ละอองความชื้นจากบรรยากาศรุ่งสางทำให้คนที่นอนไม่หลับตลอดทั้งคืนตัดสินใจออกมาเดินเล่นที่ระเบียงริมน้ำ เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์และซึมซับเอาพลังงานดีรอบกายเข้าสู่ตนเองให้มากที่สุด สิ่งที่รับรู้เมื่อช่วงหัวค่ำของคืนวาน ส่งผลให้ไม่อาจฝืนข่มตาหลับได้สักนาทีเดียว ในหัวมีแต่คำถามว่าควรทำอย่างไรจึงจะรู้ว่าสิ่งที่สงสัยนั้นเป็นจริงหรือเปล่า หรือทั้งหมดเป็นเพียงความโหยหาที่คิดไปเอง
ดวงตากลมโตมีแววอิดโรยทอดมองไปจนสุดสายตา ณ ที่แห่งนั้น แผ่นดินที่สะพานมิตรภาพเชื่อมไปถึง ‘นครหลวงเวียงจันทน์’ เธออยากข้ามไปเหลือเกิน
เพียงคิด... แพขนตางอนหนาก็ต้องกะพริบถี่เพื่อขับไล่หยาดน้ำที่เริ่มจะเอ่อซึมออกมาอีก ยามนึกถึงเหตุการณ์ที่กระตุ้นหัวใจให้เธออยากไปตามหาความจริง เพื่อไขสิ่งติดค้างในใจให้หมดไป
เมื่อคืนเพราะความรีบจะไปบอกให้แม่รู้ว่ามีลูกค้ามาติดต่อขอเข้าพักเกสเฮ้าท์ทั้งที่ค่ำแล้ว เผื่อแม่จะสั่งให้เปิดครัวทำอาหารว่างอย่างง่ายๆ ให้ลูกค้า แต่เสียงร้องไห้ที่ดังเล็ดลอดออกมาจากในห้องของแม่ กลับทำเธอชะงัก ไม่กล้าที่จะเข้าไปหรือแม้แต่ส่งเสียงเรียก ทว่าหัวใจกลับผลักดันให้เธอลอบมองผ่านบานประตูที่แย้มไว้เพียงนิด
ภาพที่เห็นนั้นคือ ‘แม่’ นั่งอยู่กับพื้นห้อง ร่างแบบบางสั่นสะอื้นจนหอบตัวโยน ในมือของแม่ถือกระดาษแผ่นบางมีข้อความเป็นลายมือจากหมึกสีน้ำเงินจนแทบเต็มหน้ากระดาษ และจากซองสีขาวที่วางอยู่บนตักของแม่ เธอก็คาดเดาได้ว่านั่นเป็นจดหมายจากใครบางคน แต่ใครกันเล่าจะทำให้แม่ร้องไห้ดุจหัวใจถูกบีบคั้นรุนแรงขนาดนั้น
คนในครอบครัวที่เหลือก็มีเพียงเธอกับแม่ ไม่มีใครคนอื่นอีก เพราะแม่ถูกส่งไปเรียนที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อกลับมาหนองคายก็ไม่เคยคุ้นกับญาติพี่น้องทางนี้สักเท่าไร หลังจากที่ตากับยายเสียไป ครอบครัวของแม่จึงมีแค่เธอกับคนงานในร้านที่แม่ดูแลเสมือนเป็นญาติเท่านั้น แล้วใครกันล่ะ... ที่สำคัญจนทำให้แม่ทุกข์ท่วมใจมากมายอย่างนั้น
แต่แล้วคำพูดพึมพำปนสะอื้นของแม่กลับทำให้เธอต้องแนบตัวนิ่งกับผนังห้อง
‘ดาวเป็นลูกของเดือน เป็นลูกของเดือนเพียงคนเดียวเท่านั้น พี่ไม่มีสิทธิ์ ยังไงเดือนก็จะไม่ยอมให้พี่มาพรากลูกไปจากเดือน เดือนไม่มีทางยอม...’
