Share

บทที่ 3

Author: เยว่จี้
หัวหน้าหอกระโดดขึ้นเตียงด้วยเท้าที่ชิดกัน มือเย็นเยียบโอบกอดฉันไว้

เมื่อเห็นความหวาดกลัวในดวงตาฉัน เธอก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า "เมื่อกี้ เธอคุยกับแม่อีกแล้วใช่ไหม?"

ฉันไม่ได้ตอบอะไร

แต่จู่ๆ หัวหน้าหอกลับทำสีหน้าจริงจัง เมื่อแน่ใจว่ารูมเมตอีกสองคนกำลังนอนอยู่ ก็โน้มตัวมากระซิบที่ข้างหูฉัน

"จริงๆ ที่บอกว่าล้อเล่นเมื่อกี้...เพราะแค่อยากให้เธอไม่รู้สึกแย่เกินไป"

"รูมเมตสองคนนั้นอาจจะไม่รู้ แต่ว่านะ"

ลมหายใจของเธอกระชั้นขึ้น เสียงเริ่มสั่น

เธอหยิบมือถือขึ้นมาเปิดข่าวให้ฉันดู

"เซี่ยอิ่ง นักชีววิทยาหญิงชื่อดัง เสียชีวิตอย่างน่าเศร้าในภูเขาอาลัย สมาชิกทีมวิจัยทุกคนที่ติดตามเธอไปด้วยไม่มีผู้ใดรอดชีวิต…"

วันที่ในข่าวตรงกับเมื่อสามปีก่อนพอดี

เมื่อเห็นฉันตัวสั่น หัวหน้าหอก็รีบจับฉันไว้

"เมื่อสามปีก่อน แม่เธอเสียชีวิต เธอรับไม่ได้จนสภาพจิตแย่ แล้ววันหนึ่งก็ยืนยันจะให้พวกเราไปเที่ยวภูเขาอาลัยกับเธอ"

"เราคัดค้านเธอไม่ได้ กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรถ้าไปคนเดียว เลยยอมไปด้วย"

"สุดท้ายเธอก็ดึงพวกเราให้ออกห่างจากกลุ่มใหญ่ ไปถึงแท่นหินประหลาด ซวี่เหมยอยากจะกลับ แต่เธอก็ไม่ยอม ระหว่างที่พวกเธอกำลังเถียงกัน หัวเธอก็ไปกระแทกเข้ากับหิน"

"เซี่ยอี้ ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่บอกให้เธอออกไปมันคืออะไรกันแน่...แต่เธอ ห้าม เชื่อมันเด็ดขาดนะ!"

ฉันมองข่าวนั้นอย่างตะลึงงัน

ข่าวนี้มาจากเว็บไซต์สื่อหลัก ไม่น่าเป็นข่าวปลอมได้

แต่ถ้าแม่ฉันตายไปตั้งสามปีแล้วจริงๆ แล้วสิ่งที่คุยกับฉันอยู่มันคืออะไรกันแน่ล่ะ?

หัวหน้าหอส่ายหัวเบาๆ "จริงๆ ก่อนหน้านี้เวลาเธอออกไปกินข้าวกับแม่ พวกเราก็เคยแอบตามไปนะ"

"แต่สุดท้ายก็พบว่าเธอคุยกับอากาศตลอดเลย"

"พวกเราเป็นห่วงสภาพจิตใจเธอมาก ก็เลยไม่กล้าบอกกับเธอตรงๆ"

พูดมาถึงตรงนี้ เสียงของเธอก็เริ่มสั่น มือที่จับฉันไว้ก็เริ่มสั่นไหวเบาๆ

"แต่ตอนนี้ แม่เธอกลับปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งจริงๆ"

"คนที่ข่าวรายงานว่าตายไปสามปีแล้ว ต่อให้เธอแค่หายตัวไปในภูเขาอาลัยก็เถอะ"

"แต่เธอจะมั่นใจได้ยังไงว่าแม่ที่เธอจะเจอพรุ่งนี้ คือแม่ของเธอจริงๆ?"

คำพูดของหัวหน้าหอทำให้ฉันเงียบไป

ฉันเป็นคนเงียบๆ ตั้งแต่เข้าเรียนมหาลัย หัวหน้าหอก็คอยดูแลฉันมาตลอด เราสองคนสนิทกันมาก

แต่อีกฝั่งคือแม่ที่เลี้ยงฉันมาจนโต เป็นญาติคนสุดท้ายของฉันนะ

ฉันควรเชื่อใครกันแน่?

หัวหน้าหอกลืนน้ำลายก่อนพูดเบาๆ "ฉันพูดได้แค่นี้ ที่เหลือ...เธอต้องตัดสินใจเอง"

"แต่ในฐานะเพื่อนสนิทของเธอ ฉันไม่อยากให้เธอเป็นอะไรไปเลย"

"และไม่อยากให้เซี่ยอี้ที่กลับมาหอพัก...ไม่ใช่เซี่ยอี้คนเดิมอีกแล้ว"

พูดจบ เธอก็ลุกจากเตียงฉันและเดินกลับไปที่เตียงของตัวเองด้วยท่าทางแปลกประหลาด

เมื่อฉันเพ่งมองดีๆ ก็พบว่าเธอกระโดดกลับไปด้วยขาชิดกัน!

