ในคืนซอกซ้ำหรือหวานฉ่ำยังแยกแยะไม่ได้ อันเล่อกลับไปที่ตระกูลแต่กลับเหมือนกับไปเพื่อให้บิดา ไล่ออกจากตระกูลต่อหน้าคนรักเก่าแม่ทัพชงหยวนอวี ไม่ได้เสียใจหรือเจ็บปวดอะไรตอนนั้นแค่รู้สึกว่า ทำไมต้องซวยแล้วซวยอีกก็แค่โซซัดโซเซไป ขออาศัยในหอนางโลมที่มีชื่อว่านางครวญก็เท่านั้น ทำงานทุกอย่างแลกเงินท่านแม่หอนางครวญที่รักและเมตตาอันเล่อกลัวใคร จนในที่สุดท่านแม่หอนางครวญก็จากไปทิ้งหอคณิกาที่ทรุดโทรมขาดรายได้ ให้อันเล่อดูแลจึงพลิกฟื้นและเปลี่ยนชื่อหอคณิกาเสียใหม่เป็นหอ สุริยันจันทรา“ท่านแม่เจ้าขา นายหญิงบ้านอวีขอพบท่านแม่”คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน อวีซีหยินมาทำไมร่างอ้อนแอ้นอรชรที่เคยเห็นก่อนนั้น ยืนหันหลังให้ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าค่อยๆ หันหน้ามาช้าๆ“มีอะไร เจ้าอยากพบข้ามีอะไรให้ รับใช้ ฮูหยินแม่ทัพชงหยวนอวี”อวีซีหยินทรุดกายลงกับพื้นสีหน้าเศร้าสร้อย“อันเล่อ แม่นางอันเล่อได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย เจ้าโกรธข้าใช่ไหมจึงทำเช่นนี้ ท่านพ่อบิดาข้าวันๆ เอาแต่พร่ำเพ้อถึงเจ้า แล้วยังทำร้ายท่านแม่ข้าเพราะไม่ให้มาพบเจ้าที่หอสุริยันจันทรา หากเจ้าไม่พอใจอะไรข้าก็ ก็…มาลงทีข้าอย่าทำแบบนี้ตอนนี้ข้าอายเขาเหลือเกินชา
“ฮือๆๆๆๆๆๆ ฝ่าบาท พี่ใหญ่ท่านต้องช่วยข้า”องค์หญิงผิงเผยร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่าวิ่งมากอดแขนหลี่หลงเซียวที่กำลังอ่านฎีกาอย่างตั้งอกตั้งใจ“อิงเผย หยุดร้องแล้วพูดมา”“อึกกๆๆ ฮึกๆๆๆๆๆๆๆ อึกๆๆๆๆๆๆ”ยิ่งสะอื้นหนักกว่าเดิม“พูดมา หากยังร้องแบบนี้ก็จะช้าไปอีก สิ่งที่จะให้ช่วยก็ไม่ได้ช่วยให้สำเร็จเสียที”ปลอบเบาๆ“ต้าเถียน น้องเขยของฝ่าบาทหลายวันมานี้แวะเวียนแต่หอคณิกาแต่งกันมาแค่เพียงหนึ่งปีเขาเปลี่ยนไปเพียงนี้”“เป็นเรื่องธรรมดาของบุรุษก็ต้องมีเรื่องแบบนี้บ้าง”“ตะตะแต่ต้าเถียนคนใจร้ายนั่นจะต้องแวะไปที่หอสุริยันจันทรา ในทุกค่ำคืนนี่ก็สามคืนผ่านไปแล้วพี่ใหญ่ท่านคิดว่าปกติหรือ”“หอสุริยันจันทราอีกแล้วหรือ หอแห่งนี้คือสิ่งที่บั่นทอนราชสำนัก ส่งคนสืบสวนหาความจริงจับคนทำผิดมาลงโทษ”“ฝ่าบาทหอคณิกาบุรุษล้วนผ่านเข้าออกจะมีคนผิดเรื่องใดกัน”ไคเฉิงออกความเห็น“เช่นนั้นก็จับเฒ่าแก่เนี๊ยหอคณิกาสุริยันจันทรามาสำเร็จโทษ”“ดี พี่ใหญ่จัดการให้เร็วที่สุดไม่เช่นนั้นก็สั่งปิดหอนางโลมแห่งนั้นเสียอึกๆๆๆๆ”องค์หญิงอิงเผยพูดขึ้นทั้งที่ยังสะอึกสะอื้น“ข้อหาอะไรพ่ะย่ะค่ะ”ไคเฉิงที่จู่ๆ ก็อยากจะเป็นกลาง“ ยังจะถามให้มากคว
