“พี่ใหญ่หากยุ่งยากนักก็ประหารนางเสีย ในเมื่อจะขังก็ไม่ให้ขังแต่หากปล่อยนางไปก็จะเป็นเช่นเดิมมิสู้ประหารนางเสีย แคว้นเป่ยเหลียงหลายมีมานี้สงบร่มเย็น ไร้ศึกสงครามพวกท่านขุนนางจึงอยู่สบาย ข้าในฐานะองค์หญิง เรื่องนี้หากฝ่าบาทไม่อาจตัดสินใจเพราะเกรงใจพวกท่านแต่ข้าไม่เกรงใจ นำนางไปประหารเสีย” อันเล่อก้มหน้าซ่อนยิ้มเสียหลี่หลงเชียวถอนหายใจ“มีใครจะคัดค้านบัญชาขององค์หญิงหรือไม่”หลี่หลงเชียวพูดขึ้นดังๆ“เช่นนั้นก็กักบริเวณนางก็ได้”เสียงขุนนางคนหนึงเอ่ยขึ้นอ้อมแอ้ม"นางเป็นบ่อนทำลายราชสำนัก ข้าออกกฎอีกข้อห้ามผู้ใดย่างกรายเข้าใกล้บริเวณ ตำหนักฟ้าสางเช่นนั้นจะถือว่าขัดบัญชามีการลงทัณฑ์สถานหนัก”ไคเฉิงอมยิ้มในพระทัยของฝ่าบาทใครอาจหยั่งรู้ได้ในเมื่อสายตาที่ไคเฉิงเห็นยามที่มองอันเล่อนั้นช่างไม่ธรรมดา หากไม่ติดที่แม่นางนิรนามคนนั้นฝ่าบาทคงรับอันเล่อเป็นสนมไปแล้ว“เจ้าว่าอย่างไรท่านแม่หอคณิกาคนงาม”อิงเผยหันไปถามอันเล่อที่ก้มหน้านิ่ง“ข้าไร้หนทางอยู่ที่นี่ไม่อาจทำการค้าได้อีกต่อไป แต่ที่ผ่านมาก็ถือว่ากอบโกยไม่น้อยเช่นนั้นจึงควรสมนาคุณให้กับเหล่าลูกค้าของข้า”หันหลังให้หลี่หลงเชียวหันหน้าให้กับเหล่าขุ
“พี่ใหญ่หากยุ่งยากนักก็ประหารนางเสีย ในเมื่อจะขังก็ไม่ให้ขังแต่หากปล่อยนางไปก็จะเป็นเช่นเดิมมิสู้ประหารนางเสีย แคว้นเป่ยเหลียงหลายมีมานี้สงบร่มเย็น ไร้ศึกสงครามพวกท่านขุนนางจึงอยู่สบาย ข้าในฐานะองค์หญิง เรื่องนี้หากฝ่าบาทไม่อาจตัดสินใจเพราะเกรงใจพวกท่านแต่ข้าไม่เกรงใจ นำนางไปประหารเสีย” อันเล่อก้มหน้าซ่อนยิ้มเสียหลี่หลงเชียวถอนหายใจ“มีใครจะคัดค้านบัญชาขององค์หญิงหรือไม่”หลี่หลงเชียวพูดขึ้นดังๆ“เช่นนั้นก็กักบริเวณนางก็ได้”เสียงขุนนางคนหนึงเอ่ยขึ้นอ้อมแอ้ม"นางเป็นบ่อนทำลายราชสำนัก ข้าออกกฎอีกข้อห้ามผู้ใดย่างกรายเข้าใกล้บริเวณ ตำหนักฟ้าสางเช่นนั้นจะถือว่าขัดบัญชามีการลงทัณฑ์สถานหนัก”ไคเฉิงอมยิ้มในพระทัยของฝ่าบาทใครอาจหยั่งรู้ได้ในเมื่อสายตาที่ไคเฉิงเห็นยามที่มองอันเล่อนั้นช่างไม่ธรรมดา หากไม่ติดที่แม่นางนิรนามคนนั้นฝ่าบาทคงรับอันเล่อเป็นสนมไปแล้ว“เจ้าว่าอย่างไรท่านแม่หอคณิกาคนงาม”อิงเผยหันไปถามอันเล่อที่ก้มหน้านิ่ง“ข้าไร้หนทางอยู่ที่นี่ไม่อาจทำการค้าได้อีกต่อไป แต่ที่ผ่านมาก็ถือว่ากอบโกยไม่น้อยเช่นนั้นจึงควรสมนาคุณให้กับเหล่าลูกค้าของข้า”หันหลังให้หลี่หลงเชียวหันหน้าให้กับเหล่าขุ