ฉันตัวสั่นสะท้านทันที ความสงสัยถาโถมเข้ามาเต็มหัวใจ

กระทั่งถึงช่วงเที่ยงของวันถัดมา

เหลืออีกแค่สิบนาทีก็จะเที่ยงตรงแล้ว

หัวหน้าหอส่ายหน้าให้ฉัน "เซี่ยอี้ เธอต้องคิดให้ดีนะ อย่าหลงเชื่อไปง่ายๆ นั่นไม่ใช่แม่ของเธอ"

"นั่นเป็นรายงานข่าวจากทางการเลยนะ"

ฉันลังเลอยู่ในใจ แต่จู่ๆ มือถือก็ดังขึ้น

เป็นข้อความจากแม่ "แม่หายตัวไปในภูเขาอาลัยเมื่อสามปีก่อนก็จริง แต่แม่ก็รอดมาได้ด้วยประสบการณ์ภาคสนาม ถึงกลับมาหาลูกได้"

"ที่มือถือลูกสามารถติดต่อแม่ได้ก็เพราะแม่ติดตั้งระบบดาวเทียมไร้สายไว้ตั้งแต่แรก แต่ข่าวพวกนั้นเป็นของปลอมที่พวกอสูรสร้างขึ้นเพื่อหลอกลูก!"

ฉันนิ่งอึ้งไปนาน กว่าจะพูดออกมาได้ว่า

"แต่ว่าแม่คะ หนูไม่เคยเล่าเรื่องข่าวให้แม่ฟังเลยนี่นา"

คำว่า "กำลังพิมพ์..." ใต้ชื่อผู้ส่งหายวับไปทันที

ไม่นาน ก็มีสายหนึ่งโทรเข้ามา

ฉันยกมือถือขึ้นรับสายด้วยมือที่สั่นเทา

เสียงแม่ดังมาจากปลายสาย ไม่ต่างจากตอนที่เคยกล่อมฉันนอนสมัยเด็กเลยแม้แต่น้อย

เรียกชื่อฉันอย่างร้อนรน ดังเบาแต่แทรกซึมเข้ามาในใจอย่างลึกซึ้ง

"เสี่ยวอี้ รับปากแม่นะ อย่าเชื่อพวกมันเด็ดขาด!"

"รูมเมตของลูกทั้งสามคนตายไปหมดแล้ว คนที่อยู่ข้างลูกตอนนี้ คือตัวอสูรที่แปลงร่างเป็นพวกเธอ!"

พอฉันไม่ตอบ เสียงของแม่ก็เริ่มสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้

"เสี่ยวอี้ แม่เป็นแม่ แม้แม่จะกลายเป็นผี แม่ก็ไม่มีวันทำร้ายลูกหรอก"

"ลูกไม่เชื่อแม่ด้วยแล้วเหรอ?"

ทันใดนั้น พอฉันก้มมองลง ก็เห็นหัวหน้าหอดึงชายเสื้อฉันไว้แน่น

เธอส่ายหน้าเงียบๆ ขยับปากโดยไม่ออกเสียงว่า "ห้ามไป!"

ฉันลังเลจะสะบัดออก แต่รูมเมตทั้งสามก็โผเข้ามากอดฉันพร้อมกัน

"เธอไม่ได้เล่าเรื่องข่าวให้เธอฟังเลย แต่เธอกลับเดาใจเธอได้หมด เธอไม่รู้สึกแปลกเลยเหรอ?"

"ถ้าเธอออกจากหอไปจริงๆ เธอจะตายแน่ๆ!"

เมื่อแม่ได้ยินเสียงพวกเธอ ก็กรีดร้องด้วยความตกใจ

"พวกมันหลอกลูกกันทั้งนั้น นี่จะเที่ยงแล้ว แม่ไม่อยากเสียลูกไปนะเสี่ยวอี้!"

"ถ้าช้ากว่านี้จะไม่ทันแล้ว เร็วเข้า!"
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • มิติลึกลับ   บทที่ 4

    แม่คือคนที่ฉันรักที่สุดในชีวิตเสียงแหบพร่าของแม่ในตอนนี้ทำให้ใจฉันแตกสลาย ฉันตัดสินใจเชื่อแม่แล้วออกจากหอคาดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าหอกลับคุกเข่าลงตรงหน้าฉัน"ยังมีเวลาอีกห้านาที ขอฉันอธิบายสักหนึ่งนาทีได้ไหม!"เมื่อพวกเธอดูจะห้ามฉันด้วยกำลังไม่ได้ จึงพยายามจะพูดเกลี้ยกล่อมแทนเมื่อเห็นว่าฉันลังเลรูมเมตทั้งสามก็สบตากัน แล้วค่อยๆ ถอดหน้ากากที่ใช้พรางตัวออกฉันเห็นร่างกายที่แห้งเหี่ยวและผิวหนังที่ค่อยๆ เน่าเปื่อยจนมีหนองไหลออกมาของพวกเธอหนอนตัวสีขาวไชเข้าไชออกอยู่ภายในที่แท้พวกเธอก็ตายไปแล้วจริงๆ!ทันใดนั้นฉันก็ยิ่งอยากออกจากหอไปหาแม่ที่กำลังจะมาช่วยแต่คำพูดของหัวหน้าหอในวินาทีต่อมากลับดังก้องในหัวอย่างกับเสียงฟ้าผ่า"เซี่ยอี้ ตั้งใจฟังฉันดีๆ นะ""พวกเราตายไปแล้วก็จริง แต่เราไม่ใช่อสูรอย่างที่แม่เธอว่า พวกเราคือรูมเมตของเธอจริงๆ ที่ตายไปแล้ว!""แต่แม่ของเธอไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว เพราะเธอถูกกลืนกลายไปแล้ว!"ฉันขมวดคิ้ว "หมายความว่ายังไง?"หัวหน้าหอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ยังจำตอนพวกเราเรียนวิชาชีววิทยาได้ไหม?""อาณาจักรอาลัยโบราณล่มสลายไปเมื่อหมื่นปีก่อน เพราะสิ่งมีชีวิตกลื