“แล้วข้าต้องทำเช่นไร”“รอยามห้ายท่านค่อยมาวางเงินใหม่คืนนี้ท่านแม่รับแขกเพียงสามคนท่านรีบมาเพราะใต้เท้ากวงก็หนึ่งแล้ว แต่ไม่รับรองว่าจะได้พบท่านแม่ มีหลายคนที่มีเงินวางมากมาย เพราะต้องการช่วงชิงการเป็นสามคนในทุกค่ำคืน”ไคเฉิงถอนหายใจวังหลวง“ไปเจรจาเช่นนั้นหรือ”“พ่ะย่ะค่ะ”ไคเฉิงก้มหน้าประสานมือ“ข้าไม่ได้ให้ไปเจรจา ข้าให้ไปจัดการกับนางไม่ได้ให้ไปเจรจา”“ฝ่าบาทจิตใจไร้คุณธรรม ….เช่นนั้นเชียวหรือนางแค่ทำมาหากินเลี้ยงปากท้อง แต่เพราะพวกบุรุษพวกนี้ … ล้วนไม่รู้จักอิ่มเต็มยอมมอบเงินให้นาง จะให้นางไม่รับก็ไม่ได้ ฝ่าบาทเราทำแบบนี้เท่ากับรังแกคนอ่อนแอหรือ”หลี่หลงเชียวหันมามองสบตาไคเฉิงที่รีบหลบตาก็ที่พูดมาเท่ากับตำหนิฮ่องเต้“ดี พูดได้ดี นอกจากจัดการกับนางเจ้ายังทำไม่ได้แล้วยังต้องยอมลงให้กับกฎเกณฑ์ของนางวางเงินให้นางได้หาเลี้ยงตัวเองหากเจ้าขนเงินไปให้นางมากกว่านั้นเจ้ายังคิดว่าจะได้พบนางไหม”“ได้พ่ะย่ะค่ะหากใครที่มีเงินมากพอย่อมพบนางได้อย่างเช่น สวามีขององค์หญิงอิงเผย ต้านเถียนผู้นั้นเพียงแค่อยากเห็นใบหน้าของนางเพียงอึดใจเขาถึงกับยอมจ่ายเป็นทองถึง5000ชั่งเลยทีเดียว”“ข้าจะไปพบนาง ด้วยตัวเอ
“นางมาถึงหรือยัง แล้วพวกเขารู้ได้อย่างไร”ขันทีก้มหน้าจะไม่รู้ได้อย่างไรก็ทหารของวังหลวงต่างจัดทัพราวกับจะไปรบเพื่อคุมตัวท่านแม่คณิกา เพียงคนเดียวนั่นเพราะคำสั่งที่แข็งขันของไคเฉิงแล้วยังเรื่องเล่าที่ไคเฉิงเสียทีให้กับท่านแม่หอคณิกาสุริยันจันทราคนนั้นจนต้องจ่ายตั้งไปตั้งมากมายแต่เรื่องที่ไปทำไม่ลุล่วง พวกเขาจึงต้องนำกำลังไปมากหน่อยกันความผิดพลาด“มาถึงแล้ว แต่เข้ามาข้างในไม่ได้เพราะ เพราะเหล่าขุนนางที่เคยชื่นชอบท่านแม่หอคณิกาคนนั้นต่างไปยืนดักรอไม่ให้นางเข้ามาพบฝ่าบาทขุนนางเหล่านั้นยังฝากข้าน้อยมาถามว่าฝ่าบาทได้รับฎีกาที่ถวายไปหรือยัง”“บังอาจ ส่งองครักษ์ไปคุมตัวขุนนางพวกนั้นไว้ ตามองค์หญิงอิงเผยให้มาจัดการกับ ต้านเถียนขายหน้าสิ้นดี แล้วลากตัวนางเข้ามาใครกล้าออกหน้าปกป้องนางอีกข้าจะถอดถอนตำแหน่งขุนนางเสีย”ขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ ไคเฉิงรีบขยับไปยืนข้างๆ อยากจะออกความเห็นแต่ไม่กล้า“แม่นางจูอันเล่อท่านแม่หอคณิกาสุริยันจันทรามาถึงแล้วววววว”เพียงอึดใจเดียวอันเล่อก็ก้าวเท้าเข้ามาในท้องพระโรงท่าทีเยื้องย่างราวกับนางหงส์ใบหน้าเชิดสูงไม่เชิดหยิ่งขัดตา ผ้าแพรสีชมพูบางเบาปิดบังใบหน้า งดงามมีเพีย