“นางโง่ เจ้าคิดว่าข้อหา ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก กับข้อหาบ่อนทำลายราชสำนักเจ้าคิดว่าควรๆ ได้กลับออกมาอีกหรือ หอคณิกาแห่งนี้มีหลายอย่างที่ต้องปรับปรุงและท่านแม่พวกเจ้าไม่อยู่ก็ต้องซบเซา ข้าขายของนอกกายของอันเล่อไปไม่กี่ชิ้นพวกนำมาปรับปรุงหอสุริยันจันทราและแบ่งให้พวกเจ้าใช้ใครยังกล้าขัดอีก”“แต่”เจียวเจียวยังไม่เลิกรา“หอสุริยันจันทราจะต้องงดงามกว่านี้ดูดีกว่านี้และข้าจะเปิดให้มีบ่อนการพนันขึ้นมาอีกอย่างนอกจากให้ความสำราญแค่เพียงบุรุษจะต้องให้ความสำราญคนที่อยากจะเสี่ยงด้วย อ่อลืมไปจะต้องมีการขายฝิ่นเพื่อให้ผู้คนที่หลงใหลในกลิ่นหอมหวานของมันได้มีที่ซื้อขายง่ายดาย”“ท่านแม่ไม่ชอบการพนัน และยาเสพติดเพราะการพนันจะทำให้คนยิ่งงมงายไม่ทำงานและยังทำลายครอบครัว ทำลายคนดีดี”“เชอะทำลายครอบครัว สิ่งที่ท่านแม่เจ้าทำนี่ไม่ทำลายหรือไรหลอกสามีเขาเพื่อเอาเงินลูกเมียเขาลำบากกันไปหมดคิดว่าทำดีแล้วหรือ”“ท่านแม่แค่จะช่วยพวกนางต่างหากให้เห็นข้อเท็จจริงเรื่องบุรุษที่มักมากไม่รู้จักพอไม่ควรค่าแก่การเป็นสามี”“ท่านแม่เจ้าคิดว่านางเป็นใคร บุรุษใดบ้างจะมีรักเดียวชั่วชีวันฮ่าาาาน่าขันสิ้นดี”วังหลวง“แม่นาง
อันเล่อถอนหายใจฮ่องเต้หรือโจรป่าทำไมเอาแต่ใจเช่นนี้“เช่นนั้นอันเล่อขอตัว อันเล่อหรือจะกล้าบาดหมางกับเจ้าของแคว้นเป่ยเหลียงเช่นนั้นจึงทำมาหากินลำบาก”ย่อกายลงอ่อนหวาน หันหลังก้าวเดินเข้าไปในตำหนัก“ช้าก่อน”เสียงเข้ม ทำเอาอันเล่อหยุดชะงัก“เจ้า กับข้าเราเคยพบกันไหม”ดึงมืออันเล่อไว้อันเล่อผลักร่างสูงให้ออกห่าง หันหลังก้าวเดินก้าวขาเข้าไปในตำหนักปิดประตูแน่นหนา หลี่หลงเชียวยกมือขึ้นลูบที่ริมฝีปากที่ชุ่มน้ำรสจูบยังหวานติดที่ริมฝีปาก นางกล้าปฏิเสธบอกว่าไม่เคยพบเขามาก่อนแล้วคืนนั้นเล่าหมายความว่าอย่างไรหรือเขาเข้าใจผิดเพราะต้องตานางหรือเขาคิดไปเองว่าเป็นนางหรือว่านางอยากลืมเรื่องราวที่เจ็บปวดในคืนนั้น นางเจ็บปวดอย่างนั้นหรือแล้วเสียงร้องครางของความสุขสมนั่นคืออะไรกัน เขากับนางมีความสุขด้วยกันในคืนนั้นอย่างไม่อาจปฏิเสธอันเล่อนั่งนิ่ง รสจูบหวานซาบซ่านจนคิดไปไกล เป็นไปไม่ได้อาจแค่คนที่มีรสจูบเหมือนๆ กันก็เท่านั้นฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายเช่นไรจึงจะออกไปหาเศษหาเลยที่หอนางโลมกันเล่า คืนนั้นอันเล่อเมามายไม่ได้จำได้เสียหน่อยว่า เขาคนนั้นเป็นใครหลี่หลงเชียวห้องทรงอักษร“ฝ่าบาทนี่คือฎีกาของวันนี้”ก