  • มิติลึกลับ   บทที่ 5

    หลี่เหมียวเหมียว รูมเมตคนสุดท้ายเริ่มร้อนรนขึ้นมา"ถ้าเธอไม่เชื่อที่พวกเราพูดล่ะก็ ถึงยังไงเธอก็มีระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมอยู่แล้วนี่ ทำไมไม่ลองติดต่อเพื่อนของแม่เธอดูล่ะ จะได้รู้ว่าแม่เธอตายไปแล้วหรือว่ายังอยู่จริงๆ?"ฉันได้สติขึ้นมาทันที แล้วรีบค้นหาเบอร์ของคุณลุงสวี่เพื่อนเก่าของแม่ในรายชื่อผู้ติดต่อ"คุณลุงสวี่คะ ตอนนี้หนูมีเรื่องด่วนมากจริงๆ ได้โปรดช่วยตอบหนูทีเถอะ""แม่ของหนูเสียชีวิตไปแล้วจริงๆ ใช่ไหมคะ?"ปลายสายเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจแล้วพูดว่า "นี่เป็นเรื่องเมื่อสามปีก่อนแล้วนี่ลูก ทำใจเถอะนะ"ริมฝีปากฉันสั่นระริก "แต่...แต่ว่า เมื่อคืนเธอยังโทรหาหนูอยู่เลย"ทางฝั่งลุงสวี่มีเสียงเพล้ง เหมือนมือถือร่วงตกพื้นเขารีบเก็บขึ้นมาด้วยความร้อนรน ถามอย่างตื่นตระหนกว่า "หนูว่าอะไรนะ?!""หนูอยู่ที่ไหน?!"ทันทีที่พูดจบ สายก็ถูกตัดไปอย่างกะทันหันเสียงโทรศัพท์จากแม่ดังเข้ามาทันที ราวกับเสียงอสูรร้ายจากนรกที่เรียกหาเหยื่อข้อความเด้งเข้ามารัวๆ"ทำไมไม่รับสายแม่?""แม่บอกให้ลูกออกมาตอนเที่ยงไม่ใช่เหรอ ฟังไม่รู้เรื่องเหรอ?""รีบออกมาเดี๋ยวนี้ ออกมา!"ฉันกดรับสายด้วยมือที

  • มิติลึกลับ   บทที่ 6

    เธอทุบพื้นอย่างบ้าคลั่ง พร้อมตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว"ให้ฉันเข้าไปสิ เสี่ยวอี้...ลูกไม่อยากอยู่กับแม่ตลอดไปแล้วเหรอ?""แล้วคนอื่นล่ะ ไม่อยากกลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยวิธีอื่นกันบ้างเหรอ?""เปิดประตูสิ!!"เสียงของเธอกลายเป็นโมโหคลุ้มคลั่ง "เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้!!"เมื่อเห็นว่าพื้นเริ่มแตกร้าว คล้ายใยแมงมุมที่แผ่ขยายออกไปเรื่อยๆหัวหน้าหอจึงตัดสินใจบางอย่างอย่างยากลำบากเธอพาฉันไปที่หน้าต่างหอ "ที่นี่คือทางออกอีกทางของสุสาน จากตรงนี้ เธอจะกลับไปยังภูเขาอาลัยได้ แต่มันไม่ใช่ภูเขาอาลัยในโลกความจริงนะ""ภูเขาอาลัยคือประตูสู่แดนปีศาจ และตอนนี้เธอ...ก็ไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความจริงอีกแล้ว""หาศูนย์กลางจุดกำเนิดพลังของภูเขาอาลัยให้เจอ แล้วเธอก็จะสามารถออกจากที่นี่ได้"เมื่อผลักหน้าต่างออก ลมเย็นยะเยือกก็พัดวูบเข้ามาเธอกำชับหนักแน่น "หลังจากออกไปแล้ว อย่าเชื่อใครเด็ดขาด!""แล้วก็…"เสียงกึกก้องดังออกมาจากพื้น รูมเมตทั้งสามคนหันมายิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน"ฝากบอกครอบครัวของเราด้วย ว่าเรารักพวกเขา"ภาพทุกอย่างหยุดลงที่วินาทีนั้นพอฉันรู้สึกตัวอีกครั้ง ฉันก็มาอยู่บนภูเขาเรียบร้อยแล