“พี่ใหญ่หากยุ่งยากนักก็ประหารนางเสีย ในเมื่อจะขังก็ไม่ให้ขังแต่หากปล่อยนางไปก็จะเป็นเช่นเดิมมิสู้ประหารนางเสีย แคว้นเป่ยเหลียงหลายมีมานี้สงบร่มเย็น ไร้ศึกสงครามพวกท่านขุนนางจึงอยู่สบาย ข้าในฐานะองค์หญิง เรื่องนี้หากฝ่าบาทไม่อาจตัดสินใจเพราะเกรงใจพวกท่านแต่ข้าไม่เกรงใจ นำนางไปประหารเสีย” อันเล่อก้มหน้าซ่อนยิ้มเสียหลี่หลงเชียวถอนหายใจ“มีใครจะคัดค้านบัญชาขององค์หญิงหรือไม่”หลี่หลงเชียวพูดขึ้นดังๆ“เช่นนั้นก็กักบริเวณนางก็ได้”เสียงขุนนางคนหนึงเอ่ยขึ้นอ้อมแอ้ม"นางเป็นบ่อนทำลายราชสำนัก ข้าออกกฎอีกข้อห้ามผู้ใดย่างกรายเข้าใกล้บริเวณ ตำหนักฟ้าสางเช่นนั้นจะถือว่าขัดบัญชามีการลงทัณฑ์สถานหนัก”ไคเฉิงอมยิ้มในพระทัยของฝ่าบาทใครอาจหยั่งรู้ได้ในเมื่อสายตาที่ไคเฉิงเห็นยามที่มองอันเล่อนั้นช่างไม่ธรรมดา หากไม่ติดที่แม่นางนิรนามคนนั้นฝ่าบาทคงรับอันเล่อเป็นสนมไปแล้ว“เจ้าว่าอย่างไรท่านแม่หอคณิกาคนงาม”อิงเผยหันไปถามอันเล่อที่ก้มหน้านิ่ง“ข้าไร้หนทางอยู่ที่นี่ไม่อาจทำการค้าได้อีกต่อไป แต่ที่ผ่านมาก็ถือว่ากอบโกยไม่น้อยเช่นนั้นจึงควรสมนาคุณให้กับเหล่าลูกค้าของข้า”หันหลังให้หลี่หลงเชียวหันหน้าให้กับเหล่าขุ
“พี่ใหญ่หากยุ่งยากนักก็ประหารนางเสีย ในเมื่อจะขังก็ไม่ให้ขังแต่หากปล่อยนางไปก็จะเป็นเช่นเดิมมิสู้ประหารนางเสีย แคว้นเป่ยเหลียงหลายมีมานี้สงบร่มเย็น ไร้ศึกสงครามพวกท่านขุนนางจึงอยู่สบาย ข้าในฐานะองค์หญิง เรื่องนี้หากฝ่าบาทไม่อาจตัดสินใจเพราะเกรงใจพวกท่านแต่ข้าไม่เกรงใจ นำนางไปประหารเสีย” อันเล่อก้มหน้าซ่อนยิ้มเสียหลี่หลงเชียวถอนหายใจ“มีใครจะคัดค้านบัญชาขององค์หญิงหรือไม่”หลี่หลงเชียวพูดขึ้นดังๆ“เช่นนั้นก็กักบริเวณนางก็ได้”เสียงขุนนางคนหนึงเอ่ยขึ้นอ้อมแอ้ม"นางเป็นบ่อนทำลายราชสำนัก ข้าออกกฎอีกข้อห้ามผู้ใดย่างกรายเข้าใกล้บริเวณ ตำหนักฟ้าสางเช่นนั้นจะถือว่าขัดบัญชามีการลงทัณฑ์สถานหนัก”ไคเฉิงอมยิ้มในพระทัยของฝ่าบาทใครอาจหยั่งรู้ได้ในเมื่อสายตาที่ไคเฉิงเห็นยามที่มองอันเล่อนั้นช่างไม่ธรรมดา หากไม่ติดที่แม่นางนิรนามคนนั้นฝ่าบาทคงรับอันเล่อเป็นสนมไปแล้ว“เจ้าว่าอย่างไรท่านแม่หอคณิกาคนงาม”อิงเผยหันไปถามอันเล่อที่ก้มหน้านิ่ง“ข้าไร้หนทางอยู่ที่นี่ไม่อาจทำการค้าได้อีกต่อไป แต่ที่ผ่านมาก็ถือว่ากอบโกยไม่น้อยเช่นนั้นจึงควรสมนาคุณให้กับเหล่าลูกค้าของข้า”หันหลังให้หลี่หลงเชียวหันหน้าให้กับเหล่าขุ
