากนี้นางตัดพี่ตัดน้องไห่หลิงคงไร้ที่พึ่ง”“ไม่ต้องกลัวข้าจะพาเจ้าเข้าวัง ในนามของข้าอันเล่อไม่มีทางกล้าไล่เจ้าอีกแล้ว”จูไห่หลิงย่อกายลงงดงาม คังหยันเข้ามาโอบที่ไหล่บางไห่หลิงยกแขนสองข้างกอดรอบเอวหนาซบหน้าลงบนอกกว้างเงยหน้าเศร้าสร้อยขึ้นสบตาคังหยิน“ไห่หลิงตอ่นี้คงต้องฝากชวีติไว้กับฝ่าบาทแล้ว”“ไม่เป็นไร ข้าเต็มใจ จูไห่หลิงล้วงมือเลยผ่านเข้าไปในอกเสื้อดวงตากลมโตสบตาคังหยินนิ่งก่อนจะรับตาเผยอรมฝีปากคังหยินโน้มตัวลงจูบหวานที่ริม
“ข้ารู้แล้ว อันเล่อทราบเรื่องนี้แล้วเคะ”ท่าทีนิ่งเฉยของอันเล่อ ทำเอาคังหยินขมวดคิ้วกับเรื่องที่เขาพาจูไห่หลิงเข้ามาในตำหนักฟ้าสางเพื่อบอกกล่าวเรื่องการใต้ของใต้เท้าจูให้กับอันเล่อทว่านางกลับเฉยชาจนน่าใจหาย“น้องพี่ท่านพ่อก่อนตาย พร่ำเรียกชื่อเจ้า อภัยให้เจ้า และอยากพบเจ้า”“ข้ารู้แล้ว ท่านมาพูดตอนนี้ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาท่านพ่อป่วยแรมเดือน แต่ก่อนตายไม่ถึงสองชั่วยามที่พร่ำเรียกหา ท่านตอนนั้นทำไมไม่ตามข้าเล่าจูไห่หลิง”“อันเล่อ เจ้าก็รู้ว่าท่านพ่อป่วยแรมเดือนข้าเองก็รู้ว่าแต่ว่าในเมื่อเจ้ามาที่นี่เพื่อมีชีวิตที่ดีออกจากบ้านมาเป็นนายหญิงหอคณิกามีเงินทองมากมาย ข้าจึงคิดว่าเจ้าอาจไม่อยากกลับไปพบกับความลำบากที่บ้านจูอีก”“เป็นพวกท่านที่ผลักไสข้าออกมาแล้วจะมาเรียกร้องสิ่งใดกันกลับไปได้แล้วจูไห่หลิงต่อไปเราสองคนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไปแล้ว”จูไห่หลิงกระหยิ่มในใจทำไมจะไม่รู้ด้วยการที่บิดาตายไปอันเล่อจึงโมโหเช่นนี้นางรักบิดาไม่น้อยก็ตั้งแต่เกิดมามีเพียงบิดาที่เลี้ยงดูมารดาของทั้งสองตายไปบิดาก็ไม่เคยมีภรรยาใหม่ ยิ่งนางโกรธยิ่งไม่ได้ดูดีในสายตาของคังหยิน จูไห่หลิงคุกเข่าลงกับพื้นต่อหน้าจูไ
“ข้าหมดใจกับเจ้าแล้ว เจ้าก็ได้แค่เพียงเท่านี้ต่างจากอันเล่อตอนนี้นางซื้อใจฝ่าบาทนั่งเคียงข้างบนบัลลังก์ราวกับฮองเฮาข้าในตอนนี้ถึงจะบอกว่าแค้นนางแค่ไหนในที่สุดก็ต้องยอมลงให้นางเจ้าเทำได้เช่นนางไหมเล่า”ซีหยินหลับตาลงช้าๆ“หย่ากับข้าเสียเถอะ”“ดีมากเจ้ายอมง่ายดายเช่นนี้จึงดี ข้าจะได้มีเอาเวลาทั้งหมดไปทุ่มเทให้อันเล่อเห็นว่าข้ายังอยากจะญาติดีกับนางไม่คิดแค้นเคืองนาง เผื่อโอกาสต่อๆ ไป”ซีหยินยิ้มหยัน“อย่าบอกนะว่าท่านจะ….”“ไม่แน่อันเล่อย่างไรก็มีข้าเป็นรักแรกที่นางทำแบบนั้นอาจเพราะแค้นเคืองข้า หากนางไม่มีใจให้ข้าทำไมไม่ห้ามฝ่าบาทเรื่องที่คืนตำแหน่งแม่ทัพให้ข้า”ซีหยินส่ายหน้าไปมา เสียดายเวลาที่เอาช่วงวัยสวยมาจมปรักกับคนเช่นชงหยวนอวี่หอสุริยันจันทรา“จูอันเล่อ จูอันเล่อฮืออออออข้ามาแล้วเจ้าใจร้ายไม่ออกมาพบข้าหรือไร” จูไห่หลิงร้องไห้ฟูมฟายป่านจะว่าตัวเองจะตายกระนั้น“นายหญิงไม่อยู่ที่นี่เจ้าค่ะ ท่านมีสิ่งใดก็พูดกับข้ามาเถิดข้าจะนำความไปบอกกับนายหญิงด้วยตัวเอง”เจียวเจียวยืนรอรับหน้าจูไห่หลิงคนในหอสุริยันจันทราใครบ้างไม่รู้ฤทธิ์เดชของนางใครบ้างไม่เกลียดนาง“นางไปไหนเสียน้องข้าไปไหนเสียเจ้าโกห