“น่าไม่อาย อุ๊ยพูดผิดไปน่าสงสารแต่งตัวรอเกี้ยวแต่เขากลับไปรับเจ้าสาวอีกตระกูล ข้าล่ะสงสารเจ้าเสียจริงน้องพี่ คุณหนูบ้านกวงงดงามอ่อนหวานข้าบอกเจ้าแล้วบุรุษใดจึงจะตาบอดเลือกหญิงที่ก๋ากั่นเช่นเจ้ากัน”จูอันเล่อ ยิ้มน้อยๆ หันกลับไปจ้องตาพี่สาวต่างมารดาจูไห่หลิงอยากจะโต้เถียง เป็นเวลาปกติมีหรือจะยอมนางแต่ยามนี้หัวใจราวกับแหว่งเว้าหายไป ไร้เรี่ยวแรงจะกล่าวใด“ทำใจเสีย เขาเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ บ้านจูของเราต่ำต้อยเพียงนี้ถึงเจ้าจะพูดว่าเขารักมั่นเพียงเจ้าแต่ตอนนี้เขาเองก็พูดว่ารักมั่นเพียงคุณหนูบ้านกวงที่เหมาะสมกับฐานะและตำแหน่งแม่ทัพของเขาเท่านั้น”จูอันเล่อสะอื้นในอก ชุดสีแดงที่สวมไว้ยิ่งตอกย้ำความพ่ายแพ้ เป็นจูอันเล่อเองที่ไม่ถามเขาให้แน่ชัดเขาบอกว่าเขาจะแต่งงานอันเล่อถึงกับสวมชุดแดงรอเขาคิดว่าอย่างไรก็ต้องเป็นอันเล่อ บิดาโกรธจนตัวสั่นยืนรอขบวนเกี้ยวของท่านแม่ทัพ“นายท่านขอรับจวนของท่านแม่ทัพจัดไว้สำหรับงานแต่งงานก็จริงแต่ตอนนี้ท่านแม่ทัพกำลังเข้าพิธีแต่งงานกับคุณหนูบ้านกวง”บ่าวในบ้านที่ให้ไปสืบข่าวกับมาด้วยสีหน้าเป็นกังวลอันเล่อทรุดกายลงกับพื้นหูอือตาลาย บิดาโกรธจนตัวสั่นลั่นจะไม่คบหาบ้านกวง
“นะนะนายท่าน จะดีหรือ”บุรุษชุดดำองอาจที่ติดตามมานามว่าไคเฉิงทักท้วง“ดีแน่นอน นางเป็นคนเสนอให้ข้าด้วยตัวเอง และข้าก็มาที่นี่เพื่อหาความสำราญเช่นไรจึงเรียกว่าไม่ดี”เดินขึ้นไปชั้นบน เฒ่าแก่รีบเดินมาประสานมือนอบน้อม“นายท่านวันนี้ ต้องการสิ่งใดเพิ่มเติม …หรือไม่”หลี่หลงเซียวยิ้มบางๆ“เฒ่าแก่ห้องที่ดีที่สุด พิเศษที่สุด”ยื่นก้อนทองร้อยชั่งตรงหน้าเฒ่าแก่ยิ้มน้อยๆ รีบกุลีกุจอเดินนำไปที่ห้องที่ดีที่สุดพิเศษที่สุด“นายท่าน นางคงเป็นแค่หญิงนางโลมที่กำลังเมามาย เช่นไรไม่เลือกหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่เล่าขอรับ”ไคเฉิงยังไม่วายทักท้วงอีกครั้ง“ข้ายินดีจ่ายอย่าพูดมากสิ ช่วยให้ข้าได้รับความสำราญ ข้ายินดีจ่ายให้เจ้าตั้งหนึ่งชั่งเชียวนะ”ชี้มือแกว่งไปมาดวงตาหรี่ปรือ“นายท่าน”ไคเฉิงยังเป็นห่วง“นางจ่ายหนักเพียงนี้ ข้าไม่ส่งเสริมนางคงไม่ได้แล้ว”ตั้งใจแค่เพียงเล่นๆ หาความสำราญในค่ำคืนเงียบเหงาเช่นกัน“ดีมากดีมากต้องทำให้ข้าสำราญนะข้าจ่ายไปตั้งมากมายเพียงนั้นฮ่าาาา”หลี่หลงเซียวก้าวเข้าไปในห้องที่กว้างขวาง ที่ด้านในมีน้ำพุร้อนในอ่างศิลาลอยวน พร้อมกลีบดอกไม้หอมยวนใจ ด้านในสุดเป็นแท่นนอนหนานุ่มกว้างใหญ่ ไคเฉิงยืนรีร