“นางโง่ เจ้าคิดว่าข้อหา ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก กับข้อหาบ่อนทำลายราชสำนักเจ้าคิดว่าควรๆ ได้กลับออกมาอีกหรือ หอคณิกาแห่งนี้มีหลายอย่างที่ต้องปรับปรุงและท่านแม่พวกเจ้าไม่อยู่ก็ต้องซบเซา ข้าขายของนอกกายของอันเล่อไปไม่กี่ชิ้นพวกนำมาปรับปรุงหอสุริยันจันทราและแบ่งให้พวกเจ้าใช้ใครยังกล้าขัดอีก”“แต่”เจียวเจียวยังไม่เลิกรา“หอสุริยันจันทราจะต้องงดงามกว่านี้ดูดีกว่านี้และข้าจะเปิดให้มีบ่อนการพนันขึ้นมาอีกอย่างนอกจากให้ความสำราญแค่เพียงบุรุษจะต้องให้ความสำราญคนที่อยากจะเสี่ยงด้วย อ่อลืมไปจะต้องมีการขายฝิ่นเพื่อให้ผู้คนที่หลงใหลในกลิ่นหอมหวานของมันได้มีที่ซื้อขายง่ายดาย”“ท่านแม่ไม่ชอบการพนัน และยาเสพติดเพราะการพนันจะทำให้คนยิ่งงมงายไม่ทำงานและยังทำลายครอบครัว ทำลายคนดีดี”“เชอะทำลายครอบครัว สิ่งที่ท่านแม่เจ้าทำนี่ไม่ทำลายหรือไรหลอกสามีเขาเพื่อเอาเงินลูกเมียเขาลำบากกันไปหมดคิดว่าทำดีแล้วหรือ”“ท่านแม่แค่จะช่วยพวกนางต่างหากให้เห็นข้อเท็จจริงเรื่องบุรุษที่มักมากไม่รู้จักพอไม่ควรค่าแก่การเป็นสามี”“ท่านแม่เจ้าคิดว่านางเป็นใคร บุรุษใดบ้างจะมีรักเดียวชั่วชีวันฮ่าาาาน่าขันสิ้นดี”วังหลวง“แม่นาง
อันเล่อถอนหายใจฮ่องเต้หรือโจรป่าทำไมเอาแต่ใจเช่นนี้“เช่นนั้นอันเล่อขอตัว อันเล่อหรือจะกล้าบาดหมางกับเจ้าของแคว้นเป่ยเหลียงเช่นนั้นจึงทำมาหากินลำบาก”ย่อกายลงอ่อนหวาน หันหลังก้าวเดินเข้าไปในตำหนัก“ช้าก่อน”เสียงเข้ม ทำเอาอันเล่อหยุดชะงัก“เจ้า กับข้าเราเคยพบกันไหม”ดึงมืออันเล่อไว้อันเล่อผลักร่างสูงให้ออกห่าง หันหลังก้าวเดินก้าวขาเข้าไปในตำหนักปิดประตูแน่นหนา หลี่หลงเชียวยกมือขึ้นลูบที่ริมฝีปากที่ชุ่มน้ำรสจูบยังหวานติดที่ริมฝีปาก นางกล้าปฏิเสธบอกว่าไม่เคยพบเขามาก่อนแล้วคืนนั้นเล่าหมายความว่าอย่างไรหรือเขาเข้าใจผิดเพราะต้องตานางหรือเขาคิดไปเองว่าเป็นนางหรือว่านางอยากลืมเรื่องราวที่เจ็บปวดในคืนนั้น นางเจ็บปวดอย่างนั้นหรือแล้วเสียงร้องครางของความสุขสมนั่นคืออะไรกัน เขากับนางมีความสุขด้วยกันในคืนนั้นอย่างไม่อาจปฏิเสธอันเล่อนั่งนิ่ง รสจูบหวานซาบซ่านจนคิดไปไกล เป็นไปไม่ได้อาจแค่คนที่มีรสจูบเหมือนๆ กันก็เท่านั้นฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายเช่นไรจึงจะออกไปหาเศษหาเลยที่หอนางโลมกันเล่า คืนนั้นอันเล่อเมามายไม่ได้จำได้เสียหน่อยว่า เขาคนนั้นเป็นใครหลี่หลงเชียวห้องทรงอักษร“ฝ่าบาทนี่คือฎีกาของวันนี้”ก