  • มิติลึกลับ   บทที่ 7

    "ตามฉันมาสิ"หลินเต๋อจับมือฉันไว้"เธออยากหาจุดกำเนิดพลังไม่ใช่เหรอ ฉันจะพาไปเอง"ฉันเดินตามเขาไปจนมาหยุดที่หน้าก้อนหินขนาดมหึมาก้อนหนึ่งบนก้อนหินนั้นมีอักษรแกะสลักมากมายที่ฉันอ่านไม่ออกหลินเต๋อพูดขณะเดินไปด้วยว่า "มนุษย์เรามักเข้าใจประวัติศาสตร์ในแบบที่สร้างขึ้นมาเอง แล้วก็ทำลายมันลงอยู่เสมอ""บางทีฉันก็อดคิดไม่ได้ ว่าเราควรเข้าไปสำรวจธรรมชาติจริงๆ ไหม?""เพราะยังไงมนุษย์ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประหลาดมาก เดิมเราเคยเชื่อว่ามนุษย์มีวิวัฒนาการมาจากลิง แต่เดี๋ยวนี้ก็มีหลักฐานทางโบราณคดีมากมายที่เริ่มทำลายทฤษฎีนั้นลง""เพราะความไม่รู้แบบนี้แหละ ที่ทำให้พวกเราไม่สนคำคัดค้าน แล้วเข้าไปในภูเขาอาลัยเพื่อศึกษาสิ่งมีชีวิตโบราณ"เขามองต้นไม้รอบๆ ภูเขาอาลัยด้วยสายตาอ่อนโยน"ที่นี่มหัศจรรย์มาก ตั้งแต่ที่ก้าวเข้ามาเราก็เต็มไปด้วยความทึ่ง ตระหนักได้ว่าธรรมชาติมีอะไรลึกลับกว่าที่คิด""เราพบสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับไม่ถ้วน""แต่ในระหว่างที่พายเรือข้ามฟาก เรากลับเจอปลาขนาดใหญ่ยักษ์ตัวหนึ่ง...""นอกจากสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนยอดสุดของห่วงโซ่อาหาร สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ย่อมมีศัตรูตามธรรมชาติ"

  • มิติลึกลับ   บทที่ 8

    ฉันพยักหน้า "ลุงหลิน หนูเชื่อลุงค่ะ งั้นเรากระโดดลงจุดกำเนิดพลังแล้วออกไปจากที่นี่กันเถอะ"แต่หลินเต๋อกลับเปลี่ยนสีหน้าในทันใด เหมือนเผชิญหน้าศัตรู ท่าทางแข็งกร้าวแต่แฝงความลังเล"ใครบอกเธอกันว่า แค่กระโดดลงจุดกำเนิดพลังก็จะออกจากภูเขาอาลัยได้?""เด็กโง่ เขาคิดจะทำร้ายเธอต่างหาก!"ฉันไม่เข้าใจ "ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ?"หลินเต๋อถอนหายใจ "ฉันยังเล่าไม่จบ""ตอนนั้นไฟเผาภูเขาอาลัยจนวายวอด แต่อสูรภูผามหาสมุทรเหล่านั้นเป็นอมตะ มนุษย์ที่ถูกกลืนกลาย""สุดท้าย พวกเขาถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันเพราะเปลวไฟ จนกลายมาเป็นจุดกำเนิดพลังนี้""จุดกำเนิดพลัง เกิดขึ้นจากการหลอมรวมและกลายพันธุ์"เขากล่าว "เพราะงั้น ใครก็ตามที่กระโดดลงไปจะสร้างร่างแยกขึ้นมา""ร่างแยก?""ใช่ เธอคือร่างต้นกำเนิด ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นจากนั้น จะค่อยๆ กลายเป็นเหมือนเธอทุกประการ""เป้าหมายของมันคือ แทนที่ร่างต้นกำเนิดให้ได้อย่างสมบูรณ์"หลินเต๋อพูดเตือน "เด็กโง่ ลุงจะหาทางพาเธอออกไปเอง อย่ากระโดดลงไปเลยนะ"ฉันยิ้มและพยักหน้าอย่างเชื่อฟังแต่เท้าของฉัน กลับค่อยๆ เดินไปจนยืนอยู่ริมจุดกำเนิดพลังโดยไม่รู้ตัวหลินเต๋อสีหน้าถมึงท