น้ำเสียงร้าวรานของแม่ ส่งผลให้หัวใจของเธอสั่น เพราะ ‘พี่’ ที่แม่หมายถึง... เป็นใคร หรือจะเป็นคนที่เธออยากเจอมากที่สุด
แม้ลางสังหรณ์จะบอกแบบนั้นแต่เธอก็อยากถามแม่ให้รู้เรื่อง อยากได้ยินคำตอบจากปากของแม่ แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้เธอเปลี่ยนใจ ภาพแม่กอดจดหมายแนบอกอย่างอ่อนโยนทั้งที่ยังสั่นสะท้านตามแรงสะอื้น นั่นแม่กำลังโหยหาเจ้าของจดหมายใช่หรือไม่
ความสงสัยมากมายตีรวนจนทำให้ไม่กล้าจะเผชิญหน้ากับแม่ สุดท้ายเธอก็ต้องเลี่ยงลงมาและให้พนักงานโทรศัพท์ขึ้นไปบอกแม่แทน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นกลับส่งผลให้เธอนอนไม่หลับและออกมายืนริมน้ำทั้งที่ฟ้ายังไม่สาง
แผ่นดินฝั่งตรงกันข้ามเริ่มมองเห็นได้อย่างรางเลือน ทว่าดวงตาฉ่ำชื้นของ ‘ดวงดารา’ ก็ยังคงทอดมอง ‘แม่น้ำโขง’ ที่กว้างและยาวจนสุดสายตา ‘แม่โขง’ แม่น้ำซึ่งทำหน้าที่กั้นกลางระหว่างสองเขตแดน และอาจกั้นเธอกับคนทางนั้นด้วยใช่ไหม นั่นคือสิ่งที่ครุ่นคิดมาตลอดทั้งคืน
‘พี่’ ที่แม่พูดถึง เขาคือเจ้าของจดหมายฉบับนั้นหรือเปล่า ทำไมเขาจะมาพรากเธอไปจากแม่
แม่พูดว่า ‘ไม่มีสิทธิ์’ นั่นคืออะไร หรือเขาจะเป็นคนที่แม่บอกว่า ‘ตาย’ ไปก่อนที่เธอจะเกิด แต่แม่กลับไม่มีสิ่งใดให้เธอระลึกถึง ไม่มีภาพถ่าย ไม่มีเรื่องราวบอกเล่า แม้แต่ในใบเกิดของเธอก็ยังไม่ระบุชื่อ ‘เขา’ ด้วยซ้ำ
ทุกครั้งที่เธอเพียรถาม สีหน้าของแม่จะเศร้า และคำตอบที่ไม่เคยตรงกับคำถามก็คือ ‘แม่ดูแลดาวได้’
เมื่อเธอโตจนรู้ความ เธอก็เรียนรู้ว่าไม่ควรถามเรื่องนี้กับแม่อีก ทั้งที่ความสงสัยไม่เคยหมดไป เพราะหน้าตาของเธอฟ้องเรื่องราวของเขาคนนั้นออกมาได้ชัด
ครอบครัวของแม่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน แม่จึงเป็นสาวหมวยผิวขาวเหลือง ตาคม ผมดำยาว ปากนิดจมูกหน่อย แต่เธอกลับมีผิวขาวอมชมพู ตาสีน้ำตาล ผมสีน้ำตาลอ่อน เครื่องหน้าชัด มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นลูกครึ่งยุโรป ก่อนที่เธอจะรู้จากญาติที่ซุบซิบกันว่าเขาคนนั้นเป็นคนลาวเชื้อสายฝรั่งเศส แม่อุ้มท้องกลับมาเพราะถูกคนทางนั้นทิ้งขว้าง แต่เมื่อเธออยากรู้มากกว่านั้น ก็ไม่มีใครยอมบอกเล่า แม้แต่ยายก็หลีกเลี่ยงและให้คำตอบเช่นเดียวกับแม่ นั่นคือ ‘ยายดูแลดาวได้’
แม้จะเป็นสิ่งเดียวที่เธอได้รู้เกี่ยวกับเขาคนนั้น แต่เธอก็รู้สึกดี เพราะอย่างน้อยเธอก็ได้รู้ว่าเขามีตัวตน ในร่างกายนี้มีสายเลือดของสองฝั่งโขงหลอมรวมอยู่ เธอไม่ได้เป็น ‘ลูกไม่มีพ่อ’ อย่างที่เคยถูกเพื่อนๆ ล้อเลียน
แสงสว่างรำไรที่ทอดผ่านน่านฟ้ามาสู่ผืนดินทำให้เห็นฝั่งตรงกันข้ามได้ชัดมากขึ้น แม้จะไม่เห็นหน้าค่าตาของคนทางฝั่งนั้น แต่ก็เห็นบ้านเรือน สิ่งก่อสร้าง และถนนเรียบริมโขงที่มีรถยนต์แล่นอยู่ แค่นั้นก็พอมองรู้ว่าต่างก็มีวิถีชีวิตไม่ต่างจากคนทางฝั่งนี้สักเท่าไร
ดวงดารายังปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปในอดีต เธอไม่มีความทรงจำร่วมกับ ‘เขา’ คนนั้นเลยสักนิด มีเพียงความทรงจำว่า ‘ไม่เคย’ มีเขา แต่หากเลือกได้และทุกสิ่งเป็นไปตามที่เธอคิด ถ้าเขาเป็นเจ้าของจดหมายฉบับนั้นจริง เธอก็ขอให้นับแต่นี้ไปมีเขาคนนั้นเข้ามาในชีวิต และคงจะดีที่สุด หากความทรงจำครั้งใหม่จะมีพร้อมหน้า ‘พ่อ แม่ ลูก’ แต่หากไม่เป็นดังคิด เธอก็ยังอยากไปหา อยากไปเห็น แค่อยากรู้ว่า ‘เขา’ อยู่ดีมีสุขหรือเปล่า ทำไมไม่มาดูดำดูดีเธอกับแม่บ้าง หรือเขาไม่เคยคิดว่ามีเธอเป็นลูกอยู่ทางนี้อีกคน “ดาว” น้ำเสียงอ่อนโยนที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ดวงดาราสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หันมาส่งรอยยิ้มสดชื่นให้กับคนที่รักเธอมากที่สุดในชีวิต “คะแม่” ดวงดาราขานรับ พลางเดินเข้าไปกอดกระชับต้นแขนอุ่นๆ ของแม่ มองเสี้ยวหน้าสวยของแม่อย่างชื่นชมแม่ในวัย 42 ปี แต่ยังดูสวยอยู่มาก ดูราวกับเป็นพี่สาวของเธอมากกว่าจะเป็นแม่ด้วยซ้ำ แม้จะมีชายหลากวัยขยันแวะเวียนกันมาขายขนมจีบ แต่แม่ก็ไม่เคยหวั่นไหว แม่ครองตัวเป็นโสดและเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมาจนถึงวันนี้ทุกครั้งที่เ
“แล้ววันนี้ลูกค้าจะมากี่โมงคะแม่ เผื่อดาวจะแว่บไปงีบสักแป๊บนึงน่ะค่ะ เดี๋ยวพอลูกค้ามา ดาวจะออกมาช่วย” “ดาวนอนไปเถอะลูก ตื่นเมื่อไหร่ก็ค่อยมาช่วยล่ะกัน วันนี้เป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกน่ะ สี่คนเอง แม่กับพวกพี่ๆ เขาดูแลกันเองได้ ดาวพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวจะเสียชื่อเจ้าของเกสเฮ้าท์หมด” “ทำไมเหรอคะแม่ แม่กลัวดาวไม่สวยเหรอ แค่นี้ดาวก็สวยจะแย่แล้ว” ดวงดาราอมยิ้มทำสีหน้าภูมิใจในความสวยของตัวเอง “ก็คงอย่างงั้นแหละ ยิ่งถ้าใครมาเห็นสภาพตอนนี้ สงสัยได้วิ่งกันป่าราบ” เดือนปรายตามองลูกสาวพร้อมทำท่าทางขนลุกขนพองราวกับเห็นตัวประหลาด “แม่อ่ะ ดาวน่ะสวยยี่สิบสี่นะคะ” “จ้า... แม่เชื่อ อย่างนั้นเราปิดเกสเฮ้าท์แล้วเปลี่ยนเป็นเปิดเซเว่นแทนดีมั้ย จะได้ไม่เสียชื่อดาวสวยยี่สิบสี่” “แม่อ่ะ ทันลูกทุกครั้งเลยนะ”ดวงดาราตัดพ้อทำท่ากระฟัดกระเฟียดที่แม่รู้ทันเธอไปซะทุกอย่าง แม้แต่เธออยากสวยไม่มีวันพักผ่อนเหมือนร้านสะดวกซื้อที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง แม่ก็ยังรับมุกเธอได้ “ก็ลองไม่ทันสิ ทะโมนอย่างเรา แม่จะไปตามจากที่ไหนได้ล่ะ แม่น่ะไม่ไหวจะเคลียร์กับ
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเมื่อนึกย้อนไปถึงอดีต ความช่างสงสัยในวัยเยาว์ทำให้พ่อแม่บอกเล่าความเป็นมาของตลาดแห่งนี้ สมัยพ่อแม่ยังหนุ่มสาวตลาดแห่งนี้เป็นศูนย์รวมสินค้าจากหลากหลายประเทศในแถบอินโดจีน ไม่ว่าจะเป็นลาว เวียดนาม ไทย และประเทศอื่นๆ คนทั่วไปจึงเรียกตลาดแห่งนี้ว่า ‘ตลาดอินโดจีน’ และก่อนที่จะมีการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว นั้น ท่าเรือของตลาดแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นจุดผ่านแดนถาวรสำหรับผู้ซึ่งต้องการจะเดินทางไปมาระหว่างราชอาณาจักรไทย กับ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) มีเรือข้ามฟากสัญจรไปมาระหว่างสองฝั่งแม่น้ำโขงอย่างคึกคัก ก็เลยเป็นที่มาให้คนท้องถิ่นนิยมเรียกชื่อตลาดแห่งนี้ว่า ‘ตลาดท่าเรือ’จนถึงเมื่อปี พ.