แสงไฟในห้องสลัวๆ คังหยินก้าวเดินอย่างมั่นคงในใจกระหยิ่มยิ้มย่องหยุดยืนที่หน้าห้องนอนของอันเล่อเพื่อให้ขันทีปลดเสื้อคลุมตัวนอกออกเสียคิดถึงความหฤหรรษ์ต่อจากนี้บทพิศวาสที่เขานั่งจินตนาการเกือบหนึ่งชั่วยามว่าจะปรนเปรออันเล่อเช่นไรให้นางตราตรึงเขาไม่ลืมเลือนร่างระหงนั่งหันข้างอยู่บนแท่นนอนเพียงเสี้ยวหน้าก็ทำคังหยินใจสั่น“อันเล่อถวายพระพรฝ่าบาท”คังหยินพุ่งตัวเข้ากอดประคองแทบจะไม่อยากปล่อยให้เวลาเสียไปกลิ่นกายหอมจนอยากจะซุกหน้าลงไปในตอนนี้ เอียงตัวซุกไซร้ซอกคอขาวกินหอมอ่อนๆ ที่ชวนเคลิบเคลิ้ม อันเล่อผลักร่างสูงแล้วดึงมือคังหยินมานั่งบนแท่นนอน“ข้า ไม่รับการถวายพระพรจากเจ้าแต่ขอเปลี่ยนมันเป็นการปรนนิบัติข้าอย่างถึงใจดีไหม”อันเล่อยิ้มหวานหยด“ทั้งคืนเพคะ”อันเล่อลงมานั่งด้านล่างคุกเข่าตรงหน้าคังหยิน เอื้อมมือเรียวปลดสายรัดเอวด้านหน้าคังหยินใจเต้นจนแทบจะหลุดออกจากอกกว้าง ริมฝีปากแดงเผยอออกช้าๆ น่าลิ้มรสจูบหวานเสียจริง“อันเล่อพร้อมแล้ว”คังหยินหลับตาลงช้าๆ เพื่อดื่มด่ำกับความหฤหรรษ์ที่อันเล่อกำลังจะมอบให้ ไฟในห้องมอดดับลงมือเย็นเฉียบลูบไล้แก่นกายอย่างแผ่วเบาเพียงแค่นั้นเขาก็แทบจะหยุดหายใจสัมผั
กับลุงกวงกับสาวใช้ในหอคณิกาอีกสองสามคนยกอาหารมาวางบนโต๊ะ อีกมากมาย ขุนนางต่างนั่งล้อมวงรู้สึกโล่งอกและดีใจกลับสิ่งที่ได้รับในวันนี้“ข้าน้อยโง่งมมมองคนผิดไปของฝ่าบาทลงทัณฑ์ด้วย”หลี่หลงเชียวยิ้ม“ให้ลงทัณฑ์พวกท่านที่ภักดีต่อข้าอย่างนั้นหรือ ไม่อาจกระทำ”“ข้าน้อยผิดไปแล้วแม่นางจูทำทุกอย่างจนมีวันนี้พวกเราซาบซึ้งน้ำใจยิ่งนักแต่ก่อนนห้านั้นกล่าวโทษนาง นางจะเจ็บปวดใจแค่ไหนที่พวกเราใช้คำพูดเหยียดหยามนางเพียงนั้น”“ข้ารู้ดีว่าอันเล่อต้องการให้เป็นแบบนี้อยู่แล้วนางตั้งใจคัดคนเพื่อการนี้ ใต้เท้าเฉินและพวกท่านทั้งหลายไม่ต้องกังวล เพียงแค่ต่อแต่นี้จะเชื่อฟังและยกย่องอันเล่อให้เคียข้างข้าก็พอแล้ว”ใต้เท้าเฉินกับเหล่าขุนนางต่างรีบทรดกายลงกับพื้นอีกครั้ง“นัอมบัญชาฝ่าบาท”ลุงกวงเดินเข้ามาใกล้ๆ หลี่หลงเชียวหลายวันมานี้ ก็มีแต่ลุงกวงและไคเฉิงเท่านั้นที่คอยรับใช้และอธิบายเรื่องต่างๆ ที่หลี่หลงเชียวยังไม่เข้าใจ“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ นายหญิงสั่งไว้ว่าทองของนายหญิงนอนรอนายหญิงให้มาเชยชม ฝ่าบาทเองก็ควรจะอยู่ที่นั่นรอพบนายหญิงไม่ควรออกมาเช่นนี้”ลุงกวงก้มหน้าประสานมือพูดเบาๆ ราวกับกระซิบ“ข้าเข้าใจแล้วแต่ทนไม่ได