  • มิติลึกลับ   บทที่ 1

    สีหน้าของหัวหน้าหอประหลาดมากดวงตาของเธอแสดงความตกใจออกมาอย่างชัดเจน ดูไม่เหมือนการแกล้งทำเธอมองฉันจากไกลๆ จากนั้นก็ถอยหลังไปครึ่งก้าวอย่างโดยไม่รู้ตัว ร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรง"เซี่ยอี้ เป็นเสียงแม่เธอจริงๆ ฉันจำได้…"ตอนแม่มาส่งฉันเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เธอยังเคยกินข้าวกับรูมเมตของฉันด้วยเพราะอย่างนั้นหัวหน้าหอเลยจำเสียงแม่ของฉันได้ และพูดอย่างลนลานว่า"คนที่ตายไปแล้ว จะส่งข้อความเสียงมาให้เธอได้ยังไง?"ฉันรู้สึกสับสนไปหมดแม่เป็นนักวิจัยภาคสนาม งานยุ่งมากแต่ก็ยังพยายามหาเวลาว่างมาเจอฉันเสมอเธอจะตายไปแล้วสามปีได้ยังไง?!ฉันพูดอย่างไม่พอใจ "เธอจะล้อเล่นมันก็ต้องมีขอบเขตนะ ก่อนที่เราจะเข้าภูเขา ฉันยังวิดีโอคอลกับแม่อยู่เลย พวกเธอไม่ได้เห็นเหรอ?"แต่หัวหน้าหอกลับยิ่งกลัว เสียงสั่นเครือ "ตอนนั้นเธอไม่ได้แค่เปิดกล้องแล้วพูดคนเดียวเหรอ ฉันนึกว่าเธอแค่เซลฟี่…"บรรยากาศเงียบจนชวนขนลุกไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่แสงไฟเริ่มมืดลงฉันได้ยินเสียงตัวเองโต้กลับ "แต่ไม่นานมานี้ฉันยังไปกินข้าวกับแม่อยู่เลยนะ"รูมเมตอีกสองคนก็มองฉันเขม็งในความมืดเงาดำสองร่างสั่นระริก"เซี่ยอี

  • มิติลึกลับ   บทที่ 2

    คำพูดของแม่ทำให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัวฉันยังไม่อยากเชื่อ พิมพ์ตอบกลับไปด้วยมือสั่นๆ "จะเป็นไปได้ยังไงคะ พวกเธอก็มีอุณหภูมิร่างกายนะ?"เสียงแม่แหบพร่า "ภูเขาอาลัยเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์โบราณ เป็นรังฟักไข่ของอสูรร้าย""ตอนที่แม่อยู่ภูเขาอาลัย เคยเห็นกับตาว่าอสูรร้ายเหล่านั้นแปลงร่างเป็นคน เพื่อดูดกลืนวิญญาณของมนุษย์ เดิมพวกมันก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอุณภูมิร่างกายอยู่แล้ว"ขณะที่ฉันฟัง รู้สึกเหมือนความหนาวแทรกซึมเข้าทุกอณูของร่างกายแม่พูดต่อว่า"แต่ลูกไม่ต้องกลัวนะ อสูรร้ายจะไม่ฆ่าใครโดยไม่มีเหตุผล มันต้องมี จังหวะบางอย่าง ลูกต้องระวังทุกอย่างไว้ให้ดี รอแม่ไปช่วยนะ!"เพื่อยืนยันตำแหน่งของฉัน ฉันจึงเปิดแชร์โลเคชันกับแม่บนหน้าจอเห็นจุดสองจุดอยู่ใกล้กันมาก ทำให้ฉันเห็นแสงแห่งความหวังแต่ในวินาทีนั้นเอง ฉันก็กลับเข้าสู่ความสิ้นหวังอีกครั้งฉันมองไม่เห็นว่าตัวเองอยู่ตรงไหน มีเพียงจุดสองจุดที่กระพริบอยู่ตลอดเวลาแม่ตะโกนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด "ทำไมกัน...ทำไมแม่อยู่ตรงจุดที่ลูกหายไป แต่กลับหาลูกไม่เจอ?!"จู่ๆ แม่ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง "ลูกรัก ก่อนหน้านี้ลูกเคยบ่นใช่ไหมว่าห้องข้างบนเสียงดังมา

Latest chapter

  • มิติลึกลับ   บทที่ 8

    ฉันพยักหน้า "ลุงหลิน หนูเชื่อลุงค่ะ งั้นเรากระโดดลงจุดกำเนิดพลังแล้วออกไปจากที่นี่กันเถอะ"แต่หลินเต๋อกลับเปลี่ยนสีหน้าในทันใด เหมือนเผชิญหน้าศัตรู ท่าทางแข็งกร้าวแต่แฝงความลังเล"ใครบอกเธอกันว่า แค่กระโดดลงจุดกำเนิดพลังก็จะออกจากภูเขาอาลัยได้?""เด็กโง่ เขาคิดจะทำร้ายเธอต่างหาก!"ฉันไม่เข้าใจ "ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ?"หลินเต๋อถอนหายใจ "ฉันยังเล่าไม่จบ""ตอนนั้นไฟเผาภูเขาอาลัยจนวายวอด แต่อสูรภูผามหาสมุทรเหล่านั้นเป็นอมตะ มนุษย์ที่ถูกกลืนกลาย""สุดท้าย พวกเขาถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันเพราะเปลวไฟ จนกลายมาเป็นจุดกำเนิดพลังนี้""จุดกำเนิดพลัง เกิดขึ้นจากการหลอมรวมและกลายพันธุ์"เขากล่าว "เพราะงั้น ใครก็ตามที่กระโดดลงไปจะสร้างร่างแยกขึ้นมา""ร่างแยก?""ใช่ เธอคือร่างต้นกำเนิด ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นจากนั้น จะค่อยๆ กลายเป็นเหมือนเธอทุกประการ""เป้าหมายของมันคือ แทนที่ร่างต้นกำเนิดให้ได้อย่างสมบูรณ์"หลินเต๋อพูดเตือน "เด็กโง่ ลุงจะหาทางพาเธอออกไปเอง อย่ากระโดดลงไปเลยนะ"ฉันยิ้มและพยักหน้าอย่างเชื่อฟังแต่เท้าของฉัน กลับค่อยๆ เดินไปจนยืนอยู่ริมจุดกำเนิดพลังโดยไม่รู้ตัวหลินเต๋อสีหน้าถมึงท

  • มิติลึกลับ   บทที่ 7

    "ตามฉันมาสิ"หลินเต๋อจับมือฉันไว้"เธออยากหาจุดกำเนิดพลังไม่ใช่เหรอ ฉันจะพาไปเอง"ฉันเดินตามเขาไปจนมาหยุดที่หน้าก้อนหินขนาดมหึมาก้อนหนึ่งบนก้อนหินนั้นมีอักษรแกะสลักมากมายที่ฉันอ่านไม่ออกหลินเต๋อพูดขณะเดินไปด้วยว่า "มนุษย์เรามักเข้าใจประวัติศาสตร์ในแบบที่สร้างขึ้นมาเอง แล้วก็ทำลายมันลงอยู่เสมอ""บางทีฉันก็อดคิดไม่ได้ ว่าเราควรเข้าไปสำรวจธรรมชาติจริงๆ ไหม?""เพราะยังไงมนุษย์ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประหลาดมาก เดิมเราเคยเชื่อว่ามนุษย์มีวิวัฒนาการมาจากลิง แต่เดี๋ยวนี้ก็มีหลักฐานทางโบราณคดีมากมายที่เริ่มทำลายทฤษฎีนั้นลง""เพราะความไม่รู้แบบนี้แหละ ที่ทำให้พวกเราไม่สนคำคัดค้าน แล้วเข้าไปในภูเขาอาลัยเพื่อศึกษาสิ่งมีชีวิตโบราณ"เขามองต้นไม้รอบๆ ภูเขาอาลัยด้วยสายตาอ่อนโยน"ที่นี่มหัศจรรย์มาก ตั้งแต่ที่ก้าวเข้ามาเราก็เต็มไปด้วยความทึ่ง ตระหนักได้ว่าธรรมชาติมีอะไรลึกลับกว่าที่คิด""เราพบสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับไม่ถ้วน""แต่ในระหว่างที่พายเรือข้ามฟาก เรากลับเจอปลาขนาดใหญ่ยักษ์ตัวหนึ่ง...""นอกจากสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนยอดสุดของห่วงโซ่อาหาร สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ย่อมมีศัตรูตามธรรมชาติ"

  • มิติลึกลับ   บทที่ 6

    เธอทุบพื้นอย่างบ้าคลั่ง พร้อมตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว"ให้ฉันเข้าไปสิ เสี่ยวอี้...ลูกไม่อยากอยู่กับแม่ตลอดไปแล้วเหรอ?""แล้วคนอื่นล่ะ ไม่อยากกลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยวิธีอื่นกันบ้างเหรอ?""เปิดประตูสิ!!"เสียงของเธอกลายเป็นโมโหคลุ้มคลั่ง "เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้!!"เมื่อเห็นว่าพื้นเริ่มแตกร้าว คล้ายใยแมงมุมที่แผ่ขยายออกไปเรื่อยๆหัวหน้าหอจึงตัดสินใจบางอย่างอย่างยากลำบากเธอพาฉันไปที่หน้าต่างหอ "ที่นี่คือทางออกอีกทางของสุสาน จากตรงนี้ เธอจะกลับไปยังภูเขาอาลัยได้ แต่มันไม่ใช่ภูเขาอาลัยในโลกความจริงนะ""ภูเขาอาลัยคือประตูสู่แดนปีศาจ และตอนนี้เธอ...ก็ไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความจริงอีกแล้ว""หาศูนย์กลางจุดกำเนิดพลังของภูเขาอาลัยให้เจอ แล้วเธอก็จะสามารถออกจากที่นี่ได้"เมื่อผลักหน้าต่างออก ลมเย็นยะเยือกก็พัดวูบเข้ามาเธอกำชับหนักแน่น "หลังจากออกไปแล้ว อย่าเชื่อใครเด็ดขาด!""แล้วก็…"เสียงกึกก้องดังออกมาจากพื้น รูมเมตทั้งสามคนหันมายิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน"ฝากบอกครอบครัวของเราด้วย ว่าเรารักพวกเขา"ภาพทุกอย่างหยุดลงที่วินาทีนั้นพอฉันรู้สึกตัวอีกครั้ง ฉันก็มาอยู่บนภูเขาเรียบร้อยแล