“อืออออ ข้าอยากจะ…“เปลี่ยนใจหรืออยากจะเปลี่ยนใจใช่หรือไม่ ข้าคงผิดหวังในตัวเจ้าน่าดูหากว่าเจ้าเปลี่ยนใจ”คำดูถูกชวนให้อันเล่อที่ กำลังตั้งใจประชดตัวเองมีความฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง“เอิ่มมมมอยากจะร้อง”“สำราญหรือไม่”อันเล่อบิดตัวกอดรัดอีกคนไม่โต้ตอบว่าเช่นไร“สำราญหรือไม่เจ้าก็แค่ร้องครางไม่ต้องอายแค่เพียงส่งเสียงร้องครางให้ข้ารู้ว่าเจ้าสุขสม”อาการโลกหมุนศีรษะหนักอึ้งเมื่อเจอรสสาวทจึงเคลิบเคลิ้มและหอมหวานกว่าปกติร่องสวาทฉ่ำเยิ้มกำลังจะสุกงอมหอมหวาน มืออุ่นยังวนที่ตรงนั้นไม่ไปไหน ทำไมเขาปลุกเร้าอารมณ์ได้ดีเพียงนี้จะเก่งเกินไปแล้ว อันเล่อที่ไม่เคยผ่านมือชายถึงกับกระดกเอวรับกับนิ้วเรียวของหลี่หลงเซียว“ข้าๆๆ ขะข้า เบามือกับข้าหน่อยได้ไหม ข้า รู้ว่ากำลังจะไม่ไหวแล้ว”กระดกเอวสอดรับเหมือนเร่งเร้า อีกคนยอมตามใจนิ้วเรียวสอดลงไปจนสุดนิ้ว“อ่าาาาาเจ็บ”เผลอส่งเสียงร้องคราง“หืออออไม่ช่ำชองเหมือนปากเจ้าพูด แบบนี้จึงเรียกว่าอย่างไรดี แค่นิ้วก็บอกว่าเจ็บแล้วหากเป็นแก่นกายที่ใหญ่กว่าแข็งกว่านิ้วเล่า เจ้ามิตายเลยหรือ หรือว่าแค่หญิงปากกล้าทว่าใจเสาะ”“ข้า แค่เพียงให้ท่านปรานี”เสียงสั่นกระเส่าริมฝีปากแดงเม้มเข้า
“ฝ่าบาท ฝ่าบาท พ่ะย่ะค่ะข้าน้อยสองคนอยากให้ฝ่าบาททรงตัดสินเรื่องความขัดแย้งของเราทั้งสอง”ขุนนางวันกลางคนเกือบชราเดินเข้ามาประสานมือตรงหน้า“มีเรื่องเร่งด่วนใดกันฝ่าบาททรงกำลังดื่มชายามบ่าย” ขันทีข้างกายส่งเสียงปรามขุนนางทั้งสอง“ใต้เท้าเหวินผู้ดูแลกรมคลังสองสามวันมานี้อคติกับข้าไม่ยอมเพิ่มเบี้ยหวัดและเงินตามที่ข้าขอสำหรับเหล่านางในห้องเครื่องที่ทำงานเหนื่อยหนัก”“อคติ มีอะไรให้ต้องอคติข้าเห็นว่านางในห้องเครื่อง กินอิ่มกว่าใครไม่จำเป็นต้องใช้เงินซื้ออาหารเพิ่มได้น้อยกว่า นางในที่ทำนห้าที่อื่นเพียงน้อยนิดเท่านั้นจะเพิ่มไปเพื่ออะไรกัน”“ท่านอย่างไรก็ไร้เหตุผลเอาเรื่องส่วนตัวมาพัวพันกับเรื่องงาน”ใต้เท้าเหวินยิ้มหยันลอยหน้าลอยตา“ท่านทั้งสองบาดหมางกันเรื่องอะไร”หลี่หลงเซียวถามขึ้นดังๆไข้าน้อยมิได้บาดหมางพ่ะย่ะค่ะ มีแต่ใตเท้ากู้ที่เลอะเลือนคิดว่าข้าน้อยคิดเล็กคิดน้อยเพียงนั้น”“พูดมาอย่าอ้อมค้อม กู้เฉวียนพูดมาเดี๋ยวนี้”“ เอ่อ เอ่อข้าน้อยกับใต้เท้าเหวิน เราแข่งขันกันเพื่อที่จะชนะใจเฒ่าแก่เนี๊ยของหอโคมแดงสุริยันจันทรา”“ไร้สาระสิ้นดี แค่เพียงหญิงงามทำให้พวกท่านบาดหมางถึงกับต้องให้ข้าตัดสิน