ศ.2498 เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ขึ้นที่จังหวัดหนองคาย ‘พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9’ พร้อมด้วย ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ’ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมเยียนราษฎรผู้ประสบอุทกภัย และได้เสด็จฯ ขึ้นจากเรือพระที่นั่ง ณ ท่าเรือของตลาดแห่งนี้ ‘ตลาดท่าเรือ’ จึงถูกเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น ‘ตลาดท่าเสด็จ’ ซึ่งเป็นชื่อที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่รู้จักในปัจจุบันด
นั่นคือสิ่งที่ทำให้เธอไม่สบายใจที่สุด แม้ ‘ปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับ 1’ จะการันตีความรักดีของเธอ แต่ความห่วงใยจนเกินกว่าเหตุของแม่ก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย เพราะตั้งแต่เรียนจบ แม่ไม่ยอมให้เธอไปทำงานที่ไหน แม่ให้เธอช่วยงานที่เกสเฮ้าท์ด้วยเหตุผลว่าเธอต้องสานต่อธุรกิจนี้ ทั้งที่เธอขอ นั่นคืออีกสิ่งที่อึดอัด แม้จะอายุ 22 ปีแล้ว แม่ก็ยังล้อมคอกป้องกันเธอทุกทาง ไม่ยอมให้รอดพ้นสายตา ทั้งๆ ที่คำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ จวบจนวันนี้เธอก็ไม่เคยฝ่าฝืน ‘ห้าม! ข้ามไปฝั่งโน้นเด็ดขาด’ ห้ามแม้กระทั่งเหยียบย่างขึ้นไปบนสะพานข้ามโขง แม่กลัวว่าเธอจะไปหาใครทางนั้นใช่ไหม แต่แม่จะรู้ไหมว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ยิ่งปิดกั้นเธอก็ยิ่งอยากรู้ ทุกอย่างเป็นแรงผลักดันให้เธอต้องรู้ให้ได้ ว่าความจริงคืออะไร แล้ววันนี้เธอจะต้องรู้ให้ได้“พี่ดาวดูอะไรเหรอคะ”“อุ้ย! เจ้าริช มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ตกใจหมด”‘ริชชี่’ คือเด็กหญิงลูกครึ่งยุโรปวัย 10 ปี ที่ไม่รู้ว่าเป็นชาติไหนกับแม่คนไทย เด็กหญิงที่คลอดออกมาในบ้านของเธอเพราะ นารินไปโรงพยาบาลไม่ทัน แม่ของเธอจึงตั้งชื่อเด็กหญิงตัวอ้วนกลมเหมือนหมูสีชมพูแต่มีห
นั่นคือสิ่งที่ทำให้เธอไม่สบายใจที่สุด แม้ ‘ปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับ 1’ จะการันตีความรักดีของเธอ แต่ความห่วงใยจนเกินกว่าเหตุของแม่ก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย เพราะตั้งแต่เรียนจบ แม่ไม่ยอมให้เธอไปทำงานที่ไหน แม่ให้เธอช่วยงานที่เกสเฮ้าท์ด้วยเหตุผลว่าเธอต้องสานต่อธุรกิจนี้ ทั้งที่เธอขอ นั่นคืออีกสิ่งที่อึดอัด แม้จะอายุ 22 ปีแล้ว แม่ก็ยังล้อมคอกป้องกันเธอทุกทาง ไม่ยอมให้รอดพ้นสายตา ทั้งๆ ที่คำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ จวบจนวันนี้เธอก็ไม่เคยฝ่าฝืน ‘ห้าม! ข้ามไปฝั่งโน้นเด็ดขาด’ ห้ามแม้กระทั่งเหยียบย่างขึ้นไปบนสะพานข้ามโขง แม่กลัวว่าเธอจะไปหาใครทางนั้นใช่ไหม แต่แม่จะรู้ไหมว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ยิ่งปิดกั้นเธอก็ยิ่งอยากรู้ ทุกอย่างเป็นแรงผลักดันให้เธอต้องรู้ให้ได้ ว่าความจริงคืออะไร แล้ววันนี้เธอจะต้องรู้ให้ได้“พี่ดาวดูอะไรเหรอคะ”“อุ้ย! เจ้าริช มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ตกใจหมด”‘ริชชี่’ คือเด็กหญิงลูกครึ่งยุโรปวัย 10 ปี ที่ไม่รู้ว่าเป็นชาติไหนกับแม่คนไทย เด็กหญิงที่คลอดออกมาในบ้านของเธอเพราะ นารินไปโรงพยาบาลไม่ทัน แม่ของเธอจึงตั้งชื่อเด็กหญิงตัวอ้วนกลมเหมือนหมูสีชมพูแต่มีห
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเมื่อนึกย้อนไปถึงอดีต ความช่างสงสัยในวัยเยาว์ทำให้พ่อแม่บอกเล่าความเป็นมาของตลาดแห่งนี้ สมัยพ่อแม่ยังหนุ่มสาวตลาดแห่งนี้เป็นศูนย์รวมสินค้าจากหลากหลายประเทศในแถบอินโดจีน ไม่ว่าจะเป็นลาว เวียดนาม ไทย และประเทศอื่นๆ คนทั่วไปจึงเรียกตลาดแห่งนี้ว่า ‘ตลาดอินโดจีน’ และก่อนที่จะมีการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว นั้น ท่าเรือของตลาดแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นจุดผ่านแดนถาวรสำหรับผู้ซึ่งต้องการจะเดินทางไปมาระหว่างราชอาณาจักรไทย กับ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) มีเรือข้ามฟากสัญจรไปมาระหว่างสองฝั่งแม่น้ำโขงอย่างคึกคัก ก็เลยเป็นที่มาให้คนท้องถิ่นนิยมเรียกชื่อตลาดแห่งนี้ว่า ‘ตลาดท่าเรือ’จนถึงเมื่อปี พ.ศ.2498 เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ขึ้นที่จังหวัดหนองคาย ‘พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9’ พร้อมด้วย ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ’ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมเยียนราษฎรผู้ประสบอุทกภัย และได้เสด็จฯ ขึ้นจากเรือพระที่นั่ง ณ ท่าเรือของตลาดแห่งนี้ ‘ตลาดท่าเรือ’ จึงถูกเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น ‘ตลาดท่าเสด็จ’ ซึ่งเป็นชื่อที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่รู้จักในปัจจุบันด
“แล้ววันนี้ลูกค้าจะมากี่โมงคะแม่ เผื่อดาวจะแว่บไปงีบสักแป๊บนึงน่ะค่ะ เดี๋ยวพอลูกค้ามา ดาวจะออกมาช่วย” “ดาวนอนไปเถอะลูก ตื่นเมื่อไหร่ก็ค่อยมาช่วยล่ะกัน วันนี้เป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกน่ะ สี่คนเอง แม่กับพวกพี่ๆ เขาดูแลกันเองได้ ดาวพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวจะเสียชื่อเจ้าของเกสเฮ้าท์หมด” “ทำไมเหรอคะแม่ แม่กลัวดาวไม่สวยเหรอ แค่นี้ดาวก็สวยจะแย่แล้ว” ดวงดาราอมยิ้มทำสีหน้าภูมิใจในความสวยของตัวเอง “ก็คงอย่างงั้นแหละ ยิ่งถ้าใครมาเห็นสภาพตอนนี้ สงสัยได้วิ่งกันป่าราบ” เดือนปรายตามองลูกสาวพร้อมทำท่าทางขนลุกขนพองราวกับเห็นตัวประหลาด “แม่อ่ะ ดาวน่ะสวยยี่สิบสี่นะคะ” “จ้า... แม่เชื่อ อย่างนั้นเราปิดเกสเฮ้าท์แล้วเปลี่ยนเป็นเปิดเซเว่นแทนดีมั้ย จะได้ไม่เสียชื่อดาวสวยยี่สิบสี่” “แม่อ่ะ ทันลูกทุกครั้งเลยนะ”ดวงดาราตัดพ้อทำท่ากระฟัดกระเฟียดที่แม่รู้ทันเธอไปซะทุกอย่าง แม้แต่เธออยากสวยไม่มีวันพักผ่อนเหมือนร้านสะดวกซื้อที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง แม่ก็ยังรับมุกเธอได้ “ก็ลองไม่ทันสิ ทะโมนอย่างเรา แม่จะไปตามจากที่ไหนได้ล่ะ แม่น่ะไม่ไหวจะเคลียร์กับ
ดวงดารายังปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปในอดีต เธอไม่มีความทรงจำร่วมกับ ‘เขา’ คนนั้นเลยสักนิด มีเพียงความทรงจำว่า ‘ไม่เคย’ มีเขา แต่หากเลือกได้และทุกสิ่งเป็นไปตามที่เธอคิด ถ้าเขาเป็นเจ้าของจดหมายฉบับนั้นจริง เธอก็ขอให้นับแต่นี้ไปมีเขาคนนั้นเข้ามาในชีวิต และคงจะดีที่สุด หากความทรงจำครั้งใหม่จะมีพร้อมหน้า ‘พ่อ แม่ ลูก’ แต่หากไม่เป็นดังคิด เธอก็ยังอยากไปหา อยากไปเห็น แค่อยากรู้ว่า ‘เขา’ อยู่ดีมีสุขหรือเปล่า ทำไมไม่มาดูดำดูดีเธอกับแม่บ้าง หรือเขาไม่เคยคิดว่ามีเธอเป็นลูกอยู่ทางนี้อีกคน “ดาว” น้ำเสียงอ่อนโยนที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ดวงดาราสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หันมาส่งรอยยิ้มสดชื่นให้กับคนที่รักเธอมากที่สุดในชีวิต “คะแม่” ดวงดาราขานรับ พลางเดินเข้าไปกอดกระชับต้นแขนอุ่นๆ ของแม่ มองเสี้ยวหน้าสวยของแม่อย่างชื่นชมแม่ในวัย 42 ปี แต่ยังดูสวยอยู่มาก ดูราวกับเป็นพี่สาวของเธอมากกว่าจะเป็นแม่ด้วยซ้ำ แม้จะมีชายหลากวัยขยันแวะเวียนกันมาขายขนมจีบ แต่แม่ก็ไม่เคยหวั่นไหว แม่ครองตัวเป็นโสดและเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมาจนถึงวันนี้ทุกครั้งที่เ
ละอองความชื้นจากบรรยากาศรุ่งสางทำให้คนที่นอนไม่หลับตลอดทั้งคืนตัดสินใจออกมาเดินเล่นที่ระเบียงริมน้ำ เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์และซึมซับเอาพลังงานดีรอบกายเข้าสู่ตนเองให้มากที่สุด สิ่งที่รับรู้เมื่อช่วงหัวค่ำของคืนวาน ส่งผลให้ไม่อาจฝืนข่มตาหลับได้สักนาทีเดียว ในหัวมีแต่คำถามว่าควรทำอย่างไรจึงจะรู้ว่าสิ่งที่สงสัยนั้นเป็นจริงหรือเปล่า หรือทั้งหมดเป็นเพียงความโหยหาที่คิดไปเอง ดวงตากลมโตมีแววอิดโรยทอดมองไปจนสุดสายตา ณ ที่แห่งนั้น แผ่นดินที่สะพานมิตรภาพเชื่อมไปถึง ‘นครหลวงเวียงจันทน์’ เธออยากข้ามไปเหลือเกิน เพียงคิด... แพขนตางอนหนาก็ต้องกะพริบถี่เพื่อขับไล่หยาดน้ำที่เริ่มจะเอ่อซึมออกมาอีก ยามนึกถึงเหตุการณ์ที่กระตุ้นหัวใจให้เธออยากไปตามหาความจริง เพื่อไขสิ่งติดค้างในใจให้หมดไป เมื่อคืนเพราะความรีบจะไปบอกให้แม่รู้ว่ามีลูกค้ามาติดต่อขอเข้าพักเกสเฮ้าท์ทั้งที่ค่ำแล้ว เผื่อแม่จะสั่งให้เปิดครัวทำอาหารว่างอย่างง่ายๆ ให้ลูกค้า แต่เสียงร้องไห้ที่ดังเล็ดลอดออกมาจากในห้องของแม่ กลับทำเธอชะงัก ไม่กล้าที่จะเข้าไปหรือแม้แต่ส่งเสียงเรียก ทว่าหัวใจกลับผลักดันให้เธอล