  • มิติลึกลับ   บทที่ 5

    หลี่เหมียวเหมียว รูมเมตคนสุดท้ายเริ่มร้อนรนขึ้นมา"ถ้าเธอไม่เชื่อที่พวกเราพูดล่ะก็ ถึงยังไงเธอก็มีระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมอยู่แล้วนี่ ทำไมไม่ลองติดต่อเพื่อนของแม่เธอดูล่ะ จะได้รู้ว่าแม่เธอตายไปแล้วหรือว่ายังอยู่จริงๆ?"ฉันได้สติขึ้นมาทันที แล้วรีบค้นหาเบอร์ของคุณลุงสวี่เพื่อนเก่าของแม่ในรายชื่อผู้ติดต่อ"คุณลุงสวี่คะ ตอนนี้หนูมีเรื่องด่วนมากจริงๆ ได้โปรดช่วยตอบหนูทีเถอะ""แม่ของหนูเสียชีวิตไปแล้วจริงๆ ใช่ไหมคะ?"ปลายสายเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจแล้วพูดว่า "นี่เป็นเรื่องเมื่อสามปีก่อนแล้วนี่ลูก ทำใจเถอะนะ"ริมฝีปากฉันสั่นระริก "แต่...แต่ว่า เมื่อคืนเธอยังโทรหาหนูอยู่เลย"ทางฝั่งลุงสวี่มีเสียงเพล้ง เหมือนมือถือร่วงตกพื้นเขารีบเก็บขึ้นมาด้วยความร้อนรน ถามอย่างตื่นตระหนกว่า "หนูว่าอะไรนะ?!""หนูอยู่ที่ไหน?!"ทันทีที่พูดจบ สายก็ถูกตัดไปอย่างกะทันหันเสียงโทรศัพท์จากแม่ดังเข้ามาทันที ราวกับเสียงอสูรร้ายจากนรกที่เรียกหาเหยื่อข้อความเด้งเข้ามารัวๆ"ทำไมไม่รับสายแม่?""แม่บอกให้ลูกออกมาตอนเที่ยงไม่ใช่เหรอ ฟังไม่รู้เรื่องเหรอ?""รีบออกมาเดี๋ยวนี้ ออกมา!"ฉันกดรับสายด้วยมือที

  • มิติลึกลับ   บทที่ 4

    แม่คือคนที่ฉันรักที่สุดในชีวิตเสียงแหบพร่าของแม่ในตอนนี้ทำให้ใจฉันแตกสลาย ฉันตัดสินใจเชื่อแม่แล้วออกจากหอคาดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าหอกลับคุกเข่าลงตรงหน้าฉัน"ยังมีเวลาอีกห้านาที ขอฉันอธิบายสักหนึ่งนาทีได้ไหม!"เมื่อพวกเธอดูจะห้ามฉันด้วยกำลังไม่ได้ จึงพยายามจะพูดเกลี้ยกล่อมแทนเมื่อเห็นว่าฉันลังเลรูมเมตทั้งสามก็สบตากัน แล้วค่อยๆ ถอดหน้ากากที่ใช้พรางตัวออกฉันเห็นร่างกายที่แห้งเหี่ยวและผิวหนังที่ค่อยๆ เน่าเปื่อยจนมีหนองไหลออกมาของพวกเธอหนอนตัวสีขาวไชเข้าไชออกอยู่ภายในที่แท้พวกเธอก็ตายไปแล้วจริงๆ!ทันใดนั้นฉันก็ยิ่งอยากออกจากหอไปหาแม่ที่กำลังจะมาช่วยแต่คำพูดของหัวหน้าหอในวินาทีต่อมากลับดังก้องในหัวอย่างกับเสียงฟ้าผ่า"เซี่ยอี้ ตั้งใจฟังฉันดีๆ นะ""พวกเราตายไปแล้วก็จริง แต่เราไม่ใช่อสูรอย่างที่แม่เธอว่า พวกเราคือรูมเมตของเธอจริงๆ ที่ตายไปแล้ว!""แต่แม่ของเธอไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว เพราะเธอถูกกลืนกลายไปแล้ว!"ฉันขมวดคิ้ว "หมายความว่ายังไง?"หัวหน้าหอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ยังจำตอนพวกเราเรียนวิชาชีววิทยาได้ไหม?""อาณาจักรอาลัยโบราณล่มสลายไปเมื่อหมื่นปีก่อน เพราะสิ่งมีชีวิตกลื

  • มิติลึกลับ   บทที่ 3

    หัวหน้าหอกระโดดขึ้นเตียงด้วยเท้าที่ชิดกัน มือเย็นเยียบโอบกอดฉันไว้เมื่อเห็นความหวาดกลัวในดวงตาฉัน เธอก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า "เมื่อกี้ เธอคุยกับแม่อีกแล้วใช่ไหม?"ฉันไม่ได้ตอบอะไรแต่จู่ๆ หัวหน้าหอกลับทำสีหน้าจริงจัง เมื่อแน่ใจว่ารูมเมตอีกสองคนกำลังนอนอยู่ ก็โน้มตัวมากระซิบที่ข้างหูฉัน"จริงๆ ที่บอกว่าล้อเล่นเมื่อกี้...เพราะแค่อยากให้เธอไม่รู้สึกแย่เกินไป""รูมเมตสองคนนั้นอาจจะไม่รู้ แต่ว่านะ"ลมหายใจของเธอกระชั้นขึ้น เสียงเริ่มสั่นเธอหยิบมือถือขึ้นมาเปิดข่าวให้ฉันดู"เซี่ยอิ่ง นักชีววิทยาหญิงชื่อดัง เสียชีวิตอย่างน่าเศร้าในภูเขาอาลัย สมาชิกทีมวิจัยทุกคนที่ติดตามเธอไปด้วยไม่มีผู้ใดรอดชีวิต…"วันที่ในข่าวตรงกับเมื่อสามปีก่อนพอดีเมื่อเห็นฉันตัวสั่น หัวหน้าหอก็รีบจับฉันไว้"เมื่อสามปีก่อน แม่เธอเสียชีวิต เธอรับไม่ได้จนสภาพจิตแย่ แล้ววันหนึ่งก็ยืนยันจะให้พวกเราไปเที่ยวภูเขาอาลัยกับเธอ""เราคัดค้านเธอไม่ได้ กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรถ้าไปคนเดียว เลยยอมไปด้วย""สุดท้ายเธอก็ดึงพวกเราให้ออกห่างจากกลุ่มใหญ่ ไปถึงแท่นหินประหลาด ซวี่เหมยอยากจะกลับ แต่เธอก็ไม่ยอม ระหว่างที่พวกเธอกำลังเ

  • มิติลึกลับ   บทที่ 2

    คำพูดของแม่ทำให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัวฉันยังไม่อยากเชื่อ พิมพ์ตอบกลับไปด้วยมือสั่นๆ "จะเป็นไปได้ยังไงคะ พวกเธอก็มีอุณหภูมิร่างกายนะ?"เสียงแม่แหบพร่า "ภูเขาอาลัยเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์โบราณ เป็นรังฟักไข่ของอสูรร้าย""ตอนที่แม่อยู่ภูเขาอาลัย เคยเห็นกับตาว่าอสูรร้ายเหล่านั้นแปลงร่างเป็นคน เพื่อดูดกลืนวิญญาณของมนุษย์ เดิมพวกมันก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอุณภูมิร่างกายอยู่แล้ว"ขณะที่ฉันฟัง รู้สึกเหมือนความหนาวแทรกซึมเข้าทุกอณูของร่างกายแม่พูดต่อว่า"แต่ลูกไม่ต้องกลัวนะ อสูรร้ายจะไม่ฆ่าใครโดยไม่มีเหตุผล มันต้องมี จังหวะบางอย่าง ลูกต้องระวังทุกอย่างไว้ให้ดี รอแม่ไปช่วยนะ!"เพื่อยืนยันตำแหน่งของฉัน ฉันจึงเปิดแชร์โลเคชันกับแม่บนหน้าจอเห็นจุดสองจุดอยู่ใกล้กันมาก ทำให้ฉันเห็นแสงแห่งความหวังแต่ในวินาทีนั้นเอง ฉันก็กลับเข้าสู่ความสิ้นหวังอีกครั้งฉันมองไม่เห็นว่าตัวเองอยู่ตรงไหน มีเพียงจุดสองจุดที่กระพริบอยู่ตลอดเวลาแม่ตะโกนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด "ทำไมกัน...ทำไมแม่อยู่ตรงจุดที่ลูกหายไป แต่กลับหาลูกไม่เจอ?!"จู่ๆ แม่ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง "ลูกรัก ก่อนหน้านี้ลูกเคยบ่นใช่ไหมว่าห้องข้างบนเสียงดังมา

  • มิติลึกลับ   บทที่ 1

    สีหน้าของหัวหน้าหอประหลาดมากดวงตาของเธอแสดงความตกใจออกมาอย่างชัดเจน ดูไม่เหมือนการแกล้งทำเธอมองฉันจากไกลๆ จากนั้นก็ถอยหลังไปครึ่งก้าวอย่างโดยไม่รู้ตัว ร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรง"เซี่ยอี้ เป็นเสียงแม่เธอจริงๆ ฉันจำได้…"ตอนแม่มาส่งฉันเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เธอยังเคยกินข้าวกับรูมเมตของฉันด้วยเพราะอย่างนั้นหัวหน้าหอเลยจำเสียงแม่ของฉันได้ และพูดอย่างลนลานว่า"คนที่ตายไปแล้ว จะส่งข้อความเสียงมาให้เธอได้ยังไง?"ฉันรู้สึกสับสนไปหมดแม่เป็นนักวิจัยภาคสนาม งานยุ่งมากแต่ก็ยังพยายามหาเวลาว่างมาเจอฉันเสมอเธอจะตายไปแล้วสามปีได้ยังไง?!ฉันพูดอย่างไม่พอใจ "เธอจะล้อเล่นมันก็ต้องมีขอบเขตนะ ก่อนที่เราจะเข้าภูเขา ฉันยังวิดีโอคอลกับแม่อยู่เลย พวกเธอไม่ได้เห็นเหรอ?"แต่หัวหน้าหอกลับยิ่งกลัว เสียงสั่นเครือ "ตอนนั้นเธอไม่ได้แค่เปิดกล้องแล้วพูดคนเดียวเหรอ ฉันนึกว่าเธอแค่เซลฟี่…"บรรยากาศเงียบจนชวนขนลุกไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่แสงไฟเริ่มมืดลงฉันได้ยินเสียงตัวเองโต้กลับ "แต่ไม่นานมานี้ฉันยังไปกินข้าวกับแม่อยู่เลยนะ"รูมเมตอีกสองคนก็มองฉันเขม็งในความมืดเงาดำสองร่างสั่นระริก"เซี่ยอี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status